คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : วุ่นวาย
18.00 น. @ ร้านอาหารย่านสยาม
"แบงค์คะ" เสียงเรียกของพลอยทำให้แบงค์สิบตัดสินใจยกมือไหว้ที่ปรางค์เหมือนไหว้รวมๆพร้อมกับเงยหน้ามองไปที่เนส เนสยิ้มกริ่มพร้อมกับทักทาย
"หล่อไม่เบานะแฟนน้องพลอย ท่าจะใช่ย่อยนะ เสน่ห์คงจะแรงจนเลือกไม่ถูกละมั้ง"
"ก็คงจะพอๆกันกับพี่ละครับ เรื่องเสน่ห์ จนเลือกไม่ได้ถูกไหมครับพี่เนส"
เนสชาไปที่หน้าเพราะรู้ว่ากำลังถูกตอกกลับจากเด็กหนุ่ม พร้อมกับเขยิบตัวเองไปนั่งข้างๆกับพลอย แล้วจ้องมองหาวิธีเอาคืนเด็กหนุ่ม
"โอ้ยคุยอะไรกันไม่เห็นจะเข้าใจเลยมาสั่งๆเถอะปรางค์หิวแล้ว"
ปรางค์ยื่นเมนูให้กับเนสพร้อมกับหันไปมองรอบๆ
"นั่นหยีนี่เนส มากับใคร เอ๋ อ้อ นายแบงค์พันนั่นเอง"
หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อหันไปเจอยาหยีนั่งอยู่ด้านในริมหน้าต่าง
เนสหันไปมองด้วยพร้อมกับยิ้มกริ่มที่มุมปาก
"งั้นเราไปทักพวกเขาดีไหมปรางค์ " เนสทำท่าจะขยับลุกแต่มือปรางค์มาแตะที่แขนเชิงปราม
"เดี๋ยวก็ได้มั้งคะเนส ปรางค์หิวทานไรก่อนดีกว่านะคะ" ปรางค์ดึงแขนเสื้อชายหนุ่มเชิงว่าไม่จำเป็นพร้อมกับหันไปสนใจเมนูทิ้งให้เนสนั่งหงุดหงิดอารมณ์ตัวเอง
"ไงพี่หยีจะเก็บเงินออกเลยไหม" แบงค์พันทักรุ่นพี่เมื่อเห็นยาหยีใช้ส้อมเขี่ยอาหารในจานไปมา
"ไม่ต้องหรอก ยังไม่อิ่มไม่ใช่เหรอไง ไม่มีอะไรก็คือไม่มี หนีไปก็ต้องหนีไปตลอดเลย
เหรอไง เพราะฉะนั้นอะไรจะเกิดก็ปล่อยมัน พี่ก็ไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ ไม่ถึงตายหรอกไอ้เรื่องแค่นี้"
ยาหยียิ้มพร้อมกับวางช้อนส้อมลงแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม
สายตาของเขามองไปที่โต๊ะตัวนั้น
ความรู้สึกเป็นห่วงคนบางคนค่อยๆดังขึ้นในหัวใจ
แม้ว่าจะพยายามไม่สนใจแต่สายตาของของเขาก็คอยเหลือบมองไปตลอดเวลา
และบางทีการเหลือบมองก็จะเจอกับเจ้าของสายตาคนที่เป็นห่วงก็แอบลอบมองกลับมาที่เขาอยู่เช่นกัน
แบงค์สิบ Themed
วันนี้น่าจะเป็นวันที่เขาเองรู้สึกแย่ไปหมดทุกอย่าง เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในร้านแล้วเจอพี่ชายตัวเองกับยาหยีนั่น
มันทำให้เขาพลุ่งพล่านใจออกมาอย่างประหลาด จนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่
เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าถ้าคนที่นั่งอยู่นั่นไม่ใช่พี่ชายเขา
เด็กหนุ่มคงซัดเข้าให้โทษฐานขวางหูขวางตาไปหมด
อาการนิ่งสงบของยาหยีมันทำให้เขากระวนกระวายใจมากขึ้นไปอีก
น้อยใจ
ใช่อาการน้อยใจผสมกับนอยด์ลึกๆ
มันทำให้ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกวังเวงพึลึก
เหมือนเขาถูกทิ้งอยู่เพียงลำพัง
เหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางพายุที่ถาโถมเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า
ถ้านี่ไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุดแล้ว
แจ๊คพอตที่มาเจอไอ้เนสต่างหากที่แย่สุดๆ
จุดพีคมากที่มือเขาทำช้อนหล่น
ตกใจและยังไม่อยากตะบันหน้าใครมากกว่า
สีหน้าของคนที่ทำท่าจะชนะ
ยิ้มเหยียดที่มุมปาก
ไอ้เนส สักวันต้องโดนคว่ำแน่
สัญญาได้เลย
แล้วความรู้สึกเป็นห่วงคนนั้งอยู่ด้านโน้นก็เกิดขึ้นมาทันที
ไม่อยากเห็นน้ำตาหยีอีกแล้วนะ
เขาลอบมองและทุกครั้งที่ลอบมองสายตาของคนคนนั้นก็กำลังมองเขามาอยู่เช่นกัน
อย่าได้ไหม
อย่าให้ผมเสียศูนย์ไปมากกว่านี้เลยยาหยี
เพราะแค่นี้ก็ทำให้เขาไปไม่ถูกแล้ว
...........................................................
