คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [Chapter 3] 'ผี' หรือ 'คน'
Inside my heart
Chapter 3 'ผี' หรือ 'คน'
Author :: KF
Talk : หายหน้าหายตาไปนาน ก็กลับมาพร้อมกับตอนที่3 ที่...สั้นเหมือนเดิม = =;; กำลังอยู่ในช่วงสอบปลายภาคค่ะ (เเล้วไหงมานั่งเเต่งฟิคฟร่ะ) หวังว่ารีดทุกคนจะยังไม่ลืมกันไปนะคะ เเล้วจะรีบเเต่งตอน4ให้เร็วที่สุดค่ะ ^^
“ถึงแล้วยอลลี่” เสียงของอูฮยอนดังขึ้นเมื่อเขาขับรถมาจอดที่หน้าคอนโดของซองยอล
เมื่อไม่มีเสียงบอกลาหรือเสียงเปิดประตู อูฮยอนหันไปมองผู้ชายตัวสูงที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ และพบว่าซองยอลกำลังหลับสนิท
“ซองยอล” อูฮยอนเอื้อมมือไปเขย่าตัวของซองยอลเบาๆ ซองยอลได้แต่ส่งเสียงอื้อ ออกมาแต่ไม่มีท่าทีจะตื่น
อูฮยอนค่อยๆเอื้อมมือไปเกลี่ยแก้มของซองยอล...เขากำลังทำอะไรอยู่
คิดได้อย่างนั้นนั้นเขาจึงชักมือของตัวเองกลับและจ้องมองโครงหน้าสวยได้รูปนั้นอย่างเงียบๆ ไม่คิดจะปลุกคนหลับลึกอีกต่อไป
เมื่อเวลาล่วงเลยไปเปลือกตาของซองยอลยังคงปิดสนิทและไม่มีท่าทีว่าจะลืมตาขึ้นมาได้ง่ายๆ
อูฮยอนถอนหายใจและพยายามเขย่าตัวซองยอลอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล...เห็นทีจะต้องใช้วิธีนี้แล้วล่ะ
“ซองยอล ถ้านายไม่ตื่นฉันจะอุ้มนายไปนะ” อูฮยอนกระซิบข้างหูซองยอล แต่ร่างสูงยังคงหลับสนิท ไม่มีปฏิกิริยากับสิ่งที่อูฮยอนพูด
“ฉันทำจริงๆนะ” อูฮยอนพูดด้วยโทนเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม ซองยอลเพียงแค่พลิกตัวหันหน้าไปอีกทางและบ่นงึมงำ
“อูฮยอนฮยอง...บ้า”
“ห๊ะ นายว่าไงนะ” อูฮยอนกลับมาพยายามเขย่าตัวซองยอลอีกครั้ง ซองยอลส่งเสียง อื้อ อย่างรำคาญก่อนจะใช้มือปัดๆมือของอูฮยอนที่รบกวนการนอนของเขา
อูฮยอนนิ่ง มองร่างสูงที่ทำท่าจะหลับสนิทอีกครั้ง คนอะไรปลุกยากชะมัด... เขาลงจากรถและเดินไปยังฝั่งที่ซองยอลนั่งก่อนจะเปิดประตูและดึงร่างสูงออกมาจากรถ
ซองยอลรู้สึกถึงแรงดึง เขาสะดุ้งเบิกตากว้าง สิ่งแรกที่เขาเห็นคือใบหน้ายิ้มขำๆของอูฮยอน ก่อนที่เขาจะมองไปรอบๆตัว เอ่อ..นี่มันคอนโดเขานิ
ซองยอลค่อยๆทบทวนเรื่องราวในสมอง เริ่มจากที่เขาเจอผีในแฟชั่นฮอลล์แล้วหลังจากนั้น..อ่อ อูฮยอนฮยองมาส่งเขานี่เอง
“เอ่อ..ขอบคุณฮยองที่มาส่งนะครับ” ซองยอลพูดและบิดข้อมือออกจากมือใหญ่ของอูฮยอน
“ไม่เป็นไรหรอก แต่ทีหลังปลุกครั้งเดียวต้องตื่นนะ ฮ่าๆ” อูฮยอนหัวเราะเบาๆก่อนจะโบกมือให้ซองยอลและเดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับ
ซองยอลโบกมือให้อูฮยอนที่อยู่ในรถ และก็ต้องแปลกใจที่อูฮยอนเลื่อนกระจกรถลงมาอีกครั้ง
“ฝันดีนะ เด็กประถม” อูฮยอนตะโกนออกมาและยิ้มก่อนจะเลื่อนกระจกปิดและขับรถออกไป ทิ้งซองยอลให้ยืนยิ้มอยู่คนเดียวตรงนั้น
...
