คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF] BABY SICK :: KRISYEOL :: ♨
“ชานยอล”
“ฮืมมม”
“จะกลับหรือยัง ?”
“จะ..จะกลับแล้วเหรอฮะ”
ค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นมาจากพื้นห้องเย็นพร้อมกับดวงตากลมโตที่ค่อย ๆ หรี่ขึ้นมาช้า ๆ สบัดหัวกลมเล็กของตัวเองไปมาสองสามทีก่อนจะแถมด้วยการอ้าปากหาวออกมาฟอดใหญ่ ถ้าเป็นเวลาปรกติคริสคงต้องกำลังหัวเราะ ยิ้ม หรือไม่ก็เอื้อมมือไปตีเบา ๆ ลงหัวของเจ้าขี้เซาซักทีสองที แต่ตอนนี้มันไม่ปรกติหน่ะสิ ชานยอลกำลังไม่สบาย ร่างบางไม่ต้องการให้ใครมาตบหัวหรือทำให้ใครหัวเราะตอนนี้ แค่เขาดั้นด้นฝืนทนมาซ้อมกับเพื่อน ๆ ได้เขาก็ทำร้ายตัวเองมากเกินพอแล้ว
“อื้ม ไปกันได้แล้ว”
“ตะ แต่ ผมไปเองก็ได้นี่ พี่กลับไปเถอะอย่าอยู่ใกล้ผมนักเลย เดี๋ยวก็พลอยติดกับผมไปด้วยคนหรอก”
ขืนข้อมือตัวเองออกเบา ๆ ก่อนจะใช้ดวงตาจดจ้องไปยังชายหนุ่มอีกคนที่กำลังยืนทำหน้าขึงขังอยู่ด้านบน โกรธเลย พี่คริสโกรธชานยอลเลย พี่จะได้โมโหแล้วกลับบ้านไปซะ
“ ชั่งมันสิ ดีซะอีก พี่จะเป็นหวัดเป็นเพื่อนเราไง ไม่ดีเหรอ ?”
“พี่คริส !”
“ว่าไง ดึกว่านี้มันจะหนาวกว่านี้นะ”
“……….”
“ชานยอล”
“……….”
“ชาน......”
“ก็ได้ครับ !”
“พะ พี่คริส”
“ หืม ?”
“เอ่อ ….”
“ว่า ?”
“พะ พี่เอาเสื้อกันหนาวของผมไหม ?”
“หา ~~ ?”
หยุดเสต๊ปการเดินลงทันทีที่ได้ถ้อยคำหวังดีของเด็กที่ยืนตัวสั่นพลัก ๆ คริสค่อย ๆ หันไปเหลือบมองเจ้าของดวงตากลมโตที่เงยขึ้นมามองเขาอย่างเว้าวอน
“ชานยอลจะให้พี่ ?”
“ฮ ฮะ”
“จริงเหรอ ?”
ก้มลงไปถามคนรักให้แน่ใจอีกที ชานยอลรีบสะบัดหน้าหนีก่อนจะถอยหลังร่นออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฮ ฮะ”
“ เฮ้ออ อย่าทำเป็นใจดีไปหน่อยเลย ตัวเองให้รอดก่อนดีไหม มานี่สิ ”
เอื้อมไปดึงมือบางมากุมไว้เบา ๆ ชานยอลทำท่าจะสะบัดหนีแต่ก็ไม่ทันคนตัวสูงที่จัดการยัดมือของเขาเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ชของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นคนด้านข้างเริ่มสิ้นฤทธิ์เดชคริสก็ไม่รอช้าที่ก้าวเท้าออกเดินต่อไปทันที
“ พี่ไม่กลัวเป็นหวัดหรือไง ?”
อ้อมแอ้มถามออกไปเมื่อเห็นคนรักเอาแต่เดินหน้านิ่ง ๆ โดยไม่คิดจะหันมาสนทนาอะไรกับเขาเลยซักคำ
หรือพี่คริสจะกลัวติดหวัดจากเขา ?
อืม ก็ดี พี่ทำอย่างนี้แหละถูกแล้ว U.U
“ กลัว ”
“.............”
