คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : :Two, One or Three ; Part 8
|| Two, One or three || part 8
Paring : Kim Jongin, Oh Suho, Oh Sehun
♥ 2 1 3 ♥
ซูโฮนั่งอยู่บนโซฟานุ่ม โดยที่ข้างๆ ถูกจับจองด้วยคนที่อาศัยอยู่ร่วมกันมาได้อาทิตย์กว่าแล้ว ใบหน้าหวานก้มหงุดหลบสายตาจากคนตัวสูงที่ยืนกอดอกพร้อมส่งสายตากดดันที่มองต่ำลงมา มือบางขยับขยุกขยิกกันที่หน้าตัก ริมฝีปากเม้มแน่น ข้อเท้าที่ยังถูกพันรอบด้วยผ้าก๊อตสีน้ำตาลซึ่งเป็นฝีมือของจงอินที่ตอนนี้นั่งอยู่ข้างกัน
รุ่งเช้าหลังจากคืนนั้นที่ซูโฮกับจงอินได้มีบทสนทนาร่วมกันทำให้ทั้งสองคนสามารถสงบศึกกันได้ ท่ามกลางความประหลาดใจของคนในทีมที่มักจะเห็นว่าไม่ว่าสองคนนี้จะอยู่ใกล้หรือไกลกันก็ต้องหาเรื่องจิกกัดกันได้อยู่ตลอดเวลา มันเริ่มจากเมื่อเช้าที่จงอินพยุงกายบางให้เข้ามาห้องทานอาหารที่ลูกทีมนับสิบกว่าคนกำลังนั่งเรียงรายกันอยู่ มินฮยอกเป็นคนแรกที่อุทานออกมาเลยทำให้คนอื่นหันตามกันมาหมด เพราะภาพที่แปลกตา
...ใช่แล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนชอบแกล้งซูโฮอย่างจงอินจะช่วยเหลือซูโฮด้วยการพามาที่ห้องทานอาหารนี้ แต่พอทุกคนเหลือบไปเห็นข้อเท้าขาวที่ได้รับการบาดเจ็บอยู่ก็เข้าใจแล้วไม่เอ่ยเสียงแซวอะไรอีก...แต่แล้วเสียงที่ดังเหนือหัวของซูโฮหลังจากที่เจ้าตัวหย่อนกายลงนั่งกับพื้นเสื่อก็ดังขึ้น ไม่ต้องเดาเลยว่าเสียงเย็นๆ นั่นจะเป็นของใครนอกจากโค้ชประจำทีมอย่างอี้ฟาน
หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ทั้งซูโฮและจงอินถูกเรียกตัวเข้ามาพบในห้อง...
“พี่ไม่รู้จะทำยังไงกับนายดีเนี่ย โอซูโฮ... ทำไมนายถึงได้ดื้อแบบนี้” หลังจากที่อี้ฟานได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากปากคนตรงหน้า ก็แทบอยากจะจับเด็กตรงหน้ามาฟาดสักทีสองที
นิสัยของซูโฮเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เข้าทีม ชอบทำอะไรเกินกำลังตัวเอง เป็นอะไรแล้วชอบไม่บอก...นี่แหละ มันน่านัก เป็นถึงกัปตันทีมแต่ไม่รู้จักดูแลตัวเอง
“ผมขอโทษครับ พี่อี้ฟาน” ซูโฮพูด แต่หากสายตายังไม่ยอมสบกับคนด้านบนง่ายๆ
....รู้ตัวว่าผิด แล้วมันก็เป็นอย่างที่จงอินคาดการณ์เอาไว้จริงๆ ด้วย ว่าเขาต้องโดนอี้ฟานดุแน่ๆ
อี้ฟานถอนหายใจแรงก่อนจะสั่นศีรษะออกมา “การแข่งจะเริ่มในอาทิตย์หน้า ระหว่างนี้พี่ขอสั่งห้ามนายงดกิจกรรมทุกชนิด อยู่เฉยๆ จนกว่าจะถึงเวลานั้น ถ้าข้อเท้านายหายทัน นายจะได้รับอนุญาตให้ลงแข่งตามเดิม แต่ถ้าไม่ล่ะก็...พี่จะหาคนอื่นมาแทน”
