คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : :Two, One or Three ; Part 4
|| Two, One or three ||
Paring : Kim Jongin, Oh Suho, Oh Sehun
♥ 2 1 3 ♥
“โดดซ้อมอีกแล้วนะ”
วันนี้เป็นอีกวันที่เซฮุนเข้าชมรม จริงๆ ต้องบอกว่า ช่วงนี้เข้าบ่อยมาก ไม่ใช่เพราะจะมีการแข่งที่ไหน แต่เพราะคนที่คอยมาแอบฟังทุกวันต่างหาก ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่เรียกว่าแอบแล้วก็ตาม เซฮุนเปิดหน้าต่างออกกว้าง ให้ลมโกรกเข้ามาภายในห้อง ก่อนจะเจอจงอินที่ยืนพิงกำแพงอยู่ข้างกันๆ
ดูก็รู้ว่า คิมจงอินกำลังจะโดดซ้อมบาสอีกแล้ว ...ชุดทีมบาสแบบเดียวกับของซูโฮที่เซฮุนเห็นบ่อยๆ สวมอยู่บนร่างกายของจงอิน คนตัวสูงหันมาหาอีกฝ่ายที่อยู่ในห้องทันทีที่ได้ยินเสียงทักทายจากเซฮุน
เซฮุนยกยิ้มให้จงอินก่อนจะลากเก้าอี้ในห้องมานั่งใกล้ๆ กับหน้าต่าง แขนบางเท้ากับของหน้าต่างโดยที่มือเรียวก็วางกับปลายคางตัวเองไว้ ยื่นหน้าออกไปหาอีกคน
“พี่นายน่ะ ขี้บ่นชะมัด” จงอินบ่นถึงพี่ชายของคนตรงหน้าให้ฟัง โดยที่คนหน้าหวานก็หัวเราะออกมา เพราะนานๆ ทีจะมีคนมาเล่าเรื่องของซูโฮให้ฟัง ไม่รู้หรอกว่าเวลาพี่ซูโฮอยู่กับเพื่อนเป็นยังไงบ้าง
“ก็จงอินโดดซ้อมทำไมล่ะใกล้จะไปเก็บตัวแล้วไม่ใช่เหรอ โดดบ่อยๆ แบบนี้ ระวังจะโดนให้เป็นตัวสำรองไม่รู้ด้วย” เซฮุนพูดเจื้อยแจ้ว น้ำเสียงโทนเดียวกับซูโฮที่จงอินมักรำคาญ แต่น่าแปลกที่พอเป็นเซฮุนพูด จงอินกับสามารถฟังได้เรื่อยๆ
“รู้แล้วน่า เดี๋ยวจะไปแล้ว แค่แวะมาเฉยๆ”
“แวะมาทำไมล่ะ” คิ้วสวยเลิกขึ้นถาม พลางมองสบตากับใบหน้าคม ทั้งที่จริงตัวเองน่าจะรู้เหตุผลอยู่แล้วว่าอะไรทำให้คนๆ นี้มาแวะเวียนแถวนี้เป็นประจำ
“ก็อยากมาฟังเสียงเปียโนก่อนไปซ้อมนี่ วันนี้ไม่เล่นรึไง”
“ไม่เอาล่ะ เดี๋ยวมีคนเคลิ้มหลับแล้วพาลไม่ไปซ้อม พี่ซูโฮก็ได้หงุดหงิดอีกน่ะสิ” ใบหน้าหวานส่ายไปมา ร้อมกับยืนยำคำโตว่าวันนี้จะไม่เล่นเปียโนแน่ๆ ถ้าคนตัวสูงตรงหน้านี่ไม่ยอมไปซ้อม
“นึกออกแล้วล่ะ ว่าซูโฮกับนายมีอะไรที่เหมือนกัน” จู่ๆ ใบหน้าคมก็ยิ้มกว้าง พลางยกนิ้วมาสะบัดไปมาตรงหน้าของเซฮุน ใบหน้าหวานฉงนขึ้นมาพลางถามกลับ
ก่อนหน้านี้จงอินเคยพยายามหาข้อที่เหมือนกันของคู่แฝดคู่นี้ ที่นอกจากหน้าตา รูปร่างแล้วก็ไม่มีอะไรเลยที่เหมือนกันทั้งนิสัย ท่าทาง มาวันนี้จงอินบอกว่าเจอแล้วอะไรที่เหมือนกัน ก็ทำเอาเซฮุนงงน่ะสิ ..ขนาดตัวเซฮุนเองยังคิดไม่ออกเลยว่าเขากับพี่ซูโฮยังมีอะไรที่เหมือนกันอีก หรือยังไง
“ขี้บ่นเหมือนกันเป๊ะเลย” พูดจบก็หัวเราะเสียงดัง แต่คนฟังนี่สิขำไม่ออก...
ริม ฝีปากเม้มแน่นไม่พอใจ แก้มขาวพองเป็นลูกกลมๆ เหมือนซาลาเปา คิ้วสวยขมวดยุ่ง กับดวงตาเรียวที่ตวัดไม่พอใจ ...นี่ก็เหมือน เวลาโกรธก็เหมือนกัน
“ว่าเราขี้บ่นเหรอ!”
“อยู่นิ่งๆ เล่นเปียโนเฉยๆ ก็น่ารักแล้ว อย่าขี้บ่นเหมือนซูโฮเลย เคปะ” จงอินพูดกวนๆ ก่อนจะยกยิ้มให้เซฮุนที่หน้านิ่งไปเฉยๆ ริ้วสีแดงขึ้นบริเวณแก้มเนียน พอเห็นคนตรงหน้ามีท่าทีแปลกๆ จงอินถึงได้นึกออกว่าเมื่อครู่พูดอะไรออกไป มือหนายกขึ้นเกาหัว อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรไปแต่สุดท้ายก็กลืนคำนั้นลงคอเปลี่ยนเป็นยิ้มแหยๆ แทน
“งั้นเราไปซ้อมละ คงไม่เจอกันสักอาทิตย์อะ บาย” จงอินรีบออกจากบริเวณนั้นก่อนที่จะมีใครเขินไปมากกว่านี้
เมื่อครู่ไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่าน่ารัก.... แต่ปากมันพลั้งไปเอง ไม่ได้คิดว่าจะมาแจกขนมจีบให้เซฮุนนะ แค่คิดว่าคนๆ นี้อยู่ด้วยแล้วสบายใจก็แค่นั้น อีกอย่างตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมากุ๊กกิ๊กมีแฟนสักหน่อย... ตอนนี้ควรจะตั้งใจให้กับการซ้อมเสียมากกว่านะ คิมจงอิน..
