ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มโนห์ราติดบ่วง

    ลำดับตอนที่ #23 : 5.5 แผนการ

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 67


    ลีลาการเล่ายียวนกวนอารมณ์กับรอยยิ้มเปิดกว้าง เกินความจำเป็นของพรตสร้างความขุ่นเคืองให้กับหญิงสาวที่ยืนหน้าร้อนผ่าว เธอขึงตาดุใส่พร้อมกับขยับปากขมุบขมิบไร้เสียง หน้าตาร้อนผ่าวจนต้องรีบซ่อนหน้าหนีสายตาสำรวจของสองสาว


    “ฝันหรือเรื่องจริงกันแน่ หายไปตั้งแต่เย็นกลับจนดึกล่ะสิท่า” มโนห์ราตวัดตามองค้อนใส่พี่ชาย


    “นั่นสิ มันครึ่งหลับครึ่งตื่นแฮะ” พรตยักคิ้ว


    “อะไรของแกไอ้รถ เอาเรื่องบ้าอะไรมาเล่าให้น้องสาวฟังแต่เช้าเชียว เกรงใจนรีกับพระแพงเสียบ้างสิ” รามเดินออกมาจากครัวพร้อมลักษมณ์จึงทันได้ยินน้องชายคุยกับน้องสาวพอดี


    “นั่นสิ น้องหนูก็ลืมไปค่ะ ดูสินรีหน้าแดงใหญ่แล้ว” มโนห์ราหันกลับมากวาดตามองสองสาว


    “หึๆ...คิดอะไรอยู่ฮึยายเจ๋อ หน้าแดงเสียขนาดนั้นน่ะ” พรตหัวเราะพลางเอ่ยกระเซ้าเด็กสาว


    “พี่รถบ้า เค้าเปล่าคิดเสียหน่อย”


    กินรีเงยหน้าและเผลอยกมือกุมแก้มที่ร้อนผะผ่าวของตนพลางตวาดพรตเสียงขุ่น แต่ไม่สามารถต่อสายตากับเขาได้เพราะภาพเลือนรางที่เธอเกือบจำไม่ได้เริ่มปะติดปะต่อเป็นเรื่องราวแทรกเข้ามา พร้อมกับภาพร่างแกร่งเปลือยเปล่าของเขาที่ได้เห็นเต็มตาในตอนรุ่งสางยิ่งทำให้ใบหน้าสวยปลั่งสีเลือดฝาดจนคนอื่น ๆ พากันมองเธออย่างแปลกใจ


    “เอาล่ะ ๆ เลิกแหย่น้องได้แล้ว กินข้าวกันดีกว่า” 


    รามเอ่ยตัดบทเมื่อวางหม้อข้าวต้มควันฉุยที่น้องชายคนรองปรุงลงบนโต๊ะ พระแพงจึงลงมือตักข้าวต้มใส่ชามเสิร์ฟให้ทุกคนขณะที่มโนห์รารินน้ำใส่แก้วเลยไม่มีใครเห็นสีหน้าปลั่งสีเลือดฝาดของกินรี ซึ่งรีบหลบสายตาของพรตที่ยิ้มระรื่นมองเธออย่างหยอกล้ออารมณ์ดี


    เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะกลมมุมห้องส่งเสียงดังขึ้น แม่บ้านที่ยืนอยู่ไม่ไกลรีบเดินเข้าไปรับอย่างรู้หน้าที่แล้วเดินเข้ามารายงานอย่างนอบน้อม


    “คุณลักษมณ์คะ คุณรวิสจะเรียนสายด้วยค่ะ”


    “เห็นไหมพี่รถ แค่พี่รถพูดทะลึ่งนิดเดียวพ่อโทร.มาเลย” มโนห์ราแหย่พี่ชายคนเล็กหลังจากพี่ชายคนรองเดินไปรับสายโทรศัพท์


    “สงสัยพ่อเตรียมสั่งพี่ลักษมณ์คุมเข้มแกแน่น้องหนู” พรตเอ่ยเย้าน้องตอบกลับไปขำ ๆ


    มโนห์รามุ่นคิ้ว นิ่วหน้า ชำเลืองตามองพี่ชายคนรองคุยโทรศัพท์กับบิดาพลางวิเคราะห์ความน่าจะเป็นว่ามีเรื่องเกี่ยวกับตนหรือไม่


