คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เสียงของหัวใจ
17.35 น. @หน้าบ้านยาหยี
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่หยี นายแบงค์” ของขวัญตรงมาจับมือพี่ชายอีกข้างแล้วเหลือบมองอีกข้างที่ถูกแบงค์สิบ
กุมแน่นอยู่
“พี่ไม่พร้อมคะขวัญ” ยาหยีพยายามพูดบังคับไม่ให้เสียงตัวเองมันสั่นออกมา
“พี่เนสทำอะไรพี่หยีคะ”
แบงค์สิบเหลือบมองดูอาการของยาหยีก่อนจะตอบแทน
“ทำเลวๆ”
“ขวัญจะเข้าไปจัดการไล่ออกจากบ้านเราเองคะ” เด็กสาวพูดจบก็หันตัวเข้าไปพร้อมกับมือของโอโม่ที่มาดึง
ไว้ที่แขนอย่างเร็ว
“ใจเย็นก่อนสิขวัญ นี่มันเรื่องของพี่หยีนะ”
“แล้วนายไม่เห็นที่มันทำกับพี่ของเราเหรอโอโม่ นายจะให้เรานิ่งเฉยไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหรอไง
คนที่ยืนตรงนี้มันพี่ชายเรานะโอโม่ นายเข้าใจไหม” ของขวัญเสียงเคลือออกมา
ยาหยีบีบมือน้องสาวเอาไว้ ไม่สิเขาต้องไม่ทำให้น้องสาวของเขาเจ็บปวดหรือร้องไห้เพราะตัวเขาเอง
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเพื่อเรียกสติตัวเอง
“ขวัญคะ ดูแลแขกแทนพี่ได้ไหมคะ พี่ยังไม่อยากเจอไม่อยากคุยและไม่อยากเห็นอะไรพี่ขอแค่นี้นะคะ”
“แล้วพี่ยาหยีจะไปไหนคะ”
ยาหยีหันไปสลัดมือของแบงค์สิบที่กุมอยู่ออกพร้อมกับพูดเบาๆ
“เมื่อกี้มีคนพูดอะไรออกมา รับผิดชอบที่พูดด้วย ช่วยพาออกไปจากที่นี่ด้วยละกัน”
แบงค์สิบยิ้มกริ่ม
ตอนนี้ความรู้สึกของเขาเพียงแค่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนคนตรงหน้าของเขา
อยากจะช่วยดูแลให้แข็งแรง
และข้อสำคัญเขาไม่อยากเห็นน้ำตาคนตรงหน้านี้อีก
แค่เห็นน้ำตาจากใบหน้าที่น่าถนอมนั่น
เขาก็แทบอยากจะซับน้ำตาให้อยู่แล้ว
เด็กหนุ่มหันไปหยิบกระเป๋านักเรียนพร้อมกับเดินตามยาหยีออกไปที่หน้าประตู
“นายโอโม่ดูแลน้องสาวพี่ดีดีนะ ขวัญดูแลตัวเองด้วยนะคะ” ยาหยีหันมาสำทับอีกครั้งก่อนจะออกพ้น
ประตูบ้านไป
“โอโม่ เราต้องคุยกันเดี๋ยวนี้” ของขวัญนั่งลงพร้อมกับจ้องหน้าคู่สนทนาอย่างจริงจัง
“เรื่องอะไรขวัญ”
“เรื่องนายแบงค์สิบเพื่อนนาย เล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้”
โอโม่รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
ตอนนี้เหมือนว่าเขากำลังถูกสอบปากคำให้รับสารภาพยังไงไม่รู้
“จะรู้เรื่องอะไรละขวัญ” น้ำเสียงอ่อยๆเหมือนจะพยายามสู้และปกปิด
“แบงค์สิบทำไมถึงยอมมารับคำท้าจีบพี่ชายเรา ตอบ” ขวัญชี้นิ้วเรียวยาวมาที่หน้าเด็กหนุ่ม
“ก็มันเห็นภาพและมันก็ว่าน่ารักดี ก็เลยถามนุ่นนี่นั่น” แถครับตอนนี้แถเอาตัวรอดไปก่อน
“แล้วนายแบงค์สิบมีแฟนยัง”
ตึงละลึงตึงๆ
แหมคำถามคาดคั้นเอาตายแบบนี้ โอโม่เอ๋ยจะเลี่ยงแบบไหนดี
คิด.....
