คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [OS : EXO] Coffee Love :: KRIS x TAO
�
Coffee LOVE..
� � � � � �ท่ามกลางบรรยากาศวุ่นวายของเมืองหลวงอย่างโซลแต่ก็ยังมีสถานที่เล็กๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านกาแฟแล้วก็ร้าน
ขนมมากมายส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณที่ตั้งติดกันทั้งสองฝั่งของถนน รวมไปถึงร้าน " Coffee Fan " ร้านนี้ด้วย
เช่นกัน
ป้ายกระดานดำที่ตั้งอยู่หน้าร้านถูกวาดเป็นรูปเครื่องดื่มหลายแก้วพร้อมทั้งนำเสนอเมนูสุดพิเศษที่ใครหลายคน
ต่างมาแล้วก็พากันสั่ง มองเลยเข้ามาจะเห็นที่นั่งมากมายแบ่งเป็นโซนที่นั่งด้านหน้าของร้านที่สามารถรับกลิ่นไอของ
ธรรมชาติจากต้นไม้ใหญ่น้อยที่ปลูกไว้รอบบริเวณร้าน ครั้นพอเปิดประตูกรอบไม้ที่หุ้มกระจกหนาใสไว้เข้ามาจะมีเสียง
กระพรวนดังขึ้นเบาๆ แต่ก้องไปทั่วทั้งร้านอีกทั้งภายในยังมีการจัดโซนแบ่งไว้อย่างเรียบร้อย
เรียกได้ว่าบรรยากาศของร้านรวมทั้งสไตล์การตกแต่งก็ได้ใจคนมาเยือนไปกว่าครึ่งแล้ว เสียงกรุ๊งกริ๊งจาก
กระดิ่งหน้าร้านดังแว่วไปทั่วทั้งร้านตามด้วยเสียงพนักงานกล่าวต้อนรับอย่างเป็นกันเองกับผู้มาเยือน เสียงเครื่องบด
กาแฟกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของขนมที่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าเพิ่งจะอบออกมาได้ไม่นานอบอวลไปทั่วทั้งร้าน
ร่างโปร่งทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะด้านในสุดติดกับกระจกสามารถมองเห็นวิวถนนจากทางด้านนอกได้เป็นอย่างดี ดวงตา
คมเหม่อมองออกไปไกลแล้วถึงหยิบเมนูที่พนักงานเสริฟยื่นมาให้ กวาดสายตาไปทั่วสักพักปากบางก็ขยับยิ้มออกมาเมื่อ
เจอเป้าหมายที่ต้องการ
" เอาช็อคโกแลตครีมปั่นกับพายแอปเปิ้ลครับ " ร่างโปร่งเอ่ยบอกไปคนที่กำลังก้มเขียนออเดอร์ ร่างสูงพยักหน้า
กลับมาให้แล้วเงยหน้าขึ้นทวนเมนูอีกครั้ง
" มีอะไรจะรับเพิ่มไหมครับ? " เสียงเข้มถามขึ้นซ้ำแต่คนที่นั่งอยู่ก็ส่ายหน้ากลับไปให้ มองจนคนตัวสูงที่มารับ
ออเดอร์เมื่อกี๊เดินหายเข้าไปวางใบรายการที่ด้านหน้าเค้าน์เตอร์แล้ววกไปที่อีกโต๊ะเมื่อมีเสียงเรียกดังขึ้น
ยอมรับเลยว่าเค้กหรือกาแฟที่นี่ไม่ได้อร่อยไปมากกว่าร้านไหนแต่ที่ทำให้มีคนเดินผ่านเข้าออกตลอดเวลาก็คงจะ
หนีไม่พ้นกับบริกรหนุ่มทั้ง 4 คนที่หน้าตาจัดว่าเข้าขั้นหล่อละลาย แล้วไหนจะพนักงานส่วนอื่นๆ ในร้านที่เป็นชายล้วนอีก
เรียกว่าเปิดร้านมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงโดยเฉพาะ ทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ก็คงดูไม่ยากแต่ก็ยังมีผู้ชายแวะเวียนกัน
เข้ามาให้เค้าพอได้เห็นบ้างประปราย
และที่ร้านนี้มีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือในช่วงตอน 4-5 โมงเย็น ที่ร้านนี้จะมีการเล่นดนตรีสดแบบอะคลูสติคจาก
