ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เวลา
@07.40 น.
ของขวัญเดินลงบันไดมาพร้อมกับมองไปที่โซฟาตัวเมื่อคืน บัดนี้ว่างเปล่าไม่มีร่างของพี่ชาย
ของเธอและนายแบงค์สิบอยู่
แต่ประตูหน้าบ้านถูกเปิดทิ้งเอาไว้ ของขวัญจึงค่อยๆเดินไปที่ประตูพร้อมกับได้ยินเสียงคุยกัน
ของขวัญชะงักฝีเท้าลงแล้วฟังการสนทนานั้นอยู่หลังประตูอย่างเงียบๆ
"ดีขึ้นแล้วนี่" ยาหยียื่นถ้วยนมให้เด็กหนุ่มพร้อมกับเดินไปที่กระถางกุหลาบขาวที่กำลังบานสะพรั่งเต็ม
ต้นพร้อมกับหยดน้ำฝนที่เกาะสะท้อนกับแสงอาทิตย์ตอนเช้าราวกับประกายของเพชรระยิบระยับพราว
ไปทั้งต้น
"คุณชอบกุหลาบเหรอ" แบงค์สิบถามเมื่อเห็นแววตาประกายของยาหยีที่มองที่ต้นไม้โดยไม่ได้สนใจคู่
สนทนาเลย
"ไม่เชิงนะ แต่ต้นนี้ซื้อมาตั้งแต่ต้นเล็กๆดูแลจนโตเห็นเขาโตขนาดนี้ใครจะไม่ดีใจละ"
ยาหยีดึงใบกุหลาบที่เริ่มเหลืองออกพร้อมกับก้มดมกลิ่นหอมของกุหลาบ
ลำแสงที่ตกกระทบกับใบหน้าของชายหนุ่มทำให้แบงค์สิบต้องมองภาพนั้นด้วยความสนใจ
ความเป็นธรรมชาติกับอาการที่ยาหยีแสดงอยู่ตอนนี้กำลังดึงความสนใจจากหัวใจเขาไปเรื่อยๆ
เด็กหนุ่มค่อยๆเดินไปฝั่งตรงข้ามพร้อมกับก้มตัวลงมาหอมแก้มของยาหยีเบาๆ
"ผมว่านี่ก็หอมไม่แพ้กุหลาบเลยนะว่าไหม"
ยาหยีนิ่งราวถูกสะกดก้อนหินโดนน้ำทุกวันยังกร่อนได้แล้วหัวใจของเขาละถ้าขืนยังถูกบุกอยู่อย่างนี้ทุก
วันใจเขาต้องอ่อนลงไปแน่ๆ
"กลับไปได้แล้วไม่มีเรียนเหรอไงเดี๋ยวต้องไปทำงานแล้วนะ ส่งตรงนี้เลยนะ"
ยาหยีตัดบทดื้อๆพร้อมกับผลุบเข้าบ้านไปทิ้งให้แบงค์สิบยืนนิ่งงงกับอาการนั้น
"แบงค์สิบ" เสียงของของขวัญเรียกชื่อของชายหนุ่มจนทำให้เขาได้สติกลับคืน
"หาขวัญ" ชายหนุ่มหันหน้าไปที่ของขวัญที่ยืนจ้องมองชายหนุ่มด้วยสายตาเย็นชา
"เลิกยุ่งกับพี่หยีซะแล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก ขวัญขอนะ" แววจาของเด็กสาวสั่นระริก
"ทำไมละขวัญ"
"เราไม่อยากเห็นพี่เราเจ็บและเราอยากให้นายอย่าเห็นพี่เราเป็นเหยื่อของเกมบ้าๆนี่ เราทำร้ายพี่เราไม่
ได้หรอกนะ เพราะฉะนั้นขอร้องนะออกไปจากชีวิตพี่เราเถอะ ขอร้องนะได้โปรด"
เสียงสั่นเคือราวกับคนสำนึกผิดพร้อมกับน้ำตาที่หมดแรงยึดเหนี่ยวก็ไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสอง
ข้าง
แบงค์สิบนิ่งยืนมองร่างเด็กสาวหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านไปทิ้งให้เขายืนนิ่งราวกับถูกสาปไว้
เด็กหนุ่มหลับตาลงช้าๆพร้อมกับเงยหน้าขึ้น
"ไม่มีเหตุผลอะไร ใช่แล้วจบเกมส์บ้าๆแบบนี้สักทีเหอะ"
เด็กหนุ่มคิดในใจพร้อมกับเดินไปวางแก้วนมที่โต๊ะพร้อมกับเดินออกประตูไป
ผ้าม่านค่อยๆถูกปิดลงพร้อมกับร่างของยาหยีที่ยืนพิงนิ่งพร้อมกับใบหน้านิ่งสนิทราวกับรูปปั้น
......................................................................................................................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................
