คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ฮ า จิ ม า - บ ท ที่ สี่ [ 100% ]
하 지 마
04
“สาบานกับกูว่านั่นแฟนเก่ามึงจริงๆ”
“เออดิ..ทำไมวะ??”
“อึ้งครับ พี่เขาหล่อแบบโลกตะลึงเลยนะ พอกูมามองหน้ามึงดูแล้ว ไอ้สาส คนละขั้วเลยครับ” คยองซูพูดพร้อมกับแอคชั่นแบบตลึงสุดๆ อย่าว่าแต่คยองซูเลย แบคฮยอนก็อึ้งกิมกี่เหมือนกัน
“กูก็อึ้ง เมื่อก่อนพี่เขาไม่หล่อขนาดนี้นะโว้ย”
“กูก็ว่างั้น ถ้าเขาหล่อแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆนะ มึงไม่ได้แอ้มแม้แต่ปลายผมเขาหรอก” แบคฮยอนคว่ำปากเบาๆ อะไรกัน เขาเองก็หน้าตาพอใช่ได้เลยนะ ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สักหน่อย แล้วอีกอย่างพี่ฟานกับเขาก็รักกันจะเป็นจะตายด้วยในสมัยนั้นน่ะนะ....
“กลับบ้านเองเลยมึง!! กูจะจอดริมถนนแล้วทิ้งให้มึงหาทางกลับเอง”
“อ้าวๆ แค่นี้งอนกูแล้วเหรอ...”
“เออ!” แบคฮยอนกระแทกเสียงตอบนั่นทำให้คยองซูหลุดขำนิดๆ ความจริงคยองซูก็ต้องการให้แบคฮยอนจอดรถตรงปั๊มน้ำมันตรงหน้านี่อยู่แล้ว เพราะเขาเองก็นัดใครบางคนไว้ ใครบางคนที่กว่าจะหาเวลาออกมาเจอกันได้ก็ยากแสนยาก
“โอ๋ๆ ไม่งอนกูนะ จอดปั๊มเลย กูนัดเพื่อนไว้น่ะ”
“เพื่อนไหนวะ??”
“เพื่อนสมัยมัธยม.. มึงไม่รู้จักหรอก”
“เออๆ”
หลังจากที่แบคฮยอนไปแวะส่งคยองซูที่ปั๊มน้ำมันแล้ว เขาก็ตีรถกลับมาที่หอพักของตัวเอง อาบน้ำชำระร่างกายจนรู้สึกสบายตัว แล้วเอนหลังนอนลงบนเตียงนุ่มที่ใช้หลับนอนอยู่เป็นประจำ นึกย้อนกลับไปตอนนี้รู้จักกับพี่ฟานครั้งแรกแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ความรักสมัยเด็กของเขามันสดใส และเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ไม่มีร้องไห้เลยจนถึงตอนต้องแยกทางกัน ไม่รู้จักคำว่าเสียใจเพราะความรักเลยด้วยซ้ำ จนเมื่ออายุมากขึ้นเท่านั้นแหละ แค่คนที่รักเมินยังเจ็บปวดไปถึงหัวใจเลย...
“พี่ฟานๆ แบคฮยอนอยากกินไอศกรีม”
‘พูดแบบนี้อยากให้พี่เลี้ยงใช้มั้ยหื้ม??’
“ใช่แล้ว ไอศกรีมของพี่ฟานมันอร่อย”
‘ก็ร้านเดียวกันนี่ครับ มันต่างกันที่ไหน’
“ก็ต่างตรงที่พี่ฟานเป็นคนซื้อให้ไง....”
แบคฮยอนนอนยิ้มอยู่บนเตียง ตอนนั้นมันมีความสุขสุดๆเลยล่ะ จนกระทั่งวันนั้นมาถึง วันที่พี่ฟานต้องย้ายตามครอบครัวไปที่จีน พวกเขาไม่มีแม้แต่เวลาจะบอกลากันด้วยซ้ำ จำได้ว่าคุณแม่ของแบคฮยอนพาแบคฮยอนที่ร้องไห้งอแงไปสนามบินเพื่อที่จะร่ำลาอี้ฟานก่อนจากกัน.....
