คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] Change :: KRISYEOL §
“ชานยอล”
“ครับ”
“พรุ่งนี้ฉันจะไปจีนเเล้วนะ”
“ครับ”
“แล้วก็ไม่รู้ว่ากลับเกาหลีอีกวันไหน”
“ครับ”
“ฉันคงจะต้องห่างนายไปซักพัก ”
“ครับ”
“เราอาจจะไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ อย่างนี้อีก”
“ครับ”
“ปาร์ค ชานยอล ”
“ครับ”
“นี่นายไม่คิดจะเสียใจบ้างเลยหรือไง !!”
ผมค่อย ๆ ยกมือขึ้นไปจับไม้ไอติม ออกมาจากปาก ก่อนจะเหลือบตามองคนที่ยืนหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ทางด้านข้าง
คริสฮยอง ครับ อยู่ดี ๆ ก็ตะโกนออกมาอย่างนั้นหน่ะ ไม่กลัวน้องชานยอลคนนี้หัวใจวายตายบ้างเลยเหรอครับ
“ ทำไมผมต้องเสียใจด้วยอ่ะ ”
ผมหันไปถามเขาอย่างงง ๆ ก่อนจะกระชับถุงหูหิ้วในมือในแน่นขึ้น ของก็หนัก ร้อนก็ร้อน
อยู่ดี ๆ ยังมาโดนตวาดใส่อีก เมื่อไหร่จะถึงหอซักทีนะ ผมอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว
“ทำไมเหรอ ? นี่นายถามว่าทำไมนายต้องเสียใจงั้นเหรอ !”
คริสฮยองหันมาจ้องหน้าผมอึ้ง ๆ ก่อนจะเอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ คริสฮยองเป็นอะไรอะ สงสัยจะร้อนจัด
เอาไอติมผมไปกินก่อนไหม O.o ?
“ใช่ครับ ผมถามฮยองว่า ทำไมผมต้องเสียใจด้วยหล่ะ ”
ผมหันไปถามเขาอีกที ก่อนจะยกแท่งไอติมขึ้นมาใส่ปากก่อนจะเอามันออกมาเลียอย่างสบายใจ ไอติมรสนี้อร่อยดีแหะ รู้อย่างนี้ซื้อมาเยอะ ๆ ดีก่า
“ปาร์ค ชานยอล !!! นายนี่มัน! มัน! มัน! โธ่เว๊ยยย !!!!”
อยู่ดี ๆ คริสฮยองก็กระชากไอติมผมออกจากปากก่อนโยนมันลงถังขยะ ผมรีบเงยหน้าขึ้นไปมองร่างใหญ่ ๆ ของใครบางคนที่เดินลิ่ว ๆออกไปจากจุดเกิดเหตุ อะ ไอ ฮยองบ้า นั่นผมยังกินมันไม่หมดเลยนะ !! U.U
เพล้ง ! เพล้ง !! เพล้ง !!! แพล้ง !!!!
“โอ๊ยยยย ฮยองล้างเบา ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง ผมหนวกหูจะแย่อยู่แล้วนะ ”
ผมหันหน้าไปตวาดใส่คนที่กำลังยืนล้างจานอยู่ข้าง ๆ อย่างหมดความอดทน ผมต้องขอบคุณฮยองนะครับที่คอยช่วยผมทำนู่นทำนี่มาโดยตลอด แต่ถ้าวันนี้ ฮยองจะทำหน้าเหมือนเต็มใจขนาดนี้หล่ะก็ ผมว่าฮยองไปนั่งทำหน้าหล่ออยู่บนโฟซาจะดีกว่านะครับ
“ ทำไม รำคาญฉันเหรอ ”
ไม่หรอกมั้งครับ !
“ เปล่า ผมแค่หนวกหู ”
“นี่นายบอกว่าหนวกหูฉันงั้นเหรอ !”
ทำไมชอบถาม คำถามปัญญาอ่อนอย่างนี้จังวะ
“ครับ ผมหนวกหูฮยอง ฮยองล้างจานเสียงดัง ทำเหมือนไม่เต็มใจทำ ผมไม่ชอบ ผมรำคาญ ฮยองพอใจยัง ?”
