คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : 9.4 กับดักหัวใจ
|
|
|
กว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่อินทิราได้ครอบครองห้องนอนของทัยวัตตามลำพัง
หญิงสาวลุกจากเตียงขนาดใหญ่ที่เคยเป็นที่นอนของทัยวัต
หยิบเสื้อคลุมแพรสีขาวสะอาดสวมทับชุดนอน เดินไปยืนเกาะขอบหน้าต่างพลางทอดสายตามองบรรยากาศท้องทุ่งเขียวขจีด้วยสายตาหม่นเศร้า
ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอาศัยชายคานรากร เธอไม่เคยนอนหลับได้สนิทเลยแม้แต่คืนเดียว
สายตาแสดงความชิงชังกับปฏิกิริยาของคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ
บางทีก็เผลอคิดน้อยใจว่าเขาหนีหน้า
แต่พอคิดอีกทีก็รู้สึกดีใจที่ไม่ต้องทนปั้นหน้าใส่กันให้ระคายใจ
ยิ่งหากต้องนอนห้องเดียวกันตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาร่วมชายคา
เธอคงทนสายตาหยามหยันของเขาไม่ได้เป็นแน่
ไม่มีใครทราบว่าทัยวัตหายไปไหน
แต่พี่น้องของเขาคาดเดาว่าคงไปอาศัยอยู่ในห้องพักของทิพย์ลดาที่กรุงเทพฯ
หรือไม่ก็คงเตร็ดเตร่อยู่ในโรงแรมที่ไหนสักแห่งในเมืองหลวง อาจจะอยู่ใกล้ๆ
กับอินตราก็เป็นได้ อินทิราถอนหายใจระบายความหนักหน่วงในอก
พยายามสลัดภาพใบหน้าเยาะหยันของพี่สาวต่างมารดาออกจากหัว
พร้อมกับหมุนตัวเดินตรงไปหยิบโทรศัพท์สมาร์ตโฟนติดมือหายเข้าไปในห้องอาบน้ำ
กับอารมณ์หม่นๆ ในใจ
เสื้อคลุมตัวยาวถูกแขวนพาดไว้บนราวสแตนเลส
ชุดนอนเนื้อนุ่มถูกดึงผ่านออกจากศีรษะ
เปิดเผยเรือนร่างสมส่วนงดงามที่สะท้อนผ่านกระจกเงาเบื้องหน้า
อินทิราสำรวจเรือนร่างงดงามของตนด้วยสายตาเศร้าหมอง จะมีภรรยาคนไหนรู้สึกสะอิดสะเอียนตัวเองเหมือนเช่นเธอบ้างหรือไม่
ในโลกบูดเบี้ยวใบนี้จะมีผู้หญิงคนไหนที่ไม่เป็นที่ต้องการของสามีเช่นเธอบ้างหรือไม่นะ
หญิงสาวถอนหายใจ
วางโทรศัพท์ไว้เหนืออ่างอาบน้ำ เปิดเพลงรักทำนองเศร้าฟังเบาๆ
ก่อนจะหยิบเกล็ดสบู่เทลงในอ่างน้ำที่เธอรองไว้จนเต็ม ตีฟองจนฟูและเยื้องกายลงไปนอนแช่เพื่อผ่อนคลายความเครียดในใจ…สมองยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ ที่สลัดไม่หลุด
หูฟังถูกเชื่อมต่อเข้ากับโทรศัพท์เสียบไว้ในรูหู
เปลือกตาพริ้มหลับลงพร้อมลมหายใจถูกระบายเบาๆ
ก่อนจะเคลื่อนกายนอนยาวเหยียดไปตามความยาวของอ่างจากุชชีใบโต
เสียงเพลงจากสมาร์ตโฟนที่ดังผ่านสายยาวของหูฟัง
กับเปลือกตาที่พริ้มหลับลง
ทำให้โสตการรับรู้ของอินทิราถูกปิดกั้นจากสรรพสิ่งรอบกาย ค่าที่คิดว่าอยู่ตามลำพัง
