คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Part1 : ต้องทนอยู่กันอีก2ปี
Author : Krilay
Pairing : Kris x Lay
Genre : yaoi
Rating : NC-17
Author’s note : Part1
'อาอี้ซิง แกต้องเอาใบจดทะเบียนสมรสมาแลก ไม่งั้นอาม่าจะยกสมบัติให้คนอื่น'
เสียงของผู้เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านตอนนี้ดังก้องกังวาลไปหัว มันหลอกหลอนเขามาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ถ้าเขามีแฟนจะไม่ว่าอะไรเลยแต่ตอนนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยู่เคียงข้างเขาสักคนเดียว ไม่ใช่ว่าเขาไม่พยายามนะตั้งแต่เกิดมาเขาคบผู้หญิงมาเกือบสิบคนแล้ว อยู่ด้วยกันไม่กี่เดือนก็เลิกอาจจะเป็นเพราะนิสัยแบดบอยของเขาที่ทำให้ผู้หญิงหันหน้าหนี
"ม๊า.. ผมจะทำไงดียังหาแฟนไม่ได้เลย"อี้ซิงวิ่งโล่เข้าหาคนเป็นแม่แต่เช้าตรู่ ขึ้นมันที่แปดแล้วเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป
"ม๊าก็ช่วยเต็มที่แล้วนะลูกเพื่อนม๊าเขาบอกว่าแกมันนิสัยเหมือนผู้หญิงจนเกินไป"แม่ของอี้ซิงไม่อยู่เฉยๆ เขาก็ดิ้นรนหาคนรักที่เหมาะสมให้ลูกเหมือนกันเพราะสมบัติที่มีค่าเป็นร้อยล้านเขาจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ง่ายๆ แต่คนที่เขาจับคู่ให้แต่ละคนก็เป็นเด็กที่มีการศึกษาดี บ้านรวย แต่พวกนั้นกลับบอกว่าอี้ซิงนิสัยเหมือนผู้หญิงซึ่งฝ่ายหญิงบางคนยังทำงานบ้านเองไม่เป็นด้วยซ้ำ
"อะไร.. ผมออกจะแบดบอย หล่อ เท่ รวย หาคนที่ดีไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว"
"จ้าม๊าเข้าใจ"
"ทำไงดี"อี้ซิงนั่งจิ๊ปากแล้วคิดไปเรื่อยเปื่อย
"ม๊าคิดออกแล้ว.. เมื่อเช้าม๊าเจอโฆษณาอยู่ในหนังสือพิมพ์ มันเป็นบริษัทรับจ้างเป็นคู่รักชั่วคราวแกลองไปอ่านดู"
วันนี้คงเป็นหนึ่งในวันหลายๆวันที่ผมรักแม่ของผมมากที่สุด.. ในที่สุดอี้ซิงก็หาทางออกได้แล้วใช่ไหม ไม่ต้องขวนขวายหาทางออกอีกแล้ว
สองวันผ่านไปอี้ซิงได้โทรนัดกับเจ้าของโฆษณานั้นให้มาเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ตอนนี้เขากำลังมองหาชายหนุ่มใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวที่นัดไว้ ตอนนี้เขาเจอแล้วเสื้อเชิ้ตสีขาวคนเดียวในร้านที่นั่งหันหลังให้เขา อี้ซิงไม่แน่ใจเลยว่าจะใช่คนที่ถามหาไหมเลยลองโทรหาดู
