คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : :Two, One or Three ; Part 2
|| Two, One or three || Part 2
Paring : Kim Jongin, Oh Suho, Oh Sehun
♥ 2 1 3 ♥
สนามบาสหน้าโรงเรียนในวันนี้ ถูกจับจองด้วยชายหนุ่มสองคนที่เพิ่งได้เข้าชมรมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนเมื่อวานนี้ คนตัวสูงอย่างปาร์คชานยอลสมารถดั๊งค์ลูกให้ลงห่วงได้อย่างสบายๆ อีกทั้งชุดนักเรียนแบบใหม่ก็ดูเข้ากับเด็กใหม่ทั้งสองคนได้ดี ข้างสนามก็เลยเต็มไปด้วยสาวๆ ที่ยืนกรี๊ดกร๊าด ชื่นชมบุรุษรูปงามหน้าใหม่ทั้งสอง บางคนถึงกับยกกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้
“เฮ้ย ไอจงอิน มึงว่าใครน่ารักบ้างวะ” เสียงของชานยอลถามเพื่อนเบาๆ ระหว่างที่จงอินกำลังเลี้ยงลูกบอลในมือ
ก็ตามประสาคนนิสัยอย่างปาร์คชานยอลที่ชอบมองคนน่ารักๆ เลยลองถามเพื่อนดูว่าเพื่อนมีใครในใจแล้วหรือยัง ซึ่งโรงเรียนในเมืองหลวงของประเทศเกาหลี สาวๆ ก็คงน่ารักกว่าพวกโรงเรียนในชนบทเป็นแน่แท้อยู่แล้ว เพราะงั้นอุตส่าห์ได้มาเรียนที่นี่ทั้งที ปาร์คชานยอลคงไม่พลาดที่จะสาวๆ หรือหนุ่มน่ารักๆ สักคนไว้ควงเล่นให้พอชื่นใจแน่ๆ
“ไม่รู้ว่ะ กูยังไม่เห็นใครน่ารักสักคน” จงอินไม่สนใจคำถามของเพื่อน ตอบส่งๆ ไปแบบนั้น ก่อนจะโยนลูกกลมใส่แป้นด้านหน้า เรียกเสียงร้องจากสาวๆ ที่ยืนชื่นชมอยู่บริเวณนั้นอีก
“กูว่านะ..ซูโฮ กัปตันทีม ก็โออยู่นะเว้ย” เอ่ยแซวเพื่อนตัวเองที่เห็นชัดๆ ว่าจงอินตั้งใจไปกวนประสาทคนหน้าหวานนั่นเล่น จนในที่สุดกัปตันทีมที่ว่าก็ระเบิดอารมณ์ออกมาจนได้
“เห๊อะ เหรอวะ กูว่างั้นๆ ที่กูยอมมานี่เพราะหวังจะเจอกัปตันทีมอย่างไมเคิล จอร์แดน ไรงี้สักหน่อยนี่ไรวะ มาเจออย่างกับผู้หญิง” จงอินนึกไปถึงใบหน้าหวานของซูโฮ ที่เห็นตอนแรกถึงกับอึ้ง นึกว่าทอม.. แขนบาง แถมยังขาวผ่องขนาดนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนเล่นกีฬาเลยจริงๆ แต่พอได้มาลองฝีมือก็นับว่าเก่งทีเดียว เลยเผลอแกล้งไปอีกนิดหน่อย
“มึงบ้าปะวะ นี่เอเชียนะ ไม่ใช่อเมริกา มึงจะไปเจอคนร่างใหญ่ๆ แบบนั้นได้ไง”
“อย่างน้อยกูก็นึกว่าเขาจะเท่กว่านี้แล้วกันนะ”
“นั่นไง พูดถึงก็เดินมานั่นน่ะ” จงอินหันไปตามนิ้วมือของชานยอลก่อนจะเห็นคนตัวบางเมื่อวานเดินอยู่ด้านในตึก จงอินยกยิ้มมุมปากเหมือนเจอของเล่นถูกใจ เพราะในหัวดันคิดเรื่องที่จะแกล้งกัปตันทีมคนเก่งได้ในช่วงเช้านี้
มือหนาเหวี่ยงลูกบาสในมือไปมา ท่ามกลางชานยอลที่รู้ว่าเพื่อนผิวแทนของตนเองจะทำอะไร ตัวเขาก็ไม่ได้ห้ามอะไรอยู่แล้ว เพราะรู้ดีว่าจงอินไม่ชอบคนชอบแกล้งอะไรแรงๆ เสียเท่าไหร่ อีกอย่างถ้าในเมื่อเป็นกัปตัน แค่นี้คงไม่เสียหายอะไร
จงอินโยนลูกบาสเข้าใส่คนตัวบางที่กำลังเดินผ่านสนามอย่างไม่สนใจใคร แล้วมันก็แม่นมากเสียด้วย ระยะทางกับแรงที่จงกะไว้ว่ามันจะถึงตัวแน่ๆ คนที่ถูกโยนลูกบอลทรงกลมใส่หันมาก่อนที่เจ้าตัวจะตกใจ มือขาวยกขึ้นบังใบหน้าตนเองไว้ เพื่อไม่ให้มันกระทบโดนเข้าตรงหน้าตรงๆ แต่หากแรงของลูกที่โยนมาก็ไม่ใช่น้อย ส่งผลให้มันกระแทกเข้าที่ต้นแขนแทน กายบางทรุดตัวลงนั่งด้วยความตกใจ ผู้คนเริ่มมายืนมุงจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ส่งผลให้คนในสนามบาส รวมถึงจงอินที่เป็นฝ่ายโยนเอ๋อไปชั่วขณะ..