ประกอบกับประตูห้องนอนยังคงติดล็อก
เมื่อเธอเป็นคนลงกลอนเองกับมือตั้งแต่ค่ำคืนที่ผ่านมา อินทิราจึงชะล่าใจเผลอเรอไม่ได้ลงล็อกกลอนประตูห้องอาบน้ำ
ทำให้เจ้าของห้องซึ่งมีกุญแจห้องนอนบุกรุกเข้ามาถึงห้องอาบน้ำได้โดยสะดวก
ร่างแกร่งชะงักงันเมื่อเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาเห็นหญิงสาวนอนทอดกายอยู่ภายใต้ฟองฟูสีขาวตรงหน้า
เขาทิ้งภรรยาไว้นานกว่าหนึ่งสัปดาห์จนเกือบลืมไปว่าอินทิรานั้นมีความงามเย้ายวนสะดุดตาแค่ไหน
กระทั่งปุบปับได้มาเห็นหญิงสาวที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่กลางอ่างน้ำใบใหญ่ในห้องนอนของตน
จึงระลึกขึ้นได้ว่าภรรยาของตนนั้นสวยน่าปรารถนาเพียงใด อินทิราทำให้เขาตาพร่า
ใจสั่นขึ้นมาได้โดยที่เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย
นัยน์ตาเป็นประกายพร่างพราวกวาดมองไล่ไปตามลาดไหล่เปลือยเปล่าที่โผล่พ้นฟองฟูสีขาว
ไล่ลงไปจนถึงเนินอกสล้างที่จมหายลงไปในฟองฟูของเกล็ดสบู่
ใจหนึ่งอยากเดินเข้าไปหาและสอดตัวลงไปนอนเคียงคู่กับเธอในอ่างใบโต
แต่อีกใจมันสั่งเตือนให้ระลึกไว้เสมอว่าเธอคือบุตรสาวคนโฉด น้องสาวที่อินตรารังเกียจรังงอน
ความสับสนใจตีกันจนวุ่นวายทำให้ชายหนุ่มเลือกจะอำพรางความรู้สึกอลหม่านไว้ภายใต้สีหน้าบึ้งตึงกับดวงตาขุ่นขึง
สายตาเครียดขึงที่จับจ้องมองอินทิราเขม็ง
และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกตัว
เปลือกตาพริ้มหลับขยับเชื่องช้าก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างตกใจเมื่อหันมาสบตาคม
อินทิรารู้สึกใจหาย ใบหน้าสวยเผือดซีด
ร่างกายแข็งทื่อราวท่อนไม้อยู่ชั่วเสี้ยววินาที
เมื่อได้สติเธอจึงรีบหันหลังซ่อนกายจากสายตาคมดุด้วยความตกใจ
“คุณ!!!” เธออุทานพลางซุกกายซ่อนในละอองฟองที่ส่งกลิ่นกำจายในอ่าง
“ใครอนุญาตให้เธอลงไปแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำของฉัน
ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
เสียงขึงเอ่ยดุขึ้นอย่างหงุดหงิด
ยอมรับว่าสภาพของเธอสร้างความปั่นป่วนให้แก่หัวใจเขาไม่ใช่น้อย
รสสัมผัสที่เคยได้ลิ้มลองในคราวก่อนยังระอุเดือดอยู่ในความทรงจำ
อยากจะตรงเข้าไปช้อนร่างเปลือยเปล่าขึ้นจากละอองฟองสีขาวพอๆ
และนึกอยากจะแทรกตัวลงไปคลุกเคล้ากับเธอกลางอ่าง
“ถ้าหวงนักก็รีบออกไปสิ
ฉันจะได้รีบขึ้นจากอ่างอาบน้ำของคุณ” อินทิราเถียงเสียงสั่น นึกโมโหอีกฝ่าย พอๆ
กับโมโหตัวเองที่เลินเล่อจนลืมล็อกประตูห้องน้ำ