หนุ่มๆ บริกรทั้งสี่ที่นอกจากหน้าตาดีแล้วยังมีอะไรที่ดีมากกว่าหน้าตาอีกด้วย ดวงตาคมก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลา
อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลา 4 โมงเย็นแล้วพอดีกับที่ของที่สั่งไว้มาเสริฟตรงหน้า
" ขอบคุณครับ " คำสั้นๆ ถูกเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มสวยที่ไม่ว่าใครมองก็ไม่อาจละสายตาไปได้รวมถึงคนที่
ทำหน้าที่เสริฟเครื่องดื่มและขนมให้กับร่างโปร่งเมื่อกี๊นี้
" แดงไปยันหูแล้วพี่อี้ฟาน " เสียงแซวจากน้องเล็กตัวสูงพร้อมกับแรงจิ้มนิ้วลงที่แก้มคนตัวสูงเบาๆ เป็นเชิงล้อเลียน
" อย่าแซวไอ้จงอิน " คนเป็นพี่แกล้งเอามือปิดซีกหน้าตัวเอง ก้มลงเล็กน้อยแล้วยิ้มออกมา
" เมื่อไหร่พี่จะบอกชอบเค้าอ่ะ นี่ผมเห็นเค้ามาที่ร้านเราบ่อยมากเลยนะ " เซฮุนที่เพิ่งกลับมาจากเสริฟ
เครื่องดื่มรีบเข้ามาร่วมวงแซวพี่ใหญ่หรืออีกนัยก็คือเจ้าของร้านกาแฟ Coffee Fan แห่งนี้
" อย่ารีบ เดี๋ยวไก่ตื่น "
" ไก่ตื่นหรือแพนด้าตื่นกันแน่พี่ " ยังไม่วายมีเสียงจงอินแทรกเข้ามาแซวอีกจนอี้ฟานต้องยกขาเตะก้นไอ้เด็กดำนั่น
ไป
" ไปเตรียมตัวได้แล้ว " เสียงลู่หานดังออกมาจากฝั่งคิดเงินแล้วชี้ไปยังมุมที่ทุกคนรอคอย
ร่างสูงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงกลางที่ถูกจัดไว้ทั้งหมด 4 ตัวตามด้วยชานยอลที่นั่งลงบนกลองคาฮองประจำตัว
ส่วนด้านข้างทั้งซ้ายและขวาเป็นเซฮุนที่เดินมาจิ้มแป้นคีย์บอร์ดเพื่อฟังเสียงก่อนกับจงอินที่หยิบกีต้าร์ขึ้นมาวางบนตักใน
เวลาไล่ๆ กัน
อี้ฟานกวาดสายตามองไปรอบร้านก่อนจะมองจ้องไปที่คนที่นั่งอยู่มุมในสุดแต่สายตาจับจ้องมาทางเค้าอย่างปิด
ไม่มิด พอโดนมองชนิดไม่วางตาแบบนั้นคนตัวสูงก็ถึงกับประหม่าไปแต่ก็เพียงแว๊บเดียวเท่านั้นเพราะสายตาล้อๆ ของ
ไอ้สามตัวด้านหลังมันมีผลมากกว่าน่ะสิ
" วันนี้จะขึ้นด้วยเพลงอะไรอ่ะพี่ " ชานยอลโน้มตัวมาถามแล้วมองมือที่กำลังเปิดโน้ตเพลงค้างไว้
" พูดไม่ค่อยถูก "
" บอกใครรึเปล่าเนี่ย " ชานยอลแกล้งแซวแล้วก็รีบถอยหลังหลบออกไปทันทีที่พี่ชายตัวสูงยกมือขึ้นจะตีเค้าแทน
อาการเขิน
" สวัสดีครับ วันนี้พวกเราก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นผ่านไมค์ด้านหน้ากับรอยยิ้มหล่อเหลือร้ายที่
ยกขึ้นบนใบหน้าหล่อนั่นทำเอาสาวๆ หนุ่มๆ ในร้านพากันส่งเสียงแซวจนคนที่เป็นร้องนำต้องยิ้มเขินออกมา
เสียงกีต้าร์ของจงอินดังขึ้นเบาๆ คนตัวสูงผิวสีแทนดูจะตั้งใจกับการเกริ่นนำของเพลงนี้มากพอๆ กับที่เสียงคน
ตัวสูงที่ร้องใส่ไมค์
�
ฉันก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่และก็ไม่รู้มาไกลแค่ไหนบนทางที่เราสองคน..เดินผ่านไป
รู้แค่ว่าฉันนั้นไม่เคยบอก รู้แค่ว่าฉันนั้นไม่เคยหลอกความรู้สึกนั้นถ้าจะบอกไม่รู้ต้องพูดตอนไหน..
