ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใต้อาณัติหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #36 : 9.4 กับดักหัวใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.74K
      6
      20 ส.ค. 64

    Thumbnail Seller Link
    วิวาห์วุ่นลุ้นรักพยศ
    เตชิตา
    www.mebmarket.com
    ข่าวฉาวบนหน้าหนังสือพิมพ์ทำให้เขากับเธอต้องแต่งงานกัน แต่การแต่งงานครั้งนี้เป็นไปได้ยากนักเมื่อเจ้าสาวช่ายพยศจนเจ้าบ่าวต้องหาวิธีปราบเธอให้อยู่หมัด เพ...
    Get it now
    Thumbnail Seller Link
    ใต้อาณัติหัวใจ
    เตชิตา
    www.mebmarket.com
    ความรักทำให้อินทิรายอมทำทุกอย่างเพื่อขจัดความขัดแย้งระหว่างนรากรและบริรักษ์สกุลแต่คนหัวใจด้านชาอย่างทัยวัตไม่เพียงแต่ปฏิเสธ เขายังเหยียบย่ำหัวใจของเธอ...
    Get it now
    Thumbnail Seller Link
    เจ้าสาวหัวใจบานฉ่ำ My Beautiful Girl
    เตชิตา
    www.mebmarket.com
    เมื่อทิษฏิคือฟางเส้นสุดท้ายในชีวิตของพิม เด็กสาววัย 17 จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจึงต้องกระโจนไปตามแผนของเพื่อนๆ ที่ต้องการช่วยเธอให้รอดพ้นจากกรงตัณหาของ...
    Get it now

    กว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่อินทิราได้ครอบครองห้องนอนของทัยวัตตามลำพัง หญิงสาวลุกจากเตียงขนาดใหญ่ที่เคยเป็นที่นอนของทัยวัต หยิบเสื้อคลุมแพรสีขาวสะอาดสวมทับชุดนอน เดินไปยืนเกาะขอบหน้าต่างพลางทอดสายตามองบรรยากาศท้องทุ่งเขียวขจีด้วยสายตาหม่นเศร้า ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอาศัยชายคานรากร เธอไม่เคยนอนหลับได้สนิทเลยแม้แต่คืนเดียว สายตาแสดงความชิงชังกับปฏิกิริยาของคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ บางทีก็เผลอคิดน้อยใจว่าเขาหนีหน้า แต่พอคิดอีกทีก็รู้สึกดีใจที่ไม่ต้องทนปั้นหน้าใส่กันให้ระคายใจ ยิ่งหากต้องนอนห้องเดียวกันตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาร่วมชายคา เธอคงทนสายตาหยามหยันของเขาไม่ได้เป็นแน่


                ไม่มีใครทราบว่าทัยวัตหายไปไหน แต่พี่น้องของเขาคาดเดาว่าคงไปอาศัยอยู่ในห้องพักของทิพย์ลดาที่กรุงเทพฯ หรือไม่ก็คงเตร็ดเตร่อยู่ในโรงแรมที่ไหนสักแห่งในเมืองหลวง อาจจะอยู่ใกล้ๆ กับอินตราก็เป็นได้ อินทิราถอนหายใจระบายความหนักหน่วงในอก พยายามสลัดภาพใบหน้าเยาะหยันของพี่สาวต่างมารดาออกจากหัว พร้อมกับหมุนตัวเดินตรงไปหยิบโทรศัพท์สมาร์ตโฟนติดมือหายเข้าไปในห้องอาบน้ำ กับอารมณ์หม่นๆ ในใจ


                เสื้อคลุมตัวยาวถูกแขวนพาดไว้บนราวสแตนเลส ชุดนอนเนื้อนุ่มถูกดึงผ่านออกจากศีรษะ เปิดเผยเรือนร่างสมส่วนงดงามที่สะท้อนผ่านกระจกเงาเบื้องหน้า อินทิราสำรวจเรือนร่างงดงามของตนด้วยสายตาเศร้าหมอง จะมีภรรยาคนไหนรู้สึกสะอิดสะเอียนตัวเองเหมือนเช่นเธอบ้างหรือไม่ ในโลกบูดเบี้ยวใบนี้จะมีผู้หญิงคนไหนที่ไม่เป็นที่ต้องการของสามีเช่นเธอบ้างหรือไม่นะ