ผมหันไปตวาดใส่ด้านข้างอย่างหมดความอดทน ก่อนจะหันมาก้มหน้า ก้มตาล้างจานต่อ คริสฮยองถอนหายใจออกมาเบา ๆ
ก่อนจะยกมือขึ้นมาเท้าเอว แล้วยืนจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น กวนประสาทชะมัด ไม่มีอะไรทำหรือไงวะ
“พรุ่งนี้ฉันจะไปจีนแล้ว นี่นายไม่เสียใจจริง ๆ หรอ ?”
คำถามนี้ตลอด จะให้ผมตอบว่ายังไงถึงจะพอใจ ฮยองบอกมาเลยดีกว่า
“จริงครับ ผมไม่เคยเสียใจเลย”
“แล้ว คิดถึงหล่ะ นายจะไม่คิดถึงฉันบ้างเลยเหรอ ?”
“ฮ่า ๆ ๆ คิดถึงเหรอ ? อันนี้ยิ่งไม่จำเป็นอะครับ ”
ผมหันไปหัวเราะใส่คนด้านข้าง สองสามที ก่อนจะหันกลับมาล้างจานต่อ จะบ้าหรือไง ทำไมผมต้องคิดถึงฮยองด้วยอะ
สงสัยคงจะร้อนจัดแล้วเริ่มเพ้อ ไปอาบน้ำปะฮยอง O.-
“งั้นเหรอ แต่ทำไมฉันถึงคิดว่า นายต้องคิดถึงฉันหล่ะ อย่าโกหกตัวเองไปเลยหน่า ยังไงนายต้องคิดถึงฉันอยู่แล้วแหละ จริงไหม ”
ฮยองพูดอย่างยิ้ม ๆ ก่อนจะเอนตัวมาเบียดผม ผมรีบขยับหนี ก่อนจะจ้องหน้าฮยองอย่างเอาเรื่อง
“ ไม่มีทางซะหรอก อย่างไงผมไม่มีทางคิดถึงฮยองแน่ ๆ ”
“อืม พูดแล้วทำให้ได้ด้วยหล่ะ โตแล้ว จะมากลืนน้ำลายด้วยเองหน่ะมันไม่ดีนะ ”
ฮยองหันมาทิ้งท้ายให้ผมก่อนจะเดินออกไปจากห้องครัวทันที ผมถอนหายใจออกมาแรง ๆ ให้กับความมั่นใจที่มีอยู่เต็มจนล้นของ ลีดเดอร์ฝั่ง M
คนอย่างผมหน่ะเหรอจะคิดถึงฮยอง ขอโทษนะครับ ไม่ว่าผมจะคิดในแง่ไหนมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้จริง ๆ !
“ชานยอล !!!!! ไอ้เด็กบ้า นี่พวกเราไปสนามบินจนกลับมาแล้วนายยังไม่ตื่นอีกเหรอ !!!! ”
เสียงแหลมเล็กที่อยู่ดี ๆ ดังโผล่งขึ้นมา ทำเอาผมต้องสะดุ้งขึ้นมาจากเตียงอย่างอดไม่ได้ นี่มันกี่โมงเองเนี่ย ทำไมฮยองต้องโวยวายด้วยเล่า
ไม่เห็นเหมือนคริสฮยองเลย คริสฮยองปลุกผมได้นุ่มนวลกว่านี้เป็นไหน ๆ อุ๊บ ! นี่ผมคิดอะไรออกไปเนี่ย ไม่ใช่และ คัท คัท คัท
“ ชานยอล นี่นายจะนั่งอึ้งอยู่อีกนานไหม รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วปะ เดี๋ยวเราจะออกไปข้างนอกกัน”
“ ไปข้างนอก ? ฮยองจะไปไหนหรอครับ ”
“ไปเดินเที่ยวแถวนี้แหละ นายจะไปหรือไม่ไปก็ได้นะ ฉันไม่ได้บังคับ ”
“งั้นผมไม่ไปนะครับ ผมอยู่กับ เอ๊ย! อยู่คนเดียวได้ พวกฮยองไปกันเถอะ”
“อืม ๆ งั้นก็อยู่บ้านดี ๆ หล่ะ ”
“ ครับ ”
แล้วฮยองก็เดินออกไปทันทีที่ผมพูดจบ ผมลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะพยายามเรียกสติให้กลับคืนมาให้เร็วที่สุด
มันคือแค่ความเคยชินหน่าชานยอล อีกไม่นานนายก็ปรับตัวได้เองนั่นแหละ ท่องเอาไว้สิ อีกไม่นาน อีกไม่นานเท่านั้น !
