คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Episode 2
Episode 2
“แฮ่ก....แฮ่ก......” เสียงหอบดังขึ้นภายในห้องเงียบ เด็กสาวเดินไปที่ตู้เย็นก่อนจะหาน้ำมาดื่มดับกระหายในห้องครัว
ถึงจะน่าแปลกใจที่แวมไพร์มีน้ำเปล่าธรรมดาและซองวิตามินติดตู้เย็นก็เถอะ
“อึกๆ...เฮ้อ” ยุยปาดหยดน้ำตรงริมฝีปากออกก่อนจะวางขวดน้ำเอาไว้บนโต๊ะไม้ พลางจับลมหายใจให้เป็นปกติ
...คฤหาสน์หลังนี้ทั้งกว้างและวังเวงราวกับบ้านผีสิงที่เป็นเขาวงกต เธอเดินไปทั่วเพื่อหาช่องทางแต่ก็พบเพียงแค่ห้องว่างๆเท่านั้น ...
“ห้องลงห้องลับนี่ไม่มีเลยหรือไง” เธอบ่นออกมาก่อนจะเก็บขวดน้ำและเดินไปเพื่อจะเตรียมตัวไปเรียนกับเหล่าคุณชาย
พอยุยเดินขึ้นมาถึงห้องของตัวเอง เธอก็เห็นชุดนักเรียนยูนิฟอร์มสวยวางไว้บนเตียงแล้ว สงสัยเรย์จิคงเอามาวางไว้ให้เธอแน่ๆ
เด็กสาวคว้าชุดมาใส่แบบไม่อายเพราะยังไงในห้องนี้ก็มีแต่เธอ...
พอเปลี่ยนเสร็จก็ต้องพบว่ามันค่อนจะพอดีเป๊ะเลยทีเดียว ยังคงสงสัยว่าเขารู้ไซส์เธอได้ยังไง…
ก็อก ก็อก
“ใครคะ”
“ฉันเอง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นข้างๆใบหูสะอาด
“ว้าย!” เด็กสาวหมุนตัวไปผลักอายาโตะออกด้วยความตกใจ “นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็ตะกี้ไง ฉันเคาะแล้วนะ” อายาโตะหัวเราะเสียงต่ำ
“แต่ฉันยังไม่ได้เปิดประตูนี่นา นี่คุณหายตัวได้ด้วยเหรอ” ยุยถามเพื่อไว้เป็นข้อมูล
“ก็เออน่ะสิเป็นแวมไพร์ก็ไม่ได้กากขนาดนั้นนะ” อายาโตะยักไหล่ ก่อนจะดึงคอเสื้อตัวเองให้เข้าที่
“เออ...ถึงเวลาไปเรียนแล้วสินะ”ยุยถาม เพราะเห็นเขาก็แต่งตัวแล้ว
“อืม ข้าคนนี้ได้อยู่ห้องเดียวกับเธอด้วยนะ ดีใจไว้ซะด้วยล่ะ” อายาโตะยิ้มเยาะก่อนจะเดินนำออกไป
“หา ฉันอยู่ห้องเดียวกันกับอายาโตะคุง” ยุยเหวลั่น “ไม่จริงน่ะ”
“ทำไม อ้อ....อยู่กับไอ้....คานาโตะด้วย” เขาพูดเสริม
“โถ แต่ละคน” ยุยบ่นเบาๆ
“ยังไงก็ช่าง ตามมา” อายาโตะเดินนำออกไป โดยที่มือก็ลากยุยไปด้วย
“ฉันเดินเองได้นะ อายาโตะคุง”
“อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลยน่า” อายาโตะพูดเสียงหงุดหงิด ขี้เกียจไปโรงเรียนชะมัด ต้องไปเจอแฟนคลับน่ารำคาญ
เมื่อบรรยากาศเงียบขรึมลงเพราะเขาตัดบท คิ้วเรียวที่วางขนานกับดวงตาคู่สวยก็ขมวดเข้าหากัน
และเธอก็ตัดสินใจพูดเพื่อทำลายความเงียบในที่สุด
“.....ว่าแต่ที่นี่ไม่ต้องสอบเข้าเหรอ ทำไมฉันถึงเข้าได้ง่ายๆ”
“เรย์จิเป็นคนทำเรื่องให้เธอ” เขาตอบเรียบๆก่อนจะปล่อยมือเพราะถึงรถลีมูซีนของพวกเขาแล้ว
“อ๋อ” เธอยิ้มและโบกมือให้ไรโตะที่ทักทายเธออยู่ ก่อนจะเดินขึ้นรถไปอย่างสวัสดิภาพ...
