ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผู้ซื้อวิญญาณ

    ลำดับตอนที่ #10 : จุดจบของเรื่อง (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 50




         “ครอส

     

    โซลพูดจบ เจ้าอสูรก็ร้องก้องไปทั่วราวกับกำลังขานรับชื่อของตน

     

    สัตว์อสูรตนนี้มีรูปร่างใหญ่มหึมา ดูน่าหวาดผวาให้แก่ผู้พบเห็น ร่างกายอันทรงพลังบ่งบอกว่าผ่านการฝึกอันแสนทรมานยิ่งกว่านรก เขาอันใหญ่ของมันดูเกะกะยิ่งนัก แต่ดูดีๆมันจะเต็มไปด้วยร่องรอยของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นคราบเลือด หรือรอยขีดข่วนเต็มไปหมด

     

    เฮอะ อสูรสัปปะรังเคตัวเดียวจะทำไรฉันได้ ผู้คุมสิบๆคนฉันยังเคยล้มมาแล้วเลย เซยังคงกล่าวต่อไปเรื่อยๆไม่สนใจกับอสูรมหึมาข้างหน้า

     

    ตูม!!

     

    เสียงคลื่นพลังที่อัดเข้าไปตรงที่เซยืนอยู่ดังสนั่นไปทั่ว แต่คนข้างล่างคงจะไม่มีวันได้ยินเพราะเขตอาคมของโซล

     

    ...พลังเวทย์นี่... ไม่ใช่ของนายนี่นาโซล เซเอ่ยอย่างแปลกใจเพราะคนอย่างโซลคงไม่คิดจะให้ใครมาสอดการต่อสู้ของตัวเองเป็นแน่

     

    ครอส... อย่าใจร้อน โซลปรามเจ้าอสูรตัวมหึมาซึ่งมันก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี

     

    ครอสงั้นรึ... โซลนายจะบอกว่าเวทเมื่อกี้เป็นของเจ้าตัวไร้สมองนั่นเหรอ สัตว์อสูรไม่มีทางใช้เวทได้เป็นแน่ ถ้ามันใช้เวทได้โลกนี้คงมีอันเป็นไป

     

    มันเป็นไปแล้ว ครอสเป็นสัตว์อสูรเพียงตัวเดียวที่ใช้ได้ มันเป็นสัตว์อสูรที่พัฒนาขึ้นมาด้วยความสามารถของเหล่าผู้คุมชั้นสูง...

     

    ซึ่งรวมถึงนายด้วย เอาล่ะไม่มีเวลาพูดมาก เดี๋ยวพวกมนุษย์ก็ขึ้นมากันหรอก รีบๆจบเลยดีกว่า พูดจบเซก็เริ่มรุกด้วยตัวเอง

     

    ครอสและโซลต่างพากันโหมโจมตีแบบไม่มียั้งใส่เซ ไม่ว่าจะเป็นเวทชั้นสูง หรือเทคนิคการโจมตีอย่างมีชั้นเชิง ซึ่งทั้งคู่ก็สามัคคีกันเป็นอย่างดีราวกับเตรียมกันไว้ล่วงหน้า

     

    โซลคอยเป็นหน่วยโจมตีและพยายามให้เซเปิดช่องว่างให้ครอสซึ่งคอยร่ายเวทชั้นสูง อัดเข้าใส่เซ

     

    เซก็ไม่น้อยหน้าเขาทั้งหลบทั้งร่ายเวทไปพร้อมๆกัน ซึ่งต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก ทั้งต้องคอยหลบจากการโจมตี ทั้งต้องคอยพยายามไม่เปิดช่องว่าง ทั้งต้องคอยโจมตีไปด้วย แต่เขาก็สามารถทำได้อย่างไม่มีติดขัด

     

    อาซามิซึ่งได้แต่ยืนดูอยู่ข้างนอกด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนเพราะไม่รู้จะทำไงดีจนเธอบังเกิดไอเดียแผลงๆขึ้นมา ว่าแล้วเธอก็หยิบสิ่งๆนั้นขึ้นมาอย่างไม่ลังเล แล้วดูการต่อสู้ของทั้ง 2 ที่ไม่น่าจะใช่คน กับอีก 1 อสูรต่อไป จนกว่าจะไดจังหวะที่เธอต้องการ

     

    ตอนนี้เซยังคงไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ส่วนฝั่งโซลกับมีบาดแผลเล็กน้อยๆ ....ต้องจบศึกนี้ให้ได้โดยเร็ว...โซลคิด

     

    ว่าแล้วเขาก็เปลี่ยนวิธีการต่อสู้จากเป็นฝ่ายบุกเขาก็เปลี่ยนตัวเองมาเป็นฝ่ายตั้งรับเสียเองทั้งๆทีรู้ว่าการตั้งรับนั้น แทบไม่มีโอกาสได้โจมตีด้วยซ้ำ เพราะขนาดเป็นฝ่ายโจมตียังทำให้อีกฝ่ายมีแผลแม้นิดเดียวยังไม่ได้เลย