"สวัสดีครับ"เจ้าของโทรศัพท์เอ่ยต้อนรับเป็นคำแรก
"คุณมาถึงแล้วใช่ไหม"อี้ซิงถามคำถามห้วนๆโดยไม่มีคำลงท้ายใดๆทั้งสิ้น
"ครับ.. คุณหาผมเจอไหม"
"ฉันคิดว่าฉันเจอแล้วนะ"อี้ซิงวางสายโทรศัพท์ก่อนจะเดินตรงเข้าไป เขามันใจมากเพราะดูจากการรับโทรศัพท์เมื่อกี้
"สวัสดีครับ"เป็นอู๋ฟานที่ต้องยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วโค้งเก้าสิบองศาเพื่อทักทายแขกก่อนเมื่อเขาเห็นคนมายืนตรงหน้าและกำลังจะลากเก้าอี้
"สวัสดี.. ครับ"อี้ซิงโค้งกลับตามมารยาท ทันทีที่เขายืนอย่างเต็มความสูงอีกครั้งก็พบใบหน้าอันหล่อเหล่าของหนุ่มผมทองตรงหน้าจนหัวใจแทบหยุดเต้น
ให้ตายสิ.. ผมอยากเปลี่ยนเพศตอนนี้เลย
"ผมอู๋อี้ฟานนะครับตามที่ได้บอกไว้ก่อนหน้านี้.. เรียกสั้นๆว่าอู๋ฟานก็ได้"
"อี้ซิงครับ จางอี้ซิง"
"นี่คือรายชื่อและรูปครับ"ไม่รอให้เสียเวลาเขารีบส่งแฟ้มรวบรวมข้อมูลไปให้ฝั่งตรงข้ามดูทันที
". . ."อี้ซิงไม่พูดอะไรเขาหยิบแฟ้มตรงหน้ามาวางบนขาที่นั่งไขว่ห้างไว้แล้วเปิดไล่ทีละหน้า ตอนนี้จิตใจเขาไม่ได้อยู่กับข้อมูลที่อยู่บนมือแล้ว เขากำลังล่องลอยเพ้อฝันอยากได้คนตรงหน้า
ทำยังไงถึงจะได้นายมานะ
คิดสิ.. คิด
"เฮ้อ"สุดท้ายเขาได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วปิดแฟ้มนั้นไป
"ไม่ถูกใจหรอครับ"ในแฟ้มนั้นมีผู้หญิงหน้าตาสวยๆทั้งนั้นมันก็น่าจะถูกใจลูกค้าบ้างสิ
"ก็ไม่เชิง"เสี้ยววิหนึ่งอี้ซิงเผลอไปสบตากับฝ่ายตรงข้ามเข้าเขาก็เกือบถูกสาบให้แข็งเป็นน้ำแข็งแล้วเพราะความหล่อที่ตอนนี้ยังทำให้ใจเขาเต้นรัวไม่หยุด
"ที่จริงผมมีอีกแฟ้มหนึ่งแต่ผมลืมเอามาด้วย.. เอาเป็นว่านัดพรุ่งนี้อีกครั้งได้ไหมครับ"ไหนๆก็ได้ลูกค้าแล้วเขาก็ไม่อยากจะเสียไปง่ายๆหรอกนะ
"ไม่ได้ผมรีบมาก"อี้ซิงส่ายหน้ารัว ที่จริงเขาก็ไม่ได้รีบหรอกแต่หาข้ออ้างไปงั้นแหละ"ผมจ้างคุณได้ไหม"
"หื้ม"ไม่เคยมีใครเอ่ยปากบอกอยากจ้างเขามาก่อนเลยนะ อี้ซิงเป็นคนแรกเลย และที่สำคัญเขาเป็นผู้ชายคนตรงหน้าก็ผู้ชายมันจะตลกไปใหญ่แล้ว"ค่าตัวผมแพงนะ"อู๋ฟานพูดลองใจยังไงเขาก็คงไม่ปล่อยตัวเองหรอก
"เท่าไร"อี้ซิงคิดว่าคงไม่ต่างจากพวกในแฟ้มสักเท่าไรหรอก เรทในแฟ้มค่าจ้างต่อเดือนก็แค่แปดพันหยวนถึงหนึ่งหมื่นหยวนทั้งนั้น
