เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา Princess Hours - เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา Princess Hours นิยาย เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา Princess Hours : Dek-D.com - Writer

    เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา Princess Hours

    ซีรีส์เกาหลีจ้า จากการ์ตูนเป็นละคร กำลังจะฉายที่ช่อง7แล้ว

    ผู้เข้าชมรวม

    3,321

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    3.32K

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ก.ย. 49 / 21:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา Princess Hours

      ออกอากาศที่เกาหลีทางสถานีโทรทัศน์ KBS วันจันทร์ และ อังคาร
      วันที่ 11 มกราคม 2549 - 31 มีนาคม 2549
      ทั้งหมด 24 ตอน

      ออกอากาศในไทย ทางช่อง 7สี ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 8.45 น.
      เริ่มวันที่ 7 ตุลาคม 2549




      งานเปิดตัว Princess Hours ของ MBC
      เรื่องโรแมนติกของราชวงศ์ที่อยู่เหนือจินตนาการ

      ช่อง MBC นำเอา Princess Hours การ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาดัดแปลงเป็นละคร นำขบวนด้วยนักแสดงหน้าใหม่อย่างยูนอึนฮเย, จูจีฮุน, คิมจองฮุน และซงจีฮโย ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Princess Hours นักแสดงรวมทั้งทีมงานทุกคนหอบเอาความสดใสมาเปิดเผยตั้งแต่ตอนแรก ที่ได้ทำละครเรื่องนี้ไป จนกระทั่งถึงตอนจบแบบช็อตต่อช็อตเลยทีเดียว
      วันที่ 4 มกราคม ณ โรงแรม Imperial Palace กรุงโซล ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Princess Hours ซงบยองจุนตัวแทนของ Eight Peaks กลุ่มโปรดิวเซอร์ของ Princess Hours ได้ออกมากล่าวว่า "การแย่งกันซื้อลิขสิทธิ์ต้นฉบับมาทำเป็นละครนั้นต่อสู้กันอย่างดุเดือดมาก ต้องขอบคุณคุณปักโซฮีผู้เขียนเรื่องนี้ที่มอบความไว้วางใจให้แก่พวกเราครับ" Princess Hours เป็นผลงานดั้งเดิมของปักโซฮี ซึ่งได้รับความนิยมขนาดที่ว่าได้รับรางวัลด้านการ์ตูนที่เป็นที่นิยมของเกาหลี 3 ปีซ้อนเลยทีเดียว
      การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการจินตนาการในเรื่องที่ว่าประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบบกษัตริย์โดยอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ และยังได้รับการตีพิมพ์ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี และอีกมากมายหลายประเทศ (สำหรับประเทศไทย อดใจรอกันนิดนึงนะคะ รับรองว่าได้อ่านการ์ตูนสนุกๆ เรื่องนี้แน่ ^-^) เพราะอย่างนั้นจึงมีบริษัทหลายบริษัทแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อให้ได้ผลงานชิ้นนี้มา แต่ในที่สุดบริษัท Eight Peaks ซึ่งเคยผลิตละครเรื่อง I'm sorry, I love you ก็ได้รับลิขสิทธิ์มาทำเป็นละคร Eight Peaks จึงได้มอบหมายหน้าที่ผู้กำกับให้ฮวังอินรเย และฝากหน้าที่ดัดแปลงจากการ์ตูนเป็นบทละครให้กับอินอึนนา ผู้เขียนบทละครจากเรื่อง Tell Me Something
      เป็นที่ทราบกันดีว่าการทำละครจากหนังสือต้นฉบับไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือการ์ตูนนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะต้นฉบับที่ได้รับความนิยมสูง ความคาดหวังจากผู้ชมย่อมสูงตามไปด้วยเป็นธรรมดา เรามีโอกาสได้ถามอิมอึนนาเรื่องนี้ว่าเธอกดดันมากน้อยแค่ไหนเพราะแฟนๆ ของต้นฉบับเดิมนั้นมีเยอะมากจริงๆ
      "เราไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องนั้นตั้งแต่ต้นค่ะ เพราะต้นฉบับเองก็ดีอยู่แล้ว จำเป็นด้วยเหรอที่เราจะต้องไปเปลี่ยนแปลงมัน" เธอย้อนถามกลับมา และเธอยังบอกต่อไปอีกว่า "พื้นฐานของการทำงานนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำไปตามอำเภอใจได้ ช่วงเวลา 1 ปี กับ 6 เดือนนั้น เราปรึกษากับกลุ่มผู้สร้างซ้ำแล้วซ้ำอีก คุยกันในสถานการณ์ที่หลากหลาย ไม่มีสถานการณ์ไหนที่เราไม่เคยลองพูดคุยดูเลย แต่ว่าเพราะฉบับการ์ตูนนั้นมันยังไม่จบ เราจึงไม่สามารถทำให้มันเหมือนกับของต้นฉบับได้" เธอกล่าวออกมาอย่างไม่รู้สึกกดดันนัก
      นอกจากเรื่องบทแล้ว ตัวละครก็เป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะกับตัวละครในการ์ตูนต้นฉบับซึ่งครองใจนักอ่านมากมาย งานนี้ผู้กำกับฮวังอินรเยใช้นักแสดงหน้าใหม่ทั้งหมด และได้รับฟีดแบ็คจากผู้คนบางกลุ่มว่าให้โอกาสนักแสดงหน้าใหม่มากเกินไป ตรงจุดนี้เขาอธิบายว่า "ถ้าจะพึ่งพาแต่ดาราเก่าๆ ก็จะทำให้กระตุ้นคาแรคเตอร์ของต้นฉบับได้ยาก ถึงแม้ว่าจะเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ผมก็คิดว่านักแสดงหน้าใหม่เหล่านี้จะสามารถทำตามอิมเมจที่พวกเขาได้รับได้"

      credit : Seoul Street magazine

       

      สัมภาษณ์ 4 ดาวรุ่งมาแรง จากละครยอดฮิต "Palace"

      กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มแฟนละครวัยรุ่นเกาหลี สำหรับละครเรื่อง Palace ที่ทาง MBC ทุ่มงบในการถ่ายทำไปแบบไม่อั้น เพื่อให้ละครเรื่องนี้ที่แฟนการ์ตูนต่างรอคอยชมออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด ราวกับว่าคนดูกำลังได้อ่านหนังสือการ์ตูนอยู่เลยทีเดียว Palace เป็นละครเกี่ยวกับเด็กสาวนักเรียนมัธยมธรรมดาๆคนหนึ่งที่ตกถังข้าวสารโครมใหญ่ เพราะจู่ๆก็มีโอกาสได้แต่งงานกับเจ้าชายหนุ่มรูปหล่อแบบไม่ทันตั้งตัว แค่พล็อตเรื่องก็โดนใจวัยรุ่นซะขนาดนี้ มาดูกันดีกว่าว่านักแสดงทั้ง 4 มีความรู้สึกอย่างไรที่ได้รับบทนำในละครเรื่อง Palace กันบ้าง

      วันนี้เป็นการถ่ายภาพโปสเตอร์เพื่อนำมาโปรโมทละครเรื่อง Palace ที่จะเข้าฉายกลางมกราคมนี้ จูจีฮุน และ ยูนอึนฮเย ดารานักร้องรุ่นใหม่ มาในชุดสุดหรูหราเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองซะใหม่ ให้ออกมาเป็นภาพของเจ้าชายและเจ้าหญิงที่สง่างาม วันนี้เราบุกไปที่สตูดิโอแห่งหนึ่งของเมืองคังนัม ชุดโบราณราคาแพงถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเพื่อให้นักแสดงนำทั้ง 4 ได้สวมใส่เพื่อถ่ายทำภาพโปสเตอร์กัน