พวกเขาติดต่อกันผ่านMSN บางครั้งก็โทรทางไกล แต่เมื่อผ่านไปไม่กี่เดือน อี้ฟานก็เป็นฝ่ายตัดสัมพันธ์กับแบคฮยอน เหตุผลเพราะว่า อยากให้แบคฮยอนเจอใครอีกคนที่สามารถทำให้แบคฮยอนหายเหงาได้ ...... พวกเขาคุยกันจนเข้าใจทั้งสองฝ่าย แบคฮยอนไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่ควรรู้สึก แต่คนที่เป็นฝ่ายบอกเลิกต่างหากที่เจ็บปวดที่สุด
‘รอพี่นะครับ แล้วพี่จะกลับไปหาเรา’
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายของความสัมพันธ์ที่ถูกเรียกว่าแฟน หลังจากนั้นพวกเขาก็ยังติดต่อกัน หากแต่ไม่บ่อยเท่าเดิม จากสัปดาห์ละครั้ง กลายเป็นเดือนละครั้ง และปีละครั้งในที่สุด.....
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อน อี้ฟานโทรทางไกลกลับมาพร้อมกับบอกว่าจะเทียบโอนเข้ามาศึกษาต่อที่โซล.... แบคฮยอนอาสาเป็นธุระให้ในทุกๆเรื่อง อี้ฟานแค่เข้ามาเรียนเลยเท่านั้น แต่ยังมีอีกเรื่องนึงที่ทำให้แบคฮยอนต้องเก็บมาเครียดจนถึงตอนนี้
“พี่กลับมาตามสัญญา พี่กลับมาหาเราแล้วครับแบคฮยอน”
สัญญาที่ว่าคงไม่ต้องพูดหรอกนะว่าหมายความว่ายังไง....
“แบคฮยอน กูขอติดรถไปด้วยดิ” เซฮุนคุยกับแบคฮยอนที่กำลังสวมรองเท้าราคาแพงเข้ากับเท้าเล็กๆอยู่
“รถเสียเหรอวะ?” แบคฮยอนเอ่ยถามกลับอย่างสงสัย เซฮุนเคยบอกว่าไม่ชอบกลิ่นในรถของแบคฮยอนนี่นา เซฮุนบอกว่ามันฉุนเกินไป
“เออ รถเสีย...” เซฮุนโกหกคำโตเลยแหละ เพราะทุกวันนี้จงอินยึดกุญแจรถของเซฮุนเอาไว้นี่นา ต้องอาศัยแบคฮยอนนี่แหละ เซฮุนไม่อยากเจอจงอินนี่ครับ
“แล้วเข้าศูนย์รึยังวะ รถคุณมึงยิ่งหาอะไหล่ซ่อมยากๆอยู่”
“เดี๋ยวเขามาเอา..กูว่าเรารีบไปกันเถอะ” เซฮุนรีบออกไปยืนรอที่ประตู เร็วๆหน่อยสิแบคฮยอนชักช้าเดี๋ยวไอ้จงอินก็มาดักพอดี...
“ทำไมรีบจังเลยวะ กูยังไม่ได้หยิบกระเป๋าเลย...”
“กูลางสังหรณ์ไม่ดีเลยว่ะ มึงควรรีบๆนะ” เซฮุนพูดอีกครั้ง เร็วหน่อยดิโว้ยยยย!! เดี๋ยวจงอินก็ออกไปก่อนเขาพอดี
ออดดด
“ใครมาวะ ทำไมไม่เปิดประตูล่ะ...” แบคฮยอนเอี๊ยวคอมาถามขณะที่กำลังยัดชีทลงในกระเป๋าเป้....
