คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ::I'M TRAP::KaixSehun
ll I’M TRAP ll
Paring : Jongin, Sehun
.
.
“เฮ้ย มึงคืนนี้ที่ไหนวะ”
เสียงอึกทึกดังขึ้นหลังจากสิ้นเสียงอาจารย์ที่ยืนประจำหน้าห้องหยุดไมโครโฟนในมือลง เป็นอันบอกว่าคลาสเรียนวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว กลุ่มนักศึกษาด้านหลังห้องที่ในคาบไม่นั่งหลับก็เอาแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์วางแผนกันถึงสถานที่นัดหมายกันในคืนนี้ ผิดกับกลุ่มนักศึกษาหน้าห้องที่เริ่มจับกลุ่มกันทำรายงานกลุ่มที่อาจารย์ได้มอบหมายไว้ในท้ายชั่วโมง แต่ดูเหมือนว่ามันจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของนักศึกษากลุ่มนี้ไปหมด ขนาดเรียนยังไม่ใส่ใจแล้วจะไปเอาอะไรกับเรื่องงานกันล่ะ จะทำกันก็ต่อเมื่อมันกำหนดส่งวันสุดท้ายนั่นแหละ ถึงได้กระตือรือร้นขึ้นมา
เซฮุนลุกจากเก้าอี้ขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย เก็บเครื่องเรียนลงในกระเป๋า ก่อนจะเดินตามกลุ่มเพื่อนออกไป เซฮุนก็เป็นหนึ่งในเด็กหลังห้องแต่ดูแล้วเป็นคนที่ตั้งใจเรียนที่สุดต่างหาก เรื่องงานการบ้านก็มีเซฮุนเป็นต้นฉบับให้พวกเพื่อนๆ ถึงได้ไม่ติดเอฟไม่ได้ดรอปผ่านกันมาได้จนถึงปีการศึกษาที่สาม เซฮุนไม่คิดเบื่อหรือรำคาญเพื่อนๆ ของเขาเลยแม้แต่น้อย ออกจะเฉยๆ แล้วก็ไม่ใส่ใจซะมากกว่า เพราะเหตุผลเดียวที่เซฮุนยอมทนก็คือคนที่เซฮุนกำลังใช้สายตาจ้องมองแผ่นหลังที่ดูอบอุ่นอยู่นั่นต่างหาก..
จงอินเดินอยู่ข้างหน้าเซฮุนกับเพื่อนอีกสองคนที่เจ้าตัววาดแขนทั้งสองข้างกอดคอไว้ พร้อมคุยกันถึงเรื่องต่างๆ นาๆ ที่บรรดาเพื่อนผู้ชายส่วนมากเขาจะคุยกัน เช่น วันนี้กินเหล้าที่ไหน หรืออาจจะแอบแซวผู้หญิงที่เดินผ่านไปมา เซฮุนมองแผ่นหลังนั้นเงียบๆ โดยไม่ทันตั้งตัว คนที่ถูกเขาจับจ้องอยู่ก็หันมา
“มึงนี่ก็เดินช้าจังวะ” ไม่พูดบ่นแค่นั้น แต่จงอินลดแขนลงจากเพื่อนทั้งสองคนแล้วปล่อยให้เดินนำไปก่อน โดยที่ตัวเองก็หยุดรออีกคนที่กำลังเดินตรงมา
“ก็มึงนั่นแหละ เดินเร็ว” เซฮุนสวนกลับด้วยความไม่พอใจ เบะปากออกเล็กน้อยก่อนจะทำเดินผ่านจงอินไปเฉยๆ
จงอินกับเซฮุนเป็นเพื่อนกัน ในกลุ่มเพื่อนของพวกเขามีสิบกว่าคนได้ ถึงแม้ว่าจงอินจะดูสนิทกับทุกคนในกลุ่มเพื่อน กลับกันเซฮุนจะเงียบๆ ซะมากกว่า และคนที่เซฮุนสนิทด้วยที่สุดก็มีแต่จงอินคนเดียว เรียกได้ว่ามีอะไรก็จะเล่าให้จงอินฟังเป็นคนแรกเสมอ เพราะเป็นเด็กต่างจังหวัดเหมือนกัน บังเอิญเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันก็ทำให้สนิทกันอยู่แล้ว สนิทกันจนถึงขั้นที่ว่าถึงอีกฝ่ายไม่พูดอะไรก็รู้ได้เสมอ เพราะเป็นแบบนี้จงอินกับเซฮุนถึงได้แคร์กันมาก
แขนยาวเอื้อมโอบรอบคออีกฝ่ายไว้ให้เดินมาด้วยกัน ก็ดูเหมือนเพื่อนกันธรรมดา..
