ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผู้ซื้อวิญญาณ

    ลำดับตอนที่ #9 : จุดชี้ชะตา (100%)(rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 50





       
           แกร้ง!!
     

    เสียงมีดที่ตกกระทบกับพื้นพร้อมกับการคืนสติของอาซามิ
     

    "อะ....อะไรกัน" เสียงที่ฟังดูสับสนคล้ายกับเจ้าตัวกำลังหลงทางอยู่ในทะเลทรายของอาซามิที่ฟังแล้วดูน่าอดสูยิ่งนัก
     

    "เกิดอะไรขึ้นทำไม....ทำไมทัตสึถึง.....ทำไมฉัน....ฉันถึง.......อ้าาาาาาาาาาาาา!!!" อาซามิกรีดร้องออกมาสุดขีด ราวกับว่าโลกนี้จะแตกก็ไม่ปาน
        

    "หึๆ อะไรกันไม่สนุกหรือไง ชีนะ อาซามิ หืม?" เสียงลึกลับที่ดังมาจากข้างหน้าของอาซามิทำให้เธอเงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของเธอขึ้นมา
         

    "คุณ......เป็นใคร" บุคคลใส่ชุดฮู้ดสีดำที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอนี้ดูคุ้นตาอยู่หรอกแต่เธอนึกไม่ออกเลยว่ามันคือใครกัน
         

    "หืม อะไรกันจำชั้นไม่ได้เหรอ จะว่าไปตอนเจอครั้งเธอก็ระแวงฉันน่าดูเลยน้าเหมือนตอนนี้เลย ตอนที่เราเจอกันก็ตอน... อ้อใช่ตอนที่ฉันรู้ว่าจะมีดวงวิญญาณดวงใหม่กำลังขึ้นสวรรค์ที่central worldด้วยอุบัติเหตุรถชน เอ้าว่าไงบอกตั้งขนาดนี้แล้วนา จำได้ยังเนี่ย" เขาเอ่ยเหนื่อยๆ
           

    ....อุบัติเหตุ......
        

    !!
         

    "ทำหน้างั้นดูท่าจะนึกออกแล้วสินะ อย่างว่าแหละดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ก็มักจะเป็นงี้แหละจำไรไม่ค่อยได้" เขาเอ่ยอย่างเซ็งๆเหมือนกับว่าเขาเจอแบบนี้มาเยอะมาก
         

    "คุณ....ตกลงคุณทำไรกับฉัน...." อาซามิเอ่ยน้ำเสียงสั่นเหมือนคนกำลังสกัดกั้นอารมณ์ไว้แทบไม่อยู่
        

          "หืม ไม่รู้เหรอนี่เอาเหอะๆบอกให้ก็ได้เป็นกรณีพิเศษสำหรับสาวสวย ฉันก็บังคับร่างของเธอให้ไปชิงวิญญาณคนอื่นมาแทนชั้นยังไงล่ะ ไม่เข้าใจเหรอ ก็ให้เธอไป 'ฆ่า' คนอื่นแทนชั้นไง เพราะถ้าชั้นไปฆ่ามันจะดูผิดปรกติ ยิ่งช่วงนี้พวกผู้คุมออกมาตามล่าบ่อยๆอยู่ด้วย ถึงงี้ฉันก็ไม่อยากโดนจับได้หรอกนา"
         

    "ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย!!" อาซามิตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออด
         

    "ก็ฉันซื้อวิญญาณเธอมาแล้วนี่ ข้อแลกเปลี่ยนก็ให้เธอมีชีวิตอยู่บนโลกต่อไง"
         

    "……!!"
          

    ....ไม่นึกเลยว่าความฝันนั่นจะเป็นความจริง...
         

    "งั้นฉันขอยกเลิกสัญญานั่น!!"
           

    "ได้ไงกันแม่หนูน้อยเธอสัญญาแล้วนะ อีกอย่างเธอต้องอยู่เป็นของเล่นของฉันต่อไปอีกนาน" เขาพูดด้วยเสียงโรคจิตอย่างแรง
         

    "โธ่ กว่าจะได้วิญญาณแต่ละดวงมันเหนื่อยนะแม่หนู การที่ผู้คุมจะไปรับวิญญาณเลตเนี่ยหาใช่ง่ายๆนะ แล้วกว่าฉันจะรวบรวมได้99ดวงคงอีกนาน นี่พึ่งดวงที่67เองนะ" เขาพูดอย่างเบื่อหน่ายเมื่อนึกถึงตัวเลขที่เขาคิดไว้ว่าจะต้องหาเพิ่มอีกเท่าไร
         

    "คุณเอาดวงวิญญาณไปทำไป..." อาซามิเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
     

    "ก็เอาไปเสริมให้กับพลังของตัวเอง หรือไม่ก็เอาไปเป็นบริวาร แต่เสริมพลังดีกว่า ยิ่งพลังที่บริสุทธิ์นะยิ่งแจ๋ว ทำเอาตัวเบาขึ้นเยอะเลย" เขาพูดอย่างตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่
     