แต่ก็สวัสดิภาพได้แค่นั้นแหละ....
“เอ่อ....พวกคุณชาย” เด็กสาวมองไปรอบๆ ต่างคนต่างวางของ วางตัวเองบนเบาะ จนไม่เหลือที่ให้เธอนั่ง แถมชูซังก็นอนเหยียดขาเต็มสามเบาะเลยทีเดียว
“เอ้า นั่งสิ...หึหึ”อายาโตะคุงเหยียดยิ้ม ถึงเขาจะไม่ค่อยชอบคนในบ้านสักเท่าไหร่ แต่นี่ก็คือข้อดีของพวกมันแหละนะ
‘ร่วมมือกันแกล้งน้องใหม่ไงล่ะ!’
“คุณยุยนั่งข้างผมก็ได้นะครับ” คานาโตะยกยิ้มก่อนจะผายมือไปด้านข้างๆ
“อ๊ะ ขอบคุณ....”
ฟุ่บ
“โอ๊ะ แย่แล้วสิ บิทช์จัง พอดีฉันอยากให้เท็ดดี้นั่งข้างๆฉันมากกว่าเธอน่ะ ขอโทษน้า” ไรโตะรีบคว้าเท็ดดี้ในมือของคานาโตะมาว่างไว้ระหว่างคานาโตะและตัวเอง ก่อนจะส่งยิ้มหวานละลายหัวใจให้เชิงขอโทษ
“อะ....เอ๋!?” เด็กสาวหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มผมม่วงเพื่อขอความช่วยเหลือ
“นั่นสินะครับ เท็ดดี้เองก็บอกว่าอยากนั่งตรงนี้เหมือนกัน...” คานาโตะพูดอย่างเลื่อนลอยก่อนจะปฏิเสธเธอไปอย่างสุภาพ “ไว้คราวหน้าละกันนะครับ”
ยุยกำมือแน่นแทนความโมโห ก่อนจะเดินไปหาเรย์จิที่กำลังจิบชาร้อนๆอยู่ตรงเบาะกลาง
“เอ่อ...คุณเรย์จิคะ ฉันขอ.....”
“ตอนนี้ อุณหภูมิประมาณ 28 องศา เข้าขั้นร้อน เพราะงั้นผมจึงอยากนั่งเย็นๆ สบายๆน่ะครับ”
“แต่คุณก็จิบชาร้อนนี่คะ?” เด็กสาวตอบทันที อย่ามาโกหกดีกว่า
“ผมแค่อยากดื่ม มีปัญหาเหรอครับ? ทีมนุษย์มีประจำเดือน เขาห้ามดื่มน้ำเย็น พวกคุณยังดื่มเลยนะครับ”
...แล้วมันเกี่ยวกันเหรอคะ? เบาะก็กว้างขวาง แบ่งที่สักนิดหน่อยไม่ได้รึไง...
“ค่ะ” เธอตอบสั้นๆก่อนจะหมุนตัวไปหาซูบารุที่นั่งเบาะแนวเดียวกับชูที่กำลังหลับ แต่อยู่ฝั่งเท้าของเขา
“คือว่า.....”
“เธอจะนั่งเบียดฉันอีกเหรอ? ตาบอดรึไง หมอนี่นอนคนเดียวฉันก็นั่งได้แค่ครึ่งตูดแล้ว” ซูบารุตวาดใส่แต่แอบหรี่เสียงให้เบาลงกว่าปกติ
“ขะ...ขอโทษค่ะ”
“หึๆ...ว่าไง ชิชินาชิ เธอจะนั่งกับฉันมั้ยล่ะ?” อายาโตะคุงทักด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ก็เหลือที่เดียวแล้วหนิ” เธอพูดด้วยใบหน้าง้ำงอ แต่ก่อนที่เธอจะหย่อนตัวลงนั่ง...