�
�
จงอินกับเซฮุนเหล่มองพี่ชายตัวสูงที่ยังคงมองไปที่ใครบางคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้รู้รึยังว่าเพลงนี้ตั้งใจมอบให้ใคร
�
�
ไม่รู้ว่าต้องคบกันไปกี่ปีต้องมีเรื่องราวที่ดีมากมายเท่าไหร่..
ถึงจะควรพูดมันออกไป �คำสั้น ๆ คำเดียวนี้..
ไม่รู้ว่าเธอนั้นรออยู่ไหมหรือจะปล่อยไปให้เป็นอย่างนี้ แต่คิดดูอีกทีเก็บไว้ก็ไม่ดี..
�
�
คนตัวสูงมองสบตาร่างโปร่งที่อมยิ้มออกมาให้กับเพลงที่เค้ากำลังร้องอยู่ ไม่รู้ว่ารู้ความหมายของเพลงที่เค้าสื่อ
ไหมแต่จะเหมารวมว่าร่างโปร่งนั่นรู้ก็แล้วกัน
" วันนี้ร้องเพราะกว่าทุกวันนะครับ คิดแบบเดียวกันไหม? " คนถูกถามหันมามองก็เจอร่างเล็กที่ถือโอกาสนั่งลงฝั่ง
ตรงข้าม พิงเบาะแล้วยกสองแขนเล็กขึ้นกอดอกแถมยังหันมามองเค้าแล้วยิ้มให้
" ผมก็คิดแบบนั้นครับ วันนี้ดูพี่อี้ฟานเค้าร้องซึ้งแปลกๆ " อีกคนนึงพูดกลับแล้วยิ้มไปให้
" จื่อเทาไม่คิดว่ามันกำลังร้องจีบใครอยู่เหรอ " คนตาสวยคิ้วขมวดเข้าหากันแล้วหันมามองคนตัวเล็กที่ยังส่งยิ้ม
มาให้เค้า
" อ่า.. ผมก็ไม่รู้สิครับ " มือบางคว้าแก้วช็อคโกแลตของตัวเองขึ้นดูดก่อนจะเบนสายตาไปมองคนตัวสูงด้านหน้า
ต่อ
�
อาจจะพูดไม่ค่อยถูก.. พูดไม่ค่อยออกแต่จะบอกให้เธอได้ฟังเบื้องหลังทุกๆ อย่าง
ที่เก็บอยู่ในหัวใจ สิ่งที่ฉันนั้นรู้สึก.. ลึกถึงข้างในรวมได้เป็นความหมายคำเดียวเท่านั้น
วันนี้ฉันพร้อมให้เธอฟัง ..ยังรออยู่ไหม..