“สามีในมโนของมึง จะให้กูเปิดมั้ย?” เซฮุนหันไปมองจอมอนิเตอร์ที่แสดงภาพบริเวณหน้าประตูห้องไว้อย่างชัดเจน
“สามีอะไรของมึงล่ะ...เลิกเถอะ มันแค่อดีต”
“โว๊ะ พวกมึงนี่เนาะ ... เร็วๆเลย กูรีบสุดๆละ เดี๋ยวไอ้เชี่ยนั่นก็จะออกจากห้องแล้ว” เซฮุนโวยวายเหมือนคนเสียสติ เขาวิ่งไปหยิบเอากุญแจรถบนโต๊ะใกล้ๆแบคฮยอนก่อนจะหันมาทำหน้าเสียใจในสิ่งที่กำลังจะทำ
“กูขอโทษนะ มึงติดรถไปกับชานยอลแล้วกันเรียนพร้อมกันนี่ ที่เดียวกันอีก” เซฮุนเปิดประตูและวิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมามองเลย... แบคฮยอนยืนอึ้ง อะไรนะ ให้กูไปเรียนกับชานยอล กูยอมนั่งรถเมล์ไปดีกว่าครับ...
“อ่ะแฮ่ม..ๆ” แบคฮยอนหันไปค้อนใส่เจ้าของเสียงกระแอมหน้าห้อง
“รองเท้าติดคอรึไง??”
“อ้าวไอ้เตี้ย....เดี๊ยะๆ เดี๋ยวรองเท้ากูจะปลิวไปประทับที่หน้าหักๆของมึง”
“พูดงี้มาต่อยกันซักหมัดดีมะ?? อีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเรียน” แบคฮยอนถลกแขนเสื้อขึ้นอย่างมาดมั่น.... ดีเหมือนกัน ยิ่งคันไม้คันมืออยู่พอดี...
“หึ...ตัวแค่นี้ทำไรกูได้ครับ จะบอกให้นะ วันนั้นที่กูโดนมึงเตะเพราะกูไม่ระวังเฉยๆ ตัวแค่นี้ กูต่อให้มึงใช้สองมือ แล้วกูสู้มือเดียวเลย” ชานยอลยักคิ้วกวน ก่อนจะเดินเข้าไปชิดแบคฮยอนเรื่อยๆ ร่างเล็กถึงกลับต้องเดินถอยหลัง ไอ้บ้านี่เดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆแล้ว....
“อ้าวๆ ตัวสั่นเชียว...หน้าแดงด้วย อากาศร้อนมากรึไง” ชานยอลแกล้งถามทั้งๆที่รู้สาเหตุอยู่แล้ว แบคฮยอนเขินเขาแน่ๆ
“แล้วมึงขยับมาใกล้กูทำไมล่ะ ห่างๆหน่อย เหม็นเต่ามึงชิบหาย...” แบคฮยอนพูดเสียงสั่น และจ้องอีกคนไม่วางตา ความจริงชานยอลไม่มีกลิ่นตัวหรอก กลิ่นชานยอลมันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆยั่วเย้าอารมณ์ในแบบผู้ชายสุดๆเลยล่ะ
“ใครก็บอกว่ากูตัวหอม...มีมึงคนเดียวเลยนะที่ว่ากูตัวเหม็น” ริมฝีปากหนากระตุกยิ้ม และยื่นสองแขนออกไปดึงรั้งร่างของอีกคนเข้ามาจนชิดอก...
ตอนนี้หน้าของแบคฮยอนแนบอยู่ที่แผ่นอกกว้างของชานยอล...จมูกสวยได้กลิ่นหอมของชานยอลเข้าเสียเต็มๆ ก่อนจะรู้สึกขนลุกไปทั้งร่างเพราะอีกคนก้มลงมากระซิบข้างๆใบหู
“ดมอีกครั้งสิว่าตัวกูหอมเท่าตัวมึงรึเปล่าน้า...”
“................”
“เอ้าเงียบทำไมล่ะ หรือมึงอยากดมที่อื่นด้วย...”
“................”
“มึงใช้แชมพูยี่ห้ออะไรวะแบคฮยอน”
“........................”
“ทำไมหัวมึงมันเหม็นเขียวขนาดนี้....!!”
เหมือนฟ้าผ่าลงต่อหน้า นึกว่าชานยอลจะชมว่าแชมพูยี่ห้อนี้หอมมากซะอีก แต่ก็อย่างว่าล่ะ จะไปหวังอะไรกับไอ้หูกางนิสัยเสียแบบนั้น...