“เฮ้ย มึง..ไอจงอิน เขาเป็นไรปะวะ ไปดูดิ๊” ชานยอลรีบดึงแขนเพื่อนให้เดินตาม
แปลกมาก... เมื่อกี๊ที่จงอินโยน มันไม่ได้ยากต่อการตั้งรับเลยแม้แต่น้อย ทำไมถึงลูกเบาะๆ แค่นี้ถึงรับไม่ได้ ชานยอลนึกสงสัย คนตัวสูงแทรกตัวผ่านกลุ่มคนที่มุงกันอยู่จนเข้าถึงตัวคนที่นั่งอยู่กับพื้นได้
ข้าวของกระจายเต็มพื้น รวมถึงหนังสือก็กระเด็นไปคนละทิศละทาง ซึ่งก็มีคนใจดีอาสาช่วยเด็กหนุ่มเก็บ
“อ่อนว่ะ เมื่อกี๊ไม่ได้โยนแรงเลยนะ ทำไมรับไม่ได้” เสียงของจงอินดังขึ้นเหนือหัวของคนที่นั่งอยู่ ส่งผลให้ชานยอลหันขวับไปทางเพื่อนตนเองทันที ..ปากเสียไม่ดูเวลา เขาอาจจะไม่คิดว่าลูกมันจะลอยมาก็ได้เลยไม่ทันตั้งตัว
มือเรียวที่กำลังจะเอื้อมเก็บหนังสือชะงักทันที ก่อนที่ใบหน้าหวานจะแหงนมองคนที่อยู่สูงกว่า
“เนี่ยเหรอ กัปตันทีม ห่วยสุดๆ”
คำพูดแดกดันยังคงมีให้ได้ยิน จนคนฟังเริ่มรู้สึกแย่ ริมฝีปากเม้มแน่น กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่หากเสียงเล็กที่ดังมาแต่ไกลก็ขึ้นมาจัดเสียก่อน
“เซฮุนเซฮุนนา เป็นอะไรรึเปล่า!” คนตัวเล็กรีบแทรกฝูงคนเข้ามาหาเพื่อนตัวเองทันที เพราะเมื่อครู่ก็เห็นไกลๆ ว่าลูกบอล มันลอยกระเด็นใส่เพื่อนตัวเองชัดๆ
ชื่อของบุคคลที่คนอีกสองคนไม่รู้จักดังขึ้นในโสตประสาต ชานยอลหันมามองจงอินที่ส่ายหน้าไม่เข้าใจ เพราะดูยังไงคนตรงหน้านี่ก็คือคนคนเดียวกับที่พวกเขาเจอ
“อื้มไม่เป็นไร คยองซู ขอบใจนะ” ส่ายหน้าให้เพื่อนเบาๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืน ปัดฝุ่นตามตัวก่อนจะรับของจากคนใจดีที่เห็นเหตาณ์ที่เข้ามาช่วยเก็บของ
“เดี๋ยวนะ.. ทำไมนายดูไม่เหมือนเมื่อวานเลยล่ะ” ชานยอลยกนิ้วใส่หน้าเซฮุนพลางมองสลับกับเพื่อนตัวเล็กของคนตรงหน้า
“เราไม่ใช่พี่ซูโฮ” ..นี่คงจะเข้าใจผิดว่าเขาคือซูโฮสินะ คนหน้าหวานตอบกลับมานิ่ง ท่ามกลางความไม่เข้าใจของคนที่ไม่รู้มาก่อนว่าจะมาเจอฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันขนาดนี้
