คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เพื่อ..อะไร
16.45 น.@บ้านยาหยี
“พี่เนส พี่ปรางค์ หวัดดีคะ” เด็กสาวยกมือไหว้ตามหน้าที่พร้อมกับเบะปากออกมาเมื่อรู้ว่าใครมาหาพี่ชาย
เธอจนยาหยีต้องหันมาปรามตาเขียวก่อนจะไล่ให้น้องสาวและเพื่อนไปนั่งที่โต๊ะรับแขกหน้าบ้าน
"ไปเลยยายตัวดี"
"ชิพี่หยีก็" น้ำเสียงรั้นไม่ได้ดังใจ
เด็กสาวรู้เรื่องราวทั้งหมดดีเพราะว่าพี่ชายของหล่อนช่วงที่อกหักใหม่ๆนั้นถึงกลับนั่งเงียบไม่ยอมปริปาก
อะไรและกว่าจะเล่าให้ฟังตามประสาพี่น้องที่มีกันอยู่สองคน ก็ต้องใช้เวลาอยู่นานแม้ว่าของขวัญจะให้คำ
ปรึกษาได้ไม่ดีนักแต่เธอก็ยอมเป็นที่รับฟังเพื่อให้พี่
ชายสุดที่รักของเธอได้ระบายความอัดอั้นตันใจออกมา
ของขวัญไม่เคยเห็นความอ่อนแอและน้ำตาของพี่ชายตัวเองมาก่อน
นั่นเป็นครั้งแรกที่หล่อนเห็น
พี่ปรางค์มาขอเลิกกับพี่ยาหยีเพราะว่าต้องไปเรียนต่อและทำงานที่ญี่ปุ่น ต้องการอะไรที่มั่นคงมากกว่า
ตัดสินใจเลือกอนาคตที่ดีกว่าเดิม
เข้าใจนะว่ามีสิทธิเลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
แต่........................
ของขวัญเองก็ไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงคนนี้ว่าจะกลับมาหาทำไมกันในเวลานี้เวลาที่พี่ชายของเธอกำลัง
ดีอยู่แล้วแท้ๆ
ส่วนเรื่องพี่เนสคู่จิ้นของพี่ชายหล่อนสมัยเรียนมหาลัย พี่ชายไม่ได้เล่าอะไรมากมายนักรู้แต่เพียงว่าช่วงตอน
ที่พี่ปรางค์มาขอเลิกกับพี่ยาหยี นายเนสก็เข้ามาเหมือนจะมาแทนที่เหมือนจะเข้ามาเยียวยา
ช่วงนั้นเอาอกเอาใจมารับส่งพี่หยีที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง จนเธอเองก็แอบลุ้นตามประสาสาววาย
แล้วตอนก่อนจะจบปีสี่หลังจากนั้นพี่ชายหล่อนก็ไม่ได้เล่าอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่จิ้นคนนี้ที่จู่ๆก็หายไปจาก
ชีวิตของพี่ยาหยี
มารู้อีกทีพี่ปรางค์กับพี่เนสก็คบและหมั้นกันเรียบร้อยแล้ว
พี่ยาหยีซึมลงไปอีกรอบกว่าจะหายแข็งแรงเป็นปรกติได้ขนาดนี้ก็ใช้เวลานานโขอยู่
ของขวัญเลยไม่เข้าใจว่าสองคนนี้จะกลับเข้ามาในชีวิตของพี่ชายของหล่อนอีกทำไม
มาขอโทษ
สำนึกผิด
หรือต้องการมาดูหน้าเพื่อ
มาสมเพศ มาสมน้ำหน้า
หน้าด้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งคู่