“โอ๊ยยยยย!!!....ไอ้เชี่ย!!!” ชานยอลตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดสุดขีด ก็แบคฮยอนเล่นไปเตะกล่องดวงใจของเขาเข้าให้ คงไม่ต้องบอกนะครับว่าตอนนี้ปวดลามไปถึงกกหูแล้ว
“อูยๆๆ ระวังใช้การไม่ได้นะจ๊ะ” แบคฮยอนได้โอกาสก็ล้อเลียนอย่างเต็มที่ เขาเองก็มีจุ๊กกูดู๋เหมือนกัน ต้องรู้อยู่แล้วแหละว่าเวลาโดนกระทบกระเทือนมันเจ็บขนาดไหน....
“มึงอยากลองใช้ดูบ้างมั้ยล่ะ?!!”
“สัด...!”
“จะได้รู้ไง ว่ามันยังใช้ได้รึเปล่า.....”
50%
เซฮุนรีบวิ่งไปที่ลานจอดรถ เขาแทบจะกระโดดเข้าไปนั่งในรถด้วยซ้ำ ในใจก็ภาวนาต่อพระเจ้าว่าอย่าให้เจอจงอินตอนนี้เลย ไม่เจอไปตลอดชีวิตเลยก็ดี....
มองซ้ายมองขวาก็พบกับความว่างเปล่า ไม่มีจงอินอยู่ที่นี่.... อ๊า...มีความสุขชะมัด วันนี้ได้ไปเรียนอย่างสบายใจแล้ว หลังจากที่มีเงาดำมืดมิดเกาะแกะไปด้วยประจำ
ถึงแม้ว่ากลิ่นในรถของแบคฮยอนมันจะไม่ค่อยเข้ากับรสนิยมของเขาก็เถอะ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อกุญแจรถของเขาถูกไอ้เงาดำนั่นยึดไว้ซะนี่.... จะไปไหนก็ต้องบอกมัน ก็ดีหน่อยที่บางครั้งจงอินไม่ว่างเขาจึงได้รับอนุญาตให้ขับไปเองได้ แต่พอลองซ่อนกุญแจดู ไอ้เงาดำบ้ากามนั่นก็ใช้กำลังขืนใจเอาไปเก็บไว้ตลอด....
มือเรียวหักพวงมาลัยรถราคาแพงของเพื่อนรักให้เลี้ยวเข้าไปที่บริเวณตึกคณะวิศวฯอย่างคุ้นเคย รถของแบคฮยอนถ้าเทียบกับรถของเซฮุนแล้ว รถของเซฮุนขับยากกว่าตั้งเยอะ ดังนั้นการมาขับPorscheของเพื่อนตัวเล็กก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย
“เซฮุน มึงขับรถใครมาวะ?” หลังจากที่เซฮุนเดินเข้าไปในตึกเพื่อนสนิทประจำภาควิชาก็ทักทายทันที
“รถไอ้แบคมัน กูอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง” เซฮุนโกหกเป็นครั้งที่สอง แล้วก็โกหกไม่เหมือนครั้งที่แล้วซะด้วย...
“อ่อ.. เออมึง ทำการบ้านเสร็จยัง?”
“ซวยเช็ด...จื่อเทาครับกูลืมเอามา...” เซฮุนเพิ่งนึกได้ว่าต้องเอาการบ้านรายงานวิเคราะห์ระบบวงจรไฟฟ้ามาส่ง
“ไอ้เพื่อนเวรมึงกลับไปเอาเลยนะครับ งานกลุ่มครับไม่ใช่งานเดี่ยว” จื่อเทาเริ่มฉุนหลังจากที่ได้ยิน ไอ้คนกากเอ้ย ทำไมขี้ลืมงี้วะ....
“จะบ้าเหรอ...แม่งยิ่งจะสอบเก็บคะแนนด้วยเนี่ย..” เซฮุนเริ่มเครียดจัดแล้ว อีก5นาทีก็ต้องเข้าห้องสอบแล้ว อาจารย์คนนี้ยิ่งเนี้ยบอยู่ด้วย ขาดสอบคือขาดคะแนนตรงนั้นไปเลย
“แล้วแบคฮยอนออกมายังวะ? ให้มันเอาออกมาให้ดิ”
“เออว่ะลืม โทรแป๊ป”
“ฮัลโหล...ว่าไง”
“มึงออกไปเรียนรึยัง??”