      นักแสดงคนแรกที่ได้ถ่ายภาพในวันนี้คือยูนอึนฮเย เธอสวมวิคผมปลอมอันใหญ่ ปรากฎโฉมในชุดของเจ้าหญิงในยุคโบราณ ถึงแม้ว่าเธอจะใส่ชุดโบราณอยู่ แต่ว่าในมือของเธอก็ยังถือโทรศัพท์มือถือ เพื่อสื่อให้เห็นถึงคาแรคเตอร์ของเด็กนักเรียนสาวมัธยมอยู่ด้วย แถมเธอก็ยังโพสท่าได้อย่างน่ารักอีกต่างหาก ในเรื่องนี้ยูนอึนฮเย รับบทเป็นแชคยอง สาวมัธยมที่กลายมาเป็นเจ้าหญิง และเธอก็ยังมีคาแรคเตอร์ที่ต้องดูกระฉับกระเฉงกว่าคนอื่นๆในเรื่องอีกด้วย

      สัมภาษณ์ ยูนอึนฮเย

      คำถาม : รับบทเป็นใครในเรื่องนี้ ?
      ยูนอึนฮเย : ชื่อยูนอึนฮเยค่ะ แสดงเป็นแชคยอง เด็กสาวนักเรียนมัธยมที่มีบุคลิกสดใสและร่าเริง นอกจากนั้นยังน่ารักด้วยนะค่ะ แล้วฉันก็ตั้งใจกับการแสดงในเรื่องนี้มากๆเลย
      คำถาม : วันนี้ใส่ชุดโบราณซะด้วย
      ยูนอึนฮเย : ใช่ค่ะ วันนี้เป็นการถ่ายทำโปสเตอร์ ซึ่งการถ่ายทำก็สนุกมากๆ แล้วชุดที่ฉันได้ใส่ก็ดูหรูหราไม่ใช่น้อยเลย


      ต่อมาซงจีฮโย ออกมาในชุดวันพีชที่งดงาม ซงจีฮโยรับบทเป็นรักแรกของเจ้าชายซิน บทบาทของเธอนั้นค่อนข้างจะเป็นสาวเมืองและดูสง่างาม

      คำถาม : รับบทเป็นใครในเรื่องนี้ ?
      ซงจีฮโย : ซงจีฮโยค่ะ เล่นเป็นมินฮโยรี เป็นคนรักอีกคนของเจ้าชายซิน แต่ทันทีที่แชคยองปรากฏตัว เธอก็โดนแชคยองแย่งเจ้าชายซินจากเธอไป เลยทำให้เธอเสียใจมาก...
      คำถาม : การถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง ?
      ซงจีฮโย : นานแล้วที่ไม่ได้รวมตัวกันครบทั้งสี่คนแบบนี้ วันนี้ก็เลยสนุกมากๆเลยค่ะ

      หลังจากที่ซงจีฮโยถ่ายภาพเสร็จ ยูนอึนฮเยก็เดินออกมาในชุดวันพีชสีขาวซึ่งดูน่ารักและสง่างาม


      หลังจากที่ถ่ายภาพเจ้าหญิงไปแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เจ้าชายจะต้องออกโรงบ้างแล้วล่ะ คิมจองฮุนอดีตสมาชิกวง UN รับบทเป็นอูล ทายาทกษัตริย์ลำดับที่สอง


      คำถาม : รับบทเป็นใครในเรื่องนี้ ?
      คิมจองฮุน : ผมคิมจองฮุนครับ รับบทเป็นเจ้าชายยูล เล่นเป็นเจ้าชายซึ่งเป็นรัชทายาทอันดับสองของราชวงศ์ ซึ่งต่อมาก็ตกหลุมรักกับแชคยองครับ
      คำถาม : การถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง ?
      คิมจองฮุน : วันนี้มาถ่ายภาพโปสเตอร์ของละครเรื่อง Palace ครับ ถ่ายทำกันสี่คนก็สนุกมากๆเลยครับ อาจจะเคอะเขินกับเสื้อผ้าอยู่เล็กน้อย เพราะว่าใส่ชุดอย่างนี้เป็นครั้งแรก แต่มันก็ถือว่าเป็นความทรงจำที่ดีนะครับ



      ดูจากท่าทีของจูจีฮุนแล้วนั้น ตอนที่เขาโพสท่าถ่ายรูปอย่างมีชีวิตชีวาอยู่นั้น ช่างดูเหมือนเจ้าชายเสียจริง จูจีฮุนผู้มีความสามารถมากมายหลายอย่าง เหมือนกับนักแสดงที่เชี่ยวชาญในเรื่องเรื่องของวงการบันเทิงมานาน คราวนี้คงต้องตั้งตารอความสำเร็จครั้งใหม่ที่จะต้องเกิดขึ้นกับเขาอย่างแน่นอน


      คำถาม : รับบทเป็นใครในเรื่องนี้ ?
      จูจีฮุน : ผมจูจีฮุนครับ รับบทเป็นเจ้าชายซิน ผมมีคาแรคเตอร์ที่ได้รับความเจ็บปวดมาจากกรอบทางสังคม มีชีวิตที่ไม่ค่อยเป็นอิสระ แต่เมื่อผมได้มาพบกับแชคยองแล้ว ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปครับ
      คำถาม : รู้สึกอย่างไรกับบทในละครเรื่องนี้ ?
      จูจีฮุน : การที่ต้องทำตัวให้ดูเป็นเจ้าชายที่สง่างามนั้น ดูไม่ง่ายเลยครับ
      คำถาม : ละครเรื่อง Palace เป็นละครแบบไหน?
      จูจีฮุน : หลายคนคงรู้มาแล้วว่า Palace เป็นละครที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่ว่าที่จริงแล้วไม่ใช่ละครประวัติศาสตร์ซะทีเดียว เพราะละครก็มีด้านที่ยังคงดูทันสมัยปนอยู่ด้วยครับ

      การที่นักแสดงนำทั้งสี่คน ยูนอึนฮเย , จูจีฮุน , ซงจีฮโย และ คิมจองฮุน มารวมตัวกันในวันนี้นั้น ทำให้บรรยากาศในการถ่ายทำภาพโปสเตอร์วันนี้ดูสนุกยิ่งขึ้น ระหว่างถ่ายรูปนั้นยูนอึนฮเยได้โพสท่าโดยการชี้นิ้วไปที่จูจีฮุน แล้วเอาตัวไปซบกับคิมจองฮุน เพื่อเป็นการบอกความนัยว่า สิ่งที่ได้เห็นคือความรู้สึกรักสามเศร้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในละครเรื่องนี้

      คำถาม : อยากให้ฝากอะไรทิ้งท้ายไว้สักนิด ?
      ซงจีฮโย : สวัสดีค่ะ ฉันซงจีฮโย อยากให้เพื่อนเอาใจช่วยละครเรื่อง Palace กันให้มากๆนะค่ะ ถ้าละครเรื่องนี้ได้รับความรักจากทุกๆคนก็คงดีไม่น้อยเลย
      คิมจองฮุน : หวังว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีนะครับ
      ยูนอึนฮเย : ละครของพวกเราเริ่มออกฉายกลางเดือนมกราคม ขอให้ทุกคนให้ความสนใจและดูละครของพวกเราให้สนุกสนานนะค่ะ
      จูจีฮุน : ขอให้ทุกคนมีความสุขครับ และก็ขอให้ดูละครของพวกเราที่กำลังออกฉายทางสถานีโทรทัศน์ MBC ด้วยนะครับ

