ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AcreDis จักรวรรดิซาตาน

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2 คัมภีร์ปกแดง ผ้าคลุมสีดำและวัตถุปริศนา(ช่วงreจ้า)

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 48


    บาเรียที่เปล่งแสงคุ้มครองเขาให้พ้นจากไฟนรกพลอยให้เขาและกองสมบัติไม่ได้รับอันตรายจากไฟแม้แต่นิดเดียว ไม่นานแสงของบาเรียก็พลันดับวูบลง เหลือไว้เพียงแสงสว่างอันเจิดจ้าจากกองสมบัติที่ยังคงทอแสงระยิบระยับอย่างสม่ำเสมอ ชายหนุ่มได้แต่กวาดตามองหาต้นเหตุของสิ่งนั้นอยู่อย่างว้าวุ่นใจ





           ชายหนุ่มก้าวยาวๆขึ้นไปบนกองสมบัติหลังจากบริเวณนั้นปลอดจากพวกชีลล์ที่เอาแต่วิ่งหนีหายลึกเข้าไปในถ้ำ การปีนขึ้นอย่างร้อนรนเพื่อหาต้นเหตุของบาเรียที่ปกป้องกองสมบัติเอาไว้นั้น   “ โอ๊ย!!! ” ทำให้เขาต้องสะดุดกับอะไรบางอย่างจนต้องล้มลง





    \" บ้าเอ๊ย!! \"  เซดอร์ฟอุทานออกมาอย่างเบื่อหน่าย โดยไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่ตัวเองหยิบขึ้นมาจากกองสมัติ คืออะไร  เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งพลางหันไปสำรวจที่บริเวณขาว่ามีส่วนใดได้รับบาดเจ็บหรือไม่ก่อนจะหันหน้ากลับไปดั่งเดิมและเริ่มไต่กองสมบัติขึ้นไปอย่างช้าๆ สายตากวาดมองไปรอบด้านอย่างระแวงภัย





    วัตถุปริศนาในมือยังคงถูกใช้ พยุงตัวไต่ขึ้นไปบนกองสมบัติตามเดิม  ในที่สุดการพยายามของเขาก็มาถึงยังจุดยอดของกองสมบัติจนได้แม้ว่าตลอดการไต่ขึ้นมา  เขาจะลื่นล้มไถลตัวหล่นลงไปถึงสามสี่ครั้ง จนเสื้อและกางเกงมีรอยฉีกขาดอยู่เต็มตัว





    \" ข้าจำได้ว่ามันเปล่งออกมาจากแถวนี้นี่  แล้วมันอยู่ไหนกันล่ะ \" เซดอร์ฟบ่นขึ้นกับตัวเอง เขากวาดตาไปรอบๆหวังจะหาสิ่งที่ผิดปกติที่ทำให้เกิดแสงให้ได้ แต่นั่นก็ทำให้เขาคิดผิดถนัด สายตาของเขาไม่อาจจะแยกแสงอันเรืองรองจากกองสมบัติกองนี้ออกได้เลย พวกมันต่างก็อวดเปล่งแสงกันจนชายหนุ่มหมดหวังอยู่ในใจก่อนจะเดินคอตกไปให้ทั่วกองสมบัติด้วยความหวังเล็กๆ





    ขณะนั้นเอง วัตถุในมือที่ชายหนุ่มถืออยู่ก็พลันเปล่งแสงขึ้นมาพร้อมกับอะไรบางอย่างที่เป็นสีดำซึ่งกองอยู่ตรงหน้า   เซดอร์ฟเดินไปหยิบวัตถุสีดำขึ้นมาด้วยควาอยากรู้อย่างระวังตัว   มันมีลักษณะเป็นเหมือนผ้าคลุมสีดำผืนใหญ่ ที่ตรงกลางด้านหลังปักด้วยด้ายสีทองเป็นรูปซาตานกำลังขี่มังกรตัวใหญ่  สิ่งของบางอย่างตกลงมาใส่เท้าของเขา





    “ อูยยย อะไรอีกละทีนี้ ” ชายหนุ่มมองลงไปที่เท้า และหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา





    “ คัมภีร์แดง ” ชื่อของหนังสือถูกเอ่ยออกมาจากปากของเซดอร์ฟ





    จู่ๆลมก็พัดขึ้นกระทบที่หน้าของเขาอย่างรุนแรง  ชายหนุ่มทำหนังสือหลุดจากมือของเขา  มันลอยขึ้นตั้งตระหง่านและกรีดหน้ากระดาษอย่างบ้าคลั่ง  ชายหนุ่มตาค้างไปชั่วขณะ   ซักพักลมที่พัดอย่างรุนแรงก็พลันดับวูบลง หนังสือตกลงบนกองสมบัติและหงายหน้ากระดาษขึ้น  มันพลิกไปหน้าที่ 487 เรื่องที่ว่าด้วย แผนที่แห่งพื้นพิภพ





             “ท่านคือผู้ถูกเลือกให้สามารถเปิดอ่านคัมภีร์แดง”





    นี่เป็นข้อความสั้นๆที่ถูกเขียนขึ้นด้วยตัวอักษรสีแดงในหน้านั้น ใต้ข้อความเป็นภาพวาดของแผนที่แสดงถึงอาณาจักรต่างๆ รวมถึงทั้ง ภูเขากรีซาส ที่ชายหนุ่มยืนอยู่ ณ ปัจจุบัน

        



    “ เจ้าพวกปัญญาอ่อนชีลล์  มีของดีๆแบบนี้ด้วยแหะ ” เซดอร์ฟพูดอย่างตื่นเต้น





    ชายหนุ่มนึกขอบคุณมังกรแดงจอมโหดที่ทำให้เขาได้มาพบกับสามสิ่งมหัศจรรย์ เขารู้สึกว่าตัวเองตัวเบาขึ้นอย่างมากมาย



      

    ฉับพลัน มีดสั้นสามเล่มก็พุ่งแหวกอากาศมาด้วยความเร็วสูง มันพุ่งเข้าตรงมาที่เขา เซดอร์ฟไหวตัวทัน เขาทิ้งหนังสือลงและก้มลงหลบมีดสั้นทั้งสามเล่ม





    “ ชีลล์ ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น





    พวกชีลล์สามตัว วิ่งขึ้นมาบนกองสมบัติเพื่อเล่นงานเขา วัตถุปริศนาลอยออกมาจากมือของเซดอร์ฟ มันพุ่งเข้ากระแทกที่หัวของชีลล์ทั้งสามตัว พวกมันพากันล้มลงอย่างพร้อมเพรียง





    ตึง! ตึง!! ตึง!!! เสียงฝีเท้ามากมายลึกเข้าไปภายในถ้ำวิ่งตรงมายังกองสมบัติ





    ---------พวกชีลล์หนีไปหมด  แล้วใครจะยังอยู่ในถ้ำได้อีก หรือว่า?? พวกมันจะย้อนกลับมา ---------- เซดอร์ฟคิดในใจ





    ชายหนุ่มเอาผ้าคลุมสีดำใส่แทนผ้าคลุมตัวเก่าที่ทิ้งไปกลางทางจากการถูกโจมตีของมังกรแดง และคว้าเอาหนังสือเล่มใหญ่ใส่ลงไปใต้ผ้าคลุมด้านหลัง เขาหยิบทองจากกองสมบัติมาพอสมควรและยัดมันลงไปใต้ผ้าคลุมอย่างรวดเร็ว





    เสียงฝีเท้าเริ่มดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  เซดอร์ฟกระโดดไต่กองสมบัติลงมา เขาก้มตัวลงหยิบวัตถุปริศนาที่ใช้จัดการกับพวกชีลล์สามตัว บนพื้นใกล้ๆกับที่พวกมันยังคงสลบกันอย่างหลับไหล  และวิ่งอย่างรวดเร็วออกมาจากถ้ำที่มืดมิด





    “ 55555+  ในที่สุดข้าก็ได้เป็นอิสระเสียที เจ้าพวกปัญญาอ่อนชีลล์  ถ้าข้าเก่งขึ้นเมื่อไรพวกเจ้าโดนถอนขนแน่  ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างมีอารมณ์





             ในแผนที่ของคัมภีร์แดง ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้เป็นที่ตั้งของ อาณาจักรแฮมเล็ต เมืองแห่งนักบวช

