คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ฮ า จิ ม า - บ ท ที่ สิ บ [ 100% ]
하 지 마
10
อาการแบบนี้มันคืออะไร อยากเอาชนะงั้นเหรอ มันก็ไม่ใช่นะ ชานยอลไม่ได้เป็นคนชอบการแข่งขันอะไรขนาดนั้น แต่ความรู้สึกตอนนี้มันเป็นแปลกพิลึก รู้แค่ว่าเสียแบคฮยอนให้พี่อี้ฟานไม่ได้จริงๆ
ชานยอลใช้เวลานั่งครุ่นคิดกับตัวเองอยู่นานสองนาน ปล่อยให้นานะนอนอยู่ในห้องเพียงลำพัง เขาจะทำยังไงต่อไป... แล้วแบคฮยอนยังชอบเขาอยู่จริงๆรึเปล่า.......
คิดไปสักพักก็นึกถึงบุคคลที่น่าจะพึ่งพาได้ เพราะมันเป็นกูรูด้านผู้หญิงผู้ชายซ่อนกิ๊กซ่อนชู้เก่งยิ่งกว่าใครๆ เรียกได้ว่าชานยอลที่ว่าโปรยังไม่โปรเท่าเขาคนนี้....
“จงอิน มึงว่างมั้ยวะ?” กูรูที่ว่าก็คือคิมจงอินนั่นเอง
[จะให้ว่างก็ว่างได้ มึงมีไร ปกติกูทำห่าไรอยู่มึงเคยสนใจด้วยเหรอ]
“กูมีเรื่องปรึกษานิดหน่อยว่ะ มึงอยู่คนเดียวรึเปล่า”
[เฮ้ยย! ชานยอลมึงเป็นไรวะ เออๆรอแปป กูหาที่คุยก่อน] คิมจงอินพูดอย่างเป็นห่วงซึ่งชานยอลสามารถรับรู้ได้เพียงแค่ฟังเสียง พวกเขาคบกันมากี่ปีแล้ว รู้หมดนั่นแหละว่าอีกคนคิดอะไรอยู่
“อยู่กับสาวเหรอมึง...”
[เออๆ ว่าแต่มึงเป็นไรครับ ทำเสียงเหมือนคนขี้ไม่ออกเลย]
“คือว่ากูชอบคนๆนึงอยู่”
“ตอนนี้เขาเหมือนจะเกลียดกูเลยว่ะ แต่เมื่อก่อนเขาเคยชอบกูนะเว้ย”
[ใครวะ?! มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้เลย] จงอินโวยวาย เพื่อนรักของเขาไปชอบใครที่ไหนทำไมจงอินไม่รู้ ไม่ได้นะ ไม่ได้ ต้องไม่มีความลับในหมู่พวกเราดิ
“เออ มึงฟังให้จบก่อนดิ กูจะทำยังไงดีวะ ถ้ากูไปบอกชอบเขาแล้วเขาจะยังคุยกับกูอยู่รึเปล่า” ชานยอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลมากขึ้น ใจมันก็กลัวว่าแบคฮยอนจะเกลียดตัวเองมากกว่าที่เป็นอยู่
[มันก็เป็นไปได้ทั้งสองแบบแหละ เขาอาจจะคุยหรือไม่คุยกับมึงก็ได้ แหม่ ทำไมกูอยากรู้จังเลยวะ ใครกันนะทำให้ชานยอลน้อยของกูเป็นเอามากขนาดนี้ ผู้หญิงคนนั้นแม่มน่าอิจฉาจริงๆเลยว่ะ ฮ่ะฮ่ะ] เอ่ยด้วยน้ำเสียงล้อเลียน ร้อยวันพันปีไม่เห็นมันจะจริงจังกับใครสักคน
“ผู้ชายเว้ย..”