“สต็อป!” เขาก็ห้ามไว้จนเธอชะงัก
“อะไรอีกล่ะคะ? จะให้ฉันระเห็จตัวเองไปหลังคารถมั้ย?” เธอถามกวนๆแอบเหนื่อยใจที่ต้องมาอยู่กับพวกคุณชายกวนประสาท
“ขอร้องฉัน....เอาแบบหวานๆล่ะ” อายาโตะเชิดหน้าอย่างมีชัยก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นไขว่ห้าง แล้วกระดิกเท้าอย่างกวนๆ
“วะ...ว่าไงนะ แค่นั่งรถบนเบาะถึงขั้นต้องขอร้องกันเลยเหรอ” ยิ่งเธอเกลียดขี้หน้าเขามากที่สุดซะด้วยสิ เอาไงดี...
“เร็วสิ เดี๋ยวไปสายนะครับ” เรย์จิเสริมด้วยท่าทีนิ่งๆแต่สายตากลับซุกซน
“ฮึ่ม....”
“ว่ายังไงล่ะ? หรือจะไปนั่งบนหลังคารถ??” อายาโตะขู่ พลางชี้นิ้วไปบนอากาศแล้วหมุนไปมา
“........”
“ว่าไง?”
“บอกให้เขาออกรถค่ะ”
อายาโตะกระตุกคิ้วด้วยความสงสัย “อะไรนะ”
“ให้คนขับรถออกรถเลยค่ะ” เธอบอกอย่างแน่วแน่ สายตาแข็งกร้าวแบบไม่ยอมแพ้
คนอื่นเองก็ประหลาดใจเช่นกัน
“ทำไมล่ะครับ บิทช์จัง?”
“เพราะฉันไม่นั่งเบาะก็ได้ค่ะ” เธอยิ้มหวานให้ เพื่อเป็นการตอกหน้าชายหนุ่ม
“แล้วเธอจะยืนรึไง บ้าหรือเปล่า ถนนนี่ใช่ว่าจะเรียบๆนะ หลุมต่างๆเยอะจะตาย ตอนมาไม่สังเกตหรือไง” ซูบารุเถียง แค่ขอร้องแค่นี้ทำไม่ได้รึไง
“ฉันรู้ค่ะ และก็จะไม่ยืนด้วย”
“แล้วจะนั่งตรงไหนของคุณ ผมไม่ให้คุณนั่งตักนะครับ” คานาโตะแย้งขึ้นมา
“ชิชินาชิ เธอทำพวกฉันเสียเวลานะ ขอร้องมาเถอะน่า ทั้งหมดนี่แหละแล้วครั้งหน้าพวกฉันจะไม่แกล้งเธอเรื่องเบาะอีก” อายาโตะยื่นข้อเสนอ เขาอยากเห็นสาวน้อยขอร้องเขาจนเนื้อเต้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าต้องขอร้องพวกคุณ ฉันยอมนั่งบนหลังคารถ”ยุยส่งยิ้มให้อายาโตะ จนเขานึกฉุนไม่น้อย
“ออกรถ!!!!”
บรื้นนนนนนนน!!!
สิ้นคำของอายาโตะ รถลีมูซีนก็แล่นไปตามทางที่ซับซ้อนด้วยความเร็ว เขาแสยะยิ้ม “ไหนว่าไม่ยืนไง? เดี๋ยวก็ล้มหรอกน่า”
เธอยกยิ้มก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งบน ‘พื้น’ ของตรงกลางวงเหล่าคุณชาย
“นะ...นี่เธอ” ซูบารุเอ่ยแบบไม่อยากเชื่อ
“ถึงฉันจะเป็น ‘เหยื่อ’ ไม่มีสิทธิตอบโต้ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงการโดนกลั่นแกล้ง คงไม่ผิดสินะคะ” เธอยิ้มบางๆให้พวกคุณชายแต่กลับเปรียบเสมือนธนูแห่งโทสะ ปักเข้าไปในใจพวกเขาทันที
...อวดดี! แบบนี้จะแกล้งให้สาสมเลยล่ะ โคโมริ ยุย!!!
ณ โรงเรียนเรียวเทย์
เอี๊ยดดด....