    เซดอร์ฟต้องเดินทางผ่าน ภูเขากาเซนทางด้านตะวันออก ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า คัมภีร์แดงบอกไว้ว่า ที่นี่เป็นที่อาศัยของพวกยักษ์แคระที่ดุร้าย พวกมันมีลักษณะที่ใหญ่กว่ามนุษย์ธรรมดาถึงสองเท่า ระยะของการเดินทางใช้เวลาเนิ่นนานหลายชั่วโมง การเลี่ยงที่จะเดินลงทางใต้เพื่อไม่ให้พวกยักษ์พบเห็นเป็นวิธีที่ดีที่สุด





      เมื่อพ้นเขตของพวกยักษ์การเดินทางจึงไม่ลำบากเท่าที่ควร ทิวทัศน์รอบตัวเริ่มจะมีแสงสว่างส่องเข้ามาถึง ต้นไม้สูงใหญ่เริ่มจะเบาบางลง บรรยากาศของบ้านเรือนเริ่มจะเข้ามาแทนที่





    -------------------ในแผนที่ไม่ได้ระบุที่แห่งนี้ไว้นิ---------------เซดอร์ฟขบคิดอยู่ภายในใจ





    ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินทางกันมาจับจ่ายซื้อของมากมายที่เมืองแห่งนี้





    “ นี่ราคาเท่าไร??? ” เซดอร์ฟถามขึ้นกับชายแก่ขายผลไม้คนหนึ่ง พลางชี้มือไปที่ผลอุสซี่ ที่กองอยู่ตรงหน้า





    “ 5  แซงค์ สำหรับผลอุสซี่ 2 ผล ”  ชายแก่ตอบขึ้นอย่างอารมณ์ดี





    “ข้าให้ท่าน เท่านี้พอหรือเปล่า? ” วัตถุสีทองถูกหยิบออกมาจากข้างใต้ผ้าคลุมสีดำ มันทอแสงระยิบระยับเมื่อต้องแสงแดด





    “ พอ...พอสิครับนายท่าน  มันมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ ” ชายแก่พูดออกมาอย่างตื่นเต้นด้วยอาการนอบน้อม





    “ ข้ามีคำถามบางอย่าง ที่อยากจะรบกวนท่าน ”





    “ ได้สิ  ข้านะเป็นผู้ที่รู้ทุกอย่างอยู่แล้ว ท่านถามมาได้เลย ” ชายแก่พูดขึ้นพลางยืดอกรับ





    “ ปกติแล้วที่ตรงนี้ ต้องเป็นอาณาจักรแฮมเล็ตของพวกนักบวช--- แต่ทำไมถึงกลายเป็นตลาดกลางเมืองแบบนี้กัน ”





    “ ดูท่า ท่านคงจะไม่ใช่คนแถวนี้จริงๆสินะ---- ใช่!! ปกติแล้วที่แห่งนี้นะ เป็นที่ตั้งของอาณาจักรแฮมเลต ที่ยิ่งใหญ่ แต่จู่ๆเมื่อสองปีที่แล้ว อาณาจักรที่ใหญ่โตก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าอาณาจักรทั้งอาณาจักรมันหายไปได้อย่างไร   ข้าเองก็ยังแปลกใจมาจนถึงทุกวันนี้  ” ชายแก่พูดขึ้นด้วยท่าทีที่ครุ่นคิดหนัก





    กลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินผ่านขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน พวกเขาแต่งกายด้วยชุดผ้าคลุมยาวสีขาวตลอดตัว ทุกคนมีรอยสักกางเขนสีดำที่ข้อมือซ้าย   คนที่ตัวใหญ่ที่สุดหรี่หางตามองมาที่ชายหนุ่มอย่างไม่เป็นมิตร





    “ นั่นไง   พวกนั้นนะเป็นพวกนักบวช  อันตรายเลยละท่าน อย่าเข้าไปข้องแวะเลยจะดีกว่า ได้ยินว่าเห็นเงียบๆแบบนั้นนะ เวลาเอาจริงก็โหดเหิ้ยมอยู่เหมือนกัน ” ชายแก่กระซิบบอกท่าทางตื่นกลัว





