คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ::찾았다:: KaixSehun
ll ll
Paring : Kim Jongin, Oh Sehun
.
.
.
.
“จงอิน อย่าลืมน้องฮุนนะ…ฮึก” เสียงเล็กหลุดสะอื้นออกมาระหว่างพูดกับเด็กหนุ่มตัวน้อยทียืนอยู่ตรงข้ามตนเอง ซึ่งดูแล้วไม่ได้มีสภาพที่ต่างกันสักเท่าไหร่
เด็กหนุ่มตัวเล็กทั้งสองจับมือกันแน่น แข่งกันกลั้นก้อนสะอื้นสุดฤทธิ์แต่หากว่าไม่มีใครทำได้ ดวงตาแดงก่ำ จมูกเล็กเป็นสีแดงเหมือนกับพวงแก้มทั้งสองข้าง เด็กหนุ่มผิวแทนเล็กน้อยที่ได้ชื่อว่าจงอินพองลมที่แก้ม ก่อนจะบีบมือเพื่อนตัวเองแน่นพลางพยักหน้าแรงจนกลุ่มผมสีดำสะบัดไปมา
“เราจะไม่ลืมน้องฮุน แต่น้องฮุนก็อย่าลืมเรานะ”
บรรยากาศดูเศร้าสร้อย เสียงพลิ้วไหวของใบไม้ที่พัดปลิวและพร้อมใจกันร่วงโรยลงมายิ่งทำให้การจากลาดูหม่นหมอง สนามเด็กเล่นที่เด็กทั้งสองเคยมาเล่นด้วยกันบ่อยๆ ตอนนี้ก็ยังปราศจากผู้คนยิ่งทำให้ดูเหงา
เสียงปลายเท้าที่ใกล้เข้ามาทำให้เด็กทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน ก่อนจะก้มหน้าลงต่ำราวกับอยากจะยืดเวลาตรงนี้ออกไปให้ได้นานสักสองสามนาทีก็ยังดี มือเล็กยังคงกุมกันแน่นจนหญิงสาวที่มาใหม่ต้องย่อตัวลงต่ำก่อนจะยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มของลูกชาย
“ต้องไปแล้วนะจ๊ะ น้องฮุน” หญิงสาวว่าเสียงเบาก่อนจะหันไปมองทางเด็กชายคิมจงอินคล้ายจะบอกเป็นนัยว่าต้องปล่อยมือที่กำลังกุมกันไว้อยู่แล้วนะ
จงอินคลายมือเล็กของตนเองออกช้าๆ ปล่อยให้เพื่อนตัวขาวเดินจากไป เด็กน้อยรีบซุกใบหน้าเคล้าน้ำตาลงกับอกของผู้เป็นแม่ทันที หญิงสาวอุ้มกายเล็กของเด็กชายแนบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วส่งยิ้มให้เด็กชายอีกคน เธอเข้าใจเด็กทั้งสองดีโดยเฉพาะลูกชายที่กำลังโอบรอคอเธอแน่น ลูกชายของเธอไม่ค่อยมีเพื่อน จะมีก็แต่เด็กน้อยคนนี้ที่คอยเล่นด้วยตลอด เธอมาอยู่เมืองนี้ได้ไม่นานเท่าไหร่เพราะธุระเรื่องงานของสามีและตอนนี้ก็ต้องจากไปที่แสนไกลอีกแล้ว จะจากกับเพื่อนคนแรกลูกชายคงทำใจไม่ค่อยได้เสียเท่าไหร่
เด็กหนุ่มมองตามร่างของหญิงสาวที่อุ้มร่างของเพื่อนสนิทตนเองไปจนร่างนั้นหายเข้าไปในรถที่กำลังจอดรอรับอยู่ มือเล็กทั้งสองข้างกลุ่มชายเสื้อตัวเองไว้ ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง นัยน์ตาพร่ามัวเพราะน้ำที่กำลังเอ่อล้นอยู่รอบดวงตา ทันทีเสียงประตูรถปิดลง ปลายเท้าทั้งสองก็เขยิบตามราวกับอยากจะหยุดรถนั้นไว้ จนกระทั้งบานประจกถูกเลื่อนลงก่อนจะแทนด้วยใบหน้าขาวของใครอีกคน มือเล็กยกขึ้นโบกมือลาเพื่อนตนเองพร้อมตะโกนเสียงดัง
“จงอิน บ๊ายบายนะ!!”
ทันทีได้ยินเสียงเพื่อนตนเองเป็นครั้งสุดท้าย มันก็อดไม่ได้ที่จะออกแรงวิ่งตามรถ แผดเสียงตะโกนเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับปลายเท้าที่ที่วิ่งตามไม่หยุดจนร่างเล็กนั้นสะดุดขาตัวเองก่อนจะล้มลงกับพื้น
“น้องฮุน!!!!”
.
.
.