♥ 2 1 3 ♥
“พี่ซูโฮ พี่ว่าผมน่ารักมั้ยครับ” เซ ฮุนเอ่ยถามพี่ตัวเองระหว่างเดินทางกลับบ้าน ถนนที่เป็นเนินลาดลงเกือบทำเอาซูโฮลื่นไถลสไลด์ตัวเองลงไปกับเนินนั่นเพราะ คำถามของน้องชาย
..ตั้งแต่โตมาด้วยกัน ไม่บ่อยนักที่ซูโฮจะเห็นใบหน้าที่เหมือนกับตัวเองมีท่าทีเขินอายแบบนี้ นึกแล้วขนอ่อนก็ลุกขึ้นมาอย่างนั้น ..งั้นเวลาตัวเองเขินอะไรก็คงหน้าแบบเซฮุนตอนนี้ใช่มั้ยเนี่ย ไม่สิ.. แต่เรื่องนี้ยังไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคำถามที่เซฮุนถามมาต่างหาก!
“ถามอะไรของเราห๊ะ เซฮุน...” ซูโฮหันไปมองหน้าน้องชายที่ก่อนหน้านั้นหันมามองตัวเองอยู่ชั่วครู่ก่อนจะรีบหันกลับไปทันที เห็นได้ชัดว่าพวงแก้มขึ้นสีจัด
เดี๋ยวนะ... ไออาการแบบนี้ ซูโฮรู้สึกคุ้นๆ ยังไงชอบกล มันเหมือนกับตอนม.ต้น ที่มีรุ่นพี่มาบอกชอบเซฮุนน่ะสิ! แต่ บอกแล้วว่าไม่ทางได้แอ้มหรอก ตอนนั้นเซฮุนยังเด็กไปที่จะมีแฟนนะ เขาก็เลยไปจัดการรุ่นพี่ตัวแสบนั่นซะเอง ทีแรกก็โดนจีบต่อนั่นแหละ เพราะเห็นว่าเป็นฝาแฝด แปลกๆ ดี รุ่นพี่คนนั้นเลยขอซูโฮคบด้วย แต่ซูโฮไม่เล่นด้วย.. นอกจากจะโมโหที่กล้ามาบอกชอบน้องชายเขาแล้ว ยังโมโหที่กล้ามาขอเขาเป็นแฟนอีก! ซูโฮเลยต่อยหน้าเข้าให้ จากนั้นก็ไม่ค่อยมีใครกล้ามาจีบเซฮุนอีก เพราะรู้กันว่าพี่ชายฝาแฝดของเซฮุน โหดยิ่งกว่าอะไร..
“นี่... อย่าบอกนะว่ามีใครมาขอเราคบอีก ปฏิเสธไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
แต่ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้คุ้มกันน้องตัวเองเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมา ก็เรียนคนละห้อง อีกอย่างตัวเองก็ต้องซ้อมกีฬา เวลาจะมาสนใจน้องชายทุกฝีก้าวมันก็ทำได้ไม่เหมือนเดิม เลยได้แต่คอยเตือนแบบนี้
“ม... ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คือผมแค่ถามเอง”
“ถ้านายอยากรู้ว่าตัวเองน่ารักมั้ย ก็หันมามองหน้าพี่นี่”
ซู โฮหยุดเดิน เลยทำให้เซฮุนหยุดเดินตาม มือเรียวจับใบหน้าน้องชายให้หันมามองทางตนเอง ดวงตาทั้งสองคู่จ้องมองกันและกัน ก่อนที่เซฮุนจะเป็นฝ่ายหน้าแดงจัด สะบัดหน้าตัวเองออกมาจากมือนุ่มของพี่ชาย แล้วรีบหันหน้าออกไปอีกทาง
“....ไม่ล่ะ ผมว่า..พี่ซูโฮหล่อมากกว่า”
“เฮ้ย จะหล่อได้ไงเล่า” ซูโฮหัวเราะออกมาก่อนจะวาดแขนตัวเองลงบนไหล่บางของเซฮุน
“แล้วทำไมถึงถามขึ้นมาล่ะ ไปแอบชอบใครมารึเปล่า” ไม่ว่าอะไรหรอกถ้าเป็นคนที่เซฮุนเลือกเอง ขอแค่ดูหน้า นิสัยนิดหน่อยเท่านั้นพอ จริงๆ นะ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่อยากรู้เฉยๆ รีบเดินเถอะ หิวข้าวแล้วนะ” เซฮุนรีบตัดจบบทสนทนาเพียงเท่านั้นก่อนที่ซูโฮจะถามไรเซ้าซี้แกมบังคับให้เขาต้องพูดออกมาอีก
และ แล้วเรื่องที่จงอินเผลอพูดออกว่าเซฮุนน่ารัก ก็ทำเอาคนหน้าหวานเก็บไปคืนตลอดคืน จริงๆ แล้วการที่จงอินมาคอยนั่งเป็นเพื่อน คอยบอกว่าเขาเล่นเพราะ มันไม่ได้ชวนใจสั่นอะไรเท่าไรหรอก ก็เห็นว่าคุยดี น่าจะเป็นเพื่อนกันได้ แต่ไปๆ มาๆ ทำไมในหัวถึงได้นึกถึงแต่หน้าของจงอินตลอดเลยเนี่ย...
♥ 2 1 3 ♥
“เซฮุนนาพี่ไปแล้วนะ” ซู โฮยื่นร่ำลาน้องชายตัวเองก่อนที่จะขึ้นรถตู้ไปยังพูซาน ที่ได้นัดแนะกันไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วว่าจะไปซ้อมเก็บตัวเพื่อการแข่งขัน ที่กำลังจะมาถึงที่นั่น
มือเรียวยกขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มของน้องชายที่ตอนนี้แทบจะหลับกลางอากาศเต็มที กลับกันที่วันนี้ซูโฮตื่นเช้าผิดปกติแทนที่จะเป็นเซฮุนมากกว่า เพราะซูโฮปลุกน้องแต่เช้ามืดเพื่อบังคับให้มาส่งตัวเองที่โรงเรียนในเช้า ตรู่ขนาดนี้ เซฮุนก็เลยมีอาการแบบที่เห็นนี่ ดวงตาเรียวที่ทุกทีก็เล็กอยู่แล้ว ตอนนี้ปรือจนแทบจะปิด แพขนตางอนมีคราบน้ำตาเกาะเล็กน้อยจากการหาววอด มือขาวของเซฮุนยกขึ้นขยี้ตาตัวเองอย่างน่ารัก ส่วนมืออีกข้างถูกซูโฮจับไม่ปล่อยมาตั้งแต่ออกจากบ้าน
“งื่ออ.. พี่ไปเถอะครับ ผมง่วง” ตอบ แบบไม่ใส่ใจแล้วหาวอีกรอบ ..ทั้งที่เมื่อคืนก็อุตส่าห์บอกแล้วว่าไม่ต้องปลุกให้มาส่ง พี่ชายตัวดีที่โคตรจะห่วงและหวงน้องก็ปลุกขึ้นมาจนได้
ซูโฮเบะปากอย่างน้อยใจที่ดูแล้วน้องชายจะไม่ใส่ใจตัวเองอย่างทิ่คิด ก็เข้าใจล่ะ ว่าน้องง่วงนอน แต่นี่พี่ชายจะไม่อยู่ด้วยตั้งเป็นอาทิตย์เลยนะ ขอล่ำลาให้ซึ้งๆ หน่อยไม่ได้หรือไง!
