ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisLay] เขียวหวานน่ารัก~♡

    ลำดับตอนที่ #11 : เขียวหวานน่ารัก ~ 11 ~

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 59



    [Fic] เขียวหวานน่ารัก~

    ตอนที่ 11

    Fiction by 2nd Admin 

    .

    .

    .

     

    “ลบออกเดี๋ยวนี้เลยนะเสี่ยวลู่!

    “ลบทำไม น่ารักดีออก” ลู่หานยิ้มทะเล้นขณะที่วิ่งวนไปรอบๆ ม้านั่งยาวซึ่งอยู่ริมทางเดินพร้อมกับโทรศัพท์ในมือโดยมีอี้ชิงวิ่งไล่ตาม จะอะไรถ้าไม่ใช่เพราะรูปที่ยังโชว์หราบนหน้าจอซึ่งเขาเพิ่งจะเปิดให้เพื่อนสนิทดูตอนที่ออกมาจากโรงยิมฯแล้ว อันที่จริงก็มีแค่สองรูป รูปนึงตอนที่เจ้าตัวกำลังป้อนราเมงให้รุ่นพี่ ส่วนอีกรูปก็ตอนที่เช็ดปากให้ ภาพนิ่งน่ะชวนให้จิ้นยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในเหตุการณ์จริงเป็นไหนๆ และจากมุมที่ลู่หานนั่งก็ถ่ายติดอี้ชิงแค่หัวกลมๆ กับผมดำๆ เท่านั้นแหละ ถึงจะมองไม่ออกว่าเป็นใคร แต่คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าถูกแอบถ่ายก็มีอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างที่เห็น

    “น่ารักอะไรกัน! หมอนั่นแกล้งเรา ตัวก็เห็น”

    “เค้าเรียกว่าหยอกเอินตามประสาคนจีบกันต่างหาก” ยื่นหน้าไปแซวแล้วก็ต้องรีบหลบวูบเมื่ออี้ชิงกระโจนเข้าใส่พร้อมยื่นมือมาหมายจะแย่งโทรศัพท์

    “ไม่มีใครจีบใครทั้งนั้นแหละ เอามานี่เลยนะ เราจะลบให้หมดเลย!

    “ไม่เก็บเอาไว้ดูเล่นเหรอ อีกหน่อยพอรุ่นพี่เค้าไม่อยู่ ตัวอาจจะคิดถึงก็ได้น้า~

    “เสี่ยวลู่!” เจ้าของชื่อแสร้งทำตัวสะดุ้งตัวเมื่อถูกตวาด เพื่อนตัวเล็กหยุดวิ่งแล้วกระทืบเท้าปัง ยกมือขึ้นกอดอกพร้อมตีหน้าบึ้งใส่ เพียงเท่านั้นกวางน้อยจอมซนก็ต้องยกมือขึ้นยอมแพ้ ส่งมือถือตัวเองให้เพื่อนรักสำเร็จโทษแต่โดยดี

    “ก็ได้ๆ อ่ะ เอาไปเลย”

    อี้ชิงรับมือถือมาแล้วจัดการลบรูปออกอย่างไม่ลังเล ถือวิสาสะเปิดเข้าไปดูในแกลอรี่อื่นๆ ด้วยซ้ำว่าเพื่อนตัวแสบแอบเซฟรูปเก็บไว้ที่อื่นอีกหรือเปล่า จนแน่ใจว่าไม่เหลือหลักฐานอะไรแล้วถึงได้ส่งมือถือคืนให้เจ้าของ

    “แล้วอย่าแอบถ่ายรูปแบบนี้อีกนะ”

    “คงไม่แล้วล่ะ แค่นี้เราก็รักษาตำแหน่งสมาชิกอันดับหนึ่งของชมรมหนังสือพิมพ์ออนไลน์ได้แล้ว”

    “หมายความว่าไง?” ลู่หานยักคิ้วแล้วยิ้มแฮ่ ก่อนจะเปิดไลน์ห้องแชทของเขากับจงแดแล้วหันหน้าจอให้อี้ชิงดู

    “เราส่งรูปไปให้คิมจงแดแล้วล่ะ” คนตัวเล็กมองหน้าเพื่อนสลับกับหน้าจอโทรศัพท์แล้วก็เบิกตากว้าง อ้าปากค้าง

    “จะ... บ้ารึไงเสี่ยวลู่! เกิดพวกแฟนคลับเห็นรูปพวกนี้เข้า ได้รุมฉีกเนื้อเราแน่”

    “ถ่ายติดแค่ข้างหลังเอง ไม่มีใครจำตัวได้หรอก”

    “แต่ตอนนั้นคนที่เข้าไปในสนามได้ก็มีแค่เราสองคน คิดว่าพวกนั้นจะเดาไม่ออกเลยรึไงว่าเป็นใครน่ะ!

