ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisLay] มายชิง ~☆❤

    ลำดับตอนที่ #7 : มายชิง ตอน 07 ::: ครีมเค้ก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      7
      4 ม.ค. 57


     

    [Fic] มายชิง

    ตอนที่ 7: ครีมเค้ก

    Fiction by 2nd Admin

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

                บรรยากาศในสนามบาสเก็ตบอลนั้นเงียบกริบ แม้แต่คิมจุนมยอนที่รับหน้าที่กรรมการสนามซึ่งคาบนกหวีดอยู่ในปากก็ยังไม่กล้าเป่า เขาจะขานคะแนนแต่ไม่รู้จะขานยังไง กติกาคือคริสต้องขัดขวางไม่ให้ต้าหลงทำแต้มได้ แต่นี่ร่างสูงกลับชู๊ตลูกทำแต้มเสียเอง ควรจะนับเป็นได้แต้มหรือถือว่าผิดกติกาดี

     

                “ไม่น่าเชื่อ หมอนั่นเอาชนะต้าหลงได้ด้วย”

                มังกรผู้น้องหันไปเอาศอกกระทุ้งเพื่อนที่ยืนข้างเดียวกันมาตลอดแล้วโต้แย้งอย่างเกรี้ยวกราด

                “ไม่ได้ชนะ! ก็แค่ผ่านการทดสอบเท่านั้นแหละ อย่างหมอนั่นไม่มีทางชนะพี่ชายฉันได้หรอก!” กระแทกลมหายใจใส่เพื่อนแล้วเสี่ยวหลงก็เดินเข้าไปจับแขนพี่ชายฝาแฝดที่ยืนหอบอยู่ใต้แป้นบาสฯ ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เกิดอะไรขึ้นน่ะต้าหลง?”

     

                เป็นเรื่องเดียวกับที่จุนมยอนสงสัย เขาถามคำถามเดียวกันนี้กับคริสซึ่งตอนนี้ทรุดตัวลงไปนั่งหอบอยู่กับพื้นสนาม

                “ต้าหลงเปลี่ยนกติกา” คริสอธิบายปนเสียงหอบ ไม่เคยออกกำลังจริงจนเหนื่อยขนาดนี้มานานมาก แต่ก็ไม่เคยรู้สึกดีมากเท่านี้เช่นกัน “ฉันต้องทำแต้มให้ได้ ถึงจะถือว่าชนะ”

                “งั้นก็ดีสิ ทีนี้นายจะว่ายังไง อี้ฟานเค้าสกัดนายได้ครบสามครั้งตามกติกาแล้วยังชู๊ตทำแต้มได้อีก แบบนี้ถือว่ามีฝีมือพอจะเข้าร่วมทีมมั้ย?”

                ต้าหลงเลื่อนสายตาจากยิ้มดีใจของจุนมยอนมามองคู่อริแล้วก็กัดฟันกรอด ผลที่ออกมาเขาไม่อยากยอมรับ คนที่ดูเหมือนไม่เคยเล่นกีฬาแบบนี้จะรู้จักเทคนิคการเข้าสกัดและหลอกล่อเพื่อทำแต้มได้ยังไง ไม่ใช่เพราะฟลุ้คแน่ๆ และเขาก็แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ประมาท มนุษย์แว่นนี่ต้องมีอะไรซ่อนไว้ มังกรผู้พี่ขบคิดแล้วสุดท้ายก็ยืดตัวขึ้นตรง เพยิดหน้าให้คนที่กำลังยันตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้นเช่นกัน

     

                “ฉันเป็นคนรักษาคำพูด นายผ่านการทดสอบแล้ว พรุ่งนี้มาซ้อมกับพวกเราได้”

     

     

     

     

                คริสรีบร้อนออกมาจากโรงยิมพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า ยกมือขึ้นลูบอกเสื้อตัวเองเบาๆ เมื่อก้อนกลมในกระเป๋าเริ่มขยับยุกยิก ชิงน้อยคงเบื่อที่จะอยู่นิ่งๆ เป็นตุ๊กตาแล้ว เขาต้องไปให้พ้นจากสายตาคนอื่นเร็วๆ จะได้ปล่อยเจ้าตัวเล็กออกมากระโดดโลดเต้นข้างนอกเสียที ช่วงขายาวกำลังรีบจ้ำ แต่เสียงหัวเราะที่ตามมาข้างหลังทำให้คริสชะลอฝีก้าว เป็นจังหวะเดียวกับที่ไหล่หนาถูกมือหนึ่งคว้าจับ