“คืนนี้ไอยอลมันชวนไปผับ XX มึงจะไปมั้ย ?”
คิ้วสวยของเซฮุนขมวดเล็กอย่างกำลังใช้ความคิด ปกติก็ไม่ได้คิดนานขนาดนี้เท่าไหร่ แต่หากว่างานที่อาจารย์สั่งใกล้จะกำหนดส่งแล้ว ถ้าตัวเขายังไม่ได้ ก็ยังหวังว่าจงอินและเพื่อนคนอื่นๆ จะทำหรอก เซฮุนเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะส่ายหน้าไปมาทำเอาจงอินหน้าเซ็งไปครู่หนึ่งแล้วถามถึงเหตุผล
“ทำไมวะ?”
“งานอ.จงกุก จะให้ส่งมะรืนนี้อยู่ละ กูยังไม่ได้ทำเลย”
“งานไร”
“ถามไปแล้วมึงจะทำรึไง?” เซฮุนถามกลับอย่างรำคาญ สะบัดตัวเองออกจากแขนของจงอินแล้วรีบเดินลิ่วนำหน้าไป
“งั้นกูไปได้ปะ” จงอินรีบสาวเท้าเข้ามาใกล้ ยักคิ้วกวนๆ ตามนิสัย
“ถามกูทำไม ก็เรื่องของมึงดิ”
เซฮุนบอกมาอย่างที่ใจคิดจริงๆ ...เออ ก็เรื่องของมันดิ ถามกูทำไม ขามึง ปากมึง มึงจะไปไหนก็ไป ? ถึงจะสนิทกันแต่ตัวไม่ได้ติดกันสักหน่อย แล้วอีกอย่างวันนี้เซฮุนก็รู้สึกเหนื่อยๆ มึนๆ หัวนิดหน่อยด้วย จะให้ไปนั่งกินเหล้า ดมบุหรี่ก็คงจะไม่ดี
“ก็ถามไปงั้นอะ เพราะยังไงกูก็จะไปอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ” จงอินหัวเราะพร้อมโยกหัวอีกฝ่ายไปมาด้วยความสะใจ
.
.
21:00..
เวลาสามทุ่มมักจะเป็นเวลาที่เหมาะเจาะสำหรับการมานั่งสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน กับรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะ บรรยากาศซอยที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา ตอนกลางวันก็เปิดเป็นร้านอาหารธรรมดา แต่ตอนกลางคืนแทบทุกร้านจะเปิดไฟสีสัน ซึ่งรวบรวมอบายมุขไว้ทั้งหมด ตำรวจลงทีก็เฮไปที ส่วนมากใครจะอายุถึงกันล่ะ มันก็อยากจะรู้อยากจะลองกันตั้งแต่ตอนนี้นั่นแหละ
ภายในร้านประจำ จงอินกำลังนั่งก๊งเหล้ากับเพื่อนกลุ่มเดิม มือนึงก็ถือแก้วเหล้า จิบให้พอรู้รสชาติก่อนจะกระดกที่เดียวหมดแก้วตาคำคะยั้นคะยอจากเพื่อน ส่วนอีกมือก็ไม่ปล่อยให้ว่าง ปลายนิ้วคีบบุหรี่ไว้ ก่อนที่ริมฝีปากจะสัมผัสกับปลายมวน แล้วพ่นควันออกมา
“อ้าว เซฮุนไม่มาเหรอวะ?” เสียงของเพื่อนในกลุ่มตะโกนถามขึ้น เมื่อกวาดตามองดูแล้วเห็นสมาชิกไม่ครบกลุ่มตัวเอง บรรยากาศร้านเหล้าที่มีแต่เสียงเพลงที่เปิดจนดังกระหึ่มขนาดนี้ ถ้าให้พูดด้วยโทนเสียงปกติไม่มีทางได้ยินแน่
“ไม่ว่ะ มันทำงานอยู่” จงอินตะโกนกลับ ก่อนจะอัดบุหรี่เข้าปอดอีกรอบ
“งานไรวะ”
คำถามเดียวกับที่จงอินถามเซฮุนเป๊ะ.... ก็ถามไปงั้นอะ ถามไปก็ไม่ทำอยู่ดี
“มึงไม่ต้องรู้หรอก หน้าที่ลอกอย่างเดียวพอละ”
จงอินไม่ได้เป็นฝ่ายตอบคำถาม แต่ชานยอลต่างหากที่เป็นฝ่ายตอบพร้อมตับหัวเพื่อนอีกคนก่อนจะหัวเราะออกมา เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
..