ยาหยี Themed
ว่าวันนี้จะมาหาไรกินให้สบายใจเสียหน่อย
แต่.......
อย่างที่เห็น
เจอกับตัวปัญหาเข้าให้
ยังไม่พอ
เป็นพี่น้องกันกับรุ่นน้องของเขาเสียอีก
แต่ทำไม.......
เมื่อเห็นแบงค์สิบเดินเข้ามากับเด็กผู้หญิงคนนั้น
ทำไมตัวเขาต้องรู้สึกขัดใจอย่างแรง
ไม่พอใจขึ้นมาเฉยๆ
หงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ
แล้วสายตาน้อยใจอะไรนั่น
หยุดโปรยเสน่ห์ได้แล้ว..
ยาหยีคนนี้จะไม่เผลอไผลอะไรได้อีก
แต่.............
ถ้ายังแย่ไม่พอ
การเจอเนสกับปรางค์ด้วยนี่ทำเอาอิ่มขึ้นมาเสียเฉยๆ
แม้ว่ารุ่นน้องจะถามแล้วว่าไหวไหม
ต้องเข้มแข็งสิเรา
แม้ข้างในมันมืดทึบไปหมด
เหมือนคนเดินหลงทางลำพังไม่มีแม้แต่แสงที่ปลายอุโมงค์
ทำไมนะ ........
ต้องให้ทำยังไงถึงจะหนีพ้น
แต่จู่ๆกลับมีความรู้สึกบางอย่างตีแทรกขึ้นมา
แล้วคนที่ปกป้องเขาจากเนสจะเป็นไงบ้าง
ยาหยีพยายามแอบมอง
แต่ทุกครั้งที่มองไป
สายตาของคนคนนั้นก็จ้องกลับมาที่เขาเช่นกัน
ในเมื่อหลบไม่ได้หลบไม่พ้น
ยาหยีก็จ้องกลับไปให้รู้ว่า
เป็นไรไหม
มีอะไรให้ช่วยไหม
ตรงนี้มีเขาอีกคนนะ
อีกคนที่ยังเป็นห่วง
และคนคนนี้ขอบคุณและพร้อมที่จะช่วยนายเหมือนกัน
ยืนอยุ่ตรงนี้เสมอ
ยืนอยู่จุดนี้
แค่หันมาก็เจอ
แค่ขอมา
หัวใจของเขากำลังบอก
....................................................................................................................................................................................................................................................................................