“ชานยอล ทำไมนายถึงจานที่นายล้างมันถึงมีฟองติดเต็มขนาดนี้หล่ะฮ๊ะ” > แบคฮยอน
“ฮยอง ผมอยากกินไข่เจียวนะ ไม่ใช่ไข่ดาว” > ดีโอ
“ฮยอง ทำไมไปเสียบปลั๊กหมอข้าวหล่ะครับ แล้วอย่างนี้เมื่อไรเราจะได้กินข้าวกันหล่ะ” >เซฮุน
“ชานยอล นายถูบ้านทั้งที่ยังไม่ได้กวาดบ้านได้อย่างไงเนี่ย ฮ๊ะ”> ซูโฮฮยอง
“ฮยอง ทำไมผ้าถึงไม่สะอาดเลยอ่ะ นี่ฮยองลืมใส่ผงซักฟอกลงไปในเครื่องซักผ้างั้นเหรอ ?”> จงอิน
“เออ ๆ ฉันขอโทษ ๆ เดี๋ยวฉันจะรีบจัดการให้เดี๋ยวนี้แหละ”
ผมรีบพูดก่อนจะเดินดิ่งเข้าไปในครัวทันที ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ ให้กับความบ้าบอของตัวเอง นี่ผมทำอะไรลงไป ผมกำลังจะแสดงออกงั้นเหรอว่าผม
กำลังคิดถึงคริสฮยองมากแค่ไหน ไม่หรอกหน่า มันก็แค่ความเคยชินเท่านั้นแหละ เพราะปรกติ เวลาที่เราสองคนล้างจานด้วยกัน ผมจะเป็นคนล้างน้ำยาแล้ว
ฮยองจะเป็นคนล้างน้ำเปล่า เวลาทอดไข่ฮยองก็จะเป็นคนเจียวแล้วผมก็มีหน้าแค่เทมันลงกระทะ เวลาหุงข้าวฮยองก็จะเป็นเสียบปลั๊ค เวลาผมจะถูบ้าน
ฮยองก็ต้องเป็นคนกวาดก่อนเสมอ หรือแม้กระทั่งเวลาซักผ้าฮยองก็เป็นเทผงซักฟอกลงไปเอง เฮ้อออ ผมคิดถึงเขาจัง เมื่อไหร่เขาจะกลับมาซักทีนะ
เพล้ง !!!!!!!!
“เฮ้ย !”
“ชานยอล !”
“ผะ ผมขอโทษครับ ผมจะรีบเก็บเดี๋ยวนี้แหละครับ ”
ผมรีบหันไปขอโทษซูโฮฮยองที่ยืนหน้าตื่นอยู่หน้าประตูห้องครัว ก่อนจะก้มลงเก็บเศษจานที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นทันที
“พอ ๆ ชานยอล นายไม่ต้องเก็บหรอก เดี๋ยวฉันจะให้พวกเด็ก ๆ เข้ามาเก็บเอง นายไปพักผ่อนเหอะ ช่วงนี้นายดูเหมือนไม่ค่อยสบายนะ ”
ซูโฮ ฮยองพูดกับผมก่อนจะหันไปเรียกพวกข้างนอกเข้ามาในครัว ก่อนจะเอ่ยไล่ผมอีกที ผมรีบลุกขึ้นก่อนจะเดินดิ่งเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลงผมก็ค่อย ๆ ถอนหายใจออกมาเบา ๆ พร้อมกับความสับสนที่ตีกันอยู่ในหัวของผมจนวุ่นวายไปหมด
นี่ผมกำลังเป็นอะไรไป ใครก็ได้ช่วยบอกผมที
1 อาทิตย์ผ่านไป
“ ชานยอล ”
“ครับ”
“พวกฉันจะออกไปข้างนอกกันนะ นายมีอะไรก็เรียกหาเซฮุนได้เลยนะ ฉันให้มันอยู่เป็นเพื่อนนายหน่ะ อยู่บ้านดี ๆ หล่ะ
งานบ้านฉันให้พวกเด็ก ๆ ทำให้หมดแล้ว นายก็นอนพักผ่อนเยอะ ๆ แล้วกัน จะได้หายเร็ว ๆ ”
“ ครับ ”
ผมเอ่ยรับปากซูโฮฮยอง ก่อนแอบลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ทันทีที่ฮยองเดินออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว ให้ตายเหอะ ตอนนี้ผมกำลังกลายเป็นคน
ป่วยในสายตาพวกเขาไปแล้วงั้นเหรอ ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกเขาจะหยิบยื่นโรคอะไรให้ผมเป็นแต่ผมขอบอกไว้เลยว่าผมสบายดี
แต่ช่วงนี้มันเป็นแค่ช่วงที่ผมพยายามปรับตัวเท่านั้นเองนั่นแหละ ผมไม่ได้เป็นอะไร ผมไม่ได้เป็นอะไรเลยซักนิด U.U
กริ๊งงงงงง กริ๊งงงง กริ๊งงงง
ผมรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ทันทีที่เรียกเข้าดังขึ้น คริสฮยอง!! นี่มันเบอร์คริสฮยองนี่หน่า
คริสฮยองโทรมาหาผมงั้นเหรอ ไม่อะ ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ !!!