    “เออจริงด้วย” เพราะนึกสนุกแค่จะช่วยจงแดปั่นกระแสคู่จิ้น ก็พวกแฟนคลับที่กระวนกระวายด้วยความสงสัยว่าหนุ่มน้อยปริศนาที่เข้าถึงตัวรุ่นพี่สุดหล่อได้น่ะเป็นใคร มันน่าตลกดีออก เขาไม่ทันคิดว่าจะมีใครผูกเรื่องมาจนถึงตัวจางอี้ชิงผู้ไม่เคยทำตัวเป็นจุดเด่นได้ “งั้นโทรไปบอกจงแดอย่าเพิ่งลงรูปดีกว่า”

    อี้ชิงถอนหายใจแล้วพยักหน้ารัวเร็ว ยืนรอให้ลู่หานหาเบอร์จงแดเพื่อโทรออก เกือบจะโล่งใจอยู่แล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนสั้นๆ ดังขึ้น

    “โอ๊ะโอ”

    “อะไร?” หน้าเหวอๆ ของลู่หานตอนที่มองหน้าจอนั้นทำให้อี้ชิงใจคอไม่ดีเลย เขายื่นหน้าไปมองบ้างแล้วก็เห็นข้อความแจ้งเตือนการอัพเดทเวบเพจของชมรมเด้งขึ้นมา น่าจะรู้ว่าประธานชมรมของพวกเขาน่ะทำงานรวดเร็วแค่ไหน พอลู่หานจิ้มเข้าไปดู รูปที่ถูกโพสต์พร้อมแคปชั่นก็ทำให้อี้ชิงสิ้นหวังราวกับได้เห็นฉากจบของตัวเองเหมือนในหนังสยองขวัญ เข่าอ่อนจนต้องทรุดตัวลงนั่งขณะที่ลู่หานหัวเราะแหะ

    “ท่าทางจะไม่ทันแล้วล่ะ”

     

    มื้อกลางวันสุดสวีทของรุ่นพี่คนดังกับหนุ่มน้อยปริศนาที่ย่องเอาข้าวกล่องมาส่งให้ถึงสนามบาสฯ ผลัดกันป้อนผลัดกันเช็ดปาก หวานกันจนมดขึ้นโรงยิมฯเลยล่ะ

     

    จบกัน!

     

    ชีวิตจางอี้ชิงนี่แหละที่จะจบ!

     

    “นึกว่าจะเก็บไว้ลงพรุ่งนี้ซะอีกนะเนี่ย”

    “ตายๆๆ คราวนี้ฉันไม่รอดแน่” หนุ่มน้อยปริศนาเอามือปิดหน้าแล้วร้องคราง ลู่หานเห็นอย่างนั้นก็นั่งลงข้างๆ แล้วตีไหล่ปลอบ

    “ใจเย็นๆ สิ มันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้นะ”

    “งั้นถ้าใครถาม เราจะบอกว่าคนในรูปนั้นคือลู่หานคณะนิเทศฯ”

    “เย้ยย ไม่เอาน่า” คนเป็นเพื่อนหัวเราะกลบเกลื่อน เพราะเขาทั้งคู่อยู่ด้วยกันตอนนั้น อาจมีบางคนที่เห็นแต่ไม่แน่ใจ แต่ลู่หานรู้ว่าอี้ชิงจะไม่มีวันโยนเรื่องยุ่งยากมาให้เขาแน่ เขาเองก็เช่นกัน ถึงจะชอบเรื่องสนุกแต่ลู่หานไม่เคยคิดอยากแกล้งให้เพื่อนเดือดร้อน เขาแน่ใจว่าถ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่ดี ตัวเองปกป้องอี้ชิงได้แน่ ที่น่าเสียดายคือเขาทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเนี่ยสิ “จะเริ่มชั่วโมงบ่ายแล้วนะ”

    อี้ชิงถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วกอดอก

    “ยังไม่ไป เราจะนั่งรออยู่นี่แหละ เดี๋ยวค่อยเข้า” ลู่หานพยักหน้าช้าๆ แล้วบุ้ยปาก คงคิดว่ายอมเข้าเรียนสายหน่อย รอให้อาจารย์เข้าไปก่อนจะได้ปลอดภัยสินะ ถ้าเป็นเขาคงไม่กังวลขนาดนี้ แน่นอนว่าลู่หานไม่ใช่ประเภทที่จะก้มหน้าหลบหรือเดินหนีเวลาที่มีใครเข้ามาหาอย่างไม่เป็นมิตร แต่อี้ชิงไม่ใช่ ความใสซื่อและเชื่อใจคนง่ายทำให้บางครั้งเพื่อนตัวเล็กก็ลืมที่จะป้องกันตัวเอง นิสัยน่าเอ็นดูแบบนี้ยิ่งควรต้องปกป้อง และคงไม่ใช่แค่ลู่หานคนเดียวที่คิดแบบนี้ ต้องมีใครซักคนที่พร้อมจะดูแลเพื่อนรักของเขา

    “บางที ถ้าตัวได้เป็นแฟนกับรุ่นพี่จริงๆ อะไรๆ มันอาจจะไม่น่ากลัวแบบนี้ก็ได้นะ”

     

    .

     

    .

     

    .

     

    อี้ชิงปิดหนังสือแล้วกวาดอุปกรณ์ทุกอย่างลงกระเป๋าก่อนอาจารย์จะบอกเลิกคลาสเสียอีก แทบจะวิ่งออกจากห้องเรียนแซงหน้าอาจารย์เลยด้วยซ้ำ พอพ้นประตูออกมาได้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดหาเบอร์แรกที่บันทึกไว้ในรายชื่อแล้วกดโทรออกในทันที

    “เสี่ยวลู่ เลิกหรือยัง? ...ว่าไงนะ? ต้องซ้อมบอล? ฮึ่ยยย ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยล่ะ?” เสียงโอดจากปลายสายบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวเองก็ไม่รู้ล่วงหน้าถึงไม่ได้บอกไว้ก่อน อี้ชิงแค่อยากมีเพื่อนเดินกลับบ้านให้อุ่นใจ และลู่หานก็เป็นเพียงตัวเลือกเดียว เป็นแบบนี้แล้วจะทำอะไรได้นอกจากถอนใจแรงๆ “ก็ได้ๆ เรากลับคนเดียวก็ได้”

    ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้อยู่ดี เมื่อครู่นี้ตอนที่กำลังเรียน แค่แอบชำเลืองมองไปรอบๆ ห้องแล้วเห็นว่าสามสาวแฟนคลับกำลังมองมา อี้ชิงยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ถ้าโดนพวกเธอรุมคาดคั้นเหมือนคราวก่อน เขาต้องแย่แน่ๆ คิดแล้วก็รีบกลับบ้านให้เร็วที่สุดดีกว่า

    “จางอี้ชิง” แต่เสียงเรียกแหลมสูงนั้นทำเอาสะดุ้งโหยง คนตัวเล็กหันหลังไปมองแล้วก็พบว่าเป็นกลุ่มสาวๆ ที่เขากำลังนึกถึงจริงๆ “ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

    ท่าทางไม่ค่อยดีเลย ดูหน้าพวกเธอแต่ละคนสิ น่ากลัวชะมัด ชวนคุยตอนนี้จะมีเรื่องอะไร ถ้าไม่ถามถึงคนที่อยู่ในรูปกับรุ่นพี่คนดัง หรือบางทีอาจจะเริ่มระแคะระคายว่าเป็นเขาแล้วก็ได้ ครั้งสุดท้ายที่คุยกัน พวกเธอขู่ให้เขาอยู่ห่างๆ หมอนั่นด้วยสิ

    “คือ ฉันมีธุระน่ะ ขอตัวก่อนนะ” รับมือไม่ไหวแน่ รีบเดินหนีไปก่อนที่จะถูกพวกเธอซักไซ้ดีกว่า อี้ชิงหันหลังแล้วรีบจ้ำในทันที

    “นี่! เดี๋ยวก่อนสิ!” แต่เสียงพวกเธอยังดังไล่หลังนั่นหมายความว่ากำลังตามมา อี้ชิงยิ่งเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นจนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง จนถึงชั้นล่างของตึกคณะแล้วถึงได้กล้าหันกลับไปมอง “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!

    ตกใจไม่น้อยที่เห็นพวกเธอยังวิ่งตามมา สองขาจึงออกวิ่งแบบไม่ต้องคิด ลืมไปแล้วว่าทางเส้นนี้ตรงไปหน้ามหาวิทยาลัย แต่ก็อีกตั้งไกลกว่าจะถึง สาวสามก็ดูท่าว่าจะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ อี้ชิงไม่ใช่คนชอบออกกำลังกาย เขาวิ่งไม่เร็วนักและเหนื่อยง่ายด้วย ถ้าพวกเธอยังวิ่งไล่ตามอยู่แบบนี้ อีกเดี๋ยวเขาต้องจนมุมหรือไม่ก็หมดแรงไปก่อนเองแน่

     

    ต้องหาที่ซ่อน!

     

    แต่จะเป็นที่ไหนล่ะ? ห้องน้ำชาย?

     

    ไม่ได้หรอก พวกเธอต้องกล้าพอจะเข้าไปในนั้นแน่ ต้องมีที่อื่นที่พวกเธอตามไปไม่ได้สิ

     

    นึกออกแล้ว!

     

                “อย่าหนีนะ จางอี้ชิง!”

    คนถูกไล่ตามเร่งฝีเท้าจนสุดแรงฮึดเพื่อวิ่งตัดสนามฟุตบอล จุดหมายคือสถานที่แห่งเดียวที่พวกเธอจะตามเขาเข้าไปไม่ได้ แต่กว่าจะถึงที่นั่นอี้ชิงก็แทบหมดแรง ตรงกันข้ามกับพวกสาวๆ ที่แม้จะกรีดร้องใส่หลังเขาแทบตลอดทางว่าจะหมดแรงแล้ว แต่กลับไม่ยอมหยุดวิ่งไล่ กระทั่งตามเขาทันเมื่ออีกก้าวเดียวอี้ชิงก็จะได้ก้าวข้ามเส้นสีขาวซึ่งหวังให้เป็นเขตปลอดภัย หนึ่งในพวกเธอกระชากเป้เขาจนแทบหงายหลัง แล้วคนที่เหลือก็ช่วยกันดึงตัวเขาออกไปให้ไกลจากความหวัง อี้ชิงได้แต่ร้องโวยวายด้วยความตกใจ

    “พวกเธอ... ทำอะไรเนี่ย?!

    “แล้วนาย... แฮ่ก วิ่งหนีพวกเราทำไม?!

    “ก.. ก็พวกเธอวิ่งตามฉันทำไมเล่า?” พูดไปก็หอบไปกันทั้งสองฝ่าย วิ่งมาตั้งไกลยังต้องมาถกเถียงกันอีก สภาพพวกเธอดูหมดแรงแล้วก็จริง แต่อี้ชิงก็เช่นกัน จะสลัดตัวให้หลุดจากวงล้อมพวกเธอยังยากเลย แบบนี้เขารับมือไม่ไหวแน่ อี้ชิงแอบชำเลืองตามองเส้นสีขาวที่ตอนนี้อยู่ไกลออกไปอีกห้าถึงหกก้าว สนามบาสฯเป็นที่เดียวที่เขาจะปลอดภัย อุตส่าห์วิ่งมาจนถึงโรงยิมฯแล้วแท้ๆ แต่ทำยังไงถึงจะข้ามเส้นนั้นเข้าไปในสนามได้ล่ะ

    “เราแค่จะถามถึงคนในรูปนี้” หนึ่งในพวกเธอถามขึ้นพร้อมโชว์รูปในมือถือให้ดู เป็นรูปเดียวกันกับที่ลู่หานให้เขาดูเมื่อเช้า “นายเข้าไปในสนามได้ รู้มั้ยว่าหมอนี่เป็นใคร?”