ดวงตาของชานยอลเบิกกว้าง ก่อนรีบหันไปหาเพื่อนตัวเองที่นิ่งค้างไปแล้ว ...หน้าแตกไม่พอยังไปทำคนไม่รู้จักกันเจ็บตัวอีก จะว่าไปแล้วก็เพิ่งจะสังเกต ...ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาร่างกายจะเหมือนกันทุกส่วน แต่สีผมคนละสี ....คนเมื่อวานผมบลอนด์ต่างหาก ตาคนตรงหน้านี่ผมน้ำตาลดูไปดูมาแล้ว เรียบร้อยกว่ากันเยอะ
“ไอเชี่ยจงอิน มึงมาขอโทษเขาเดี๋ยวนี้” ชานยอลหันไปสั่งเพื่อนที่ยังหน้านิ่งไม่เลิก ไม่รู้เพราะว่าตกใจหรืออะไร
เซฮุนที่ยืนกอดหนังสือตัวเองแน่น คิ้วสวยขมวดยุ่งไม่พอใจเล็กน้อยที่คนตรงหน้าไม่ยอมพูดออกมาสักที ถึงแม้ว่าขอโทษมันจะไม่ทันให้แขนหายเจ็บได้แต่อย่างน้อยก็หายรู้สึกแย่ล่ะนะ ...อะไรกัน จู่ๆมา โยนลูกบอลใส่ ถึงแม้อีกฝ่ายจะคิดว่าเขาเป็นซูโฮก็เถอะ การที่มาขว้างอะไรใส่กันแบบนี้ มันใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ
“ไม่เป็นไรหรอก เราไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่วันหลังอย่ามาขว้างอะไรแบบนี้อีกนะ ไม่ว่ากับใครก็ตาม” เสียงหวานพูดออกมาอย่างอดโมโหไม่ได้ ชำเลืองมองตัวต้นเหตุที่เป็นคนโยนลูกกลมมาก่อนจะรีบเดินออกไป โดยไม่ลืมลากคยองซูที่ยืนตาค้างมองชายหนุ่มตัวสูงอีกคนด้วย
“เดี๋ยวดิเซฮุน” คยองซูรั้งตัวเองไว้ด้วยการดึงแขนเพื่อนที่ตัวสูงกว่าตัวเองให้หยุดเดิน ส่งผลให้คนหน้าหวานหันกลับมา ...ภาพที่เห็นหลังจากนั้นคือเพื่อนตัวเล็กเงยมองคนตัวสูงชะลูดอย่างเพ้อๆ..
“ชื่ออะไรเหรอครับ?”
คำถามที่คยองซูถามผู้ชายคนนั้น ทำเอาเซฮุนอ้าปากค้าง...กับความกล้าของเพื่อนตัวเอง ให้ตายเหอะ โดคยองซู... เซฮุนอยากจะเอามือมาก่ายหน้าผากตนเองเหลือเกิน!
คิดดูว่าขนาดคนถูกถามยังอึ้ง ...ชานยอลอึ่กอั่กกับท่าทางของคนตรงหน้า ไม่ใช่เพราะไม่อยากบอก แต่กำลังอึ้งต่างหาก
“เราคยองซู ห้องC ยินดีที่ได้รู้จักนะ”คนตัวเล็กยิ้มกว้างให้ พลางยื่นมือส่งไปให้คนตรงหน้า
เซฮุนไม่ได้อยู่ฟังบทสนทนาต่อ เพียงส่ายหน้ากับความกล้าแสดงออกของเพื่อน ก่อนจะรีบเดินหนีเพื่อนตัวเองออกมาก่อน พอเจอผู้ชายหล่อนี่ไม่ได้เลยนะ ทิ้งเพื่อนเฉยเลย!