                หญิงสาวถอนหายใจ วางโทรศัพท์ไว้เหนืออ่างอาบน้ำ เปิดเพลงรักทำนองเศร้าฟังเบาๆ ก่อนจะหยิบเกล็ดสบู่เทลงในอ่างน้ำที่เธอรองไว้จนเต็ม ตีฟองจนฟูและเยื้องกายลงไปนอนแช่เพื่อผ่อนคลายความเครียดในใจสมองยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ ที่สลัดไม่หลุด หูฟังถูกเชื่อมต่อเข้ากับโทรศัพท์เสียบไว้ในรูหู เปลือกตาพริ้มหลับลงพร้อมลมหายใจถูกระบายเบาๆ ก่อนจะเคลื่อนกายนอนยาวเหยียดไปตามความยาวของอ่างจากุชชีใบโต


                เสียงเพลงจากสมาร์ตโฟนที่ดังผ่านสายยาวของหูฟัง กับเปลือกตาที่พริ้มหลับลง ทำให้โสตการรับรู้ของอินทิราถูกปิดกั้นจากสรรพสิ่งรอบกาย ค่าที่คิดว่าอยู่ตามลำพัง ประกอบกับประตูห้องนอนยังคงติดล็อก เมื่อเธอเป็นคนลงกลอนเองกับมือตั้งแต่ค่ำคืนที่ผ่านมา อินทิราจึงชะล่าใจเผลอเรอไม่ได้ลงล็อกกลอนประตูห้องอาบน้ำ ทำให้เจ้าของห้องซึ่งมีกุญแจห้องนอนบุกรุกเข้ามาถึงห้องอาบน้ำได้โดยสะดวก


                ร่างแกร่งชะงักงันเมื่อเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาเห็นหญิงสาวนอนทอดกายอยู่ภายใต้ฟองฟูสีขาวตรงหน้า เขาทิ้งภรรยาไว้นานกว่าหนึ่งสัปดาห์จนเกือบลืมไปว่าอินทิรานั้นมีความงามเย้ายวนสะดุดตาแค่ไหน กระทั่งปุบปับได้มาเห็นหญิงสาวที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่กลางอ่างน้ำใบใหญ่ในห้องนอนของตน จึงระลึกขึ้นได้ว่าภรรยาของตนนั้นสวยน่าปรารถนาเพียงใด อินทิราทำให้เขาตาพร่า ใจสั่นขึ้นมาได้โดยที่เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย


                นัยน์ตาเป็นประกายพร่างพราวกวาดมองไล่ไปตามลาดไหล่เปลือยเปล่าที่โผล่พ้นฟองฟูสีขาว ไล่ลงไปจนถึงเนินอกสล้างที่จมหายลงไปในฟองฟูของเกล็ดสบู่ ใจหนึ่งอยากเดินเข้าไปหาและสอดตัวลงไปนอนเคียงคู่กับเธอในอ่างใบโต แต่อีกใจมันสั่งเตือนให้ระลึกไว้เสมอว่าเธอคือบุตรสาวคนโฉด น้องสาวที่อินตรารังเกียจรังงอน ความสับสนใจตีกันจนวุ่นวายทำให้ชายหนุ่มเลือกจะอำพรางความรู้สึกอลหม่านไว้ภายใต้สีหน้าบึ้งตึงกับดวงตาขุ่นขึง


                สายตาเครียดขึงที่จับจ้องมองอินทิราเขม็ง และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกตัว เปลือกตาพริ้มหลับขยับเชื่องช้าก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างตกใจเมื่อหันมาสบตาคม อินทิรารู้สึกใจหาย ใบหน้าสวยเผือดซีด ร่างกายแข็งทื่อราวท่อนไม้อยู่ชั่วเสี้ยววินาที เมื่อได้สติเธอจึงรีบหันหลังซ่อนกายจากสายตาคมดุด้วยความตกใจ


                “คุณ!!!” เธออุทานพลางซุกกายซ่อนในละอองฟองที่ส่งกลิ่นกำจายในอ่าง


                “ใครอนุญาตให้เธอลงไปแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำของฉัน ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”


    เสียงขึงเอ่ยดุขึ้นอย่างหงุดหงิด ยอมรับว่าสภาพของเธอสร้างความปั่นป่วนให้แก่หัวใจเขาไม่ใช่น้อย รสสัมผัสที่เคยได้ลิ้มลองในคราวก่อนยังระอุเดือดอยู่ในความทรงจำ อยากจะตรงเข้าไปช้อนร่างเปลือยเปล่าขึ้นจากละอองฟองสีขาวพอๆ และนึกอยากจะแทรกตัวลงไปคลุกเคล้ากับเธอกลางอ่าง


