คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Part 1 - Destiny Shop
CHAPTER 1
" Destiny Flower Shop ยินดีต้อนรับครับ "
เสียงทุ้มนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อส่งยิ้มอบอุ่นไปให้พร้อมกับเดินไปหยุดยืนด้านหน้ากลุ่มนักศึกษาสาว เจ้าของร่างเพรียวยกมือขึ้นปิดปากซ่อนอาการเขินของตัวเองแล้วผงกหัวกลับไปให้ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสาวด้านข้างที่เหมือนจะสติแอบหลุดออกไปแล้ว
" คือ.. คือว่า.. มาซื้อดอกไม้ค่ะ "
" จะรับเป็นดอกไม้อะไรดีครับ ? " เจ้าของใบหน้าหล่อยังคงถามต่อ ทำเอาคนตรงหน้าที่เผลอเงยขึ้นสบตาแทบจะเข่าอ่อนลงกับพื้น
" เอา.. คือ จะเอาไปเยี่ยมเพื่อนน่ะค่ะ "
" อ๋อ เพื่อนเข้าโรงพยาบาลใช่ไหมครับ ? " คนตรงหน้าไม่ตอบแต่กลับผงกหัวขึ้นลงเร็วๆ จนคนมองต้องอมยิ้มออกมาให้
" คิดมารึยังครับว่าอยากซื้อเป็นดอกไม้อะไร "
" กุหลาบค่ะ แต่ว่าถ้าพี่คิดว่าอย่างอื่นมันดีกว่ากุหลาบก็ได้นะคะ " คนถูกถามกลับมองจ้องอีกคนนิ่งก่อนจะพยักหน้ากลับไปให้ แล้วผายมือไปทางมุมด้านหนึ่งของร้านที่มีชุดเก้าอี้จัดวางเอาไว้
" นั่งรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวจัดการให้ " เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยบอกอีกครั้งก่อนจะเดินกลับมาหยุดตรงโต๊ะกลางสีดำที่ยังมีร่างสูงของใครอีกคนกำลังขะมักเขม้นกับการจัดช่อดอกกุหลาบสีแดงสดตรงหน้า
" ลูกค้ากลุ่มนั้นนายดูแลไปเลยนะมาร์ค ฉันติดจัดช่อให้คุณยูอีอยู่ "
" กำลังจะบอก เพราะดูแล้วช่อนั้นสำคัญกว่าอันนี้อีก " มาร์คพูดยิ้มๆ แล้วแกล้งเหลือบตามองคนตัวสูงตรงหน้าที่ชะงักมือที่กำลังพูดโบว์ตรงก้านให้ตวัดสายตามองแรงใส่เพื่อน
" ก็รู้ว่ามันไม่มีอะไร ยังจะแซวอีกนะต้วนอี้เอิน "
" กลัวอิมแจบอมจะเหงาปาก เลยต้องช่วยบริหารไงครับ " มาร์คตอบกลั้วเสียงหัวเราะก่อนจะเดินไปเปิดลิ้นชักฝั่งแจบอมหยิบกระถางใบเล็กสีครีมออกมาพร้อมกับริบบิ้นสีส้มอ่อน
" ทำอะไรอ่ะพี่มาร์ค "
" จัดดอกไม้ไง "
" ทำไมชอบกวนแบบหน้าตาย.. " เสียงงอแงของน้องเล็กดังขึ้นทันที คนตัวสูงแอบเบ้ปากไปให้แล้วขยับตัวไปยืนตรงหัวโต๊ะมองแจบอมจัดดอกไม้อยู่ด้วยความตั้งใจ
" ยูคยอมไปเอาทานตะวันดอกเล็กให้พี่หน่อย สัก 4-5 ดอกนะ " เจ้าของชื่อพยักหน้ากลับไปให้แล้วเดินไปหยิบดอกทานตะวันเอามาส่งให้กับพี่ชายหน้าหล่อ
" เดี๋ยวผมไปช่วยพี่แจ็คสันกับซึงซิกขนกระเช้าก่อนนะ " มาร์คกับแจบอมพยักหน้ากลับไปให้
ยูคยอมกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาทางด้านข้างของร้านที่ด้านหน้าติดถนนใหญ่ริมรั้วของร้านมีรถบรรทุกขนาดเล็กจอดอยู่ ข้างกันเป็นชายหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีดำกำลังยืนคุยกับคนส่งของพร้อมกับเอกสารในมือ ขายาวพาเจ้าของร่างมาหยุดยืนด้านข้างแล้วก้มมองรายละเอียดของที่สั่งเข้ามาแล้วก็เงยหน้ามองดูจำนวนที่ถูกวางไว้บนรถแล้วก็แทบจะถอนหายใจออกมาวางทิ้งไว้ข้างนอก
นานๆ จะสั่งของที ก็สั่งจนคิดว่าจะเอาไปเก็บไว้ตรงไหนของร้าน
" โอเคครับ ตามนี้ " แจ็คสันส่งยิ้มไปให้พร้อมกับเซ็นรับของก่อนจะช่วยลุงคนขับกับเด็กติดรถมาด้วยอีกคน ขนของลงจากด้านในมากองไว้ตรงส่วนด้านในพื้นที่กว้างข้างร้านโดยมียูคยอมกับซึงซิกคอยช่วยอยู่ข้างๆ
" ผมเอาพวกนี้เข้าไปก่อนเลยนะพี่แจ็คสัน "
" อืมๆ เดี๋ยวพี่ช่วยขนเข้าไป " ยูคยอมหยิบตะกร้าไม้สีเข้มแขวนไว้เต็มแขนแล้วเดินขึ้นไปเก็บที่ชั้นบนของร้าน
" อันนี้ขนไปแล้วนะ " ซึงซิกส่งยิ้มน่ารักให้อีกครั้งก่อนจะหอบพวกตะกร้าเข้าไว้เต็มอกแล้วเดินตามยูคยอมเข้ามาในร้าน
มาร์คเหลือบสายตาขึ้นมองแผ่นหลังกว้างของน้องชายทั้งสองคนพร้อมกับเพื่อนสนิทที่กำลังช่วยกันขนของขึ้นไปด้านบนแล้วถึงหันมาสนใจกับกระถางดอกไม้เล็กตรงหน้าตัวเองแทน
แผ่นหลังหนาภายใต้เสื้อยืดแขนสั้นสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้มมีรอยขาดตามสไตล์กำลังยืนหันหลังหยิบกระถางมาวางจัดการใส่ดินใส่ปุ๋ยในปริมาณที่พอดีแล้วหยิบดอกทานตะวันมาตัดแต่งให้พอดีกับทรงของกระถางก่อนจะปักลงด้านในโดยรอบ ตามด้วยใบไม้สีเขียวสดแซมตามมุมของกระถางใบเล็ก หยิบริบบิ้นสีส้มมาผูกเป็นโบว์อีกครั้งแล้วถึงเดินไปหยิบกระบอกน้ำมาฉีดพรมเบาๆ ให้ดอกไม้พอชุ่มชื่นแล้วเดินมาวางลงตรงกลางโต๊ะเล็กที่มีกลุ่มนักศึกษานั่งมองกันอยู่ก่อนแล้ว
" ใช้เป็นดอกทานตะวันจะให้ความหมายที่ดีกว่านะครับ เพราะลักษณะดอกไม้หมายถึงความแข็งแรง ช่วยนำความสดใสให้กลับมาและยังหมายถึงชีวิตที่ยืนยาวด้วยครับ " มาร์คส่งยิ้มมาให้ในประโยคสุดท้ายทำเอาคนถูกมองในระยะประชิดถึงกับทำอะไรไม่ถูก
" มันเป็นแบบนี้นี่เอง.. เอ่อ.. แล้วกระถางนี้เท่าไหร่คะ ? "
" 9500 วอนครับ " หญิงสาวตรงหน้ารีบหยิบเงินออกจากระเป๋าแล้วส่งไปให้ทันที มาร์คกดยิ้มลงมุมปากแล้วยกมือขึ้นโบกไปมาให้ช้าๆ
" โอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ " เจ้าของแก้มขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดทันทีที่คนตัวสูงพูดจบ มือเล็กก้มหยิบกระถางเยี่ยมคนป่วยมาอุ้มเอาไว้แล้วผงกหัวไปให้แรงๆ ก่อนจะรีบเดินตามเพื่อนออกมาด้านนอกร้าน