@11.30 น. ณโรงอาหารโรงเรียนของแบงค์สิบ
"ไม่กินข้าวเหรอมึงไอ้แบงค์สิบ" เสียงโอโม่ทักเพื่อนสนิทพร้อมกับวางจานข้าวพร้อมกับขวดน้ำเปล่า
ไม่มีเสียงตอบรับออกมาจาปากของเด็กหนุ่มร่างนั้นนั่งนิ่งเหมือนกับหุ่น
"มันเป็นไรหว่ะ อาการเหมือน"
"เหมือนอะไรไอ้เกมส์" โอโม่หันไปถามเพื่อน
"อาการแบบนี้คนอกหักเลยนะมึง"
"หาคนอย่างให้แบงค์สิบนี่นะ ใครหว่ะทำได้แม่งกูขอมอบถ้วย"
ไอ้แซคลั่นออกมาแต่ไม่มีปฎิกริยาใดๆออกมาจากเด็กหนุ่ม
โอโม่เดินไปจับไหล่โยกเบาๆจนเด็กหนุ่มคืนสติ
"มึงเป็นไรไอ้แบงค์ กูเรียกกูถามอะไรมึงก็นิ่งไม่ตอบไม่เออออ ตั้งแต่มึงมาเมื่อเช้าแล้วอะไรของมึง"
แบงค์สิบมองไปที่เพื่อนทีละคนๆแล้วก็ส่ายหัวเบาๆ
"พวกมึงเห็นแก่ตัวไปเปล่าหว่ะ" เด็กหนุ่มโพล่งออกมาอย่างเหลืออด
"ไอ้เกมเดิมพันบ้าๆของพวกมึงกูยอมแพ้เลิกเล่นนะเว้ยเดี๋ยวกูจะหาเงินมาคืนพวกมึงละกัน"
เด็กหนุ่มลุกขึ้นพร้อมกับหันไปที่โอโม่
"ถ้ามึงรู้สึกรักใครซักคนมึงคงไม่อยากคิดหรืออยากจะทำร้ายคนที่มึงรักหรอกไอ้โม่"
แบงค์สิบพูดเสียงเข้มก่อนจะเดินออกไปจากโรงอาหารไปอย่างรวดเร็ว
"มันเป็นไรของมันหว่ะไอ้นี่"
โอโม่รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
"อ้าวไอ้คู่นี้อะไรกันหว่ะ" แซคเอ่ยขึ้นพร้อมกับเกาหัว
.........................................................................................................................