จงอินมาส่งเซฮุนที่หอพักก่อนจะขอตัวกลับไปนอนเอาแรงที่ห้อง จงอินกับเซฮุนไม่ได้นอนพักห้องเดียวกัน เพียงแต่อยู่หอใกล้ๆ กันแค่นั้น ด้วยเหตุผลอะไรหลายๆ อย่าง ที่ทั้งสองคนเลือกที่จะอยู่คนละห้อง แต่ก็มีบางครั้งที่พลัดกันไปนอนห้องของแต่ละคนกันบ้าง
หลังจากที่จงอินกลับไปแล้ว เซฮุนก็นอนแผ่ตัวลงกับที่นอนนุ่ม กลิ้งตัวไปมาบ้าง กดโทรศัพท์เล่นบ้าง ไม่ได้กลับมาทำงานเหมือนที่บอกไว้กับใครบางคน... ไองานน่ะมีจริง ไม่ได้โกหก แต่ไอที่บอกจะไม่ไปเพราะทำงานน่ะพูดโกหก ที่ไม่อยากไปเพราะมันรู้สึกเบื่อๆ ต่างหาก ...เบื่อกลิ่นบุหรี่ เบื่อเสียงเพลง ไม่ชอบแอลกอฮอล์ ทุกทีที่ยอมไปเพราะถูกจงอินรบเร้าทั้งนั้น โชคดีที่วันนี้ปฏิเสธได้เพราะเอาเรื่องงานมาอ้าง
เสียงท้องร้องในกระเพาะดังขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มจำใจต้องลุกออกมาจากที่นอนเพื่อหาอะไรทานเป็นข้าวเย็น ชีวิตเด็กหอพักคงหนีไม่พ้นข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อ หรืออาจจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คิดจะหาร้านอาหารลงไปนั่งกินตอนนี้ก็ล้มพับไปเลย ลงไปตอนนี้ก็มีแต่ร้านเหล้าเท่านั้นที่เปิด เซฮุนเลยเลือกอาหารเย็นมื้อนั้นเป็นบะหมี่ซองแทน คิดได้แล้วก็เดินไปเลือกบะหมี่ซองที่ตนเองเก็บไว้ตรงชั้นวางของข้างตู้เย็น ก้มๆ เงยๆ อยู่สักพักก่อนจะสบถออกมา
“จงอินแม่ ง...แดกของกูหมดเลย เหลือแต่รสเผ็ด บ้าเอ๊ย” เซฮุนไม่ทานเผ็ด...แต่ที่เหลืออยู่ดันเป็นรสเผ็ดที่จงอินซื้อมาทิ้งไว้เผื่อว่าตัวเองมาที่ห้องเซฮุนจะได้เอามากิน แต่กลายเป็นว่าจงอินกินรสไม่เผ็ดของเซฮุนแล้วที่เหลือมันก็เป็นรสเผ็ดซะหมด..