" ขยันหว่านเสน่ห์จริงๆ เลยครับคุณมาร์ค "
" ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณแจ็คสันหวัง ว่าแต่ขนของเสร็จแล้ว ? "
" มาช่วยกันขนมา " แจ็คสันแกล้งกวักมือเรียกเพื่อนแล้วเบ้ปากไปให้ ก่อนจะรีบเดินไปช่วยยูคยอมกับซึงซิกที่กำลังขนของเข้ามาเก็บต่อ มาร์คส่งเสียงหัวเราะกลับไปแกล้ง แล้วเดินไปเก็บงานที่ค้างไว้บนโต๊ะให้เข้าที่พอดีกับที่แจบอมวางช่อดอกไม้ลงตรงหน้า
" เสร็จซักที "
" เอาน่า ดอกไม้ของคุณนางแบบแถวหน้า ต้องใส่ใจในรายละเอียดน่ะถูกแล้ว " มาร์คตบบ่าเพื่อนเบาๆ แล้วเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
" แพงด้วยไง " แจบอมเอ่ยตอบกลั้วเสียงหัวเราะ ลิ้นหนาดันกระพุ้งแก้มจนเห็นชัดแล้วถึงเดินเอาช่อดอกไม้ไปเก็บในตู้แช่รอเจ้าของที่แท้จริงมารับไป
" เออใช่พี่ ผมเห็นบ้านข้างๆ นี่เหมือนจะมีคนเข้ามาอยู่แล้วนะ เห็นขนของตกแต่งกันตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ยังไม่เสร็จเลย "
" แล้วไปรู้กับเค้าได้ยังไง ยูคยอม ? " แจ็คสันถามขึ้น ใบหน้าคมหรี่ตาลงมองคนตัวสูงเจ้าของเส้นผมสีแดงสว่างที่กำลังส่งยิ้มแหยมาให้
" ซึงซิกพาไปแอบดูมา "
" ตลกแล้ว นายน่ะแหล่ะพาฉันไปเกาะรั้วดูบ้านนั้นมา " เสียงหวานแหวกลับทันที ยูคยอมรีบยกมือขึ้นกอดคอซึงซิกเข้ามาใกล้แล้วยกมือขึ้นปิดปากซ้ำ
" ขี้ยุ่งเหมือนกันหนิ่เรา ยูคยอม "
" ว่าผมเสือกตรงๆ ก็ได้ จะไม่เจ็บเลยพี่แจ็คสัน " แจ็คสันส่งเสียงหัวเราะออกมาทันที ก่อนจะแกล้งดึงตัวซึงซิกออกมาแล้ววางคางตัวเองเกยไว้กับไหล่น้องเล็กของร้านบ้าง
" จะเปิดร้านอะไรรึเปล่า " แจบอมถามขึ้นแล้วหันมองยูคยอมที่ส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่รู้กลับมาให้
" จะเปิดร้านอะไรก็แล้วแต่ ไม่แย่งลูกค้ากันก็พอ " มาร์คตอบกลับแล้วยักคิ้วขึ้นกวนไปให้ทำเอายูคยอมต้องแอบหัวเราะออกมาเบาๆ
" ผมว่าไม่แย่งแน่นอน ดูจากปริมาณโต๊ะกับพวกของใช้แล้วน่าจะเปิดคาเฟ่นะ " ซึงซิกพูดขึ้นบ้างแล้วหันหน้ามองแจ็คสันที่ยังเกยคางไว้กับไหล่ตัวเองอยู่ ซึ่งคนพี่ก็พยักหน้ากลับมาให้
" นี่รู้เยอะขนาดนั้น แอบเป็นกิ๊กกับร้านข้างๆ รึเปล่า ? " แจบอมแกล้งแซวน้องเล็กของกลุ่มกลับไปบ้าง ซึงซิกเบ้ปากกลับไปให้แล้วแกล้งขยับไหล่ให้คนด้านหลังรู้สึกตัว แจ็คสันเหลือบตามองแจบอมทันทีแต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร แจบอมก็รีบยกมือขึ้นผลักหัวซึงซิกแกล้งต่อ