     

    ....เปลี่ยนวิธีต่อสู้งั้นรึ ได้เลยโซลดูสินายจะทำอะไรชั้นได้.... เซคิดอย่างสนุกสนานกับเหตุการณ์เสี่ยงตายข้างหน้า ว่าแล้วเซก็สร้างมีดสั้นขนาดเล็กพอดีมือขึ้นมา พลางกวัดแกว่งมันไปมาให้ผู้ตั้งรับเสี่ยวเล่น

     

    ....อย่างที่คิด มันกำลังลองเชิงเราอยู่... โซลคิดได้ดังนั้นก็ตัดสินใจอะไรบางอย่าง  ซึ่งที่แน่ๆมันเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของเขาแน่

     

    เซฟาดมีดสั้นที่เขาถือไว้ข้างซ้ายที่เอวของโซลตอนที่โซลเผลอ แต่โซลก็รู้ทันเขาเอาด้ามเคียวกันไว้ แต่ทันใดนั้นเซกลับหยิบมีดสั้นอีกอันไว้ในมือขวาแล้วฟาดไปที่คอโซลทันที!!

     

    โซลไม่ทันตั้งตัวเอาแขนข้างซ้ายกันตัวเองไว้จนโดนมีดสั้นเฉือนเข้าไปในเนื้อ 1-2 เซนที่เดียว โซลกัดฟันแน่นแล้วยกขาขึ้นถีบเซ เซโดนถีบไปไกลแต่เขาใช้แรงดีดในการหมุนตัวเองกลับแล้วลงพื้นอย่างสวยงาม

     

    เปรี้ยง! เจ้าอสูรครอสร่ายเวทอัสนีบาตเสร็จพอดี สายฟ้าจึงฟาดลงไปตำแหน่งที่เซยืนทันที

     

    ชิ เลือดไหลจนได้ ระวังแล้วนะเนี่ย เซบนพึมพำถึงแผลที่อยู่บนต้นแขนของเขาทั้งๆที่แผลเล็กกว่าของโซลอีก

     

    โซลไม่รีรอรีบพุ่งเข้าไปต่อ หารู้ไม่ว่ามันเป็นกับดัก!

     

    ติดกับแล้ว... เซพูดจบแท่งสีดำขนาดใหญ่ก็พุ่งจากพื้นล่างว่างๆขึ้นมาแทงเข้าที่สีข้างของโซลทันที แม้ว่าโซลจะไหวตัวทันในชั่วเสี้ยววินาที

     

    โซลพูดอะไรไม่ได้เพราะกระอักเลือดอยู่ ทางด้านอสูรครอสก็ร่ายเวทอยู่ทั้งๆที่อยากเข้ามาช่วยเจ้านายตนเต็มทน

     

    เจ้าสัตว์ประหลาดไร้สมอง เอาไว้ฉันจัดการกับเพื่อนสุดที่รักของฉันเสร็จก่อนรายต่อไปก็จะเป็นเจ้า เซพูดอย่างสบายๆกึ่งข่มขู่

     

    เซเดินเข้าไปหาโซลซึ่งตอนนี้กำลังบาดเจ็บสาหัส แล้วกระชากเสื้อขึ้นมา

     

    สุดท้ายเป็นไง? นายก็ทำไรฉันไม่ได้ น่าสมเพชดีเนอะ ผู้คุมชั้นสูงต้องมานอนตายเพราะเวทชั้นกลางเนี่ย เซพูดเยาะเย้ย

     

    เฟี้ยววววว!! ฉึก!

     

    โอ้ย!” เสียงอุทานดังขึ้นทันทีที่มีดได้ดื่มเลือดของเซ

     

    แม่สาวน้อย...กล้าไม่เบาเลยนะ มีดที่ลอยมานั้นไม่ใช่ของใคร แต่เป็นมีดที่ก่อนหน้านี้อาซามินำมาแทงใส่ทัตสึโยชินั่นเอง


         เซดึงมีดออกจากแขนของเขาออกพลางมองผู้ที่โยนมีดเล่มนี้มาก่อนจะก้มหน้าแล้วเอ่ยเสียงเหี้ยมอย่างนึกสนุก
     

    หึๆ นานเท่าไรแล้วนะ ที่ไม่ได้เห็นมนุษย์กล้ามาหาเรื่องกับฉันเนี่ย ตอนนี้เซกำลังเบี่ยงเบนความสนใจไปที่อาซามิ ซึ่งอาซามิเองก็มองหน้าเซอย่างเอาเรื่อง (ยัยนี่อยู่เฉยๆไม่เป็นหรือไงเนี่ย)

     

    อย่างน้อยก็ฉันเนี่ยแหละ อาซามิเอ่ยอย่างไม่กลัวเกรงทั้งๆที่ตัวเองไม่มีอะไรจะเอาไปสู้กับพวกเหนือมนุษย์ข้างหน้า

     

    กล้าจริงนะ ดูท่าจะไม่รู้สถานะของตัวเองตอนนี้เลยนะ

     

    รู้น่ะรู้ แต่จะทำไมล่ะ หมาจนตรอกย่อมทำได้ทุกอย่าง

     

    แล้ว...