“ชั่ว” สายตาของขวัญที่มองไปในห้องรับแขกแล้วหลุดสบถออกมาขณะนั่งอยู่ที่หน้าบ้านกับโอโม่และแบงค์
สิบ จนเด็กหนุ่มทั้งคู่สะดุ้งมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“ขวัญด่าใคร”
“อ่อ ก็เพื่อนพี่หยีที่นั่งข้างในนั้นไง”
แบงค์สิบเริ่มสนใจจึงถามแทรกออกมา
“มีไรเหรอขวัญเล่ามาสิ ไหนๆเราก็จะจีบพี่ชายขวัญดู เผื่อจะได้แก้ไขและปรับปรุงตัว” แบงค์สิบหันไปมอง
หน้ากับโอโม่พร้อมกับยิ้มที่มุมปากก่อนที่หันมาที่ของขวัญที่กำลังจ้องอยู่แบบคาดคั้น
ของขวัญมองหน้าแบงค์สิบเหมือนต้องการรู้ความคิดของเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ขวัญไม่รู้นะว่าแบงค์สิบเล่นๆหรือจริงจังกับเรื่องนี้ แต่ถ้ามาหลอกกันขวัญขอเลยละกัน และพี่ยาหยีไมได้
เป็นเกย์ไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่พี่หยีเป็นผู้ชายที่กำลังปิดกั้นตัวเองจากอดีต กำลังช้ำจากการถูกหักหลังและ
การหักอก พี่หยีจึงไม่กล้าตัดสินใจหรือเปิดรับกลับเลือกที่จะปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองมากกว่า”
“เย็นชาเหรอ” แบงค์สิบเริ่มรุกถาม
เด็กสาวส่ายหน้า
“ไม่ใช่หรอกแกไม่อยากถูกหักหลังอีก แกไม่อยากจะเจ็บปวดอีกครั้ง นายไม่รู้หรอกว่ากว่าพี่หยีจะเป็น
อย่างที่เห็นตอนนี้มันใช้เวลานานมากแค่ไหน ขวัญไม่อยากเห็นอาการแบบนั้นอีกแล้ว"
“แล้วคนข้างในคือ”
“พี่ปรางค์คือแฟนเก่าพี่หยีที่คบกันมาห้าปีตั้งแต่มัธยมปลาย” แบงค์สิบพยักหน้าพร้อมกับนึกในใจ
“ก็ดันน่ารักเกินหญิงไปนี่หน่า”
“แล้วไอ้พี่เนสคนที่เข้ามาเหมือนจะดามใจตอนที่พี่ปรางค์มาบอกเลิก ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและคู่จิ้นก็มาหัก
หลังเพราะพี่ปรางค์แอบคบกับพี่เนสซ้อนไปด้วยแล้วมาประกาศหมั้นกันอีก”
“โหขวัญพี่หยีน่าสงสารหว่ะ” เสียงโอโม่พูดออกมาพร้อมหันหน้าไปดูบบรรยากาศในห้องรับแขก
“แล้วหักหลังไม่ว่ายังส่งการด์งานหมั้นมาเยาะเย้ยให้ถึงบ้านอีก เลวได้อีกไหมล่ะ” ทั้งหมดนั่งดูเหตุการณ์
ในห้องรับแขก
และที่สำคัญแบงค์สิบกำลังมองอาการของยาหยีด้วยความรู้สึกเป็นห่วงนิดๆ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าเพราะอะไร
หลังจากฟังเรื่องราวความรักในอดีตของยาหยีแล้วเด็กหนุ่มกำลังมีความรู้สึกบางอย่างออกมา............
ความรู้สึกที่ตื้อๆในสมอง
ความรู้สึกแปลกๆในหัวใจของเขา
ที่ตัวเขาเอง.............