" พี่ก็รู้ว่าผมชอบช่วยเหลือคนรอบข้าง เห็นเค้ายกอะไรมาก็อยากช่วยอยากรู้ไปหมดน่ะแหล่ะ " ซึงซิกพูดขึ้นแล้วยกมือขึ้นแท็คกับยูคยอมที่พยายามกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้
" ใช่พี่ ผมกับซึงซิกเป็นมิตรกับคนทุกวัย พวกพี่ไม่รู้เหรอ "
" ไอ้สองคนนี้พอรวมตัวกันแล้วมันเป็นแบบนี้ทุกที่สิน่า " มาร์คยกมือขึ้นกุมขมับแล้วส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ต่างกับแจ็คสันที่ก้มหน้าฟุบกับโต๊ะหัวเราะเสียงดังไปแล้ว
" แล้วรู้ไหมว่าเค้าจะเปิดร้านวันไหน ? "
" น่าจะอาทิตย์หน้าเห็นป้ายติด " ยูคยอมพูดขึ้น
" พี่มาร์คจะเอาดอกไม้ไปให้เค้าเหรอ ? "
" เป็นความคิดที่ดีนะซึงซิก ใช่ไหมแจบอม ? "
" แล้วแต่ดิ่ ยังไงก็เพื่อนบ้านกัน " แจบอมยักไหล่กลับมาให้แล้วหันไปจัดการเศษดอกไม้ที่จัดเหลือไว้ก่อนหน้านี้เริ่มเก็บเข้าที่
มาร์คส่งยิ้มกลับไปให้ก่อนจะเดินไปกอดคอซึงซิกพากันยกกระถางดอกไม้ด้านในร้านออกมาวางด้านหน้าอีกครั้ง ลำตัวหนานั่งยองลงด้านหน้าร้านข้างกันเป็นน้องชายหน้าหวานที่กำลังช่วยขยับกระถางดอกไม้ที่ถูกเลื่อนออกมาให้กลับเข้าที่
มือหนาของมาร์คเอื้อมจับกลีบดอกเยอบีร่าที่กำลังซ้อนกันให้ขยับออก ก่อนจะเลื่อนไปจับกระถางอีกใบให้ขยับเข้าที่เพราะก่อนหน้านี้ดันมีคนยกมาทั้งกระถางแต่อยากได้แค่ช่อเดียวทำเอาทั้งมาร์คทั้งซึงซิกต้องยกมือขึ้นห้ามกันแทบไม่ทัน
แต่ก็ถือเป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งที่เจอแทบทุกเช้าเหมือนกัน
พอคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อเช้าก็อดที่จะอมยิ้มขำกับตัวเองไม่ได้ มือหนายกขึ้นเสยเส้นผมสีดำสนิทของตัวเองไปทางด้านหลังก่อนจะลุกขึ้นยืนหันหลังเตรียมจะเดินกลับเข้าร้านแต่ก็ต้องหยุดก้าวแล้วกดสายตามองเด็กผู้ชายตัวเล็กที่กำลังยืนมองอยู่ไม่ไกลจากที่มาร์คกับซึงซิกยืนอยู่
เจ้าของใบหน้าคมหรี่ตามองคนตัวเล็กนานจนคนที่มองมาก่อนแอบสะดุ้งแล้วเบนสายตามองไปทางอื่นแทน มือเล็กยกขึ้นเกาแก้มก่อนจะหันไปมองด้านข้างที่มาร์คก็ไม่รู้ว่ามีคนยืนอยู่รึเปล่าแต่สักพักก็มีร่างสูงของใครบางคนขยับขาเดินมาหยุดยืนด้านข้างพร้อมกับวางมือของตัวเองลงบนกลุ่มผมนิ่มขยี้ไปมา
" พี่มาร์คมองอะไรอยู่ครับ "
" ใครก็ไม่รู้น่ะ อย่าไปใส่ใจเลย " มาร์คหันไปตอบซึงซิกแล้วส่งยิ้มให้ คนตัวเล็กแกล้งหรี่ตามองพี่ชายแล้วหันไปมองตามสายตาก็เจอกับคนสองคนที่กำลังส่งยิ้มเอ็นดูให้กันแต่แค่นั้นก็มากพอให้อีกคนค่อยๆ หุบยิ้มลงแล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉยทันทีจนมาร์คต้องเลิ่กคิ้วขึ้นมอง