เสียงแข็งของหญิงสาวสร้างความหมั่นไส้ให้ผู้เป็นเจ้าของอ่างอาบน้ำ
จนนึกอยากจะแกล้งให้เธอได้อายเล่น
เขาจึงจงใจทอดฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้อ่างใบโตด้วยท่วงท่าไม่ต่างจากพยัคฆ์ไล่ล่าเหยื่อ
เสียงทุ้มเอ่ยหยันเบาๆ
พลางแกว่งมือกวักน้ำในอ่างโดยไม่ได้สัมผัสร่างบางที่รีบขยับหนีด้วยความตกใจกลัว
“ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งของเธอ
ถ้าไม่อยากให้ฉันลากเธอขึ้นมาด้วยมือตัวเองก็รีบขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำของฉันเดี๋ยวนี้”
ทัยวัตอยากจะหัวเราะให้ลั่นห้องเมื่อเห็นร่างบางสะดุ้งและยังตัวสั่นจนสังเกตได้ชัด
“ดิฉันไม่ได้สั่ง
แต่คุณจะบังคับให้ดิฉันขึ้นจากอ่างน้ำได้ยังไง ในเมื่อคุณยืนจ้องเขม็งอยู่อย่างนั้น
กรุณาออกไปก่อนเถอะนะคะ ดิฉันขอร้อง” เสียงสั่นเอ่ยวิงวอนด้วยความหวั่นไหว
“อ้อ...เปลี่ยนจากคำสั่งเป็นคำขอร้อง
ค่อยฟังรื่นหูหน่อยแต่เสียใจด้วย เพราะฉันไม่เคยคิดจะยอมทำตามคำขอของลูกสาวศัตรู”
ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดต้นคอขาวขณะเอ่ยเสียงพร่า
อารมณ์อยากแกล้งเริ่มผันผวนแปรปรวนเป็นอารมณ์ถวิลหา
มือหยาบจึงบรรจงลากไล้ไปตามบ่ามนทำให้ร่างเพรียวสะดุ้งสุดตัว
“คุณทัยวัต! รังเกียจดิฉันนักก็อย่ามาแตะต้องตัวดิฉันสิ ออกไปให้พ้นเดี๋ยวนี้นะ”
อินทิราร้องเสียงหลง จะขยับหนีก็ติดที่ขยับมาจนชิดขอบอ่างแล้ว จะลุกหนีก็ไม่ได้เพราะความเปลือยเปล่าของตนเอง
“หึๆๆ...ใครจะรังเกียจของฟรีอย่างเธอลง
หนึ่งปีกับการสูญเสียอิสรภาพ แลกกับการมีโสเภณีส่วนตัวเอาไว้ระบายความใคร่
มันก็ดูสมน้ำสมเนื้อกันดีอยู่นี่นะ”
น้ำเสียงหยันเอ่ยเยาะหญิงสาวด้วยความรู้สึกสะใจ
อินทิรากำลังทำให้เขารู้สึกคล้ายจะเป็นโรคจิต
ชอบที่จะได้เห็นใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดของเธอ
แววตาเจ็บปวดของหญิงสาวนำมาซึ่งความสะใจปะปนความรู้สึกหนึบๆ ในอกของทัยวัต
“พอหรือยัง...ถ้าดูถูกฉันจนพอใจแล้วก็ขอความกรุณาเถอะนะคะ
ฉันขอเวลาแต่งตัวสักครู่แล้วคุณจะเหยียบย่ำฉันด้วยคำพูดยังไงฉันก็จะทนฟังโดยไม่ตอบโต้คุณเลยแม้แต่คำเดียว”
อินทิราอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า
“จะต้องแต่งตัวไปทำไมในเมื่อเธอเลือกที่จะยุติปัญหาระหว่างครอบครัวของเราด้วยการยอมปวารณาตัวเป็นของเล่นของฉันแล้วไม่ใช่หรือไงฮึ
อินทิรา” มือหนากระชับบ่าเล็กพยายามจะรั้งตัวเธอขึ้นจากอ่างอาบน้ำ
“อย่านะคะ