♥ 2 1 3 ♥
ผ่านมาได้หลายวันนับจากวันนั้น เซฮุนไม่ได้เล่าเรื่องที่โดนลูกบาสกระเด็นใส่ให้พี่ซูโฮฟัง แล้วก็มารู้จากคยองซูทีหลังว่าสองคนนั้นคือสมาชิกคนใหม่ของทีมบาสเก็ตบอล นั่นก็หมายความว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นคนที่ซูโฮพูดถึง และถ้าให้เซฮุนเดาก็ต้องเป็นคนที่เขวี้ยงลูกบาสมาใส่เขาแน่ๆ ที่ไม่ยอมบอกซูโฮเพราะว่าถ้าบอก มันต้องเป็นเรื่องใหญ่ชัวร์ เลยเลือกที่จะเก็บไปความลับดีกว่า ถึงแม้ว่าวันนั้นพอกลับบ้านมาถอดเสื้อดูก็พบว่าต้นแขนบางจะเป็นรอยก็เถอะใส่เสื้อแขนสั้นไม่ได้เป็นอาทิตย์จนกว่ามันจะหายเป็นรอย
“พี่ซูโฮ วันนี้ผมเข้าชมรมนะ” เซฮุนบอกซูโฮก่อนที่พี่ตัวเองจะเดินแยกไปอีกทางเพื่อเดินเข้าห้องเรียน
“อื้มงั้นเดี๋ยวพี่ไปรับที่ห้องชมรมแล้วกันนะ” ซูโฮพยักหน้าก่อนจะอาสาเป็นคนไปรับน้องชายด้วยตนเองที่ชมรม หลังจากที่ตนเองซ้อมบาสเสร็จ ซึ่งเซฮุนก็ยิ้มรับคำพี่ชายก่อนจะโบกมือลาเพื่อเข้าห้องตนเอง
เซฮุนสังกัดอยู่ชมรมเปียโน ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีสมาชิกอยู่ไม่กี่คน เพราะว่าดนตรีประเภทนี้คงไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ แต่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เซฮุนทำแล้วมีความสุข บางเวลาเจ้าตัวก็ชอบแอบซูโฮมาที่ห้องชมรมบ่อยๆ เพื่อมาเล่นเปียโนระหว่างที่ซูโฮซ้อมกีฬา ทุกวันศุกร์จะเป็นวันที่นักเรียนทุกคนเข้าชมรม เพราะงั้นวันนี้เซฮุนเลยดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
หลังหมดคาบสุดท้าย เด็กหนุ่มไม่รอช้าที่จะเสียเวลาไปแม้แต่เพียงนาที มือเรียวกวาดเครื่องเขียนที่อยู่บนโต๊ะเรียนเข้ากระเป๋า ก่อนจะเก็บการบ้านที่ต้องทำวันนี้ใส่กระเป๋าเรียน ท่ามกลางสายตาของเพื่อนซี้อย่างคยองซู
“แหม พอเป็นวันศุกร์นี่รีบเก็บของเลยนะ” คนตัวเล็กอดที่จะแซวเพื่อนไม่ได้ ..ก็ดูอย่างวันปกติสิ ชักช้าลีลาอย่างกับอะไร ทั้งๆ ที่คยองซูคิดว่าการที่ได้ไปนั่งดูทีมบาสของโรงเรียนมันน่าสนใจกว่าการเช้ารมกว่าเป็นไหนๆ (ความจริงคนในทีมต่างหากที่น่าสนใจ)
“ว่าแต่เรา วันนี้คยองซูก็ต้องเข้าชมรมไม่ใช่รึไง” คยองซูอยู่ชมรมคอรัส เห็นดูห้าวๆ แบบนี้ เวลาร้องเพลงนี่ทำเอาคนหลงใหลมากี่คนแล้วก็ไม่รู้
“ไม่ไปหรอก~ วันนี้เราจะไปดูทีมบาสซ้อมกับทีมโรงเรียนอื่น”
“จะโดดชมรมเหรอ เดี๋ยวบอกอาจารย์เลย” เซฮุนแกล้งขู่เพื่อน และคยองซูก็รู้ด้วยว่าจริงๆ แล้วเซฮุนไม่กล้าทำหรอก
“แบร่~ อยากฟ้องก็ฟ้องเลย ...แล้วทำไมนายไม่ไปด้วยกันล่ะ ไปเชียร์พี่ซูโฮไง” คยองซูเลยชวนเพื่อนโดดชมรมด้วยกันบ้าง ก็วันนี้ที่ทีมโรงเรียนอื่นจะมายลโฉมให้ดูซะหน่อย อย่างน้อยก็คงมีคนหน้าตาดีๆ ให้คยองซูคนนี้ได้ดูเป็นอาหารตาบ้างล่ะ
“ไม่เอาหรอก เราไปซ้อมเปียโนดีกว่า นัดอาจารย์ไว้แล้วด้วย ..คยองซูนั่นแหละ รีบๆ ไป ไม่งั้นที่นั่งดีๆ จะหายหมดนะ ตัวยิ่งเล็กๆ อยู่ เดี๋ยวจะมองไม่เห็นหนุ่มตัวสูงคนนั้นเอาน้า~~” เซฮุนรีบแซวเพื่อนก่อนที่ตัวเองจะรีบวิ่งออกมจากห้อง เพราะเห็นเพื่อเตรียมเขินเต็มที่แล้วกลัวว่าจะโดนมือเล็กๆ ทำร้ายร่างกายเอา
..