" เป็นอะไรไปเรา ? "
" เปล่าครับ เข้าร้านกันเถอะ " ซึงซิกว่าแล้วยื่นมือมาจับแขนของมาร์คจัดการลากเข้าไปในร้านทันที
มาร์คมองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินจ้ำไปทางหลังร้านแล้วก็หันไปมองแจ็คสันกับยูคยอมที่เหมือนจะเห็นความผิดปกติของซึงซิกได้ก็หันมามองหน้ากัน
" ซึงซิกเป็นอะไรอ่ะพี่มาร์ค ? "
" ไม่รู้ " มาร์คยักไหล่กลับไปให้แทนคำตอบก่อนจะเดินไปจัดการงานของตัวเองต่อ ยูคยอมหันมองหน้าแจ็คสันแล้วถึงพากันหันไปมองหน้าแจบอมที่เพิ่งเดินเข้ามาอีกรอบ
" เห็นซึงซิกไหมพี่แจบอม ? "
" เห็นเดินไปทางห้องน้ำนะ " ยูคยอมพยักหน้าไปให้แล้วถึงขอตัวเดินไปหาเพื่อน แจบอมมองตามแผ่นหลังกว้างของน้องชายแล้วก็หันกลับมามองแจ็คสันอีกรอบ
" อย่าถามนะ ไม่รู้เหมือนกัน " แจ็คสันรีบยกมือขึ้นแล้วส่ายหัวไปมาเป็นการปิดบทสนทนาแบบยังไม่ทันได้ถามสักคำ แจบอมยักไหล่กลับไปให้แล้วถึงเดินไปช่วยมาร์คเช็ครายละเอียดของดอกไม้ตรงตู้เย็นทรงสูงอีกครั้ง
เจ้าของร่างสูงใบหน้าคมหันมองตามแผ่นหลังบางของร้านด้านข้างที่เดินหายเข้าไปด้านในแล้วก็หลุบสายตาลงต่ำแต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าน่ารักของน้องชายที่กำลังขมวดคิ้วส่งมาให้ แก้มอูมกำลังป่องออกจากกันแล้วไหนจะดวงตากลมโตที่กำลังมองจ้องมาเหมือนคนกำลังจับผิดนั่นอีก
" เป็นอะไรไปครับพี่ซึงอู ? "
" ไม่มีอะไรหรอกแบมแบม "
เจ้าของใบหน้าน่ารักแอบหรี่ตามองลูกพี่ลูกน้องของตัวเองอีกครั้ง มือเล็กวางลงซ้อนบนผมแล้วยื่นมืออีกข้างไปตบที่แผ่นหลังหนาเบาๆ ให้คนพี่ต้องส่งยิ้มมาให้ ซึงอูหันมองร้านข้างๆ อีกครั้งก่อนจะหันกลับมามองคนตัวเล็กตรงหน้า
" เมื่อกี๊เห็นเหมือนกันใช่ไหมแบมแบม "
" เห็นครับ "
" อืม โลกกลมกว่าที่คิดอีก "
" ถ้ายังรักเค้าอยู่ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวนะพี่ เดี๋ยวแบมช่วยพี่ซึงอูเอง "
" เค้าคงไม่ได้อะไรกับพี่แล้ว อย่าเสียเวลาเลย " ซึงอูส่งยิ้มไปให้ก่อนจะกอดคอน้องชายพาเดินกลับเข้ามาด้านในร้าน
" พี่ถามเค้าแล้วรึยังล่ะ อย่าไปคิดแทนคนอื่นสิ " แบมแบมว่าแล้วยกมือขึ้นฟาดเข้าเต็มหน้าท้องแกร่งจนคนตัวสูงก้มตัวงอทันที
แบมแบมหันไปแล่บลิ้นใส่คนพี่อีกครั้งก่อนจะเปิดประตูไม้สีเข้มเข้ามาด้านใน ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่นอย่างสีน้ำตาลไม้เข้ากันดีกับชุดโต๊ะเก้าอี้สีไม้ที่ถูกแบ่งสรรพื้นที่การวางได้อย่างลงตัว ด้านข้างของร้านถูกจัดเป็นมุมวางตู้โชว์ขนมเค้กหลากชนิดรวมถึงชุดเครื่องสำหรับทำเครื่องดื่มของร้านด้วยเช่นกัน แบมแบมรีบก้าวไปช่วยเพื่อนสนิทที่กำลังยกตะกร้าผ้ามาวางกลางร้านมาคลุมตามโต๊ะ