“ฮะ ฮัลโหล ”
ผมรีบกดรับ ก่อนจะทำเป็นกรอกเสียงเข้ม ๆ ลงไป ทำไมคริสฮยองถึงเงียบอ่ะ ? หรือคริสฮยองจะโทรผิด เขาไม่ได้ตั้งใจจะโทรหาผมงั้นเหรอ U.U
“ฮัลโหล นี่พี่ลูหานเองนะ พอดีแบตพี่หมดอ่า ก็เลยใช้โทรศัพท์คริสโทร นี่ชานยอลช่วยเอาโทรศัพท์ไปให้เซฮุนหน่อยสิ
พี่โทรไปเครื่องเขาไม่ติดอ่า พี่จะคุยกับเขาหน่อย”
“ คะ ครับ ซักครู่นะครับ ”
ผมละโทรศัพท์ออกมากหูช้า ๆ ก่อนจะเผลอถอนหายใจออกมาเบา ๆ คริสฮยองจะโทรหาผมงั้นเหรอ นี่ผมกำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย อายตัวเองชะมัด U.U
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เซฮุน ตื่นหรือยัง ฉันเข้าไปได้ไหม ?”
“เชิญเลยครับ ประตูไม่ได้ล็อค ”
สิ้นเสียงของคนในห้อง ผมก็จัดการเปิดประตูเข้าไปทันที หน้าคอมตลอด ผมเข้าห้องมันทีไรไม่เคยจะเห็นมันจะสถิตอยู่ไหนเลยนอกจากหน้าคอมเนี่ย นี่ถ้า
ผมเดาไม่ผิดมันคงกำลังจะเปิดดูคลิปรายการย้อนหลังของพวก M อีกแล้วสินะ ไอ้เด็กนี่มันบ้าจริงอะไรจริง ๆ นั่งดูไปยิ้มไปอย่างนั้น มันดูเหมือนพวกโรคจิต
เลยวะ เซฮุน >.,<
“อะนี่โทรศัพท์ พี่ลูฮานจะคุยด้วยอ่ะ เฮ้ย ! เบา ๆ หน่อยสิ เดี๋ยวโทรศัพท์ฉันก็พังหมดพอดี”
ผมรีบตวาดใส่คนที่อยู่ ๆ ก็ตระครุบโทรศัพท์ที่อยู่บนมือของผมไปแนบหูอย่าไร้มารยาท ผมแยกเขี้ยวใส่มันอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะที่สายตาเจ้ากรรมดันปะไป
เจอคริสฮยองที่กำลังนั่งยิ้มหน้าบานอยู่ในคลิปที่ไอ้เด็กเซฮุนมันเปิดค้างไว้อยู่ มีความสุขจริง ๆ เลยเนาะ ! น่าหมั่นไส้โว๊ยย
ปั๊ง !!!
ผมกระชากประตูเข้ามาปิดอย่างแรง ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนอนแผ่หราอยู่บนเตียง ด้วยอารมณ์เดือด ๆ ยังคิด ยิ่งแค้น ยิ่งคิด ยิ่งโกรธ
ผมขอยอมรับเลยว่าผมเกลียดหน้าคริสฮยองตอนยิ้มมาก ๆ !!!