      นักแสดงนำทั้งสี่ฝากทิ้งท้ายกันแบบนี้ ใครจะใจอ่อนไม่ยอมดูก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ไปกระแสความแรงของละครเรื่อง Palace จะไม่มีทางลดลงอย่างแน่นอน แล้วมาคอยดูกันว่าละครเรื่องนี้จะฮิตกว่าละครเรื่องก่อนๆที่เคยสร้างมาจากการ์ตูนอย่างเช่น Full House ได้หรือไม่?

      credit : Seoul Street magazine

       

      เบื้องหลังละครเรื่อง Palace จากการ์ตูนสุดฮิตในเกาหลี


      จากการ์ตูนชื่อดังของเกาหลีซึ่งได้รับการโหวตจากผู้อ่านการ์ตูนทั่วประเทศว่า เป็นการ์ตูนที่เหมาะจะนำมาทำเป็นละครมากที่สุดในเวลานี้ พร้อมทั้งได้ 4 นักแสดงวัยรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในเกาหลีอย่าง จูจีฮโย , ยูนอึนฮเย , ซงจีฮโย และ คิมจองฮุน มาร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวความรักระหว่างเจ้าชายและเจ้าหญิง (ยุคใหม่) ในละครเรื่อง Palace (คุง) ที่เริ่มออกฉายไปแล้วทางสถานีโทรทัศน์ MBC เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เดี๋ยวตามเราไปดูเบื้องหลังกันว่า กว่าที่พวกเราจะได้เห็นออกมาเป็นละครอยู่ในเวลานี้ นักแสดงและผู้กำกับต้องผ่านอะไรมาบ้างตลอดเวลาระยะเวลาที่ถ่ายทำละครกัน



      เปิดกล้องครั้งแรกที่เมืองไทย

      ทีมงานละครเรื่อง Palace ยกทีมมาถ่ายทำฉากแรกกันที่ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน ถึง วันที่ 12 ตุลาคม 2548 โดยได้ถ่ายทำฉากที่ ฮโยริน (ซงจีฮโย) เดินทางมาที่เมืองไทยเพื่อมาพบกับเจ้าชายซิน (จูจีฮุน) ซึ่งกำลังทำภารกิจอยู่ภายนอกประเทศ สาเหตุที่ผู้กำกับ ฮวังอินรเย เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำก็เพราะว่า ละครเรื่อง Palace เป็นละครที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่ปกครองตนเองแบบราชาธิปไตย และทางทีมงานเล็งเห็นว่าภาพลักษณ์ของประเทศไทย ดูเป็นเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างเด่นชัดกว่าประเทศอื่นๆ ทีมงานจึงเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ เพื่อให้ภาพวาดจากในการ์ตูนดูสมจริง ในฉากโรแมนติกของฮโยรินและเจ้าชายซินที่ต้องพบกันในต่างแดน

      สถานที่ถ่ายทำที่ทีมงานได้เลือกไว้ก็มีอยู่หลายที่ด้วยกันอาทิเช่น ถนนข้าวสารในตัวเมืองกรุงเทพฯ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก และหัวหิน ซึ่งทั้งสามที่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย นอกจากนั้นฉากเล่นน้ำสงกรานต์ซึ่งเป็นประเพณีของไทยแต่โบราณ ยังได้ถูกถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางละครโทรทัศน์ของเกาหลีเป็นครั้งแรก ผู้กำกับ ฮวังอินรเย เปิดเผยถึงการถ่ายทำว่า "มีคนเคยบอกผมไว้ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ของไทยนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ได้รับความร่วมมือจากประเทศไทย และทำให้การถ่ายทำในไทยเป็นไปอย่างราบรื่นครับ"

      ฉากส่วนใหญ่จะถ่ายทำกันที่ถนนข้าวสาร ซึ่งเป็นเหมือนกับย่านอิแทวอนของประเทศเกาหลี ผู้กำกับ ฮวังอินรเย กล่าวต่อไปอีกว่า "ถึงแม้การถ่ายทำที่เมืองไทยจะเป็นระยะเวลาที่สั้น แต่ก็มีฉากแอ๊กชั่นซึ่งรวมอยู่ในการถ่ายทำนี้ด้วย โดยเป็นฉากที่ตัวละครต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ล่ากันกลางถนน ฉากช้างที่ต้องนำเข้ามาอยู่ที่กลางเมือง รวมถึงฉากเทศกาลสำคัญของไทยด้วย ตอนที่ผมถ่ายทำฉากเหล่านี้ก็มีความกังวลอยู่มากเหมือนกัน แต่หลังจากได้ถ่ายทำเสร็จไปแล้วก็พอใจมากเลยทีเดียวครับ การถ่ายทำที่เมืองไทยทั้งทางด้านทีมงานและตัวนักแสดงนั้นผมจะค่อนข้างเข้มงวดมาก ดังนั้นจึงไม่มีฉากไหนในละครที่ถ่ายทำออกมาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งผลงานที่ดีนั้นจะต้องเป็นภาพที่เราไม่เคยได้เห็นในละครเรื่องไหนๆมาก่อน ซึ่งพวกเราจะนำภาพเหล่านั้นมาให้ทุกท่านได้ชมกัน" ผู้กำกับ ฮวังอินรเย กล่าวด้วยความมั่นใจ

      จูจีฮุนนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ซึ่งรับบทเป็นเจ้าชายซิน ชี้ไปที่ซงจีฮโยนักแสดงสาววัยรุ่นที่รับบทเป็นฮโยรินพร้อมกับแซวว่า "เพราะว่านักแสดงรุ่นพี่ทั้งหลายคอยช่วยกันเทคแคร์ จึงทำให้สามารถแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ" ดูเหมือนว่าฉากขับมอเตอร์ไซค์ไล่ล่าบนถนน จะเป็นความทรงจำที่ดีในการถ่ายทำของจูจีฮุน เขาได้พูดถึงฉากนี้ไว้ว่า "ระหว่างถ่ายทำฉากนั้นผมรู้สึกได้ถึงความยากลำบากของเจ้าชายซิน ดังนั้นจึงทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของเจ้าชายซินมากยิ่งขึ้น" ซงจีฮโย กล่าวเสริมต่อในทันทีว่า "การมาถ่ายทำในเมืองไทยสิ่งที่ฉันยังจำได้แม่นที่สุดคือเรื่องของการกิน เพราะตลอดเวลาที่ถ่ายทำพวกเราจะได้ลองชิมอาหารอร่อยๆเยอะมากๆ จูจีฮุนนั้นได้ถ่ายทำฉากที่สนามบินและตลาดน้ำด้วย เป็นฉากที่ดูยิ่งใหญ่มากและเขาก็ดูเท่ห์มากๆ น่าอิจฉาเขาจริงๆเลยล่ะค่ะ ฉันยังอดสงสัยไม่ได้เลยว่าตอนที่ละครออกฉาย ฉากนั้นจะออกมายังไง?"