คิด
“ไม่ตอบ คิดนานแสดงว่ามีแล้วชัวร์”
“ไม่ใช่อย่างนั้นกำลังคิดอยู่ไงว่าคนไหน”
“เยอะงั้นสิ งั้นก็อย่ามาหลอกหรือมายุ่งกับพี่ชายเรา รวมถึงนายด้วย พวกผู้ชายก็เหมือนกันหมด เห็นแก่
ตัว โกหก มักง่าย บ้ากาม” ของขวัญร่ายยาวออกมาจากความรู้สึก
“ไม่ใช่อย่างงั้นนะขวัญ คือมันก็มีคนคุยอยู่นะ และอีกอย่างขวัญก็รู้ของอย่างนี้ตบมือข้างเดียวยังไงก็ไม่
ดังหรอกนะขวัญ มันต้องสองมือมันถึงจะมีเสียงนะ”
ของขวัญพยักหน้า
แต่ตอนนี้หล่อนไม่อยากให้พี่ชายของตัวเองต้องมาเจ็บอะไรแบบนี้อีก
“อย่าทำร้ายพี่ชายเราได้ไหมโอโม่ บอกเพื่อนนายได้ไหมว่าอย่าทำให้พี่ชายเราเสียใจได้ไหมหา”
โอโม่ Theme
ผมจ้องดูใบหน้ารูปไข่ที่มองมาที่ผมด้วยความมุ่งมั่นและอาการขอร้อง
ผมหลบสายตาของขวัญไปไม่กล้าสบตาอะไรอีก
เพราะว่าสิ่งที่ผมกับไอ้แบงค์สิบกำลังทำอยู่ก็คือการทำให้พี่ของขวัญติดกับ
หรือเรียกง่ายๆแค่เล่นเกมส์นี้ด้วยเท่านั้น
ยิ่งของขวัญพูดอ้อนวอนเท่าไหร่
ความรู้สึกของเขาตอนนี้ก็คือ
ทำไมมีความคิดเลวๆแบบนี้
แล้วจะทำไงต่อละ
เล่นให้มันจบหรือเลิกกลางคัน
ตอนนี้ขวัญทำให้ผมกับไอ้แบงค์สิบเหมือนคนเลวมากๆในความรู้สึกของผมตอนนี้
ที่กล้ามาเล่นเกมส์ระยำแบบนี้กับคนดีดีถึงสองคน
ตอนนี้ไม่น่าเลย
ผมอยากจะขอโทษทั้งพี่ชายของขวัญและก็ตัวของขวัญเอง
แต่ตอนนี้ผมเลือกที่จะไหลตามน้ำไปก่อน
แล้วค่อยๆหาทางแก้ไขทีหลัง
เด็กหนุ่มยิ้มละมุนก่อนจะหันไปจ้องกลับที่หน้าเด็กสาว
“สัญญาลูกผู้ชายเป็นประกันครับขวัญ”
ของขวัญ Theme
หลังจากเห็นอาการพี่ชายตัวเองเมื่อครู่ ของขวัญรู้สึกผิดที่ดันเอาพี่ชายไปอยู่ในข้อเสนอบ้าๆของตัวเอง
เหมือนน้องสาวที่เอาแต่ได้เห็นแก่ตัวยังไงไม่รู้
แต่ถ้าพี่หยีไม่มีความสุข ของขวัญก็จะยีนข้างพี่ชายคนเดียวที่หล่อนรักสุดๆคนนี้เสมอ
พี่เจ็บ น้องก็จะเจ็บด้วย
พี่สุข น้องจะสุขด้วย
พี่ทุกข์ เราต้องช่วยกัน
เพราะอะไร ก็มีกันแค่สองพี่น้อง
ไม่รักกันไม่ห่วงกัน ไม่ได้หรอก
แล้วจะให้ทิ้งปัญญหาเอาตัวรอดคนเดียว
ทำแบบนั้นก็อกตัญญูเกินไปแล้ว
แล้วยิ่งเห็นนายแบงค์สิบจับกุมมือพี่ชายภาพนั้น
ทำให้ของขวัญยิ่งอยากรู้ว่านายแบงค์สิบต้องการอะไรจากพี่ชายของเขา
หรือเพราะแค่ช่วยเพื่อนจากไอ้ข้อตกลงบ้าๆนั่น
แต่ที่หล่อนแอบเห็น
คือสีหน้าที่แสดงอาการห่วงใยของนายแบงค์สิบเวลามองพี่ชายของหล่อน
แต่อย่างว่า
มันคือจริงหรือเล่นกันละ
หล่อนจึงได้แต่ขอร้องโอโม่ไปเท่านั้น
อย่าทำร้ายพี่ชายหล่อนอีกเลยถ้าไม่ได้คิดอะไรก็อย่าเข้ามาในชีวิตของพี่หยีอีกก็แค่นั้น
หล่อนมองหน้าโอโม่พร้อมกับถอนหายใจออกมา
หล่อนยังไม่เชื่อในทุกคำตอบของโอโม่
หล่อนขอดูการกระทำมากกว่า
แต่ตอนนี้ที่หล่อนเป็นห่วงคือพี่ยาหยีกับนายแบงค์สิบนั่นตะหาก
..........................................................................................................
