ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผู้ซื้อวิญญาณ

    ลำดับตอนที่ #4 : เมื่อฝันเป็นจริง(100%)(rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 49


           .....ที่นี่...ที่นี่ที่ไหน....ในฝันงั้นหรือ....


           ...เมื่อเริ่มมองไปรอบๆตัวก็สังเกตเห็นว่าที่นี่คือโรงเรียนของหล่อนนั่นเอง


          
    .....แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับฉันอีกล่ะนี่....เอ๋....ทำไมฉันเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ล่ะ


           ...ขาตรงหน้าของเธอค่อยๆเดินออกไป...โดยที่เธอไม่ได้คิดจะขยับ


          
    ....เฮ้ยๆๆๆ...แล้วนี่มันจะเดินไปไหนล่ะเนี่ย...หยุดก่อนสิเฟ้ย....

           ...ถึงเธอจะคิดอย่างนั้นแต่ขาของเธอก็ยังคงเดินต่อไป...เรื่อยๆ...เรื่อยๆ...ราวกับว่ามันจะพาเธอไปที่ไหนสักแห่ง....


          
    ....เออๆช่างมันแล้วว่ามันจะเดินไปไหน...ยังไงฉันก็บังคับไม่ได้แล้วนี่...เธอเริ่มบ่นกระปอดกระแปดในใจ...เมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังใจ


           ...ขาของเธอก็เดินไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆ...จนไปถึงที่แห่งหนึ่ง...


          
    ...เอ้า
    !...ถึงแล้วใช่ไหมเนี่ย....ก็ดีจะได้รู้กันซะทีว่าไอความฝันบ้าๆนี่จะบอกอะไรฉัน......


           ...ภาพนั้นค่อยหันไปมองที่ระเบียงด้านนอก....แล้วค่อยๆก้มลงไปดู.....ณ เบื้องล่าง...


          
    ............อ่ะ.......


          ...ภาพที่อาซามิได้เห็นนั้นคือร่างของเพื่อนเธอ....ซึ่งกำลังนอนอยู่ในสภาพที่ทั้งตัวของหล่อนนั้นโชกไปด้วยเลือด....ภาพที่เห็นนั้นชวนน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนักถ้าไม่ใช่เป็นเพราะลูกตาของเธอนั้นถลนออกมาข้างหนึ่งเพราะแรงกระแทก...เจ้าของร่างนั้นคือ.......ยามาเสะ ไอคาวะ.....


          
    "ไม่จริงงงงงงงงงงง!!!!" 

             พรวด
    !!

           เสียงกระเด้งออกจากที่นอนของอาซามิหลังจากที่หล่อนได้พบกับฝันอันโหดร้ายนั้น


          
    "แฮ่กๆๆ......ความฝัน......งั้นเหรอ..." เสียงหอบถี่ๆของเธอที่เหมือนกับว่าเธอไปวิ่งร้อยเมตรนั้น ดูท่าจะบ่งบอกอาการตอนนี้ของเธอได้เป็นอย่างดี


          
    "ฮ่าๆๆ นั้นสินะ ไอคาวะน่ะไม่เป็นไรอยู่แล้วแหล่ะน่า"ถึงเธอจะพูดอย่างนั้นแต่มันกลับเรียกความรู้สึกแปลกๆ ตัวเธอโชกไปด้วยเหงื่อแล้วหัวใจของเธอที่เต้นอย่างรุนแรงราวกับเพิ่งวิ่งร้อยเมตรมานั้นจะเตือนเจ้าหล่อนว่าอีกไม่นานนี้อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันเหมือนกับความฝันนั่น.........


         
           ################
    ที่โรงเรียน ##################   

          
           "เฮ้อ.....เฮ้อ" เสียงถอนหายใจอันน่ารำคาญของฉันทำให้นัตสึมิหันมาพร้อมเอ่ยเสียงแจ้วๆขึ้นมา


          
    "เป็นอะไรไปอีกล่ะอาซามิ อ๊ะ! หรือว่าเมื่อวานยังไม่หายดี งั้นต่อจากนี้เธอต้องกินอาหารให้เยอะๆเลยนะเผื่อมันจะช่วยได้บ้าง แล้วก็นี่อาหารเสริมกับยาแล้วก็สมุนไพร เมื่อวานฉันไปซื้อมาน่ะ เอาไว้ให้เธอเลยนะ^ ^" เธอเริ่มร่ายยาวเหยียดพร้อมๆกับหยิบของขึ้นมาโชว์ให้ฉันดู...


          
    "นี่ๆ นัตสึมิฉันไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อยนึง แล้วที่ฉันถอนหายใจเมื่อกี้เพราะเมื่อคืนฉัน......"ฉันหยุดตรงที่คำว่าเมื่อคืน


          
    "เมื่อคืนอะไรเหรอ นี่ๆๆๆๆอาซามิบอกหน่อยๆๆ"เธอเริ่มส่งเสียงแจ้วๆมาอีกครั้ง


           ......แล้วจะให้ฉันบอกเธอเหรอว่าเมื่อคืนฉันคิดมากเรื่องฝันร้ายนั่นจนนอนไม่หลับน่ะ......ขายหน้าชัดๆ
    !!..........


          
     
    "นี่ๆบอกเร็วๆๆๆๆๆๆ" นัตสึมิยังคงกระเซ้าหนักขึ้นเรื่อยๆ

           "โอย... ฉันจะบอกเธอก็ได้ถ้าเธอจะเลี้ยงข้าวฉัน 3 มื้อ!" ประโยคเดียวหยุดคำถามซักไซ้ของหล่อนได้อย่างประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีเสียงบ่นแว่วๆตามมาก็ตาม


          
    กึก

           
           เสียงชะงักฝีเท้าของฉันทำให้คนเดินนำหน้าหยุดแล้วหันมา

           "ทำไมเหรออาซามิ"

           "เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกเธอเดินไปก่อนเถอะ" ฉันพูดพร้อมๆกับหน้าที่ติดจะซีดลงเรื่อยๆ


          
    "....แปลกคน"แล้วเธอก็เริ่มเดินต่อไป


           ในขณะที่ฉันยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นพร้อมๆกับทอดมองระเบียง....


           
    .......ระเบียงตรงนี้ที่ตรงกับในความฝัน.....


            ทั้งๆที่เธอก็ออกจะเดินผ่านตรงนี้อยู่บ่อยๆ แต่หลังจากความฝันนั่นทำไมเธอถึงรู้สึกแย่ๆอย่างนี้น้า
    หลังจากเริ่มตัดใจได้นิดหน่อยว่าเป็นแค่ความฝันเธอก็ค่อยๆเดินต่อไป แต่ทำไมเธอรู้สึกว่าฝีเท้าของเธอถึงได้หนักอึ้งอย่างนี้ จังหวะที่เริ่มเดินเข้าไป เรียกเหงื่อของเธอออกมาได้มากเป็นอย่างดี 
           
            ทุกๆฝีเก้าของเธอเธอรู้สึกได้เป็นอย่างดีว่า เธอกำลังกลัวอยู่.... แม้ว่ามันจะเป็นความฝันแต่อะไรถึงทำเธอรู้สึกว่านั่นไม่ใช่เป็นเพียงความฝันอย่างแน่นอน เมื่อถึงจุดที่เธอเห็นในความฝันเธอก็ค่อยๆหันไปมองนอกหน้าต่างแล้วมอง...ลงไป...ข้างล่าง...


           
    ภาพที่เธอเห็นเรียกให้เหงื่อกาฬของเธอยิ่งไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือภาพของคนที่มามุงดูอะไรบางอย่างกันอย่างหนาแน่น อาซามิก็เริ่มถอยหลังออกไปพร้อมกับพึมพำคนเดียวเบาๆ


           
    "ไม่จริงแน่ๆ เขาอาจจะดูอย่างอื่นก็ได้"

            "มีไรอาซามิ เอ๋ เขามุงดูอะไรกันน่ะ นี่!! ข้างล่างน่ะ!! กำลังดูอะไรกันอยู่เหรอ!!"