                “นายนี่แย่มากเลยนะ เล่นบาสฯเก่งขนาดนี้ไม่ยอมบอก หลอกให้ฉันปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม” คิมจุนมยอนยิ้มสว่างไสว และนั่นทำให้คริสยิ้มตาม

                “ก็นายไม่ได้ถาม”

                “ก็จริง นายแค่บอกว่าไม่ชอบ ไม่ได้บอกว่าเล่นไม่เป็นซักหน่อยนี่นะ เออนี่ ไปฉลองกันหน่อยมั้ย ฉันเลี้ยงเอง”

                “ขอบใจนะ แต่ฉันขอตัวดีกว่า วันนี้มีนัดแล้ว”

                “อ่า งั้นก็ไม่เป็นไร เอาไว้โอกาสหน้าก็ได้ ถ้างั้นพรุ่งนี้...”

                “พรุ่งนี้เจอกัน ฉันไปนะ”

                “เดี๋ยวสิ...” มองแผ่นหลังกว้างที่ห่างออกไปอย่างรีบร้อนแล้วจุนมยอนก็ลดมือที่ยกค้างไว้ลง พ่นลมหายใจออกพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ อู๋อี้ฟานมีโลกส่วนตัวสูงขนาดไหน เขาไม่น่าลืมเลย

     

     

                คริสวิ่งมาถึงสนามฟุตบอลแล้วก็หลบเข้าหลังพุ่มไม้ที่ข้างสนาม มองซ้ายมองขวาจนดีแล้วก็ค่อยๆ ช้อนเอาก้อนนิ่มในกระเป๋าเสื้อออกมา แบมือออกแล้วยกขึ้นจ้องในระดับสายตา

                “ฉันเก่งมั้ย?”

                “เก่งที่สุด! คริสเก่งที่สุดเลย” เจ้าตัวเล็กยกสองนิ้วโป้งให้อย่างยิ่งใหญ่จนคริสยิ้มกว้าง เปรยด้วยน้ำเสียงสดใส

                “ไม่ได้วิ่งเร็วๆ แบบนี้มานานแล้วนะเนี่ย”

                “ตอนที่วิ่งอยู่ในสนาม คริสสนุกมั้ย?”

                “สนุกมาก ชิงล่ะ?”

                “เราก็สนุก คริสวิ่งเร็วมากเลย วิ่งไปวิ่งมาแล้วก็โยนลูกกลมๆ นั่นลงไป ฟึ่บ! เก่งที่สุดเลย!” แขนเล็กๆ นั้นออกท่าทางประกอบให้วุ่นวายไปหมด แต่น่าเอ็นดูเหลือเกินในสายตาคนมอง ดีใจจากชัยชนะยังไม่เท่าเห็นชิงน้อยหัวเราะอย่างสนุกสนาน เด็กหนุ่มดุนจมูกกับพุงเล็กนุ่มนิ่มแล้วเลื่อนขึ้นปัดใบหูยาวเบาๆ

                “ขี้โม้แบบนี้ ต้องพาไปเลี้ยงขนมหน่อยแล้วมั้ง”

                “ที่อื่นเหรอ?” เจ้าตัวเล็กวางสองมือแล้วลงบนฝ่ามือเขาแล้วยื่นหน้ายื่นตาถามอย่างตื่นเต้น ที่ชิงน้อยกระตือรือร้นขนาดนี้ก็เพราะนอกจากอพาร์ทเม้นท์กับที่โรงเรียน แล้วก็สวนสนุกที่พาไปเที่ยวเมื่ออาทิตย์ก่อนแล้ว คริสก็ยังไม่เคยพาเพื่อนรักตัวเล็กออกนอกเส้นทางไปไหน พอบอกว่าจะ พาไปก็เลยรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวที่อื่นแน่ๆ

     

                “ในตลาดมีร้านขนมอยู่ร้านนึง อร่อยมากกกกก”

                “ขนมอะไร? อยากกิน อยากกิน”