      4 นักแสดงพร้อมใจกันตะโกน "วิ่งไปเลย... เจ้าม้า"

      การขี่ม้าเป็นกีฬาสำหรับขุนนางสมัยก่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนในราชวงศ์ และการขี่ม้าก็ได้ถูกนำมาเป็นฉากหนึ่งในละครเรื่อง Palace นี้ด้วย จูจีฮุน เจ้าชายยุคใหม่ , เจ้าหญิง ยูนอึนฮเย , รัชทายาทอันดับสอง คิมจองฮุน และ ซงจีฮโยในบทของบัลเล่ลีน่า ฮโยรี นั้น ทุกคนล้วนแต่ไม่เคยได้สัมผัสกับการขี่ม้ามาก่อนเลย แต่ว่าหลังจากถูกคัดเลือกให้เล่นละครเรื่องนี้แล้วนั้น วันไหนที่ว่างจากการถ่ายทำทุกคนจะต้องไปฝึกหัดขี่ม้า เพื่อที่จะได้ถ่ายทำละครได้อย่างปลอดภัย

      โดยเฉพาะจูจีฮุนและคิมจองฮุนนั้น จะต้องขี่ม้าไปด้วยพร้อมทั้งใช้ไม้ตีลูกบอลไปด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นักแสดงนำทั้งสอง จะต้องมีความชำนาญในเรื่องของการขี่ม้ามาก่อนถ่ายทำ หลังจากที่จูจีฮุนและคิมจองฮุนได้ไปเข้าคอร์สเรียนขี่ม้าระยะสั้นแล้วนั้น การขี่ม้าของคนทั้งคู่ก็ดูเท่ห์และสง่างามขึ้นมามาก จนทุกคนในกองถ่ายต้องปรบมือให้ดังๆสำหรับความตั้งใจของทั้งคู่เลยทีเดียว

      ในส่วนของนักแสดงฝ่ายหญิงยูนอึนฮเยซึ่งรับบทเป็นเจ้าหญิง ก็มีความกล้าหาญและไม่มีความกลัวเหมือนกับบทแชคยองที่เธอได้รับในละคร แต่ก็มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นจนได้ ในฉากขี่ม้าที่เธอต้องขี่ไปพร้อมกับคิมจองฮุนและจูจีฮุน ยูนอึนฮเยเกิดตกจากหลังม้าได้รับบาดเจ็บ เพราะม้าที่วิ่งอยู่นั้นไม่ยอมเลี้ยวตามที่เธอบังคับ ทำให้หน้าผากของเธอไปชนเข้ากับกิ่งไม้ที่ห้อยลงมา ทุกคนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากที่นักแสดงนำหญิงได้รับบาดเจ็บ แต่ยูนอึนฮเยกลับลุกขึ้นพร้อมทั้งบอกกับทีมงานทุกคนว่า "ฉันไม่เป็นไรค่ะ" เธอลุกขึ้นปัดฝุ่นพร้อมทั้งบอกให้ทีมงานเริ่มถ่ายทำต่อได้เลย ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับการถ่ายทำหายใจออกมาด้วยความโล่งอกไปตามๆกัน

      นอกจากนั้นซงจีฮโยที่ต้องถ่ายทำฉากขี่ม้าด้วยความสง่างาม ก็ได้รับคำชมจากทีมงานว่าเธอกล้าหาญมากกว่านักแสดงชายที่ร่วมถ่ายทำฉากขี่ม้าด้วยกันซะอีก เพราะว่าความพยายามของเธอที่หมั่นไปฝึกซ้อมขี่ม้ามากกว่านักแสดงคนอื่นๆในเรื่องนั้นเอง ที่ทำให้เธอได้รับคำชมจากทีมงานถึงความทุ่มเทการแสดงของเธอไปแบบเต็มๆ

      พาไปซอกแซกเบื้องหลังการถ่ายทำของละครเรื่อง Palace แบบเต็มอิ่มแล้ว ใครที่สนใจดูละครเรื่องนี้ สามารถติดตามชมได้จากทางสถานีโทรทัศน์ MBC ทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 21.55 น. เริ่มฉายตอนแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา



      ชินแชคยอง รับบทโดย ยูนอึนฮเย

      เมื่อตอนที่คัดเลือกนักแสดง ยูนอึนฮเย สมาชิกคนสวยแห่งวง Baby V.O.X. ที่จะต้องรับบทเป็นแชคยอง นักเรียนสาวธรรมดาๆ ซึ่งอยู่มาวันหนึ่งเธอก็ได้กลายเป็นเจ้าหญิงนั้น ได้รับกระแสต่อต้านจากคนทั่วไปสูงมาก แต่ว่าผู้กำกับฮวังอินรเยพูดอย่างมั่นใจว่า "ยูนอึนฮเยมีความใสซื่ออย่างที่นักแสดงหญิงคนอื่นๆ ไม่มี เรียกได้ว่าเป็นแก่นแท้ของแชคยอง ถ้าได้ดูละครเรื่องนี้สักครั้งแล้ว ความรู้สึกเกลียดชังจะหายไปครับ" นอกจากนี้ยูนอึนฮเยยังเปิดใจด้วยว่า "เพราะว่ามีคนต่อต้านฉันมากจนฉันเคยคิดจะเลิกเล่น แต่พอมาคิดว่า 'เรื่องนี้มันไม่เหมาะกับฉันอย่างนั้นเหรอ?' ก็เริ่มเกิดความคิดที่จะแข่งกับมันดู คนที่รู้จักกับฉันจะบอกว่าบทนี้มันเหมาะกับเธอนะ แต่ในทางกลับกันกลายเป็นว่าได้รับเสียงต่อต้านจากคนที่ไม่รู้จักฉันดีอย่างมากมายเหลือเกิน" ยูนอึนฮเยที่เราเจอในวันนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจมากกว่าวันอื่น แล้วก็มีคนชมว่าเธอสวยขึ้นด้วย เธอจึงตอบกลับมาว่า "คงเพราะว่าตอนนี้ยุ่งมาก และก็ได้รับความรักจากทุกคนมากมาย ก็เลยสวยขึ้นมั้งค่ะ ฉันต้องเล่นเป็นคนที่ร่าเริงสดใส ฉันจึงต้องทำตัวให้ร่าเริงมากขึ้น ตอนที่ถ่ายทำมีเรื่องสนุกสนานมากมายที่มักทำให้หัวเราะเสมอ" ความจริงแล้ววันนั้นท่าทางของยูนอึนฮเยที่ทักทายพวกเราด้วยเสียงดังกังวาน ทำให้พวกเราเห็นภาพความใจดีของเจ้าหญิงแชคยองเลยทีเดียว "เพราะว่าเป็นละครเรื่องแรกของฉัน อาจจะมีข้อผิดพลาดมาก แต่ว่ามีรุ่นพี่หลายๆ คนช่วยสอนฉัน ฉันก็เลยมีความมั่นใจมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดไปบ้าง ก็ช่วยติดตามผลงานของฉันด้วยนะคะ"