    “ไม่น่าจะใช่นะพี่รถ ถ้าพ่อคุยเรื่องน้องหนู พ่อคงคุยกับพี่รามไม่น่าจะเป็นพี่ลักษมณ์นะ”


    “ไม่แน่นะ บางทีพ่ออาจเปลี่ยนแผนให้พี่ลักษมณ์คอยสะกดรอยเราไง เพราะขืนเป็นพี่ราม พวกเราต้องรู้ทันพ่อแน่ ๆ”


    คำพูดของพี่ชายคนเล็กทำให้มโนห์ราคิดหนัก….ขณะที่ลักษมณ์กำลังวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับฟังจากบิดา ธีรราช วงศ์สิงหล นักธุรกิจไฟแรงเจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตแอนด์สปาในเครือราชสีห์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการธุรกิจว่าเป็นนักล่าทำเลทอง สายตาและวิสัยทัศน์กว้างไกลของธีรราชทำให้ไม่เคยพลาดเมื่อคิดลงทุนเปิดกิจการใหม่ ไม่ว่าจะเป็นที่ใดมักจะประสบผลสำเร็จอย่างมากทุกโครงการและครั้งนี้ราชสีห์นักล่าสนใจทำเลบนเกาะมโนห์รา


    “เขาสนใจเกาะมโนห์ราของเราอย่างนั้นเหรอครับพ่อ” คิ้วของลักษมณ์ขมวดมุ่นขึ้นอย่างครุ่นคิด


    “ใช่ แต่ราชก็รู้ดีว่าเราไม่มีความจำเป็นต้องขายและไม่มีวันขายเกาะ    มโนห์ราแน่ พ่อว่าที่เขาจะมาหาพ่อถึงเกาะคงเพราะอยากให้เราพิจารณาเรื่องการร่วมลงทุนมากกว่า”  อสิรวิสกล่าว


    “แล้วพ่อคิดว่ายังไงครับ”


    “พ่อชอบแนวคิดของราช แต่ก็รักเกาะมโนห์ราจนไม่อยากให้มันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม”


    “ครับ ถ้าน้องหนูรู้ว่าคุณธีรราชต้องการอะไรคงเต้นแน่นอนทีเดียว” คนเป็นพี่เอ่ยพลางผ่อนลมหายใจยาวเหยียด


    “หึ ๆ...นั่นสิ” อสิรวิสหัวเราะในลำคอ


    ระหว่างที่ลักษมณ์กำลังสนทนากับอิสรวิสทางโทรศัพท์อยู่นั้น น้องชายคนเล็กของเขากำลังแอบพิจารณาอาการของเด็กสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามกันอย่างแนบเนียน ยิ้มกริ่มในหน้าขณะนึกถึงบราลูกไม้สีสะอาดราคาแพงที่ห่อหุ้มความละมุนแรกแย้มของเจ้าหล่อน ซ่อนตัวอย่างมีลูกเล่นใต้ชุดแซคผ้าคอตตอนพลิ้วบาง สีขาวที่เธอสวมนอนในค่ำคืนที่ผ่านมาอย่างเร่าร้อน อารมณ์เร้นลึกก่อกวนให้เขานึกถึงขณะที่ฉกฉวยเก็บเกี่ยวความหวานไม่ประสีประสาของเธอกลับไปฝันต่ออย่างบ้าคลั่ง


    ดวงตาสดใสที่จ้องมองเขาเต็มไปด้วยร่องรอยความสับสนอลหม่านใจ กึ่งกลัว กึ่งกล้าผสมความอยากรู้อยากลองตามประสาคนไร้ประสบการณ์ ก่อให้เกิดความปรารถนาอันรุ่มร้อนในอกของคนมอง ความรู้สึกทางเพศที่เธอไม่คุ้นเคยและไม่รู้จักวิธีควบคุมส่งผลผ่านแววตากังวลที่ซุกซ่อนความปั่นป่วนไม่มิดของกินรีเป็นความเย้ายวนที่ทำให้พรตปวดร้าวไปทั้งกึ่งกลางกาย