                “ฉันจะพาไป แต่ต้องเซอร์ไพรส์นะ”

                “อีกละ? โหยยยย เซ็งอ่ะ” โอดครวญแล้วก็ดึงหูสองข้างลงมาปิดหน้าปิดตา ล้มตัวแล้วกลิ้งไปมาอยู่บนฝ่ามือจนเด็กหนุ่มหัวเราะ ที่บ่นนี่เพราะจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่คริสพูดคำว่าเซอร์ไพรซ์ ชิงน้อยต้องซ่อนตัวอยู่แต่ในกระเป๋าเสื้อจนกว่าจะถึงสวนสนุก เล่นเอาเซ็งไม่น้อย

     

     

                และครั้งนี้ก็เช่นกัน ชิงน้อยได้แต่บ่นงุ้งงิ้งอยู่ในกระเป๋าเสื้อมาตลอดทางตั้งแต่ที่คริสออกจากโรงเรียนมาขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินและลงที่สถานีใกล้อพาร์ทเม้นท์ เดินไปอีกบล็อคเดียวก็ถึงตลาดที่ว่า ร้านขนมที่คริสบอกจริงๆ แล้วก็คือร้านเบเกอรี่เล็กๆ ที่ต้องเดินเลี้ยวเข้าไปในซอยถึงจะเห็น คริสเจอร้านนี้ตอนที่ออกมาเดินเตร็ดเตร่แล้วเลี้ยวหลบคนเยอะๆ ในตลาดเข้ามาในซอย ร้านนี้เตะตาเขาเพราะตกแต่งได้น่ารัก ทั้งโทนสีหวานให้ความรู้สึกเหมือนขนมสายไหม แล้วก็ของประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ตั้งวางอยู่ตามมุมต่างๆ คริสชอบของชิ้นเล็กๆ เพราะมันดูน่ารักน่าเอ็นดู พอเดินเข้ามาในร้านก็ได้ยินเสียงเพลงเบาๆ เด็กหนุ่มยิ้มให้นูน่าพนักงานขายที่เอ่ยทักเมื่อเขามาหยุดยืนอยู่หน้าร้านก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปด้านใน แล้วก้มลงมองขนมที่วางเรียงรายในตู้กระจกใส มองเข้าไปในร้านเห็นมีลูกค้าอยู่แค่สองโต๊ะ นูน่าคนเมื่อครู่ก็กำลังดูแลลูกค้าโต๊ะหนึ่งอยู่ เด็กหนุ่มทาบมือลงบนกระเป๋าเสื้อเบาๆ เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าตัวเล็ก

                “ชิง ดูนี่สิ”

                “หือ?” หูยาวโผล่พ้นขอบกระเป๋าเสื้อก่อนที่หัวกลมๆ จะตามมา กวาดตาโตๆ มองชิ้นสามเหลี่ยมหน้าตาต่างกันที่วางเรียงอยู่ตรงหน้าแล้วก็ร้องโอ้โห

                “ขนมเค้ก!”

                “เก่งนี่ จำได้ด้วย” เจ้าตัวเล็กหันมายิ้มกว้าง แน่นอนว่าชิงน้อยเคยเห็นเค้กพวกนี้จากแค่ในโทรทัศน์ และคริสก็จำเสียงครางกับดวงตาเป็นประกายตอนที่มองของหวานเหล่านี้ได้ เขาไม่แน่ใจว่าชิงกินอะไรได้บ้าง หนึ่งเดือนที่อยู่ด้วยกัน ตั้งแต่ที่ไม่ใช่แค่กระต่าย ชิงก็ดูเหมือนจะไม่ชอบกินผักหรือแครอท ถ้ากินลูกอมลูกกวาดได้ ก็น่าจะกินเค้กได้ล่ะนะ “ชิงชอบอันไหนล่ะ?”

