ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OS / SF Story Love

    ลำดับตอนที่ #11 : [OS : EXO] Coffee Love :: KRIS x TAO

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 60




    Coffee LOVE..


    � � � � � �ท่ามกลางบรรยากาศวุ่นวายของเมืองหลวงอย่างโซลแต่ก็ยังมีสถานที่เล็กๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านกาแฟแล้วก็ร้าน
    ขนมมากมายส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณที่ตั้งติดกันทั้งสองฝั่งของถนน รวมไปถึงร้าน
    " Coffee Fan " ร้านนี้ด้วย
    เช่นกัน



    ป้ายกระดานดำที่ตั้งอยู่หน้าร้านถูกวาดเป็นรูปเครื่องดื่มหลายแก้วพร้อมทั้งนำเสนอเมนูสุดพิเศษที่ใครหลายคน
    ต่างมาแล้วก็พากันสั่ง มองเลยเข้ามาจะเห็นที่นั่งมากมายแบ่งเป็นโซนที่นั่งด้านหน้าของร้านที่สามารถรับกลิ่นไอของ
    ธรรมชาติจากต้นไม้ใหญ่น้อยที่ปลูกไว้รอบบริเวณร้าน ครั้นพอเปิดประตูกรอบไม้ที่หุ้มกระจกหนาใสไว้เข้ามาจะมีเสียง
    กระพรวนดังขึ้นเบาๆ แต่ก้องไปทั่วทั้งร้านอีกทั้งภายในยังมีการจัดโซนแบ่งไว้อย่างเรียบร้อย



    เรียกได้ว่าบรรยากาศของร้านรวมทั้งสไตล์การตกแต่งก็ได้ใจคนมาเยือนไปกว่าครึ่งแล้ว เสียงกรุ๊งกริ๊งจาก
    กระดิ่งหน้าร้านดังแว่วไปทั่วทั้งร้านตามด้วยเสียงพนักงานกล่าวต้อนรับอย่างเป็นกันเองกับผู้มาเยือน เสียงเครื่องบด
    กาแฟกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของขนมที่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าเพิ่งจะอบออกมาได้ไม่นานอบอวลไปทั่วทั้งร้าน



    ร่างโปร่งทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะด้านในสุดติดกับกระจกสามารถมองเห็นวิวถนนจากทางด้านนอกได้เป็นอย่างดี ดวงตา
    คมเหม่อมองออกไปไกลแล้วถึงหยิบเมนูที่พนักงานเสริฟยื่นมาให้ กวาดสายตาไปทั่วสักพักปากบางก็ขยับยิ้มออกมาเมื่อ
    เจอเป้าหมายที่ต้องการ


    " เอาช็อคโกแลตครีมปั่นกับพายแอปเปิ้ลครับ " ร่างโปร่งเอ่ยบอกไปคนที่กำลังก้มเขียนออเดอร์ ร่างสูงพยักหน้า
    กลับมาให้แล้วเงยหน้าขึ้นทวนเมนูอีกครั้ง


    " มีอะไรจะรับเพิ่มไหมครับ? " เสียงเข้มถามขึ้นซ้ำแต่คนที่นั่งอยู่ก็ส่ายหน้ากลับไปให้ มองจนคนตัวสูงที่มารับ
    ออเดอร์เมื่อกี๊เดินหายเข้าไปวางใบรายการที่ด้านหน้าเค้าน์เตอร์แล้ววกไปที่อีกโต๊ะเมื่อมีเสียงเรียกดังขึ้น



    ยอมรับเลยว่าเค้กหรือกาแฟที่นี่ไม่ได้อร่อยไปมากกว่าร้านไหนแต่ที่ทำให้มีคนเดินผ่านเข้าออกตลอดเวลาก็คงจะ
    หนีไม่พ้นกับบริกรหนุ่มทั้ง
    4 คนที่หน้าตาจัดว่าเข้าขั้นหล่อละลาย แล้วไหนจะพนักงานส่วนอื่นๆ ในร้านที่เป็นชายล้วนอีก
    เรียกว่าเปิดร้านมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงโดยเฉพาะ ทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ก็คงดูไม่ยากแต่ก็ยังมีผู้ชายแวะเวียนกัน
    เข้ามาให้เค้าพอได้เห็นบ้างประปราย