17.55 น. @ ปากซอยสุขุมวิท 55
“ไปไหนครับคุณหยี” แบงค์สิบเอ่ยถามเจ้าของร่างที่เดินนำไปแบบไร้วิญญาณ
“ไม่ได้ยินอีก” เด็กหนุ่มส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับวิ่งไปดักหน้า
“คุณหยี ถ้าไม่บอกผม ผมขออนุญาติพาไปเองนะครับ”
ยาหยีหยุดเดินพร้อมกับเงยหน้ามองคนตรงหน้า
"ขอบคุณ"
"แค่นี้เองเหรอ" แบงค์สิบทำเสียงเล็กเสียงน้อย
“หมดหน้าที่นายแล้ว ขอบคุณที่ช่วยแต่ตอนนี้นายกลับไปได้แล้ว ฉันอยากอยู่คนเดียว” เสียงเย็นชาเอื้อน
เอ่ยออกมา
“โหใจร้ายจัง” มันยิ้มเผล่เอียงคอ
“พอหมดความสำคัญก็ไล่ทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมาเลยเว้ย คนเรา น้ำใจมีไหมน้อ รู้งี้นะปล่อยให้ ปล่อย
ให้เนอะดีกว่า”
“จะเอาอะไร บอกมา” ยาหยีขึ้นเสียงตามอารมณ์ตัวเองตอนนี้ ยิ่งเห็นท่าทีกวนประสาททำเขาหงุดหงิดขึ้น
มาเฉยๆซะงั้น
“งั้นก็อย่าถามแล้วตามผมมาละกัน อ้ออีกอย่างผมอยากทำให้คุณสบายใจถ้าทำให้หงุดหงิดก็ต้องขออภัย
ด้วยนะครับ ” แบงค์สิบเอียงคอ ยิ้ม45องศาพร้อมทำเสียงจริงจังมาที่เขา
ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นนิดแต่ก็ไม่รอดพ้นจากการเห็นของเด็กหนุ่มตรงหน้าได้
เด็กหนุ่มหันไปเรียกรถแท๊กซี่พร้อมกับเปิดประตูโค้งเชิญให้ยาหยีขึ้นไป
ชายหนุ่มสั่นหัวก่อนจะก้าวขึ้นรถไป
“ถ้าไม่น่าประทับใจจะเขกกบาล” น้ำสียงประชดแกมเย็นชาดังออกมา
“ถ้าเป็นเดทอาจะดีกว่านี้นะ แต่นี่ปลอบใจแฟนก็แค่นี้ไปก่อนละกันนะคุณ”
แบงค์สิบหัวเราะหึหึก่อนจะหันไปหยิบหูฟังโทรศัพท์พร้อมกับหันมาเอาหูฟังอีกข้างมาใส่ให้กับยาหยีที่กำลัง
พักสายตา ปลายจมูกของแบงค์สิบอยู่ห่างแก้มของยาหยีไม่เท่าไหร่ถ้านับจากไอร้อนของลมหายใจที่เป่ารด
โดนแก้มเนียนของชายหนุ่มที่มากระทบกับริมฝีปากของตัวเอง
แบงค์สิบเงอะงะกับอาการตัวเองที่แอบเผลอมองแก้มเนียนของยาหยีจนชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาเพราะสัมผัส
ได้จากไอ้ร้อนที่เป่ารดพวงแก้ม
“จะทำไร” อารามตกใจร่างของยาหยีสะดุ้งขึ้นมาพร้อมกับแก้มเนียนของเขาที่ชนเข้ากับปลายจมูกและริม
ฝีปากของแบงค์สิบไปเต็มๆ
“ก็จะให้ฟังเพลง” แบงค์สิบที่ตอนนี้ตัวเองรู้สึกร้อนๆผ่าวๆพิกลยื่นหูฟังให้พร้อมกับใส่หูข้างตัวเองพร้อมกับ
กดเลือกเพลงแล้วเสมองไปนอกหน้าต่าง