     

    แว้บ!!!!

     

    ก่อนที่เซจะพูดจบ ก็บังเกิดแสงสว่างล้อมรอบตัวเซเอาไว้

     

    ชิ มนต์ผนึกเสียท่านายจนได้ เซสบถออกมาเบาๆแต่ได้ยินกันทั้งหมด (สบถอีท่าไหนเนี่ย)

     

    ใช่มนต์ผนึก ฉันรอโอกาสตั้งนานกว่าจะได้ใช้ ยังดีที่คุณหนู*คนนี้ช่วยสร้างช่องว่างของนายขึ้นมาโซลเข้ามาเผยความให้กระจ่าง ตอนนี้ตัวเขาได้รับการรักษาแล้ว แต่ก็ยังคงเหลือบาดแผลเล็กๆน้อยๆ

     

    งั้นที่นายจงใจเข้ามาติดกับดัก ก็เพื่อแผนนี้ใช่ไหม

     

    นายไม่จำเป็นต้องรู้เซ returntohellseifrires~~~ โซลท่องคาถาสั้นๆฟังดูง่ายแต่ใครจะรู้ว่าผู้คุมหลายหมื่นคนสอบตกเพราะคาถาสั้นๆฟังดูง่ายบทนี้บทเดียว!!

     

    ทันใดนั้นอสูรครอสก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นจนตัวใหญ่กว่าทั้ง2 ถึง5เท่า! มันค่อยๆอ้าปากอันใหญ่โตของมันออก แล้วจู่ๆลมก็กรรโชกมาอย่างรุนแรง ดึงเอาเซที่ไม่สามารถขยับตัวได้เข้าไปในร่างกายของมัน

     

    ฟุบ!

     

    ลมอันรุนแรงได้สงบลงพร้อมกับอสูรครอสที่ปิดปากแล้วกลับสู่ขนาดเดิมของมัน

     

    ...จบสักที...คราวนี้ก็ถึงตาเธอแล้ว......โซลพูดขึ้นพร้อมกับหันมาทางอาซามิ

     

    อาซามิเอานิ้วชี้ตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า

     

    ชั้นเหรอ??

     

     ใช่คุณหนู ฉันจะไม่อธิบายมากนะแล้วห้ามถาม คุณหนูจะดำเนินชีวิตต่อจากตรงนี้ หรือจะกลับไปเปลี่ยนใหม่ โซลพูดชวนอาซามิงงอย่างรุนแรง

     

    กลับไปเปลี่ยนงั้นเหรอ อาซามิถามเพราะไม่เข้าใจ (ถ้าเข้าใจแล้วมันจะถามเหรอะ)

     

    กลับไปเปลี่ยนถูกแล้วคุณหนูฟังไม่ผิดหรอก หมายถึงคุณหนูโดนรถชนแล้วตายเหมือนเดิม

     

    โซลพูดๆตรงทำเอาอาซามิสะอึก...แล้วเราจะเลือกอันไหนดีเนี่ย....โซลเห็นท่าทางของอาซามิเลยนึกว่าไม่เข้าใจจึงอธิบายเพิ่มเติมว่า

     

     คุณหนูเลือกง่ายๆ ระหว่างคุณหนูรอดคนเดียว กับเพื่อนๆรอดแต่คุณหนูตาย ....ช่างเน้นคำเหลือเกินนะ...อาซามิคิดพลางบอกว่า

     

    ฉันเลือกที่จะไปค่ะ...

     

    โซลไม่พูดพรำทำเพลงเตรียมร่ายเวทส่งอาซามิกลับไปตอนที่เธอกำลังจะโดนรถชนทันที

     

    .....มันไม่คิดจะถามเลยเหรอะ....

     

    แว้บบบบบบ!

     

    โซลเอาเคียวเคาะที่พื้นแล้วเกิดแสงวูบหนึ่งอาซามิจึงต้องหลับตา พอเธอลืมตาขึ้นเธอก็ได้ยินเสียง

     

    อาซามิระวัง!!”

     

    โครม!!!

     

    อาซามิ!!! นั้นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน.......

    _____________________________________________

    *เหตุที่ผู้คุมเรียกอาซามิคุณหนูเป็นเพราะว่าผู้คุมวิญญาณทุกตนต้องให้ความเคารพมนุษย์ทุกคน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×