♥ 2 1 3 ♥
ห้องชมรมเปียโนเป็นห้องเล็กๆ ที่อยู่ริมสุดของตึกเรียน ด้านหลังห้องติดกับสนามหญ้าพร้อมต้นไม้ใหญ่ที่เป็นเงาร่มไม่ให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง ถึงจะดูเป็นชมรมที่ถูกละเลยที่สุด แต่เซฮุนรู้สึกมีความสุขที่สุดที่ได้อยู่ในห้องนี้ เปียโนหลังใหญ่ที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ ตั้งอยู่ริมห้อง เครื่องดนตรีคลาสสิคที่เหลือก็ถูกวางตามจุดต่างๆ ตามความเหมาะสม
ใบหน้าหวานหันซ้ายขวา เมื่อยังไม่พบอาจารย์ประจำชมรม มือเรียวก็วางกระเป๋าสะพายไว้กับเก้าอี้ ก่อนที่จะพาตัวเองมานั่งประจำตำแหน่ง นิ้วสวยกดลงเบาๆ ที่แป้นเปียโนเพื่อทดลองเสียง เสียงใสกิ๊งดังขึ้นตามตำแหน่งที่นิ้วมือกด กลีบปากยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะวางมือทั้งสองลงตามตำแหน่งตัวโน๊ต
เสียงบรรเลงเพลงโปรดที่เซฮุนมักจะเล่นเป็นเพลงแรกก่อรการซ้อมเสมอ ดังขึ้นสะท้อนไปทั่วห้องเล็ก รวมถึงบานหน้าต่างที่ถูกเปิดอยู่ เสียงลมพัดด้านนอกราวกับกำลังพลิ้วไหวตามเสียงเปียโน ก้อนเมฆลอยลิ่วตามแรงพัดของลม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของธรรมชาติลอยขึ้นปะทะจมูกยิ่งทำให้เซฮุนรู้สึกดี นิ้วมือกดตามคีย์อย่างชำนาญและไม่มีท่อนไหนสักท่อนที่จะกดผิดหรือทำให้เสียงเพี้ยน ...น่าเสียดายที่โรงเรียนไม่ให้ความสนใจกับชมรมเปียโนแบบนี้เสียเท่าไหร่ คนดีๆ ที่น่าจะมีโอกาสได้สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน เลยต้องมานั่งเล่นให้นก ให้ไม้ฟังอยู่แบบนี้
..
เสียงเปียโนปลุกให้คนที่งีบหลับอยู่ใต้ต้นไม้เปิดเปลือกตาขึ้น ไม่ใช่เพราะมันหนวกหู แต่ความจริงแล้วเจ้าตัวไม่ได้หลับแต่แรกต่างหาก เพียงแค่พักสายตาที่เหนื่อยอ่อนเท่านั้น หูยังคงแว่วเสียงเปียโนที่อยู่ใกล้ๆ มาให้ได้ยิน เด็กหนุ่มยันตัวเองลุกขึ้นด้วยความสงสัยว่าเสียงนี้ดังมาจากไหน ...แอบมางีบหลับที่นี่ได้หลายวัน จนเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มาบ่อยที่สุดในโรงเรียน เพิ่งจะรู้ว่าโรงเรียนนี้มีเสียงเปียโนด้วย ขาเรียวก้าวไปตามพื้นหญ้า ก่อนจะหยุดอยู่ที่บานหน้าต่างที่เปิดไว้อยู่ ผ้าม่านภายในห้องพลิ้วไหวเบาๆ เผยให้เห็นคนที่กำลังดีดเปียโนอยู่ เพียงเสี้ยงของใบหน้าที่เห็นก็ทำเอาเด็กหนุ่มชะงัก เพราะความรู้สึกคุ้นๆ เหมือนว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน.. มือหนาเกาะเข้าที่ขอบหน้าต่าง ก่อนจะหยุดฟังเพลงบรรเลงเงียบๆ จริงๆ แล้ว ฟังไปฟังมาก็รู้สึกจิตใจสงบขึ้นมาอย่างนั้น หรือเรียกว่ารู้สึกดีขึ้นมาแบบแปลกๆ
ฉับพลันที่เสียงเปียโนหยุดลง ทำเอาคนที่แอบมายืนฟังสะดุ้ง พร้อมกับเสียงคนด้านในที่ถามขึ้น ทำเอาคนด้านนอกหลบไม่ทันได้แต่ยืนนิ่งค้างให้คนในห้องเดินเข้ามาใกล้ แต่ก็ยังมีหน้าต่างกั้นระหว่างไว้
“ใครน่ะ?” เซฮุนถามขึ้นพร้อมเดินมายังหน้าต่าง เพราะเห็นเงาไหววูบๆ อยู่บริเวณนั้น
พอคนที่มาแอบฟัง เห็นหน้าคนที่เล่นเปียโน ถึงกับร้องอ้าว.. ออกมา ไม่ใช่เพราะตกใจหรอก แต่มัน..
“ซ..ซูโฮเอ้ย..”