" เหลืออะไรยังขนมาไม่หมดอีกบ้างอ่ะยองแจ "
" คิดว่าหมดแล้วนะ เหลือแค่ตกแต่งนิดหน่อยแหล่ะ "
" เดี๋ยวว่าจะไปผูกมิตรกับร้านข้างๆ ด้วย " แบมแบมเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มน่ารัก มือเล็กหยิบผ้าคลุมโต๊ะส่งให้ยองแจ จัดการคลุมลงบนโต๊ะและเก้าอี้ทุกตัวกันฝุ่นลง
" ร้านอะไรอ่ะ แต่เมื่อกี๊เห็นแว๊บๆ เหมือนร้านขายดอกไม้ "
" ก็ร้านขายดอกไม้น่ะ แต่มีเรื่องเซอร์ไพรต์กว่านั้นอีก " ยองแจแอบหันซ้ายหันขวาแล้วยื่นหน้าไปกระซิบกับเพื่อนสนิทตัวเองทันที
" เรื่องอะไรอ่ะ "
" แฟนเก่าพี่ซึงอูทำงานอยู่ที่นั่น "
" คุณพระ!! " ยองแจรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทันทีก่อนจะหันไปส่งยิ้มแหยให้เจ้าของชื่อที่หันมามองน้องชายทั้งสองคน
" พี่ซึงซิกเหรอแบมแบม "
" ใช่อ่ะดิ่ โลกกลมมากๆ มากแบบ ก.ไก่ล้านตัวก็เทียบไม่ได้อ่ะ " แบมแบมแกล้งเหลือบตามองเจ้าของร่างสูงที่กำลังช่วยคนตัวเล็กอีกคนปีนขึ้นไปคลุมผ้าลงบนเครื่องชงกาแฟด้านหลังเค้าเตอร์อีกครั้ง
" เดี๋ยวคราวนี้จะช่วยแบบเต็มความสามารถเลย "
" มาจับมือกัน " แบมแบมยื่นมือไปจับกับยองแจแล้วหันมองซึงอูที่กำลังยืนคุยอยู่ไม่ไกล ถึงริมฝีปากจะอมยิ้มออกมาแต่ดูจากสายตาที่ดูลอกแลกตลอดเวลา แบมแบมก็รู้แล้วว่าใจไม่ได้อยู่กับที่ร้านแล้วแต่ตอนนี้คงลอยไปอยู่กับร้านข้างๆ มากกว่า
" แบมแบม อันนี้ให้ฉันวางไว้ตรงไหนอ่ะ "
" มาวางตรงนี้ก็ได้จองกุก " มือเล็กกวักมือเรียกเพื่อนที่กำลังยกถาดใส่กระถางต้นกระบองเพชรเล็กๆ มาเต็มให้มาวางลงบนโต๊ะใกล้ตัวเอง
เจ้าของรอยยิ้มสวยส่งยิ้มให้แล้วก้าวเดินมาวางลงตรงหน้า ก่อนจะช่วยกันจัดการหยิบขึ้นไปเรียงไว้ตรงขอบบานกระจกด้านหน้าร้าน
" เดี๋ยวเรียงตรงนั้นเสร็จแล้วกลับกันดีกว่านะ "
" พี่จินยองจะไปทำธุระที่ไหนอ่อ ทำไมวันนี้กลับเร็ว " จองกุกหันไปถามพี่ชายคนสวยที่หันหน้ามองมาพอดี
" จะไปดูพวกผ้ากันเปื้อน แก้วชามกับซึงอูน่ะ ไปด้วยกันไหม ? "
" ไม่เอาอ่ะ " จองกุกส่งยิ้มน่ารักไปให้ จินยองถึงยื่นมือมาบีบจมูกน้องแกล้งดึงเบาๆ แล้วยืนรอทั้งสามคนที่กำลังเรียงต้นกระบองเพชรอยู่แล้วถึงหันมามองคนตัวสูงด้านข้างที่ยืนมองออกไปทางด้านนอกร้านตลอดเวลา เหมือนคนกำลังใช้ความคิด
" เป็นอะไรไปฮันซึงอู "