ที่ตัวเขาเองก็บอกไม่ได้ว่าไอ้ความรู้สึกที่กำลังเป็นแบบนี้มันคืออะไร
17.06 น.@ ห้องรับแขกบ้านยาหยี
“มาหาเรามีไรกันเหรอ” ยาหยีเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามหลังจากลุกไปหยิบน้ำเย็นมาตั้งไว้พร้อมกับของ
ขบเคี้ยว
“ปรางค์ก็มาหาแล้วก็” หญิงสาวจับมือเนสพร้อมกับหันไปยิ้มให้กันแล้วยื่นซองการด์แต่งงานมาให้
“เราเอาการด์งานแต่งงานมาให้หยีคนแรกเลยนะ”
"เฉพาะคนที่พิเศษเลยนะหยี" เนสพูดจบพร้อมกับหันมามองที่ยาหยีที่กำลังนิ่งอึ้ง
ภาพตรงหน้า ยาหยีรู้สึกร้อนผ่าวๆที่ดวงตา
ไม่ใช่อิจฉานะ
ไม่ได้โกรธ
แต่มันอยากจะร้องไห้มากกว่า
มันเป็นความรู็สึกที่ทรมานที่สุด
ความรู้สึกเก่าๆที่กำลังลืมเหมือนถูกรีเพลย์กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง
มันจุก
มันเจ็บ
มันไม่ไหว
สมองของเขาตอนนี้มันตื้อไปหมด
ขอบตาเต้นกระตุกริ้นๆ
น้ำกำลังเอ่อล้นมาคลอเต็มดวงตากลมโต
ภาพตรงหน้ามันดูพร่าเลือนเพราะม่านน้ำตากำลังกั้นปิด
ความเจ็บปวดมันเป็นแบบนี้นี่เอง
เหมือนกำลังถูกเหยียบย่ำ
เหมือนกำลังตกลงสู่เหวลึก
สิ่งที่ยาหยีอยากถามมากที่สุดแต่ไม่กล้าถามเพราะตอนนี้ทุกอย่างของตัวยาหยีมันดร๊อบลงไปหมดทุกอย่าง
มันล้มครืนตั้งแต่พวกนายลงมาจากรถแล้ว
มาทำไมมาเพื่ออะไร
ไม่เข้าใจหรือว่าไม่พร้อมจริงๆที่จะเจอ
ไม่แข็งแรงพอ
มาตอกฝาโลงกันให้ตายกันเลยใช่ไหม
ที่ผ่านมาไม่พอเหรอไง
ที่ผ่านมายาหยีมีหัวใจเหมือนกันนะ
ไม่ไหวแล้ว...มันจะไหลออกแล้ว
“อืม วางการด์ไว้เดี๋ยวเราต้มน้ำในครัวไว้ขอไปดูก่อน”
ยาหยีรีบผุดลุกหันหลังเดินเข้าไปในครัว อย่างรวดเร็ว
ไอ้น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลริ้นออกมาทันทีจากดวงตาทั้งสอง
ชายหนุ่มเดินไปที่ซิงค์ล้างจานแล้วเปิดก๊อกน้ำแล้วใช้มือตวัด ล้างหน้า โดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครอีกคนที่เดิน
ตามเข้ามาพร้อมกับสวมกอดเอวของเขาเอาไว้
ยาหยีสะดุ้งตกใจพร้อมกับหันมามอง
“เนส ปล่อย” ผู้ถูกห้ามไม่ได้ฟังดันร่างตัวเองแนบชิดสนิดกับร่างเล็กของยาหยีที่กำลังหันหลังอยู่พร้อมกับ
ใช้ส่วนเอวดุนดันบดขยี้บั้นท้ายของยาหยี
มือของผู้ลวนลามสวมกอดรัดให้แน่นขึ้นพร้อมกับพ่นลมหายใจเป่ารด
บริเวณต้นคอก่อนที่จะใช้จมูกและปากมาคลอเคลียบริเวณใบหูของยาหยี
ยาหยีกำลังสัมผัสอะไรบางอย่างที่เป็นลำแข็งทาบที่บั้นท้ายของเขา
ถ้าเมื่อก่อน..