            "นะ...นัตสึมิ..ไม่.....อ่ะ" สายไปแล้วคนที่มุงดูอยู่ข้างล่างค่อยๆถอยออกมาจากที่เกิดเหตุทำให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าเกิดอะไรขึ้น


           
    .......ร่างงามของหญิงผู้หนึ่งกำลังนอนอยู่กับกองเลือดมหาศาล...ซึ่งร่างนั้นเป็นของใครไม่ได้นอกจาก.....ยามาเสะ ไอคาวะ......


           
    "อ่ะ...อา....มะๆๆ..ไม่...ไม่จริง.."เสียงของอาซามิเริ่มติดๆขัดๆอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าลมหายใจนั้นติดขัดอยู่เพียวแค่ปลายจมูก


           
    "ไอคาวะ!!ไม่จริง!!ไม่จริงใช่ไหม!!"นัตสึมิกรีดร้องลั่นระเบียง ดูท่าว่าเธอจะตกใจมิใช่น้อย(อ้าว ก็คนตายจะให้ดีใจเรอะคนเขียนนี่บ้าเปล่า - อาซามิ/ไอคาวะ)(...... -_-" - คนเขียน)


          
    "ฮือๆๆ.."เสียงร้องห่มร้องไห้ของนัตสึมิทำให้ฉันรู้สึกเจ็บ... มันรู้สึกว่าใจฉันกำลังโดนบางอย่างทิ่มแทงลึกลงไปในหัวใจ ในขณะเดียวกันฉันก็เกิดความรู้สึกผิด ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไรกัน แต่ตอนนี้ฉันทำได้เพียงแค่ปลดปล่อย.....ปลดปล่อยให้น้ำตาค่อยๆไหลรินไปบนหน้าอย่างเงียบๆ.....แล้วปล่อยความคิดให้ไปกับเสียงร้องไห้ครำครวญของนัตสึมิ.......


          ############ พักเที่ยง ##########

          

           "......." ความเงียบที่ก่อตัวกันลงมาหลังจากเห็นภาพที่ยิ่งกว่าฝันร้ายไหนๆ ทำให้ทั้งอาซามิและนัตสึมิได้แต่นั่งเงียบ จมอยู่กับความคิดของตัวเอง


          
    "...นัตสึมิ..." อาซามิเป็นผู้เลือกที่จะทำลายความเงียบที่แสนน่าอึดอัดนี้ แม้ว่าตัวเธอเองยังคงก้มหน้าลงพื้นอยู่


          
    "...ทำไม.." นัตสึมิตอบด้วยใบหน้าอันเฉยเมยแล้วยังคงก้มหน้าคุยกับพื้นดินเหมือนอาซามิ


          
    "..เธออาจจะไม่เชื่อ....แต่ช่วยฟังหน่อยเถอะ...." อาซามิเอ่ยขึ้นมา ซึ่งดวงตาเธอเริ่มเอ่อล้นไปด้วยหยาดนำตาใสอีกครั้ง

           "....เธอพูดอะไรน่ะ...." นัตสึมิเริ่มสงสัยแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเล็กน้อยแม้ในหัวของเธอจะยังมีแต่ภาพไอคาวะอยู่เต็มหัว


          
    "เมื่อคืน......ฉันฝันน่ะ....ที่จริงตอนแรกก็ไม่ค่อยได้สนอะไร...แต่พอได้เห็นเหตุการณ์เมื่อเช้านี้เลยแน่ใจ....ฝันเมื่อคืน....กับไอคาวะตอนนี้...มันเป็นเหตุการณ์เดียวกัน...คือ.......พูดง่ายๆนะ....ฉันฝันเห็นเมื่อเหตุการณ์ตอนเช้า......"