ถึงฉันจะเคยเป็นฝ่ายขอร้องคุณก็จริง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องยอมคุณทุกอย่าง ฉันยังไม่พร้อม
กรุณาอย่าแตะต้องตัวฉัน” เธอขืนตัวพลางเอ่ยปรามเสียงแข็ง
“ไม่พร้อมอะไร
ให้เวลาอยู่คนเดียวตั้งอาทิตย์แล้วยังไม่พออีกหรือไง ไม่พร้อมวันนี้แล้วจะพร้อมเมื่อไหร่ไม่ทราบ
แม่โสเภณีป้ายแดง” ทัยวัตเอ่ยเสียงหยันพลางไล้ปลายนิ้วลงบนผิวเนื้อเปลือยเปล่าเล่น
“กรุณาอย่าเอาดิฉันไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่เป็นโสเภณีเลยค่ะ
เพราะคนพวกนั้นเขายังมีศักดิ์ศรีมากกว่าดิฉัน เขาทำงานก็เพราะอยากได้เงิน
แต่ผู้หญิงที่ยอมให้คุณเหยียบย่ำได้ฟรีๆ คงจะต่ำต้อยกว่าพวกเธอในสายตาของคุณ”
“จริงสินะ...นอนกับโสเภณียังต้องเสียเงิน
แต่นอนกับเธอ บาทเดียวฉันก็ไม่ต้องเสียนี่นา
ไม่อยากจะเชื่อว่าของฟรีจะมีจริงในโลก” เขาเอ่ยเยาะกลั้วเสียงหัวเราะเบาๆ
แม้จะไม่ได้รู้สึกขำกับประโยคดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย
“ค่ะ ไม่ต้องเสียแม้แต่บาทเดียว
ถ้าคุณไม่ได้ขยะแขยงลูกสาวศัตรูอย่างฉันจริงๆ
อย่างที่คุณพยายามพูดหรือบอกกับใครๆ...ฉันพร้อมก็ได้ค่ะ”
เธอพูดโดยไม่หันกลับมามองหน้าอีกฝ่ายพร้อมกับจงใจเน้นเสียงในท้ายประโยค
“จะถือซะว่าทำทานให้พวกปากกับใจไม่ตรงกัน”
“ปากดีนักนะอินทิรา
แต่ที่เธอพูดมันก็ถูก
เพราะเอาเข้าจริงฉันก็ขยะแขยงเธอจนไม่กล้าลงไปเกือกกลั้วด้วยจริงๆ นั่นแหละ
ขนาดเธอแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ฉันยังไม่ค่อยจะรู้สึกอะไร
ลองถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ ป่านนี้ฉันคงไม่นั่งมองเฉยอยู่แบบนี้แน่”
เขาเอ่ยเสียงหยันไม่ตรงกับใจ
แต่เพราะไม่อยากจะเสียหน้าจึงเอ่ยออกไปเช่นนั้น
ทั้งที่ความจริงภาพเย้ายวนของเธอทำให้เขาเป็นยิ่งกว่ารู้สึกเสียอีก เขาตัดสินใจลุกขึ้นและหันหลังให้ความปั่นป่วนตรงหน้า
แต่ก่อนจะยอมออกไปจากห้องอาบน้ำ ก็ไม่วายเน้นเสียงเอ่ยต่ำ ข่มขู่หญิงสาวอีกครั้ง
“ฉันให้เวลาเธอแค่ห้านาที และขืนเธอยังอ้อยอิ่งอยู่ละก็
บางทีฉันอาจจะเปลี่ยนใจลองลดตัวลงไปเกือกกลั้วกับของที่ตัวเองขยะแขยงดูบ้างก็ได้”
ปัง!!!
เสียงประตูกระแทกปิดตามหลังทำให้อินทิราสะดุ้งสุดตัว
แต่พอเอี้ยวตัวกลับไปมองและไม่เห็นดวงตาเหยียดหยามคู่นั้น
เธอจึงผ่อนลมหายใจแรงพร้อมกับรีบลุกขึ้นจากอ่างน้ำเดินตรงไปกดล็อกประตู
กลับมาจัดการล้างคราบสบู่ออกจากกายตนอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น