“กรี๊ดดดดดดด! คุณชายมาแล้ว~”
“คุณคะ ลูกของเราคิดถึงคุณใหญ่เลยนะคะ อ๊ายยย”
“ใจจะละลายไปหาแล้วว”
“ไข้ขึ้นกะทันหัน ช่วยพาไปส่งหน่อยนะคะคุณชายยย”
สมรภูมิรบครั้งที่ 2 ‘ความเข้าใจผิด’ เมื่อเด็กสาวเดินลงมาจากรถลีมูซีน สายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่พวกคุณชายจากสาวๆในโรงเรียนก็เปลี่ยนไปในทันที
ดวงตาแต่ละคู่จ้องมองเธออย่างเหยียดๆ บ้างก็ว่างเปล่า บ้างก็รังเกียจ แต่เมื่อเหล่าคุณชายทยอยลงมาจากรถ ทุกคนก็มีใบหน้ากลับมาเป็นปกติ
“นี่ใครเหรอคะ? คุณชาย” สาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-เสปน ถามอย่างสงสัย ปนโมโห
“อ๋อ เป็นแขก ‘คนสำคัญ’ของพวกผมเองครับ” ไรโตะยิ้มหวานตอบ แต่กลับทำลายความรู้สึกผู้ฟังหลายๆคน
“ฉันเป็นแค่เพื่อนบ้านน่ะค่ะ” ยุยรีบแก้ข่าวทันที เพราะจับพิรุธในน้ำเสียงหวานของไรโตะได้
“เหรอ แต่ฉันจำได้ว่าเธออยู่บ้านเดียวกันกับพวกฉัน” อายาโตะแทรกขึ้นมาพูดลอยๆ
“ใช่ครับ คุณยังมาเล่นกับเท็ดดี้ของผมเมื่อคืน ‘ที่ห้องของผม’ อยู่เลย”คานาโตะพูดด้วยน้ำเสียงอ้อยอิ่ง
“เธอมาปลุกฉันที่เตียงด้วยนะ” ชูป้องปากหาว ตอบ
“ไหนจะทำกับข้าวให้อีก” ซูบารุแสยะยิ้ม เถียงเขาไว้แสบนักล่ะ โดนซะมั่งก็ดี
“แถมยังช่วยชงชาให้ผมตอนง่วงๆด้วยนะครับ” เรย์จิดันแว่นก่อนจะช่วยเสริม
“พะ...พวกคุณพูดอะไรน่ะ” ยุยพูดน้ำเสียงตะกุกตะกักเล็กน้อย โกหกทั้งเพ! จริงแค่เรื่องอยู่บ้านเดียวกันเองนะ!
สายตาของคนในโรงเรียนเริ่มมองเธอในแง่ร้ายมากขึ้น คนอะไร โกหกหน้าด้านๆ
“ฉันไม่เคยเล่นกับเท็ดดี้ของคุณและจะไม่เล่นด้วย ฉันไม่คิดจะปลุกคุณเลยสักครั้งเพราะเกรงใจ ส่วนกับข้าว คุณเรย์จิเป็นคนทำค่ะบางครั้งก็พ่อบ้าน ชงชาอะไรกันคะคุณเรย์จิ ฉันชงเป็นซะที่ไหน” เธอบ่นออกมาเป็นพรวน
“แต่เรื่องอยู่บ้านเดียวกันฉันยอมรับค่ะ” เด็กสาวพูดอยากบริสุทธิ์ใจ ทำให้สีหน้าของแต่ละคนดูดีขึ้นมา บางคนก็แอบขำที่คุณชายเรย์จิเป็นคนทำอาหาร ทำเอาพวกคุณชายเสียหน้าอยู่ไม่น้อย
อายาโตะเม้มปากแน่นครู่หนึ่ง ยัยนี่ชักจะได้หน้ามากเกินไปแล้ว!