      อีซิน รับบทโดย จูจีฮุน


      จูจีฮุนที่รับบทเป็นเจ้าชายซิน เป็นนักแสดงที่เราไม่คุ้นเคยที่สุดในเหล่านักแสดงทั้งหมด เขาเคยโชว์ฝีมือการแสดงในฮันปยอมทือราม่า (Nursery Story) มาแล้ว 1 ตอน แต่ก็ยังมีคนสงสัยว่าเขาจะรับบทเจ้าชายได้จริงๆ เหรอ แต่ว่าในวันนี้กลับไม่มีเสียงวิจารณ์จากบรรดานักข่าวเกี่ยวกับความสามารถด้านการแสดงของเขาเลย จูจีฮุนได้รับการยอมรับในด้านการแสดงมากกว่าที่คิด เสียงนั้นออกมากล่าวด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนว่า "ตัวผมเองแสดงได้ไม่สมบูรณ์นัก ยังต้องไปหาคุณครูที่สอนการแสดงและเรียนรู้จากท่านเสมอ อีกทั้งยังมีผู้กำกับและนักแสดงรุ่นพี่อีกมากที่คอยช่วยเหลือผมครับ" ส่วนทางด้านผู้กำกับฮวังอินรเยกล่าวถึงเหตุผลในการเลือกจูจีฮุนมารับบทนี้ว่า "เจ้าชายซินนั้นเป็นคนที่ไม่มีอยู่จริงในประเทศของเรา และเป็นเรื่องชวนฝันสำหรับสาวๆ ดังนั้นผมจึงอยากหานักแสดงหน้าใหม่ที่จะแจ้งเกิดในฐานะเจ้าชาย มากกว่านักแสดงที่เคยฝากงานและเป็นที่รู้จักผ่านละครเรื่องอื่นๆ มาแล้ว สำหรับจูจีฮุนนั้นเจอกันตอนเล่นเรื่องฮันปยอมทือราม่า ด้วยเสน่ห์และอิมเมจของเขาดูไฮโซเหมือนกับทายาทขุนนาง เพราะเขาเป็นเจ้าของบุคลิกอันดูน่าสูงส่ง ถึงผมจะไม่ทดสอบเขาในเรื่องการแสดง ผมก็คิดว่าเขาเป็นดาวได้อย่างไรข้อกังขา แต่ถึงจะคิดอย่างนั้นผมก็ยังคงมีการทดสอบไว้เพื่อให้เท่าเทียมกันทุกคนครับ"

         

      อียูล รับบทโดย คิมจองฮุนู


      แชคยองจากหญิงสาวธรรมดา แต่กลับกลายมาเป็นเจ้าหญิง นั่นคือการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง แต่สำหรับยูล เพราะความรักจึงเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ยูล รัชทายาทอันดับที่ 2 ขณะที่เขารู้ความจริงเรื่องรัชทายาทที่จะรับช่วงต่อ เขาก็ตกหลุมรักแชคยอง ในวันนี้คิมจองฮุน สมาชิกวงดูโอ UN ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้รับบทเป็นยูล และจูจีฮุนปรากฏตัวในชุดเสื้อผ้าอันทรงเกียรติของราชวงศ์ดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก รู้สึกอย่างกับเขาออกมาจากหนังสือการ์ตูนยังไงยังงั้นเลย "ถ้าดูจริงๆ แล้ว คิมจองฮุนที่รับบทเป็นยูลนั้นจะเป็นคนที่ปล่อยความคิดอยู่ในหัวของตัวเอง คาแรคเตอร์ของยูลคือต้องมีภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนฉลาดและมีไหวพริบ ซึ่งตรงกับคิมจองฮุนพอดี คิมจองฮุนมีใบหน้าที่ดูเหมือนกับคิดอะไรต่ออะไรมากมายอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ดูเฉลียวฉลาด" นั่นคือเหตุผลที่ผู้กำกับเลือกเขา การที่เขาเป็นนักร้องมาก่อนไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผู้กำกับเลย ในวันนี้คิมจองฮุนกล่าวคำวิงวอนผ่านกลุ่มผู้สื่อข่าวไปว่า "ขอร้องนะครับ อย่าติดป้ายว่าผมเป็นแค่นักร้องที่ผันตัวมาเป็นนักแสดง ขอให้มองที่การแสดงของผมจริงๆ" คิมจองฮุนที่รับบทเป็นนักเรียนไฮสคูลอายุอ่อนกว่าตัวจริงตั้ง 8 ปีในละครเรื่องแรกของเขา เราคงต้องเฝ้าดูแล้วล่ะว่าเขาจะถอดป้ายที่เค้าบอกไว้ได้สำเร็จหรือเปล่า

         

      มินฮโยริน รับบทโดย ซงจีฮโย

      ฮโยรินเป็นอดีตคู่รักของเจ้าชายซิน เมื่อเจ้าชายซินต้องแต่งงานทางการเมืองกับแชคยอง ความฝันที่จะเป็นเจ้าหญิงของเธอจึงจบลง แต่ว่าคนทะเยอทะยานอย่างเธอก็ไม่ทิ้งความต้องการนั้นง่ายๆ ผู้กำกับฮวังอินรเยพูดสนับสนุนซงจีฮโยว่า "ซงจีฮโยนั้นเป็นนักแสดงที่สร้างความรู้สึกลึกลับ ด้วยรูปลักษณ์สวยๆ ของเธอ บัลเล่ต์ แจ๊ซแดนซ์ โยคะ และอื่นๆ คือจุดสำคัญที่ทำให้เราเข้าถึงคาแรคเตอร์ของฮโยริน อีกทั้งเธอยังมีความมั่นใจว่าเธอจะสามารถเล่นบทฮโยรินได้ดีด้วย นั่นคือพลังที่สำคัญยิ่งของคาแรคเตอร์ฮโยรินครับ" นี่ล่ะเหตุผลของผู้กำกับที่คัดเลือกนักแสดงคนนี้ คราวนี้มาลองถามซงจีฮโยบ้างดีกว่าว่าได้อ่านการ์ตูนที่เป็นต้นฉบับบ้างหรือเปล่า "อ่านค่ะ สนุกมาก อ่านแล้วก็อยากจะเล่นทั้งสองบทเลย ความจริงแล้วก็อยากลองเล่นเป็นแชคยองดูบ้าง แต่ฉันไม่มั่นใจว่าจะทำได้ดี สำหรับบทฮโยรินฉันมีความมั่นใจว่าจะต้องออกมาดีค่ะ" ดูเหมือนว่าความรู้สึกในการเป็นสาวเมืองของซงจีฮโยเป็นเสน่ห์ที่แตกต่างกับยูนอึนฮเย สาวน้อยคู่ปรับในเรื่องของเธอ


         
       

      พระราชชนนี (Queen Mother) รับบทโดย คิมฮเยจา

      คิมฮเยจาที่ได้รับบทบาทเป็นแม่ของคนสมัยใหม่มานาน คราวนี้เธอจะมารับบทเป็นย่าของเจ้าชาย หรือ Queen Mother คิมฮเยจารับบทเด่นในละครเรื่องนี้โดยแสดงเป็น Queen Mother ที่เต็มไปด้วยสติปัญญาและความเฉลียวฉลาด ในงานแถลงข่าวเปิดตัวละคร คิมฮเยจาปรากฏตัวด้วยชุดฮันบกสวยงามแถมยังบอกอีกว่า "ฉันตั้งใจที่จะไม่แสดงอะไรที่ทำให้ผู้คนคาดเดาในตัวฉันได้" ผู้กำกับฮวังอินรเยมีเหตุผลพิเศษในการคัดเลือกคิมฮเยจามารับบท Queen Mother ในครั้งนี้ว่า ในละครเรื่อง Princess Hours เป็นการวาดภาพการพบกันของสังคมสมัยเก่าและสมัยใหม่ ระหว่างราชวงศ์กับยุคสมัยปัจจุบัน เรื่องนี้จะแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของยูนอึนฮเย ซึ่งรับบทเป็นแชคยอง หลานสะใภ้ที่เป็นตัวอุปสรรคที่สุดในราชวงศ์ กับคิมฮเยจา Queen Mother ที่เป็นจุดศูนย์กลางของราชวงศ์ และอยากจะแสดงถึงความเข้ากันได้อย่างลงตัวระหว่างสังคมใหม่และเก่า ดังนั้นผู้กำกับฮวังอินรเยจึงตัดสินใจให้บทนี้แก่คิมฮเยจา