ประโยคท้ายช่างมันเหมือนมีดคมที่กรีดแทงเข้ามาที่เนื้อของซูโฮจังๆ ... อี้ฟานรู้ดีว่าเด็กคนนี้ต้องเสียใจมากแน่ แต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อข้อเท้าไม่สามารถขยับได้ตามเดิมก็จะเป็นตัวถ่วงของทีมเอาเปล่าๆ
“ครับ พี่อี้ฟาน” รับคำเงียบๆ พร้อมมือเรียวที่กุมกันแน่นมากกว่าเดิม ถ้าหากมีใครจะสังเกตก็คงจะเห็นว่าน้ำตากลิ้งลงมากระทบกับหลังมือที่วางซ้อนทับกันอยู่ เพียงแต่ไร้เสียงสะอื้น
“ฝากนายดูแลด้วย จงอิน...เย็นนี้เราจะกลับโซลกันแล้ว” ตามกำหนดการที่ได้วางแผนไว้ พวกเขาทั้งหมดจะกลับโซลกันในเย็นนี้ หลังจากนั้นเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ก่อนแข่งขันก็จะทำการฝึกซ้อมที่โรงเรียนตามเดิม
อี้ฟานเดินออกไปจากแล้ว เหลือเพียงคนสองคนที่นั่งอยู่ที่โซฟา ซูโฮยังคงไม่เงยหน้าขึ้นมา เดือดร้อนจงอินที่ทำอะไรไม่ถูก ไม่น่าเชื่อคนที่ขี้โวยวายเป็นที่หนึ่งอย่างซูโฮจะร้องไห้เป็นด้วย ไหล่บางสั่นน้อยๆ จงอินคล้ายจะเอื้อมมือสัมผัสแต่สุดท้ายก็ต้องชักมือตนเองกลับเพราะความกล้าที่มีไม่มากพอ ..ตัดสินใจนั่งเงียบๆ แทนจะดีกว่า
จงอินรู้สึกว่าตนเองผิดแปลกไป... ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาคงจะสมน้ำหน้ากัปตันทีมหน้าหวานคนนี้ไปแล้วแน่ๆ แต่ว่าตอนนี้จงอินรู้สึกอยากจะดึงกายบางที่สั่นสะท้านมาไว้ในอ้อมแขนเสียเหลือเกิน.... เพราะใบหน้าหวานเคล้าน้ำตารึเปล่าที่ทำให้รู้สึกหลงใหล หรือเพราะอีกฝ่ายที่มีใบหน้าเหมือนกับคนที่เขาแอบปลื้มอยู่ในใจหรือเปล่า
....หรืออาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้ซูโฮน่ารักเกินไปกันแน่
จงอินสะบัดศีรษะอย่างแรงเพื่อไล่ความคิดประหลาดภายในหัว ก่อนจะเอามือโขกหัวตัวเองไปทีนึง.. ไม่ล่ะ ไม่มีทาง อย่างคิมจงอินเนี่ยนะ จะชอบคนที่ขี้โวยวาย ขี้วีน ขี้เหวี่ยงเช่นคนข้างๆ ได้
เขาคงจะเพราะแค่หวั่นไหวเพราะซูโฮมีใบหน้าที่คล้ายกับเซฮุนแค่นั้นแหละ ...ไม่มีอย่างอื่นจริงๆ
♥ 2 1 3 ♥
ซูโฮกลับมาถึงบ้านแล้วโดยมีจงอินมาส่ง ระหว่างทางที่นั่งรถมาถึงที่นี่ ไม่มีใครปริปากพูดอะไรสักคน ซูโฮก็ซึมไปถนัดตา ไร้เสียงหวานที่คอยโหวกเหวก จงอินซึ่งปกติก็ค่อนข้างเงียบอยู่แล้วถ้าไม่มีใครพูดด้วยก่อน
..อึดอัดเป็นบ้า จงอินคิด
“เดี๋ยวจอดข้างหน้าครับ” ซูโฮบอกโชเฟอร์ให้จอดที่หน้าบ้านของตนเองก่อนจะควักกระเป๋าตังค์ออกมาแล้วจ่ายค่าโดยสารทั้งหมด
“นายไม่ต้องลงไปส่งฉันนะ” พูดกับจงอินโดยไม่หันมามองหน้า ..จงอินโดนอี้ฟานบังคับให้มาส่งซูโฮถึงที่บ้าน แถมยังกำชับอีกว่าพยายามให้อยู่ในสายตา อย่าให้ซูโฮเผลอแตะลูกบาสเด็ดขาด
ส่วนที่จงอินคิดก็คือ ก็ทำได้แค่ตอนอยู่ด้วยกัน พอเขาไป ซูโฮอาจจะแตะลูกบาสก็ได้ ใครจะไปรู้....