“กินไรวะเนี่ย ทีเนี้ย”
เซฮุนยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเอง ก่อนจะเปิดตู้เย็นออก ของสดแทบไม่มี มีแค่เบียร์สามกระป๋องของจงอิน น้ำอัดลมของเซฮุน โชคดีที่ช่องแช่แข็งยังเหลืออาหารกล่องให้พอเซฮุนเวฟทานได้อยู่บ้าง ถ้าจะให้เลือกลงไปซื้อของกินข้างล่าง เซฮุนยอมกินข้าวกล่องนี่ดีกว่า
ระหว่างรออาหารมื้อง่ายๆ ที่สามารถทานได้ภายในห้านาที เซฮุนเลยเดินไปเปิดโน้ตบุคทิ้งไว้ เพื่อจะจัดการกับงานกลุ่มไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อว่าเวลาใกล้ส่งจะได้ไม่ต้องหามรุ่งหามค่ำทำเมื่อครั้งก่อนๆ คราวที่แล้วเพื่อนทั้งสิบก็แห่กันมาทำงานที่ห้องเซฮุน ทำกันไปได้สักพัก ใครสักคันก็ตะโกนว่าทำงานมันต้องใช้สมอง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก็เลยลงไปซื้อขนมขบเคี้ยวกันมา แต่ที่ไหนได้ เจ้าพวกนั้นดันไปซื้อเบียร์กระป๋องแล้วเปิดกิน กลายเป็นว่างานวันนั้นเซฮุนแทบจะทำคนเดียว ยังดีที่จงอินไม่ได้เมาเลยสามารถออกความเห็นเล็กๆ น้อยๆ ได้ ถึงแม้ว่ามันจะช่วยได้ไม่มากก็ตาม
หลังจากผ่านมื้ออาหารเย็นเสร็จ เซฮุนก็นั่งทำงานเรื่อยๆ เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คบ้างตามประสาวัยรุ่นจนผ่านไปหลายชั่วโมง เซฮุนแอบลอบมองนาฬิกาอยู่บ่อยครั้ง หน้าปัดบอกว่านี่เกือบจะเที่ยงคืนเข้าไปทุกที สลับกับมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อว่าใครอีกคนจะโทรมา....เปล่าเลย เซฮุนไม่ได้คาดหวัง แค่กำลังคิดนี่มันควรจะเป็นเวลาที่กลับมาที่ห้องได้แล้ว ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นเวลาเพิ่งเริ่มต้นก็เถอะ กลีบปากบางเบะออกเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นปลดกระดุมเสื้อของตนเองเพื่อจะเข้าไปอาบน้ำแล้วจะได้นอนสักที
แผ่นหลังบางแผ่ลงกับเตียงนอนกว้าง ที่บางทีก็รู้สึกว่ามันกว้างเกินไปที่จะนอนคนเดียว เซฮุนไม่มีแฟนเหมือนคนอื่นเขา แล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะจีบใครด้วย เซฮุนว่ามันน่าเบื่อที่จะต้องมาผูกพันกับใครสักคน แล้วมันก็น่ารำคาญจะตายไป แต่บางทีมันก็รู้สึกเหงาขึ้นมา ยิ่งช่วงเวลาที่จงอินมีแฟนนี่มันเป็นความเหงาที่แทบจะบรรยายออกมาไม่ถูก...ก็อยู่ด้วยกันตลอด พออีกฝ่ายต้องไปดูแลใครบางคน แล้วเขาก็จะต้องเป็นฝ่ายอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้จงอินเลิกกับแม่สาวคนนั้นไปแล้วด้วยเหตุผลเดิมๆ ของหนุ่มสุดฮอตที่มีสาวๆ ตามเป็นพรวน ว่า เบื่อ... ก็คนมันเลือกได้ ขอให้จงอินพูดเถอะ ไม่ว่าใครก็อยากคบด้วยทั้งนั้น เซฮุนสังเกตหลายครั้งแล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จงอินจะคบได้เกินหนึ่งเดือนเลย มากสุดสามอาทิตย์ แล้วก็กลับมาง้องแง้งใส่เซฮุนทุกที
ถึงมันจะดูน่ารำคาญแต่เซฮุนกลับชอบมันมากกว่า..ชอบที่มีจงอินอยู่ใกล้ๆ นะ ไม่ได้ชอบจงอิน
เซฮุนพลิกตัวไปมาบนที่นอนหลายรอบได้แล้ว ไฟทุกดวงปิดมืดหมด เว้นแต่โคมไฟที่หัวเตียงที่เปิดเป็นแสงอ่อนๆ มือเรียวที่โทรศัพท์ไว้ นอนกดเล่นจนไม่มีอะไรให้กด ตีหนึ่งครึ่งแล้ว...เซฮุนนอนไม่หลับ นิ้วเรียวเลื่อนจอโทรศัพท์ให้ปลดล็อคอีกครั้ง กดเข้าที่แอพพลิเคชั่นแชทยอดฮิตในตอนนี้อย่างไลน์ กดดูบทสนทนาล่าสุดซึ่งเป็นของจงอินที่ได้รับข้อความล่าสุดเมื่อตอนสามทุ่มเศษๆ ในข้อความที่จงอินเป็นคนพิมพ์ทิ้งคำถามไว้ว่า ‘จะลงมามั้ย’ ซึ่งเซฮุนก็ได้ตอบไปแล้วว่าไม่... ตามด้วยสติกเกอร์กวนๆ จากจงอินที่ส่งมาคล้ายจะงอน แต่เซฮุนเชื่อว่ารายนั้นไม่ได้งอนจริง ป่านนี้ก็ยังคงนั่งเหล่สาวสำหรับวันไนท์แสตนด์ไปด้วย..