“ยัง แต่กำลังจะออกไป ตีฆ่ากับหมาอยู่...”
“หมาที่ไหนวะ?? หรือว่าชานยอล??”
“เออ มีตัวเดียว เห่าเก่งมาก... แล้วมึงอ่ะมีอะไร??”
“กูลืมรายงานไว้ในห้องอ่ะ ไอ้แฟ้มสีเขียวๆอ่ะมึง มึงเอาออกมาให้กูหน่อยสิ ฝากน้ายามไว้ก็ได้ เดี๋ยวกูจะไปสอบแล้วเนี่ย...”
“เออๆ เดี๋ยวกูเอาออกไปให้...”
เซฮุนกดตัดสายเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ แบคฮยอนนี่เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆเลย...
“ป่ะ ไปสอบกัน เดี๋ยวไอ้แบคมันคงเอามาฝากน้ายามไว้” เซฮุนเดินไปโอบไหล่จื่อเทาอย่างสนิทสนม และไม่ลืมปิดมือถือให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้องสอบ....
พักนี้ยิ่งอ่านหนังสือไม่เข้าหัวสักตัว เซฮุนจะสอบตกมั้ยครับ....
“ยัง กำลังจะออกไป ตีฆ่ากับหมาอยู่...”
“เออ มีตัวเดียว เห่าเก่งมาก... แล้วมึงอ่ะมีอะไร??”
“เออๆ เดี๋ยวกูเอาออกไปให้...”
ชานยอลกรอกตาไปมาหลังจากที่ได้ฟังแบคฮยอนคุยโทรศัพท์ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมาที่ว่านั่นหมายถึงเขา
“มึงว่าใครเป็นหมา??” ชานยอลถามพร้อมกับทำตาโตเพื่อให้เขาดูน่ากลัวขึ้น
“ว่ามึงไง มึงมันเป็นน้องหมาชานยอล” แบคฮยอนพูดขณะที่เดินเข้าไปในห้องของเซฮุน
“อ่าว...กูน่ารักขนาดได้เป็นน้องหมาเลยเหรอ...”
“สงสัยกูจะพูดผิดว่ะ มึงต้องเห็บหมา!” แบคฮยอนตะโกนออกมาจากห้องนอนของเซฮุน เขาไม่เห็นใบหน้าของชานยอลตอนนี้หรอก ว่าอีกคนแสดงอารมณ์เดือดจัดแค่ไหน....
“ปากมึงนี่วอนโดนตบซะแล้ว”
“ตบสิ คิดว่ากูกลัวหรา...” แบคฮยอนเดินออกมาจากห้องของเซฮุนพร้อมกับแฟ้มสีเขียวในมือ ชานยอลเลิกคิ้วขึ้นสูง สงสัยแบคฮยอนจะเป็นพวกมาโซคิสต์จริงๆ เอะอะก็มีแต่อยากโดนมือโดนเท้าของเขา...
“เถียงกับมึงแล้วปวดประสาทว่ะ เร็วๆหน่อย ช้าเพราะมึงเนี่ย..”
“อ้าว...นี่กูบอกให้มึงรอเหรอ??” แบคฮยอนถามอย่างกวนประสาท เขาไม่ได้จะไปกับชานยอลตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...จะมาบ่นทำไมกัน
“เอ้า กูอุตส่าห์ทำตามคำขอของเซฮุน หรือมึงจะรอขึ้นรถเมล์ไปเอง ได้ข่าวว่าใกล้จะเข้าเรียนแล้วด้วย อากาศก็เริ่มร้อนแล้ว....ถ้ามึงจะไปเองกูก็ไม่ว่านะ” ชานยอลโบกมือปัดอย่างไม่ใส่ใจ แล้วทำเป็นเดินนำออกไปที่ประตู
Rrrrrrrrrrrrrr
ยังไม่ทันได้ออกจากห้องชานยอลก็ต้องหยิบมือถือที่กำลังสั่นอยู่ในกระเป๋าขึ้นมากดรับ
“ไงครับเพื่อนรักสุดเลิฟ...” กรอกเสียงชนิดที่เรียกว่ากวนตีนสุดๆลงไปให้ปลายสายได้ยิน
“สัด...มึงเห็นเซฮุนมั้ย??” ปลายสายถามอย่างหงุดหงิด
“เห็นรีบออกไปเมื่อ20นาทีที่แล้ว ไม่มีเวลาทักทายกันด้วยซ้ำ”
“ไอ้เพื่อนเวร ทำไมไม่รั้งไว้ให้กูหน่อยวะ?!”