    และที่ร้านนี้มีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือในช่วงตอน 4-5 โมงเย็น ที่ร้านนี้จะมีการเล่นดนตรีสดแบบอะคลูสติคจาก
    หนุ่มๆ บริกรทั้งสี่ที่นอกจากหน้าตาดีแล้วยังมีอะไรที่ดีมากกว่าหน้าตาอีกด้วย ดวงตาคมก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลา
    อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลา
    4 โมงเย็นแล้วพอดีกับที่ของที่สั่งไว้มาเสริฟตรงหน้า


    " ขอบคุณครับ " คำสั้นๆ ถูกเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มสวยที่ไม่ว่าใครมองก็ไม่อาจละสายตาไปได้รวมถึงคนที่
    ทำหน้าที่เสริฟเครื่องดื่มและขนมให้กับร่างโปร่งเมื่อกี๊นี้


    " แดงไปยันหูแล้วพี่อี้ฟาน " เสียงแซวจากน้องเล็กตัวสูงพร้อมกับแรงจิ้มนิ้วลงที่แก้มคนตัวสูงเบาๆ เป็นเชิงล้อเลียน

    " อย่าแซวไอ้จงอิน " คนเป็นพี่แกล้งเอามือปิดซีกหน้าตัวเอง ก้มลงเล็กน้อยแล้วยิ้มออกมา

    " เมื่อไหร่พี่จะบอกชอบเค้าอ่ะ นี่ผมเห็นเค้ามาที่ร้านเราบ่อยมากเลยนะ " เซฮุนที่เพิ่งกลับมาจากเสริฟ
    เครื่องดื่มรีบเข้ามาร่วมวงแซวพี่ใหญ่หรืออีกนัยก็คือเจ้าของร้านกาแฟ
    Coffee Fan แห่งนี้

    " อย่ารีบ เดี๋ยวไก่ตื่น "

    " ไก่ตื่นหรือแพนด้าตื่นกันแน่พี่ " ยังไม่วายมีเสียงจงอินแทรกเข้ามาแซวอีกจนอี้ฟานต้องยกขาเตะก้นไอ้เด็กดำนั่น
    ไป


    " ไปเตรียมตัวได้แล้ว " เสียงลู่หานดังออกมาจากฝั่งคิดเงินแล้วชี้ไปยังมุมที่ทุกคนรอคอย


    ร่างสูงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงกลางที่ถูกจัดไว้ทั้งหมด 4 ตัวตามด้วยชานยอลที่นั่งลงบนกลองคาฮองประจำตัว
    ส่วนด้านข้างทั้งซ้ายและขวาเป็นเซฮุนที่เดินมาจิ้มแป้นคีย์บอร์ดเพื่อฟังเสียงก่อนกับจงอินที่หยิบกีต้าร์ขึ้นมาวางบนตักใน
    เวลาไล่ๆ กัน



    อี้ฟานกวาดสายตามองไปรอบร้านก่อนจะมองจ้องไปที่คนที่นั่งอยู่มุมในสุดแต่สายตาจับจ้องมาทางเค้าอย่างปิด
    ไม่มิด พอโดนมองชนิดไม่วางตาแบบนั้นคนตัวสูงก็ถึงกับประหม่าไปแต่ก็เพียงแว๊บเดียวเท่านั้นเพราะสายตาล้อๆ ของ
    ไอ้สามตัวด้านหลังมันมีผลมากกว่าน่ะสิ


    " วันนี้จะขึ้นด้วยเพลงอะไรอ่ะพี่ " ชานยอลโน้มตัวมาถามแล้วมองมือที่กำลังเปิดโน้ตเพลงค้างไว้

    " พูดไม่ค่อยถูก "