“แต่พี่ไม่ติดหรอก”
“ทำไมหล่ะครับ ”
เงยหน้าขึ้นไปถามคนรักอย่างอยากรู้อยากเห็นทันทีที่คนนำทางหยุดฝีเท้าลง คริสถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับคนช่างซักอีกครั้ง
“แค่จับมือกันมันจะติดหวัดกันได้ยังไงหล่ะเจ้าทึ่ม”
ยกมือขึ้นเขกหัวคนป่วยเบา ๆ ชานยอลนิ่วหน้าลงทันที
“เจ็บ”
“พี่ทำเบา ๆ เองนะ ?”
“แต่ผมกำลังป่วยอยู่นะ”
“นั่นสิ พี่ลืมไปไหนดูสิ ลดไปบ้างแล้วหรือยัง”
แกล้งก้มหน้าลงไปใช้หน้าผากทาบลงกับหน้าผากของคนด้านล่าง ชานยอลรีบผงะหน้าหนีพร้อมกับใบหน้ากลมเล็กที่แดงฉาดขึ้นมาอย่างหน้ากลัว คริสแอบอมยิ้มเล็ก ๆ กับท่าทางน่ารัก ๆ นั่นก่อนจะเปลื่ยนมาตีหน้าขรึมเหมือนเช่นเดิมทันทีที่คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างหาเรื่อง
“ตัวยังร้อน ๆ อยู่นะ เอาไงดี คืนนี้ให้พี่ไปนอนเป็นเพื่อนไหม ?”
ก้าวเท้าออกไปก่อนจะเอ่ยถามคำถามออกมาเบา ๆ ชานยอลรีบกระตุกชายเสื้อโค้ชตัวหนาของร่างสูงเบา ๆ พร้อมกับหัวกลมเล็กที่ส่ายไปมาอย่างร้อนรน
“มะ ไม่ พี่ไม่ต้องไปนะ”
“ทำไม ? กลัวพี่ติดหวัดเหรอ”
เหลือบไปมองคนด้านข้างแวบนึงก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ตอนนี้ดึกมากแล้ว แล้วหิมะก็กำลังหนักขึ้นด้วย ถ้าขืนเขายังมัวแต่กับคนตัวเล็กอยู่อย่างนี้มีหวังคนรักของเขาได้อาการหนักขึ้นกว่าเดิมแน่
“กลัว แต่พี่เป็นห่วงเรามากกว่า”
“พี่คริส พี่ไม่ต้องห่วงผมหรอกนะ เดี๋ยวผมก็หายแล้ว ”
เอ่ยบอกคนตัวสูงอย่าร้อนรนทันทีที่เริ่มสังเกตุว่าการเดินทางของพวกเขามันใกล้จะถึงจุดหมายทุกที ๆ แล้ว
“ แต่ตอนนี้เรายังไม่หาย ”
“ แต่มันก็ใกล้แล้วนะฮะ ”
หยุดนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับดวงหน้ากลมเล็กที่ก้มงุดลงจนชิดอก จะให้ทำยังไง พี่อยากทรมานมากหรือไง ผมไม่อยากให้พี่ติดหวัดผม ผมไม่อยากให้พี่ต้องมาซมเหมือนที่ผมเป็นทุกวัน ผมเป็นห่วงพี่นะ พี่เคยรู้สึกถึงมันบ้างไหมหล่ะ !
“ ชานยอล ”
“ ไม่ต้องมายุ่ง ”
บอกปัดน้ำเสียงทุ้มหนักของคนที่นึกว่าเดินไปถึงหน้าอพาตร์เม้นของเขาไปแล้วด้วยซ้ำ คริสถอนหายใจออกมาหนัก ๆ พร้อมกับยกฝ่ามือเย็นเฉียบขึ้นมาจับคางคนตัวเล็กให้เงยขึ้นมาช้า ๆ
“โกรธพี่เหรอ ?”