“อะไรเนี่ย เราไม่ห่วงพี่เลยรึไง”
“ห่วงครับ..พี่ซูโฮ แต่ตอนนี้ผมจะหลับอยู่แล้ว พี่ก็ขึ้นรถเถอะครับ คนอื่นเขารอพี่อยู่น้า” เสียงหวานงัวเงียแต่ก็ยังมีสติพอที่จะพูดออกมาให้เป็นคำ เซฮุนเหลือบมองในรถตู้ก่อนจะเห็นสมาชิกในทีมกลั้นขำกันใหญ่
“น่าเป็นห่วงจริงๆ เลย เซฮุนนา พี่ไม่อยู่เป็นอาทิตย์ ต้องดูแลตัวเองนะ รู้มั้ย” ซูโฮจับไหล่น้องชายทั้งสองข้างหมุนไปหมุนมาอย่างตรวจดูความเรียบร้อย ทั้งทีความจริงแล้วเซฮุนน่าจะเป็นฝ่ายทำอย่างนั้นกับซูโฮมากกว่า
“รู้ครับ พี่ก็พูดแบบนี้ทุกปีอะ”
จริงอย่างที่เซฮุนว่า เพราะการแข่งขันมีขึ้นทุกปี ซูโฮก็ต้องไปทุกปี แล้วก็ต้องมาล่ำลากันแบบนี้ทุกปี... ปีแรกก็เศร้าอยู่หรอก เพราะว่าตัวไม่เคยห่างจากพี่ชาย แต่พอโตขึ้นหน่อยก็เริ่มรู้แล้วว่าจริงๆ เราทั้งสองคนก็ไม่ควรตัวติดกันตลอดเวลา
มีแต่ซูโฮที่หวงเซฮุนมากเกินไป... เซฮุนก็ไม่ได้รำคาญหรอกนะ เพียงแต่แค่คิดว่ามันมากเกินไปต่างหาก.. อยากจะบอกพี่ซูโฮบางทีผมก็อายเหมือนกันนะ
“งั้นก่อนไป หอมแก้มพี่หน่อยดิ”
“โอ้ยยย พี่ซูโฮมาหอมเหิมอะไรตอนนี้ล่ะครับ คนเยอะแยะนะ” เซฮุนปฏิเสธลูกเดียว ใบหน้าหวานสะบัดไปมาเป็นการย้ำว่าไม่ทำแน่ๆ
“หอมพี่หน่อยนะ เซฮุนน้า เป็นกำลังใจให้พี่ตั้งใจซ้อมไง เร็วๆ สิ ไม่งั้นพี่ไม่ขึ้นรถนะ”
เซฮุนปิดเปลือกตาลงเพราะความออดอ้อนของพี่ ...ขี้อ้อนเหมือนใครเนี่ย เซฮุนขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ทำให้ซูโฮยิ้มกว้างออกมาทันที ซูโฮรีบยื่นแก้มข้างขวาของตนเองมาตรงหน้าเซฮุน
“พี่เนี่ย.. ไม่อายคนอื่นเข้ารึไง” เซ ฮุนบ่นอุบอิบ แต่แล้วริมฝีปากก็ยอมสัมผัสเข้ากันแก้มขาวของซูโฮ จุ๊บเร็วๆ ก่อนจะรีบผละออกมา เพราะกลัวคนอื่นแซว พอเซฮุนผละออกมาได้ ซูโฮก็รีบคว้าเอวบางของน้องชายไว้แน่นพลางกอดรัดแน่นๆ ไปทีนึง ถึงจะยอมคลายออก
“ไปแล้วนะ ถ้าใครแกล้งรีบโทรหาพี่เลยนะ” ยังไม่วายเปิดกระจกรถออกมาบอกอีกต่างหาก..
เซฮุนส่งยิ้มให้พี่ชายก่อนจะเออออตามพี่ชาย มือยกขึ้นโบกมือให้พี่ชายตนเองที่เหมือนกับว่าจะไปเรียนต่างประเทศสิบปี.. ทั้งที่ความจริงไปแค่ซ้อมบาสนอกสถานที่สิบวันเท่านั้น
พอรถตู้เลี้ยวออกจากประตูโรงเรียน เซฮุนถึงได้ลดมือลงก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกนึง ยิ้มบางๆ กับบางมุมที่น่ารักของพี่ชายตัวเอง.. กายบางวกกลับเข้ามาในตัวตึกเรียน เวลาเช้าตรู่แบบนี้ไม่ค่อยเห็นเด็กนักเรียนสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะมากันให้พรึ่บก็ตอนใกล้จะเข้าเรียน เซฮุนที่ไม่มีอะไรทำ คยองซูเพื่อนสนิทก็ยังไม่มา เลยคิดว่าไหนๆ ก็ว่างแล้ว เลยจะไปเล่นเปียโนที่ห้องชมรมสักหน่อย
บรรยากาศ ยามเช้าในโรงเรียนแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ เงียบสงบ มีเพียงเสียงลมพัดผ่าน เซฮุนเดินชมโรงเรียนยามเช้าเรื่อยๆ ในหัวก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย อย่างเช่นว่า ...จะไม่เจอพี่ซูโฮตั้งสิบวัน คิดดูๆ แล้วก็เหงาเหมือนกันนะ ทุกทีก็ต้องเจอหน้ากันทุกวัน นอนก็ห้องเดียว หรือแทบจะตัวติดกันเลยก็ว่าได้ เซฮุนเบะปากออกเมื่อรู้สึกว่าความง่วงตอนที่ได้คุยกับพี่ชายเมื่อครู่หายไป หมดแล้ว น่าเสียดายที่ไม่ได้ส่งพี่ชายด้วยสีหน้าสดใสสักเท่าไหร่.. ก็ตอนนั้นมันง่วงนี่น่า กายบางเดินผ่านห้องพักครู ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเสียงที่ดังออกมาจากข้างใน ครั้นจะหยุดยืนฟังคงไม่เรื่องดีเสียเท่าไหร่ แต่เท่าที่ได้ยินแว่วหูมาเป็นเสียงของคนโวยวายเสียมากกว่า