                “ถ้าหวงนักก็รีบออกไปสิ ฉันจะได้รีบขึ้นจากอ่างอาบน้ำของคุณ” อินทิราเถียงเสียงสั่น นึกโมโหอีกฝ่าย พอๆ กับโมโหตัวเองที่เลินเล่อจนลืมล็อกประตูห้องน้ำ


                เสียงแข็งของหญิงสาวสร้างความหมั่นไส้ให้ผู้เป็นเจ้าของอ่างอาบน้ำ จนนึกอยากจะแกล้งให้เธอได้อายเล่น เขาจึงจงใจทอดฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้อ่างใบโตด้วยท่วงท่าไม่ต่างจากพยัคฆ์ไล่ล่าเหยื่อ เสียงทุ้มเอ่ยหยันเบาๆ พลางแกว่งมือกวักน้ำในอ่างโดยไม่ได้สัมผัสร่างบางที่รีบขยับหนีด้วยความตกใจกลัว


                “ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งของเธอ ถ้าไม่อยากให้ฉันลากเธอขึ้นมาด้วยมือตัวเองก็รีบขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำของฉันเดี๋ยวนี้” ทัยวัตอยากจะหัวเราะให้ลั่นห้องเมื่อเห็นร่างบางสะดุ้งและยังตัวสั่นจนสังเกตได้ชัด


                “ดิฉันไม่ได้สั่ง แต่คุณจะบังคับให้ดิฉันขึ้นจากอ่างน้ำได้ยังไง ในเมื่อคุณยืนจ้องเขม็งอยู่อย่างนั้น กรุณาออกไปก่อนเถอะนะคะ ดิฉันขอร้อง” เสียงสั่นเอ่ยวิงวอนด้วยความหวั่นไหว


                “อ้อ...เปลี่ยนจากคำสั่งเป็นคำขอร้อง ค่อยฟังรื่นหูหน่อยแต่เสียใจด้วย เพราะฉันไม่เคยคิดจะยอมทำตามคำขอของลูกสาวศัตรู”


                ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดต้นคอขาวขณะเอ่ยเสียงพร่า อารมณ์อยากแกล้งเริ่มผันผวนแปรปรวนเป็นอารมณ์ถวิลหา มือหยาบจึงบรรจงลากไล้ไปตามบ่ามนทำให้ร่างเพรียวสะดุ้งสุดตัว


                “คุณทัยวัต! รังเกียจดิฉันนักก็อย่ามาแตะต้องตัวดิฉันสิ ออกไปให้พ้นเดี๋ยวนี้นะ” อินทิราร้องเสียงหลง จะขยับหนีก็ติดที่ขยับมาจนชิดขอบอ่างแล้ว จะลุกหนีก็ไม่ได้เพราะความเปลือยเปล่าของตนเอง


                “หึๆๆ...ใครจะรังเกียจของฟรีอย่างเธอลง หนึ่งปีกับการสูญเสียอิสรภาพ แลกกับการมีโสเภณีส่วนตัวเอาไว้ระบายความใคร่ มันก็ดูสมน้ำสมเนื้อกันดีอยู่นี่นะ”


                น้ำเสียงหยันเอ่ยเยาะหญิงสาวด้วยความรู้สึกสะใจ อินทิรากำลังทำให้เขารู้สึกคล้ายจะเป็นโรคจิต ชอบที่จะได้เห็นใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดของเธอ แววตาเจ็บปวดของหญิงสาวนำมาซึ่งความสะใจปะปนความรู้สึกหนึบๆ ในอกของทัยวัต


                “พอหรือยัง...ถ้าดูถูกฉันจนพอใจแล้วก็ขอความกรุณาเถอะนะคะ ฉันขอเวลาแต่งตัวสักครู่แล้วคุณจะเหยียบย่ำฉันด้วยคำพูดยังไงฉันก็จะทนฟังโดยไม่ตอบโต้คุณเลยแม้แต่คำเดียว” อินทิราอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า