“มีใครอยู่บ้านรึเปล่า” จงอินถามขึ้น แต่คำตอบที่ได้รับเป็นส่ายหน้าเบาๆ
จงอินส่งเสียงในลำคอก่อนจะรีบพาตัวเองลงจากรถทันที ก่อนที่ซูโฮจะเปิดประตูอีกฝั่งลง จงอินก็อ้อมมาดักไว้ก่อนแล้วเป็นฝ่ายดึงประตูเปิดเสียงเอง
“ไม่ได้ จนกว่าที่บ้านนายจะมีใครกลับมา ฉันต้องอยู่เป็นเพื่อนนายตามคำสั่งของพี่อี้ฟาน” พูดด้วยน้ำเสียงโมโห
“นายจะฝ่าฝืนคำสั่งของพี่อี้ฟานก็ได้ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่เอาไปฟ้องพี่อี้ฟาน” ซูโฮก้าวลงจากรถอย่างทุลักทุเลเพราะเป้ใบใหญ่ที่สะพายอยู่บนไหล่ซ้าย อีกทั้งยังความเจ็บที่ข้อเท้าอีก มือขาวเกาะขอบประตูรถแน่นเพื่อดึงตัวเองขึ้นมา
จงอินมองภาพนั้นก่อนจะถอนหายใจแรงออกมา แล้วรีบคว้ากระเป๋าของซูโฮมาสะพายไว้เอง ใช้แขนข้างหนึ่งโอบรอบไหล่บางเพื่อพยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นจากเบาะรถได้ในที่สุด
“แค่นายจะยืนยังยืนไม่ไหว ถ้าเกิดนายหกล้มในบ้านขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ”
“ฉันรับผิดชอบตัวเองได้ ปล่อย!” พูดเสียงดังพร้อมมองไปยังแขนของจงอินที่พาดอยู่ตรงช่วงเอวของตนเอง
“กุญแจบ้านอยู่ไหน” ไม่ฟังคำพูดของซูโฮแถมยังเมินกันดื้อๆ จงอินถามหากุญแจบ้านเพื่อที่จะได้พาเจ้าตัวแสบนี่เข้าไปในบ้านเสียที อยู่ท่านี้นานๆ ก็เริ่มจะเมื่อย
“ฉันบอกให้ปล่อยไง”
“เลิกทำตัวมีปัญหาสักที กุญแจบ้านอยู่ไหน...” เปลี่ยนจากเอวบางที่จับไว้เมื่อครู่เป็นการเชยคางมนให้สบตา ใบหน้ายังคงความดื้อรั้นอยู่ดี มือเรียวยกขึ้นปัดมือที่จับใบหน้าตัวเองอยู่ให้พ้นออก ก่อนจะล้วงกุญแจบ้านที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วยัดใส่มือหนาอย่างรวดเร็ว
..
