คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : รู้สึกดีๆ
20.23 น. @บ้านพลอยย่านสาธร
“พี่ปรางค์ พี่เนส กลับมาแล้วเหรอคะ” ผู้เอ่ยทักเงยหน้าละสายตาจากโทรทัศน์มองไปที่ประตูที่ถูกไขเข้ามา
“กลับมาแล้วคะน้องรักของพี่”
ปรางค์วาดเดินมาโอบกอดน้องสาวพร้อมกับหอมแก้มพร้อมกับนั่งพร้อมกัน
จริงอยู่หล่อนมาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อวาน
แต่นั่นก็ดึกแล้ว พอตื่นเช้ามายายน้องสาวตัวดีก็ออกไปเรียนแล้วเรียบร้อย
“ไปไหนกันมาคะ แล้วทานอะไรกันหรือยังคะ”
“พี่พาพี่ปรางค์ไปแจกการด์งานแต่งมา ส่วนข้าวเดี๋ยวพี่ก็ขอตัวไปทานที่บ้านพี่ละกัน”
เนสหันไปวางถุงใส่ของก่อนจะเดินไปหยิบการด์แต่งงานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะรับแขก
“ไงจ๊ะ เมื่อไหร่จะพาแฟนมาให้พี่ดู เห็นบอกภูมิใจนักภูมิใจหนาแฟนคนนี้ ชื่ออะไรนะพี่จำไมได้และชื่อๆ”
“แบงค์สิบคะ แบงค์สิบ” หล่อนหัวเราะคิกเมื่อเห็นอาการพี่สาวตัวเอง
“เออนั่นและ นายแบงค์สิบเราเป็นไงเมือ่ไหร่จะพามาให้พี่สาวเจอตัวจ๊ะ”
“แบงค์สิบ” เนสอุทานออกมาอย่างแผ่วเบา
ชื่อนี้คุ้นๆ เหมือนจะเคยได้ยิน
แล้วภาพเมื่อเย็นที่บ้านของยาหยีก็ผุดขึ้นมา
เสียงยาหยีที่เรียกชื่อนี้
แบงค์สิบ
“มึงดูปากกูชัดๆนะ กูแฟนยาหยี แฟนของยาหยี “
ไอ้เด็กคนนี้นี่เอง
แล้วทำไมชื่อเดียวกันกับแฟนพลอยละ
บังเอิญเกินไปหรือเปล่า
ชายหนุ่มหันไปที่พลอยพร้อมกับคิดทางเลียบถาม
“แหมพูดซะพี่เนสอยากดูหน้าแฟนน้องพลอยเสียแล้วว่าจะหล่อกว่าพี่เนสแค่ไหนเชียว”
“ว้า แย่จังพลอยเอาโทรศัพท์ไว้บนห้องนอนไมได้เอาลงมาไว้โอกาศหน้านะคะพี่เนส แล้วพลอยจะมาให้ดูตัวเป็นๆเลยนะคะ”
เนสรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไมได้เคลียรความสงสัยของตัวเองก่อนจะหันไปลาสองพี่น้องพร้อมกับออกไป
“กลับดีดีนะคะเนส” เสียงสำทับจากคู่หมั้นดังก่อนประตูบ้านปิด
เนสขบกรามตัวเองอย่างใช้ความคิดตลอดทางการขับรถ
ถ้ามันใช่คนเดียวกัน
แล้วต้องมีใครสักคนที่โกหก
ต้องมีใครสักคนที่ไม่ได้เป็นแฟนของไอ้เด็กเวรนั่น
แล้วถ้ามองในแง่อื่น
ไอ้เด็กเวรนั่นก็ควบสอง
“เหอะไอ้เด็กนรก มึงก็เสือไบเหมือนกูนั่นและ แล้วกูจะทำให้มึงไม่เหลือใครสักคนไอ้แบงค์สิบ”
เนสยิ้มที่มุมปากแสดงอาการสะใจ
ตอนนี้เขาขอแค่เพียง
ให้มัน....ใช่คนคนเดียวกันเท่านั้น
................................................................................................................
21.03 น. @สะพานพุทธ
แบงค์สิบแอบชำเลืองมองยาหยีที่กำลังยืนมองแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนอยู่กลางสะพานด้วยกัน
ที่ทั้งสองประสานใกล้กันด้วยสายหูฟังสีขาวที่ห้อยกันอยู่คนละข้าง
ใบหน้าน่าถนอมนั้นดูเหมือนค่อยยังชั่วขึ้น
ดวงตาเริ่มกลับมาฉายแววสดใสมากขึ้น
เด็กหนุ่มละสายตาไปมองที่แม่น้ำ
เด็กหนุ่มไม่อยากมองหน้านี้มากกว่านี้
เขากลัว
กลัวว่า
เขาจะจำติดตาลงไปถึงหัวใจตัวเอง
เด็กหนุ่มยิ้มกับอาการสับสนของตัวเอง
ปรกติเขาต้องเคลียร์ในทุกเรื่องที่เขาข้องใจ
แต่ยกเว้นเรื่องเดียว
เรื่องนี้และอาการนี้
หาคำตอบไม่ได้เขาก็ไม่อยากใคร่รู้อะไรมากนัก
เพราะอาการนี้ทำให้เขาอมยิ้มได้คนเดียวแบบมีความสุข
เพราะฉะนั้น.....ช่างมันเหอะ
ยาหยี Theme…..
ผมยืนดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนพร้อมกับไอ้เด็กข้างๆ
ตลกดีนะที่อยู่ๆมันก็มาอาสาทำให้ผมสบายใจ
ถึงแม้ผมจะรู้ว่ามันจีบผมเพื่อช่วยเพื่อนตัวเอง
ผมแอบถ่ายรูบมันตอนเผลอไว้หลายรูป
เปล่า..ผมไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆตอนนี้
ผมชอบถ่ายรูปชอบเก็บรูปคนตอนเผลอ
มันไม่เฟคดี
ธรรมชาติมาก
และตอนนี้ผมรู้สึกสบายใจที่อยู่ใกล้มัน
แปลกไหมบางทีความรู้สึกแบบนี้
นานมาแล้วมันหายไปนานมากแล้วสำหรับตัวผมเอง
มันชอบแอบชำเลืองผมบ่อยๆ
เหอะ...นึกว่าไม่รู้เหรอไงไอ้แสบ
เพลงที่มันให้ฟังผมตอนนี้เป็นเพลงสากลสบายๆ
ผมมองดูพื้นน้ำพร้อมกับสายลมเย็นกำลังดีแล้วหันไปมองมัน
ใบหน้ายิ้มแบบนั้น
ผมค่อยๆหยิบมือถือพร้อมกับกดเก็บภาพนั้นไว้
“เป็นบ้าอะไรยิ้มคนเดียวได้ด้วย ประสาทนะเอ็ง” ผมแซวเมื่อเห็นใบหน้านั่นสุขเกินจนน่าหมั่นไส้
“อ้าวมาเดทกับแฟนทั้งทีเนอะ” มันหันมาตีเนียน
ผมยกมะเหงกเข้าที่หน้าผากมัน
“โห เจ็บนะเนี่ย” มันบ่นกระปอดกระแปดพร้อมทำเสียงน้อยใจ
“โทษละกัน แต่ไม่ง้อนะ หิวยางเดี๋ยวพาไปกินร้านอร่อยแถวนี้ ตอบแทนที่พามา” ผมหันไปถามก็เจอใบหน้ายิ้มแฉ่ง
“สุดๆรอพูดเลยนะเนี่ย” น้ำเสียงระริกเกินไอ้เด็กบ้า
“ไมถ้าไม่พูดจะทำไงหาไอ้แบงค์สิบ” ผมหันไปเผชิญหน้ากับมันพร้อมๆกับมันที่เดินมาพร้อมกับกระซิบเบาๆที่ข้างหู
“ไม่ทำไมถ้าไม่พูดผมก็จะได้กินคุณหยีหมดทั้งตัวเลยไง” มันถอนหน้ากลับไปทิ้งให้ผมยืนนิ่งกับคำตอบเมื่อครู่
“ไปได้แล้วคุณหยี อย่าทำหน้ามึน” ผมพยักหน้าพร้อมกับก้าวเดินคู่ไปกับมัน
ที่ผมยืนนิ่งไม่ใช่อะไรนะ
แค่ผมสงสัยว่ามันหิวจนมันจะกินผมเลยเหรอ
คงจะหิวมาก
ท่าจะหิวมากงั้นต้องเลี้ยงให้มันกินอิ่มๆ
ถ้ามันไม่อิ่ม....
เดี๋ยวมันกินผมขึ้นมานะสิไอ้เด็กแสบ
.................................................................................................