ริมฝีปากบางเม้มแน่นก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด ก่อนที่ตัวเองจะโดนลูกหลงไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม แต่ยังไม่ทันที่เรียวขาจะก้าวไปได้ไกล ประตูก็ถูกเลื่อนออกมาอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง เรียกให้เซฮุนหันกลับไปมองจนได้ ภาพที่เห็นคือเด็กหนุ่มทีมีส่วนสูงน้อยกว่าเขากำลังยืนหน้ายุ่งคล้ายไม่พอใจ อะไรบางอย่างเอามากๆ อีกทั้งมือก็ล้วงกระเป๋าอย่างไม่สบอารมณ์ ควักเอาซองบุหรี่ออกมาก่อนที่มืออีกข้างจะเตรียมจุดไฟแช็ก เซฮุนที่เห็นการกระทำนั้น ดวงตาเรียวเบิกกว้างอย่างงงๆ เพราะดูก็รู้อยู่ว่าเครื่องแบบนักเรียนแบบเดียวกัน บ่งบอกให้รู้ว่าคนตรงหน้านี่อยู่โรงเรียนเดียวกันและยังเป็นนักเรียนอยู่ ของเสพติดแบบนี้ก็ไม่ควรจะอยู่กับคนๆ นี้หรือภายในโรงเรียน เสียงหวานกำลังจะเอ่ยห้ามแต่อีกคนที่เดินออกมาจากห้องพักครูก็โวยวายเสีย ก่อน
“นี่มันที่โรงเรียน ให้มันน้อยๆ หน่อย” เสียง ที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นอาจารย์สุดโหดประจำฝ่ายปกครอง อาจารย์ท่านนั้นริบบุหรี่ทั้งซองจากเด็กหนุ่มคนนั้นพร้อมไฟแช็คไปถือไว้ ก่อนที่เด็กคนนั้นจะจิ๊ปากไม่พอใจพลางส่ายหัว พอดีกับที่อาจารย์เงยหน้าขึ้นมาเห็นเซฮุนพอดี
“ส..สวัสดีครับ” ถึง แม้ตัวเองจะไม่ได้ทำผิดอะไรก็ตาม แถมยังเป็นนักเรียนที่จัดอยู่ในหมวดเรียบร้อยอีกด้วย แต่พอเจอหน้าอาจารย์สุดโหดทีไร ก็ต้องเกร็งขึ้นมาทุกครั้ง
“เอ่อ พอดีเลย ..เราใครนะ ซูโฮ? เซฮุน?” เพราะ จุดเด่นของการเป็นฝาแฝด อีกทั้งซูโฮยังเป็นนักกีฬาของโรงเรียนเลยไม่แปลกที่อาจารย์ส่วนใหญ่จะจำชื่อ ได้ ถึงแม้ว่าจะจำหน้าไม่ได้ก็ตาม อาจารย์ชี้นิ้วมาที่เซฮุนพลางทำหน้านึกก่อนที่เซฮุนจะเป็นฝ่ายให้คำตอบไปซะ เอง
“ผมเซฮุนครับ”
“เอ้อๆ นั่นแหละๆ มานี่หน่อยสิ” อาจารย์กวักมือเซฮุนให้เดินมาหา ซึ่งเด็กหนุ่มก็รีบทำตาม ขาเรียวรีบเดินก้าวไปหาอาจารย์
“ช่วยพาไอนี่ไปส่งที่ห้องD หน่อยสิ เพิ่งย้ายมาวันแรก” คนเป็นอาจารย์พยักเพยิดไปทางเด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนเท้าเอวด้วยความอารมณ์ที่ไม่น่าเข้าไปยุ่งด้วยเสียเท่าไหร่
ดูท่าอาจารย์จะหัวเสียมาก เพราะดูจากใบหน้าที่มีเหงื่อไหลหยดลงมา แสดงว่านักเรียนใหม่คนนี้คงจะทำให้ปวดหัวไม่น้อย ความจริงเซฮุนว่ามันน่าปวดหัวตั้งแต่การแต่งกายของคนๆ นี้แล้วล่ะ
ตั้งแต่ สีผมที่ย้อมเป็นสีส้มจัด ที่ใบหูทั้งสองข้างถูกประดับด้วยเครื่องเงิน กระดุมเสื้อเม็ดบนถูกปลดออก พร้อมกับเนคไทที่ผูกไว้หลวมๆ ซึ่งดูแล้วเหมือนเอาพาดคอเล่นเสียมากกว่า ชายเสื้อถูกปล่อยให้หลุดนอกกางเกง แล้วยังไม่รวมรองเท้าผ้าใบสีแสบตานี่อีก ทางโรงเรียนไม่ได้เคร่งเรื่องการแต่งกายก็จริง แต่ดูแล้วแบบนี้มันก็ไม่ค่อยเหมาะสมที่จะชุดอยู่ในชุดนักเรียนสักเท่าไหร่
“อ่า... ครับ ได้ครับ” เซ ฮุนพยักหน้าอย่างจำใจ ก่อนจะส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับอีกคนเพื่อว่าอะไรๆ มันจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย.. คนตรงหน้ากลับมองเข้าตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วร้องเห๊อะ! ออกมา ทำเอาเซฮุนหน้าเสียไปทันที
“ไปได้แล้ว ลู่หาน! ทำตัวให้มันดีๆ ด้วย” มือใหญ่ของอาจารย์ผลักไหล่ของเด็กอีกคนมาทางเซฮุน ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินกลับเข้าพักครูไป
ลู่หาน เป็นชื่อของเด็กหนุ่มคนนี้ เซฮุนนึกอยากจะถามว่าทำไมชื่อแปลกจัง แต่ก็ต้องรีบเก็บคำถามนั้นไว้ในใจ เพราะดวงตากลมโตคล้ายลูกกวางที่มองมาที่เซฮุนอย่างไม่เป็นมิตร หน้าออกจะหวานแต่ท่าทางนี่ผิดกับหน้าตาไปเยอะ..
ที่ระเบียงเลยเหลือเพียงเซฮุนที่ทำอะไรไม่ถูกกับเด็กหนุ่มท่าทางร้ายๆ ในความคิดของเซฮุน อยู่กันสองคน..