แบงค์สิบเปิดน้ำที่อ่างล้างมือพร้อมกับใช้มือปัดน้ำไปมาสลับกับกวักมาล้างหน้า
"ไอ้แบงค์" เสียงเรียกของโอโม่ทำให้แบงค์สิบหยุดพร้อมกับมองที่กระจกโดยไม่ได้หันมา
"มึงเป็นไรคุยกับกูก่อนเดะ"
"หึ ของขวัญเค้าขอร้องให้กูเลิกยุ่งกับพี่ชายเค้าเลิกเล่นเกมส์เหี้ยๆอะไรของมึงซะที อ้อแล้วอีกอย่างกูไม่
ได้ชอบผู้ชายมึงเข้าใจกูปะให้กูไปจีบผู็ชาย มึงบ้าเกินไปแล้ว"
"เดี๋ยวนะมึงโมโหมึงเครียดเรื่องที่เล่นเกมส์หรือมึงเครียดที่ของขวัญให้มึงเลิกยุ่งกับพี่ชายของเค้ากันแน่หว่ะ"
เหมือนถูกแทงใจดำอย่างแรงแบงค์สิบหันมาคว้าคอเสื้อของเพื่อนพร้อมกับเงื้อหมัดขึ้น
"เอาสิมึงต่อยกูเลยถ้ามันจะทำให้มึงสบายใจขึ้น แต่มึงถามตัวมึงก่อนละกันว่ามึงเป็นเหี้ยไรกันแน่ถึงได้
อารมณ์เสียแบบนี้ ถามใจของมึงเองเถอะไอ้แบงค์"
"กูบอกให้มึงหยุดไอ้โม่ ไม่งั้นจะหาว่ากูไม่เตือนนะเว้ย"
แบงค์สิบกระชากคอเสี้อของโอโม่เข้ามาอย่างแรง
โอโม่ใช้มือจับมือที่จับคอเสื้อของเขาอยู่พร้อมกับจ้องไปที่หน้าเพื่อนสนิทที่กำลังของขึ้น
"มึงชอบพี่เขาแล้วใช่ไหมไอ้แบงค์"
มือของแบงค์สิบที่จับคอเสื้อของโอโม่ค่อยๆคลายออกช้าๆพร้อมกับหันหลังกลับไปที่อ่างล้างมือไม่มีการ
ตอบคำถามที่ถูกทิ้งท้ายเอาไว้โอโม่มองเพื่อนพร้อมกับถอนหายใจ
"มึงไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆนะแบงค์ ทำไมมึงไม่ทำให้ของขวัญรู้ไปเลยละว่ามึงชอบพี่เขาจริงๆ
แล้วไม่ได้เล่นเกมส์อะไร ยิ่งมึงยิ่งทิ้งยิ่งหนีออกมาย่อมแสดงว่ามึงเป็นอย่างที่ของขวัญว่าไว้สิหว่ะ"
"เหรอไอ้โม่แล้วมึงรู้อะไรไหม ว่าพี่สาวของพลอยคืออดีตแฟนเก่าของพี่ชายขวัญที่มึงกับกูไปเจอที่บ้าน
และถ้านั่นยังไม่พอไอ้ผู้ชายที่มึงเห็นคนนั้นที่เป็นคู่หมั้นของพี่สาวพลอยคืออดีตของพี่หยี ยุ่งพอไหมละ
มึง แล้วถ้ากูยังถลำลงลึกไปอีก ไม่ใช่แค่พลอยแฟนกูเสียใจ ทั้งพี่สาวพลอยคู่หมั้น ของขวัญ มึง และ
หยีก็ต้องเสียใจกับเรื่องเหี้ยๆนี้ทั้งหมด มึงเห็นไหมไม่ใช่การมีผลกระทบแค่คนๆเดียวนะไอ้โม่ มันเป็น
คลื่นใต้น้ำที่โดนกันหมด ไม่เกี่ยวที่กูรู้สึกยังไงแต่มันเกี่ยวที่พวกมึงกับพวกเขาจะกระทบกันยังไง
มากกว่ากับไอ้เกมส์บ้าๆที่พวกเราเล่นกันเพื่อเดิมพัน มึงจะให้กูทำไงบอกกูมาเดะ"
แบงค์สิบร่ายยาวออกมาทั้งหมดที่มันอัดอั้นออกมา ที่พูดออกมามีส่วนมากแต่มีอีกส่วนที่เขาไม่ได้พูด
ออกมาให้เพื่อนเขารับรู้มีแต่เขาคนเดียวที่รู้อยู่คนเดียวลึกๆในใจ...................................................
เวลานี้...........แบงค์สิบเริ่มมีความรู้สึกกับยาหยีไปแล้วเท่านั้นเอง....................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น