กริ๊งงงงง งงงงงงงง งงงงง
“ ฮัลโหล ”
ผมรีบหยิบโทรศัพท์บ้านขึ้นมารับก่อนจะกรอกเสียง เซ็ง ๆ ลงไป นี่ถ้าผมเดาไม่ผิด ซูโฮฮยอง คงจะโทรมาบอกว่าลืมกระเป๋าตังค์แล้วก็ให้ผมเอาไปให้อีก
แล้วหล่ะสิ ฮยองนี่ตลอดอ่ะ ยังไม่ทันแก่เลย ขี้ลืมตลอด U.U
“ เป็นอะไรอะ ชานยอลน้ำเสียงดูไม่ค่อยดีเลย ”
“คะ คริสฮยอง”
“อื้มใช่ ฉันเอง กำลังคิดถึงฉันอยู่หรือไง ถึงทำน้ำเสียงอย่างนั้นหน่ะ ”
“ปะ เปล่าซักหน่อย ”
“ ชอบแก้ตัว ”
“ ก็ผมบอกว่าเปล่านี่ !”
“อ่า ๆ โอเค ๆ นี่ชานยอลฉันมีเกมให้นายเล่น นายอยากเล่นไหม ?”
“เกม ? เกมอะไรหรอฮยอง”
“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่นายยอมพูดความจริงออกมาว่านายคิดถึงฉันหรือเปล่า แค่นี้เอง ถ้านายพูดความจริงออกมาฉันจะปรากฏตัวให้นายเห็น
แต่ถ้านายพูดโกหกนายก็จะไม่เห็นฉัน OK ไหม”
“ ตลกอะ ฮยอง ผมไม่เล่นหรอก ”
“เหอะหน่า เล่นกับฉันหน่อยสิ บอกมาหน่อยว่านายคิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า พูดความจริงไม่เห็นมันจะยากตรงไหนเลยนี่ชานยอล ”
เสียงคริสฮยองที่ไล่ตื้อผมอู่ในโทรศัพท์ทำเอาผมเริ่มเสียความมั่นใจในตัวเองไปชั่วขณะ ถึงผมรู้ว่าเขาไม่มีทางจะปรากฏตัวให้ผมเห็นได้หรอก
แต่ผมก็อยากจะเลือก เลือกที่จะเล่นเกม ๆ นี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้คริสฮยองรู้เอาไว้ว่า ชานยอลคนนี้ได้
เปลื่ยนไปแล้ว ผมได้กลืนน้ำลายตัวเองอย่างที่ฮยองได้เคยพูดไว้เรียบร้อยแล้ว
“คริสฮยอง ผมคิดถึงฮยองนะ รีบกลับมาได้แล้วนะครับ ผมต้องคอยทำงานบ้านคนเดียวเหนื่อยจะแย่
ฮยองต้องรีบกลับมาช่วยผมนะ ฮยองต้องรีบกลับมาเร็ว ๆ นะ”
ผมค่อย ๆ กรอกเสียงเข้าไปในโทรศัพท์ช้า ๆ พร้อมกับสายตาที่จับจ้องไปที่หน้าประตูตลอดเวลา นี่ผมกำลังหวังอะไรอยู่เนี่ย น่าตลกตัวเองชะมัด
ผมรีบสะบัดความคิดแปลก ๆ ของตัวเองออกมาหัวก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น เสียงของคนปลายสายเงียบไปแล้ว
คริสฮยองต้องการจะทำอะไรกันแน่ นี่อย่าบอกนะว่าเขากำลังแกล้งผมอยู่หน่ะ !!
แกร๊ก !!!
ผมรีบหันหน้าไปทางประตูทันทีที่เสียงปิดประตูดังขึ้น ร่างของผู้มาใหม่ที่ยืนอมยิ้มอยู่หน้าประตู ทำเอาผมอดที่จะฉีกยิ้มออกมากว้าง ๆ ไม่ได้
คริสฮยองไม่ได้หลอกผม เขาพูดเรื่องจริง !
“พอดีเมื่อตะกี้ฉันได้ยินไม่ค่อยชัดหน่ะ ก็เลยอยากจะมาได้ยินจากปากนายเอง เมื่อกี้ว่าไงนะ ช่วยพูดให้ฉันฟังอีกทีได้ไหม ? ”
“ ได้สิครับ ผม....คิดถึงฮยองนะ”
จะให้ผมพูดอีกร้อยครั้งก็ได้นะ ถ้าฮยองอยากฟังมันหน่ะ
END
ความคิดเห็น