" มาชื่อเต็มแบบนี้มีอะไรรึเปล่าปาร์คจินยอง " คนถูกถามกลับอมยิ้มไปให้แทนคำตอบ มือเล็กวางลงบนไหล่เพื่อนแกล้งบีบเบาๆ
" เป็นอะไร "
" แค่คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ "
" มีอะไรให้ช่วยบอกได้นะ ยังไงก็คนในครอบครัวเดียวกัน " ซึงอูหันมองหน้าเพื่อนสนิทตัวเองแล้วก็พยักหน้ากลับไปให้ มือหนาวางลงขยี้ผมนิ่มแล้วส่งยิ้มไปให้ซ้ำ
" หรือพี่ซึงอูจะเปลี่ยนใจมาชอบพี่จินยองแทนแล้ว ? " ยองแจแอบกระซิบถามแล้วบุ้ยปากไปทางที่ทั้งสองคนยืนอยู่ให้แบมแบมกับจงกุกหันมองตาม
" บ้า! ไม่ใช่อ่ะยองแจ ฉันรับประกัน "
" ฉันก็คิดแบบแบมแบมนะ คู่นั้นเค้าสนิทกันมานานแล้วไม่งั้นไม่มาเปิดร้านนี้ด้วยกันอ่ะแล้วก็อีกอย่างนะพี่ซึงอูรักคนอื่นไม่เป็นหรอก " ยองแจกับแบมแบมหันมองหน้าจองกุกทันที คนตัวเล็กหน้าหวานส่งยิ้มกลับมาให้แล้วแอบบุ้ยปากไปทางที่ทั้งสองคนยืนอยู่
" พี่จินยองบอกว่าฮันซึงอูรู้จักแต่คังซึงซิก พอเป็นคนอื่นก็กลายเป็นหน่อไม้หมด "
" โอ้โหเห็นภาพเลยจริง " ยองแจกับแบมแบมพูดออกมาพร้อมกันแล้วพากันหัวเราะออกมา รอไม่นานทั้งห้าคนก็เดินออกมาด้านนอกร้านปล่อยให้หน้าที่ปิดร้านและคนถือกุญแจเป็นของจองกุกไปแทน
" เดี๋ยวแบม จองกุกแล้วก็ยองแจจะไปเดินหาบ้านพักให้เช่าแถวนี้ต่อนะพี่จินยอง พี่ซึงอูจะได้มาอยู่ด้วยกันแล้วก็ไม่ไกลจากร้านด้วย "
" ฝากด้วยนะ เดี๋ยวพี่กับซึงอูจะไปจัดการหาซื้อของมาตกแต่งร้านเพิ่มด้วย "
" เออพี่จินยอง แบมเสนอได้ไหมว่าจะไปซื้อดอกไม้ของร้านข้างๆ มาตกแต่งในร้านด้วยอ่ะ "
" รบกวนร้านเค้าเปล่าๆ นะแบมแบม "
" ร้านขายดอกไม้นะซึงอู จะรบกวนอะไร ? " คนถูกถามไม่ตอบแต่กลับเบือนหน้าหนีไปอีกทางทำเอาจินยองต้องขมวดคิ้วมองแล้วหันมามองหน้าแบมแบมอีกครั้ง
" พี่เห็นด้วยนะ เดี๋ยวพี่เข้าไปคุยเอง พวกเราไปจัดการหาบ้านเช่าเถอะ "
ทั้งสามคนหันมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้ารับไปให้ ก่อนจะพากันเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามปล่อยให้ซึงอูกับจินยองยืนอยู่ที่เดิมและพอจินยองหันหลังจะเดินไปทางร้านดอกไม้ที่อยู่ข้างกัน มือหนาของเพื่อนตัวสูงก็ยกขึ้นจับแขนเอาไว้จนอีกคนแทบล้ม
" ไปซื้อดอกไม้ปลอมง่ายกว่านะจินยอง "
" จะเอาดอกไม้สด "
" เฮ้ออ.. จินยองอ่าา " ซึงอูถอนหายใจออกมาแล้วก้มหน้ามองเพื่อนที่กำลังส่งสายตาสงสัยมาให้
" ไปด้วยกันสิ "
" ไปเถอะเดี๋ยวรอตรงนี้ " ซึงอูปล่อยมือออกจากแขนเพื่อนแล้วยืนนิ่งอยู่กับที่เดือดร้อนคนตัวเล็กที่กำลังส่งสายตาหงุดหงิดมาให้ พอบทจะดื้อเพื่อนเค้าคนนี้ก็ดื้อแบบไม่ยอมใครจริงๆ