“ด..เดินตามเรามาแล้วกันนะ” เซ ฮุนกระชับกระเป๋าสะพายบนไหล่ตัวเอง ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินไปยังอีกทาง ความคิดที่ว่าจะไปเล่นเปียโนที่ห้องชมรมหายไปแล้ว เพราะมีอย่างอื่นที่ถูกใช้ให้ทำแทน
เซฮุนเดินนำขึ้นตึกเรียน โดยที่ไม่คิดแม้แต่จะหันหลังกลับไปมองคนที่ตนเองบอกว่าให้เดินตามมา ขนาดแค่นี้ยังรู้สึกว่าแผ่นหลังถูกจ้องจนพรุน รู้สึกว่าดวงคู่ตาของคนที่ชื่อลู่หานกำลังจ้องมาอย่างไม่คิดจะกระพริบตา เรียวลิ้นสวยแลบเลียริมฝีปากตนเองเพื่อลดความประหม่า เรียวขาก็ก้ามตามขั้นบนได นึกอยากจะให้มีบันไดเลื่อนขึ้นมาเพื่อว่าจะได้ไม่ต้องอยู่ในสถานการณ์ชวนอึด อัดแบบนี้ จนในที่สุดก็พาตัวเองพร้อมอีกคนมาถึงชั้นเรียนจนได้
ก้าวผ่านห้องเรียนของตนเองก่อนหยุดลงที่หน้าห้องที่ป้ายติดไว้ว่า ปี3-D ซึ่ง ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมของพวกที่ชอบสร้างปัญหาให้โรงเรียนมากที่สุด แต่ก็นับว่าเป็นห้องที่บริจาคเงินให้โรงเรียนมากที่สุดเช่นเดียวกัน เรียกง่ายๆ ก็พวกเด็กบ้านรวย พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ เลยชอบสร้างปัญหา
เซฮุนหันกลับมาหาอีกคนที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ ริมฝีปากของอีกคนกระตุกยิ้มอย่างที่เซฮุนไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้านี่ยิ้มในเรื่องอะไรอยู่
“ถึงแล้ว เนี่ยปี3ห้องD” เสียง หวานเอ่ยบอกอีกฝ่าย ก่อนจะก้มหน้าลงแล้วเตรียมจะเดินออกจากตรงนี้เพื่อกลับเข้าห้องเรียน ถ้าไม่ติดว่าอีกคนเรียกไว้เสียก่อน เลยทำให้เซฮุนต้องหยุดลงแล้วหันมาหาอีกฝ่าย
“เดี๋ยวดินาย..เซฮุนใช่มั้ย” ลู่ หานทวนชื่อของอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจ เพราะเมื่อครู่ก่อนจะขึ้นห้องได้ยินอาจารย์เรียกคนนี้ว่าอย่างนั้น ใบหน้าหวานพยักหน้าขึ้นลงตามนั้น
“เที่ยงนี้พาฉันไปกินข้าวด้วย” จู่ๆ ก็เอ่ยคำสั่งกับคนที่เพิ่งเจอกันได้ไม่กี่นาที ดวงตาเรียวเบิกกว้างก่อนจะร้องห๊ะออกมา ก่อนจะส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“นายก็ชวนเพื่อนในห้องไปกินดิ” เซ ฮุนบอกเหตุผลไปตามนั้น เรื่องอะไรจะให้คนที่ตัวรู้สึกว่าน่ากลัวมาทำความรู้ด้วย แค่เดินมาด้วยกันนี่เกร็งจะแย่ แล้วจะให้ไปนั่งกินข้าวด้วยกัน มีหวังกินไม่ลงกันพอดี
ถึงดูไปแล้วลู่หานจะหน้าตาน่ารักก็เถอะนะ... น่ารักกว่าเขาอีก แต่ดูยังไงก็เหมือนพวกเด็กไม่ดีชัดๆ กิริยาท่าทางกับหน้าตานี่ไม่ได้เข้ากันเลยจริงๆ
“อย่าให้ต้องพูดซ้ำ โอเซฮุน” ดวง ตากลมโตลอบมองป้ายชื่อที่ติดอยู่บนแผ่นอกของเซฮุน ก่อนจะอ่านออกเสียงดัง ทำให้เซฮุนต้องยู่หน้าไม่พอใจ ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องเรียนของตัวเองไป
ลับหลังที่เซฮุนเข้าห้องเรียนไปแล้ว ลู่หานก็ยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจเหมือนได้ของเล่นใหม่ ... โอเซฮุนเหรอ ท่าทางน่าแกล้งอย่างบอกไม่ถูก ดูจากนิสัยหยิ่งๆ แบบนั้นแล้วก็ยิ่งชอบ ท่าทีดูกลัวกับทุกสิ่งไปหมดแต่กลับกล้าน่าดู หรือที่เขาเรียกกันว่าอวดเก่ง..
♥ 2 1 3 ♥
“โอ๊ยยย เมื่อยชะมัดเลย”
ซูโฮบ่นออกมาหลังจากที่รถจากรถเมื่อถึงที่หมาย แขนเรียวยกขึ้นบิดเพื่อไล่ความเมื่อยจากการนั่งรถติดกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง มือขาวยกขึ้นลูบใบหน้า ตบเบาๆ สองสามทีเพื่อให้รู้สึกกระฉับกระเฉง ก่อนจะมองซ้ายขวาดูสมาชิกทีมของตนเอง บางคนวิ่งไปอ้วกที่ถังขยะ บางคนยังนอนนิ่งอยู่บนรถจากการที่ตื่นเช้าแล้วก็มาหลับต่อในรถ พลันดวงตาเรียวก็หันไปเห็นสมาชิกใหม่ของทีมที่เมื่อครู่ก็หันมามองตนเองเช่น เดียวกัน ก่อนที่จะหลบสายตาไปพอเขาหันไปมองตามบ้าง
..มองอะไร นึกอยากจะเดินเข้าไปถามเหมือนกัน แต่เดี๋ยวมันจะกลายเป็นว่าเข้าไปหาเรื่องซะมากกว่า ก็เลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า พิมพ์ข้อความส่งหาน้องชายที่เดาว่าตอนนี้คงจะนั่งเรียนอยู่ ซูโฮส่งไปบอกว่าตอนนี้ถึงที่หมายแล้ว พร้อมแนบรูปถ่ายวิวสวยๆ ติดไปด้วย หลังจากที่คุณแม่จากไปก็ไม่ค่อยได้มีเวลามาเที่ยวครอบครัวสักเท่าไหร่ คุณพ่อก็ทำแต่งานเลยไม่ค่อยมีเวลาได้มาเที่ยว แต่ก็ยังทำหน้าที่คุณพ่อที่อบอุ่นได้ดี ส่วนมากจะเป็นซูโฮที่ได้ออกมาเปิดบรรยากาศสดชื่นแบบนี้แทนที่จะอยู่ในเมือง ที่มีแต่ตึกสูงและควันรถเสียมากกว่า เพราะว่าต้องมาเก็บตัวซ้อมอยู่ทุกครั้ง ก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปกลับไปให้คนที่บ้านดู ไม่นานน้องชายแสนรักก็ส่งข้อความตอบกลับมาเรียกรอยยิ้มหวานของซูโฮให้เผยออก ...เดาว่าตอนนี้เซฮุนก็คงมีใบหน้าที่ไม่แตกต่างกัน