                “จะต้องแต่งตัวไปทำไมในเมื่อเธอเลือกที่จะยุติปัญหาระหว่างครอบครัวของเราด้วยการยอมปวารณาตัวเป็นของเล่นของฉันแล้วไม่ใช่หรือไงฮึ อินทิรา” มือหนากระชับบ่าเล็กพยายามจะรั้งตัวเธอขึ้นจากอ่างอาบน้ำ


                “อย่านะคะ ถึงฉันจะเคยเป็นฝ่ายขอร้องคุณก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องยอมคุณทุกอย่าง ฉันยังไม่พร้อม กรุณาอย่าแตะต้องตัวฉัน” เธอขืนตัวพลางเอ่ยปรามเสียงแข็ง


                “ไม่พร้อมอะไร ให้เวลาอยู่คนเดียวตั้งอาทิตย์แล้วยังไม่พออีกหรือไง ไม่พร้อมวันนี้แล้วจะพร้อมเมื่อไหร่ไม่ทราบ แม่โสเภณีป้ายแดง” ทัยวัตเอ่ยเสียงหยันพลางไล้ปลายนิ้วลงบนผิวเนื้อเปลือยเปล่าเล่น


                “กรุณาอย่าเอาดิฉันไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่เป็นโสเภณีเลยค่ะ เพราะคนพวกนั้นเขายังมีศักดิ์ศรีมากกว่าดิฉัน เขาทำงานก็เพราะอยากได้เงิน แต่ผู้หญิงที่ยอมให้คุณเหยียบย่ำได้ฟรีๆ คงจะต่ำต้อยกว่าพวกเธอในสายตาของคุณ”


                “จริงสินะ...นอนกับโสเภณียังต้องเสียเงิน แต่นอนกับเธอ บาทเดียวฉันก็ไม่ต้องเสียนี่นา ไม่อยากจะเชื่อว่าของฟรีจะมีจริงในโลก” เขาเอ่ยเยาะกลั้วเสียงหัวเราะเบาๆ แม้จะไม่ได้รู้สึกขำกับประโยคดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย


                “ค่ะ ไม่ต้องเสียแม้แต่บาทเดียว ถ้าคุณไม่ได้ขยะแขยงลูกสาวศัตรูอย่างฉันจริงๆ อย่างที่คุณพยายามพูดหรือบอกกับใครๆ...ฉันพร้อมก็ได้ค่ะ” เธอพูดโดยไม่หันกลับมามองหน้าอีกฝ่ายพร้อมกับจงใจเน้นเสียงในท้ายประโยค “จะถือซะว่าทำทานให้พวกปากกับใจไม่ตรงกัน”


                “ปากดีนักนะอินทิรา แต่ที่เธอพูดมันก็ถูก เพราะเอาเข้าจริงฉันก็ขยะแขยงเธอจนไม่กล้าลงไปเกือกกลั้วด้วยจริงๆ นั่นแหละ ขนาดเธอแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ฉันยังไม่ค่อยจะรู้สึกอะไร ลองถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ ป่านนี้ฉันคงไม่นั่งมองเฉยอยู่แบบนี้แน่”


                เขาเอ่ยเสียงหยันไม่ตรงกับใจ แต่เพราะไม่อยากจะเสียหน้าจึงเอ่ยออกไปเช่นนั้น ทั้งที่ความจริงภาพเย้ายวนของเธอทำให้เขาเป็นยิ่งกว่ารู้สึกเสียอีก เขาตัดสินใจลุกขึ้นและหันหลังให้ความปั่นป่วนตรงหน้า แต่ก่อนจะยอมออกไปจากห้องอาบน้ำ ก็ไม่วายเน้นเสียงเอ่ยต่ำ ข่มขู่หญิงสาวอีกครั้ง “ฉันให้เวลาเธอแค่ห้านาที และขืนเธอยังอ้อยอิ่งอยู่ละก็ บางทีฉันอาจจะเปลี่ยนใจลองลดตัวลงไปเกือกกลั้วกับของที่ตัวเองขยะแขยงดูบ้างก็ได้”


                ปัง!!!


                เสียงประตูกระแทกปิดตามหลังทำให้อินทิราสะดุ้งสุดตัว แต่พอเอี้ยวตัวกลับไปมองและไม่เห็นดวงตาเหยียดหยามคู่นั้น เธอจึงผ่อนลมหายใจแรงพร้อมกับรีบลุกขึ้นจากอ่างน้ำเดินตรงไปกดล็อกประตู กลับมาจัดการล้างคราบสบู่ออกจากกายตนอย่างรวดเร็ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×