ร่างที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงนาฬิกาปลุกที่สั่นอย่างบ้าคลั่งอยู่ใต้หมอน กายของ ร่างนั้นกระตุกแรงก่อนที่จะลืมตาขึ้น เสียงหอบหายใจเหนื่อยราวกับว่าผมไปออกกำลังกายวิ่งรอบสนามขนาดแปดร้อยเมตรมาสักสิบรอบได้ มือหนาถูกยกขึ้นลูบใบหน้าเบาๆ เป็นการเช็ดเหงื่อไปด้วย
..ฝันแบบนี้อีกแล้ว
สี่คืนติดแล้วที่เขาฝันถึงแต่เรื่องเดิมๆ เรื่องราวในวัยเด็กของเขา เพื่อนในความทรงจำสมัยที่ยังเรียนอนุบาล มือหนาเอื้อมหยิบกรอบรูปที่วางอยู่ข้างหัวเตียงขึ้นมาดูอีกครั้ง รูปภาพที่เก่าไปตามเวลา ในรูปนั้นเด็กทั้งสองคนกำลังยืนยิ้มให้กล้องอย่างสดใส โดยที่แขนของตัวเขาเองพาดอยู่บนไหล่ของเด็กผิวขาวในชุดนักเรียนอนุบาลที่เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ว่าชุดของเด็กผิวขาวเป็นชุดของเด็กผู้หญิง
“น้องฮุน...” เสียงทุ้มถอนหายใจแรงก่อนจะพินิจมองรูปนั้น
น้องฮุน คือเด็กผู้หญิงตัวเล็กในความทรงของคิมจงอิน ผิวขาวราวกับหิมะแรก พวงแก้มนุ่มอมชมพูที่เขามักจะชอบจับเล่นเสมอ เพราะว่าตัวเล็กก็เลยโดนเพื่อนแกล้งอยู่ตลอด มีแต่เขาที่จะค่อยไปช่วยน้องฮุนจากพวกเด็กเกเรพวกนั้น เพราะงั้นเราสองคนถึงได้สนิทกันมาก จนวันหนึ่งน้องฮุนต้องไปในที่ไกลแสนไกลทำให้เราต้องจากกัน ถึงจะอยากตามหาแค่ไหนก็คงไม่ได้ เขาจำอะไรที่เกี่ยวกับน้องฮุนไม่ได้เลยแม้แต่นามสกุล ก็เล่นเรียกติดปากมาตลอดว่า น้องฮุน ...น้องฮุน...
“จงอิน!!! ถ้าไม่รีบตื่นเดี๋ยวจะไปสายนะ”
เด็กหนุ่มสะดุ้งอีกครั้ง คราวนี้เพราะเสียงของคุณแม่ที่ดังขึ้นมาจากชั้นล่าง ทำให้เขาต้องรีบกุลีกุจอกระเด้งตัวจากที่นอนก่อนจะตะโกนกลับไป
“ครับแม่! ตื่นแล้วครับ”
สลิปเปอร์คู่สีขาวที่วางอยู่ข้างเตียงถูกสวมในทันที มือหนาบิดกลอนประตูออก กลิ่นหอมขางเบรคฟาสต์ยามเช้าลอยขึ้นเตะจมูก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเบรกฟาสต์ที่อร่อยที่สุดในโลกของคิมจงอินเลยก็ว่าได้
“อรุณสวัสดิ์ครับแม่”
แขนยาวเอื้อบโอบรอบเอวคนเป็นแม่ที่กำลังหันหน้าเขากระทะ พลางขโมยหอมแก้มตามนิสัยลูกชายขี้อ้อน ก่อนที่จะเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบกล่องนมขึ้นมาดื่ม
“จงอิน แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าเวลาจะกินนมให้เอาแก้วมาใส่ ไม่ใช่ดื่มจากขวดแบบนั้น”
อืม...น่าจะหลายครั้งอยู่นะ เด็กหนุ่มคิดในใจ ขืนตอบไปแบบนี้ล่ะก็ รับรอบว่าเจ้าไข่ดาวที่กำลังอยู่ในกระทะมันต้องลอยมาโปะหน้าเขาแน่ๆ จงอินยักไหล่ก่อนจะเดินไปหยิบแก้วมาใส่เครื่องดื่มตามที่แม่บอก
กิ๊ง~ก่อง~
เสียงออดที่ดังจากหน้าประตูบ้านทำให้เด็กหนุ่มกับหญิงสาวชะงักกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ จงอินเลิกคิ้วอย่างสงสัยว่าใครกันที่มาเป็นแขกต้อนรับยามเช้าแบบนี้
“ใครมาอ่ะ แม่?”
“ก็ออกไปดูสิ แม่ทอดไข่อยู่ไม่เห็นรึไง” หญิงสาวว่าก่อนจะหันมาจัดการไข่ดาวของลูกชายให้อยู่ในจานที่เตรียมไว้อยู่แล้ว
ส่วนเด็กหนุ่มก็รีบทำตามที่แม่บอก นมสดยามเช้าเลยต้องถูกวางทิ้งไว้เฉยๆ บนโต๊ะ เพื่อออกไปดูว่าใครกันที่มากดกริ่งยามเช้าแบบนี้
เสียงกดออดดังขึ้นอีกครั้งสร้างความรำคาญในใจให้แก่คนที่กำลังจะเดินไปเปิดประตู ไม่รู้ว่าว่าจะกดย้ำๆ อะไรกันนักกันหนา เขาก็กำลังจะไปเปิดอยู่เนี่ย
“ครับๆ มาแล้วครับ”
เมื่อบานประตูถูกเปิดออกเผยให้เห็นหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับคุณแม่ของจงอินที่ตอนนี้อยู่ในครัว เด็กหนุ่มเลิกคิ้วอย่างงุนงงเมื่อพบว่าเป็นคนที่ไม่รู้จัก
“จงอินใช่รึเปล่าจ๊ะ?”
หญิงสาวตรงหน้ารู้จักเขา แต่เขานี่สิพยายามนึกแล้วนึกอีกว่าเป็นเพื่อนแม่ เพื่อนพ่อหรือญาติรึเปล่าแต่ก็นึกไม่ออก เลยได้แต่ทำหน้าเอ๋อตอบกลับไป
“ครับ...ใช่ ผมจงอิน” ก็ไม่รู้ล่ะว่าคนๆ นี้คือใคร แต่ว่าเขาน่ะคือจงอินอย่างที่หญิงสาวคนนี้พูด
“ใครมาน่ะ ลูก?” ยังไม่ทันจะได้สนทนาต่อ หญิงสาวที่อยู่ในครัวก็เดินตามลูกชายออกมาดู เงยใบหน้าขึ้นก่อนจะตกตะลึงกับแขกผู้มาใหม่
“...เซนา ใช่ไหม?”