    ท่าทางโหยหาอาวรณ์สัมผัส ในแววตาสับสนของเธอก่อกวนอารมณ์ของพรตอย่างบ้าคลั่งจนยากแก่การควบคุม แค่เผลอคิดถึงภาพหวามขณะเอารัดเอาเปรียบหญิงสาวราวนักฉกฉวย เขาก็เคลิ้มไปกับความสุขอย่างที่ไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนใดมาก่อน


    ดวงตาเล้าโลมร่ำร้องหาเรือนร่างเธออย่างดุดัน กินรีคือผู้หญิงที่ทำให้เลือดเนื้อทุกหยาดหยดในร่างกายของเขาพลุ่งพล่านไปกับเพลิงปรารถนาไม่รู้จบ และเขารู้ดีว่า...ร่างกายของเธอก็ต้องการเขาเฉกเช่นเดียวกัน พรตสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ติดขัดของกินรีแม้เธอจะพยายามจะควบคุมมันแต่ยังทำได้ไม่ดีสักเท่าไหร่จึงไม่สามารถปกปิดสายตานักรักที่คร่ำหวอดอยู่ในเพลิงกามาอย่างพรตได้ เขาแอบเห็นประกายรุ่มร้อนที่พร่างพรายในแววตาสับสนในดวงตาคู่นั้น รู้ดีว่าเธอพยายามอย่างยิ่งแล้วที่จะกลบเกลื่อนมันแต่มันยังไม่แนบเนียนนัก


    เขามองริมฝีปากที่แตะปลายช้อนขณะจินตนการว่าตนจะเสียวซ่านแค่ไหนหากปากอิ่มนั้นแตะไล้ละเลงไปบนผิวกายเปล่าเปลือยที่แข็งกระด้างของตน พรตอมยิ้มเมื่อสังเกตเห็นฝ่ามือเล็กสั่นเทาจนเกือบทำช้อนที่ตักอาหารเข้าปากหลุดมือ รอยยิ้มวับวาวผุดพรายในดวงตาทะเล้นที่จับจ้องมองเธออย่างรู้เท่าทันความคิด


    สายตาเร่าร้อนของพรตทำเอาหัวใจดวงเล็กของกินรีสั่นคลอน เธอนั่งตัวเกร็งอยู่บนเก้าอี้ หลุบตามองต่ำปกปิดความหวั่นไหวกึ่งซ่านเสียวลง โลกสีชมพูของเธอที่เคยสงบอยู่กับความเงียบขรึมของรามกำลังถูกพรตแทรกแซงเข้ามาก่อกวนอย่างไม่ทันตั้งตัว พรตทำให้เธอรู้สึกเหมือนหัวใจถูกเขาจับเขย่า สั่นคลอนความเชื่อมั่นว่าปักใจรักรามจนพลิกคว่ำคะมำหงาย เล่นเอาเธอชักไม่แน่ใจว่าใจเจ้ากรรมดวงนี้แท้จริงรู้สึกกับรามอย่างไร มันคือความรักระหว่างชายหญิง...แน่จริงหรือไม่


    ไม่จริงความเป็นจริงที่น่าตกใจ กระแทกลึกเข้าตรงกลางหัวใจที่ร่ำร้องปฏิเสธ ดวงตากลมวาวตวัดมองสูง สบสายตาเผยความต้องการของพรตที่พุ่งดิ่งมาที่เธอ ราวต้องการหยั่งลึกเข้าให้ถึงแก่นอารมณ์เธอ ดวงตาคู่นั้นทำให้เธอรู้สึกสับสนและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่เจือความโหยหาอย่างน่าตกใจ คำตอบที่ได้จากการค้นหาทำให้เธอจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง ร่างกายเธอต้องการเขาอย่างปฏิเสธไม่ได้ แววตาเรียกร้องแสดงความปรารถนาลึกซึ้งของพรตทำเอาเธอสติแตกอย่างน่าสะพรึงกลัว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×