�
�
นัยต์ตาคมประสานกันก่อนที่คนตัวสูงด้านหน้าจะยิ้มออกมา ยิ้มชนิดที่ว่าคนมองถึงกับใจสั่นไม่เป็นตัวของตัวเอง
อีกครั้งเพราะหลังจากที่ใจกล้ามองสบตาคมนั่นเค้าก็รู้สึกเสียหลักไปเหมือนกัน อุตส่าห์มาที่ร้านนี้บ่อยๆ กับความคิดที่ว่า
ชอบใครก็ต้องบุกไปให้เห็นบ่อยๆ เผื่อว่าไอ้ความเขินนั่นจะได้หายไป แต่ที่ไหนได้ยิ่งเจอก็ยิ่งเขิน พอมาเจอสายตาหวาน
เมื่อกี๊ยิ่งเขินไปกันใหญ่
นี่เค้าจะขอเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าพี่อี้ฟานอาจจะชอบเค้าเหมือนกับที่เค้าชอบก็ได้
" ไม่เอาดอกไม้ไปให้นักร้องหน่อยเหรอ " เสียงเดิมยังดังขึ้นข้างตัวพร้อมกับใบหน้าเล็กที่พยักเพยิดไปทางด้าน
หน้าที่มีเหล่าแฟนคลับแอบเอาดอกไม้ไปยื่นให้คนร้อง
" พี่เค้าคงได้เยอะแล้ว ไม่เอาหรอกครับ "
" เพิ่งรู้ว่าจื่อเทาขี้เขินนะ "
" ผมไม่ได้เขินสักหน่อยพี่ลู่หาน " คนอายุน้อยกว่าเบะปากใส่พี่ชายตัวเล็กที่นั่งยิ้มใส่หน้าเค้าแล้วเจ้าตัวก็จิ้มนิ้วลง
ที่แก้มใสเบาๆ
" เขินก็บอก หน้าแดงแล้ว "
" ไม่เถียงแล้วครับ! " จื่อเทาเบะปากใส่แล้วหยิบแก้วช็อคโกแลตของตัวเองขึ้นดูดต่อ
" ฟังท่อนนี้ให้ชัดๆ ล่ะ " ลู่หานบอกย้ำอีกครั้งแล้วลุกขึ้นเดินกลับไปประจำตำแหน่งของตัวเองต่อ
คนตัวสูงด้านหน้ามองจ้องไปที่ร่างโปร่งที่เหมือนจะคุยอะไรกับเพื่อนร่วมงานของเค้าแล้วเจ้าตัวก็หน้าแดงขึ้นมา
แต่จากที่ดูสายตาของเพื่อนเค้าอย่างลู่หานที่บอกเป็นนัยๆ ว่ากำลังลังสนุกแค่ไหนที่ได้แกล้งให้อีกคนเขินจนอยากมุด
เข้าไปอยู่ใต้เก้าอี้นั่นให้ได้
มุมปากหล่อยกขึ้นพร้อมกับมือหนาที่กำแน่น สายตาคมมองสบกับอีกคนที่หันมาเจอ บอกผ่านสายตาให้มองจ้อง
มาที่เค้าและช่วยรับฟังเพลงนี้ เพลงที่เค้าอยากจะบอกกับคนร่างโปร่งว่าตัวเค้าคิดยังไงกันแน่
�
อาจจะพูดไม่ค่อยถูก พูดไม่ค่อยออก.. แต่จะบอกให้เธอได้ฟัง เบื้องหลังทุกๆ อย่าง
ที่เก็บอยู่ในหัวใจ สิ่งที่ฉันนั้นรู้สึกลึกถึงข้างใน.. รวมได้เป็นความหมายคำเดียวเท่านั้น
����������� เสียงกีต้าร์เงียบลงตามด้วยเสียงกลองคาฮองจากชานยอลที่ทุบลงเป็นจังหวะสุดท้ายให้ทุกคนเงียบและรอฟัง
ประโยคสุดท้ายที่คนร้องเก็บเงียบเอาไว้ มือหนายกขึ้นจับไมค์แล้วมองตรงสบตาคนด้านในที่ทำเอาคนที่อยู่ด้านหน้าต้อง
หันมองตามสายตาหวานที่มองไป
วันนี้ฉันพร้อมให้เธอฟัง ..คำว่ารักเธอ..