                “เราชอบทุกอันเลย!” ปล่อยมือจากขอบกระเป๋าเสื้อแล้วก็วาดแขนแหวกอากาศบอกให้รู้ว่าทุกอันนั้นนั้นหมายถึงทั้งหมดในตู้ ทำเอาคริสหัวเราะหึ

                “ตัวแค่นี้จะกินเข้าไปยังไงหมด เอาแค่ชิ้นสองชิ้นก่อนแล้วกัน”

     

                คริสเงยหน้าขึ้นพร้อมๆ กันกับที่พนักงานสาวกลับมาประจำเค้าท์เตอร์ เธอยิ้มให้เขาแล้วพยักหน้าน้อยๆ บอกให้รู้ว่าพร้อมจะรับออร์เดอร์แล้ว

                “ขอสตรอเบอรี่ชอร์ทเค้ก กับช็อคโกแล็ตลาวาครับ” ชำระเงินเรียบร้อยเด็กหนุ่มก็ยืนรอรับของที่สั่งแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะด้านในสุดติดริมหน้าต่าง วางจานเค้กทั้งสองจานลงแล้ววางกระเป๋าลงบนโต๊ะแบบให้บังจานเค้กจากสายตาคนอื่นไว้ ก่อนจะค่อยๆ ช้อนเจ้าตัวนิ่มออกมาจากกระเป๋า วางลงใกล้ๆ กับจานเค้ก พอเจ้าตัวเล็กเห็นชิ้นเค้กที่ใหญ่กว่าตัวเองก็ตื่นเต้นตาโตใหญ่

                “ว้าวๆๆๆ!”

                “น่ากินใช่มั้ยล่ะ”

                “อื้อ”

                “ฉันป้อนให้ ชิ้นไหนก่อนดี?” คริสถือช้อนเล็กเตรียมพร้อมไว้ในมือระหว่างที่รอให้เจ้าตัวเล็กเลือก นิ้วเล็กๆ แตะที่ปากสีแดงแล้วชิงน้อยก็สลับสายตามองเค้กทั้งสองอย่างคิดหนัก ก่อนจะชี้ไปที่เค้กก้อนสีขาวฟูฟ่องที่มีสตรอเบอรี่ชิ้นโตอยู่ข้างบน

                “เอาอันนี้”

                “จัดให้” เขาตักสตรอเบอรี่ชอร์ทเค้กด้วยปลายช้อนเล็กแล้วส่งไปตรงหน้าคนที่นั่งรออยู่ เจ้าตัวเล็กทำตาวาว ขยับเนื้อขยับตัวอย่างตื่นเต้นก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ ทำจมูกฟุดฟิดสูดกลิ่นครีมเค้กแล้วก็ส่งเสียงครางอย่างพึงใจ คริสยิ้มตอนที่มองลิ้นแดงเล็กค่อยๆ ละเลียดเลียครีมเค้ก ใบหน้าน่ารักระบายยิ้มอย่างมีความสุข “อร่อยรึเปล่า?”

                “อื้อ ที่สุดอ่ะ”

                “อันนี้ก็อร่อยนะ ช็อคโกแล็ตลาวา” คริสชวนให้ชิงน้อยหันไปมองเค้กอีกจาน พอช้อนเล็กตักลงไปในชิ้นเค้กทรงกลมแล้วมีซอสช็อคโกแล็ตไหลออกมา เจ้าตัวเล็กก็ร้องอย่างตื่นเต้น แลบลิ้นเลียซอสสีเข้มเมื่อคริสยื่นช้อนให้ “อร่อยมั้ย?”

                “อื้อ”

                “อันไหนอร่อยกว่า”

                “อืม...” พอให้เลือกก็ทำท่าคิดหนัก กรอกตามองจานซ้ายทีจานขวาทีแล้วก็เอานิ้วแตะปาก สงสัยจะกลัวว่าถ้าต้องเลือกแล้วจะอดกินอีกจาน “อร่อยทั้งสองอันเลยอ่ะ”

                นั่นไงว่าแล้วเชียว เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ ชิงของเขานี่ไร้เดียงสาจริงๆ

     

                “ขอโทษนะจ๊ะ”

     

                แย่ล่ะ!

     

                เพราะมัวแต่เล่นกับชิงน้อยเพลิน ไม่ทันได้มองว่ามีใครเดินมาใกล้ พอมีเสียงทักเด็กหนุ่มก็เลยสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองนูน่าพนักงานขายแล้วก็รีบเหลือบมองเจ้าตัวเล็ก เขาไม่ได้เอาที่ห้อยกุญแจมาวางไว้ใกล้ๆ จะซ่อนก็ไม่ทันแล้ว นูน่าต้องเห็นชิงน้อยแน่ๆ!