แต่ที่สำคัญในตอนนี้คือเซฮุนนอนไม่หลับ...อยากจะหลับแทบตายแต่มันข่มตาให้นอนลงไม่ได้ ไม่รู้ทำไม.. เพราะจงอินยังไม่ถึงห้องเหรอแล้วมันสำคัญกับเซฮุนตรงไหนล่ะ กับไอการที่จงอินจะถึงห้องหรือยังไม่ถึง... ก็เซฮุนแค่อยากรู้ว่าจงอินจะอาบน้ำรึยัง จะกินข้าวรึยัง ได้กินข้าวก่อนออกไปดื่มหรือเปล่า ถ้าไม่ได้กินก็จะมาบ่นว่าปวดท้องอีก เห็นมั้ยล่ะ...แล้วผลก็คือมันจะมาเดือดร้อนเซฮุนที่จงอินจะมาวุ่นวายที่ห้องต่างหาก
เซฮุนส่งเสียงออกมาในลำคอย่างรำคาญเมื่อนึกว่าถ้าจงอินไม่ยอมทานข้าวก่อนออกไป แล้วยังบุหรี่อีก...เคยบอกว่าให้เลิกสูบได้แล้ว จนตอนนี้ก็ยังเห็นสูบอยู่ ซองบุหรี่รสมินท์กับไฟแช็คที่วางอยู่โต๊ะข้างเตียงเป็นหลักฐานมันไม่ใช่ของเซฮุน... ถึงแม้ว่าลึกๆ แล้วเซฮุนจะชอบกลิ่นของมันก็ตาม
ดวงตาเรียวสวยกระพริบไปมา เรียวลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากอย่างกำลังนึกอะไรอยู่ รายชื่อเบอร์โทรออกล่าสุดยังเป็นชื่อของจงอิน... เซฮุนกำลังคิดว่าจะกดโทรออกดีไหม ? เซฮุนจะได้โล่งใจแล้วนอนหลับได้สักที ทั้งที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของจงอินมันจะมีผลทำให้เขานอนไม่หลับขนาดนี้เลยรึไง ทั้งที่ปกติก็ไม่ได้สนใจ
แต่วันนี้มันนอนไม่หลับ...แค่อยากให้จงอินมาอยู่ใกล้ๆ เหมือนทุกครั้งก็เท่านั้น
นิ้วเรียวตัดสินกดโทรออกไปแล้ว ตอนนี้กำลังรอสายตอบรับ...
‘ว่าไง’ อีกฝ่ายกดรับแล้วกรอกเสียงตามมา
พอได้ยินเสียงของจงอิน เซฮุนกลับลืมคำพูดที่ตั้งใจจะพูดออกไปซะได้ โทรศัพท์แนบอยู่ที่ข้างแก้ม ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ ทำให้จงอินต้องเรียกชื่อเซฮุนอีกครั้ง แล้วนั่นก็ทำให้เซฮุนสะดุ้งก่อนจะกรอกเสียงตนเองลงไป
“มึง...อยู่ไหน” พูดเสียงเบา แล้วยังถามคำถามที่ตนเองน่าจะรู้อยู่แล้วออกไปอีกต่างหาก เสียงเพลงดังที่ได้ยินลอดออกมาจากลำโพงโทรศัพท์ มันทำให้เดาได้ไม่ยากว่าจงอินยังคงอยู่ที่ร้านเดิม
‘อยู่ที่เดิม มึงจะลงมาเหรอ?’