    " บอกใครรึเปล่าเนี่ย " ชานยอลแกล้งแซวแล้วก็รีบถอยหลังหลบออกไปทันทีที่พี่ชายตัวสูงยกมือขึ้นจะตีเค้าแทน
    อาการเขิน


    " สวัสดีครับ วันนี้พวกเราก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นผ่านไมค์ด้านหน้ากับรอยยิ้มหล่อเหลือร้ายที่
    ยกขึ้นบนใบหน้าหล่อนั่นทำเอาสาวๆ หนุ่มๆ ในร้านพากันส่งเสียงแซวจนคนที่เป็นร้องนำต้องยิ้มเขินออกมา



    เสียงกีต้าร์ของจงอินดังขึ้นเบาๆ คนตัวสูงผิวสีแทนดูจะตั้งใจกับการเกริ่นนำของเพลงนี้มากพอๆ กับที่เสียงคน
    ตัวสูงที่ร้องใส่ไมค์


    ฉันก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่และก็ไม่รู้มาไกลแค่ไหนบนทางที่เราสองคน..เดินผ่านไป
    รู้แค่ว่าฉันนั้นไม่เคยบอก รู้แค่ว่าฉันนั้นไม่เคยหลอกความรู้สึกนั้นถ้าจะบอกไม่รู้ต้องพูดตอนไหน
    ..


    จงอินกับเซฮุนเหล่มองพี่ชายตัวสูงที่ยังคงมองไปที่ใครบางคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้รู้รึยังว่าเพลงนี้ตั้งใจมอบให้ใคร


    ไม่รู้ว่าต้องคบกันไปกี่ปีต้องมีเรื่องราวที่ดีมากมายเท่าไหร่..
    ถึงจะควรพูดมันออกไป �คำสั้น ๆ คำเดียวนี้..
    ไม่รู้ว่าเธอนั้นรออยู่ไหมหรือจะปล่อยไปให้เป็นอย่างนี้ แต่คิดดูอีกทีเก็บไว้ก็ไม่ดี..


    คนตัวสูงมองสบตาร่างโปร่งที่อมยิ้มออกมาให้กับเพลงที่เค้ากำลังร้องอยู่ ไม่รู้ว่ารู้ความหมายของเพลงที่เค้าสื่อ
    ไหมแต่จะเหมารวมว่าร่างโปร่งนั่นรู้ก็แล้วกัน



    " วันนี้ร้องเพราะกว่าทุกวันนะครับ คิดแบบเดียวกันไหม? " คนถูกถามหันมามองก็เจอร่างเล็กที่ถือโอกาสนั่งลงฝั่ง
    ตรงข้าม พิงเบาะแล้วยกสองแขนเล็กขึ้นกอดอกแถมยังหันมามองเค้าแล้วยิ้มให้


    " ผมก็คิดแบบนั้นครับ วันนี้ดูพี่อี้ฟานเค้าร้องซึ้งแปลกๆ " อีกคนนึงพูดกลับแล้วยิ้มไปให้

    " จื่อเทาไม่คิดว่ามันกำลังร้องจีบใครอยู่เหรอ " คนตาสวยคิ้วขมวดเข้าหากันแล้วหันมามองคนตัวเล็กที่ยังส่งยิ้ม
    มาให้เค้า


    " อ่า.. ผมก็ไม่รู้สิครับ " มือบางคว้าแก้วช็อคโกแลตของตัวเองขึ้นดูดก่อนจะเบนสายตาไปมองคนตัวสูงด้านหน้า
    ต่อ


    อาจจะพูดไม่ค่อยถูก.. พูดไม่ค่อยออกแต่จะบอกให้เธอได้ฟังเบื้องหลังทุกๆ อย่าง
    ที่เก็บอยู่ในหัวใจ สิ่งที่ฉันนั้นรู้สึก
    .. ลึกถึงข้างในรวมได้เป็นความหมายคำเดียวเท่านั้น
    วันนี้ฉันพร้อมให้เธอฟัง
    ..ยังรออยู่ไหม..