“ ไม่รู้ ”
สะบัดหน้าหนีพร้อมกับดวงตากลมโตที่แดงก่ำขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว คริสถอนหายใจออกมาเบา ๆ อีกที ก่อนจะปล่อยเรียวคางเล็กให้เป็นอิสระอีกครั้ง
“ เราโกรธพี่เพราะพี่เป็นห่วงเราอย่างนั้นเหรอ ”
“ใช่ พี่เป็นห่วงผมแต่พี่ไม่เคยเป็นห่วงตัวเองเลย พี่คริส ถ้าพี่เกิดติดหวัดผมขึ้นมาจริง ๆ แต่ถ้าอาการของพี่มันมากกว่าผมหล่ะ ถ้าพี่เป็นหนักขนาดที่พี่อาจจะ .... ฮือ ๆ ผมคงทำใจไม่ได้ แล้วผมต้องตายตามพี่ไปแน่ ๆ ”
โผเข้าไปกอดคนตัวสูงเอาไว้แน่นพร้อมกับเสียงหวานที่ยังคงพร่ำเพ้ออกมาไม่ขนาดสาย คริสผงะไปเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ยกแขนขึ้นไปกอดตอบคนตัวเล็กเอาไว้เบา ๆ มีคนเคยบอกเขาว่าคนไม่สบายจะชอบคิดมาก แต่นี่มันไม่ใช่แล้ว ชานยอลของเขาคิดมาก ‘จนเกิน’ ไปแล้ว
“โอเค ๆ พี่ไม่ไปแล้วก็ได้”
“จะ จริงนะฮะ”
รีบผละออกมาจากอ้อมกอดแกร่งอย่างรวดเร็วพร้อมกับใบหน้ากลมสวยที่เปื้อนรอยยิ้มเล็ก ๆ อยู่ในนั้น คริสผงกหัวเป็นเชิงตอบรับเบา ๆ แต่ก่อนที่ร่างบางจะแสดงอาการดีใจจนเว่อร์กว่านี้ ร่างสูงจำเป็นต้องทำข้อตกลงเพื่อเป็นการแลกเปลื่อนความต้องการของคนรักก่อน
“แต่ ….”
“ ฮะ ”
ตั้งหน้าตั้งตารับฟังข้อตกลงอย่างตั้งใจด้วยความสุขเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมาบนอก พี่คริสตามใจ พี่คริสต้องรับรู้ว่าความรู้สึกของเขาแล้วแน่ ๆ
“เราต้องห้ามเปิดแอร์ เปิดพัดลม ห้ามอาบน้ำแต่ต้องเช็ดตัวให้สะอาด ห้ามเปิดหน้าต่างเเล้วก็ต้องห่มผ้าหนา ๆ ตอนนอนด้วย ชานยอลทำได้หรือเปล่า ?”
เอ่ยถามคนตัวเล็กที่ก้มหน้าลงงุดตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ คริสถอนหายใจออกมาเบา ๆ พร้อมกับพยายามสะกดรอยยิ้มเอาไว้เล็ก ๆ ใต้มุมปาก ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องตลกแต่เขาก็อดขำไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของคนรัก ท่าทางท้อใจ ท่าทางของคนที่เหมือนจะต้องทำอะไรที่มันหนักหนาสาหัส ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่ขอออกไปนั้นมันก็เพื่อตัวของตัวเองแท้ ๆ
“ว่าไง ? ชานยอลทำได้หรือเปล่า”
“ฮะ”
“พี่ไม่ชอบคนโกหก”
“ผะ ผมจะพยายาม”
“โอเค พยายามแล้วก็ทำให้ได้ด้วย จะได้หายเร็ว ๆ”
“ ฮะ ”
“งั้นก็เดินต่อเถอะ อีกแปบเดียวก็ถึงแล้ว”
สาวเท้านำคนตัวเล็กออกไปพร้อมกับการใช้สมองในการประมวลความคิดและคำพูดที่เขาพึ่งได้แสดงมันออกไปหยก ๆ
จะปล่อยให้ชานยอลอยู่คนเดียวงั้นเหรอ ? นายก็รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นมันไม่ซื่อสัตย์
แล้ว …. นายก็คงทำแบบนั้นไม่ได้แน่
แกร๊ก !!