จื่อเทายกมือขึ้นปิดแก้มตัวเองทันทีพร้อมกับหันหน้าหนีออกไปอีกทาง ปากไม่รักดีก็เอาแต่ฉีกยิ้มตลอดเวลา มือ
ไม้ก็พันกันไปหมดไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ตรงไหนของร่างกายกันแน่แล้วสุดท้ายก็หยุดลงที่แก้วช็อคโกแลตปั่นที่เจ้าตัวกำแน่น
จนแก้วแทบแตก เค้ามั่นใจเลยว่าตอนนี้ทั้งหน้า ทั้งหูต้องแดงเพราะความเขินไปหมดแล้วแน่ๆ
" โอย! ฮวางจื่อเทาเลิกเขินสักที! "
เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงเต็มที่คนร่างโปร่งต้องนั่งปิดแก้มตัวเองแอบมองไปยังคนตัวสูงที่กำลังร้องเพลงอย่างมีความ
สุข หยอกล้อเล่นกับเพื่อนบ้างคนที่เป็นแฟนคลับตัวเองบ้าง จะมีก็บางครั้งที่ท่อนร้องมันโดนรายนั้นก็จะมองมาที่เค้าด้วย
สายตาที่ทำให้เค้าต้องเขินอยู่หลายครั้ง
" แดงไปทั้งตัวแล้ว " เสียงลู่หานที่เดินผ่านมาแซวทำให้อีกคนยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ ปากเล็กบ่นเป็นภาษาจีนใส่พี่ชาย
หน้าสวย
" อย่ามาบ่นเป็นภาษาบ้าน พี่ฟังออกนะจื่อเทา " ลู่หานว่าแล้วยักคิ้วใส่ก่อนจะเดินกลับไปที่เดิม
" ไอ้บ้า! " เสียงเล็กบ่นเบาๆ แล้วก็หันไปมองวิวด้านนอกร้านต่อ เพราะขืนให้มองไปอีกทางเค้าคงต้องระเบิดตัว
เองตายเพราะความเขินแน่ๆ
เสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะหยุดลงด้านข้างของโต๊ะพร้อมกับยื่นถาดใส่บิลค่าเครื่องดื่มและขนมมาให้
จนคนตัวเล็กต้องคิ้วขมวดเข้าหากันแล้วหันมองก่อนจะพบกับนัยต์ตาคมที่จ้องมองมาทำเอาคนถูกจ้องต้องรีบหลบ
สายตาไปอีกทางทันที
" เอ่อ.. ผมยังไม่ได้บอกว่าจะเช็คบิลเลยครับ "
" อ้าว ไหนลู่หานบอกว่าเช็คบิลแล้วไง สงสัยจะโดนแกล้ง ขอโทษด้วยนะครับ " คนตัวสูงเอ่ยขอโทษเบาๆ
" เอ่อ.. ไม่ต้องหรอกครับพี่ เดี๋ยวผมก็จะไปแล้วงั้นก็เช็คบิลเลยแล้วกันนะ " จื่อเทารีบหยิบกระเป๋าเงินของตัวเอง
ออกมาแล้วควักธนบัตรให้อีกคนไป มือหนาเอื้อมมือหยิบเงินในถาดพอดีกับที่อีกคนยังไม่ทันได้ดึงมือออกไป
มือนิ่มกว่าที่คิดอีกแฮะ
คนตัวสูงคิดในใจแล้วมองสบตาคนตัวเล็กที่อยู่ๆ ก็แก้มแดงขึ้นมาใส่เค้าจนอดไม่ได้ที่จะยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบผม
นิ่มนั่นเบาๆ แล้วถึงได้ถอยออกไป
" ฮวางจื่อเทาอย่าเพิ่งเสียสตินะ " เสียงเตือนตัวเองดังขึ้น ปากบางเม้มเข้าหากันก่อนจะหยิบพายที่กินไปได้หน่อย
เดียวขึ้นมายัดเข้าเต็มปาก