    อี้ชิงเม้มปากแน่นเหมือนกลัวว่าจะเผลอหลุดปาก กรอกตามองรอบๆ ตัวก่อนจะสูดหายใจเข้าจนลึก

    “คือ... คนนั้น!” ในทันทีก็ชี้ไปทางด้านหลังของพวกหล่อนและสามสาวก็หลงกลหันไปมองตาม อี้ชิงอาศัยจังหวะนั้นวิ่งกลับไปหาเส้นขาวในทันที

    “กลับมานะ จางอี้ชิง!

     

    หมับ!

     

    ไม่ทัน!

     

    เท้าข้างหนึ่งของเขาลอยอยู่เหนือเส้นแต่ไม่ได้เหยียบลงไป เพราะเป้หลังถูกหนึ่งในสามสาวตามมาดึงรั้งได้ทัน อี้ชิงพยายามดิ้นให้หลุดแต่อีกสองสาวก็ตามมาช่วยยื้อ เขาขืนตัวอย่างสุดแรง เส้นขาวอยู่ตรงหน้าแค่นี้ แต่ถ้าโดนลากออกไปอีกคราวนี้คงไม่รอดแน่

    “ปล่อยฉันนน!

    “โว้วๆๆ เสียงดังอะไรกันเนี่ย?” แต่ก่อนที่อี้ชิงจะมีจุดจบเหมือนในหนังสยองขวัญที่ตัวเองจินตนาการไว้ เสียงทุ้มก็ปรามขึ้นพร้อมร่างสูงของใครบางคนที่เข้ามาขัดได้ทันเวลา คู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างหันไปมองก่อนที่อี้ชิงจะฉวยโอกาสตอนที่สามสาวกำลังตกใจ สลัดเป้จนหลุดแล้ววิ่งข้ามเส้นขาวไปในทันที

    “กัปตันช่วยด้วย!” เขาวิ่งไปหลบข้างหลังหมายให้ร่างสูงใหญ่เป็นที่กำบัง คนๆ นี้อยู่ที่นี่ด้วยเมื่อกลางวัน แซวเขาเรื่องที่เอาข้าวกล่องมาให้คริส อี้ชิงจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่คริสเคยบอกว่ามาชวนให้ลงแข่ง น่าจะไว้ใจได้นะ แอบโผล่หน้าไปมองเห็นว่าสามสาวจะตามเข้ามาแต่คนที่ยืนเป็นโล่ให้เขายกมือห้ามไว้

    “ระวังหน่อย นี่เขตรักษาความสงบนะ” พวกเธอมองหน้ากัน ถึงจะดูไม่ค่อยเต็มใจนักแต่ก็ยอมถอยกลับไปอยู่หลังแนวเส้นขาวแต่โดยดี เธอคนเดียวกับที่เอารูปให้อี้ชิงดูก่อนหน้านี้หันหน้าจอให้คนตัวสูงดูด้วย

    “รุ่นพี่เคยเห็นคนในรูปนี้มั้ยคะ?” กัปตันหรี่ตามองรูปบนหน้าจอแล้วเลิกคิ้วน้อยๆ

    “คริสเหรอ?”

    “ไม่ใช่ค่ะ คนที่นั่งหันหลัง” เขาพยักหน้าช้าๆ หันเพียงเสี้ยวหน้าแล้วเหล่ตามามอง เท่านั้นอี้ชิงก็สั่นหน้าระรัว

    “แหม ฉันไม่อยู่ตอนนั้นเสียด้วยสิ” ตอบแบบนี้คนตัวเล็กก็ลอบถอนหายใจเบาๆ เกือบจะคิดว่ารอดตัวอยู่แล้วถ้าสามสาวไม่ชี้นิ้วมาที่เขาพร้อมกัน

    “แต่หมอนั่นต้องรู้แน่!

    “จะเป็นใครแล้วยังไง?”

    ตอนที่อี้ชิงหลบวูบไปตั้งหลักหลังแผ่นหลังกว้างของกัปตันทีมบาสเก็ตบอล เสียงทุ้มอีกเสียงก็ดังขึ้นข้างหลัง เขาหันไปมองและมองตามกระทั่งเจ้าของเสียงเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ใช้ดวงตาคมดุนั้นมองหน้าเขาแล้วก็มองชายเสื้อยืดของกัปตันที่เขาจับอยู่ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก ตีสีหน้าหงุดหงิดใส่สามสาวแฟนคลับ

    “รุ่นพี่!” พวกเธอยกมือขึ้นทาบอกบ้าง ปิดปากตัวเองบ้างด้วยความตกใจ แต่ไม่นานก็คลี่ยิ้มหวานให้คนหล่อจนลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เคยตีหน้ายักษ์ใส่อี้ชิงไว้ยังไง “พวกเราก็แค่อยากรู้”

    “จะรู้ไปทำไม? เป็นใครก็ช่าง แต่ฉันเต็มใจให้เขาทำอย่างนั้น พวกเธอก็เลิกทำท่าน่ากลัวกันซักที”