ค่อย ๆ ใช้กุญแจสำรองสอดเข้าไปในรูกุญแจก่อนจะบิดมันออกให้เบาที่สุด ทันทีที่บานประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกลมเย็นที่โชยออกมาจากเครื่องปรับอากาศก็ปะทะเข้ากับใบหน้าของเขาอย่างจัง แต่…มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องตกใจอะไรในเมื่อเขาก็รู้อยู่แล้วว่าร่างบางจะต้องฝ่ากฏข้อนี้ตั้งแต่ที่เขานั่งสังเกตการณ์อยู่กลางกองหิมะแล้วเห็นเครื่องระบายอากาศของคนตัวบางมันกำลังทำงานอยู่ และนั่นหล่ะมันคือเหตุผลที่เขาก็ขึ้นมาให้เห็นกับตาว่านอกจากกฎข้อนั้นและเด็กดื้อของเขามันยังริบังอาจฝ่าฝืนกฎข้อไหนบ้างอีก
“ชานยอล !”
ร่างสูงส่งเสียงคำรามรอดไรฟันทันทีที่สังเกตเห็นคนตัวเล็กนอนคดอยู่อยู่บนเตียงโดยไม่มีผ้านวมผืนหนาที่เขาเคยได้สั่งไว้ สำรวจดูเครื่องแต่งกายมันก็ยังคงเป็นชุดเดิมตั้งแต่ตอนที่แยกกับเขาแถมหันไปมองบนลิ้นชักข้างเตียงก็ยังไม่เห็นวี่แววของกะละมังหรือผ้าขนหนูเปียก ๆ อะไรวางไว้เลย
ให้มันได้แบบนี้สิ ปาร์ค ชานยอล !
ใช้สายตาคาโทษจำเลยเอาไว้ก่อนจะรีบจ้ำอ้าวไปต้มน้ำร้อนพร้อมกับเสาะหากะละมังรวมถึงผ้าขนหนูผืนเมาะมือมาเตรียมไว้ ทันทีที่น้ำร้อนได้ที่ร่างสูงก็ไม่รอช้าที่จะผสมมันเข้ากับน้ำเย็นแล้วเดินตรงไปยังร่างของคนที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียงทันที
“ชานยอล ชานยอลตื่นก่อน เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้”
ก้มลงไปกระซิบคนตัวเล็กเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปบิดผ้าขนหนูที่แช่อยู่ในน้ำอุ่นพอให้หมาด ชานยอลหรี่ตาขึ้นมาก่อนจะรีบใช้เรี่ยวแรงอันน้อยนิดที่มีขยับหนีคนผิดสัญญาทันที คริสถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะคว้าข้อมือบางเอาไว้เบา ๆ
“พะ พี่มาทำไม”
“มาดูคนโกหก”
บอกเพียงแค่นั้นก่อนจะจัดการเช็ดตัวให้คนที่นอนตีหน้ามึนอยู่บนเตียงชานยอลพยายามขยับตัวหนีแต่เขาก็ทำได้เพียงแค่พยายามเท่านั้น ไม่เมื่อเรี่ยวแรงก็แทบไม่มีเหลือแล้วแถมยังโดนท่าทางเย็นชาของคนรักซ้ำมาขนาดนั้นอีก เป็นใครก็ไม่กล้าหือทั้งนั้นแหละ
“ผะ ผมขอโทษ”
“แล้วไง ถ้าพี่ไม่รอดูเราอยู่ข้างล่างเราก็นอนอยู่แบบนี้ทั้งคืนใช่ไหม ?”