    "ว่าแต่ฉันต้องทำไงถึงจะยกเลิกสัญญาได้...." อาซามิเอ่ยเสียงเบาๆ แต่ก็ยังไม่พ้นคนหูดีอย่างเซ ไฟร์เลสไปได้
     

    เซหันหน้ามามองดูด้วยสายตาที่พิศวงราวกับว่าพึ่งเคยได้เจอคนแบบนี้ก็ว่าได้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆอย่างแปลกใจ
     

    "ยกเลิกไม่ได้หรอก เธอเป็น 'ของเล่น' ของฉันแล้วนี่น่า"
     

    เสียงนั้นปักอกอาซามิดังฉึกรู้สึกเหมือนกับว่าคำพูดนั้นแทบทำให้เธอต้องแหลกสลายหายไปเลยที่เดียว
     

    "บ้าน่า ของพวกนี้ปกติมันต้องยกเลิกได้ไม่ใช่เหรอ! ทีในการ์ตูนหรือนิยายยังมีเลย!"อาซามิเอ่ยเสียงสั่นๆดูท่าว่าทำนบเธอจะพังลงมาอีกรอบแล้ว
     

    "ยกเลิกไม่ได้หรอก ของอย่างนั้นมนุษย์มันติต่างกันเอาเองทั้งนั้นแหละ เหอะๆเอาเลือดมาบูชามั่งล่ะ ไม่ก็หาคนอื่นมาเป็นตัวตายตัวแทน งี่เง่าชะมัด"
     

    ".....ทำได้สิ"
     

    คราวนี้เป็นเสียงลึกลับที่ดังมาจากทางไหนซึ่งคนเขียนก็ไม่ทราบเช่นกัน(-_-") รู้อย่างเดียวคือเสียงนั้นทำเอาอาซามิรู้สึกใจหายวูบแปลกๆ
     

    "อ้าว นึกว่าใครที่แท้ก็โซลนั่นเอง แหมเพื่อนยากไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะ" เซเอ่ยเสียงล้อเลียนอย่างจงใจ
     

    "...." ชายผู้นั้นไม่ได้ตอบอะไร แต่เขาปรากฏตัวออกมาในชุดฮู้ดสีดำเช่นเดียวกับเซพร้อมกับเคียวสีดำอันใหญ่ซึ่งใหญ่กว่าคนถือเสียอีก
     

    ชายผู้นั้นมีโครงหน้าเข้ารูปซึ่งดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงยิ่งนัก ถึงแม้จะดูเด็กสักเท่าไร แต่สายตาของเขาดูเย็นเยียบทำเอาคนมองดวงตาคู่นั้นหนาวไปถึงขั้วหัวใจ ยิ่งผมสีดำดังรัตติกาลยิ่งเสริมความดุดันบนใบหน้าอันอ่อนเยาว์นั่นขึ้นไปอีกโข
     

    "โอ้ ออกมาแบบเย็นๆเหมือนเดิมเลยนะว่าแต่แผลกลางหลังนั่นยังอยู่รึเปล่า เพื่อนสุดที่รักคนนี้อุตส่าห์ทำไว้ให้เชียวนะ" คำหยอกเย้าซึ่งคนข้างหน้าดูท่าจะไม่เล่นด้วย
     

    "หุ บ ป า ก แ ก ไป ซ ะ เดี๋ยวจะหาว่าข้าไม่เตือน" เสียงอันดุดันซึ่งต่างจากตอนแรกที่เขาพูดทำเอาคนในบริเวณนั้นหายใจกันแทบไม่ออก เว้นแต่คนที่ใส่ชุดฮู้ดสีดำอีกคนที่ดูท่าจะไม่รู้สึกอะไรเลย
     

    "หืม อย่าทำหน้าตาหน้ากลัวงั้นสิ เดี๋ยวก็แก่เร็วขึ้นหรอก..."
     

    ฉับ!!
     

    เสียงแหวกอากาศที่เกิดจากเคียวของโซลซึ่งผ่ากลางของเซ แต่ที่น่าแปลกคือไม่มีเลือดไหลออกมาซักหยด...
     

    "แหมๆ อย่าใจร้อนจัง ทำเอาตกใจเหมือนกันนะเนี่ย" เสียงหยอกเย้ายังคงดังอยู่เรื่อยๆ ซึ่งบัดนี้ตัวการที่ยั่วโทสะได้ลอยอยู่เหนือหัวของอาซามิแล้ว
     

    ......ตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย....อาซามิเปรยขึ้นในใจ
     

    "เอ้า แม่หนู ตอนนี้กำลังจะเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้น จะอยู่เป็น กขค หรือจะไปหลบอยู่หลังฉาก" เจ้าคนชื่อเซเอ่ยขึ้น
     

    ......ก็ต้องหลบสิฟ่ะ จะอยู่ให้มันเจื้อนทิ้งเหรอ.....ว่าแล้วเธอก็ไปหลบอยู่ตรงมุมระเบียงทันที
     

    "เอาล่ะ! เตรียมเริ่มเทศกาลของเราเลยดีกว่ามั้ง…"
     

    ไม่ทันขาดคำร่างที่อยู่ตรงหน้าของเขาก็พุ่งมาอยู่ข้างหน้าเขาทันที
     

    "โอ้ะ!!"
     