    “พวกเราเปล่านะคะ” สั่นหน้ากระพริบตาว่าใสซื่อเต็มที เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่วิ่งไล่ตามเขามาจนถึงที่นี่ได้ ไม่เรียกน่ากลัวจะเรียกอะไร อี้ชิงได้แต่เบะปากใส่ทั้งที่ยังหลบอยู่หลังกัปตัน กระทั่งดวงตาคมดุนั้นตวัดมาทางเขา

    “มีแต่เรื่องยุ่ง” ยังมีหน้ามาว่ากัน ตีหน้าหน่ายใส่เขาก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในสนาม

    “ก.. ก็มันเพราะใครเล่า” อี้ชิงกล้าแค่บ่นตามหลังเท่านั้นแหละ พออีกฝ่ายหันมาแล้วใช้ตาดุๆ นั้นจ้องกลับ คนไม่แน่จริงก็เอาตัวเองอ้อมไปหลบข้างหน้ากัปตันแทน หงุดหงิดมาจากไหนถึงได้หน้าบึ้งนัก เมื่อกลางวันก็ยังดีๆ อยู่แท้ๆ เจ้าอารมณ์ขนาดนี้แต่สามสาวก็ยังเพ้อหากันอยู่ได้ ดูสิ โดนว่าเข้าไปขนาดนั้นแล้วยังบิดตัวขวยเขินอย่างกับเค้ามาจีบ เสียสติกันไปแล้วแน่ๆ

    ได้ยินเสียงหัวเราะอี้ชิงถึงได้เงยหน้าขึ้นมอง เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่เขาอาศัยเป็นโล่กำบังนั้นกำลังขำ ยักไหล่น้อยๆ แล้วหลุบตาลงมองชายเสื้อตัวเองที่ถูกมือเล็กยึดไว้ไม่ยอมปล่อย อี้ชิงหัวเราะแหะ ค่อยคลายมือแล้วถอยออกไปก้าวหนึ่ง ผงกศีรษะให้

    “ขอโทษที ขอบคุณนะกัปตัน” คนตัวสูงส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร

    “กลับออกไปตอนนี้คงไม่เหมาะ” เพยิดหน้าไปทางกลุ่มสาวๆ ซึ่งแม้จะดูสงบลงมากแล้ว แต่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียน อีกเดี๋ยวคงมีแฟนคลับกลุ่มอื่นๆ ตามมาสมทบอีก อี้ชิงพยักหน้าแล้วยิ้มแหะ

    “ก็... คงต้องรอเพื่อนมารับ”

    “ถ้าอย่างนั้นเข้าไปรอข้างในมั้ย? จะได้ดูพวกเราซ้อมไปพลางๆ”

    “ได้เหรอ?”

    “ได้สิ สมาชิกชมรมหนังสือพิมพ์ออนไลน์เข้าได้อยู่แล้ว ไปนั่งรอตรงที่พักนักกีฬาก็ได้”

    “งั้นก็ ขอบคุณนะกัปตัน” อี้ชิงยิ้มกว้างและอีกฝ่ายก็ยิ้มตอบ กัปตันนี่ใจดีกว่าที่เขาคิดไว้มากเลย ทั้งที่ไม่รู้จักกันแต่ก็ยังช่วยเขาจากพวกสาวๆ แล้วยังชวนให้เข้าไปนั่งรอในสนามได้อีก ใจดีกว่าคนที่เดินมาอาละวาดใส่คนนั้นคนนี้ไม่เลือกหน้าแล้วเดินกลับไปหน้าตาเฉยคนนั้นตั้งเยอะ

    ใครบางคนแกล้งกระแอมเสียงอยู่ไกลๆ คงไม่ใช่ว่าได้ยินที่อี้ชิงแอบนินทาอยู่ในใจหรอกนะ

    “กัปตัน จะซ้อมต่อมั้ย?”

    “ห.. ห๊ะ? อ๋อ ซ้อมสิ” คนใจดีพยักหน้าให้เขาเดินตามไปด้วยกัน อี้ชิงมาที่นี่แทบทุกวันก็จริง แต่ส่วนใหญ่จะคอยสังเกตุการณ์อยู่บนสแตนด์เชียร์ หรือไม่ก็เข้ามาในสนามหลังเลิกซ้อมแล้ว นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เข้ามาตอนที่สมาชิกในทีมอยู่กันครบ รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน ก็ตัวเองเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สวมชุดนักกีฬานี่นา

    “พามาด้วยทำไม เกะกะเปล่าๆ” คนปากร้ายที่ยืนกอดอกมองเขาไม่วางตายังหาเรื่องแขวะ อี้ชิงเคืองจะแย่แต่ก็กลัวว่าจะถูกจับโยนออกไปข้างนอกเสียก่อน เลยเบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่กว่าหมายให้เป็นที่พึ่งตอนที่เถียงกลับ

    “ฉันนั่งเฉยๆ ไม่ได้ลงไปวิ่งในสนามด้วยซักหน่อย เกะกะนายตรงไหนกัน”

    “ก็... เกะกะลูกตา มีคนอื่นอยู่ด้วย ฉันไม่มีสมาธิซ้อม”

    “นายก็อย่ามองฉันสิ” พอคนตัวสูงสืบเท้าเข้าหา อี้ชิงก็คว้าแขนใหญ่ของคนข้างๆ มากอดไว้แน่น

