ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    That's your It's you {Yaoi BL} ใช่เลย...ต้องพี่เท่านั้น

    ลำดับตอนที่ #6 : รู้สึกดีๆ

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 57


    © themy  butter

    20.23  น. @บ้านพลอยย่านสาธร

    “พี่ปรางค์   พี่เนส  กลับมาแล้วเหรอคะ”  ผู้เอ่ยทักเงยหน้าละสายตาจากโทรทัศน์มองไปที่ประตูที่ถูกไขเข้ามา

    “กลับมาแล้วคะน้องรักของพี่”  

    ปรางค์วาดเดินมาโอบกอดน้องสาวพร้อมกับหอมแก้มพร้อมกับนั่งพร้อมกัน 

    จริงอยู่หล่อนมาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อวาน 

    แต่นั่นก็ดึกแล้ว  พอตื่นเช้ามายายน้องสาวตัวดีก็ออกไปเรียนแล้วเรียบร้อย

    “ไปไหนกันมาคะ  แล้วทานอะไรกันหรือยังคะ”

    “พี่พาพี่ปรางค์ไปแจกการด์งานแต่งมา  ส่วนข้าวเดี๋ยวพี่ก็ขอตัวไปทานที่บ้านพี่ละกัน”

    เนสหันไปวางถุงใส่ของก่อนจะเดินไปหยิบการด์แต่งงานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะรับแขก

    “ไงจ๊ะ  เมื่อไหร่จะพาแฟนมาให้พี่ดู  เห็นบอกภูมิใจนักภูมิใจหนาแฟนคนนี้  ชื่ออะไรนะพี่จำไมได้และชื่อๆ”

    “แบงค์สิบคะ  แบงค์สิบ”   หล่อนหัวเราะคิกเมื่อเห็นอาการพี่สาวตัวเอง

    “เออนั่นและ นายแบงค์สิบเราเป็นไงเมือ่ไหร่จะพามาให้พี่สาวเจอตัวจ๊ะ”

    “แบงค์สิบ”   เนสอุทานออกมาอย่างแผ่วเบา

     ชื่อนี้คุ้นๆ  เหมือนจะเคยได้ยิน

     แล้วภาพเมื่อเย็นที่บ้านของยาหยีก็ผุดขึ้นมา

    เสียงยาหยีที่เรียกชื่อนี้

    แบงค์สิบ

    มึงดูปากกูชัดๆนะ  กูแฟนยาหยี  แฟนของยาหยี  “

    ไอ้เด็กคนนี้นี่เอง

    แล้วทำไมชื่อเดียวกันกับแฟนพลอยละ

    บังเอิญเกินไปหรือเปล่า

    ชายหนุ่มหันไปที่พลอยพร้อมกับคิดทางเลียบถาม

    “แหมพูดซะพี่เนสอยากดูหน้าแฟนน้องพลอยเสียแล้วว่าจะหล่อกว่าพี่เนสแค่ไหนเชียว”

    “ว้า  แย่จังพลอยเอาโทรศัพท์ไว้บนห้องนอนไมได้เอาลงมาไว้โอกาศหน้านะคะพี่เนส  แล้วพลอยจะมาให้ดูตัวเป็นๆเลยนะคะ”

    เนสรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไมได้เคลียรความสงสัยของตัวเองก่อนจะหันไปลาสองพี่น้องพร้อมกับออกไป

    “กลับดีดีนะคะเนส”  เสียงสำทับจากคู่หมั้นดังก่อนประตูบ้านปิด

    เนสขบกรามตัวเองอย่างใช้ความคิดตลอดทางการขับรถ

    ถ้ามันใช่คนเดียวกัน

    แล้วต้องมีใครสักคนที่โกหก

    ต้องมีใครสักคนที่ไม่ได้เป็นแฟนของไอ้เด็กเวรนั่น

    แล้วถ้ามองในแง่อื่น

    ไอ้เด็กเวรนั่นก็ควบสอง

    “เหอะไอ้เด็กนรก  มึงก็เสือไบเหมือนกูนั่นและ  แล้วกูจะทำให้มึงไม่เหลือใครสักคนไอ้แบงค์สิบ”

    เนสยิ้มที่มุมปากแสดงอาการสะใจ 

    ตอนนี้เขาขอแค่เพียง

    ให้มัน....ใช่คนคนเดียวกันเท่านั้น

    ................................................................................................................