“เออ พวกแกนี่พูดอะไรวะ” อายาโตะขมวดคิ้วพูด
“อะไรเหรอ อายาโตะคุง” ไรโตะเลิกคิ้วสงสัย
“ก็พวกแกน่ะใส่ร้าย ‘ผู้หญิงของฉัน’ อยู่นะเว้ย ยัยนี่น่ะอยู่กับฉัน ‘ทั้งคืน’จะไปยุ่งย่ามกับพวกนายได้ยังไง” อายาโตะขยิบตาพลางแสยะยิ้ม เรียกเสียงวี๊ดว๊ายของสาวๆได้อีกครั้ง
อายาโตะ ถือว่าเป็นคนที่ค่อนข้างป็อปปูล่าไม่น้อย ถ้าเขาทำให้สาวๆเหล่านั้นเกลียดยัยนี่ได้คงจะโดนแกล้งโดยไม่ถึงมือพวกเขา
คนอื่นๆคิดตามอย่างรวดเร็ว ถึงจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่แต่ว่า ก็นับว่าเป็นแผนที่ดี
“เออ ก็ไม่เคยจะแบ่งพี่น้องน่ะนะอายาโตะคุง” ไรโตะแกล้งเบะปาก แสดงความยืนยันให้สาวๆที่กำลังเข้าใจผิดอย่างรุนแรง
“นี่! ฉันเพิ่งย้ายมาวันนี้เองนะ อีกอย่างใครเป็นผู้หญิงของอายาโตะคุงกัน!” เธอเหวใส่แก้มแอบแดงระเรื่อ ไม่นึกว่าเขาจะใช้มุกนี้
“นี่! หยุดหน้าด้านสักทีได้ไหม?! ขัดหูขัดตา”
“ใช่ๆ! พวกแมวนิสัยไม่ดี! แมวหยิบชิ้นปลามันแท้ๆ!!”
“ไปให้ไกลตีนเลยนะ ยัยบ้า!”
เสียงด่าทอ สาปแช่ง และสายตาที่แสนจะดูถูกดูแคลน ยุยไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร ใครบอกว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย นี่ไม่เห็นจะมีใครเชื่อเธอเลย...
“พอเถอะน่า”
เสียงๆหนึ่งดังขึ้น ทำให้หลายๆคนต่างก็หันไปมอง...
ชายหนุ่มรูปร่างโปร่งสูง ผมสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำทรงยุ่งนิดๆ ดวงตาคมสีน้ำเงินแต่หางตากลับตกลง น่าดึงดูด ปากบางเฉียบสีสดขยับพูด
“มันน่ารำคาญน่ะ ถ้าไม่รู้จริงก็อย่าพูดดีกว่า เธอเป็นนักเรียนใหม่สมควรได้รับการดูแล”เขาพูดอย่างมีเหตุผลจนคนที่กำลังจะต่อว่าเด็กสาวต่อ หุบปากดังฉับ
“ไม่เป็นไรแล้วนะ” เขาปรายตามองเธอเล็กน้อย เธอจึงพูดขอบคุณเบาๆ
“ขะ...ขอบคุณค่ะ”
“ชิ....แวมไพร์” อายาโตะย่นจมูก
“นั่นสิครับ กลิ่นเหม็นสาบซะจริง”เรย์จิดันแว่นก่อนจะกระชับถุงมือ
“ฉันชื่อ ‘มุคามิ รุกิ’ ยินดีที่ได้รู้จัก” รุกิพูดแนะนำตัว “โคโมริ ยุย”
เฮือก!!
“คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไงคะ?” ยุยพูดให้ได้ยินกันแค่สองคน ใบหน้าใกล้กัน เสียงซุบซิบนินทาก็ดังขึ้นมา
“เฮ้ย!” อายาโตะรีบเดินไปขวางหน้ายุยเอาไว้ “แกคิดจะทำอะไร”
“ก็แค่ทักทาย ‘ปศุสัตว์’ ของฉันเท่านั้น” รุกิพูดอย่างไม่ยี่หระ จนเลือดร้อนของอายาโตะเดือดพล่าน
“แก...คิดจะมาแย่งเหยื่อของฉันรึไง”อายาโตะเอ่ยกระซิบแต่กดดัน
“ใช่” รุกิตอบเสียงเรียบ “แผนการของท่านผู้นั้น...ฉันจำเป็นต้องทำให้สำเร็จ”
“แผนการอะไร?”
“ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณ แต่การที่เอา ‘ผู้หญิงของคนอื่น’มาพูดเสียๆหายๆแบบนี้มันต่ำทรามมากเลยล่ะ” รุกิจงใจพูดเสียงดังให้ได้ยินกันทั่ว อายาโตะก็ได้แต่ตาเบิกโพลง เขาคิดจะลองดีหรือไง?!
“ว่าไงนะ ยัยเด็กใหม่ไม่ใช่แฟนคุณอายาโตะ?”