“พี่ซูโฮ.. พี่กลับมาแล้วเหรอ” เสียงของเซฮุนที่งัวเงียลงมาจากทางบันได คนสองคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาในตัวบ้านหันไปมองเด็กหนุ่มที่อยู่ในชุดนักเรียนยับๆ พร้อมผมที่ชี้ฟู บอกให้รู้ว่าเพิ่งตื่นจากที่นอน
เซฮุนก้าวลงบันไดทั้งที่เปลือกตายังปรือๆ อยู่ มือข้างหนึ่งเกาะราวบันไดไว้กันตัวเองที่จะเผลอลื่นลงไป อีกข้างยกขึ้นขยี้ตาเบาๆ
“เซฮุน...ว่าแล้วว่าต้องหลับอยู่” ซูโฮเดาไม่ผิดเลย เวลาหลังเลิกเรียนแบบนี้ สิ่งที่เซฮุนชอบทำที่สุดก็คือการนอน
ดูเหมือนว่าเซฮุนยังจะไม่สังเกตคนอีกคนที่ติดมากับซูโฮด้วย เปลือกตาบางกระพริบถี่ๆ อีกครั้งเมื่อลงมาถึงชั้นล่างอย่างปลอดภัย ก่อนจะที่เปลือกตาหนักอึ้งจะเปิดเต็มๆ ทันทีที่เห็นว่าใครอีกคนยืนอยู่กับซูโฮด้วย
“อ่อ จริงสิ เนี่ยจงอินที่เคยเล่าให้ฟัง” ซูโฮเห็นน้องชายทำหน้ามึนๆ เลยจัดการแนะนำให้รู้จักโดยที่ไม่รู้ว่าทั้งสองคนนี้รู้จักกันมาก่อนแล้ว
“ค..ครับ สวัสดี”
จงอินผงกหัวน้อยๆ ...ทำเป็นไม่รู้จักกัน ซึ่งทั้งสองคนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น เซฮุนผละสายตาจากจงอินไปแล้วก่อนจะหันกลับมาทางพี่ชายตัวเองอีกครั้ง
“ขาพี่ไปทำอะไรมา”
“อ..อ๋อ หกล้มนิดหน่อยแต่ไม่เป็นอะไรมาก” ...จริงๆ แล้วเป็นมากต่างหาก แถมยังไม่กล้าบอกความจริงอีกต่างหาก
คู่แฝดนี้มีที่เหมือนกันอีกอย่างก็คือ ชอบบอกว่าไม่เป็นอะไรแต่จริงๆ แล้วเป็น เซฮุนขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะส่งสายตาคาดโทษมายังพี่ชายตัวเอง
“พี่เนี่ย ไม่ระวังเลย ใกล้จะแข่งแล้วนะ” เซฮุนเดินมารับกระเป๋าสะพายจากจงอินที่เป็นถือไว้อยู่ แล้วนำไปวางที่โต๊ะรับแขก ตามด้วยจงอินที่พยุงซูโฮเข้ามาก่อนจะให้นั่งลงตรงโซฟานุ่ม
“ทานอะไรกันมารึยังครับ หิวมั้ย” เซฮุนเหลือบมองนาฬิกา เข็มสั้นชี้ที่เลขหกพอดี เป็นเวลาหัวค่ำแล้ว สมควรว่าอาหารเย็นควรจะตกถึงท้องได้แล้ว
“อื้ม หิวแล้วล่ะ ขอของโปรดนะ อยู่นู่นไม่ได้กินอะไรดีๆ เลย” พูดเสียงอ้อนๆ ก่อนจะหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดทีวีทำลายความเงียบ ระหว่างที่น้องชายกำลังจะไปทำอาหารเย็น
“อ่า... มันก็ได้อยู่นะครับ แต่คือตั้งแต่พี่ไม่อยู่นี่ ผมไม่ได้ซื้ออะไรเข้าตู้เย็นเลย” เซฮุนเดินไปเปิดตู้เย็น พร้อมสำรวจทุกชั้นว่ามีอะไรที่พอจะเอามาทำเป็นมื้อเย็นได้บ้าง แต่ก็เจอเพียงหัวผักกาดแหว่งๆ ไข่ไม่กี่ฟองพร้อมกับหมูบดที่เหลือเพียงนิดหน่อย