"สองหมื่นหยวน"เขาเพิ่มค่าตัวของตัวเองเป็นสองเท่า
"โอเคฉันจ้างนาย.. พรุ่งนี้ขอเอกสารประวัตินายทั้งหมดทำเป็นแฟ้มแบบนี้แหละ.. ทำประวัติให้มันดีๆเนียนๆหน่อยนะจบจากเมืองนอกได้ยิ่งดีอาม่าฉันชอบคนมีฐานะ"อี้ซิงลุกขึ้นเต็มความสูงและกำลังจะก้าวเท้าออกไป
"เดี๋ยวสิครับคุณ"อู๋ฟานลุกขึ้นแล้วรีบหยิบเอกสารอีกฉบับส่งให้ทันที เขาไม่คิดว่าลูกค้าจะรีบร้อนอะไรขนาดไม่ฟังเขาเลยว่าตกลงด้วยไหม แบบนี้มันเหมือนกับการมัดมือชกชัดๆแต่ลองดูสักตั้งเขาก็คงไม่เสียหายอะไรเพราะเป็นผู้ชายด้วยกัน "อะไร"
"ชื่อบัญชีธนาคารและกฎทั้งหมดครับ"
"หมดหรือยัง"
"หมดแล้วครับ กลับบ้านโดยสวัสดิภาพนะครับ"อู๋ฟานโค้งเก้าสิบองศาให้ เขามองปลายเท้าของคนตรงหน้าจนลิปสายตาไปจึงยืนตรงเหมือนเดิม
ท่าจะสนุกแล้วสิ...
พอถึงบ้านอี้ซิงวางแฟ้มนั่นลงบนโต๊ะทำงานของตัวเอง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสุดหรูสีน้ำตาลที่มีล้อเลื่อนแล้วพาดขาขึ้นไปบนโต๊ะ เขาเปิดแฟ้มแล้วหาเลขบัญชีธนาคาร
เงินจำนวนสองหมื่นหยวนที่เขาต้องจ่ายด้วยความไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไรถูกโอนผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคารไปยังบัญชีเป้าหมาย
‘โอนเงินให้แล้วนะ.. อย่าลืมเขียนประวัติดีๆ เช่น จบจากเมืองนอก ทางบ้านฐานะดี เจอกันพรุ่งนี้ที่เดิมเดี๋ยวฉันขับรถไปรับนายเอง’
เอสเอ็มเอสถูกส่งออกไป ไม่นานนักก็มีเอสเอ็มเอสตอบมาจากคนหล่อ
‘ครับ’
ถึงจะเป็นเพียงคำเดียวที่ตอบกลับมาแต่ก็ทำอี้ซิงนั่งเขินได้เมื่อนึกถึงเสียงกับท่าทางเวลาพูดคำนี้ของอู๋ฟาน..
คนอะไรโคตรหล่อเลย
9.00 A.M.
อี้ซิงล้วงมือถือออกจากกระเป๋ากางเกงเพื่อดูเวลา เขายืนทำสมาธิอยู่หน้าประตูร้านสักพักหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปหาคนที่นั่งรอเขาอยู่
วันนี้อู๋ฟานใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำ ทันทีที่เห็นร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนแล้วโค้งตัวให้เขา อี้ซิงพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้
“พร้อมแล้วหรือยัง”อี้ซิงถาม