    21.03 น. @สะพานพุทธ

    แบงค์สิบแอบชำเลืองมองยาหยีที่กำลังยืนมองแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนอยู่กลางสะพานด้วยกัน 

    ที่ทั้งสองประสานใกล้กันด้วยสายหูฟังสีขาวที่ห้อยกันอยู่คนละข้าง

    ใบหน้าน่าถนอมนั้นดูเหมือนค่อยยังชั่วขึ้น 

    ดวงตาเริ่มกลับมาฉายแววสดใสมากขึ้น

    เด็กหนุ่มละสายตาไปมองที่แม่น้ำ

    เด็กหนุ่มไม่อยากมองหน้านี้มากกว่านี้

    เขากลัว

    กลัวว่า

    เขาจะจำติดตาลงไปถึงหัวใจตัวเอง

    เด็กหนุ่มยิ้มกับอาการสับสนของตัวเอง

    ปรกติเขาต้องเคลียร์ในทุกเรื่องที่เขาข้องใจ

    แต่ยกเว้นเรื่องเดียว

    เรื่องนี้และอาการนี้

    หาคำตอบไม่ได้เขาก็ไม่อยากใคร่รู้อะไรมากนัก

    เพราะอาการนี้ทำให้เขาอมยิ้มได้คนเดียวแบบมีความสุข

    เพราะฉะนั้น.....ช่างมันเหอะ



    ยาหยี Theme…..


    ผมยืนดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนพร้อมกับไอ้เด็กข้างๆ

    ตลกดีนะที่อยู่ๆมันก็มาอาสาทำให้ผมสบายใจ

    ถึงแม้ผมจะรู้ว่ามันจีบผมเพื่อช่วยเพื่อนตัวเอง

    ผมแอบถ่ายรูบมันตอนเผลอไว้หลายรูป

    เปล่า..ผมไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆตอนนี้

    ผมชอบถ่ายรูปชอบเก็บรูปคนตอนเผลอ

    มันไม่เฟคดี

    ธรรมชาติมาก

    และตอนนี้ผมรู้สึกสบายใจที่อยู่ใกล้มัน

    แปลกไหมบางทีความรู้สึกแบบนี้

    นานมาแล้วมันหายไปนานมากแล้วสำหรับตัวผมเอง

    มันชอบแอบชำเลืองผมบ่อยๆ

    เหอะ...นึกว่าไม่รู้เหรอไงไอ้แสบ

    เพลงที่มันให้ฟังผมตอนนี้เป็นเพลงสากลสบายๆ

    ผมมองดูพื้นน้ำพร้อมกับสายลมเย็นกำลังดีแล้วหันไปมองมัน

    ใบหน้ายิ้มแบบนั้น 

    ผมค่อยๆหยิบมือถือพร้อมกับกดเก็บภาพนั้นไว้

    “เป็นบ้าอะไรยิ้มคนเดียวได้ด้วย ประสาทนะเอ็ง”  ผมแซวเมื่อเห็นใบหน้านั่นสุขเกินจนน่าหมั่นไส้

    “อ้าวมาเดทกับแฟนทั้งทีเนอะ”   มันหันมาตีเนียน

    ผมยกมะเหงกเข้าที่หน้าผากมัน

    “โห  เจ็บนะเนี่ย”  มันบ่นกระปอดกระแปดพร้อมทำเสียงน้อยใจ

    “โทษละกัน แต่ไม่ง้อนะ   หิวยางเดี๋ยวพาไปกินร้านอร่อยแถวนี้  ตอบแทนที่พามา”  ผมหันไปถามก็เจอใบหน้ายิ้มแฉ่ง