“....ไม่ล่ะ”
เซฮุนเม้มริมฝีปากแน่น คอยดูท่าว่าอีกฝ่ายจะตอบอะไรกลับมามั้ย แต่หากปลายสายก็ยังนิ่งเงียบเหมือนที่เขากำลังทำอยู่
‘มีอะไร’ จงอินตอบกลับมา เซฮุนรู้สึกว่าจงอินคงกำลังออกมาหาที่เงียบๆ เพื่อคุยกับเขา เพราะเสียงเพลงที่ดังอยู่ค่อยๆ เงียบลงไปแล้ว เหลือแต่เสียงที่ฟังชัดของจงอินเท่านั้น
“กู.....นอนไม่หลับ”
‘แล้วยังไง’
อีกฝ่ายตอบกลับมาแทบจะทันที คำถามย้อนกลับที่ดูกวนๆ ทำเอาเซฮุนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เซฮุนส่งเสียงรอดไรฟันออกมาให้รู้ว่ากำลังไม่พอใจ
“มึงก็รู้ว่ามึงต้องทำยังไง” เซฮุนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก
‘มึงก็พูดมาดิ อยากให้กูทำอะไร’ แล้วจงอินก็ยังกวนไม่เลิก....ให้เดาว่าตอนนี้อีกฝ่ายคงกำลังยกยิ้มมุมกวนๆ อยู่อย่างแน่นอน
เซฮุนปิดเปลือกตาลงอย่างรำคาญ... เซฮุนไม่ชอบพูดอะไรออกมาตรงๆ แต่มักจะโดนจงอินไล่ให้จนมุมอยู่ตลอดเวลา
‘ถ้ามึงไม่พูด กูก็ไม่ทำ’
“….มาหากู...นะ” พูดเสียงเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ ไม่รู้ว่ามือเผลอกำโทรศัพท์แน่นเมื่อไหร่..
‘ก็แค่เนี้ย....ยากอะไรวะ’
จงอินกดตัดสายไปทันทีที่พูดจบ เซฮุนเอาโทรศักท์ออกห่างจากใบหน้า เวลาการสนทนาเพียงไม่กี่นาทีแต่เซฮุนรู้สึกว่ามันนานเป็นชั่วโมง เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ พลิกตัวว่างโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะข้างเตียง หันนอนตะแคงข้างไปยังผนังห้องสีขาว หลับตาลงเพื่อรอเวลาที่ใครอีกคนจะมาถึง..
..
“พวกมึง กูกลับแล้วนะ”
จงอินเดินออกมาจากบริเวณห้องน้ำหลังจากคุยโทรศัพท์กับเซฮุนเสร็จ เสียงเพลงเริ่มเข้าสู่โสตปะสารทอีกครั้ง จงอินเดินเบียดเสียดผู้คนออกมาเพื่อกลับมายังโต๊ะของกลุ่มเพื่อนตัวเอง
“อ้าว ทำไมกลับเร็ววะ ยังไม่เมาเลย” ชานยอลที่หน้าตาเริ่มแดงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ถามเพื่อนทันทีที่ได้ยินว่าจะกลับแล้วเวลาหลังเที่ยงคืนแบบนี้ส่วนใหญ่ความสนุกมันจะเพิ่งเริ่มต้นต่างหาก
“มึงจะสงสัยทำไมวะ จงอินมันรีบกลับไปหาเมียมัน” เสียงของเพื่อนขี้แซวปนปากปีจอดังขึ้น แล้วดีกรีความปากไม่ดีมันก็จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวหลังจากได้เหล้าลงปาก
“ใครวะ? เมียมัน? มึงเพิ่งเลิกไปใช่เหรอวะ มีใหม่อีกแล้วไง?” ชานยอลยังคงถามไม่เลิก แก้วเหล้าที่เท่าไหร่ไม่รู้กำลังจะไหลผ่านคออีกรอบ
“ก็เซฮุนไง...เมียมัน”
.
.
เสียงกุกกักดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง เซฮุนปรือตาขึ้นเล็กน้อยทั้งที่ไม่ได้หลับ ร่างสูงของใครบางคนโผล่เข้ามา หน้าตามึนเมาเล็กน้อยหรือว่ามันก็อาจจะเป็นใบหน้าปกติของจงอินอยู่แล้ว
“ไม่ล็อคห้อง มึงจะรอให้ใครเปิดมาปล้ำมึงรึไง?”