    โซลแกว่งเคียวขนาดยักษ์ของเขาไปในแนวนอนเตรียมผ่าครึ่งเซอีกรอบ
     

    "อย่าหวังว่าจะได้แอ้มน่า"
     

    เซเอ่ยอย่างสบายๆ ก่อนที่จะกระโดดตีลังกาพร้อมใช้เท้าถีบหน้าคู่ต่อสู้อย่าง
    สวยงาม แต่โซลก็สามารถหลบได้
     

    ไม่มีการหยุดโซลโหมโจมตีต่อไปโดยใช้เคียวตวัดไปมาเป็นรูปตัว X บ้าง หรือฟาดตรงบ้าง ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไรเซก็สามารถหลบการโจมตีนั้นได้ราวกับนกรู้
     

    สุดท้ายเซก็หมุนตัวไปข้างหลังพร้อมอัดพลังไฟฟ้าเข้าที่กลางหลังของโซล ทำให้โซลถึงกับขยับไม่ได้ไป2-3นาที
     

    "อย่าพยายามนักเลย นายไม่มีวันชนะฉันได้หรอก คราวที่แล้วก็เหมือนกัน ตอนที่ฉันหนีออกมาฉันก็ได้ปะทะกับนาย สุดท้ายนายก็ได้นอนโทรมที่แหล่งฟื้นพลังไปได้สามเดือนเลยมั้ง" เซพูดอย่างล้อเลียน
     

    .....พวกนี้มันตัวอะไรกันเนี่ย....
     

    อาซามิคิดอย่างแปลกใจไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้เมื่อกี้ หรือจะเรื่องที่พวกนี้คุยกันก็ดี มันน่าเหลือเชื่อเกินไป ยิ่งการเคลื่อนไหวหลบหลีกการโจมตีแต่ละที มันเกินสักกายภาพร่างกายของมนุษย์แล้ว
     

    แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ยังคงต้องนั่งดูอยู่ไกลๆต่อไป
     

    "นายที่เอาแต่ทำตามกฎของผู้คุมกฎ ไม่มีวันรู้ซึ้งถึงสิ่งที่เรียกว่าอิสรภาพหรอก ไม่สิ ไม่ใช่แค่อิสระแต่รวมถึงอำนาจที่เรามีอยู่! เราสามารถควบคุมได้ทั้งสามโลกเลยนะ มันไม่เลวใช่ไหมล่ะ แค่รวบรวมวิญญาณบริสุทธิ์มาให้ครบ99ดวงเท่านั้น แล้วนำมาเสริมให้กับพลังของตัวเองเราก็จะได้พลังที่ยิ่งใหญ่ สามารถทำได้ทุกอย่าง!" เซพูดอย่างตื่นเต้นราวกับว่าอีกไม่นานโลกทั้งโลกก็จะอยู่ในกำมือเขา
     

    "...ไร้สาระ" โซลเอ่ยขึ้นมาอย่างเบาๆ
     

    "หึ ถ้าบอกว่าไร้สาระนายก็หยุดฉันให้ได้สิ หยุดฉันซึ่งเหนือกว่านาย"
     

    "mayiborrowtheabilityofdarknessto" ศัพท์แปลกๆ พลั่งพลูออกมาจากปากของโซลอย่างรวดเร็ว
     

    ทันใดนั้นเองเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าต่างพากันมืดมัว
     

    โซลหมุนไม้เท้าไปๆมาๆ ปากก็ยังพูดภาษาแปลกๆออกมาเรื่อย จนโซลกระแทกไม้เท้าไปยังที่พื้นด้านหน้าของเขา แล้วบังเกิญหลุมดำขนาดใหญ่ตรงพื้นขึ้นมา
     

    กรร....
     

    เสียงอันน่ากลัวดังขึ้นมา แต่เจ้าคู่ต่อสู้ข้างหน้าก็ยังมองไปตรงหลุมดำนั้นด้วยความสนใจ
     

    พรวด!!
     

    มืออันน่าขยะแขยงโผล่ขึ้นมาจากหลุมสีดำอย่างไม่ทันตั้งตัว เซถึงกับผละไปชั่วครู่ มือนั่นค่อยๆจับบริเวนปากหลุมก่อนจะพยายามส่งตัวขึ้นมาสู่เบื้องบน
     

    เจ้าสัตว์ประหลาดแปลกค่อยๆโผล่ขึ้นจากหลุมจนกระทั่งออกมาทั้งหมด
     

    "เจ้านี่เป็นประตูปีศาจ มันจะดึงผู้แปดเปื้อนไปด้วยความชั่วไปสู่ห้วงรัตติกาลที่ไม่มีวันสิ้นสุด นามของมันคือ....."


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×