    “ ว่าแต่ พวกนี้จะมาอีกหรือเปล่า??  พรุ่งนี้ ” เซดอร์ฟถามขึ้น





    เขาละสายตาจากกลุ่มนักบวช  และหันมาจัดการกับลูกอุสซี่ที่เอร็ดอร่อย





    “ แน่นอน....  พวกเขาจะต้องกลับมากันอีกแน่ ” ชายแก่พูดอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม





    “ ดี!!  ข้าคิดว่า... ท่านคงจะมีที่พักที่ดีที่สุดหนึ่งคืน” เซดอร์ฟเอ่ยขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์เช่นกัน ขณะหยิบวัตถุสีทองอีกหนึ่งชิ้นที่ใหญ่กว่าเดิม ออกมาจากใต้ผ้าคลุม และโยนมันให้กับชายแก่  ที่แบมือรับอย่างแม่นยำ





    “ ตามข้ามา ”  เขาเดินนำเด็กหนุ่ม ผ่านเข้าไปในซอกแคบๆ ระหว่างตึกสองตึกที่เก่าซอมซ่อมีรอยแตกมากมายบนฝาผนังทางด้านหลังของร้าน





    “ ว่าแต่   ท่านชื่อว่าอะไรละ?? ” ชายแก่ถามขึ้น





    “ เอ่อ...เซดอร์ฟ   เรียกข้าว่าเซดอร์ฟก็แล้วกัน ”  เด็กหนุ่มลังเล ก่อนจะตอบไปตามจริง





    “ ยินดีที่ได้รู้จัก  เซดอร์ฟ  ส่วนข้า ฮูเวอร์  เอสแตรม” ชายแก่หยิบกุญแจออกมาจากภายในกระเป๋า เขาใส่มันลงไปในรูลูกบิด  





    ประตูเปิดออก เผยให้เห็นภายในที่ตกแต่งประดับประดาด้วยหินอ่อน มีกลิ่นของดอกไม้แห้งอบอวลไปทั่ว เป็นห้องที่ไม่กว้างมากซักเท่าไร พอที่คนหนึ่งคนจะนอนได้   ชายแก่พาเขาเดินเข้ามาสำรวจภายใน





    “ นี่ละ… ที่พักของท่าน ถ้าเกิดมีอะไรให้ข้าช่วย ก็ดึงเชือกที่แขวนไว้ตรงนั้น แล้วข้าจะรีบมาพบท่านทันที ”  เอสแตรมพูด มือชี้ไปที่เชือกไนล่อนสีขาวแขวนไว้ที่เพดานห้องใกล้กับเตียงนอน   แต่สิ่งที่เซดอร์ฟสนใจกับไม่ใช่สิ่งนั้น





    “ เอ่อ...เอสแตรม ภาพภาพนี้หมายถึงอะไร ” เด็กหนุ่มชี้ไปที่ภาพวาดติดผนังทางด้านขวาของห้อง





    “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!! เซดอร์ฟ ท่านนี่สายตาดีเหลือกัน  ภาพนี้เป็นภาพระหว่างซาตานกับมนุษย์  ผู้วาดคือ โอแอม อีสเทวส์  เป็นการต่อสู้กันในศึกล้างโลก เมื่อ 200ปีที่แล้ว  ซาตานตัวนี้คือใครข้าก็ไม่อาจทราบ  แต่มนุษย์นะ ใครๆก็รู้จกักันทั้งนั้น เขาคือ  คิลแลนด์  ยอดขุนพลแห่งเอเธียน ผู้เอาชนะกองทัพอันแข็งแกร่งของซาตาน ที่หุบเขามังกรดำ ” เอสแตรมเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ





    “ แล้วต่อจากนั้นละ ”





    “ ต่อจากนั้น-----ก็คือ  ไม่มีฝ่ายใดแพ้หรือชนะ แต่ยังคงดำเนินการรบกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ” ท่าทีของเอสแตรมเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน  เขามีอาการผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด





    “ อืม!!  ข้าเข้าใจ ท่านไปเถอะ ข้าอยากจะพักผ่อนซักหน่อย ” เซดอร์ฟพูดขึ้นพลางบิดขี้เกียจ





    ชายแก่ค่อยๆเดินออกจากห้องไปอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เขาเดินกลับไปยังร้านขายผลไม้ของเขาตามเดิม



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×