    “สุดๆรอพูดเลยนะเนี่ย”  น้ำเสียงระริกเกินไอ้เด็กบ้า

    “ไมถ้าไม่พูดจะทำไงหาไอ้แบงค์สิบ”  ผมหันไปเผชิญหน้ากับมันพร้อมๆกับมันที่เดินมาพร้อมกับกระซิบเบาๆที่ข้างหู

    “ไม่ทำไมถ้าไม่พูดผมก็จะได้กินคุณหยีหมดทั้งตัวเลยไง”  มันถอนหน้ากลับไปทิ้งให้ผมยืนนิ่งกับคำตอบเมื่อครู่

    “ไปได้แล้วคุณหยี  อย่าทำหน้ามึน”     ผมพยักหน้าพร้อมกับก้าวเดินคู่ไปกับมัน

    ที่ผมยืนนิ่งไม่ใช่อะไรนะ

    แค่ผมสงสัยว่ามันหิวจนมันจะกินผมเลยเหรอ

    คงจะหิวมาก

    ท่าจะหิวมากงั้นต้องเลี้ยงให้มันกินอิ่มๆ

    ถ้ามันไม่อิ่ม....

    เดี๋ยวมันกินผมขึ้นมานะสิไอ้เด็กแสบ

    .................................................................................................

    21.30น. @ร้านข้าวหมูแดง  เชิงสะพานพุทธอู่รถเมล์สาย8

    “ไง  ใช้ได้ไหม”  ผมทักเมื่อเห็นมันสั่งเบิ้ลจานที่สอง 

    มันเล่าเรื่องราวตัวเองที่ทำให้ผมรู้ว่ามันคือลูกชายของนักการเมือง  พ่อเลิกกับแม่  

    ทิ้งไว้ให้อยู่กับพี่ชายที่ชื่อแบงค์พัน  ส่วนพ่อแต่งงานใหม่และด้วยหน้าที่การงานก็ไม่ค่อยได้เจอะเจอพร้อมหน้าพร้อมตากันซักเท่าไหร่

    “โคตรอร่อยเลย  ไม่นึกนะว่าจะมีร้านริมทางอร่อยแบบนี้”  

    ผมพยักหน้ามองหน้ามัน พร้อมกับดูดน้ำเก๊กฮวย

    “แบงค์เอ็งคุณหนูมากสิ  ถึงไม่เคยกินข้างทาง”

    มันรวบช้อนพร้อมกับยกโค๊กดื่ม

    “แปปนะ  ขอเรอแปป”

    จบคำเสียงเรอก็ออกมา ผมหลุดหัวเราะกับอาการของมันจริงๆ

    “ตลกเหรอไง  มาหัวเราะ “   มันทำเสียงขึ้นจมูก

    “ไม่ไหนเล่ามาสิที่ค้างไว้เมื่อกี้”  ผมวางแก้วพร้อมมองไปที่คู่สนทนา

    “ผมไม่คุณหนูหรอก   ผมไม่อยากใช้นามสกุลเดียวกับพ่อเท่าไหร่นักหรอกนะหยี  ถ้าผมเลือกได้  ผมไม่อยากมีคนมารังเกลียดผมในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ  แต่เกลียดที่ผมมีนามสกุลเดียวกันผมว่ามันไม่แฟร์”    

    มันหลุบสายตาลงพร้อมกับถอนหายใจ

    ผมรีบตัดบทเพราะนี่คงเก้าก่ายเรื่องครอบครัวมันมากเกินไปแล้ว

    “เปลี่ยนเรื่อง   ไหนจะจีบข้าใช่ไหม  งั้นอยากรู้เรื่องอะไรที่สุด  ให้โอกาศแล้วนับหนึ่ง สอง”ยังไม่ทันนับจบเสียงของแบงค์สิบก็แทรกดังขึ้นมา

    “ไอ้เนส”

    ตอนนี้ผมเองที่มาถอนหายใจพร้อมกับเบือนหน้าไปทางอื่น

     