      เรื่องย่อ+ภาพ เล่าโดย คุณ pang-jija , mu_joe, oom @ popcorn

      CHAPTER 1-4

      เรื่องราวของสาวน้อยวัย19 ที่ต้องมาแต่งงานจากคำสัญญาของปู่
      ที่ให้ไว้ในอดีตกับพระราชาทำให้เธอShin Chae kyung
      ต้องแต่งงานกับเจ้าชายShin ผู้เย็นชาและมีคนที่รักอยู่แล้วอย่างMin Hyo Rin เธอจะทำอย่างไร
      เมื่อYul ลูกพี่ลูกน้องของShin ก้อตกหลุมรักเธอ และพร้อมที่จะแย่งทุกอย่างมาจากShin
      เพราะเขาเป็นรัชทายาทที่แท้จริง เรื่องราวความรักคนสี่คน จะลงเอยอย่างไร
      พร้อมกับกฎระเบียบ การแย่งชิงและความรักที่ในวังที่Chae Kyung
      ต้องเผชิญด้วยเสียงหัวเราะและน้ำตา

      CHAPTER 5-6 :

      Shin ต่อว่า Chae Gyung ว่าที่เธอแต่งงานนั้นเพราะต้องการเงิน...
      Chae Gyungรู้สึกเสียใจและโกรธ Shin ที่ว่าเธออย่างนั้น เพราะที่เธอแต่งงานก็เพื่อช่วยฐานะทางการเงินของครอบครัว...
      Shinรู้สึกผิดจึงได้จัดการให้พ่อและแม่ของChae Gyungมีโอกาสมาพบที่วัง
      แต่เนื่องจากChae Gyungทำการบ้านที่เรียนไม่เสร็จจึงมาช้าและไม่ได้พบกับพ่อแม่ของเธอ ซึ่งทำให้เธอเสียใจมาก...
      ในงานวันเกิดของShinที่จัดขึ้นที่เกาะJeju มีเพื่อนๆไปรวมมากมาย ซึ่งงานนี้แม่ของYulได้วางแผนส่งนักข่าวปลอมตัวไปทำข่าวด้วย...
      Chae Gyungได้มอบของขวัญให้Shinเป็นรองเท้า1คู่ซึ่งเธอวาดภาพเอง(เป็นรองเท้าของShinที่เธ
      อเคยทำน้ำหกใส่)
      ส่วนMin Hyo rinนั้นให้เครื่องเล่นMP3...เพื่อนของชินดูถูกของขวัญของ Chae Gyung เธอจึงรู้สึกเศร้า
      แต่เพื่อนๆของเธอก็ช่วยปลอบใจ และทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นได้ในที่สุด

      การที่Chae Gyungได้เข้าไปอยู่ในพระราชวังนั้นทำให้เธอได้รับประสบการณ์ใหม่ๆมากมาย
      เช่น การดื่มชาบัวขาว การเล่นGyuk Pa(คล้ายๆกับการเล่นกอล์ฟ) เป็นต้น...
      Yulนั้นเข้าได้ดีกับChae Gyungและเพื่อนๆเป็นอย่างมาก นอกจากนี้Yulยังมีโอกาสได้พบTae-hwangtaehuอีกด้วย
      ซึ่งนับเป็นการพบกันครั้งแรกนับตั้งแต่เขาได้ออกจากวังไป...
      ChinและChae Gyungได้ถูกเชิญไปเปิดงานพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ในขณะที่ทั้งสองกำลังให้สื่อมวลชลถ่ายรูป Chinก็ถูกคนขว้างไข่ใส่!...ทางราชวงค์ได้จัดงานแสดงความยินดีให้กับคู่แต่งงานใหม่ ซึ่งมีบุคคลสำคัญมาร่วมงานมากมาย...ในงานนี้แม่ของYulก็ได้ปรากฏตัวขึ้น..ซึ่งนั่นทำให้พระราชินีรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก...และในงานนี้Chinได้ขอChae Gyungเต้นรำด้วยซึ่งถือเป็นจุดเด่นของงาน!

      เพื่อนๆในชมรมบัลเล่ต์พูดถึงเกี่ยวกับMin Hyo rinและShin ทำให้Min Hyo rinนึกย้อนไปถึงตอนที่พวกเขาได้เจอกันครั้งแรก...
      เนื่องจากครั้งที่แล้วที่Chae Gyungไม่ได้พบพ่อกับแม่ Shinจึงช่วยขออนุญาตให้Chae Gyungนั้นได้กลับไปเยี่ยมบ้าน
      ทำให้เธอดีใจเป็นอย่างมาก...
      ในตอนแรกที่ไปถึงที่บ้านของChae Gyung Shinไม่คุ้นเคยและรู้สึกอึดอัด แต่ต่อมาเขาก็รู้สึกสบายใจ ผ่อนคลายและชอบเป็นอย่างมาก
      เขาได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น การกินอาหารแปลกๆ การเก็บผัก การเล่นเกมส์ เป็นต้น...
      นอกจากนี้ตอนที่อยู่ที่บ้านนี้Chae Gyungและshinยังได้นอนเตียงเดียวกันด้วย!...
      Min Hyo rinได้ไปเรียนฝึกโยคะกับแม่ของYul ซึ่งแม่ของYulก็ได้พูดชักจูงให้เธอนั้นแย่งชิงShinกลับมา

      หลังจากกลับมาจากบ้านของChae Gyung ทั้งChae GyungและShinก็ยังคงนึกถึง และดูเหมือนจะสนิทกันมากขึ้น...
      พ่อแม่ของChae Gyungก็เป็นที่ป๊อปปูล่ามีคนโทรหามากมาย..
      Tae-hwangtaehuได้ให้รถเต่สีเหลืองแก่Chae Gyung ไว้ขับไปโรงเรียน ซึ่งเธอก็ดีใจมาก..
      ที่โรงเรียนการแต่งตัวChae Gyungกลายเป็นที่นิยมที่ทุกๆคนจะแต่งตาม..
      ทางด้านMin Hyo rinก็เริ่มคิดที่จะแย่งShinกลับมาอย่างจริงจัง...ในระหว่างชั่วโมงเรียนที่วังShinได้หายตัวไป
      Chae Gyungก็ตามหาและไปพบเขาอยู่ที่ห้องใต้หลังคา เธอแกล้งShinโดยการเรียกบอร์ดี้การด์
      Shinพยายามจะปิดปาก..ในจังหวะนั้นทั้งคู่เกิดล้มลงทับกัน!..แต่ก็มีสายเรียกเข้าของMin Hyorinมาขัดจังหวะ...
      ที่สโมสรขี่ม้าMin Hyo rinได้คุยกับYulขอร้องให้ช่วยแย่งตำแหน่งShinมา
      เพื่อเธอจะได้Shinกลับมาเหมือนเดิม แต่Yulก็ไม่ได้รับปาก..
      หลังจากที่Chae Gyung พระราชินี และTae-hwangtaehuเล่นGyuk Paกันเสร็จแล้ว
      ShinและYulก็เกิดอุบัติเหตุตกม้า Chae Gyungวิ่งไปดูYulนั่นทำให้Shinเกิดความไม่พอใจขึ้น...
      เนื่องจากอาการประชวรของพระราชายังไม่หายดี Shinจึงรับอาสาไปราชการที่ประเทศไทยแทน
      และเสนอให้Chae Gyungเป็นผู้ดูแลการต้อนรับเจ้าชายWilliamที่จะเสด็จเยือนเกาหลีในช่วงนั้นด้วย