“อย่าบอกนะว่าตอนที่พี่ไม่อยู่ นายกินแต่บะหมี่สำเร็จรูป”
“ก็ประมาณนั้นมั้งครับ ...เอางี้ เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อ แป๊ปเดียว” รีบตัดบทเพียงแค่นั้นก่อนที่จะโดนพี่ชายดุเรื่องทานของไม่มีประโยชน์
“เดี๋ยวๆ พี่ไปด้วย” คนเป็นพี่รีบบอก โดยลืมที่จะมองดูสังขารตัวเอง
“พี่จะไปได้ไงล่ะ ขาเจ็บอยู่นะ เดี๋ยวผมไปคนเดียวได้”
“ไม่ได้นะ นายจะไปคนเดียวได้ไง มันเย็นแล้วนะ” ไม่เด็ดขาด..ซูโฮไม่ยอมให้เซฮุนออกไปนอกบ้านดึกๆ คนเดียวแน่ๆ
“ให้จงอินไปเป็นเพื่อนนะ” หันซ้ายหันขวาก่อนจะหันไปเห็นทางเลือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ อย่างน้อยมันก็เป็นคนที่ไว้ใจได้คนนึงล่ะนะ
“แล้วพี่ก็อยู่คนเดียว?”
“พี่ไม่เป็นอะไรหรอกน่า จะนั่งดูทีวีอย่างนี้แหละ ไม่ลุกไปไหนด้วย”
สุดท้ายเซฮุนก็ยอมออกมากับจงอินตามที่ซูโฮกำชับไว้...
♥ 2 1 3 ♥
“เอ่อ/เอ่อ” เซฮุนกับจงอินพูดพร้อมกัน แถมยังหันหน้ามาหากันพอดีอีกด้วย เซฮุนเป็นฝ่ายหลบหน้าไปก่อน ริมฝีปากเม้มแน่น แก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อนึกถึงคำพูดจงอินในวันก่อนหน้าที่จะไม่ได้เห็นกับเกือบสองอาทิตย์
“นายพูดก่อนสิ...จงอิน” บอกกับจงอินโดยที่ตัวเองยังคงก้มลงปลายเท้าตัวเองที่เดินอยู่บนพื้นคอนกรีต
“ทำไมเราต้องทำเป็นไม่รู้จักกันด้วยล่ะ”
คำถามที่จงอินถามเป็นคำถามเดียวกับที่เซฮุนตั้งใจจะถามเหมือนกัน.. ใบหน้าหวานส่ายไปมา ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากก่อนจะเม้มลงแน่นตามเดิม
จงอินเอามือล้วงเข้าในกระเป๋ากางเกงก่อนจะก้มลงมองคนที่ตัวเล็กกว่า..ใบหน้าของเซฮุนที่ไม่ได้เห็นสองอาทิตย์ทำให้รู้สึกคิดถึงแปลกๆ คิดถึงใบหน้าที่ดูจะไร้เดียงสาตลอดเวลา เอียงอายเวลาพูดอะไรให้คนๆ นี้เขิน
“ก็...ไม่รู้ดิ”
“อืม ฉันก็เหมือนกัน”
ได้ยินคำตอบที่เหมือนกันทำให้เซฮุนหันไปหาจงอิน พอดีกับที่จงอินมองมาที่เซฮุนอยู่ก่อนแล้ว เสียงหัวเราะดังขึ้นหลังจากนั้น เซฮุนยกมือขึ้นปิดปากแล้วหันไปหัวเราะในอีกทาง
“พี่นายน่ะ..หัวดื้อน่าดูเลย”
แอบนินทาพี่ชายของเซฮุนให้เซฮุนฟัง เซฮุนไม่ได้โกรธเคืองที่จงอินกล่าวหาพี่ชายตัวเองแบบนั้น เพราะลึกๆ แล้วเซฮุนเห็นด้วยมากเลยต่างหาก โตมาด้วยกันตั้งสิบแปดปี จะไม่รู้ได้ยังไงว่าพี่ชายตัวเองจะมีนิสัยยังไง และหัวดื้อเนี่ยแหละเป็นนิสัยอย่างหนึ่งเลยของซูโฮ และไม่แน่ว่าอาจจะเป็นกับเซฮุนด้วย
“พี่ซูโฮก็เป็นแบบนั้นแหละ..ที่จริงพี่เราไม่ได้หกล้มใช่มั้ยล่ะ?”