    นัยต์ตาคมประสานกันก่อนที่คนตัวสูงด้านหน้าจะยิ้มออกมา ยิ้มชนิดที่ว่าคนมองถึงกับใจสั่นไม่เป็นตัวของตัวเอง
    อีกครั้งเพราะหลังจากที่ใจกล้ามองสบตาคมนั่นเค้าก็รู้สึกเสียหลักไปเหมือนกัน อุตส่าห์มาที่ร้านนี้บ่อยๆ กับความคิดที่ว่า
    ชอบใครก็ต้องบุกไปให้เห็นบ่อยๆ เผื่อว่าไอ้ความเขินนั่นจะได้หายไป แต่ที่ไหนได้ยิ่งเจอก็ยิ่งเขิน พอมาเจอสายตาหวาน
    เมื่อกี๊ยิ่งเขินไปกันใหญ่



    นี่เค้าจะขอเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าพี่อี้ฟานอาจจะชอบเค้าเหมือนกับที่เค้าชอบก็ได้


    " ไม่เอาดอกไม้ไปให้นักร้องหน่อยเหรอ " เสียงเดิมยังดังขึ้นข้างตัวพร้อมกับใบหน้าเล็กที่พยักเพยิดไปทางด้าน
    หน้าที่มีเหล่าแฟนคลับแอบเอาดอกไม้ไปยื่นให้คนร้อง


    " พี่เค้าคงได้เยอะแล้ว ไม่เอาหรอกครับ "

    " เพิ่งรู้ว่าจื่อเทาขี้เขินนะ "

    " ผมไม่ได้เขินสักหน่อยพี่ลู่หาน " คนอายุน้อยกว่าเบะปากใส่พี่ชายตัวเล็กที่นั่งยิ้มใส่หน้าเค้าแล้วเจ้าตัวก็จิ้มนิ้วลง
    ที่แก้มใสเบาๆ


    " เขินก็บอก หน้าแดงแล้ว "

    " ไม่เถียงแล้วครับ! " จื่อเทาเบะปากใส่แล้วหยิบแก้วช็อคโกแลตของตัวเองขึ้นดูดต่อ

    " ฟังท่อนนี้ให้ชัดๆ ล่ะ " ลู่หานบอกย้ำอีกครั้งแล้วลุกขึ้นเดินกลับไปประจำตำแหน่งของตัวเองต่อ


    คนตัวสูงด้านหน้ามองจ้องไปที่ร่างโปร่งที่เหมือนจะคุยอะไรกับเพื่อนร่วมงานของเค้าแล้วเจ้าตัวก็หน้าแดงขึ้นมา
    แต่จากที่ดูสายตาของเพื่อนเค้าอย่างลู่หานที่บอกเป็นนัยๆ ว่ากำลังลังสนุกแค่ไหนที่ได้แกล้งให้อีกคนเขินจนอยากมุด
    เข้าไปอยู่ใต้เก้าอี้นั่นให้ได้



    มุมปากหล่อยกขึ้นพร้อมกับมือหนาที่กำแน่น สายตาคมมองสบกับอีกคนที่หันมาเจอ บอกผ่านสายตาให้มองจ้อง
    มาที่เค้าและช่วยรับฟังเพลงนี้ เพลงที่เค้าอยากจะบอกกับคนร่างโปร่งว่าตัวเค้าคิดยังไงกันแน่


    อาจจะพูดไม่ค่อยถูก พูดไม่ค่อยออก.. แต่จะบอกให้เธอได้ฟัง เบื้องหลังทุกๆ อย่าง
    ที่เก็บอยู่ในหัวใจ สิ่งที่ฉันนั้นรู้สึกลึกถึงข้างใน
    .. รวมได้เป็นความหมายคำเดียวเท่านั้น




    ����������� เสียงกีต้าร์เงียบลงตามด้วยเสียงกลองคาฮองจากชานยอลที่ทุบลงเป็นจังหวะสุดท้ายให้ทุกคนเงียบและรอฟัง
    ประโยคสุดท้ายที่คนร้องเก็บเงียบเอาไว้ มือหนายกขึ้นจับไมค์แล้วมองตรงสบตาคนด้านในที่ทำเอาคนที่อยู่ด้านหน้าต้อง
    หันมองตามสายตาหวานที่มองไป


    วันนี้ฉันพร้อมให้เธอฟัง ..คำว่ารักเธอ..