กินเข้าไปจะได้เลิกเขิน!� บางทีก็เป็นตรรกะที่เค้าก็ไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ดันเผลอใช้ทุกครั้งที่เข้ามาในร้านนี้
" โอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ "
อี้ฟานมองตามจนอีกคนเดินหายออกไปจนสุดสายตาแล้วถึงได้หันกลับมาทำงานของตัวเองต่อ แต่ก็ยังไม่วาย
โดนพวกน้องๆ แซวมาตลอดว่าอุตส่าห์ปูทางให้ขนาดนี้ยังไม่ยอมบอกออกไปตรงๆ อีก
" ฉันก็อุตส่าห์ไปบอกให้น้องตั้งใจฟังเพลงนั้น แต่ดันไม่บอกชอบออกไปนี่คืออะไรห๊ะอู๋อี้ฟาน? " เสียงลู่หานดังขึ้น
พร้อมกับมือเล็กที่ฟาดลงไปบนแขนแกร่งนั่นซะหลายที
" ของแบบนี้ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปสิ "
" ก็เห็นบอกแบบนี้มาครึ่งปีแล้วไหม? ไม่ได้เรื่อง " คนตัวสูงเหล่มองเพื่อนแล้วยกมือขึ้นเขกเบาๆ ก่อนจะออกปาก
ไล่ให้พวกน้องๆ กลับกันไปได้แล้วเดี๋ยวที่เหลือเค้าจะจัดการเก็บกวาดเอง
ขาวยาวก้าวไปตามทางเดินบนถนน นัยต์ตาคมหันมองคนรอบตัวที่ขนาดดึกแล้วยังไม่มีทีท่าว่าคนจะบางลงอาจ
จะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ช่วงสิ้นเดือนก็ได้ถึงได้มีคนออกมาเที่ยวกลางคืนมากมายขนาดนี้ อี้ฟานแวะเข้าร้านมินิมาร์ทที่อยู่
ไม่ไกลจากร้านเค้าเท่าไหร่ ซื้ออาหารสำเร็จรูปไม่กี่อย่างก็เดินไปจ่ายเงินและเดินกลับออกมากะว่าจะเดินเข้าทางด้านหลัง
ร้านเหมือนตอนที่เดินออกมา
" พี่อี้ฟาน " เจ้าของชื่อหยุดเดินแล้วหันไปมองคนตัวเล็กด้านหลังที่เดินมาหยุดตรงหน้าเค้า
" วันนี้ผมยังไม่ได้ชมพี่เลยว่าร้องเพลงเพราะนะครับ " คนตัวเล็กว่าแล้วปั้นยิ้มส่งไปให้จนตาหยี คนตัวสูงขยับเข้า
มาใกล้บีบแก้มนิ่มนั่นเบาๆ
" ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนั้นมาบอกพรุ่งนี้ก็ได้นะครับจื่อเทา วันนี้มันดึกแล้ว " คนเป็นพี่ว่าแล้วโยกหัวเล็กไปมา
" ถ้าผมไม่บอกวันนี้ ผมจะนอนไม่หลับ " เสียงใสแย้งขึ้นเรียกรอยยิ้มให้เกิดบนใบหน้าหล่ออีกครั้ง
" แล้วผมก็มีเรื่องอยากถามพี่เหมือนกัน " จื่อเทาบีบมือตัวเองแน่นแล้วเงยหน้ามองสบตาคนตัวสูงที่ก้มมองลงมา
ที่เค้า
" เรื่อง? "
" วันนี้พี่ลู่หานบอกว่าพี่กำลังร้องเพลงจีบคนอยู่.. " เสียงใสเงียบลงเพราะคนตัวสูงยกมือขึ้นปิดปากของเจ้าตัวเอา
ไว้
" ถ้าพี่ร้องเพลงจีบคนอยู่จริงๆ แล้วจื่อเทาเดือดร้อนอะไรครับ? "