เป็นเมื่อก่อนเขาคงรู้สึกดีกว่านี้หรือเปล่า
แต่ตอนนี้เขากลับมีความรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงจนขนลุก
“ปล่อย” เสียงเข้นดังขึ้น
ผู้ถูกห้ามใช้ริมฝีปากงับเข้ากับติ่งหู แล้วใช้ริมฝีปากคลอเคลียที่ซอกคอพร้อมกับกระซิบออกมาเบาๆ
“ถ้ามึงอยากให้ปรางค์เห็นว่ามึงกับกูทำไรกันอยู่ก็เอาเดะ”
“มึงแม่งเลว” ชายหนุ่มพูดเสียงรอดไรฟันออกมา
“หึๆ “ มันหัวเราะในลำคอพร้อมกับหันตัวผมให้เผชิญหน้ากับมัน มือทั้งสองยังคงตวัดรวบกอดรัดไว้ที่เอว
อย่างแน่น
ยาหยีไม่ได้เต็มใจแต่ไม่ทันตั้งตัวเลยมากกว่า
“กูเกลียดมึง”
“แน่ใจว่าเกลียดกู ปากไม่ตรงกับใจเลยนะหยี ปากมึงยังหวานอยู่ไหมนะ จูบครั้งนั้นของเรามันทำกู” พูด
จบมันก็ค่อยๆเลื่อนริมฝีปากลงมา
ยาหยียกมือขึ้นดันแต่ในสถานการณ์แบบนี้เป็นรองเต็มๆ
"ปล่อย" เสียงยาหยีเค้นออกมารอดไรฟัน
“ทำไรกันครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาทำให้เนสรีบปล่อยมืออกจากการสวมกอด
ยาหยีก็ผลักมันให้ห่างออกไปอีกทีพร้อมกับยกมือปาดน้ำตา
“แบงค์สิบ” ยาหยีหันไปพร้อมกับตาแดงๆ สายตาที่มองมาที่เด็กหนุ่มทำให้เด็กหนุ่มรีบตรงเข้ามาอย่างเร็ว
“มันทำไรคุณนะหยี” เด็กหนุ่มจับมือแล้วบีบมือเบาๆพร้อมกับหันไปมองที่ตัวการ
“เปล้า....เพื่อนทักกันภาษาเพื่อน เกี่ยวไรกับมึง” มันมองมาที่เด็กหนุ่มแล้วมองไปที่มือของยาหยีที่ตอนนี้
กำลังถูกจับกุมจากเด็กหนุ่มอยู่ แบงค์สิบมองดูสีหน้าที่ซีดพร้อมกับคราบน้ำตาใหม่ๆตรงคาบแก้มของ
ยาหยีพร้อมกับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมา จากสิ่งที่เห็น
“เพื่อนพ่อมึงเหรอทำกันแบบนี้” ไม่จำเป็นต้องมีความเคารพกับคนแบบนี้ ความคิดของแบงค์สิบตอนนี้
“หึแล้วมึงเป็นใครไอ้เด็กไม่หย่าน้ำนมหา อย่ามาเสือกเรื่องผู้ใหญ่” เนสยกริมฝีปากเยาะ
“มึงดูปากกูชัดๆนะ กูแฟนยาหยี แฟนของยาหยี แล้วกูจะเสือกได้ไหมหล่ะ มึงเลิกมาตอแย เลิก
สันดานเสือไบของมึงได้และ ไม่งั้นกูจะบอกว่าที่เมียของมึง” เด็กหนุ่มคว้ามือยาหยีเดินออกมาก่อนจะหัน
กลับมาพร้อมกับชี้หน้า
“กูถ่ายไว้แล้วนะสิ่งที่มึงทำทั้งภาพและเสียงกูทำให้มึงอดแต่งงานได้นะถ้ามึงยังเข้ามาในชีวิตของแฟนกูอีก”
ยาหยีกำลังงุงงงกับเหตุการณ์ทั้งหมด เรียกว่าไม่ทันตั้งตัวเลยปล่อยให้เด็กหนุ่มจูงมือเขาออกไปจากห้อง
ครัวไปที่โต๊ะรับแขกหน้าบ้าน
“ไอ้เด็กนรก” เนสมองตามไปพร้อมกับเอามือตบไปที่โต๊ะในครัว
“กูไม่ยอมปล่อยมึงหรอกหยี ของที่เคยเป็นของของกู กูจะเอาของกูคืน"
ความคิดเห็น