“เอ้าๆ พวกเรามาทางนี้ เดี๋ยวจะจับฉลากกันนะว่าใครจะนอนร่วมห้องกับใคร” อี้ฟานปรบมือเรียกสมาชิกที่ซนอย่างกับลิงได้ออกมาเที่ยวนอกกรงให้มายืนรวมกันตรงลานกว้าง
ในมืออี้ฟานถือกล่องกระดาษที่ภายในนั้นรวมชื่อนักกีฬาทั้งหมด การจับฉลากเลือกว่าใครจะอยู่ห้องกับใครถือเป็นการวัดดวงอย่างนึง.. เพราะคิดดูแล้วกันว่าต้องอยู่ด้วยกันเป็นสิบวัน ถ้าได้อยู่กับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าก็คงจะไม่ดี วูบนึงซูโฮคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าเกิดได้อยู่ห้องเดียวกับไอบ้าจงอินขึ้นมาจะไป ขอแลกกับใครดี... เพราะดูแล้วในทีมก็ดูไม่มีใครชอบจงอินเสียเท่าไหร่ เพราะความเก่งของจงอินก็เป็นอย่างนึงที่ทำให้คนอื่นหมั่นไส้ แล้วยังโดดซ้อม มาสายบ่อยๆ แต่โค้ชสุดโหดอย่างอี้ฟานไม่เห็นจะว่าอะไรสักคำ ลองมาเป็นคนอื่นสิ.. โดนด่าเละไปแล้ว
“มา ฮยอนชอล เด็กสุด จับคนแรกเลยแล้วกัน” อี้ฟานเรียกสมาชิกทีมที่อายุน้อยที่สุดให้ออกมาจับก่อน
เด็กคนนี้น่ารักมากในสายตาของซูโฮ ..ตัวเล็ก ผิวขาว ผมดำ กับดวงตากลมโตนั่น น่ารักจริงๆ เหมือนทอมเลย แต่ถึงจะตัวเล็กก็เล่นเก่ง ที่สำคัญอี้ฟานก็ดูจะชอบพอในตัวเด็กคนนี้มาก เลยคิดว่าจะให้เล่นเป็นตัวจริง
“ผมได้พี่แทวอน~” ฮยอน ชอลพูดร่าเริงก่อนจะเดินไปหารุ่นพี่ที่ตนเองจับฉลากได้ ฮยอนชอลเป็นคนน่ารัก เข้ากับคนง่าย แถมยังเป็นน้องเล็กของทีมที่ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้ เพราะงั้นการจะอยู่ร่วมห้องใครเลยไม่ใช่ปัญหาของน้องเล็กคนนี้เสียเท่าไหร่
การจับฉลากเลือกห้องยังทำต่อไปเรื่อยๆ อี้ฟานเรียกสมาชิกคนอื่นๆ ไปจับ จนเหลือเพียงไม่กี่คน ซึ่งในลานนี้ก็เหลือเพียงแค่ ซูโฮ จงอิน มินฮยอก จงฮยอน แล้วก็มินโฮ ส่วนชานยอลได้อยู่กับจีฮวานเด็กปี1 อีกคน ตอนนี้เลยไปนอนเล่นรอที่ห้องเรียบร้อยแล้ว
ซู โฮมองสมาชิกที่เหลือก่อนเบะปากออก ในใจภาวนาขอให้ใครเป็นก็ได้ที่ไม่ใช่จงอิน... มือขาวล้วงเข้าไปในลังกระดาษ หยิบม้วนกระดาษแผ่นเล็กที่เหลือเพียงไม่กี่แผ่น ในใจเต้นตึกตักอย่างกับรอประกาศผลสอบทั้งที่ความจริงแค่เลือกห้องเท่านั้น นิ้วเรียวค่อยๆ คลายม้วนกระดาษออกมาก่อนหรี่ตาลงเพื่ออ่านชื่อนั้นชัดๆ
แต่โบราณเขาว่าเกลียดอะไร เขาว่าจะได้อย่างนั้น ...
“คิมจงอิน”
พระเจ้า ...ทำไมถึงได้กลั่นแกล้งโอซูโฮแบบนี้ล่ะครับ
ซูโฮครวญครางในใจ ก่อนจะรีบเดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นพาดบ่าแล้วเดินออกไปอย่างไม่สบ อารมณ์ตามด้วยจงอินที่เดินตามมาพลางหัวเราะกับท่าทางเกลียดชังของอีกฝ่าย ไม่รู้ทำไมเวลาที่จงอินเห็นหน้าซูโฮแล้วนึกอยากจะแกล้งอยู่ตลอดเวลา ชอบเวลาใบหน้าหวานหงุดหงิด หรือเวลาทำอะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจ ไม่พอใจ เห็นแล้วก็ยิ่งอยากแกล้งหนักเข้าไปอีก
ซู โฮเหวี่ยงกระเป๋าลงกับเตียงอีกฝั่ง พร้อมกระโดดลงกับเตียงนุ่ม ใบหน้าหวานซุกลงกับหมอนใบโตอย่างผ่อนความเมื่อยจากการนั่งรถทั้งวัน กายบางกลิ้งไปมาบนเตียง จนอีกคนที่ต้องอยู่ร่วมห้องเดียวกันเข้ามาถึงได้หยุดการกระทำที่เหมือนเด็ก นั้น กายบางลุกขึ้นยืนก่อนจะจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบพลางส่งเสียงกระแอมไอ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเดินเข้ามานานแล้วเหมือนกัน จงอินวางกระเป๋าลงบนอีกเตียงที่ยังว่างอยู่พลางอ้าปากหาววอด ใบหน้าคมที่ซูโฮคิดว่ามันดูง่วงตลอดเวลาหันมามองตัวเขาพอดี คิ้วสวยเลยเลิกขึ้นอย่างหาเรื่องตามประสาคนไม่ชอบยอมใคร
“นายห้ามมายุ่งกับฝั่งของฉันเด็ดขาด เข้าใจมั้ย!” แขนเรียวยกขึ้นกอดอก พลางออกคำสั่งกับอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ จงอินเงยขึ้นมองซูโฮ ก่อนจะส่ายหน้าอย่างรำคาญ
“ใครจะอยากไปยุ่งของนาย”