“หืม ว่าไงนะฮยอง วันนี้ผมมีงานอีกหรอ ไม่ไปได้มั้ยเนี่ย” ซองยอลบ่นขณะที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์พร้อมจิบกาแฟรออาหารเช้าที่ผู้จัดการของเขากำลังทำอยู่
“นายต้องไปซองยอล ช่วงนี้นายกำลังดัง ควรจะออกงานเยอะๆ” เมเนเจอร์คีบขนมปังปิ้งใส่จานก่อนจะยื่นไปที่หน้าของซองยอล
“แต่เมื่อวานน่ะเหนื่อยมากเลยนะ ทำงานตั้งแต่เย็นยันวันใหม่ แล้วก็นะ..”
“นายไม่มีสิทธิ์บ่นนะ ซองยอล ฉันเพิ่งกลับถึงห้องเมื่อกี้ยังต้องมาทำอาหารให้นายกินเลย” คำพูดของเมเนเจอร์ทำให้ซองยอลเงียบ และพยายามขุดหาอะไรมาเถียง แต่ท่าทางเขาจะเถียงไม่ขึ้น
“ก็ได้” ซองยอลถอนหายใจก่อนจะหยิบขนมปังปิ้งขึ้นมากัด
“ว่าแต่เมื่อคืนนายกลับยังไงล่ะ ซองยอล” ผู้จัดการคีบขนมปังปิ้งของเขาใส่จานก่อนจะเดินมานั่งร่วมโต๊ะกับซองยอล
“อูฮยอนฮยองมาส่งน่ะ” ซองยอลจิบกาแฟและพูด
“อืม งั้นหรอ แต่ฉันขอแนะนำอะไรสักนิดนะ ช่วงนี้อยู่ห่างๆอูฮยอนไว้หน่อยดีกว่า นายกำลังดัง ถ้าเป็นข่าวขึ้นมาล่ะจะยุ่ง ยิ่งคนๆนั้นเป็นอูฮยอนแล้วด้วยล่ะนะ”
“ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยทำไมจะต้องกลัว” ทำไมกัน... ทำไมตอนที่เขาพูดถึงรู้สึกเจ็บที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“เอาเหอะ ทำตามที่ฉันพูดเหอะน่า”
“คร้าบ ครับ”
“พูดถึงงานคืนนี้หน่อยละกัน คืนนี้ก็จัดที่เดิมอีกนั่นแหละ นายคงจะชินแคทวอล์กแล้วใช่ไหม หวังว่าจะไม่มีปะ..เห้ย!” เสียงขอผู้จัดการขาดหายไปเมื่อคนตัวสูงตรงหน้าเขาพ่นกาแฟออกมาเต็มเหนี่ยว
“แค่กๆ ฮยองว่าไงนะ ที่เดิม?” ซองยอลหยิบทิชชูมาเช็ดปากก่อนจะทำตาเหลือกและทวนสิ่งที่ผู้จัดการของเขาพูด
“ใช่ ทำไมล่ะ ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง ฉันคิดว่ามันจะสะดวกเสียอีกถ้าได้เดินบนเวทีที่เคยเดินแล้ว” ผู้จัดการของซองยอลพูดพลางหยิบทิชชูมาเช็ดโต๊ะ
“ไอ้ดีมันก็ดีหรอก แต่ว่านะฮยองคือว่าที่นั่นน่ะมีผี” ซองยอลกุมขมับและพูดออกไป
“ห๊ะ นายเป็นเด็กประถมหรือไง ผีเผอมีที่ไหนกันเล่า”
“มีจริงๆนะฮยอง” ซองยอลพูดและเงยหน้ามองผู้จัดการของเขา
“...อืม จริงสิฉันก็ลืมไป นายมันเด็กประถมจริงๆนี่นะ”
“ฮยอง!”