    “เอาน่า น้องเค้ากลับไม่ได้เพราะแฟนคลับนายนะ” ได้ยินเสียงพ่นลมขึ้นจมูกชัดเชียว ขัดใจอะไรนักหนาก็ไม่รู้ แต่อี้ชิงไม่สนหรอก

    “ไม่รู้แหละ กัปตันอนุญาตฉันแล้ว”

     

     

    นอกจากสนามฟุตบอลที่เขาเคยไปนั่งรอเวลาที่ลู่หานมีซ้อมหรือลงแข่งแล้ว อี้ชิงก็ไม่ค่อยได้ดูกีฬาชนิดอื่นอีก ยิ่งได้ที่นั่งแบบติดขอบสนามอย่างนี้ยิ่งไม่มีโอกาสใหญ่ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้วันนี้เขารู้สึกตื่นเต้นกับการซ้อมของชมรมบาสเก็ตบอลมากขนาดนี้ เสียงพื้นรองเท้าเสียดสีกับพื้นไม้มันปลาบของสนามจนเกิดเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด เสียงเรียกชื่อผู้เล่นแต่ละคนเพื่อจะส่งสัญญาณสั้นๆ ให้กันนั่นก็ด้วย นั่งอยู่ตรงที่พักนักกีฬาแบบนี้ได้ยินชัดเลย ก่อนหน้านี้อี้ชิงไม่เคยรู้สึกถึงสเน่ห์ของกีฬาบาสเก็ตบอล อาจเพราะอยู่ไกลถึงบนสแตนด์เชียร์ หรือไม่ก็เพราะเสียงกรี๊ดกร๊าดของแฟนคลับกลบหมด แต่วันนี้ เขาแอบลุ้นตอนที่ผู้เล่นซักคนได้ลูกและตั้งท่าจะชู้ตทำแต้ม ดีใจและปรบมือให้ถ้าลูกลงห่วง ครางเสียงด้วยความเสียดายเมื่อลูกพลาดเป้า เขารู้สึกสนุกไปกับเกมจนลืมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ เผลอแป๊บเดียวก็เลิกซ้อมกันแล้ว

    อี้ชิงลุกขึ้นเพื่อหลีกทางให้นักกีฬาเข้ามาหยิบขวดน้ำและผ้าขนหนูจากที่พัก ใครบางคนปรายตามามองเขาแต่อี้ชิงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หยิบกล้องจากเป้ขึ้นมาเปิดดูไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งเสียงหนึ่งทักขึ้น

    “หิวน้ำมั้ย?” เป็นกัปตันที่ส่งยิ้มใจดีมาให้ พร้อมกับขวดน้ำที่เปิดฝาแล้ว แต่อี้ชิงส่ายหน้าปฏิเสธ

    “ไม่เป็นไรฮะ ผมมีแล้ว” คนตัวสูงพยักหน้าแล้วกระดกขวดน้ำขึ้นดื่มเอง เขามองกล้องสีดำในมือของอี้ชิงขณะที่ใช้ผ้าขนหนูซับเหงื่อบนใบหน้าและต้นคอตัวเอง

    “ถ่ายรูปเหรอ?”

    “เปล่าหรอกฮะ แค่เปิดดูรูปที่ถ่ายเล่นๆ”

    “ปกติถ่ายแต่รูปคริสสินะ”

    “ผมทำสกู๊ปอยู่ ก็เลยต้องเก็บรูปหมอนั่นไปเยอะหน่อย” กัปตันพยักหน้าช้าๆ

    “เดือนหน้าเราจะมีแข่งนะ อยากถ่ายรูปฉันไปทำข่าวบ้างหรือเปล่า?”

    “ข่าวกิจกรรมเป็นหน้าที่เสี่ยวลู่เค้าน่ะ” เขาตอบอย่างไม่คิดอะไร แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าคงเสียมารยาท กัปตันอุตส่าห์เป็นฝ่ายออกปากเองแท้ๆ “แต่... ผมถ่ายรูปกัปตันแทนเพื่อนก็ได้นะ”

    “งั้นก็เอาสิ” อีกฝ่ายซับเหงื่อบนหน้าจนแห้งดีแล้วก็โยนผ้าขนหนูโปะไว้บนกระเป๋าก่อนจะลุกขึ้น หันซ้ายหันขวาเพื่อหามุมเหมาะ “ตรงไหนดี?”

    “ตรงนี้ก็ได้ฮะ จะได้เห็นแป้นบาสข้างหลังชัดๆ” อี้ชิงถอยหลังออกไปอีกเพื่อให้ได้ภาพมุมกว้าง ให้สัญญาณมือกับคนตัวสูงเพื่อให้ขยับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะ พอได้ที่แล้วฝ่ายนั้นก็โพสท่าโดยการยกมือขึ้นกอดอก ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “ขอแบบเต็มตัวก่อนนะ หนึ่ง สอง...”

     

    แช๊ะ!

     

    “.....!

    “อีกรูปสิ กันเสีย” ใครบางคนโผล่เข้ามาในเฟรมเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่อี้ชิงจะกดชัตเตอร์พอดี กอดคอกัปตันแล้วอีกมือก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมา โพสท่ารอให้อี้ชิงถ่ายรูปที่สอง

    “อะ... ไรของนายเนี่ย?”