    จื่อเทายกมือขึ้นปิดแก้มตัวเองทันทีพร้อมกับหันหน้าหนีออกไปอีกทาง ปากไม่รักดีก็เอาแต่ฉีกยิ้มตลอดเวลา มือ
    ไม้ก็พันกันไปหมดไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ตรงไหนของร่างกายกันแน่แล้วสุดท้ายก็หยุดลงที่แก้วช็อคโกแลตปั่นที่เจ้าตัวกำแน่น
    จนแก้วแทบแตก เค้ามั่นใจเลยว่าตอนนี้ทั้งหน้า ทั้งหูต้องแดงเพราะความเขินไปหมดแล้วแน่ๆ



    " โอย! ฮวางจื่อเทาเลิกเขินสักที! "


    เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงเต็มที่คนร่างโปร่งต้องนั่งปิดแก้มตัวเองแอบมองไปยังคนตัวสูงที่กำลังร้องเพลงอย่างมีความ
    สุข หยอกล้อเล่นกับเพื่อนบ้างคนที่เป็นแฟนคลับตัวเองบ้าง จะมีก็บางครั้งที่ท่อนร้องมันโดนรายนั้นก็จะมองมาที่เค้าด้วย
    สายตาที่ทำให้เค้าต้องเขินอยู่หลายครั้ง


    " แดงไปทั้งตัวแล้ว " เสียงลู่หานที่เดินผ่านมาแซวทำให้อีกคนยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ ปากเล็กบ่นเป็นภาษาจีนใส่พี่ชาย
    หน้าสวย


    " อย่ามาบ่นเป็นภาษาบ้าน พี่ฟังออกนะจื่อเทา " ลู่หานว่าแล้วยักคิ้วใส่ก่อนจะเดินกลับไปที่เดิม

    " ไอ้บ้า! " เสียงเล็กบ่นเบาๆ แล้วก็หันไปมองวิวด้านนอกร้านต่อ เพราะขืนให้มองไปอีกทางเค้าคงต้องระเบิดตัว
    เองตายเพราะความเขินแน่ๆ



    เสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะหยุดลงด้านข้างของโต๊ะพร้อมกับยื่นถาดใส่บิลค่าเครื่องดื่มและขนมมาให้
    จนคนตัวเล็กต้องคิ้วขมวดเข้าหากันแล้วหันมองก่อนจะพบกับนัยต์ตาคมที่จ้องมองมาทำเอาคนถูกจ้องต้องรีบหลบ
    สายตาไปอีกทางทันที


    " เอ่อ.. ผมยังไม่ได้บอกว่าจะเช็คบิลเลยครับ "

    " อ้าว ไหนลู่หานบอกว่าเช็คบิลแล้วไง สงสัยจะโดนแกล้ง ขอโทษด้วยนะครับ " คนตัวสูงเอ่ยขอโทษเบาๆ

    " เอ่อ.. ไม่ต้องหรอกครับพี่ เดี๋ยวผมก็จะไปแล้วงั้นก็เช็คบิลเลยแล้วกันนะ " จื่อเทารีบหยิบกระเป๋าเงินของตัวเอง
    ออกมาแล้วควักธนบัตรให้อีกคนไป มือหนาเอื้อมมือหยิบเงินในถาดพอดีกับที่อีกคนยังไม่ทันได้ดึงมือออกไป



    มือนิ่มกว่าที่คิดอีกแฮะ


    คนตัวสูงคิดในใจแล้วมองสบตาคนตัวเล็กที่อยู่ๆ ก็แก้มแดงขึ้นมาใส่เค้าจนอดไม่ได้ที่จะยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบผม
    นิ่มนั่นเบาๆ แล้วถึงได้ถอยออกไป