“อ้าว...แล้วกูจะไปรู้เหรอ ว่าแต่มึงถามหาเซฮุนทำไม แบคฮยอนจะเอาของไปให้มันอยู่ มีอะไรก็ฝากแบคฮยอนเอาแล้วกัน” ชานยอลพูดพร้อมกับยัดมือถือใส่มือเรียวสวยของแบคฮยอน
“ใคร?” ใบหน้าเล็กเผยความสงสัยออกมาอย่างเห็นได้ชัด มองดูมือถือในมือแล้วเอียงคอเอาคำตอบ
“จงอิน..เหมือนมันจะมีธุระกับเซฮุน”
“ฮัลโหลจงอิน มีอะไรเหรอ??” เลื่อนมือถือไปแนบไว้ที่หูพร้อมกับพูดคุยกับปลายสายซะเสียงหวานจนชานยอลอดหงุดหงิดไม่ได้ อยู่กับเขาล่ะไม่มีแบบนี้บ้าง...
“แบคฮยอนๆ จะออกไปหาเซฮุนเหรอ ไปด้วยดิ...”
“ใช่ พอดีเซฮุนมันลืมรายงานไว้อ่ะ แล้วตอนนี้จงอินอยู่ไหน คือเรามีเรียนไง ถ้าจงอินไม่ได้ลงเรียนวิชานี้ เราฝากจงอินเอาไปให้เซฮุนได้มั้ย..” แบคฮยอนร่ายยาว ก็เขามีเรียนจริงๆนี่นา
“ได้ดิๆ ฉันอยู่ลานจอดรถ แบคฮยอนเอามาให้ได้เลย” จงอินดูกระตือรือล้นมากขนาดฟังจากน้ำเสียงนะเนี่ย
“โอเคๆ เดี๋ยวเราลงไป” แบคฮยอนปามือถือกลับให้ชานยอล ดีที่มือหนารับไว้ได้ทัน ถ้าตกพื้นมีหวังพังแน่ๆ...
“ขอบใจมากนะจงอิน ฝากน้ายามไว้ก็ได้ เซฮุนมันบอกมาอย่างนี้”
“อ่า ไม่เป็นไร ....ตั้งใจเรียนนะแบคฮยอน ถ้าชานยอลมันเกเรก็ป้าบป้าบมันได้เลย”
“เดี๋ยวๆ กูจำไม่ได้ว่ากูมีมึงเป็นพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่...” ชานยอลกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย จงอินมันพูดเหมือนกับตัวเองเป็นพ่อของเขาอย่างงั้นแหละ....
“ก็ไม่รู้สินะ ขับรถดีๆนะเพื่อน อย่าให้ว่าที่แฟนมึงต้องหวาดกลัวเพราะการซิ่งของมึง” ประโยคแรกจงอินก็พูดดังอยู่หรอก แต่ประโยคหลังๆเริ่มหรี่เสียงลงพอให้ได้ยินกันสองคนแล้ว....
พลั่ก!!
ชานยอลยกเท้าถีบเข้าสีข้างของจงอินซะ ก่อนไอ้ดำมันจะไปมันยังไม่ลืมหันมาชูนิ้วกลางใส่เพื่อนรักที่ยืนกำหมัดอยู่ไม่ไกล แบคฮยอนมองการกระทำของทั้งสองคนอย่างงงๆก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ........มันสายแล้ว อากาศก็ร้อนด้วย ยอมติดรถชานยอลไปก็ได้วะ.....