ส่งถ้อยคำตัดพ้อออกมาเบา ๆ ทั้งที่มือหนาก็ยังคงทำหน้าของมันต่ออยู่อย่างนั้น ไม่อยากโมโห ไม่อยากใส่อารมณ์ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ชานยอลกำลังทำมันทำให้เขาไม่พอใจแค่ไหนก็ตาม
“พี่อยู่ข้างล่าง”
“ใช่ อยู่รอจับผิดคนโหกไง”
เอื้อมมือไปปลดกระดุมออกมาเสื้อเชิ้ตของคนตัวบางอย่างถือวิสาสะ ชานยอลรีบตระครุบมือของคริสเอาไว้ทันที
“พะ พี่จะทำอะไร”
“เช็ดตัวไง”
“ผะ ผมทำเองก็ได้”
“ไม่ต้องเลย ทีให้ทำก็ไม่ทำ เร็วเช็ดตัวเสร็จจะได้กินยาแล้วนอน”
พยายามขืนมืออกแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเรียวเล็กที่กดมันไว้อยู่อย่างนั้น คริสถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงไปหอมก้อนแก้มร้อน ๆ ของคนป่วยที่ก้มหน้างุดอยู่บนเตียงเบา ๆ
“ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ทำอะไรคนป่วยหรอก”
เอื้อมมืออีกข้างขึ้นไปลูบหัวคนตัวเล็กเบา ๆ ชานยอลค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองคนใจดีช้า ๆ ทั้ง ๆ ที่ยังกำมือหนาเอาไว้อย่างนั้น
“ผมไม่ได้กลัวพี่ ”
“งั้นก็ปล่อย พี่เช็ดอีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว”
“ ไม่ !”
“ทำไม ?”
“ผมไม่ได้กลัวพี่ แต่ผมกลัวตัวเอง พี่พอแค่นี้เถอะนะ ผมไม่อยาก ... ”
“ กลัวตัวเอง ? ไม่อยากอะไร ? พี่ไม่เห็นเข้าใจเลย ”
ร่างสูงหย่นคิ้วอย่างงุนงง พร้อมกับใช้สายตาจดจ้องไปยังใบหน้าสวยที่ตีหน้าซึมอยู่บนเตียง ชานยอลหันหน้าหนีพร้อมกับคำตอบที่ร่างสูงเริ่มจะเสาะหามันได้จากการกระทำแปลก ๆ ของคนรัก ชานยอลคงจะยายามยับยั้งใจตัวเองอยู่ ? ใช่ เราสองคนไม่ได้มีอะไรกันมาเกือบนึ่งอาทิตย์ได้แล้วหลังจากคนรักของเขามีไข้ มันจึงไม่แปลกที่ชานยอลจะมีความรู้สึกแบบนั้น ความรู้สึกเหมือนกับที่เขาเป็นมาตลอด
“ ไม่กลัวพี่ติดหวัดเหรอ ”
“ก็เพราะว่ากลัวไง ผมเลยบอกให้พี่พอ”
ตอบเสียงเบา ๆ พร้อมกับช้อนดวงตากลมโตช่ำน้ำขึ้นมามองคนด้านบนช้า ๆ คริสค่อย ๆ ดึงมือออกมาจากการเกาะกุมของตัวเล็ก ก่อนจะใช้สายตาจดจ้องกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
“แต่ถ้าพี่ .... ไม่กลัวหล่ะ”
จัดการประกบริมฝีปากลงไปลงบนริมฝีปากเรียวเล็กริมเลียพร้อมกับดูดดุนแรง ๆ อย่างโหยหา เพียงไม่นานร่างสูงก็จัดการส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดกลืนความร้อนระอุภายในโผลงปากของคนตัวเล็กอย่างหื่นกระหาย ชานยอลรีบยกมือขึ้นมากระตุกชายเสื้อคนรักเบา ๆ เมื่อเริ่มเรียกสติกลับมาได้บ้างแล้ว คริสค่อย ๆ ถอนจูบออกมาจากคนเล็กอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะเปลื่ยนโฟกัสไปยังพวงแก้มนุ่มของคนตัวเล็กทันที
“พะ พี่คริส หยุดก่อน พี่ไม่กลัวติดหวัดผมหรือไง”
เอ่ยท้วงคนที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับซอกคอของตัวเองเบา ๆ คริสค่อย ๆ เงยหน้ามองมองตัวเจ้าปัญหาก่อนจะขโมยจูบร่างบางไปอีกที
“ไม่กลัวหรอก”
“ทำไมหล่ะ”
“ ตอนนี้พี่คงติดเราเรียบร้อยแล้วหล่ะ ”
“หา ~~ !!”