     

                “พี่เห็นน้องไม่ได้สั่งน้ำก็เลยเอาน้ำเปล่ามาให้” เธอบอกพร้อมยิ้มสวยแล้ววางแก้วน้ำลายน่ารักลงบนโต๊ะ ใกล้ๆ กับที่ชิงน้อยนั่งอยู่ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็นั่งตัวแข็งในท่าเดิมที่ยังเอานิ้วแตะปาก กลายเป็นตุ๊กตาไปแล้ว คริสเกือบจะโล่งอกที่ชิงน้อยรู้งาน แต่เสียงแหลมสูงของหญิงสาวก็ทำให้เขาต้องสะดุ้งอีกครั้ง “ต๊าย ตัวอะไรคะนี่ น่ารักจังเลย ขอจับหน่อยได้มั้ย”

                “ม.. ไม่ได้นะครับ!” แต่มือคริสไวกว่า เขารีบคว้าเจ้าตัวเล็กมาได้ก่อน ตัดหน้าจนพนักงานสาวที่ยื่นมือออกมาแล้วถึงกับเหวอ “คือเอ่อ มันเลอะง่ายน่ะครับ ผมไม่ค่อยอยากให้คนอื่นจับ”

                “อ๋อ ขอโทษด้วยจ้ะ งั้นพี่ขอตัวก่อน อยากได้อะไรก็บอกนะ”

                “ครับ ขอบคุณครับ” นูน่าเดินกลับไปที่เค้าท์เตอร์แล้วคริสถึงได้วางชิงน้อยลงที่เดิม พรูลมหายใจแล้วกระซิบเสียงเบา “เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ”

                แต่เจ้าตัวเล็กกลับหัวเราะร่าจนคริสต้องเอานิ้วจุ๊ปาก เห็นเป็นเรื่องสนุกไปเสียอย่างนั้น

     

                “เรากินเองได้มั้ย?”

                “ได้สิ อ่ะนี่” คริสเลื่อนจานเค้กเข้าไปใกล้ๆ แล้วก็นั่งท้าวคางมองว่าเจ้าตัวเล็กจะจัดการกับเค้กที่ชิ้นโตกว่าตัวเองตั้งเยอะได้ยังไง ตอนแรกก็เห็นว่ากินจากช้อนที่เขาตักให้อยู่ดีๆ พอหมดแล้วก็เริ่มหันมาหาชิ้นโต เห็นยกแขนเล็กๆ ทั้งสองข้างขึ้นพยายามจะกอดเค้กไว้แต่กลับจมหายเข้าไปครีมเค้กแล้วคริสก็ถึงกับหลุดหัวเราะ แล้วยังยื่นหน้าเข้าไปเลียครีมทั้งอย่างนั้นอีก ผลก็คือตอนนี้เนื้อตัวเล็กๆ นั้นมีครีมเค้กติดอยู่เต็มเลย “ระวังหน่อย ครีมเลอะไปทั้งตัวแล้วนะ”

                “ไม่เลอะซักหน่อย” ยังจะเถียง ขาวโพลนไปทั้งตัวอย่างกับตุ๊กตาไอซิ่งขนาดนั้น คริสแกล้งหรี่ตาใส่ พอเจ้าตัวเล็กหันมาเลียๆ ครีมที่แขนตัวเอง คริสก็ใช้ปลายนิ้วเช็ดครีมที่ติดบนใบหูกับหน้าผากให้ ตรงจมูกกับข้างแก้มนั่นคงไม่ต้อง ฟัดกับเค้กขนาดนี้ยังไงก็ต้องเลอะอีกอยู่ดี

     

                อันที่จริงชิงก็ตัวเล็กนิดเดียว กินอะไรได้ไม่เยอะ แต่ติดเล่นเสียมากกว่า สตรอเบอรี่ชอร์ทเค้กพร่องไปแค่เสี้ยวเดียวก็ลงไปนั่งพุงกางอยู่กับโต๊ะแล้ว เด็กหนุ่มยังนึกโล่งใจที่ชิงไม่คิดจะลงไปแหวกว่ายในลาวาช็อคโกแล็ตที่อยู่อีกจาน ไม่งั้นคงได้เลอะไปกันใหญ่