ตาคมเบิกกว้างแล้วจับมือหนาสะบัดออกก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอกแล้วเหล่ตามองคนตัวสูงที่ยืนยักคิ้วส่งมาให้
เค้าอยู่ด้านหน้า ทั้งยังคิดในใจอีกว่าถ้ายกขาเตะตอนนี้ยังทันไหม? หรือควรจะทำยังไงดี
" ก็เปล่าเดือดร้อน ก็แค่อยากรู้เฉยๆ เผื่อผมจะช่วยอะไรพี่ได้บ้าง " คนเป็นน้องว่า
" จื่อเทาช่วยพี่ได้แน่ครับ " มือหนาจับมือเล็กขึ้นมากุมเอาไว้แล้วบีบเบาๆ
" ผม
ช่วยอะไรได้บ้างครับ " เสียงใสเบาลงจนแทบไม่ได้ยิน
ก็เค้าแค่อยากได้ยินคำปฏิเสธจากคนตรงหน้าว่าไม่ได้จีบคนอื่นออกมาให้ตัวเองยังพอมีหวัง แต่นี่นอกจากจะไม่
ปฏิเสธแล้วยังมีหน้ามาให้เค้าช่วยอีกเหรอ เหอะ! แค่คิดถึงน้ำตาก็พาลจะไหลแล้ว
" ช่วยรับรักพี่หน่อยได้ไหมครับ "
" ได้สิครับ .. เห้ยย!!! " คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมอง ตาคมกระพริบไปมาจนคนตัวสูงต้องหัวเราะออกมาเบาๆ กับ
ไอ้อาการช็อคที่เจ้าตัวตั้งใจจะเห็นนี่
ฮวางจื่อเทาน่ารักเกินไป
" พี่อย่ามาล้อผมเล่นนะ "
" เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นเหรอไง อุตส่าห์ร้องเพลงให้ฟังยังไม่รู้อีกเหรอ เด็กโง่ " มือหนาบีบแก้มอีกคนแผ่วเบาแล้ว
ถือโอกาสดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดลูบผมนิ่มช้าๆ
" พี่รักจื่อเทานะครับ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหม " เสียงนุ่มดังอยู่ข้างหูทำเอาคนถูกกอดต้องมุดหน้าซ่อนแก้มแดงๆ ลงไป
กับไหล่หนาทันที มือบางค่อยยกขึ้นสวมกอดอีกคนช้าๆ
" ห้ามหลอกผม แล้วก็ห้ามทิ้งผมนะครับ "
" ไม่มีทาง "
" พี่ทำผมเขินจนลืมทางกลับบ้านของตัวเองแล้วนะพี่อี้ฟาน " คนในอ้อมกอดว่าแล้วแกล้งทุบหลังคนตัวสูงเบาๆ
" ก็นอนที่ร้านพี่ก็ได้ไง ยังไงเราก็ต้องเป็นสะไภ้ที่นั่นอยู่แล้ว "
" พอเลย คนบ้า! "
" ถึงบ้าก็บ้ารักจื่อเทานะครับ "
" อย่ามาเสี่ยวผมเขิน!! "
เสียงโวยวายของคนโดนกอดดังอู้อี้ไม่หยุด ไม่ต่างอะไรกับเสียงหัวเราะของคนตัวสูงที่ขยันแกล้งคนในอ้อมกอด
ของตัวเองให้ทั้งเขินทั้งอายไปพร้อมกัน
�
ก็บอกแล้วว่าฮวางจื่อเทาน่ะน่ารัก.. อู๋อี้ฟานก็เลยรักฮวางจื่อเทานี่ไงล่ะ
===========================
แนะนำว่าให้พี่น้องที่้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ ช่วยเปิดเพลง "พูดไม่ค่อยถูก - AB Normal" ประกอบไปด้วยแล้วจะยิ่งเขิน
มากขึ้น(?) กิกิ
=======================================
ความคิดเห็น