พอคนหน้าหวานภายในห้องได้ยินชื่อเรียกที่ผิดถึงกับเบะปากออกมา ..ถึงจะไม่ได้คิดอะไรกับการที่มีคนมาเรียกตัวเองผิดเสียเท่าไหร่ แต่ที่ไม่ชอบใจคือคนตรงหน้านี่ต่างหาก ..ก็นี่มันคนที่ขว้างลูกบาสใส่เขาเมื่อหลายวันก่อนนี่แล้วยังคำพูดดูถูกพี่ชายเขาด้วย
“เราเซฮุน” เสียงหวานตอบนิ่ง พลางมองอีกคนที่อยู่ในชุกทีมบาสของโรงเรียน
“อ๋อ.. เอ่อ เซฮุนเราจงอิน” เพราะคนตรงหน้าแนะนำตัวมา เลยเผลอบอกชื่อตัวเองกลับตามมารยาท ที่จริงไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่เพราะสายตาที่เซฮุนมองมาต่างหาก ไม่รู้จะพูดอะไร เลยต้องเผลอบอกชื่อตัวเองอย่างนั้น แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายดุจะไม่อยากรู้เท่าไหร่ เพราะมือบางที่เตรียมจะเลื่อนหน้าต่างมาปิด ถ้ามือของจงอินไม่ดันไว้ก่อน
“เดี๋ยว” คิ้วสวยเลิกขึ้นเชิงถามว่า มีธุระอะไรอีก..
“คือ...วันก่อน ขอโทษด้วย ฉันไม่รู้ นึกว่านายเป็นซูโฮ”
ใบหน้าหวานพยักขึ้นลงอย่างไม่ใส่ใจนัก แล้วเตรียมจะปิดหน้าต่างอีกรอบเพราะต้องการจะซ้อมเพลงใหม่แล้ว ถ้ามัวแต่เสียเวลากับคนตรงหน้านี่จะหมดเวลาเสียเปล่า แต่หากพอจะปิดอีกรอบ เสียงคนตรงหน้าก็ดังมาขัดไว้เหมือนเมื่อครู่
“เดี๋ยว”
“อะไรอีก” เพราะไม่เคยพูดกับใครที่ไม่รู้จักมาก่อน คำพูดมันเลยออกจะสั้นๆ แต่ดูแล้วไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด เหมือนโดนลูกแมวขู่มากกว่า
“เมื่อกี๊เล่นเพราะมาก...เลยนะ” จงอินพูดเขินๆ เพราะตลอดชีวิตไม่เคยต้องชมาชมใครต่อหน้าสักเท่าไหร่ แถมคนที่ชมยังหน้าเหมือนกันคนที่ตนเองหมั่นไส้อีกต่างหาก
ส่วนคนถูกชม.. อึ้งไปนิด ดวงตาเรียวเบิกกว้างยังไม่น่าเชื่อ ก่อนที่มือที่เกาะขอบหน้าต่างอยู่จะลดระดับลง ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปที่คนตรงหน้าที่เพิ่งเอ่ยชมตนเองเมื่อครู่ ก่อนจะหรี่ตาลงเล้ยน้อยอย่างตั้งใจจะผิดว่าโดนแกล้งชมเล่นรึเปล่า
“พูดจริงเหรอ”
“จ..จริงดิ” จงอินนึกสงสัยว่าใบหน้าก็เหมือนกับกัปตันทีมของเขา แต่ทำไมรู้สึกว่าแฝดคนน้องจะดูน่ารักกว่ายังไงอย่างนั้น..
คนหน้าหวานกำลังจะเอ่ยขอบคุณ แต่หากไม่ทันเสียงตะโกนที่ดังก้องมาแต่ไกล เลยทำให้เซฮุนหันไปตามเสียงนั้นก่อน
“เฮ้ย!!จงอิน มึงมาอยู่นี่อีกละ เขาจะแข่งกันแล้วนะโว้ย รีบไปเร็วๆ” ตามด้วยจงอินที่ได้ยินชื่อเรียกตนเอง พร้อมประโยคที่คล้ายกับว่าคนทั้งทีมกำลังรอเขาอยู่..