จงอินขับรถของเซฮุนมาจอดรอที่หน้าคณะวิศวฯ ก่อนมาเขาแวะซื้อไวท์ช็อคโกแลตมอคค่าแฟรบปูชิโน่ที่ร้านกาแฟชื่อดังมาหนึ่งแก้ว ดูดน้ำพร้อมกับเปิดคลิปมวยปล้ำในไอแพดที่ดูค้างไว้อย่างสบายอารมณ์
1 ชม. ผ่านไป เซฮุนก็ยังไม่ออกมา....
จงอินเริ่มบิดขี้เกียจแล้วหยิบมือถือขึ้นมาโทรสั่งไก่ทอดแบบที่มีบริการส่งเดลิฟเวอรี่
“เอาไก่ปรุงรส1ชุดครับ”
ผ่านไปไม่ถึง30นาทีไก่ก็มาส่ง เขาจ่ายเงินพร้อมกับรับกล่องไก่เข้ามาไว้ในรถอย่างเร่งรีบ เดี๋ยวแดดข้างนอกทำจงอินผิวไหม้พอดี....
เปิดฝากล่องหยิบไก่ชิ้นโตออกมาเตรียมจะยัดมันเข้าปากแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะเห็นเซฮุนกำลังเดินออกมาพร้อมกับผู้ชายหน้าตาหล่อแบบคมๆ อืม...ถือว่าไอ้นั่นหล่อมากเลยล่ะ มันคือใครกันนะทำไมจงอินไม่รู้จัก
สงสัยจะเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันนั่นแหละ....
แต่เฮ้ย!!
ผู้ชายคนนั้นเอื้อมมือไปยีหัวของเซฮุนและยิ้มแบบที่ใครดูก็รู้ว่ามันชอบเซฮุนแน่นอน!!!
เท้าไวกว่าใจคิด จงอินรีบก้าวลงจากรถทันที เขามุ่งหน้าไปหาเซฮุนแบบเดือดจัดในอกสุดๆ
“เซฮุน...”
“จะ..จงอิน...” เซฮุนเอ่ยเสียงสั่น จงอินมาที่นี่ไม่ได้นะ ถ้าคนอื่นรู้ว่าเขาเคยได้เสียกับผู้ชาย เซฮุนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ใครเหรอเซฮุน??” จื่อเทาเอ่ยถามออกมาบ้าง
“จงอิน...เพื่อนร่วมหอของฉันเองอ่ะ..อ่าแล้วก็เป็นเพื่อนร่วมคณะของไอ้แบคมันด้วย...”
“บอกเขาไปด้วยดิว่าเพื่อนร่วมเตียงเราก็เคยเป็น หรือเพื่อนร่วมรักด้วยก็ได้นะครับ” จงอินกระซิบเซฮุนเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคนจนจื่อเทาต้องมองอย่างงงๆ
“สวัสดีครับ ผมจื่อเทานะ เป็นเพื่อนเซฮุนครับ”
“สวัสดีครับ” จงอินยิ้มแห้งๆแล้วก็หันมาสนใจเซฮุนต่อ
“แบคฮยอนให้เอารายงานมาให้นาย แต่ตอนนี้มันอยู่บนรถ เดินไปเอากับฉันทีสิ” จงอินกระตุกยิ้ม และเดินนำเซฮุนไปที่รถ….
เดี๋ยวนี้เพื่อนร่วมหอพักเขาสนิทกันจนกระทั่งขับรถของอีกคนไปไหนมาไหนได้แล้วเหรอ
จื่อเทาได้แต่คิดในใจ.....
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ทอล์ค - อ้าวๆ สวัสดีจื่อเทาาา เรารู้สึกว่าเราอัพฟิคถี่ไปละ5555555+
ไประบายความอัดอั้นได้ที่ -----> #ฟิคฮาจิมา เราแอบอยากเห็นไปสกรีมกันเยอะๆน้าาา
ขอบคุณนะคะสำหรับทุกคอมเม้นและคนที่เข้าไปติดแท็กให้^^
Twitter - @buabuafunfun #ฟิคฮาจิมา
ความคิดเห็น