“ผมพร้อมเสมอครับ”เป็นคำตอบที่พูดออกมาโดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น เขาเตรียมพร้อมที่จะทำงานอยู่ตลอดเวลา
รถเบ็นซ์คันหรูวิ่งเข้าไปจอดในคฤหาสน์หลังงามที่อี้ซิงอยู่ตั้งแต่เขาจำความได้ คนรับใช้รีบวิ่งกรูเข้ามายืนอยู่ข้างรถเพื่อรอเปิดประตูให้ ทันทีที่อู๋ฟานลงจากรถคนรับใช้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ต่างอ้าปากหวอตกตลึงความหล่อเหลาจนลืมไปชั่วขณะว่าเจ้านายของตัวเองคนไหน
“อาม่าอยู่ไหน”อี้ซิงเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายห้วงความคิดพวกนั้นทิ้ง
“ห้องนั่งเล่นครับ.. ท่านพร้อมแล้ว”
“อื้ม ก็ดี”
ถึงจะตกลงเป็นแฟนกันอย่างหลอกๆ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ทำให้การแสดงละครเรื่องนี้ดีและสมบทบาทเอาเสียเลย ระหว่างทางเขาเดินห่างกันเป็นเมตร พอเข้าไปในห้องก็นั่งห่างกันจนอู๋ฟานต้องเขยิบไปนั่งใกล้ๆอี้ซิงอีก
“นี่พวกแกเป็นแฟนกันจริงหรือเปล่า”คำถามแรกที่อาม่าถามทำเอาอี้ซิงแอบร้องไห้อยู่ในใจ
ทำไมอาม่าถามแบบนั้นล่ะครับ.. ฮือ
“อี้ซิงคบกับเขามาจะหกเดือนแล้วนะ”พูดคำโกหกที่ตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจ”ใช่ไหมที่รัก”ไม่วายหันหน้าไปถามอู๋ฟานที่นั่งอยู่ติดกัน มือเล็กๆเข้าไปจับมือใหญ่ของอู๋ฟานไว้แล้วกระชับมันให้แน่นขึ้นไปอีก
“ครับ”อู๋ฟานได้แต่ตามน้ำไป
“ทำไมอาม่าไม่เห็นรู้เลย”
“กลัวว่าอาม่าจะรับไม่ได้”
“วันหลังก็บอกกันก่อนสิ.. หล่อแบบนี้อาม่าให้อภัย.. แล้วเราเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เรียนจบที่ไหน”
“นี่ครับ”อู๋ฟานส่งแฟ้มหนาๆไปให้
อาม่าหยิบแว่นตาสำหรับอ่านหนังสือมาใส่แล้วอ่านเนื้อหาในแฟ้ม
“เรียนอยู่แคนาดาตั้งแต่เด็กจนโต เป็นนักบาสโรงเรียน อาม่าขี้เกียจอ่านละปวดหัว”โยนแฟ้มทิ้งไว้ข้างๆแล้วถอนแว่นออก
“แล้วเรื่องสมบัติ”
“แกได้แน่ แต่อาม่าจะขอดูอีกสองปีต่อจากนี้ ถ้าพวกแกยังเป็นคู่รักหวานแหววรักกันดีก็ได้ไป.. ถ้าเลิกกันก็อด”
“อาม่า!”อี้ซิงตะโกนด้วยความโกรธเคืองเล็กๆ เขานึกว่าเรื่องมันจะจบเร็วๆเสียอีก ที่ไหนได้อาม่าเล่นยืดเรื่องต่อก็เท่ากับว่าเขาต้องจ่ายสองหมื่นไปยี่สิบสี่เดือน.. ไม่อยากจะคิดเป็นตัวเลขเลยทีเดียว พอแยกไปอยู่สองต่อสองบนห้องนอนอี้ซิง ห้องทั้งห้องก็ถูกความเงียบปกคลุม คิ้วอี้ซิงชนกันเป็นปม
