คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : 10.1 สาบานว่าไม่ได้หึง
เมื่ออินทิราจัดการกับคราบสบู่บนตัวเรียบร้อย จึงค่อยๆ เยี่ยมหน้าออกมาสำรวจภายในห้องนอน เธอแอบลอบถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งอกเมื่อไม่เห็นชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้องอยู่ในรัศมีสายตา จึงรีบเดินตรงไปที่ห้องแต่งตัวพร้อมกับเลือกชุดที่หยิบง่ายออกมาสวมโดยไม่ดูด้วยซ้ำว่าเป็นชุดอะไร จัดการแต่งตัวด้วยความรวดเร็วและรีบเดินออกจากห้องนอนลงไปที่โถงรับแขกทันที
ทัยวัตไม่ได้อยู่ที่ห้องโถงและคงไม่ได้อยู่ในบ้านเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขาคงจะเข้าไปในฟาร์ม ตรวจตราการทำงานของลูกน้อง คิดได้ดังนั้นนั้นเธอจึงค่อยหายใจได้โล่งอกแต่ในจังหวะที่เธอเตรียมจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในครัว กลับได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน จึงเปลี่ยนใจเดินออกไปดู
“เฮ้ย! เบาๆ สิ ขาคนนะพรรคพวก ไม่ใช่ท่อนไม้”
เสียงทิษฏิโวยวายเอ็ดอึงลั่นบ้าน
“พี่ฏิ เกิดอะไรขึ้นคะ
ขาไปโดนอะไรมาคะนั่นน่ะ”
อินทิราชะงักเท้า
ยืนมองนายตำรวจหนุ่มในชุดเครื่องแบบ ประคองร่างกำยำของทิษฏิที่อยู่ในเครื่องแบบครึ่งท่อนลงจากรถอยู่ตรงเชิงบันได
เธอกะพริบตาเบาๆ พลางมองน้องชายสามีด้วยความตกใจ ข้อเท้าข้างขวาชายหนุ่มถูกหุ้มไว้ด้วยปูนปลาสเตอร์หนาเทอะทะ
ขณะที่แขนข้างขวาโอบบ่าเพื่อนที่คอยพยุง ขณะที่ใต้รักแร้ข้างซ้ายของคนเจ็บเหน็บไว้ด้วยไม้ค้ำประคองเดิน
“รถมอเตอร์ไซค์ล้มน่ะ ไอ้หมาเวรมันดันทะลึ่งตัดหน้ากะทันหัน
นี่ยังโชคดีที่ตกลงไปในแอ่งโคลน ไม่อย่างนั้นมีสิทธิ์พิการแน่ๆ”
ทิษฎิตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“แล้วนี่ไม่มีใครอยู่บ้านเลยหรือไงฮึมัทรี
จะวานมาช่วยพยุงพี่สักหน่อย ท่าทางไอ้ต้อมมันจะประคองพี่ขึ้นบ้านคนเดียวไม่ไหวแน่”
ทิษฏิสบถอย่างหัวเสีย
“ก็ลูกพี่ตัวหนักจะตายชัก
ผมตัวนิดเดียวจะประคองคนเดียวไหวได้ยังไงล่ะ” นายตำรวจรุ่นน้องเอ่ยประชด
“เฮอะ...ตัวกูอะขนาดปกติของผู้ชายโว้ยไอ้ต้อม
มึงเสือกตัวบางเอง ถ้าแต่งหญิงละก็ มึงอะตัวเมียชัดๆ”
ทิษฏิแดกดันเพื่อนรุ่นน้องตามประสาคนสนิทสนมที่รู้นิสัยกัน
“อ้าวลูกพี่...เดี๋ยวก็ปล่อยทิ้งไว้หน้าบ้านนี่ซะหรอก
ขาไม่ดีแล้วอย่าปากเสียอีกสิครับเจ้านาย”
อินทิราอมยิ้มกับประโยคต่อล้อต่อเถียงของสองหนุ่ม
พลางนึกอยู่ในใจว่าทิษฏิกับทัยวัตช่างสมกับที่เป็นพี่น้องกันเหลือเกิน
ปากดีเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่นิดเดียว
“เดี๋ยวดิฉันช่วยประคองอีกแรงก็ได้ค่ะ
ดูเหมือนทุกคนจะเข้าไปที่ฟาร์มพร้อมกับคุณวัตกันหมด”
อินทิราตอบพร้อมกับเดินเข้าไปยืนใกล้ๆ ทิษฏิ ช่วยประคองเขาอีกแรง
“พี่วัตกลับมาแล้วเหรอ”
“ค่ะ กลับมาเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ”
อินทิราตอบเสียงเบา
รู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าเมื่อนึกถึงการพบกันของเธอกับทัยวัตเมื่อสักครู่
“บอกหรือเปล่าครับว่าหายไปไหนมาทั้งอาทิตย์
คุณเชอร์รี่โทร. ถามกับผมแทบทุกวันว่าพี่วัตไปอยู่ที่ไหน ทำไมถึงติดต่อไม่ได้