จงอินหันกลับมามองคนในห้องอีกครั้งก่อนที่เรียวขาจะก้าวถอยหลังออกมา
“ฉันไปละ ไว้เจอกัน” โบกมือลาเซฮุนก่อนที่ตัวเองจะรีบวิ่งออกไปจาบริเวณนั้น แล้วเดินไปกับคู่หูตัวเองที่ยืนรออยู่
ยังไม่ทันที่เซฮุนจะเอ่ยลากลับบ้าง คำขอบคุณก็ยังไม่ได้พูด.. กลับปากบางเม้ม ก่อนเรียวลิ้นเล็กจะแลบเลียริมฝีปากแห้งให้ชุ่ม ก่อนจะขบเม้มอีกครั้ง เพิ่งจะมีคนมาชมเนี่ยแหละ นอกจากอาจารย์ พี่ซูโฮ... คิมจงอินเป็นคนที่สาม คนหน้าหวานยิ้มออกมา ก่อนจะใช้สายตามองตามคนที่วิ่งออกไป บางทีก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร.. ยกโทษให้แล้วกันนะ
♥ 2 1 3 ♥
“แข่งวันนี้เป็นไงบ้าง พี่ซูโฮ” เซฮุนถามพี่ชายถึงการซ้อมแข่งกับโรงเรียนข้างเคียง ซูโฮนอนอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่บนเตียงชั้นสอง ในขณะที่เซฮุนเพิ่งออกจาห้องน้ำ มือขาวใช้ผ้าขนหนูขยี้ที่ศีรษะเบาๆ เป็นการเช็ดผมให้แห้งก่อนที่จะเข้านอน
“อื้ม ก็ดีอะ แต่น่าหงุดหงิดไอจงอินชะมัด” ชื่อของบุคคลที่สามที่ออกมาจากปากพี่ชายทำเอาเซฮุนชะงักไปครู่นึง เพราะดันไปนึกถึงเรื่องเมื่อเย็นที่จงอินมาแอบฟังเขาเล่นเปียโน
“เขาทำไมเหรอ พี่” อยากรู้อยากเห็นว่าอะไรทำให้พี่ชายตนเองหงุดหงิดถึงคนๆ นี้บ่อยหนักหนา เพราะดูแล้วจากที่ได้คุยกันเพียงบทสนทนาสั้น...คิมจงอินก็ดูเป็นคนน่ารักดี
“มันกวนตีนอะ ถึงมันจะเล่นเก่งก็เหอะนะ แต่มันชอบมาทำให้พี่หงุดหงิดเรื่อยเลย”
“ฮ่าๆๆๆ เขาชอบแกล้งพี่เหรอครับ”เซฮุนไม่ได้เล่าเรื่องที่วันนี้เจอจงอินแถวๆ ที่ห้องซ้อมเปียโน นี่คงเป็นอีกสาเหตุละมั้งที่ทำให้พี่ชายโมโห จงอินคงโดดซ้อมแน่นอน..ถึงได้มาอยู่ตรงนั้นได้
“คงงั้นมั้ง คนอื่นเขาไม่เห็นไปกวนอะไรเลย กวนแต่พี่เนี่ย” ซูโฮพูดอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะปิดหนังสือในมือเสียงดังแล้วนำวางบนหัวเตียง ก้มหน้าลงมายังเตียงชั้นล่างก่อนจะขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นว่าน้องชายกำลังเอนตัวลงนอน
“หยุดเลย เซฮุน!ผมยังไม่แห้ง ห้ามนอนนะ” มือขาวเกาะขอบเตียงไว้ พลางก้มมองน้องชายที่เบะปากออก
“ผมง่วงแล้วนะ พี่ซูโฮ นอนๆ ไปเดี๋ยวมันก็แห้งเอง”
ซูโฮถอนหายใจพลางส่ายหน้ากับความดื้อของเซฮุน กาบบางปีนบันไดลงมายังเตียงชั้นล่าง ก่อนจะหมุนตัวเซฮุนให้หันหลังมาหาตัวเองซึ่งคนเป็นน้องก็ไม่ได้ขัดอะไร ซูโฮเลยหยิบผ้าขนหนูที่วางข้างๆ กันขึ้นมา พร้อมขยี้เบาๆ ที่กลุ่มผมเปียกชื้น
“เดี๋ยวพี่เช็ดให้ …นอนทั้งๆ ที่ผมไม่แห้ง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” ถึงซูโฮจะบ่นออกมาทำให้คนถูกดุหน้าง้ำงอ แต่ที่ทำไปก็เพราะเป็นห่วงน้องชายนี่
พลันสายตาของซูโฮก็เหลือบเห็นรอยช้ำจางๆ ที่ต้นแขนของเซฮุน คิ้วสวยขมวดยุ่งอีกครั้งก่อนจะหยุดเช็ดผมให้น้องชาย เรียกให้เซฮุนที่กำลังจะหันไปตาม แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยพูด มือของซูโฮก็คว้าต้นแขนบางไว้พร้อมโวยวายเสียงดังทันที
“แขนไปโดนอะไรมา!”
เซฮุนกลืนน้ำลาย เมื่อสบแววตาแข็งกร้าวของซูโฮ ...ลืมไปว่าแขนมันยังไม่หายเป็นรอย เลยเผลอใส่เสื้อกล้ามที่มักจะชอบใส่นอนเป็นประจำ
“พี่ซูโฮ ผมเจ็บนะ” เพราะซูโฮคงจะบีบแขนบางแรงไปหน่อย เลยทำให้ไปกดเข้าที่รอยช้ำเดิม เซฮุนหน้าเหยเกเพราะความปวดที่ต้นแขน มืออีกข้างพยายามแกะมือพี่ชายออกจนในที่สุดซูโฮก็ยอมผ่อนแรงลง แต่หากยังส่งสายตาคาดคั้นมา บังคับให้เซฮุนต้องตอบคำถามของพี่ชายอย่างไม่มีทางเลือก ครั้นจะโกหกยังไงก็ต้องรู้อยู่แล้ว..