“อ้าว สรุปเรื่องหลอกงั้นเหรอ??”
“แฟนคุณรุกินี่เอง...มิน่าล่ะ”
ซุบซิบ~ซุบซิบ
เหล่าคุณชายซาคามากิถึงกับขมวดคิ้ว เจ้าแวมไพร์ชอบแย่งของๆคนอื่นแบบนี้ เป็นใครกันแน่
ต่างคนต่างไม่คิดที่จะแก้ข่าว ปล่อยให้คนอื่นเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง...เอ่อ ไม่ถูกทั้งหมดไป แล้วเดินไปเข้าห้องเรียนตามปกติ ซึ่งพอเหล่าคุณชายเสด็จเดินไปแล้ว หลายๆคนก็มาขอโทษเธอ แต่ก็มีบางคนที่มาขู่เธอ ซึ่งเธอก็ทำเพียงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
...ชาตินี้เธอคงไม่รักแวมไพร์พวกนั้นหรอก...
“ต้องขอบคุณ รุกิคุงมากๆเลยนะ ฉันน่ะรอดมาได้เพราะนายแท้ๆเลยล่ะ” เด็กสาวยิ้ม ถึงแม้เขาจะน่าสงสัยที่รู้จักเธอ แต่ว่ายังไงๆเขาก็เป็นคนที่ช่วยเธอเอาไว้ล่ะน่า
“อืม ยังไงก็ขอโทษด้วยที่อ้างชื่อเธอมาเป็นแฟน” รุกิพูดเสียงเรียบเหมือนไม่ใส่ใจ
“อืม ค่ะ ยังไงก็ดี ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” เธอโค้งนิดๆก่อนจะหมุนตัวเพื่อขึ้นตึกเรียน...
หมับ!
“เดี๋ยว”
“หืม?...ว้าย!” ยุยอุทานอย่างตกใจเมื่อจู่ๆรุกิก็ยื่นหน้ามาจนเกือบชิดแก้มของเธอ เลือดสูบฉีดเร็วกว่าเดิมถึงสองเท่า เธอเอ่ยอย่างตกใจ “จะทำอะไรน่ะ!?”
“กลิ่นเลือดเธอนี่หอมหวานดีนะ...สมแล้วที่เป็น ‘อีฟ’”รุกิแสยะยิ้มจนเห็นเขี้ยว ดวงตาที่เคยสีมืดมน กลายเป็นประกายและแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทับทิม
วะ...แวมไพร์ งั้นเหรอ?!
“คุณเองก็...!”
“โอ๊ะๆถ้าเธอพูดตอนนี้ฉันจะกัดคอเธอต่อหน้าทุกคนนะ” รุกิขู่พลางเหลือบมองไปที่คนที่เดินพลุกพล่านอยู่ด้วยอาการวี๊ดว้ายที่เขากำลังทำท่าจะหอมแก้มเธอแบบนี้ เด็กสาวมองตามก่อนจะหุบปากเงียบ
“งั้นก็ถอยออกไปสิคะ”
รุกิผละตัวออก “เราได้เจอกันอีกแน่” แล้วเขาก็ฝ่าดงสาวๆที่กำลังกรี๊ดอยู่ขึ้นห้องเรียนไป
“เฮ้อ.....อะไรจะมาก็มาเหอะ” ยุยบ่นอย่างเหนื่อยอ่อน นี่ขนาดวันแรกนะเนี่ย
เด็กสาวเดินขึ้นตึกอย่างระมัดระวังและตื่นเต้น โรงเรียนนี้รู้สึกว่าจะมีแวมไพร์ปะปนกับมนุษย์อยู่เยอะเหมือนกัน เพราะเธอเห็นว่ามีคนหลายๆคนจ้องเธอด้วยสายตาสีแดง...น่ากลัว
เอี๊ยดดด......