“ก็ถ้ามึงมาแล้ว กูจะได้ไม่ต้องลุกไปเปิด”
จงอินยักคิ้วขึ้นพลางลอบมองคนบนเตียง ก่อนจะนั่งลงพื้นที่ว่างข้างๆ กับเซฮุน
“เนี่ยเหรอ นอนไม่หลับ ตามึงจะปิดอยู่แล้ว”
เป็นอย่างที่จงอินพูด... ดวงตาเรียวปรือแทบจะปิดเข้าหากัน แล้วยังท่าทางงัวเงียนั่นอีก มือเรียวกระชับผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงช่วงไหล่ตัวเอง ตามด้วยจงอินที่ค่อยๆ แทรกตัวลงข้างๆ แขนหนาโอบรอบเอวบางให้เขยิบเข้ามาใกล้ โดยที่เซฮุนไม่ได้ขัดขืนหรือผลักออกเลยแม้แต่น้อย กลับรีบซุกตัวลงกับแผ่นอกกว้างอีกด้วย จงอินวางแขนลงบนหมอนใบใหญ่แล้วจัดให้เซฮุนนอนหนุนกับแขนของตัวเอง
“เปิดแอร์เย็น แล้วมึงก็บ่นว่าหนาว” จงอินว่ากอนจะดึงผ้าห่มให้สูงขึ้นอีก ก้มมองลงคนที่อยู่ในระดับต่ำกว่า โดยที่เซฮุนก็ช้อนตาขึ้นมาก่อนจะเบะปากออก
“อย่าพูดมากได้มั้ย….เหม็นบุหรี่” เซฮุนย่นจมูกเล็กน้อยบอกให้รู้ว่ากลิ่นมันฉุนจริงๆ แล้วยังกลิ่นแอลกฮอลล์ปนน้ำหอมของคนอื่นยิ่งทำให้รู้สึกแปลกๆ แต่เซฮุนเลือกที่จะไม่สนใจมันแล้วตั้งใจจะสูดกลิ่นกายเฉพาะของจงอินเท่านั้น
“ย้ายมานอนห้องเดียวกันก็หมดเรื่อง คราวหลังกูจะได้ไม่ต้องมาหาดึกๆ แบบนี้”
“ไม่เอา มึงชอบทำห้องรก”
เสื้อผ้าของจงอินรวมถึงข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ อยู่ที่ห้องของเซฮุนมากกว่าครึ่ง จนบางทีก็เผลอนึกไปว่าสองคนนี้แชร์ห้องกันอยู่ แต่หากว่าเหตุผลที่จงอินชอบทำห้องรกนั่นไม่เป็นแค่ประเด็นรอง...
ที่จริงแล้ว.....เซฮุนคิดว่ามันจะใกล้กันเกินไปต่างหาก
“มึงนี่จริงๆ เลย เป็นเด็กรึไง นอนไม่หลับแล้วต้องเรียกคนอื่นเนี่ย”
“แล้วมึงเป็นคนอื่นรึไง”
จงอินไม่ตอบคำถามในทันที มือหนาเอื้อมขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มเบาๆ เกี่ยวปลายผมเล่นกับนิ้วของตนเอง สลับกันไปมา การกระทำนี้ทำให้เซฮุนปรือตาเล็กน้อย แพขนตางอนงามเริ่มจะชิดกับขอบตาด้านล่าง
นี่คือสาเหตุที่เซฮุนเรียกให้จงอินมาหา...
ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องหานิทานมาอ่านให้ฟังก่อนนอนเหมือนเด็กๆ เพียงแค่มีมืออุ่นของจงอินคอยลูบศีรษะอยู่แบบนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดที่เซฮุนไม่รู้จะหาอะไรมาเปรียบเทียบได้เลย
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเซฮุนก็เช่นเดียวกัน แค่อยู่ใกล้ๆ ก็รู้สึกสบายใจแล้ว กลิ่นเหมือนแป้งเด็กที่เป็นกลิ่นของเซฮุน มันสู้กลิ่นน้ำหอมที่ไหนไม่ได้เลยสักนิด จงอินจ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มหลับตาลง กลีบปากบางเผยออกเล็กน้อย เสียงลมหายใจเข้าออกเบาๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเซฮุนเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว..
“ไม่ใช่...กูไม่ใช่คนอื่น” จงอินกระซิบเสียงเบา ทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยิน ริมฝีปากใกล้ชิดที่ข้างแก้มก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมา
“แต่กูเป็นทุกอย่างสำหรับมึง”
.
.
.
END
TALK ♥
เรื่องนี้เคยลงไว้ที่บอร์ด exo แล้วค่ะ ไม่อยากให้เรื่องนี้มันว่างเลยเอามาลงเพิ่ม ฮ่าๆๆๆ
.
.
.
ความคิดเห็น