ยาหยีรับมาใส่แล้วหันไปมองที่แบงค์สิบ
“อะไรของมัน แล้วเมื่อกี้ ดันไปชนมันอีก” ชายหนุ่มยกมือลูบแก้มตัวเองเบาๆพร้อมกับหลับตาฟัง
เพลงที่นายแบงค์สิบเปิดให้ฟัง ชายหนุ่มหันไปมองพร้อมคิดในใจ
ชอบฟังเพลงเก่าด้วยเหรอไง
เพลงเสียงของหัวใจของแอนธิติมา
ยาหยีก็ชอบฟังเพลงเก่าๆอยู่แล้วชายหนุ่มหลับตาอีกครั้งพร้อมกับร้องตามในใจ
ผ่อนคลายลงไปเยอะเลย
ขอบใจมากไอ้เด็กแสบ
ขอบคุณจริงๆ
ทำดีมาก...........................................
“ไม่ใช่เหงา ไม่ใช่เผลอ ที่ฉันนั้นรักเธออย่างง่ายดาย
ไม่ใช่ฉัน แค่อ่อนไหว ไม่ใช่ฟ้ามาดลใจให้รักเธอ
ไม่ใช่เหงา ไม่ใช่ฝัน ที่ฉันนั้นทำไปก็รู้ตัว
แปลกใช่ไหม ที่ไม่กลัว ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
แค่เพราะหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยพอ แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ
เสียงหัวใจเรียกร้องแปลกๆ ให้รู้สึกดีที่มีเธอ
ขอเชื่อหัวใจตัวเอง แค่สักครั้งนึง ถึงแม้ว่ามันดูเสี่ยง ที่ตัดสินใจ
ขอเชื่อในความรักสักหน่อย แม้รักนั้นอาจทำให้ช้ำใจ
อาจจะเร็ว หากใครมอง และคิดไม่เหมือนใครอย่างเขาเป็น
แต่ที่รู้ แต่ที่เห็น ไม่เห็นมีใครดีเหมือนเธอ
แค่เพราะหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยพอ แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ
เสียงหัวใจเรียกร้องแปลกๆ ให้รู้สึกดีที่มีเธอ
ขอเชื่อหัวใจตัวเอง แค่สักครั้งนึง ถึงแม้ว่ามันดูเสี่ยง ที่ตัดสินใจ
ขอเชื่อในความรักสักหน่อย แม้รักนั้นอาจทำให้ช้ำใจ
แค่เพราะหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยพอ แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ
เสียงหัวใจเรียกร้องแปลกๆ ให้รู้สึกดีที่มีเธอ
ขอเชื่อหัวใจตัวเอง แค่สักครั้งนึง ถึงแม้ว่ามันดูเสี่ยง ที่ตัดสินใจ
ขอเชื่อในความรักสักหน่อย แม้รักนั้นอาจทำให้ช้ำใจ
ขอเชื่อในความรักสักหน่อย แม้รักนั้นอาจทำให้ช้ำใจ”
ธนบัตร Theme
ตอนนั้นผมก็แค่กะจะเอี้ยวตัวไปใส่หูฟังให้เท่านั้นเอง
ไม่ได้เจตนาอะไรเลย จริงๆ
แต่ใบหน้าตรงหน้าผมทำเอาผมหยุดมองไปชั่วขณะ
ขนตางอนยาวเป็นแพสวยขับให้หน้าที่กำลังหลับตาอยู่นั้นน่ารักมากขึ้น
แก้มขาวเนียนใสดุละมุนพร้อมกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆเบาๆ
แค่นี้ทำเอาหัวใจของเขาเต้นตุ้มๆต่อมๆ
เสียชื่อหมดนายแบงค์สิบ มาอ่อนไหวกับผู้ชาย
ถ้าไม่นับน้องพลอยนี่
ก็คงเป็นอีกคนที่ทำให้ผมรู้สึกได้
และให้ความสำคัญไปอีกข้อ
คุณหยีแน่มากที่เป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ผมไปไม่เป็นจริงๆ
ทำให้ผมหวั่นไหวแปลกๆ
ผมยังไม่ได้เบี่ยงเบนใช่ไหม
ความรู้สึกอยากรู้ว่าแก้มนั้นมันนุ่มแค่ไหนค่อยกระพรือขึ้น
ลมหายใจพ่นเป่าที่รดแก้มของคนตรงหน้าทำเอาร่างนั้นๆค่อยปรือตามองมาขึ้นพร้อมกับสะดุ้งตกใจ
แก้มเนียนเข้ามาปะทะเต็มๆกับจมูกและปากของเขาเองโดยอัตโนมัติ
เด็กหนุ่มตอนนั้นมีสติอยู่ดีไม่ได้ตกใจอะไรก็เลยกดปลายจมูกและริมฝีปากของตัวเองให้จมกับแก้มที่เด้งขึ้น
มาอย่างจงใจ
“ช่วยไม่ได้นะคุณหยี ผมอยากรู้ว่าแก้มคุณมันนุ่มไหม คุณเสนอมาเองนะหุหุ”
แต่ตัวเขาเองกับรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า
แต่ใบหน้าที่ราบเรียบของผุ้ถูกหอมนั้นเหมือนจะไม่ได้คิดอะไร
คงนึกว่าเป็นอุบัติเหตุ ทำหน้าอึนอีกและ
แต่ว่าแบงค์สิบเองตะหากที่กำลัง
วูบๆไหวๆกับหัวใจ
กลิ่นหอมละมุนกับความนุ่มเนียนยังตรึงที่ปลายจมูกและริมฝีปาก
เด็กหนุ่มต้องกลั้นอารมณ์พลุ่งพล่านหันไปเลือกเพลงให้ยาหยีฟัง
ที่เขาเองก็ชอบฟังเพลงเก่าอยู่แล้ว
เพราะว่าเขาเล่นดนตรีกับเพื่อนๆอยู่เวลามีงาน
เพื่อนในกลุ่มนั่นแหละ เห็นแบบนั้นรวมกลุ่มเล่นเมื่อไหร่
สาวแท้ตายสาวเทียมสลบ
เพลงนี้และกัน
เสียงของหัวใจ
ถ้ามันจะสื่ออะไรออกมาผมไม่รู้เลยนะตอนนี้
ผมรีบหันออกไปนอกหน้าต่างเพื่อกลบอาการตัวเอง
“ทำไมวันนี้เพลงนี้มันเพราะกว่าเดิมนะ”.............
จากใจไรท์เตอร์
ขอบคุณทุกเม้นขอบคุณทุกรีดเดอร์
แบบเกินคาดกับเรื่องนี้ขอบคุณจากใจจริงๆ
Chakriya Kongpaopong (@charainy) ค้างอะไรกันอิอิ แบงค์สิบอ่านตอนนี้แล้วกำลังสับสนตัวเองอยู่นะส่วนยาหยีอึนต่อไป55555
moon สมน้ำนมเนื้อนี่คืออะไรเอ่ย5555 เชียร์ได้ไม่ว่ากัน
Be CraZie (@be-crazy) กลับมาป่วนกลับมาวุ่นวายเลยต่อจากนี้ แบงค์สิบตอนนี้ก็ทำดีนะ
ปล...ติดตามเยอะไรท์ดีจัยนะแต่เม้นท์น้อยกว่าติดตามก็น้อยใจนะคือขอกำลังใจไปสร้างสรรค์ผลงานให้รีดเดอร์ได้ไหม
ทั้งงานทั้งเรียนแต่ยังปลีกเวลามาสร้างผลงานให้ความสุขกับรีดเดอร์นะขอบ้างนะ.......
ความคิดเห็น