    “รูปคู่ไง”

    “แต่ฉันอยากได้รูปกัปตันคนเดียวนี่”

    “อยู่ทีมเดียวกัน ถ่ายกัปตันก็ต้องถ่ายฉันด้วยสิ”

    “นายไม่ได้ลงแข่งกีฬามหาลัยด้วยซักหน่อย”

    “ลงแล้ว ถามกัปตันดูก็ได้” ตวัดหลังมือตีเข้าที่อกเพื่อนและฝ่ายนั้นก็พยักหน้า อี้ชิงจิ๊ปากอย่างขัดใจแต่ก็แค่นั้น สุดท้ายก็ต้องยกกล้องขึ้นเล็งแล้วกดถ่ายรูปที่สอง สาม และสี่ กลายเป็นว่าไม่มีรูปเดี่ยวของกัปตันซักรูปเลย

     

    “รออยู่นี่นะ ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” อี้ชิงกำลังเช็ครูปที่เพิ่งถ่ายตอนที่คริสพูดขึ้น เดินไปหยิบกระเป๋าบนเก้าอี้ในที่พักขึ้นมาสะพายหน้าตาเฉย ขณะที่คนตัวเล็กขมวดคิ้ว

    “ให้รอทำไม?”

    “ก็กลับพร้อมกันไง นายมารอฉันไม่ใช่หรือ?”

    “ห๊ะ? รอนายเนี่ยนะ?” อี้ชิงหน้าเหวอ เขาบอกเมื่อไหร่กัน แต่คริสกลับยักคิ้วให้

    “ไปกันเถอะกัปตัน” ร่างสูงอีกคนโบกมือบ๊ายบายเขาแต่ยังไม่ทันได้บอกลาก็ถูกคริสกอดคอแล้วลากเข้าห้องพักนักกีฬาไปด้วยกัน

    อี้ชิงงับปากแล้วมุ่ยหน้าเมื่อคิดได้ว่าคงโดนแกล้งอีก หมอนี่เอาแต่ใจแล้วก็ชอบข่มเขาอยู่เรื่อย ให้รออยู่ที่นี่คงจะหาเรื่องแกล้งอะไรอีก

     

    ไม่รอให้โง่หรอก!

     

    ย่นจมูกใส่คนที่ไม่ทันหันหลังมาเห็นแล้วก็มองออกไปนอกสนามพลางบุ้ยปาก พวกแฟนคลับยังรอกันอยู่รอบนอกนั่น เขาออกไปตอนนี้อาจจะเจอกับสามสาวอีกก็ได้ เงยหน้าขึ้นมองบนสแตนด์เชียร์ก็พบว่าโล่งกว่า ถ้าขึ้นไปชั้นบนสุดแล้วค่อยๆ เดินเลาะออกจากโรงยิมฯไปเงียบๆ คงไม่มีใครเห็น อี้ชิงยิ้มให้กับความหัวใสของตัวเองแล้วเก็บกล้องลงกระเป๋า ยกเป้ขึ้นสะพายให้ทะมัดทะแมงก่อนจะเดินออกไปทางด้านข้างของสนามแล้วขึ้นไปบนสแตนด์เชียร์ในทันที

    เขาเดินอยู่ชั้นบนสุดของสแตนด์ตอนที่ได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดดังเป็นระลอก หันกลับไปมองในสนามก็พบว่านักกีฬาบางส่วนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วและกำลังทยอยกันเดินออกมาจากห้องพัก อยู่ตรงนี้มองเห็นสามสาวเพื่อนร่วมห้องของเขาที่กำลังชะเง้อคอมองหาคนหล่อชัดเชียว เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะ พวกเธอคงไม่ทันหันมาเห็นเขาในตอนนี้แน่ เดินไปเรื่อยๆ จนถึงสแตนด์ตัวสุดท้าย อี้ชิงถึงได้ก้าวลงมาทีละขั้นกระทั่งเท้าแตะพื้น นึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเมื่อเห็นทางออกอยู่ข้างหน้า เขาเตรียมจะวิ่งอยู่แล้ว แต่เสียงเรียกแหลมสูงก็ทำเอาสะดุ้ง

    “นี่ นายน่ะ”

    “ห.. ห๊ะ?” ตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเห็น เขาหันไปมองและพบว่าเป็นเด็กสาวหน้าไม่คุ้น น่าจะอยู่คนละคณะ ไม่น่าจะมีธุระกันนะ “เธอ... เรียกฉันเหรอ?”

    “นายนั่นแหละ” เธอตรงรี่เข้ามาหาแบบประชิดตัวจนอี้ชิงแทบจะต้องถอยหนี ชี้นิ้วมาจนเกือบจิ้มปลายจมูกเขา “ฉันจำได้นะ นายเข้าไปขอนั่งร่วมโต๊ะกับรุ่นพี่ในแคนทีน แล้วนายก็เป็นคนเดียวกับที่หิ้วข้าวกล่องเข้าไปในสนามเมื่อกลางวันนี้ด้วย”

    อี้ชิงตาโตแล้วสั่นหน้า เสียงเธอดังไม่เบาเลย และนั่นก็ทำให้บรรดาแฟนคลับคนอื่นๆ หันมามองตาม สามสาวเพื่อนร่วมห้องของเขาก็ด้วย พวกเธอมองหน้ากันแล้วก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ปรี่เข้ามาช่วยกันชี้หน้าเขา

    “นี่อย่าบอกนะ! ว่าคนที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รุ่นพี่เมื่อวานนี้น่ะ...”