จงอินหันไปมองคนเป็นแม่อย่างงุนงงเมื่อเห็นว่าแม่เอ่ยทักหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตู ตั้งแต่จำความได้แม่รู้จักใคร เขาก็รู้จักด้วยเสมอ แต่ว่าจำไม่เห็นได้ว่าแม่รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ได้
“ใช่ ฉันเอง ดีใจจังที่เธอยังอยู่บ้านเดิม”
เด็กหนุ่มถูกแปรเปลี่ยนเป็นธาตุอากาศตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ทั้งแม่ของเด็กหนุ่มเอง ทั้งหญิงสาวปริศนาที่ได้ยินแม่เรียกชื่อว่า ‘เซนา’ โผเข้ากอดกัน และดวงตาคมก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าด้านหลังของหญิงสาวนั้นมีเด็กหนุ่มยืนกอดอก คิ้วขมวดคล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่ ใบหน้าคมผงกหัวลงเป็นการทักทาย แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับคือการที่ศีรษะของเด็กคนนั้นสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง
อ้าว...
คิมจงอินเกิดความงุนงงไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วของเช้านี้ ไปทำอะไรผิดมารึเปล่า ก็ไม่ใช่... จู่ๆ โดนทำแบบนี้ใส่ก็รู้สึกเสียหน้านะเนี่ย
“เอ้า จงอิน ยืนทำไรอยู่น่ะ ไปยกน้ำมาเสิร์ฟน้าเซนาเข้าสิ” คำสั่งที่จู่ๆ ก็ได้รับแกมด้วยเสียงบ่นทำให้จงอินเลิกสนใจเด็กหนุ่มไม่สบอารมณ์ตรงหน้าก่อนจะหายเข้าไปในครัว
เด็กหนุ่มวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะกระจกที่ตั้งอยู่ระหว่างโซฟาให้ครบตามจำนวนคนก่อนจะเขยิบกายขึ้นมานั่งข้างกับแม่ของตนเองก่อนจะตัดสินใจกระซิบถาม
“ใครเหรอแม่” สิ้นประโยค ฝ่ามือหนักๆ ของหญิงสาวก็กระแทกลงกับไหล่กว้างของลูกชายทันที ส่งผลให้เด็กหนุ่มร้องออกมาเสียงดัง
“แหม! ทำเป็นจำไม่ได้นะ เจ้าลูกคนนี้ เนี่ยน้าเซนากับน้องฮุนไงจ๊ะ!”
อ๋อ...น้าเซนากับน้องฮุนนี่เอง
เอ๊ะ เดี๋ยวนะ รู้สึกว่าชื่อมันคุ้นหูมากเลย..
น้าเซนา....กับน้องฮุน อืมม... เด็กหนุ่มกำลังใช้สมาธิไปกับการนึกคิดว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาจากไหน ไม่สิ..เหมือนว่าคุ้นๆ มากเลยนะ ใช่แล้ว เขาได้ยินชื่อนี้ในความฝันบ่อยมาก
น้องฮุน...??
น้องฮุน...???
น้องฮุน...????
น...น้องฮุน!? น้องฮุน!!!!????
ดวงตาคมเบิกกว้างก่อนจะจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มที่นั่งกอดอกพร้อมหน้าตาบูดบึ้งอยู่ตรงข้ามกับตนเองสลับกับมองหน้าแม่ไปมา
“ห๊ะ! อะไรนะแม่”
“ยังจำไม่ได้อีกเหรอ ตอนอนุบาลเล่นด้วยกันทุกวัน ตอนจะแยกกันยังร้องไห้ฟูมฟายกันอยู่เลย” เธอหยิบยกเรื่องวันที่เพื่อนของเธอมาบอกลา วันนั้นเจ้าจงอินของเธอร้องไห้หนักตั้งแต่เกิดมาเลยก็ว่าได้
เดี๋ยวนะ... น้องฮุนในความทรงจำของจงอินเป็นเด็กผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?
“แม่! น้องฮุนเป็นเด็กผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?” จงอินหันไปโวยใส่แม่ก่อนจะหันกลับมามองหน้าน้องฮุนอีกครั้งและอีกครั้ง ในหัวกำลังนึกย้อนไปยังความทรงจำในวัยเด็ก
เพราะว่าน้องฮุนน่ารัก ทรงผมตอนนั้นที่ระอยู่บริเวณต้นคอ ผิวขาวอมชมพูธรรมชาติ อีกทั้งยังใส่กระโปรง..มีอะไรบอกตรงไหนว่าเด็กคนนี้คือเด็กผู้ชาย ผิดกับคิมจงอินที่หน้าดำคล้ำมืด วันๆ เสื้อเปรอะแต่คราบดิน ลำตัวที่มีแผลจากการหกล้มนับไม่ถ้วน
“พูดอะไรของลูกน่ะ? นี่โอเซฮุนเป็นเด็กผู้ชายนะจ๊ะ!”
คำพูดของคนเป็นแม่ดังก้องอยู่ในหัวของจงอินมากกว่าสิบรอบ ...โอเซฮุนเป็นเด็กผู้ชายนะ
โอ้ มาย ก็อดดดดดดดดดดดดด!!!! คิมจงอินอยากจะตะโกนคำนี้ออกมาดังๆ
ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนสองเท้าจะเขยิบถอยห่างออกมาทีละน้อย แล้วรีบกลับหลังหันวิ่งขึ้นห้องตัวเองด้วยความเร็วสูงสุด เปิดประตูห้องเสียงดังอย่างไม่ตั้งใจ คว้ากรอบรูปที่เมื่อเช้าตนเองเพิ่งจะนั่งดูติดมือมาแล้ววิ่งตึงตังลงบันไดมาอีกครั้ง
มือหนาเทียบกรอบรูปใบนั้นกับใบหน้าของโอเซฮุนใกล้ๆ ...