“พอๆ ซองยอล นายคิดไปเองมากกว่า แต่ถึงจะมีจริงก็เถอะนะ ผีน่ะไม่น่ากลัวหรอก ที่น่ากลัวคือ ‘คน’ มากกว่า”
...
เป็นอีกคืนที่ซองยอลจะต้องทำงานที่นี่ ร่างสูงมองตึกที่อยู่ตรงหน้าอย่างหวั่นๆ ถึงแม้มันจะเหมือนไม่ใช่ผีก็เถอะ แต่เขาก็ยังปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ว่านั่นไม่ใช่ผี เขาเองก็ไม่รู้นิว่าผีมันคุยกันได้รึเปล่า?
“ซองยอล นายจะยืนอยู่ตรงนี้ถึงเมื่อไหร่” เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ซองยอลหันกลับไป และพบกับซองกยู เขาทักทายซองกยูก่อนจะเดินเข้าไปพร้อมกัน
“งานยุ่งแบบนี้ อย่าลืมรักษาสุขภาพนะยอลลี่” ซองกยูตะโกนบอกคนที่อยู่ในห้องแต่งตัวพลางเตรียมเครื่องสำอางค์ที่จะใช้กับนายแบบหนุ่มคนนี้
“ฮยองทำงานที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว” ซองยอลที่เปลี่ยนเสื้อเสร็จเรียบร้อยเดินออกมาและถามซองกยู
“ก็พอสมควรนะ สามปีได้แล้วมั้ง” ซองกยูกวักมือเรียกให้ซองยอลมานั่งและหยิบตลับแป้งขึ้นมา
“ฮยองเคยเจอผีไหม?” ซองยอลถาม ซองกยูชะงักมือไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะ
“ผีเผอมีที่ไหนกันล่ะซองยอล อย่างน้อยก็ไม่ใช่ที่นี่ล่ะนะ” ซองกยูพูดและทำหน้าที่ของเขาต่อไป
...
“เห้ย แอล วันนี้นายมั่นใจแค่ไหนว่าจะจับลีซองยอลได้” ดงอูพูดและมองรุ่นน้องที่กำลังยืนมองตึกระฟ้าที่ติดไฟสปอตไลท์ ดูแล้วรู้สึกแสบตาไปทั่ว
“ยังไงวันนี้ก็ต้องจับให้ได้ เราต้องรีบทำงานให้จบเร็วที่สุด”
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามีบัตรเชิญรึเปล่าครับ” พนักงานรักษาความปลอดภัยปรี่เข้ามาและถามอย่างสุภาพเมื่อแอลและดงอูกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในอาคารแสดงแฟชั่น
“บัตรเชิญ?” ดงอูเลิกคิ้วอย่างสงสัย แต่แอลกลับหยิบบัตรสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมของเขาก่อนจะยื่นให้พนักงานรักษาความปลอดภัย
พนักงานคนนั้นค่อยๆคลี่กระดาษออกก่อนจะขมวดคิ้วและเงยหน้ามองแอล
“คุณครับนี่ไม่ชะ..” ยังไม่ทันทีเขาจะพูดจบก็ล้มพับลงไปตรงนั้น แอลมองดงอูก่อนจะพูดขึ้น
“ฝากฮยองจัดการที เขาจะหลับไปราวๆห้าชั่วโมง” ดงอูพยักหน้าก่อนจะลากพนักงานคนนั้นอ้อมตึกไปทางด้านข้าง
กระดาษที่แอลส่งให้คือกระดาษที่เขาฉีดยาสลบไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนที่เขาหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เขาได้ใช้ทริกเล็กๆ โดยการพับกระดาษไม่ให้มันส่งผลกับเขา แต่หลังจากที่พนักงานคนนั้นเปิดดูแล้ว ก็คงสูดเข้าไปเต็มๆถึงกับสลบเหมือดไปในทันที
“น่าเสียดาย แต่วันนี้คงเป็นวันตายของนาย ลีซองยอล” แอลพูดเสียงค่อยก่อนจะก้าวเข้าไปในตึกอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น