"ไปเถอะครับ ผมว่า" แบงค์พันเรียกสติยาหยีให้กลับมาพร้อมกับลุกขึ้นเดินตามรุ่นน้องออกไป
"ไม่ทักเลยนะหยี น้องแบงค์พันด้วย" ปรางค์วางแก้วน้ำลงพร้อมกับทักทันทีที่เห็นสองคนกำลังเดินมา
"สวัสดีครับพี่ปรางค์พี่เนส" แบงค์พันเอ่ยทักพร้อมกับแบงค์สิบที่เปล่งเสียงทักออกมาเช่นกัน
"หวัดดี"
แบงค์สิบหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงของยาหยีเขาคอยลอบมองอยู่เป็นระยะๆ
"แหมจะว่าไปโลกมันกลมเนอะเนส จู่ๆก็มาเจอกันที่นี่" ปรางค์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ
"ใช่กลมเกินไปด้วยเนอะหยี แหมหยีนี่ก็ฮอตนะมีแต่คนรักมีแต่คนรุมล้อม น่าอิจฉาว่าไหมปรางค์" เสียงเนสพูดพร้อมกับมองไปที่แบงค์สิบกับแบงค์พันสลับกันไปมา
"ครับพี่เนส คนดีดีย่อมมีคนรักไม่ผิดหรอกครับพี่ แต่จะแปลกใจตรงที่ คนชั่วๆบางคนที่ยังมีคนรักนี่สิครับ" แบงค์สิบตอกจนทำเอาผู้ถูกพาดพิงสะดุ้ง
"แหมแบงค์สิบน้องชายผมเอง พูดแบบนี้พี่ให้เงินเลยดีไหม" แบงค์พันได้ทีกล่าวชมน้องตัวเอง
"ไม่แปลกหรอกเนส ได้คนดีรักเราเสียบ้าง เพราะที่ผ่านมาคนไม่ดีเรายังรักเลยเนส" ยาหยีกล่าวตอกปิดหน้างานอย่างสมบูรณ์ทำเอาทั้งปรางค์และเนสถึงกับชะงัก
"ผมไปก่อนนะครับพี่ปรางค์พี่เนส เจอกันที่บ้านนะแบงค์" แบงค์พันยกมือไหว้พร้อมกับดุนหลังให้ยาหยีเดินนำออกไป
ยาหยีค่อยๆหันมามองที่แบงค์สิบพร้อมกับพยักหน้าทำนองว่าไปแล้วนะพร้อมกับเดินนำแบงค์พันออกไป แบงค์สิบคิดอะไรได้จึงรีบร้องบอกพี่ชาย
"ถ้าไม่มีไรเดี่ยวแบงค์ขอกลับพร้อมพี่แบงค์พันเลยละกันนะครับ พลอยไว้คุยกันนะแบงค์ไม่ส่งนะ ไปละครับพี่ปรางค์ พี่เนส"
เด็กหนุ่มลุกขึ้นพร้อมกับหยิบกระเป๋าวิ่งตามพี่ชายตัวเองออกไป
ทิ้งให้พลอยนั่งอึ้งกับอาการของแฟนตัวเอง
แบงค์สิบไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่าก็ขอนั่งรถไปด้วยแค่นั้นเอง
แค่ขออยู่ใกล้คนคนนั้นเท่านั้นเอง
..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
19.44น.@ บนถนนสุขุมวิท
เสียงเพลงในรถที่กำลังเปิดอยู่ทำให้แบงค์สิบรู้สึกปั่นป่วนประหลาด
เสียงแห่งหัวใจ ที่ถูกนำมาคัฟเวอร์ใหม่ที่กำลังเล่นอยู่นั้นทำเอาเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังคนขับต้องแอบหันไปมองคนที่นั่งคู่กับพี่ชายอยู่ด้านหน้าที่กำลังนั่งนิ่งไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วกลับไปมองถนนด้านหน้าสลับไปมา
"ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอไง ใจแข็งเกินไปแล้ว" แบงค์สิบค่อยๆชะโงกหน้ามาทางช่องว่างระหว่างกลางคนขับพร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดเพลงให้ดังขึ้น
เสียงเพลงที่จู่ๆดังขึ้นมาทำให้ยาหยีต้องหันไปที่คนขับรถพร้อมกับใบหน้าของแบงค์สิบที่กำลังหันไปมองเขาพอดี
ห่างกันแค่คืบ
เสียงลมหายใจที่พ่นออกมาของทั้งคู่แทบจะกลายเป็นหนึ่งเดียว
ชะงักค้างอยู่ขนาดนั้น
อาการที่ทั้งคู่กำลังประหม่ากันและกัน
นานพอที่พี่ชายเขาจะหันมาสังเกตอาการของทั้งคู่
พี่หยีกับแบงค์ต้องรู้จักกันมาก่อนแน่ๆ
แต่ทว่าเมื่อไรตอนไหน เขาต้องรู้ให้ได้
"ฮะแฮ่ม เล่นมิวสิคกันเหรอครับ" เสียงทักของแบงค์พันทำเอาทั้งคู่กลับมาในภวังค์พร้อมกับการตอบขึ้นพร้อมกัน
"เปล่านี่" แบงค์สิบโยกตัวกลับไปที่นั่งตามเดิมพร้อมกับยาหยีที่เสมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วแอบมองอีกคนจากทางหน้าต่างกระจกรถฝั่งของตัวเอง
ความคิดเห็น