“นี่นายรู้ด้วยเหรอว่าซูโฮโกหก” จงอินตาโตอย่างไม่น่าเชื่อ ก็ตอนที่ซูโฮพูดออกมา ไม่เห็นว่าเซฮุนจะแย้งอะไร ก็เลยเผลอนึกไปว่าการแสดงที่ยอด(แย่)ของซูโฮจะตบสายตาของเซฮุนได้
“รู้หมดล่ะน่า เราเป็นฝาแฝดกับพี่ซูโฮนะ”
“โหย งั้นทฤษฏีที่ว่าคนที่ฝาแฝดกัน จิตใจเขาจะสื่อถึงกันได้ ก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ ทั้งๆ ที่เป็นคนล่ะคนกันเนี่ยนะ”
จงอินยกทฤษฏีเกี่ยวกับฝาแฝดข้อหนึ่งขึ้นมาถามเซฮุน ส่วนตัวแล้วจงอินแทบไม่อยากเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ถึงจะเป็นแฝดกันแต่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนละร่างกันอยู่ดี จะมีที่ไหนที่ใครอีกคนจะมารู้ใจอีกคนได้น่ะ...
“อืมม....ก็คงจะประมาณนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรารู้ทั้งหมดของพี่ซูโฮนะ มันก็แค่รู้สึกได้..แค่นั้นเอง”
“นี่...ถามอะไรหน่อยดิ” จู่ๆ จงอินก็ทำเหมือนจะเปลี่ยนเรื่อง เซฮุนหันไปหาจงอินพร้อมเลิกคิ้วขึ้น
“ไม่ได้เจอฉันสิบวัน...คิดถึงฉันมั้ย”
คำถามแปลกๆ ที่ออกมาจากปากจงอิน ทำเอาใบหน้าหวานร้อนผ่าว ริ้วสีแดงขึ้นผ่านแก้มขาวนวล ดวงตาเรียวเบิกกว้าง ก่อนจะรีบหลบรอยยิ้มพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์ของจงอินไปทางอื่น จู่ๆ มาถามแบบนี้เป็นใครบ้างไม่ตกใจ เซฮุนรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นรัวแรงไม่เป็นปกติ เกรงว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเข้า
“ถ..ถามอะไรของจงอิน” รีบกลบเกลื่อนด้วยการสาวเท้าให้ก้าวเร็วยิ่งขึ้น อีกเพียงไม่กี่เมตรก็จะถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้ว
“เอ้า ก็อยากรู้เลยถาม”
เซฮุนไม่ตอบคำถามประหลาดของจงอิน เมื่อถึงซุปเปอร์มาร์เก็ต คว้าอะไรได้ก็เอาใส่รถเข็นทั้งหมด ซึ่งดูแล้วมันไม่ได้เกี่ยวกับมื้ออาหารเย็นสักเท่าไหร่ การกระทำแบบนี้เขาเรียกว่า กลบเกลื่อนความเขิน... รถเข็นในมือถูกแย่งออกไปโดยฝีมือของคนที่รีบสาวเท้าตามหลังมา