“…อะ ฉ..ฉันก็แค่บอกไว้!!” พอเจออีกฝ่ายที่ตอบมาหน้านิ่ง ก็ทำเอาซูโฮไปต่อไม่เป็น ยิ่งเห็นหน้าจงอินที่ดูจะกวนเขาได้ตลอดเวลาก็ยิ่งโมโห ใบหน้าหวานสะบัดหนีไปอีกทางก่อนจะรีบเดินออกจากห้องเพราะใกล้ได้เวลาทาน อาหารเย็นก่อนที่จะเริ่มซ้อมในภาคค่ำ
จงอินยกยิ้มกับท่าทีของอีกฝ่าย ถึงจะขี้โมโห แต่ดูแล้วมันตลกเสียมากกว่า ถึงได้ชอบยั่วให้โมโหไงล่ะ ได้เห็นคนเดินตามเกมส์ที่วางเอาไว้ มันสนุกจะตายไป
การซ้อมในภาคค่ำเป็นแค่การซ้อมเรียกเหงื่อให้ร่างกายได้หลับสบายในช่วงกลางคืน ซ้อมของจริงอี้ฟานได้จัดตารางไว้พรุ่งนี้ เริ่มแรกคือการตื่นแต่เช้ามืดเพื่อทำการวิ่ง ที่พักเป็นที่สำหรับนักกีฬาโดยเฉพาะ มีที่สำหรับออกกำลังในยามเช้า เนินเขาถูกตัดแต่งเป็นขั้นบันได เลยเหมาะสำหรับการออกกำลังกายในตอนเช้า อีกทั้งที่นี่อี้ฟานก็ได้มาดูก่อนหน้านี้แล้วเลยไม่มีปัญหาอะไร ถัดจากการวิ่งก็จะเริ่มเข้ามาในโรงยิม พลัดกับชู๊ตบาสให้ลงห่วง วิ่งไปกลับตามความกว้างของโรงยิม จากนั้นถึงจะเป็นเวลาทานอาหารเช้า
หลังอาหารค่ำก็เป็นช่วงเวลาพักผ่อนสักที… บรรยากาศ ริมทะเลพร้อมภูเขาที่อยู่ด้านหลังเลยไม่มีโอกาสได้ออกไปเหยียบ เพราะซ้อมเสร็จก็เหนื่อย ต่างก็อยากจะนอนแผ่ลงกับเตียงนุ่ม นอนเอาแรงเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ซ้อมต่ออยากเต็มที่ ช่วงเวลาเก็บตัวนี่ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยที่สุดของทีมบาสโรงเรียนนี้ เลยก็ได้ นอกจากโรงเรียนจะทุ่มเทให้กับเรื่องนี้แล้ว ชัยชนะก็ยังเป็นสิ่งที่โรงเรียนต้องการอีกด้วย สวัสดิการที่โรงเรียนให้กับทีมบาสเก็ตบอลเลยมีไม่อั้น ถ้าชนะแล้วก็มีสิทธิ์ที่จะยกทีมไปเที่ยวฟรีๆ เลยด้วยซ้ำ
หลังสิ้นสุดการซ้อมของวันนี้ซูโฮกลับมาที่ห้องพร้อมอาบน้ำเตรียมเข้านอนทันที ไม่ได้สนใจว่าเพื่อนร่วมห้องที่ตนจะต้องอาศัยอยู่ด้วยในสิบวันนี้หายไปไหน ดี..จะได้อยู่คนเดียว กายบางพันผ้าเช็ดตัวที่รอบเอวก่อนจะหายเข้าไปห้องน้ำ การได้อาบน้ำเย็นๆ หลังจากซ้อมบาสเสร็จนี่เป็นอะไรที่เขาชอบที่สุด มือบางวักน้ำไปตามผิวกายนุ่ม บีบสบู่เหลวจากขวดที่เป็นกลิ่นเดียวกับที่ใช้ที่บ้านลูบเบาๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่ทำให้ซูโฮนึกถึงน้องชายตนเองที่ป่านนี้คาดว่าคงกำลังจะเข้านอนไม่ก็ ทำการบ้านอยู่
เฮ้อ.. อยากกลับไปกอดตัวนุ่มๆ ของเซฮุนชะมัด
♥ 2 1 3 ♥
ย้อนกลับไปช่วงพักกลางวันของโรงเรียน..
ใบหน้าหวานหันซ้ายขวา เมื่อพบว่าไม่มีใครเลยรีบเดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมดึงเพื่อนซี้ของตนเอง ให้ออกมาด้วย คยองซูที่สงสัยว่าเพื่อนมีสีหน้าแปลกๆ ตั้งแต่เช้าแล้ว พอถามก็ไม่ตอบ แล้วพอมาพักกลางวันยังทำลับๆ ล่อๆ เหมือนต้องการจะหลบใครอยู่อีก ทีแรกนึกว่าเพื่อนคิดถึงพี่ชายที่ไปเก็บตัว จริงๆ แล้วคยองซูก็คิดถึงเหมือนกันนะ คิดถึงชานยอล… จะบอกให้ว่าตอนนี้คยองซูกับชานยอลเขากำลังอยู่ในช่วงดูใจกันอยู่นะ..
“นี่ หลบใครอะ เซฮุน เห็นแปลกๆ ตั้งแต่เช้าแล้วนะ” เพราะ ความสงสัยที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เพื่อนตัวเล็กตัดสินใจถามอีกรอบ หลับจากที่พวกเขาทั้งสองคนซื้อข้าวมานั่งทานที่โต๊ะได้เรียบร้อยแล้ว
“อ๋อ ก็ไม่ได้หลบใครหรอก” เซ ฮุนยิ้มให้คยองซู ก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักข้าวกินต่อ ไม่ได้สนใจว่าตอนนี้มีเงาตะคุ่มด้านหลังที่กำลังแผ่รังสีอำมหิตออกมา คยองซูที่เงยหน้าขึ้นมาพอดี กำลังจะร้องเรียกเพื่อนให้หันกลับไปดูเพราะคิดว่าคนๆ นี้อาจเป็นคนรู้จักของเซฮุนหรือเปล่า แต่ปลายนิ้วของอีกฝ่ายยกขึ้นแตะริมฝีปากตนเองเป็นเชิงว่าให้เงียบ คนตัวเล็กเลยรีบหลุบตาต่ำลงแล้วก้มทานข้าวของตนเองต่อ
“มีอะไรเหรอคยองซู” เซ ฮุนถามคยองซูที่จู่ๆ ก็มีอาการลุกลี้ลุกลน ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบ เสียงมือกระทบกับโต๊ะไม้ที่พวกเขาใช้วางจานข้าวอยู่ก็ดังขึ้นพร้อมเสียง เย็นๆ ที่ดังขึ้นด้านหลัง
กายบางสะดุ้งก่อนจะหันไปตามเสียงที่ดังขึ้นด้านหลังของตนเองก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะเบิกกว้าง..
“เหวอ!!!”
อุตส่าห์ค่อยๆ หลบออกมาจากห้องเรียนแล้วนี่ยังมาตามหาจนเจออีกหรือไงเนี่ย!