           "อาซามิเธอไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม" นัตสึมิรีบเงยหน้าขึ้นมามองฉันทำหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อซึ่งฉันทำได้เพียงพยักหน้าอย่างช้าๆ


          
    ".......ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วนะ......อาซามิ......แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป..." อาซามิส่ายหน้าอย่างช้าๆเพราะไม่รู้ว่าตัวเองในตอนนี้ควรจะทำยังไงดีเหมือนกัน


          
    ฉันกับนัตสึมิก็ได้แต่นั่งเงียบกันอีกครั้ง ถึงฉันจะไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยก็เถอะ แต่ฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองจะคุยเรื่องอะไรดีอีกอย่าง.....


          
    "อาซามิ!!!!" เสียงของอันร่าเริงของทัตสึโยชิทำให้ระบบการคิดของฉันหยุดลงแล้วเงยหน้าขึ้นมามองทัตสึโยชิซึ่งมีเร็นเดินตามมาด้วย


          
    "โยชิซัง...เร็นคุง..." เสียงตอบที่เอ่ยอย่างเหนื่อยอ่อนของอาซามิทำให้ทัตสึโยชิรู้สึกตะขิดตะขวงใจ


          
    "นี่เธอเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย รู้เปล่าเครียดมากไปมันก็ไม่ดีนะมันทำให้คิ้วของเธอผูกกันเป็นโบว์ แล้วรอยย่นก็จะขึ้นนะ" เสียงตาแก่ขี้บ่นเริ่มทำงานทำให้อาซามิหันขึ้นมามองพร้อมสงสายตาประมาณว่า


          
    .......โหมดตาแก่ขี้บ่นออกมาอีกแล้ว.......


          
    "ไม่ต้องทำสายตาอย่างนั้นหรอกน่า ฉันรู้ว่าฉันขี้บ่นแต่เธอก็ขี้บ่นไม่แพ้ฉันนักหรอกนะ" ทัตสึโยชิตอบสายตาที่เพ่งมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อของเขาซะให้ได้


          
     "......ยัง...รู้สึกไม่ดีเรื่องตอนเช้าอีกเหรอ...." เขาพูดออกมาหลังจากเงียบไปซักครู่แต่คำถามกับส่งผลกระทบจิตใจของอาซามิอย่างรุนแรง ทำให้น้ำตาของเธอเริ่มคลอรอบดวงตาสวยของเธออีกครั้ง
          ทัตสึโยชิเห็นดังนั้นก็ร้อนรนเพราะอะไรน่ะเหรอ ก็คนใจแข็งอย่างอาซามิไม่เคยร้องไห้สักครั้งเลยนี่น่า.... ทัตสึโยชิผู้ไม่เคยปลอบหญิงแล้วต้องมาทำหน้าที่นี้...แล้วมันจะรอดไม่เนี่ย.... หลังจากที่ทัตสึโยชิปลงอนิจจังกับตัวเองที่พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกไปแล้วคิดได้ดังนั้น เขาก็เริ่มลองปฏิบัติการปลอบหญิงทันที

           "...เอ่อ...อาซามิ....อย่าร้องไห้นะ...ฉะ...ฉันปลอบหญิงไม่เป็นเอ้ย!!...ไม่ใช่คือร้องไห้แล้วเดี๋ยวตาบวมนะ...เดี๋ยวหน้าแย่ๆก็ยิ่งแย่ลงกว่าเก่าเอ้ย!..ไม่ใช่คือ..เอ่อ..." อาซามิหยุดร้องไห้

           ทันทีที่เห็นทัตสึโยชิพยายามปลอบเธอ...แบบประหลาดๆ.....แม้ว่ามันจะไม่ได้เรื่องเลยก็ตามทีเถอะ.....แต่มันก็ทำให้อาซามิหัวเราะออกมาเบาๆ


          
    ทัตสึโยชิเห็นอาซามิหยุดร้องไห้แล้วเริ่มหัวเราะเลยโล่งใจมากขึ้น


          
    .......
    การปลอบของเรามันใช้ได้ผลหรือเนี่ย........