“คุณรู้ใช่ไหมว่าที่จับมือผมไปเมื่อกี้ต้องจ่ายเงินด้วย”
“ห่ะ”
“นี่คุณไม่ได้อ่านแฟ้มนั่นเลยหรอ”
“อ่านทำไมขี้เกียจ”
“กฎระบุไว้ว่าห้ามแตะเนื้อต้องตัว หากแตะไปแล้วก็ต้องจ่ายครั้งละหนึ่งร้อยหยวน”ไม่พูดเปล่า อู๋ฟานเดินไปหยิบแฟ้มที่ถูกวางแหมะไว้บนโต๊ะมาเปิดหน้านั้นให้ดูเพื่อเป็นหลักฐาน
“เออๆ เดี๋ยวค่อยจ่าย”
“ไม่ได้ครับ กฎระบุไว้ว่าต้องจ่ายทันทีที่มีโอกาส”
“เป็นแฟนกันภาษาอะไรจับโน่นนิดนี่หน่อยก็ไม่ได้”อี้ซิงเริ่มบ่น น้ำเสียงที่แสดงออกว่าเหวี่ยงได้ชัดเจนจนอู๋ฟานรู้สึกได้
“ป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศครับ”
“หน้าฉันมันเหมือนจะเข้าไปปล้ำนายทุกเวลาหรือไง”
“ยังไงก็ต้องป้องกันไว้ก่อนครับ เพราะผมก็ไม่รู้ว่าในใจคุณคิดอะไรอยู่”
“งั้นโอนเงินคืนมาเลย ฉันไม่เอานายแล้ว ต้องอยู่ไปด้วยกันสองปีเต็มๆนี่ฉันคงบ้าตายเรื่องเงิน”
“จ่ายแล้วไม่มีการขอคืน”
“แล้วกฎแตะเนื้อต้องตัวนั่นไม่มีโปรโมชั่นเหมารวมหรือยังไง”จ่ายทีละครั้งคงจะขาดทุนแน่ๆ ยังไงบุฟเฟ่ต์ก็ประหยัดกว่าอยู่แล้ว
“ขอคิดก่อนนะ.. สองพันหยวนก็แล้วกัน”
“โหย ก็ยังแพงอยู่ดี ลดให้หน่อยสิ”ทำหน้าตาอ้อนวอนสุดๆ เผื่อคนตรงหน้าจะยอมอ่อนข้อให้บ้าง
“ขาดตัวครับ”
“เออ”ถ้าไม่ติดว่าหล่อนะ ป่านนี้เขาคงชกจนหน้าแหกไปแล้ว
หลังจากนั้นสามวันอู๋ฟานก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านอี้ซิง และก็อยู่ห้องเดียวกันด้วย ไม่ว่าอู๋ฟานจะแต่งตัวอยู่ในห้องอี้ซิงก็จะนั่งเขินอยู่กับตัวเองเพราะกล้ามเป็นมัดๆ ส่วนตัวอี้ซิงเอาก็เอาแต่อาย อาบน้ำแต่งตัวในห้องน้ำเลยทีเดียว
“ที่บอกว่าเป็นนักบาสนี่จริงหรือเปล่า”จู่ๆคำพูดที่อาม่าอ่านก็แล่นเข้าสู่สมอง ทำให้เขารู้สึกสงสัย
“ทำไม หุ่นผมมันไม่น่าเป็นนักบาสขนาดนั้นเลยหรอ”
“ก็แค่อยากรู้เฉยๆ”
“หรือว่าที่นั่งจ้องผมตอนแต่งตัวทุกวันนี่ในใจคุณคิดว่าผมเป็นนักกีฬายกน้ำหนักล่ะ”อู๋ฟานรู้ทันทำให้อี้ซิงต้องเปลี่ยนเรื่องคุย
“แล้วเรื่องเรียนที่แคนาดาล่ะ อันนั้นคงเฟคชัวร์ๆ”อี้ซิงคิดเองเออเองเสร็จสรรพ อู๋ฟานไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่ทำเป็นหูทวนลมว่าไม่ได้ยิน”ไม่ตอบก็แสดงว่าเฟคจริง โด่ววว!”