พระเจ้าอีกครั้ง... นี่มันไม่ใช่แค่ความเหมือน แต่มันใช่เลยต่างหาก! น้องฮุนมีชื่อจริงว่า ‘โอเซฮุน’ ป้ายชื่อที่ติดอยู่กับชุดนักเรียนของเขาเป็นหลักฐานได้อย่างดี จู่ๆ มือเรียวสวยของเขาก็ปัดกรอบรูปที่จงอินถืออยู่ให้พ้นจากใบหน้าก่อนจะลุกยืนขึ้น
“เสียมารยาทน่า!” เด็กหนุ่มผิวขาวว่าก่อนจะเดินกระแทกไหล่ของจงอินไปอีกทาง
“งั้นผมไปเรียนแล้วนะครับคุณแม่ คุณน้า” เซฮุนก้มหัวให้ผู้ใหญ่ทั้งสอง มารยาทดีงามที่แม่ของจงอินเผลอมองอย่างชื่นชม
“เดี๋ยวสิ เซฮุน...เรียนที่เดียวกับจงอินนี่น่า ไปพร้อมกันเลยสิ เพิ่งย้ายมาวันแรกคงจะยังไปไม่ถูก” หญิงสาวพูดด้วยความหวังดี ก่อนจะไล่ลูกชายที่ยังไม่หายงงให้ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เซฮุนหันมามองเด็กหนุ่มผิวแทนตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะรับคำสั่งของหญิงสาวแล้วนั่งลงตามเดิม
♥ 찾았다 ♥
ใช้เวลาไม่นาน จงอินก็ลงพร้อมเครื่องแบบนักเรียนที่เหมือนกับเซฮุน โดยที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มยังคงอยู่ในการอึ้งไม่หาย ก็เล่นเชื่อมาตลอดสิบกว่าปีว่าน้องฮุนคือเด็กผู้หญิง ใครจะไม่รู้กันว่าจู่ๆ จะโผล่มาตัวเป็นๆ แบบนี้ แถม..นั่นแหละ ยังเป็นผู้ชายอีก ฝันสลายเลยสิ
ไม่ใช่ว่ารับไม่ได้ แต่มันช็อคต่างหาก...
ยิ่งนึกไปถึงตอนที่เล่นด้วยกันตอนเด็กๆ เล่นเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว.... เจ้าบ่าวเนี่ยก็เขาเอง ส่วนเจ้าสาวหนีไม่พ้นน้องฮุนแน่ๆ โธ่...หมดกัน ไอบ้าคิมจงอินเอ๊ย
“นี่นาย! เดินรอเราด้วยดิ”
เสียงที่ร้องเรียกด้านหลังทำให้จงอินหลุดจากภวังค์ ปลายเท้าหยุดลงก่อนจะหันกลับมาด้านหลัง เจ้าของเสียงเมื่อครู่อยู่ห่างจากเขาเป็นเมตร นี่เดินหรือว่าอะไรเนี่ย..
“เดินให้มันเร็วๆ หน่อยไม่ได้รึไง” จงอินกล่าวว่าอีกฝ่ายทันทีที่เดินมาถึงตัวเอง
“เห๊อะ!” พอโดนว่าเข้าหน่อย เด็กหนุ่มผิวขาวก็ชักสีหน้าใส่พร้อมยังสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง
เอาอีกแล้วนะ นี่ครั้งที่สองแล้วนะที่มาทำไม่พอใจใส่คิมจงอินแบบนี้
“มาห่ง มาเห๊อะ เดี๋ยวก็ให้เดินไปเองเลย!”
“เออ! จะไปไหนก็ไปเลย เราเดินไปเองก็ได้!”
“แน่นะ! อย่ามาร้องตามนะ!”
“เราไม่ใช่เด็กนะ! รีบไปเลยไป ไม่ต้องมายุ่งกับเราแล้ว! คนนิสัยไม่ดี!”
อวดเก่ง!
ได้ยินแบบนั้นจงอินนึกโมโห ไม่พูดอะไรด้วยอีก รีบเดินหนีออกมาทันที เจอแบบนี้คิมจงอินที่ได้ชื่อว่าเป็นคนใจดีก็ชักจะหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ แล้วนะ มาทำหน้าบึ้งใส่กันตั้งแต่เจอกันครั้งแรก คิดว่าเขาจะชอบนึกรึไง? เชอะ! น้องฮุนที่ไหนกันล่ะ น้องฮุนในความทรงจำของจงอินต้องน่ารักกว่านี้ เรียบร้อยด้วย เจ้าหมอนี่คงเป็นตัวปลอมแหงๆ
เด็กหนุ่มบ่นในใจมาตลอดทางกระทั่งถึงโรงเรียนถึงได้หันกลับไปด้านหลัง แล้วก็พบกับความว่างเปล่า... อ้าว หายไปไหน เขานึกว่าเจ้าเด็กเข้าใจยากนั่นเดินตามมาเสียอีก จงอินหยุดยืนรอที่หน้าประตูโรงเรียนเผื่อว่ากำลังเดินตามมาอยู่ ไม่มีทางแน่ๆ ว่าเขาจะมาถึงก่อน เพราะทางที่เขาใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นเส้นทางที่เร็วที่สุดที่จะมาถึงแล้ว ยืนรอจนสิบนาทีผ่านไปก็แล้ว สิบห้านาทีก็แล้ว ยังไม่เห็นวี่แววของเขาเลยสักนิด จนมันชักจะนานผิดปกติ
จงอินยกนาฬิกาขึ้นดูอีกสิบนาทีออดเข้าเรียนจะดัง นักเรียนเริ่มทยอยกันเข้าเรียนหมดแล้วจนเหลือเพียงเขาที่กำลังหันซ้ายหันขวาอยู่ จนห้านาทีสุดท้ายถึงได้ตัดสินใจวิ่งกลับทางเดิมเพื่อไปตามหาเด็กหลงทาง!
.
.