ทั้งห้องส่งสายตามาที่เธอก่อนจะหันไปคุยกันต่อ เธอเหลือบไปเห็นคานาโตะคุงกำลังเล่นเท็ดดี้ด้วยหน้าตาหงุดหงิด และอายาโตะคุงที่กำลังนั่งฟังเพลงอยู่ที่โต๊ะ ใบหน้าไม่สบอารมณ์ขั้นรุนแรง
“เอ่อ มีที่นั่งตรงไหนว่างมั้ยคะ?” ยุยตัดสินใจถามคนในห้องที่อยู่แถวประตู
“เหลือแต่ที่นั่งข้างอายาโตะน่ะ...ความจริงฉันก็อยากนั่งกับเขานะ แต่ไม่กล้า...” เธอคนนี้กระซิบเสียงเบาหวิวและแน่นอนว่าแวมไพร์อย่างเขาจะต้องได้ยินอยู่แล้วแม้ว่าจะฟังเพลงอยู่
“งั้นฉันต้องนั่งกับเขา?” คานาโตะคุงนั่งแถวเดี่ยวเลยไม่ต้องมีคู่สินะ
“ตามนั้นแหละ...” เธอคนนั้นยืนยัน เธอเลยได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะ
“ไง คุยกับหมอนั่นสนุกไหมล่ะ?” อายาโตะถามทั้งๆที่หลับตาอยู่
“เขาเป็นแวมไพร์”เธอตอบสั้นๆ “เขาคือใครงั้นเหรอ”
“เธอรู้ชื่อมันแล้วหนิ”
“ฉันหมายถึง...เขาเป็นคนยังไงต่างหากล่ะ” กวนไปไหนน่ะตาบ้าเอ๊ย!
“รู้สึกว่าจะเป็นแวมไพร์เลือดไม่แท้นะ กลิ่นโครตจะเหม็นสาบเลย” เขาย่นจมูกอีกครั้ง แค่คิดก็ขมไปถึงคอ
“อะไรกัน เขาก็ไม่ได้ตัวเหม็นสักหน่อยนะ” ตอนเธออยู่ใกล้ๆเขา...รุกิน่ะ ตัวก็หอมนะ
“ฉันหมายถึง ‘เลือด’ ของมันต่างหากเล่า มนุษย์น่ะกลิ่นเลือดจะหอมหวานแต่รสชาติจะแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเป็นแวมไพร์น่ะเลือดมันก็รสชาติและกลิ่นเหมือนกันหมดนั่นแหละ แต่หมอนี่มันกลิ่น...โครตเน่าเลย” อายาโตะอธิบายด้วยสีหน้าขมขื่น
“นายจะบอกว่าเขาไม่ใช่แวมไพร์ปกติงั้นเหรอ?” ยุยยังไม่หมดข้อสงสัย และคิดตามอย่างรวดเร็ว
“ใช่ หมอนั่นน่ะคงจะต้องกลายพันธุ์มาแน่ๆ” เขาพูดติดตลกก่อนจะลืมตาเมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้อง แล้วเรียกไปทำกิจกรรมต่างๆ....
...จนกระทั่ง เลิกเรียน
อายาโตะและคานาโตะไม่สนใจเธอเลยสักนิดเขาเดินตรงออกไปจากห้อง โดยที่เธอนั่งเก็บของอยู่คนเดียว
“อาหารมื้อค่ำ...” เธอพึมพำเบาๆ ท้องเธอร้องตั้งแต่คาบที่แล้ว คงต้องหาอะไรทานเสียหน่อย
ปัง!
“หือ?!...อื้อ!” มือหนาอุดปากร่างเล็กด้วยความร้อนใจ เธอใจเต้นรัวๆ เสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งผ่านหน้าห้องไปพร้อมกับเสียงโหวกเหวกโวยวายของเหล่านักเรียนหญิง
...นะ..นี่มันดังกว่าเมื่อเช้าอีกนะ เสียงกรี๊ดน่ะ!...
ถ้าให้เดาอาจจะเป็นคุณชาย หรือถ้าไม่อาจจะเป็นคนที่กำลังฮอตมากๆ... พอเสียงเหล่านั้นเงียบลง มือหนาก็ผละออก ใบหน้าหวานจึงเงยขึ้น มองบุคคลปริศนาทันที...
ใบหน้าหวานแต่ซ่อนคม ดวงตาสีฟ้าประกายสวย ผมสีเหลืองทองแต่ดันยาวจนปรกตาข้างหนึ่งทำให้เธออยากจะปัดมันออกซะ ใบหน้าก็...ขาวใส
...หล่อ...น่ารัก...มากกก...!!!