    " ฮวางจื่อเทาอย่าเพิ่งเสียสตินะ " เสียงเตือนตัวเองดังขึ้น ปากบางเม้มเข้าหากันก่อนจะหยิบพายที่กินไปได้หน่อย
    เดียวขึ้นมายัดเข้าเต็มปาก



    กินเข้าไปจะได้เลิกเขิน!� บางทีก็เป็นตรรกะที่เค้าก็ไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ดันเผลอใช้ทุกครั้งที่เข้ามาในร้านนี้


    " โอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ "


    อี้ฟานมองตามจนอีกคนเดินหายออกไปจนสุดสายตาแล้วถึงได้หันกลับมาทำงานของตัวเองต่อ แต่ก็ยังไม่วาย
    โดนพวกน้องๆ แซวมาตลอดว่าอุตส่าห์ปูทางให้ขนาดนี้ยังไม่ยอมบอกออกไปตรงๆ อีก



    " ฉันก็อุตส่าห์ไปบอกให้น้องตั้งใจฟังเพลงนั้น แต่ดันไม่บอกชอบออกไปนี่คืออะไรห๊ะอู๋อี้ฟาน? " เสียงลู่หานดังขึ้น
    พร้อมกับมือเล็กที่ฟาดลงไปบนแขนแกร่งนั่นซะหลายที


    " ของแบบนี้ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปสิ "

    " ก็เห็นบอกแบบนี้มาครึ่งปีแล้วไหม? ไม่ได้เรื่อง " คนตัวสูงเหล่มองเพื่อนแล้วยกมือขึ้นเขกเบาๆ ก่อนจะออกปาก
    ไล่ให้พวกน้องๆ กลับกันไปได้แล้วเดี๋ยวที่เหลือเค้าจะจัดการเก็บกวาดเอง



    ขาวยาวก้าวไปตามทางเดินบนถนน นัยต์ตาคมหันมองคนรอบตัวที่ขนาดดึกแล้วยังไม่มีทีท่าว่าคนจะบางลงอาจ
    จะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ช่วงสิ้นเดือนก็ได้ถึงได้มีคนออกมาเที่ยวกลางคืนมากมายขนาดนี้ อี้ฟานแวะเข้าร้านมินิมาร์ทที่อยู่
    ไม่ไกลจากร้านเค้าเท่าไหร่ ซื้ออาหารสำเร็จรูปไม่กี่อย่างก็เดินไปจ่ายเงินและเดินกลับออกมากะว่าจะเดินเข้าทางด้านหลัง
    ร้านเหมือนตอนที่เดินออกมา



    " พี่อี้ฟาน " เจ้าของชื่อหยุดเดินแล้วหันไปมองคนตัวเล็กด้านหลังที่เดินมาหยุดตรงหน้าเค้า

    " วันนี้ผมยังไม่ได้ชมพี่เลยว่าร้องเพลงเพราะนะครับ " คนตัวเล็กว่าแล้วปั้นยิ้มส่งไปให้จนตาหยี คนตัวสูงขยับเข้า
    มาใกล้บีบแก้มนิ่มนั่นเบาๆ


    " ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนั้นมาบอกพรุ่งนี้ก็ได้นะครับจื่อเทา วันนี้มันดึกแล้ว " คนเป็นพี่ว่าแล้วโยกหัวเล็กไปมา

    " ถ้าผมไม่บอกวันนี้ ผมจะนอนไม่หลับ " เสียงใสแย้งขึ้นเรียกรอยยิ้มให้เกิดบนใบหน้าหล่ออีกครั้ง

    " แล้วผมก็มีเรื่องอยากถามพี่เหมือนกัน " จื่อเทาบีบมือตัวเองแน่นแล้วเงยหน้ามองสบตาคนตัวสูงที่ก้มมองลงมา
    ที่เค้า


    " เรื่อง? "

    " วันนี้พี่ลู่หานบอกว่าพี่กำลังร้องเพลงจีบคนอยู่.. " เสียงใสเงียบลงเพราะคนตัวสูงยกมือขึ้นปิดปากของเจ้าตัวเอา
    ไว้


    " ถ้าพี่ร้องเพลงจีบคนอยู่จริงๆ แล้วจื่อเทาเดือดร้อนอะไรครับ? "