    “เป็นนาย?!” อี้ชิงยังคงเอาแต่สั่นหน้าแต่ไม่ตอบ ถูกสายตาหลายคู่จ้องเอาอย่างคาดคั้น เท้าเล็กก็ก้าวถอยหลังด้วยความระแวง ก่อนจะพบว่าตัวเองตกอยู่กลางวงล้อมของคนนับสิบ คนอื่นๆ พากันมามุงอยู่รอบตัวเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    “แล้วที่นายเข้าไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ในสนาม คิดจะอ่อยใครรึไงยะ?”

    “ฉ.. ฉันไม่ได้อ่อยใครทั้งนั้น”

    “เราไม่เชื่อนายหรอก ตกลงว่าคนที่อยู่ในรูปนี่คือนายใช่มั้ย?”

    “คนที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รุ่นพี่ด้วยใช่หรือเปล่า?”

    “กล้าดียังไงถึงมายุ่งกับรุ่นพี่ของเรา”

    “ฉ.. ฉันไม่ได้...!

    “ใช้สิทธิพิเศษของชมรมเพื่อเข้าหารุ่นพี่แบบนี้ น่าเกลียดที่สุด!

    “ฉันเปล่า!

    “พวกเราไม่ยอมให้นายทำแบบแบบนี้หรอกนะ”

    “เลิกตามตื๊อรุ่นพี่เค้าซักที!

     

    ฮือออออ แย่แน่ๆ

     

    ใครก็ได้ช่วยที!

     

    “เขียวหวาน”

    น้ำเสียงทุ้มปนดุนั้นทำให้ทุกชีวิตต้องหันไปมอง คนที่ไม่มีใครคาดคิด... ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวของเครื่องแบบนักศึกษา เส้นผมที่ยังเปียกชื้นเพราะเหงื่อจากการออกแรงซ้อมนั้นยังไม่แห้งดี ขับให้ใบหน้าหล่อเหลายิ่งหล่อเข้ม จู่ๆ ก็เดินออกมาจากสนามแล้วตรงเข้าหากลุ่มแฟนคลับ

    “บอกให้รอข้างในไม่ใช่รึไง” อันที่จริงต้องบอกว่าเดินมาหาคนที่ตกอยู่กลางวงล้อมนั่นต่างหาก ดวงตาคมจับจ้องเพียงร่างเล็กที่ยืนหน้าตาตื่นแล้วเดินเข้าไปหาโดยไม่สนใจกลุ่มคนที่แหวกทางให้แม้แต่น้อย

    “ฉ.. ฉันไม่ได้...”

    “น้ำฉันล่ะ?”

    “น้ำ? น้ำไหน?”

    “น้ำขวดนั่นไง” อี้ชิงยังคงไม่หายตื่น แต่เขาจำได้ว่าตัวเองมีขวดน้ำที่พกติดตัวอยู่แค่ขวดเดียว นึกจะมาขี้ตู่อะไรกันตอนนี้นะ “ต.. แต่นั่นมัน...”

    แต่คริสไม่รอฟังให้พูดจบ ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้จนอกแทบจะชนหน้าเขาแล้วเอื้อมมือไปด้านหลัง หน้าตื่นๆ ของอี้ชิงก็เลยซุกอยู่กับช่วงไหล่กว้างตอนที่ช่องซิปของเป้หลังถูกเปิดออก คนตัวเล็กได้แต่ยืนนิ่งขณะที่คริสถือวิสาสะหยิบขวดน้ำออกมาเปิดฝาแล้วยกขึ้นดื่มหน้าตาเฉย

    “ขอบใจนะ”  ยิ้มบางนั้นเรียกเสียงครางเพ้อจากแฟนคลับที่อยู่รอบๆ อี้ชิงเกือบลืมไปแล้วว่ามีคนอื่นๆ อยู่ที่ตรงนั้น เช่นเดียวกับที่คริสเอาแต่มองหน้าเขา ดวงตาคมที่มองสบนั้นราวกับจะสะกดให้เขาไม่อาจเมินมองไปสนใจใครคนอื่นได้ น่าแปลกที่อี้ชิงยังจ้องตอบอย่างอุ่นใจ เขาลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ถูกคนอื่นๆ รบกวนอย่างไรบ้าง เพียงคนๆ นี้ก้าวเข้ามา รอบตัวก็ดูจะเงียบสงบและปลอดภัยอย่างน่าประหลาด มีเพียงเสียงเดียวที่ยังคงดังเป็นจังหวะจนน่ารำคาญนัก

    “อ้อ แล้วก็ ที่นายถามน่ะ ฉันตกลงนะ”

    “ฉันถาม? เรื่อง?” คริสยิ้มตอนที่ส่งขวดน้ำคืนใส่มือให้เขา

     

    “ที่ว่าเป็นแฟนกัน ฉันตกลง”

     

    คือประโยคสุดท้ายที่อี้ชิงได้ยิน ก่อนที่หูจะอื้อจนดับเพราะเสียงกรี๊ดกร๊าดของบรรดาแฟนคลับที่อยู่แถวนั้น

     

     

     

     

     

     

      

    ทู บี คอนตินิว...

     

     

     

    คนรอง: กัปตันหล่อเนอะ >< ตั้งใจจะให้โผล่มาฉากเดียว แต่มีหลายเสียงลุ้นให้เป็นพี่ชาน นึกอยากจะเปลี่ยนบทขึ้นมาเลย ฮะๆๆ

    เพราะเอกจอมซึนเราประกาศศักดาแล้วน้า เขียวหวานล่ะ จะว่าไง? ><

     

    เจอกันใหม่ตอนหน้าจ้า ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×