    “แบงค์  เอาไว้พร้อมกว่านี้  จะเล่าให้ฟัง  สัญญา”

    ผมยกนิ้วก้อยขึ้นมายื่นไปข้างหน้ามันมองพร้อมกับยิ้มเหยาะออกมา

    “ผมรู้ว่าคุณยังไม่พร้อมหรอก  แต่มายกนิ้วก้อยสัญญามันไม่เด็กไปหน่อยเหรอะครับคุณหยี”

    “ก็นี่ไงคุยกับเด็กก็นายไง”   ผมทำเสียงล้อมัน

    มันพ่นลมหายใจแล้วนั่งมองหน้า

    ผมกระดิกนิ้วก้อยแล้วยิ่นไปเขี่ยที่จมูกของมันทำนองว่าเร็วๆ

    มันค่อยๆยกยิ้มที่มุมปาก

    พร้อมกับยกนิ้วก้อยตัวเองมาเกี่ยวตวัดแล้วใช้อีกมือขึ้นมาจับกุมอีกมือของหยีเอาไว้

    “เด็กกว่าแล้วไงคุณหยี”

    ใบหน้าของยาหยีตอนนี้ถ้าไม่ใช่อากาศร้อนมันก็คือหน้าแดงและหว่ะ

    ยาหยีรีบสลัดมืออกมาพร้อมกับดูเวลา

    “กลับเหอะ  ดึกแล้ว  เก็บตังครับ”   ผมเรียกแม่ค้าพร้อมกับหันไปพยักหน้าให้มัน

    “ให้แบงค์ไปส่งไหมหยี”  แบงค์สิบหันถามยาหยีที่ยืนอยู่ข้างๆ

    ....................................................

    ยาหยีกำลังคิดอะไรเพลินๆถึงกับสะดุ้งกับเสียงตะโกน

    “คุณหยีใจลอยไปไหน    อย่าบอกนะลอยมาทางผม” 

    “ไอ้บ้า  ตลก”

    “เหรอ”   ทิ้งหางเสียงยาวพร้อมกับเดินมาชนไหล่ของยาหยี

    “เพราะถ้าลอยมาที่นี่จับขังไว้ในนี้เลยนะ”มันชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายพร้อมกับยิ้มบางๆออกมา

    “กลับไปได้แล้วไม่ต้องส่งหรอก “  ชายหนุ่มเรียกรถให้แบงค์สิบพร้อมกับดุนหลังให้ขึ้นรถไป

    ชายหนุ่มเรียกรถอีกคันพร้อมกับขึ้นไปนั่งด้านหลัง

    “ไปทองหล่อครับ”

    ตึดดดดดดดดดดดดด

    เสียงข้อความเข้ามาจากโทรศัพท์

    “กลับบ้านดีดีนะ  ฝันดีนะ   ถึงบ้านจะส่งข้อความมาบอกนะยอดยาหยี”  

                                        แบงค์สิบ

    “เอาเบอเรามาจากไหนหว่ะไอ้แสบ”

    ยาหยีมองที่ข้อความพร้อมกับเลิกคิ้วแปลกใจพร้อมกับยิ้มละไมพร้อมกับเสียงเพลงจากแท๊กซี่ที่กำลังเล่นเพลงเสียงของหัวใจอยู่พอดี

    “วันนี้ได้ยินเพลงนี้บ่อยไปไหมยาหยีหึหึ”  ชายหนุ่มหลับตาร้องในใจพร้อมกับความรู้สึกดีดีที่กำลังเกิดขึ้นมา

    “ขอบใจนายมากแบงค์สิบ”


    ปล.ไรเตอร์ขอบ่น  รีดเดอร์ติดตามเยอะไรท์ดีใจนะแต่ไรท์ขอกำลังใจจากเม้นท์บ้างได้ไหมคนละเม้นแค่นี้นะ เพราะจะได้มีแรงสร้างสรรผลงานนะ  บางทีเห็นแฟนคลับเยอะแต่ไร้เม้นท์มันก็แป่วๆนะ  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×