บางทีเสียงที่น่ากวนประสาทอวัยวะชิ้นล่างก็ทำให้อู๋ฟานคันไม้คันมืออยากจะเคาะหัวสักที.. แต่เขาก็ได้แค่คิด
เช้าวันต่อมาเป็นวันแรกที่อู๋ฟานต้องส่งอี้ซิงไปทำงาน เขายืนโบกมือลาอี้ซิงอยู่หน้าบ้านขณะที่อี้ซิงรอคนใช้ไปเอารถมาให้
“โบกมือลาทำไม.. นายไปกับฉัน แล้วตอนฉันไปทำงานจะไปไหนก็ไป”ยืนเท้าสะเอวใส่แถมยังตีมือที่โบกไปโบกมา
“เสียงดังเอ๊ะอะโวยวายแต่เช้า”อาม่าเดินมาทางพวกเขาทั้งสองอย่างช้าๆ เพราะต้องใช้ไม้เท้าช่วยเดินทำให้ไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร
“ก็อี้ซิงสิครับบ่นอยากนอนต่อไม่ยอมไปทำงาน”อู๋ฟานยกมือขึ้นมาขยี้ผมอี้ซิงจนไม่เป็นทรงแล้วลากตัวเข้ามาแนบกันตัวเขาเอง
“เป็นแบบนี้ตั้งแต่ยันโต เฮ้อ หลานคนนี้ไม่ไหวจริงๆ”อาม่าโบกมือด้วยความละอายใจที่หลานชายตัวเองแสดงความขี้เกียจที่เป็นตั้งแต่เด็ก
“โธ่อาม่า ผมตาสว่างแล้วครับ ได้กำลังใจดีขนาดนี้”พูดไปก็ยกมือขึ้นไปบีบคางอู๋ฟานแล้วจิกฟันพูดกับประโยคสุดท้าย
“มามะ อาม่าขอกอดที”อาม่าผายมือออกเพื่อรับหลานชายเข้ามากอด
“รักอาม่าที่สุดในโลกเลย”
“คุณ”
“อะไร”อี้ซิงหันหน้าไปเสียงเรียกของคนขับ
“เดี๋ยวผมจอดรถข้างทางแล้วคุณมาขับรถนะ”
“นายก็ขับไปสิ”
“ผมมาเป็นแฟน ไม่ใช่เป็นคนใช้คุณ”
“แล้วไหนแฟน ไม่เห็นรู้สึกว่านายเป็นแฟนของฉันสักนิดนึง”ประโยคนี้ทำเอาอู๋ฟานรีบเหยียบเบรคจอดรถข้างทางทันที อี้ซิงไม่ทันได้ตั้งตัวก็เอาแต่จิกเบาะหนังจนเป็นรอย
“ผมก็ไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร”อู๋ฟานปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าขาว
“ออกไป”อี้ซิงเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความเขินแล้วพูด
ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้..
ไม่จูบไปเลยล่ะ
อู๋ฟานจับปลายคางมนให้หันหน้ามาหาเขาแล้วประกบริมฝีปากลงกับริมฝีปากสีชมพูตรงหน้า มันเป็นไปตามที่อี้ซิงคิดไว้เลย สุดท้ายเขาตัวแข็งจนกลายเป็นหินไปแล้วเพราะว่าช็อคกับเหตุการณ์ล่าสุดแล้วเป็นลมไป
“เฮ้คุณ”อู๋ฟานถอนริมฝีปากออกเพราะเริ่มรู้สึกว่าอี้ซิงไม่ขยับเขยื่อนอะไร
“. . .”ไร้เสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก
“โธ่ที่รัก.. ผมแหย่คุณเล่นเองนะ”
พอฟื้นตัวอีกที อี้ซิงก็เข้าไปอยู่ในห้องทำงานของตัวเองแล้ว ส่วนอู๋ฟานก็ออกไปข้างนอกโดยทิ้งโน้ตเอาไว้สั้นๆ
‘ขอโทษนะ ผมแค่แหย่คุณเล่นๆ.. ที่รัก’
อี้ซิงไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร เขาเอาแต่ยิ้มจนลักยิ้มปรากฏขึ้นที่ข้างแก้ม
อีตานี่ก็ไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไร
TBC.
---------
มาแล้วหลังจากปล่อยไปจะครบ1ปีเต็ม
ตัวหนังสือเพี้ยนหน่อยน้า พอดีทำใส่เวิร์ดแล้วเอามาใส่นี่ก็เพี้ยนเลย แงTT
เข้าไปLIKE PAGE หน่อยนะ
https://www.facebook.com/pages/KRILAYexofiction/164056143757807?ref=hl
ความคิดเห็น