ดวงตากลมโตเบิกโผลงขึ้นมาอย่างตกใจก่อนจะค่อย ๆ หรี่ลงช้า ๆ เมื่อคนด้านบนไม่ได้รับรู้ความรู้สึกนั้นแถมยังเอาแต่ปรนเปรอร่างกายอันร้อนระอุของเขาจนชานยอลเองต้องเผอคล้อยตามสิ่งที่ตัวเองเคยค้านมาตลอด
พี่อยากทำของพี่เองนะ
ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็อย่าโทษผมก็แล้วกัน
“ฮะ ฮัดเช้ย ! ฮะ ฮัดเช้ย !”
“พะ พี่เป็นอะไรหรือเปล่า”
รีบวิ่งออกมาจากในห้องน้ำทันทีที่ได้ยินท่วงทำนองที่ตัวเองต้องคุกคลีอยู่กับมันมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม พี่คริสของเขากำลังไอ งั้นก็แสดงว่า …..
“พี่เป็นหวัดเหรอ”
“ไม่รู้สิ พี่รู้สึกมึนหัวอย่างไงก็ไม่รู้”
ค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นมาช้า ๆ พร้อมกับกอบโกยผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมแผ่นอกเปลือบเปล่าของตัวเองเอาไว้ ชานยอลทำท่าจะเดินเข้าไปหาผู้ป่วยรายใหม่แต่กลับคนไข้ยกมือเบรคเอาไว้ซะอย่างนั้น
“ไม่ต้องเข้ามา เราพึ่งหายไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็เป็นอีกรอบหรอก”
เอ่ยห้ามคนตัวเล็กเสียงเข้ม ชานยอลถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนที่ใบหน้าที่เริ่มมีสีเลือดฝาดจะซีดลงทันที
“ผมขอโทษ”
“ขอโทษอะไร ”
“ขอโทษที่ทำให้ต้องมาไม่สบายแทนผมไง เพราะผมแท้ ๆ ถ้าเมื่อคืน .....”
“พอ ๆ รู้สึกผิดเหรอ”
“คะ ครับ ”
“งั้นเรามามีอะไรกันอีกทีไหม เราจะได้เป็นแทนพี่เหมือนที่พี่เป็นแทนเราไง”
ยื่นข้อเสนออันแสนเร้าใจ(?)ให้คนตัวบาง ก่อนที่ใบหน้ากลมเล็กจะแดงฉาดขึ้นมาแทบจะทันที รีบใช้สายตกลมโตจดจ้องไปยังคนไม่รู้สังขารก่อนแลบลิ้นให้อย่างมั่นเขี้ยว
“ไม่ มี ทาง”
“ไหนบอกรู้สึกผิดไง มานี่เลยมารับไข้เราคืนไปเร็ว ๆ ”
ทำท่าจะลุกขึ้นไปหาร่างบางแต่คนตัวเล็กกลับวิ่งไปคว้ากระเป๋าแล้วแจ้นออกไปจากห้องโดยไม่ลืมที่จะหันมาร่ำลาคนที่กำลังนั่งอมยิ้มอยู่บนเตียงกับท่าทางเป็นเด็ก ๆ นั่น
“เชิญหื่นไปคนเดียวเถอะ ยังไง ๆ ซะพี่จะไม่มีทางหายเพราะผมหรอก แบร่ ~”
แลบลิ้นให้คนตัวสูงอีกทีก่อนจะจัดการปิดประตู คริสเผลอคายอมยิ้มเล็ก ๆ ออกมาพร้อมก้มมองลงไปยังผ้าขนหนูผืนขาวสะอาดตาที่แช่อยู่ในกะละมังบนหัวเตียง เสตามองไปบนลิ้นชักข้างเตียงก็พบยาแก้ไขสองเม็ดที่วางอยู่ข้าง ๆ แก้วน้ำแก้วใหญ่ คริสเผลอคลายอมยิ้มเล็ก ๆ ออกมาอีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ ถอดตัวนอนลงบนเตียงพร้อมกับดวงตาคมเข้มที่ค่อย ๆ ปิดสนิทลงอย่างช้า
ไข้ของเขามันอาจจะไม่ได้หายไปเพราะตัวชานยอล
แต่มันจะต้องหายไปเพราะ ‘ความห่วงใย’ที่ชานยอลมีให้เขาต่างหาก
ความคิดเห็น