“คะ...คุณ” เธอพูดตะกุกตะกัก เธอและเขาตัวแนบชิดกัน...กับคนแปลกหน้า
“อ๋อ...นึกว่าใคร ที่แท้ก็แมวเหมียวมาโซคิสม์ของเรานี่เอง....” ชายแปลกหน้ายิ้มกระหยิ่ม ก่อนจะเรียกฉายาที่เพิ่งจะตั้งให้เธออีกครั้ง “เอ็มเมเนโกะจัง...”
“เอ่อ....คุณคือใคร? หนีอะไรมา?? เรียนอยู่ปีอะไรคะ???แล้วทำไมเรียกฉันแบบนั้น????” ยุยยิงคำถามที่สงสัยทันทีเมื่อมีช่องว่าง
“อืมม....ผมตอบได้แค่ไม่กี่คำถามน่ะนะ ผม ‘มุคามิ โคว’ เรียนอยู่ปีสามครับผม~” โควตอบเสียงระริกระรี้ ก่อนจะเอ่ยชม “แล้วเอ็มเมเนโกะจังล่ะ~”
“ฉันถามคุณไปตั้งเยอะนะ” ยุยทำหน้ามุ่ย ตอบมาไม่กี้ข้อเองแถมเธอไม่ค่อยอยากจะรู้ขอที่เขาตอบซะด้วยสิ ก่อนจะนึกอะไรออก
“เดี๋ยวนะ...ชื่อคุณคุ้นมากเลย...” ก่อนจะเกิดแสงสว่างวาบในหัวดัง ‘ปิ๊ง’ “อ้อ! นามสกุลเดียวกันกับรุกิคุงนี่เอง!”
“ช่ายยย แต่ว่าเป็นแค่ญาติกันน่ะครับ” โควขยิบตาให้หนึ่งทีก่อนจะมีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์
“ขอตัวแป๊บน้า...ครับๆ” แล้วเขาก็หมุนตัวไปคุยโทรศัพท์ต่อ ทำไมเธอถึงไม่ได้ยินอะไรเลยนะ? คุยกับใครกันแน่?? แต่พอชายหนุ่มคุยธุระเสร็จก็หันกลับมา
“ขอโทษนะที่ให้รอ” เขายิ้มหวานเชิงขอโทษ ซึ่งเธอก็ทำได้เพียงส่ายหัว
“ตอบคำถามมาเดี๋ยวนี้เลยนะโควคุง” เธอย้ำหน้าเคร่ง คิดจะหนีรึไง?
“ไว้คราวหน้าละกัน” เขายิ้มให้อีกครั้ง “...จะบอกให้หมดเปลือกเลยล่ะ น้า~”
เด็กสาวถอนหายใจ คิดจะหนีจริงๆด้วย “เมื่อไหร่ล่ะคะ?”
“เอาเป็น...วันเสาร์นี้ก็แล้วกัน ผมต้องไปทำงานแล้ว...ไปก่อนน้า~!” เขาโบกมือให้แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วทันทีดั่งจรวด
“เดี๋ยวสิ! วันเสาร์มันวันหยุดนะ โควคุง! กลับมาก่อนสิ!!”
…ตึก...ตึก...ตึก!
“อีฟงั้นเหรอ...กลิ่นแบบนั้น.....” ชายหนุ่มพักหายใจอย่างอ่อนแรง เหนื่อยชะมัดยาดเลย
รู้ไหม เขาต้องอดทนแค่ไหนที่จะกลั้นใจหนีออกมา โดยไม่ดูดเลือดเธอ เมื่อเช้ารุกิทนได้ยังไงกัน??
“อดัม...จะต้องเป็นฉัน!”
..........................................................
to be continued~
สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทุกคน ถ้าเนื้อเรื่องผิดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ (_ _) เราไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้น่ะนะ ต้องเข้าใจ แต่ว่าตอนนี้...ฮู้ววว มาช้าพอสมควรไว้คราวหน้าจะพยายามอัพให้สนุกกว่านี้ เพราะสามตอนที่ผ่านมา...จืดไปหน่อย ๕๕๕ ยังไงก็พบกันใหม่คราวหน้าเนอะ
"เอ้อ...อย่าลืมคอมเม้นท์ให้กำลังใจไรท์ด้วยนะคะ^^"
ความคิดเห็น