21.30น. @ร้านข้าวหมูแดง เชิงสะพานพุทธอู่รถเมล์สาย8
“ไง ใช้ได้ไหม” ผมทักเมื่อเห็นมันสั่งเบิ้ลจานที่สอง
มันเล่าเรื่องราวตัวเองที่ทำให้ผมรู้ว่ามันคือลูกชายของนักการเมือง พ่อเลิกกับแม่
ทิ้งไว้ให้อยู่กับพี่ชายที่ชื่อแบงค์พัน ส่วนพ่อแต่งงานใหม่และด้วยหน้าที่การงานก็ไม่ค่อยได้เจอะเจอพร้อมหน้าพร้อมตากันซักเท่าไหร่
“โคตรอร่อยเลย ไม่นึกนะว่าจะมีร้านริมทางอร่อยแบบนี้”
ผมพยักหน้ามองหน้ามัน พร้อมกับดูดน้ำเก๊กฮวย
“แบงค์เอ็งคุณหนูมากสิ ถึงไม่เคยกินข้างทาง”
มันรวบช้อนพร้อมกับยกโค๊กดื่ม
“แปปนะ ขอเรอแปป”
จบคำเสียงเรอก็ออกมา ผมหลุดหัวเราะกับอาการของมันจริงๆ
“ตลกเหรอไง มาหัวเราะ “ มันทำเสียงขึ้นจมูก
“ไม่ไหนเล่ามาสิที่ค้างไว้เมื่อกี้” ผมวางแก้วพร้อมมองไปที่คู่สนทนา
“ผมไม่คุณหนูหรอก ผมไม่อยากใช้นามสกุลเดียวกับพ่อเท่าไหร่นักหรอกนะหยี ถ้าผมเลือกได้ ผมไม่อยากมีคนมารังเกลียดผมในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ แต่เกลียดที่ผมมีนามสกุลเดียวกันผมว่ามันไม่แฟร์”
มันหลุบสายตาลงพร้อมกับถอนหายใจ
ผมรีบตัดบทเพราะนี่คงเก้าก่ายเรื่องครอบครัวมันมากเกินไปแล้ว
“เปลี่ยนเรื่อง ไหนจะจีบข้าใช่ไหม งั้นอยากรู้เรื่องอะไรที่สุด ให้โอกาศแล้วนับหนึ่ง สอง”ยังไม่ทันนับจบเสียงของแบงค์สิบก็แทรกดังขึ้นมา
“ไอ้เนส”
ตอนนี้ผมเองที่มาถอนหายใจพร้อมกับเบือนหน้าไปทางอื่น
“แบงค์ เอาไว้พร้อมกว่านี้ จะเล่าให้ฟัง สัญญา”
ผมยกนิ้วก้อยขึ้นมายื่นไปข้างหน้ามันมองพร้อมกับยิ้มเหยาะออกมา
“ผมรู้ว่าคุณยังไม่พร้อมหรอก แต่มายกนิ้วก้อยสัญญามันไม่เด็กไปหน่อยเหรอะครับคุณหยี”
“ก็นี่ไงคุยกับเด็กก็นายไง” ผมทำเสียงล้อมัน
มันพ่นลมหายใจแล้วนั่งมองหน้า
ผมกระดิกนิ้วก้อยแล้วยิ่นไปเขี่ยที่จมูกของมันทำนองว่าเร็วๆ
มันค่อยๆยกยิ้มที่มุมปาก
พร้อมกับยกนิ้วก้อยตัวเองมาเกี่ยวตวัดแล้วใช้อีกมือขึ้นมาจับกุมอีกมือของหยีเอาไว้
“เด็กกว่าแล้วไงคุณหยี”
ใบหน้าของยาหยีตอนนี้ถ้าไม่ใช่อากาศร้อนมันก็คือหน้าแดงและหว่ะ
ยาหยีรีบสลัดมืออกมาพร้อมกับดูเวลา
“กลับเหอะ ดึกแล้ว เก็บตังครับ” ผมเรียกแม่ค้าพร้อมกับหันไปพยักหน้าให้มัน
“ให้แบงค์ไปส่งไหมหยี” แบงค์สิบหันถามยาหยีที่ยืนอยู่ข้างๆ
....................................................
ยาหยีกำลังคิดอะไรเพลินๆถึงกับสะดุ้งกับเสียงตะโกน
“คุณหยีใจลอยไปไหน อย่าบอกนะลอยมาทางผม”
“ไอ้บ้า ตลก”
“เหรอ” ทิ้งหางเสียงยาวพร้อมกับเดินมาชนไหล่ของยาหยี
“เพราะถ้าลอยมาที่นี่จับขังไว้ในนี้เลยนะ”มันชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายพร้อมกับยิ้มบางๆออกมา
“กลับไปได้แล้วไม่ต้องส่งหรอก “ ชายหนุ่มเรียกรถให้แบงค์สิบพร้อมกับดุนหลังให้ขึ้นรถไป
ชายหนุ่มเรียกรถอีกคันพร้อมกับขึ้นไปนั่งด้านหลัง
“ไปทองหล่อครับ”
ตึดดดดดดดดดดดดด
เสียงข้อความเข้ามาจากโทรศัพท์
“กลับบ้านดีดีนะ ฝันดีนะ ถึงบ้านจะส่งข้อความมาบอกนะยอดยาหยี”
แบงค์สิบ
“เอาเบอเรามาจากไหนหว่ะไอ้แสบ”
ยาหยีมองที่ข้อความพร้อมกับเลิกคิ้วแปลกใจพร้อมกับยิ้มละไมพร้อมกับเสียงเพลงจากแท๊กซี่ที่กำลังเล่นเพลงเสียงของหัวใจอยู่พอดี
“วันนี้ได้ยินเพลงนี้บ่อยไปไหมยาหยีหึหึ” ชายหนุ่มหลับตาร้องในใจพร้อมกับความรู้สึกดีดีที่กำลังเกิดขึ้นมา
“ขอบใจนายมากแบงค์สิบ”
ปล.ไรเตอร์ขอบ่น รีดเดอร์ติดตามเยอะไรท์ดีใจนะแต่ไรท์ขอกำลังใจจากเม้นท์บ้างได้ไหมคนละเม้นแค่นี้นะ เพราะจะได้มีแรงสร้างสรรผลงานนะ บางทีเห็นแฟนคลับเยอะแต่ไร้เม้นท์มันก็แป่วๆนะ
ความคิดเห็น