“ตกลงว่าไง?” จงอินทำเนียนมาเดินข้างๆ เซฮุนที่กำลังเลือกผักสดอยู่ มองจากด้านข้างก็ยิ่งเห็นว่าทั้งแก้มของอีกฝ่ายแดงจนลามมาถึงใบหู
“แล้วทำไมเราต้องคิดถึงจงอินด้วยล่ะ” ทำเป็นตอบไม่ใส่ใจ แล้วหันไปเลือกผักสีเขียวตรงหน้าต่อ ทั้งที่ตอนนี้ในใจของเซฮุนแทบจะตีกลองจังหวะร็อคอยู่แล้ว
“ก็เผื่อว่าเวลานายเล่นเปียโนแล้วอยากเห็นฉันไปด้วยไงล่ะ” …หลงตัวเองเป็นที่สุด
มือเรียวของเซฮุนชะงักขณะกำลังเลือกหัวผักกาด... ในหัวนึกไปถึงคำพูดของอาจารย์เมื่อวานที่เพิ่งได้รับคำติแทนที่จะเป็นคำชมเหมือนทุกครั้ง อาจารย์บอกกับเซฮุนว่า ช่วงนี้ดูเหมือนจะขาดสมาธิ ดูใส่พลังกับโน้ตดนตรีไม่มากพอ ซึ่งเซฮุนก็นึกไปเองว่าตัวเองคงเหงาเพราะซูโฮไม่อยู่ แต่พอมาวันนี้ประโยคที่จงอินพูดทำให้เซฮุนเหมือนจะคิดได้ว่าแท้จริงแล้วเป็นเพราะอะไร...
“โอเคๆ ...สงสัยว่านายจะไม่คิดถึงฉันล่ะมั้ง” เห็นเซฮุนเงียบไปครู่หนึ่ง ก็เริ่มทำเอาจงอินใจสั่นขึ้นมา ...เป็นเรื่องจริงที่ตอนไปซ้อม ในหัวมันนึกถึงเซฮุนไปหมด นึกถึงเสียงเปียโนเพราะๆ นั่นด้วย
“ก็นิดหน่อย...” เสียงหวานพึมพำออกมาคล้ายจะพูดคนเดียว แต่จงอินกลับได้ยินพร้อมเงี่ยหูฟังใกล้ๆ
“อะไรนะ?”
“ก็คงจะ...คิดถึงนิดหน่อย” จบคำพูดสั้นๆ เซฮุนไม่อยู่รอให้จงอินถามอะไรอีก หรือไม่อยู่รอให้แก้มขาวเป็นสีแดงจัดมากกว่านี้ด้วย รีบโยนหัวผักกาดที่ถือไว้ในมือมาได้ครู่ใหญ่แล้วลงในรถเข็น ก่อนที่เรียวขาจะรีบก้าวออกมาจากบริเวณนั้นทันที
หากคำตอบที่ออกมาเป็นเสียงเบาๆ ของเซฮุน ทำเอาจงอินยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะส่ายศีรษะออกมากับความน่ารักของคนที่เพิ่งเดินจากไปเมื่อครู่.. ต้องให้บอกรึเปล่า ว่าจงอินก็คิดถึงเหมือนกัน หัวใจมันเต้นรัวตั้งแต่ที่เห็นเซฮุนลงมาจากบันไดที่บ้านแล้ว.. ยิ่งคำขอของซูโฮที่ให้พาเซฮุนไปซื้อของ นี่ก็ทำเอาเขาไม่ปฏิเสธเลยด้วยซ้ำ
สงสัยว่าจงอินจะหลงรักเซฮุนขึ้นมาจริงๆ ..
♥ 2 1 3 ♥
TBC ♥
พี่จงอินคนบ้าจริงๆ เลย U_U
พอดีเข้ามาแก้ไขเนื้อเรื่องให้ดูแล้วอยากอ่านค่ะ อิ้อิ้
มีโปสเตอร์แล้วด้วย รู้ใช่มั้ยคะคนไหนพี่ซูโฮคนไหนน้องเซฮุน > <
เจอกันตอนหน้าค่า เยิฟ ♥
ความคิดเห็น