ไอ้ผมก็ไม่รู้จริงๆ กลัวพี่สาวคุณจะหาว่าปิดบัง” ทิษฏิไหวไหล่ เอ่ยราวจะบอกเล่าให้อินทิราฟังโดยไม่ได้คิดอะไร
“ไม่ได้บอกค่ะ พอดียังไม่ทันได้คุยกัน
เพราะตอนที่คุณทัยวัตกลับมาดิฉันกำลังอาบน้ำอยู่ แต่พอลงมาจากห้องก็ไม่พบกันซะแล้ว”
ประโยคบอกเล่าของทิษฏิทำให้หัวใจของอินทิราโปร่งโล่ง
เมื่อได้รู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้ไปอยู่กับอินตรามาทั้งอาทิตย์อย่างที่เธอกังวล
“หายไปเป็นอาทิตย์นี่คงรีบเข้าไปจัดการงานที่ฟาร์มนั่นแหละ
พี่วัตไม่อยู่ก็ดีเหมือนกัน พี่จะได้ไหว้วานมัทรีถนัดๆ ไม่ต้องกลัวจะโดนพี่วัตจวกโทษฐานที่ใช้งานพี่สะใภ้”
ทิษฏิเอ่ยพลางเดินเขย่ง โดยมีเพื่อนกับอินทิราช่วยประคองเข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเล
“ผมกลับไปทำงานก่อนนะพี่ฏิ ในเมื่อพี่มีพี่สะใภ้คนสวยคอยดูแลแล้วทั้งคนผมก็หมดห่วง
กลับไปทำงานต่อเลยดีกว่า” นายตำรวจรุ่นน้องเอ่ยหลังประคองเพื่อนรุ่นพี่มาส่งถึงโซฟากลางห้องโถงเป็นที่เรียบร้อย
“เออ ไปเถอะ
ขอบใจแกมากที่อุตส่าห์แบกฉันมาส่งจนถึงบ้าน” ทิษฏิเอ่ยพลางโบกมือเบาๆ
กับหนุ่มรุ่นน้อง
“ไม่เป็นไรพี่
แค่ได้มาเห็นหน้าพี่สะใภ้คนสวยของพี่ก็ถือว่าคุ้มค่าแบกพี่มาส่งแล้วละ”
หนุ่มรุ่นน้องหันไปส่งตาหวานใส่อินทิราอย่างคนขี้เล่น มากกว่าจะคิดเป็นจริงจังอะไร
เรียกเสียงด่าขรมจากนายตำรวจรุ่นพี่
“ไอ้เวร! มึงรีบไปเลยไป เดี๋ยวพี่ชายกูมาเห็นเป็นได้โดนไล่กระทืบหรอกมึง”
ทิษฏิสั่นศีรษะเบาๆ เอ่ยไล่เพื่อนรุ่นน้องที่ทำหน้าทะเล้นใส่อินทิรา
“ผมไปนะครับคุณมัทรี ถ้ามีโอกาสคงได้พบกันใหม่นะครับ”
นายตำรวจหน้าเป็นเอ่ยอย่างคนมีไมตรี มากกว่าจะตั้งใจจีบหญิงสาวเป็นจริงเป็นจัง
“ค่ะ ถ้ามีโอกาสคงได้พบกัน”
อินทิราเปิดยิ้มขันพลางเอ่ยทวนประโยคเดิมของอีกฝ่ายกลั้วเสียงหัวเราะ
“ครับ...”
นายตำรวจหน้าทะเล้นเปิดยิ้มพลางหันไปโบกมือให้หนุ่มรุ่นพี่อีกครั้งพร้อมกับเอ่ยลา
“ผมไปแล้วนะพี่”
“เออ...รีบไปเลยมึง”
ทิษฏิโบกมือตอบพลางเอ่ยไล่ด้วยน้ำเสียงระอาเล็กน้อย
“หมอให้ยามาทานหรือเปล่าคะ
แล้วทานอะไรรองท้องมาบ้างหรือยัง”
อินทิราเอ่ยถามน้องสามีด้วยน้ำเสียงแสดงความเป็นห่วง
“ยังเลย ไม่ได้กินทั้งข้าวทั้งยานั่นแหละ
คนงานในบ้านเรามันหายไปไหนกันหมดนะมัทรี จนไอ้ต้องกับมัทต้องแบกพี่เข้ามาถึงห้องโถงยังไม่มีใครโผล่มาให้ใช้สักคน”
ทิษฏิเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยระคนหงุดหงิด
“ไม่ทราบสิคะ
บางทีคุณวัตอาจจะใช้ไปทำอะไรก็ได้มังคะ ตั้งแต่ลงมา ดิฉันก็ยังไม่เห็นใครเลยสักคน
พี่ฏิจะรับประทานอะไรดีคะ เดี๋ยวดิฉันไปหามาให้ จะได้รับประทานยา” อินทิราเอ่ย
“แทนตัวเองว่ามัทกับพี่เหมือนที่พูดกับลิซ่าก็ได้
ใช้คำว่า ‘ดิฉัน’ มันฟังห่างเหินจัง ไม่เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันเลย”
“ค่ะ
แล้วพี่ฏิจะรับประทานอะไรรองท้องดีคะ เดี๋ยวมัทไปทำมาให้” เธอทำตามอย่างว่าง่าย
“อะไรก็ได้
มัทไปดูในครัวทีเถอะว่ามีอะไรที่ทำง่ายๆ ก็ทำมาให้พี่กินที กินเสร็จจะได้กินยา
ปวดขาจะแย่อยู่แล้ว” ทิษฏิบ่นด้วยความหงุดหงิดตนเอง
“ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่นะคะ
เดี๋ยวมัทจัดการให้ค่ะ”
ความคิดเห็น