     


     





     

                ก่อนออกจากร้านคริสยังสั่งบลูเบอรี่ชีสเค้กหิ้วกลับบ้านมาด้วย ท่าทางชิงน้อยจะติดใจเค้กเข้าให้แล้ว เดี๋ยวคงร้องจะกินอีก แต่เล่นฟัดกับครีมเค้กนัวขนาดนั้น กลับมาก็เลยต้องจับอาบน้ำกันยกใหญ่ เช็ดตัวให้จนแห้งดีแล้วก็นอนกลิ้งอยู่บนหมอน รอจนคริสเสร็จธุระปิดไฟเรียบร้อยแล้วก็ตามลงมานอนบนหมอนใบเดียวกัน

                “อาบน้ำแล้ว ตัวยังมีกลิ่นอยู่เลยนะ”

                “ว่าเราอาบไม่สะอาดเหรอ ตัวอาบให้เราเองนะ”

                “ไม่ใช่อย่างนั้น ปกติตัวนายจะมีกลิ่นหวานๆ เหมือนลูกกวาด แต่วันนี้เป็นกลิ่นหอมเหมือนครีมเค้ก กินอะไรตัวก็จะมีกลิ่นแบบนั้นรึไง?”

                ชิงน้อยโคลงหัวด๊อกแด๊กเหมือนไม่สนใจเรื่องที่คริสสงสัย ใจน่ะลอยไปถึงครีมสีขาวนุ่มห๊อมหอมอร๊อยอร่อย หันมองคนที่นอนตะแคงข้างหันหน้ามาทางตัวเองแล้วก็กลิ้งเข้าไปหาจนเนื้อตัวนิ่มๆ ชนเข้ากับจมูกโด่ง

                “เราชอบกินครีมเค้ก” บอกในระยะชิดปลายจมูกแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องตาจนคริสต้องเหล่ตามองแล้วเลิกคิ้ว บอกด้วยน้ำเสียงจริงจังแทนที่จะอ้อนๆ เหมือนที่เคยทำ แบบนี้เรียกว่าขู่กันกลายๆ รึเปล่า คือบอกว่าชอบแล้วคริสต้องพาไปกินบ่อยๆ แบบนี้ใช่มั้ย เจ้าเล่ห์เกินไปแล้วนะชิงน้อย ตาคู่คมหรี่ลงแล้วเด็กหนุ่มก็แกล้งดุนจมูกกับพุงนิ่มจนเจ้าตัวเล็กหงายท้องลงไปนอนแผ่อยู่กับหมอน ก่อนจะฟัดให้จั๊กจี้จนดิ้นปัดๆ เสียงหัวเราะดังสลับกับเสียงโวยวายของเจ้าตัวแสบจนกระทั่งหอบเหนื่อยกันไปทั้งคู่แล้วคริสถึงได้ยอมหยุด

     

                “ถ้าเป็นเด็กดีวันหลังจะพาไปกินอีก แต่ตอนนี้ต้องนอนแล้วนะ ฉันเพลียมากเลย”

                “ก็ได้”  ตอบแล้วก็รีบกลิ้งลงจากหมอน ปีนเข้าไปในตะกร้าซึ่งเดี๋ยวนี้คริสเอาขึ้นมาไว้บนเตียงด้วยกัน โผล่แต่หัวกับหูยาวๆ ขึ้นมาบอกคนที่นอนมองก่อนจะรีบหลบลงไป “ฝันดีนะ”

                “ฝันดี ชิงน้อยของฉัน”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     







    TBC.

     

     

     

     

     



    คนรอง: หายไปนานเลยเรื่องนี้ เพราะช่วงหลังมัวแต่ยุ่งๆ อยู่ = =

    ใครที่ถามว่าเมื่อไหร่ชิงน้อยจะโตนี่อย่าเพิ่งใจร้อนนะฮะ ปล่อยให้เค้าตัวแค่นี้ไปซักพักก่อน เพราะเดี๋ยวพอโตแล้วจะยิ่งสงสารคริสที่อยากฟัดแต่ฟัดไม่ได้ ^^

     

     

    เจอกันใหม่ตอนหน้านะ ^^

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×