ใช่แล้ว.. คน ที่แผ่รังสีอำมหิตใส่ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลเลย คนที่เซฮุนเพิ่งเจอเมื่อเช้า คนที่บอกว่าให้พาไปกินข้าวด้วย แต่เซฮุนไม่อยากก็เลยรีบหลบออกมาก่อน แล้วก็ไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินมาหาถึงโต๊ะแบบนี้ด้วย กายบางถอยไปที่เก้าอี้ฝั่งด้วยความตกใจ ลู่หานเลยถือโอกาสนั่งลงตรงที่วางด้านข้าง
“ม..มาได้ไง” เสียง หวานถามอีกฝ่ายที่ในมือถือถาดอาหารไว้ พร้อมวางลงบนโต๊ะเสียงดัง ลู่หานหันมามองคนตัวบางด้วยสีหน้าที่บอกได้ว่าหงุดหงิดเป็นที่สุด คิ้วสวยขมวดยุ่งกับดวงตากลมโตที่แทบจะถลนอยู่แล้ว เซฮุนกลืนน้ำลายก่อนจะเขยิบตัวออกห่างอีกฝ่ายจนชิดขอบโต๊ะอีกฝั่ง
นิ้วของลู่หานถูกยกขึ้นชี้หน้าอีกฝ่ายพร้อมเอื้อมคว้าแขนอีกฝ่ายดึงเข้ามาใกล้จน กายบางปลิวไปกับแรงดึงของลู่หานที่ดูเหมือนจะตัวเล็กแต่แรงเยอะน่าดู
“ทำไมไม่รอฉัน” ลู่หานถามนิ่งพลางจ้องใบหน้าหวานของเซฮุนไปด้วย สีหน้าตื่นๆ ของเซฮุนทำให้ลู่หานนึกอยากแกล้งคนตรงหน้าขึ้นมา
จริงๆ เขาเห็นตั้งแต่เซฮุนออกมาจากห้องเรียนแล้ว พอเห็นว่าเซฮุนหันซ้ายหันขวา กำลังจะเดินเข้าไปทัก แต่จู่ๆ เซฮุนก็ไปลากเพื่อนให้เดินตามออกมาพร้อมวิ่งลงบันไดจนหายลับไป คนรออย่างลู่หานก็งงน่ะสิ ทั้งที่ก็รู้ว่าเซฮุนดูไม่เต็มใจเท่าไหร่ที่จะให้เขาไปนั่งทานข้าวด้วย ลู่หานเลยตัดสินใจไปนั่งทานข้าวกับเพื่อนร่วมห้องคนใหม่แทน แต่เจอของเล่นใหม่ก็อยากเล่นด้วย เลยได้ทีแอบเดินตามมาถึงโรงอาหาร ดวงตากลมมองทั่วโรงอาหารครู่เดียวก็เจอคนที่เขาต้องการนั่งอยู่ริมสุดของโรง อาหาร
“อ้าว …ก.ก็ไม่เห็นนาย นึกว่าลงไปแล้ว” เสียงหวานพูดตะกุกตะกัก แล้วมีหรือที่ลู่หานจะจับไม่ได้ โกหกไม่เนียนเอาซะเลย
“อ๋อ ไม่เห็นฉันใช่มั้ย ได้…ต่อไปนี้นายได้เห็นหน้าฉันทุกวันแน่!”ลู่หานพูดเสียงดัง ก่อนยกถาดอาหารแล้วเดินไปที่โต๊ะอีกมุมนึง ซึ่งมีเพื่อนๆ นั่งรออยู่
ลับหลังระเบิดลูกใหญ่ที่มาลงใส่โต๊ะที่เซฮุนกับคยองซูนั่งอยู่ ทุกอย่างก็สงบลง เซฮุนมองตามคนทีเพิ่งเดินจากไปอย่างงงๆ หนึ่งคือไม่เข้าใจว่าคนๆ นี้ต้องการอะไรกันแน่ เซฮุนนึกไปถึงตอนเช้าก็ว่าไม่ได้ทำอะไรไม่ดีใส่คนๆ นี้แล้วทำไมจะต้องมาหาเรื่องกันด้วย สองคือ…. แล้วทำไมต้องเป็นโอเซฮุนด้วย เป็นคนอื่นไม่ได้หรือไง รู้ๆ กันอยู่ว่าเด็กห้องD ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวด้วยมากที่สุด แล้วไหงกลายเป็นว่าเขาต้องไปพัวพันกับคนๆ นี้ด้วยเนี่ย… สักวันจะถูกยิงตายขึ้นมาหรือเปล่าก็ไม่รู้
“นายรู้จักคนนั้นด้วยเหรอ เซฮุน” คยองซูถามขึ้นหลังจากที่ทุกอย่างกลับคืนสู่ความปกติ
เซฮุนหันไปยิ้มแหยให้เพื่อนตัวเล็ก ก่อนมือขาวจะยกขึ้นขยี้ผมตัวเองแรงๆ แล้วเบะหน้าคล้ายจะร้องไห้
“ความจริงก็ไม่… แต่เมื่อเช้าอาจารย์ให้เราไปส่งเขาที่ห้องD แล้วเขาก็บอกให้พาไปกินข้าวด้วย แต่เราไม่ได้พาเขาไป…ก็แค่นี้ล่ะ”
“เขาก็เลยโกรธนายอะดิ …โชคดีนะ เซฮุนนา” คยอง ซูที่ไม่รู้จะให้กำลังเพื่อนยังไง ที่กล้าไปขัดใจเด็กห้องนั้น แต่เท่าที่จำได้ว่าเพิ่งจะเคยเห็นหน้าคนเมื่อครู่ ก็สงสัยจะเป็นเด็กเข้าใหม่ แล้วก่อนหน้านั้นก็คงจะทำเรื่องไว้เยอะน่าดู ไม่งั้นคงไม่ได้อยู่ห้องD หรอก
“โชคดีอะไรเล่า คยองซู เราอยากอยู่เงียบๆ นะ” แค่ ลู่หานจำหน้าได้ก็ว่าแย่แล้ว นี่จำชื่อได้ยิ่งแย่หนักเข้าไปอีก แล้วก็รู้เลยว่าจากนี้ชีวิตคงจะหาความสงบสุขภายในโรงเรียนไม่ได้แน่ๆ จากคำพูดของลู่หานเมื่อกี๊
และที่สำคัญ… เรื่องนี้ห้ามให้พี่ซูโฮรู้เด็ดขาด ขืนรู้ได้ตีตั๋วรถด่วนกลับมาแน่ๆ แล้วก็จะทำให้ทีมเสียเวลา เพราะงั้น …เซฮุนไม่ได้ตั้งใจจะปิดพี่ซูโฮนะครับ แค่ยังไม่ได้บอกเท่านั้นเอง อย่าโกรธผมนะ… ถ้าพี่เกิดรู้ขึ้นมา ฮืออ…
♥ 2 1 3 ♥
.
.
TBC .. ♥
ฮาโหลวว ...ตอนนี้มาอัำพเร็วมั้ย ฮ่าๆๆๆๆ
ตอนนี้ให้พี่น้องเค้าห่างกันบ้าง อิ้อิ้ ...ทุกคนเขินจงอินที่เป็นแบบไหนกันคะ จงอินบึ้งๆ เวลาอยู่กับซูโฮ..หรือว่าเป็นผู้ชายซึนๆ น่ารัก เวลาอยู่น้องเซฮุน .. O///O
แล้วก็..มีตัวละครมาเพิ่มแล้วค่ะ พี่ลู่หานสุดแมนนั่นเอง คือ.. บอกไว้ก่อนน้า คือเลาชอบพี่ลู่หานแมนๆ มากเลย -////- แบบชอบมาก
ชอบพี่ลู่หานเมะค่ะ ..ขออภัยคนที่มองพี่ลู่หานเป็นเคะน่ารักๆ ด้วยน้า ฮืออ..
ช่วงแรกๆ มันอาจจะดูน่าเบื่อไปบ้าง แต่อีกแปปนึงนะคะ จะพยายามออกให้ได้ดีที่สุดค่ะ ขอบคุณทุกๆ คนเลย
ตอนนี้ตอนหน้า... จงอินเค้าอยู่กับพี่ซูโฮจะเป็นยังไงนะ? อิ้อิ้
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ดีใจมาก ♥
ความคิดเห็น