" โอเค เอาไว้ก่อนก็ได้ ไปซื้อของเข้าร้านกันเถอะ " มือเล็กสอดเข้ากับแขนหนาจัดการดึงเบาๆ ให้คนตัวสูงเดินตามออกไปอีกด้าน ท่ามกลางสายตาของคนสองคนที่กำลังยืนดูอยู่ทางด้านข้างของร้าน มือเล็กเผลอกำเข้าหากันแน่นก่อนจะสะดุ้งออกมาเมื่อมือหนาจากคนด้านหลังที่มาหยุดยืนซ้อนยกมือขึ้นแตะที่ไหล่
" ฮันซึงอูหนิ่ "
" ไม่มีอะไรแล้วยูคยอม "
" อย่าโกหกเพื่อน มันบาป " คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาแล้วส่งยิ้มแหยไปให้ มือเล็กยกขึ้นตบแก้มตัวเองเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนอีกครั้ง
" ยังเจ็บอยู่ก็บอก "
" ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว มันนานเกินจะเจ็บแล้วอ่ะยูคยอม "
" มีอะไรก็บอกได้ เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ " ซึงซิกส่งยิ้มไปให้เพื่อนสนิทของตัวเองอีกครั้งก่อนจะเดินนำยูคยอมเข้ามาด้านในร้าน
แค่หวังว่าในอนาคตจะไม่ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันก็พอ แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้ายังไงแล้วถ้าต้องเจอกันแบบซึ่งซึ่งหน้าอีกครั้ง
มาร์คมองตามยูคยอมกับซึงซิกที่กำลังเดินเข้ามาแล้วก็ต้องรีบยกมือขึ้นเกี่ยวคอเสื้อยูคยอมดึงเอาไว้แล้วลากไปทางหลังร้านอีกรอบ
" อยากรู้อะไรเนี่ยพี่มาร์ค "
" ซึงซิก "
" อ๋อ ถ้าพี่จำคนที่ชื่อฮันซึงอูได้ นั่นแหล่ะคือเหตุผลของเหตุการณ์ในวันนี้ " มาร์คพยักหน้ากลับไปให้แล้วนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ทำเอาคนที่เคยสดใส ร่าเริง ยิ้มง่ายอย่างซึงซิกกลายเป็นคนเฉยชา นิ่งเงียบอยู่เป็นปี กว่าจะกลับมาสดใสได้แบบเดิมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
คำสัญญาในตอนนั้นของมาร์คลอยเข้ามาในหัวทันที คำสัญญาที่ดูเหมือนจะแค่ช่วยให้อีกคนสบายใจแต่วันนี้คงต้องทำแบบนั้นอย่างจริงจัง มาร์คไม่อยากเห็นน้องกลับไปเป็นคนไม่มีหัวใจแบบนั้นอีกและไม่ว่าจะยังไงก็ต้องปกป้องความรู้สึกของคังซึงซิกให้ได้
=================================
สวัสดีตอนบ่ายวันอาทิตย์ค่ะ ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดเรื่องสักที 5555555555555555555
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามกัน ขอฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยเน้ออออ
รักนะๆ
===========================================================
ความคิดเห็น