    ตาคมเบิกกว้างแล้วจับมือหนาสะบัดออกก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอกแล้วเหล่ตามองคนตัวสูงที่ยืนยักคิ้วส่งมาให้
    เค้าอยู่ด้านหน้า ทั้งยังคิดในใจอีกว่าถ้ายกขาเตะตอนนี้ยังทันไหม? หรือควรจะทำยังไงดี



    " ก็เปล่าเดือดร้อน ก็แค่อยากรู้เฉยๆ เผื่อผมจะช่วยอะไรพี่ได้บ้าง " คนเป็นน้องว่า

    " จื่อเทาช่วยพี่ได้แน่ครับ " มือหนาจับมือเล็กขึ้นมากุมเอาไว้แล้วบีบเบาๆ

    " ผม ช่วยอะไรได้บ้างครับ " เสียงใสเบาลงจนแทบไม่ได้ยิน


    ก็เค้าแค่อยากได้ยินคำปฏิเสธจากคนตรงหน้าว่าไม่ได้จีบคนอื่นออกมาให้ตัวเองยังพอมีหวัง แต่นี่นอกจากจะไม่
    ปฏิเสธแล้วยังมีหน้ามาให้เค้าช่วยอีกเหรอ เหอะ
    ! แค่คิดถึงน้ำตาก็พาลจะไหลแล้ว


    " ช่วยรับรักพี่หน่อยได้ไหมครับ "

    " ได้สิครับ .. เห้ยย!!! " คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมอง ตาคมกระพริบไปมาจนคนตัวสูงต้องหัวเราะออกมาเบาๆ กับ
    ไอ้อาการช็อคที่เจ้าตัวตั้งใจจะเห็นนี่



    ฮวางจื่อเทาน่ารักเกินไป


    " พี่อย่ามาล้อผมเล่นนะ "

    " เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นเหรอไง อุตส่าห์ร้องเพลงให้ฟังยังไม่รู้อีกเหรอ เด็กโง่ " มือหนาบีบแก้มอีกคนแผ่วเบาแล้ว
    ถือโอกาสดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดลูบผมนิ่มช้าๆ


    " พี่รักจื่อเทานะครับ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหม " เสียงนุ่มดังอยู่ข้างหูทำเอาคนถูกกอดต้องมุดหน้าซ่อนแก้มแดงๆ ลงไป
    กับไหล่หนาทันที มือบางค่อยยกขึ้นสวมกอดอีกคนช้าๆ


    " ห้ามหลอกผม แล้วก็ห้ามทิ้งผมนะครับ "

    " ไม่มีทาง "

    " พี่ทำผมเขินจนลืมทางกลับบ้านของตัวเองแล้วนะพี่อี้ฟาน " คนในอ้อมกอดว่าแล้วแกล้งทุบหลังคนตัวสูงเบาๆ

    " ก็นอนที่ร้านพี่ก็ได้ไง ยังไงเราก็ต้องเป็นสะไภ้ที่นั่นอยู่แล้ว "

    " พอเลย คนบ้า! "

    " ถึงบ้าก็บ้ารักจื่อเทานะครับ "

    " อย่ามาเสี่ยวผมเขิน!! "


    เสียงโวยวายของคนโดนกอดดังอู้อี้ไม่หยุด ไม่ต่างอะไรกับเสียงหัวเราะของคนตัวสูงที่ขยันแกล้งคนในอ้อมกอด
    ของตัวเองให้ทั้งเขินทั้งอายไปพร้อมกัน









    ก็บอกแล้วว่าฮวางจื่อเทาน่ะน่ารัก.. อู๋อี้ฟานก็เลยรักฮวางจื่อเทานี่ไงล่ะ













    ===========================
    แนะนำว่าให้พี่น้องที่้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ ช่วยเปิดเพลง "พูดไม่ค่อยถูก - AB Normal" ประกอบไปด้วยแล้วจะยิ่งเขิน
    มากขึ้น(?) กิกิ
    =======================================

    @SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×