         
    "...อาซามิ....เอ่อ...ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม..." ทัตสึโยชิเริ่มถามอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะเกรงว่าเจ้าหล่อนอาจจะร้องไห้ออกมาอีกรอบก็ได้


         
    "ไม่เป็นไรแล้วเพราะวิธีการปลอบผู้หญิงปัญญาอ่อนของนายน่ะแหล่ะ"

           ..........ปัญญาอ่อนเลยหรือนี่............     
          "อืมไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ" เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน


         
    "จริงสินัตสึ...." นัตสึมิไม่อยู่แล้ว....

          ......หายไปไหนกัน......

          ทัตสึโยชิเห็นเจ้าหล่อนหันหน้าไปๆมาๆก็เลยรู้ว่าเจ้าหล่อนกำลังหาเพื่อนของเธออยู่

         
    "อ้อ! ถ้าเธอจะหานัตสึมิล่ะก็นู่น เจ้าเร็นมันพาไปปลอบที่ไหนของมันแล้วก็ไม่รู้ ป่านนี้คงกำลังจี๋จ๋ากันอยู่แน่ๆเล.....แอ้ก!!!" เสียงกำปั้นหนักๆที่ทุบลงมาตรงหัวของทัตสึโยชิอย่างสวยงาม ทำให้เขาเกือบน๊อกเอ๊าท์


         
    "ถ้าจะนินทาคนอื่นก็ไม่ควรจะนินทาให้คนอื่นได้ยินนะ โยชิ" เสียงเย็นยะเยือกของเร็นที่มาพร้อมกับนัตสึมิทำเอาคนรอบข้างหนาวไปถึงขั้วหัวใจ


         
    "ง่า เร็น ฉันก็ไม่ได้นินทานายซะหน่อย ถ้านินทานายนายก็ต้องไม่ได้ยินสิจริงไหม แล้วก็นะไปจี๋จ๋ากันเร็วจริงนะฝ่ายฉันยังไม่เริ่ม.....แอ้กๆๆ!!!!..." คราวนี้มีทั้งกำปั้นของเร็น+ฝ่ามืออรหันที่ได้ร่ำเรียนมาจากไอคาวะของอาซามิและนัตสึมิ (แม้จะแรงไม่เท่า)


         
    "ถ้าเป็นไปได้นายควรจะหยุดปากพล่อยๆของนายตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลยนะ" เสียงของเร็นเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆตามคำพูดของเขา


         
    "ใช่ๆ ฉันก็เห็นด้วย"อันนี้เสียงของอาซามิและนัตสึมิที่เอ่ยขึ้นมาพร้อมๆกันอย่างรู้ใจ


         
    "โธ่... แม้แต่อาซามิยังไม่ยอมเข้าข้างฉันเลย" ทัตสึโยชิเอ่ยขึ้นพร้อมกับทำตาแป๋วเป็นลูกแมวตัวน้อยอย่างขอความเห็นใจ


         
    "ก็นายทำตัวให้น่าเข้าข้างตายล่ะ เร็นยังน่าเข้าข้างมากกว่านายอีก"

          "อ๊ะๆๆ เธอพูดอย่างนี้หมายความว่าเธอชอบเร็นเหรอ" ทัตสึโยชิเริ่มกระเซ้า


         
    "เปล่าซะหน่อย เร็นเขาไม่ได้อยู่ในสเป็กฉันย่ะ" อาซามิเริ่มแลบลิ้นปลิ้นตาเป็นเด็กๆ


         
    "งั้นก็ดีจะได้แน่ใจว่าเธอไม่นอกใจฉัน"

          กิ๊ง ก๊อง

        ก่อนที่ฉันจะได้ตอกกลับเจ้าตัวก็รีบหนีไปก่อนแล้ว


         
    "เฮ้อ...ช่างเหอะ" ฉันเริ่มกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้งแม้ว่าจะยังคงไม่ลืมเรื่องไอคาวะ.....แต่อาซามิคงลืมอะไรบางอย่าง........เกมนี้...ยังไม่จบ.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×