เด็กหนุ่มผิวขาวขมวดคิ้วจนแทบจะผูกกันเป็นโบว์ ก็มันหงุดหงิดเลยเผลอพูดใส่ไปแบบนั้น ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจจะว่าเสียหน่อย แต่มันก็น่าหงุดหงิดจริงๆ มีที่ไหนกันล่ะมาลืมกันได้ง่ายๆ แบบนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนพูดเองด้วยซ้ำ ‘เราจะไม่ลืมน้องฮุนนะ’ แล้วประโยคนั้นมันก็จำติดอยู่ที่ใจของเขามาตลอดแต่คนพูดกลับเป็นฝ่ายลืมเสียได้ ก็เป็นแบบนี้มันจะไม่ให้น้อยใจได้อย่างไรกันล่ะ แถมยังมาหาว่าเขาเป็นผู้หญิง แต่เรื่องนี้โทษจงอินฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะตอนเด็กๆ แม่เขาชอบให้ใส่นักล่ะ ไอชุดผู้หญิงเนี่ย.. ใครจะไม่เข้าใจผิดบ้าง แต่ว่าเขาไม่ได้โกรธที่จงอินคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงหรอกนะ ที่โกรธมันเพราะว่าจงอินจำเขาไม่ได้ต่างหาก แต่ยังไงก็เถอะ..ยังไงคิมจงอินก็ใจร้ายอยู่ดี ทั้งที่เมื่อก่อนจงอินใจดีกับน้องฮุนแค่ไหน ทำไมเขาจะจำไม่ได้ล่ะ.. มีแต่คิมจงอินนั่นแหละที่ลืมน้องฮุนไปหมดแล้ว
เซฮุนตั้งใจจะเดินตามจงอินอย่างเงียบๆ แต่เผอิญข้างทางเจอกับลูกแมวน่ารัก ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่เซฮุนโปรดปรานเลยก็ว่าได้ เลยเข้าไปเล่นด้วยพอเงยหน้ามาอีกทีแผ่นหลังกว้างของใครอีกคนที่เขาเดินมาตลอดก็หายลับไปแล้ว
ไม่ตลกเลยนะ..
เขายังจำที่อยู่ที่บ้านใหม่ไม่ได้ เส้นทางไปโรงเรียนก็ยังไม่รู้เพราะเพิ่งย้ายมาเรียนมาวันแรก แล้วยังโทรศัพท์มือถือที่ยังไม่ได้ไปจัดการให้เรียบร้อยทำให้ตอนนี้เด็กหนุ่มกลายเป็นเด็กหลงทางอย่างจังๆ ใบหน้าหวานหันซ้ายที หันขวาพยายามจะมองหาเผื่อว่าจะเห็นใครบางคนที่อาจจะยังอยู่แถวนี้ ความรู้สึกในวัยเด็กที่จู่ๆ ก็ตีย้อนขึ้นมาในหัว ทำให้หัวใจรู้สึกสั่นไปหมด เด็กหนุ่มเริ่มน้ำตาคลอเพราะเกลียดการอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กๆ ปลายเท้าก้าวเดินไปอย่างไร้จุดหมายจนหยุดเข้าที่หน้าสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง คลับคล้ายว่าเหมือนจะเคยมาที่แห่งนี้บ่อยๆ เด็กหนุ่มนั่งลงบนม้านั่งก่อนจะเหม่อมองไปยังสนามเด็กเล่นด้านหน้า
..ในตอนที่เขาเล่นซ่อนแอบกับจงอิน เขาชอบมาซ่อนที่นี่ ซ่อนไปซ่อนมากลายเป็นว่าจงอินหาไม่เจอ ตอนนั้นเซฮุนไปแอบอยู่ใต้กระดานลื่นตัวใหญ่ รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มาแปะโป้งสักที ไม่กล้ากลับบ้านเอง เลยก้มหน้าร้องไห้อยู่แบบนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นเหนือหัว
‘เจอแล้ว’
..เหมือนกับตอนนี้
“เจอแล้ว”
เสียงทุ้มที่ติดจะหอบหายใจเหนื่อยเสียมากกว่าดังขึ้นอยู่ไม่ไกล เด็กหนุ่มผิวขาวเงยหน้าขึ้นมองคนด้านบน ใบหน้าคมที่ชื้นเหงื่อ ปลายผมที่แนบติดกับใบหน้า แล้วยังเสื้อเชิ้ตที่แนบติดไปกับผิวเนื้อ
...วิ่งมาเหรอ? ตามหาเขาอยู่เหรอ?
“ฮึก..จ..จงอิน”
แย่มาก แย่ที่สุด.. เขากะว่าถ้าเจอหน้าจงอินจะขอต่อว่าสักคำสองคอ แต่พอได้มาเจอคำพูดพวกนั้นมันถูกกลืนหายไปไหนหมดไม่รู้ ไหงกลายเป็นว่าเขาร้องไห้อีกแล้ว
“ขี้แยเหมือนเดิมเลยนะ..” จงอินว่าพลางใช้นิ้วเกลี่ยคราบน้ำตาที่ดวงตาคู่สวยของเซฮุนอย่างแผ่วเบา
น้องฮุนน่ะขี้แย... โตขึ้นมาเป็นโอเซฮุนก็ยังขี้แยเหมือนเดิม
สัมผัสที่อ่อนโยนของคิมจงอินทำให้เซฮุนอยากจะร้องไห้มากกว่าเดิม ใบหน้าหวานซุกลงกับแผ่นอกกว้าง สองมือยกขึ้นทุบลงไปแรง ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเจ็บหรือเปล่า คนใจร้ายก็ต้องเจอแบบนี้แหละ
“ใจร้าย..คนใจร้าย ทิ้งเราไว้แบบนั้นได้ยังไง!” ตัดพ้ออย่างน้อยใจพลางออกแรงขยำเสื้อเชิ้ตอีกฝ่ายจนมันยับย่น
“ขอโทษนะ..น้องฮุน เราขอโทษ” มืออุ่นลูบกลุ่มผมนุ่มของคนที่กอดรอบเอวตัวเองไว้แน่นเป็นการปลอบโยน แต่เหมือนว่ายิ่งทำให้ร้องหนัก
จริงๆ แล้วจงอินไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด สัมผัสที่อ่อนโยนที่เซฮุนไม่เคยลืมแม้แต่วินาทีเดียว..