      credit : oom @ popcorn

      CHAPTER 9-12

      หลังจากที่เดินทางShinไปประเทศไทย Chae Gyungก็รู้สึกเหงา
      พยายามติดต่อตลอด แต่Shinก็ไม่รับสาย ไม่โทรกลับ...
      กลุ่มเพื่อนของShinรวมทั้งMin Hyo rinได้ตามไปที่ประเทศไทย Min Hyo rinหาทางไปพบกับShin
      เธอขอให้เขาไปส่งที่สนามบิน Shinก็ยอม ทั้งสองได้เดินเที่ยวด้วยกัน และต้องหนีปาปารัสซี่ติดตามมาด้วยกัน..
      การที่Shinไปส่งMin Hyo rinที่สนามบินก็เกือบทำให้เขาไปงานแถลงข่าวไม่ทัน..
      และที่สนามบินMin Hyo rinก็ได้จูบเขาด้วย!...ส่วนChae Gyungนั้นก็ไม่ร่าเริง
      Yulเคยออกปากชวนเธอไปดู Bottle treeเธอจึงตอบตกลง ซึ่งเธอนั้นได้ลืมมือถือเอาไว้โดยไม่รู้ตัว ..
      ทุกคนในวังและครอบครัวของChae Gyungเป็นห่วงเธอมาก ว่าเธอหายตัวไปไหน..
      เมื่อกลับมาทั้งสองถูกพระราชินีต่อว่าเป็นอย่างมาก..การต้อนรับเจ้าชายWilliamเป็นไปด้วยดี...
      Yulเริ่มมีความคิดที่จะแย่งตำแหน่งจากShin และยอมร่วมมือกับแม่...
      โดยที่แม่ของยุลและพระราชานั้นเคยมีความหลังด้วยกัน...
      พี่สาวของShinกลับมา ทำให้ทุกคนดีใจมากๆ...
      รูปที่Min Hyo rinเที่ยวกับShinในไทยเผยแพร่ออกมา ทำให้Chae Gyungเศร้ามากๆ...
      เธอกินไม่ค่อยได้ตอนที่เขาไม่อยู่พอมาเจอเรื่องแบบนี้เลยทำให้เป็นลมที่โรงเรียนในระ
      หว่างที่คุยอยู่กับMin Hyo rin
      Shinก็เข้ามาอุ้มและคอยดูแล เมื่อถึงวัง...Shinรู้ว่าChae Gyungอึดอัดชีวิตในวัง
      จึงบอกให้รออีกไม่กี่ปีแล้วเขาจะสละตำแหน่งและปล่อยเธอไป...
      เมื่อChae Gyungรู้ว่าYulตั้งใจจะแย่งตำแหน่งกับShinก็รู้สึกไม่ชอบและผิดหวัง..
      ทำให้Yulยอมที่จะถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าชายในตำแหน่งที่ต่ำกว่าShinซึ่งทำให้แม่ของเขาไ
      ม่พอใจ...
      Tae-hwangtaehuชวนChae Gyungไปพิพิธภัณฑ์หมี
      เธอเข้าไปหากล้องในห้องของShin และบังเอิญไปพบกล่องที่รวบรวมของๆMin Hyo rinไว้...ทำให้เธอเสียใจมาก

       

      CHAPTER 13-16

      Tae-hwangtaehu Shin และChae Gyungไปเที่ยวเกาะJeju โดยขับรถไปกันเอง ทั้ง3สนุกสนานมาก
      ShinและChae Gyung ก็มีโอกาสได้คุยปรับความเข้าใจกันด้วย....
      ซังกุงของChae Gyungและของแม่ของYulทะเลาะกัน
      แม่ของYulเข้าข้างซังกุง รวมทั้งยังเรียกChae Gyungไปทดสอบความรู้
      แต่Yulก็เข้ามาช่วยไว้ และพาไปที่ห้องเก็บหนังสือใต้หลังคา ที่นี่ทั้งสองได้ร้องเพลงกันสนุกสนาน...
      Tae-hwangtaehuและพระราชินีได้วางแผนปรับความเข้าใจของShin และChae Gyung
      โดยการให้ทั้งสองไห้เข้าห้องหอกัน(ซึ่งทั้งสองไม่รู้ตัวก่อน) ตอนแรกที่อยู่ห้องเดียวกัน
      ก็เกิดความอึดอัด ขวยเขิน แต่บรรยากาศก็ผ่อนคลายลงด้วยการเล่นเกมส์ และพูดคุยกัน...
      Shinบอกให้Chae Gyungเตรียมตัวเพื่อหากว่าต้องหย่ากัน
      แต่Chae Gyungบอกว่าเธอคงรู้สึกเศร้ามาก Shinได้ยินดังนั้นก็ดึงChae Gyungเข้ามาจูบ!...

      ยุลเมื่อรู้ว่า2คนนี้ต้องเข้าห้องหอด้วยกันก็โกรธและเสียใจมาก...
      แม่ของYulวางแผนนำรูปของShin และMin Hyo rinที่ไปเที่ยวกันในเมืองไทยลงในinternet...
      ภาพถูกเผิยแพร่ไปที่โรงเรียนเพื่อนของChae Gyungเห็นก็โกรธแทนและไปต่อว่าMin Hyo rinแต่Chae Gyungก็เข้ามาช่วย...
      มีคนนำรูปของShinและMin Hyo rinไปไว้ในห้องของChae Gyung รวมทั้งรูปจูบที่ประเทศไทยนั้นด้วย....
      เธอก็ช็อคไป และเสียใจมากๆ...
      Yulเห็นChae Gyungเศร้าจึงชวนโดดเรียนไปเที่ยว สวนสนุก ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น...
      หลังจากเที่ยวกันChae Gyungก็ขอแยกตัวกลับเอง...แต่ตกเย็นเธอก็ยังไม่กลับมาทั้งShinและYulเป็นห่วงจึงออกตามหา...
      ยุลพบChae Gyungก่อนที่ห้องหนังสือใต้หลัง ชินตามมาด้วยอารมณ์โกรธและชกYul ไป 1 หมัด!...
      ShinพาChae Gyungไป พวกเขาได้คุยกัน และอารมณ์ก็เริ่มดีขึ้นทั้งคู่...
      ภาพที่ShinชกYul ถูกเผิยแพร่ออกไป...ทำให้คนในราชวงศ์โกรธShin พี่สาวของShinก็ช่วยแก้ตัว
      และแนะนำให้Shin และChae Gyungไปงานคอนเสิร์ตทำตัวตามปกติ
      หลังจบคอนเสิร์ตมีการสัมภาษณ์นักข่าวถามถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่Shinไม่ตอบแต่หันไ
      ปจุ๊บแก้มChae Gyungแทน...
      นอกจากนี้พี่สาวShinยังเสนอให้กินข้าวรวมญาติกัน...
      ระหว่างทานข้าวYulแสดงออกชัดว่าเขาสนใจและชอบChae Gyung ซึ่งทำให้คนในราชวงศ์อึดอัด...
      ShinชวนChae Gyungไปเที่ยวทะเล ที่นั่นพวกเขามีความสุขและสนุกกันมาก
      ได้ทำอาหารด้วยกัน นอนด้วยกัน และShinก็เริ่มรู้ตัวเองดีว่าเขานั้นชอบChae Gyungเข้าแล้วจริงๆ...
      Min Hyo rinไประรึกความหลังถึงที่ๆเธอและShinเคยไปและขุดเอาตั๋วที่ทั้งสองสัญญากันไว้กลับมา
      ...
      ที่โรงเรียนเธอได้ถามเขาว่าเขาชอบChae Gyungเหรอ...
      Shinก็ยอมรับ...เป็นเหตุให้Min Hyo rinคิดฆ่าตัวตาย...Shin และChae Gyungรู้เข้าก็ตกใจ...
      เรื่องของMin Hyo rinก็ตกเป็นข่าว พระราชาทรงโกรธมาก
      Shinก็หัวเสียขับรถออกจากวังไป...ปล่อยให้Chae Gyungเป็นห่วงอย่างมาก!