“ใครทำ”
“ก็..เข้าใจผิดกันนิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอกครับ” เลี่ยงที่จะบอกว่าใครเป็นคนทำ เพราะกลัวว่าพี่ชายจะไปเอาเรื่อง
“พี่ถามว่าใครทำ ตอบให้ตรงคำถามด้วย”
บอกเลยว่าถึงหน้าตาจะเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วแบบนี้ แต่เวลาซูโฮโมโหนี่อย่างกับเป็นอีกคนเลยจริงๆ ผิดจากเซฮุนที่มักจะนิ่งอยู่เสมอ ใครว่าอะไร พูดอะไร ยิ้มไว้ก่อน..
“เอ่อ.. สมาชิกใหม่ทีมบาสของพี่นั่นแหละ” ตอบกล้าๆ กลัวๆ พลางเงยขึ้นสบตาพี่ชายที่นี้ขบกรามอย่างโมโห เซฮุนเลยต้องรีบแก้ต่างแทนก่อนที่ระเบิดจะลงบ้าน
“แต่เขาก็ขอโทษแล้วนะพี่ซูโฮ พี่ก็ช่างมันเหอะ อีกอย่างมันก็ใกล้หายแล้วด้วย นะนะ” เขย่าแขนพี่ชายเบาๆ เป็นการอ้อน ถึงแม้ว่ามันดูจะไม่ค่อยได้ผลเสียเท่าไหร่
“แล้วทำไมมันทำอะไรเซฮุนของพี่เนี่ย”
“เขาแค่ขว้างลูกบาสมาใส่เพราะคิดว่าผมเป็นพี่แค่นั้นเอง ช่างมันเหอะน้า อย่าไปว่าเขาเลย โอเคป่าว” ทำตาโต ออดอ้อน พร้อมเข้าไปเอาศีรษะถูกับต้นแขนพี่ชายไปมา เพราะซูโฮชอบบอกว่ามันเหมือนลูกแมว
“เออๆ รู้แล้ว โอเคฮ่าๆๆๆ จั๊กจี้น่า หยุดได้แล้ว” จากที่ทำเคร่งขรึมเมื่อครู่ พอโดนน้องชายอ้อนเข้าหน่อยแถมยังมาจี้จุดอ่อนแบบนี้เลยหลุดขำออกมาจนได้
ร่างทั้งสองร่างหยอกกันเล่นไปมาจนในที่สุดก็ลงไปนอนกลิ้งบนเตียงนุ่ม กายบางขนาดเท่ากันกอดก่ายกันตามประสาพี่น้อง ซูโฮแกล้งไล่หอมแก้มน้องชาย ขณะที่เซฮุนก็เอียงหลบอย่างแกล้งๆ ไปๆ มาๆ สุดท้ายก็เหนื่อยกันทั้งคู่ เปลือกตาสีน้ำนมของเซฮุนเป็นฝ่ายปิดลงก่อน ตามด้วยคนเป็นพี่ที่กำลังจะปรือตาตามเพราะความเหนื่อยจากการแข่งบาสวันนี้แล้วยังออกแรงเล่นกับเซฮุนเมื่อครู่อีกด้วย ซูโฮแตะริมฝีปากบางกับหน้าผากเนียนของน้องชายเบาๆ ก่อนจะเอนกายหลับตาม แทนที่จะขึ้นไปนอนบนเตียงขอตัวเองแต่กลับมานอนเบียดเตียงล่างของน้องชายซะอย่างนั้น ...ไม่เป็นไรหรอก ตัวก็เท่ากัน นอนเบียดกันก็ไม่ได้อึดอัดอะไรเท่าไหร่..
♥ 2 1 3 ♥
-TBC-
TALK ♥
อิ้อิ้ สวัสดีค่ะ :) เขินคู่แฝดจริงๆ เลย มีคนน่ารักอย่างเซฮุนตั้งสองคน ;_; แต่งไปเขินไป จงอินก็ยังคงปากเสียเหมือนเดิม
มีอะไรจะบอกว่าเราพิมพ์ชื่อเรื่องผิดตั้งแต่เปิดเรื่องเลย 5555 ตอนนี้แก้แล้วนะคะ อิ้อิ้
เรื่องตัวหนังสืมันเล็กไปหรือเปล่าคะ ถ้าเล็กไปบอกได้น้า > <
ขอบคุณทุกๆ คนค่ะ เจอกันตอนหน้าค่ะ
ความคิดเห็น