ที่จริงแล้ว...น้องฮุนคิดถึงจงอินมากๆ เลยนะ
.
.
จงอินนั่งเงียบๆ ปล่อยให้คนด้านข้างร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่สักพัก นึกอยากจะต่อยหน้าตนเอง รู้อยู่แก่ใจแท้ๆ ว่าโอเซฮุนก็คือน้องฮุนในความทรงจำของเขา โง่จริงๆ เลยคิมจงอิน เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่นไม่กล้าพูดอะไรกับคนข้างกาย
นายมันแย่จริงๆ นั่นแหละ คิมจงอิน ทำน้องฮุนร้องไห้ได้ยังไงกันนะ
“เพราะเราไม่ใช่น้องฮุนใช่ไหม นายเลยใจร้ายกับเราแบบนี้” เสียงหวานว่าพลางยังไม่หยุดสะอื้น
คำถามที่กระแทกใจจงอินลงมาเต็มๆ ...ก็รู้อยู่แล้วว่าคนๆ นี้คือน้องฮุน เพียงแต่ทำเป็นไม่ยอมรับ เพราะยังไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนที่เล่นด้วยกันตอนเด็กๆ และเฝ้าคิดถึงมาตลอดสิบกว่าปี คนที่เชื่อว่าเป็นเด็กผู้หญิงมาตลอดจะมาเป็นผู้ชายเสียได้ ก็เลยเผลอทำตัวแย่ๆ ใส่ไป
“ตอบเรามาสิ ..ฮึก คนใจร้าย เพราะเราไม่ใช่น้องฮุนในความทรงจำใช่ไหม? เพราะว่าเราเป็นผู้ชายใช่ไหม? ตอบเรามาสิ..ฮึก ท..ทั้งๆ ที่เราคิดถึงจงอินมาตลอดเลย พอเห็นจงอินเราดีใจมากเลยนะ แต่จงอินกลับจำเราไม่ได้ ใจร้าย ใจร้ายที่สุดเลย!”
ยิ่งคนตรงหน้าร้องไห้หนักเท่าไหร่ หัวใจของจงอินมันก็รู้สึกเจ็บขึ้นมามากเท่านั้น..
ไม่ใช่นะ มันไม่ใช่อย่างนั้น..
“เซฮุน...หยุดร้องไห้แล้วฟังฉันพูดก่อนนะ”
เขาจะอธิบายทั้งหมดให้ฟังเอง ถึงแม้ว่าตอนนี้ในหัวมันจะว่างเปล่าก็เถอะ ขอเพียงแค่หยุดร้องไห้เสียที เจ็บไปหมดแล้ว..
“ไม่รู้ เราไม่ฟัง ไม่ฟังแล้ว เราเกลียดจงอิน!” สองมือเรียวยกขึ้นปิดหู พลางสะบัดหน้าไปมา
จงอินเอื้อมจับข้อมือบางช้าๆ ก่อนจะวิงวอนทางสายตาเป็นการขอร้องแทนคำพูด
“ปล่อยเรานะ”
“ฟังจงอินพูดก่อนนะครับ..นะ น้องฮุนนะ”
“ไม่ต้องมาเรียกเราน้องฮุนแล้ว!” เซฮุนไม่ยอมท่าเดียว พยายามจะสะบัดให้ข้อมือหลุดจากการกอบกุม
เห็นท่าทางต่อต้านแบบนั้นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกท้อ เหงื่อผุดตามใบหน้า ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว.. เกิดมาไม่เคยต้องง้อใคร มือหนายอมปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระก่อนจะเขยิบกายออกมาเผื่อเว้นระยะห่างของตนเองกับเซฮุนเล็กน้อย สองมือเปลี่ยนมากุมที่หน้าตัก สายตามองตรงไปข้างหน้าก่อนจะเหลือบเห็นอะไรบางอย่างที่คิดว่ามันอาจจะง้อคนด้านข้างได้ ไวเท่าความคิด กายสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะตรงไปที่สิ่งนั้น ท่ามกลางสายตาของใครอีกคนที่ตวัดมองตามทันที
ไปไหน ...จะไปไหน เราไม่ได้ไล่นะ จะทิ้งเราอีกแล้วเหรอ
จงอินแอบเหล่มองไปด้านหลัง เห็นชัดเจนว่าเซฮุนกำลังใจเสียที่จู่ๆ เขาก็ลุกเดินหนีมาแบบนี้ ยังเหมือนเดิมไม่มีผิด.. ชอบอวดเก่ง ขี้แยไม่พอ ขี้เหงาอีกต่างหาก
ร้านชานมไข่มุกที่อยู่ข้างกับสวนสาธารณะ เป็นร้านที่อยู่มาตั้งแต่เขาเด็กๆ จำได้เสมอว่าต้องมาซื้อกินกับน้องฮุนทุกครั้ง เพราะว่ายังเด็กจะซื้อกันคนละแก้วก็คงจะกินไม่หมดแล้วยังคงโดนแม่ตีแน่ๆ ถ้าหากว่าอิ่มเกินจนทานอาหารเย็นไม่ได้ เลยตัดสินใจซื้อแก้วเดียวแล้วแบ่งกันดื่ม
“ป้า เอาชานมไข่มุกแก้วนึง” เมนูเดิมที่เอ่ยสั่งกับคุณป้าใจดีคนเดิมที่มักจะแถมไข่มุกให้เยอะๆ ในเวลาที่เด็กทั้งสองคนจูงมือกันมาซื้อ
“จ้า สักครู่นะ” คุณป้าละจากการทำสิ่งค้างไว้อยู่มาจัดการกับเมนูที่เด็กหนุ่มได้สั่ง
“เอ๊ะ? นี่ใช่หนูที่แต่ก่อนมาซื้อป้าบ่อยๆ รึเปล่านะ” คุณป้าเอ่ยถามเมื่อรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาลูกค้าคนนี้เสียเหลือเกิน
“ใช่ครับ ผมจงอินเองไง” เด็กหนุ่มว่าก่อนจะยิ้มให้คุณป้าเจ้าของร้าน มาซื้อบ่อยจนเขาจำหน้ากับชื่อได้ แต่ว่าก็ไม่ได้ค่อยมาตั้งแต่น้องฮุนไม่อยู่ ผ่านมาแล้วหลายปีเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อว่าป้าจะจำได้
“อ่า ใช่แล้ว ป้าจำได้แล้ว ว่าแต่น้องผู้หญิงคนนั้นไปไหนแล้วล่ะ?”