      credit : oom @ popcorn

       

      CHAPTER 17-20


      ShinขับรถไปคุยกับMin Hyo rin ซึ่งเธอเริ่มเข้าใจและยอมรับได้บ้าง...
      ทางด้านChae Gyungก็เป็นห่วงShinอย่างมาก
      ระหว่างนั้นผู้ช่วยคนสนิทของShinก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่เรื่องที่มีการกล่าวหาว่าShi
      nได้ไปก่อเรื่อง...
      Chae Gyungเมื่อเห็นShinกลับมาก็ต่อว่าๆทำไมไม่ติดต่อมา เธอเป็นห่วงมาก
      Shinก็ดึงเธอมากอดแล้วบอกว่าขอให้เธออยู่ข้างเขาแม้เขาจะไม่ได้เป็นเจ้าชายอีกต่อไป...
      พระราชินีเรียกMin Hyo rinมาพบพูดเกลี่ยกล่อมให้เธอไปเรียนบัลเล่ต์ต่อ
      เพื่อจะได้อยู่ห่างจากShin โดยพระองค์จะเป็นผู้ให้ทุนเอง...
      พระราชาเริ่มให้อาจารย์มาสอนงานYul และเริ่มให้เขาได้เข้าร่วมประชุมสำคัญๆ...
      แม่ของYulพยายามชักจูงให้Min Hyo rinกลับมาแย่งShinอีกแต่เธอก็ปฎิเสธ...
      Shinสอนขับรถให้กับChae Gyung(เป็นรถที่ครอบครัวเธอซื้อให้)
      แต่เธอขับได้น่ากลัวและอันตรายมาก!...
      Yulได้จัดงานวันเกิดที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งมีเพื่อนๆมาร่วม
      โดยที่Shin และChae Gyungนั้นได้นอนร่วมห้องกันอีกครั้ง..
      ระหว่างร่วมรับประธานอาหารกัน Chae Gyungป้อนอาหารให้Shin เป็นที่สนุกสนานของเพื่อนๆ(ยกเว้นYulและMin Hyo rin)..
      Chae Gyungแกล้งแต่งหน้าShinแล้วอัดวีดีโอไว้ขณะเขาหลับกลางวัน
      เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็เลยแกล้งกลับบันทึกเทปตอนเขาจุ๊บแก้มเธอ
      แต่เธอไม่รู้นำไปเปิดให้เพื่อนๆดู ทำให้ทั้งสองอายเป็นอย่างมาก...
      งานเลี้ยงตอนกลางคืนShin และMin Hyo rinคุยกันChae Gyungแอบฟังแต่ไม่หมดทำให้เข้าใจผิดและเศร้า
      เธอไปนั่งคุยกับYul แล้วYulก็ได้จูบหน้าผากเธอ Shinเห็นแล้วโกรธมาก
      ลากChae Gyungออกมาแล้วจูบเธออย่างรุนแรง เธอโกรธเขามาก ต่อมาเขาพยายามที่จะง้อแต่ไม่สำเร็จ...
      Shinนำกล่องรวบรวมของๆMin Hyo rinไปเธอ แต่Chae Gyungเห็นก็เข้าใจผิด...
      หลังเลิกเรียนChae Gyungและเพื่อนไปกินข้าวกันShinตามไป และนำเธอไปส่งที่บ้าน
      พอกลับมาวันพระราชินีก็เรียกไปว่า Shinก็พยายามจะมาอธิบายให้ตามหลัง...
      ทั้งสองยังคงเข้าใจผิดและก็ทะเลาะกัน
      Chae Gyungร้องไห้และขับรถออกไปYulเห็นจึงขับตามไป
      พวกเขาเดินคุยกันพอกลับมาปรากฏว่ารถของChae Gyungถูกขโมย!..
      .มีข่าวออกมาว่าตอนที่รถถูกขโมยเธออยู่กับผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่Shin เรื่องก็ยิ่งยุ่งยากมากขึ้น...
      Min Hyo rinตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ โดยที่Shinก็ไปส่งเธอ...
      Yulพยายามเกลี่ยกล่อมChae Gyungให้ประกาศหย่า ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ออกอากาศทางทีวีกับShin!

       

      CHAPTER 21-24

      Chae Gyungได้ประกาศขอหย่าในระหว่างการให้สัมภาษณ์
      ซึ่งShinไม่สามารถป้องกันมันได้
      การประกาศนี้ทำให้คนในราชวงศ์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
      ส่วนShinนั้นก็ทั้งเศร้าใจและโกรธ...
      แม่ของYulกลัวว่าข่าวลือของChae Gyungจะส่งผลกระทบต่อYul
      จึงพยายามพูดให้Chae Gyungรับผิดชอบความผิดทั้งหมดต่อหน้าพระราชา...
      ขณะที่Chae Gyungนั้นร้องไห้คร่ำครวญ แม่ของYulกลับมองเธออย่างเฉยชา...
      หลังจากที่Chae Gyungประกาศขอหย่า สถานะเจ้าชายรัชทายาทของShinก็สั่นคลอน
      และพระราชาก็พยายามจะมอบให้Yulแทน...
      เพื่อที่จะปกป้องChae Gyungในระหว่างการประชุมของราชวงศ์
      Yulได้ประกาศว่าเขาคือคนที่อยู่กับChae Gyungตอนที่รถหาย และบอกว่าเขาชอบเธอ!...
      Yulยังคงยืนกรานที่จะไม่สนใจกฎเกณฑ์ของราชวงศ์ เขาจะซื่อตรงกับหัวใจของเขา
      ในขณะที่Shinยังคงเห็นด้วยและเชื่อกฎเกณฑ์ของราชวงศ์
      แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะมีความเชื่อและวิธีการที่ต่างกัน
      แต่คนที่พวกเขาพยายามจะปกป้องก็คือคนๆเดียวกัน!...
      ส่วนChae Gyungก็รู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุให้คนรอบๆเธอต้องเจ็บปวด
      ทำให้เธอยิ่งไม่สามารถที่จะยอมรับสถานการณ์เช่นนี้ได้...
      ในทางกลับกันพระราชาก็ห่วงว่าควรจะปฏิบัติกับYulเช่นไรดี...
      และมีคนพวกหนึ่งที่ต้องการให้Chae Gyungถูกลงโทษอย่างหนัก...
      แม่ของYulก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะให้รางวัลชิ้นงามหากChae Gyungนั้นถูกออกจากวัง..
      .เธอได้เปิดศึกครั้งสุดท้ายแล้ว!!


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×