คุณป้าแกคงจะหมายถึงน้องฮุน เห็นไหมล่ะ..? ตอนเด็กๆ ใครก็นึกว่าน้องฮุนเป็นเด็กผู้หญิงทั้งนั้น เด็กหนุ่มยิ้มให้ป้าก่อนจะควักเงินจ่ายเงินแลกกับแก้วชานมไข่มุกที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์
“อยู่ที่สวนข้างๆ เนี่ยล่ะครับ พอดีผมทำเขางอน” จงอินว่าพลางเพยิดหน้าไปทางสวนข้างๆ ที่เขาทิ้งเซฮุนไว้เผื่อมาซื้อชานมไข่มุกไปง้อ จงอินไม่ได้บอกความจริงกับคุณป้าว่าที่จริงแล้วน้องฮุนที่ว่านั่นเป็นผู้ชาย
“อ้าว รีบๆ ไปเลยนะเรา ทำเด็กผู้หญิงงอนนี่ นิสัยไม่ดีเลย ไปๆ เดี๋ยวเขาจะร้องห่มร้องไห้เหมือนตอนเด็กๆ อีก” คุณป้าว่าพลางหัวเราะ
คุณป้ามักจะเห็นเหตุการณ์เวลาเด็กทั้งสองคนเล่นกันเสมอ ส่วนมากแล้วน้องฮุนจะร้องไห้เพราะหกล้มบ้าง โดนคนอื่นแกล้งบ้าง ป้าแกก็จะจำได้ว่าจะมีเด็กผู้ชายผิวแทนวิ่งมาซื้อชานมไข่มุกแล้วยื่นให้กับเด็กน้อยคนนั้น มันเป็นภาพที่น่ารักมากในสายตาของเธอ
เวลาที่เด็กชายยื่นชานมไข่มุกให้กับเด็กคนนั้นแล้วหอมแก้มนุ่มเบาๆ
.
.
จงอินเดินอ้อมด้านหลังม้านั่งที่เซฮุนนั่งอยู่ ไหล่บางลู่ลง แขนสองข้างเท้าอยู่กับหัวเข่า เด็กหนุ่มเห็นภาพนั้นก่อนจะยกยิ้มขึ้น มันเหมือนกับเมื่อก่อนที่เวลาเจ้าตัวงอนใคร หรือกำลังร้องไห้อยู่ก็จะทำท่าทางแบบนี้ทุกครั้ง ดูท่าแล้วว่าเด็กหนุ่มผิวขาวจะไม่รู้ตัวเลยว่าจงอินกำลังเดินมาอยู่ด้านหลัง ไอเย็นจากแก้วชานมไข่มุกสัมผัสกับแก้มขาวเนียน กายบางสะดุ้งก่อนจะหันไปมองด้านหลังตัวเอง
“อ่ะ..” จงอินยื่นแก้วชานมไข่มุกส่งให้ สั่นเบาๆ ทำให้เสียงน้ำแข็งในแก้วกระทบกัน มือเรียวยื่นไปรับก่อนจะหันหน้ากลับมาทางทิศเดิม
“จำได้เหรอว่าเราชอบดื่มชานม”
“เราจำได้ว่าน้องฮุนชอบอะไร” จงอินว่าก่อนจะเดินกลับมานั่งข้างๆ กับเซฮุน
“แล้วทำไมจำเราไม่ได้ล่ะ?”
“ก็..น้องฮุนโตขึ้นเยอะเลยนี่”
ไม่ได้เจอกันเกือบสิบกว่าปี เวลามันเปลี่ยน จงอินโตขึ้น น้องฮุนก็โตขึ้นเหมือนกัน อีกอย่างเขาไม่ได้ลืมสักหน่อยว่าเขาไม่เคยรู้จักน้องฮุน เขาจำได้มาตลอด
“ใจร้าย จงอินใจร้าย”
“ขอโทษนะ น้องฮุน.. ต้องทำยังไงถึงจะหายโกรธ” จงอินคนโง่คนนี้จะยอมทำทุกอย่างเลย ขอเพียงแค่ใบหน้าหวานหายจากคราบน้ำตาเสียที
เซฮุนหันมองคนข้างกาย สายตาที่จ้องกลับมาบอกให้รู้ว่าคนๆ นี้กำลังรู้สึกผิดจริงๆ แล้วมีเหรอที่เขาจะใจร้ายปล่อยให้จงอินทำหน้าเป็นหมีอดกินน้ำผึ้งแบบนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้รู้สึกอยากเอาคืนมากกว่า ดวงตาคู่สวยก้มลงมองแก้วชานมที่อยู่ในมือก่อนจะยกขึ้นดูดช้าๆ รสชาติความหวานเมื่อมันละลายเข้าสู่ปลายลิ้น ให้ความรู้สึกเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน
“เราจะยกโทษให้ก็ได้”
ได้ยินประโยคหลุดออกจากกลีบปากบาง ทำให้จงอินเบิกตากว้างด้วยความตกใจปนดีใจ กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง ถ้าหากเสียงหวานไม่พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“แต่ว่า..”
ไอแต่ว่าเนี่ยแหละที่น่ากลัว..
ขอให้เป็นข้อแม้ที่คนอย่างคิมจงอินสามารถทำได้เถอะ
“จงอินต้องเป็นแฟนกับน้องฮุน”
“ห๊ะ?” อะไรนะ ได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่..
จงอินหมีโง่ที่แสนจะเข้าใจยาก พูดแค่นี้ทำไมไม่เข้าใจ.. เด็กหนุ่มผิวขาวขมวดคิ้วก่อนจะเอื้อมมือแตะไหล่กว้าง รั้งต้นคออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ ริมฝีปากบางสัมผัสกับกลีบปากอีกฝ่ายโดนที่ไม่ทันตั้งตัว
รสชาติหอมหวานของชานมที่เพิ่งดูดไปกำลังส่งผ่านไปยังอีกคนช้าๆ สัมผัสเนิ่นนานแต่ไม่มีการรุกล้ำ คนที่เป็นฝ่ายโดนจู่โจมทำอะไรไม่ถูกสักอย่าง ได้แต่เบิกตากว้างอย่างอึ้ง หัวใจเต้นรุนแรงจนเหมือนระเบิดเวลาที่กำลังจะระเบิดภายในไม่กี่วินาทีนี้ สมองเหมือนจะโล่งจนเป็นสีขาว กว่าจะได้สติกลับคืนมาก็ตอนที่เซฮุนผละกายออก
เซฮุนลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินหนีออกมา ทิ้งให้จงอินยังนั่งหน้ามึนอยู่แบบนั้นคนเดียว ปลายนิ้วที่ยกขึ้นแตะริมฝีปากตนเองเบาๆ เหมือนคนที่กำลังเพ้อ นี่มันเรื่องอะไรกัน?
วันนี้สมองของคิมจงอินรับหลายเรื่องเกินไปแล้วนะ เรื่องที่หนึ่งเขาเจอกับน้องฮุนคนในความทรงจำอีกครั้ง เรื่องที่สองน้องฮุนเป็นผู้หญิง เรื่องที่สามเขาโดนน้องฮุนขอเป็นแฟน และเรื่องที่สี่น้องฮุนขโมยจูบแรกของคิมจงอินไปแล้ว..
“นั่งทำอะไรอยู่ล่ะ นี่มันสายแล้วนะ!” เสียงหวานตะโกนเรียกคล้ายจะกลบเกลื่อนความเขินของตนเองโดยการยกเรื่องเวลามาพูด เลยเวลาเข้าเรียนมาเกือบชั่วโมงแล้ว สติของจงอินกลับมาอีกครั้งก่อนจะรีบลุกแล้ววิ่งไปหาคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล
มือหนารีบคว้ามืออีกฝ่ายมาจับไว้ก่อนจะเลื่อนนิ้วให้ประสานกัน สายตาแอบเหล่มองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีจัด ใครว่าที่เด็กหนุ่มผิวขาวพูดไปแบบนั้นจะไม่มีความเขิน เซฮุนเขิน..เขินจนจะตายอยู่แล้ว หน้าเห่อร้อนไปหมด หลังจากที่จงอินตั้งสติได้ ความเจ้าเล่ห์ที่ติดเป็นนิสัยก็เริ่มออกอาการ ไม่ลืมที่จะขโมยหอมแก้มนุ่มไปด้วย ริมฝีปากจรดเบาๆ ที่ข้างแก้มก่อนจะผละออกมา กระชับมือที่ประสานกันไว้ให้แน่นกว่าเดินโดยที่เด็กหนุ่มผิวขาวได้แต่ก้มหน้าลงต่ำเพื่อซ่อนสีหน้าเขินอายเอาไว้ เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูที่แดงจัดเรียกให้ใบหน้าขาวเนียนขึ้นสีมากกว่าเดิม
“น้องฮุนเป็นคนพูดเองนะ ห้ามคืนคำล่ะ เพราะว่าเราจะไม่ปล่อยให้น้องฮุนไปไหนอีกแล้วแน่ๆ”
ความทรงจำในวัยเด็กที่จำได้ไม่ลืมว่าเป็นเพื่อนเล่นกัน ตอนนี้ถูกเปลี่ยนมาเป็นคำว่าคนรักอย่างกะทันหัน อาจจะเป็นเพราะคำสัญญาที่พูดเล่นๆ กันในตอนที่เล่นเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว ทำให้ต่างคนต่างรอกันทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือเปล่า คำสัญญาที่น้องฮุนเป็นคนบอกกับจงอินว่า..
‘ถ้าน้องฮุนโตขึ้นเมื่อไหร่ ให้น้องฮุนเป็นเจ้าสาวของจงอินนะ’
‘อื้ม จงอินสัญญา’
ตอนนี้น้องฮุนโตแล้ว จงอินก็โตแล้ว คำสัญญานั้นควรจะเริ่มเป็นจริงสักทีสินะ…
.
.
.
<3
END
♥ 찾았다 ♥
TALK :
สุขสันต์วาเลนไทน์ค่่า <3 มีของขวัญเป็นวันช็อตสั้นๆ ให้ผู้อ่านที่น่ารักทุกคนเลย T//T
เข้ามาอ่านเข้ามาดู ก็ขอให้มีความสุขมากๆ ในวันนี้นะคะ
ไม่ได้ไปไหนก็มาอ่านฟิคเพิ่มความหวานให้ตัวเองดีกว่า ฮ่าๆๆๆ
เรื่องนี้ตั้งไว้ตั้งแต่ปี 2012 จนปีนี้ 2014 แล้ว เพิ่งค้นเจอเลยเอามารีไรท์ใหม่และเอามาลงค่ะ
'น้องฮุน' นี่เราว่าเป็นสรรพนามที่น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก <3
ใครๆ ก็เรียกเซฮุนว่าน้องฮุน มันงุ้งงิ้งน่ารักที่สุดเลย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ อิ้อิ้ <3
ไว้เจอกันเรื่องหน้าค่ะ เยิฟ
ความคิดเห็น