[น่าอิจฉาซะจริ๊งงง ฮะ!?? ผู้ชายงั้นเหรอ?!! มึงครับ มึงละเมอหรือเมาอยู่รึเปล่า] ชานยอลที่ฟังอยู่แทบจะระเบิดขำ ว่าแล้วเชียวว่าจงอินต้องอึ้ง ก็ชานยอลไม่เคยมีรสนิยมชอบผู้ชายเลยนี่นา บอกเลยแบคฮยอนเป็นคนแรก และน่าจะเป็นคนเดียวด้วย....
“คนห้องข้างๆกูนี่แหละ อิอิ” ชานยอลเปลี่ยนโหมดอารมณ์ เมื่อกี๊ยังดูเป็นกังวลนักหนา ตอนนี้กลายเป็นเขินอายซะงั้น
[อิอิพ่อง ห้องข้างๆมึงอย่าบอกนะว่าฮุนนี่ของกู!!]
“อีกคนนึงดิ๊ ห้องเดียวกันนั่นแหละ อิ๊สอิ๊ส” จงอินฟังแล้วก็ทำเบะปาก อิ๊สอิ๊สอะไรของมันวะ สงสัยจะเป็นบ้าไปแล้ว....
[เออกูรู้แล้วน่า...พอมึงพูดว่ามึงชอบผู้ชายปุ๊บกูรู้ปั๊บ..]
“ทำไมวะ อาการกูออกขนาดนั้นเชียว...”
[มึงจ้องเขาเหมือนจะงาบอยู่ตลอดเวลาไม่รู้ไง๊? อยู่กับกูนะมีวันไหนบ้างวะที่มึงไม่พูดถึงเขาน่ะ เดี๋ยวก็ไอ้เตี้ย ไอ้หมา โอ๊ยย ทั้งวันอ่ะ...]
“มึงก็พูดไป แล้วกูจะทำไงดีวะ ไหนจะพี่หมอสุดหล่อฮอลลีวูดแฟนเก่ามันอีก โว้ยยยยยยยยยยยย” ชานยอลโวยวายและยกมือข้างที่ว่างทึ้งผมตัวเอง
[จะกลัวทำม้ายยย ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เสกด้วยคาถา ไม่ได้ด้วยวาจาก็ปล้ำแม่งเลย!! ก๊ากกกกกกกกกก] จนอินหัวเราะก๊าก นี่เขากำลังแนะนำอะไรให้ชานยอลเนี่ย อิอิ แต่วิธีนี้เด็ดนะเพื่อน อยากให้ไปลองดู
“เหมือนที่มึงทำกับฮุนนี่ของมึงน่ะเหรอ เหอะ อีกอย่างกูจะเตือนไว้นะ มึงอย่าไปเล่นกับความรู้สึกเขาเยอะนะเว้ย เขารักกันมากนะเว้ยสองคนนั้นน่ะ เดี๋ยวบิบี๋ของกูพาลโกรธกูด้วยทำไง” ชานยอลเตือนเพื่อนรักของเขาที่กำลังทำอะไรที่ไม่เข้าท่าอยู่
[ยี๊ บิบี๋ จะอ้วกว่ะ เออครับเดี๋ยวกูก็จะเลิกทำแล้วล่ะเนี่ย มึงไม่ต้องคิดมากนะครับเพื่อนรักก...กูไม่ให้มึงมาเดือดร้อนด้วยหรอก]
“เออ แค่นี้นะ เหมือนนานะจะตื่นแล้ว”
[สาสส เพราะมึงอยู่กับสาวนี่แหละ แบคฮยอนเลยจะไม่ชอบมึงไง๊!]
19%
หลังจากที่ชานยอลจัดการส่งนานะกลับบ้านไปแล้ว ร่างสูงก็ปีนป่ายข้ามรั้วกั้นระหว่างระเบียงไปยังห้องข้างๆที่มีคนที่อยากเจอที่สุดอยู่ในนั้น
เคาะประตูกระจกสามทีก็ยังไม่มีวี่แววที่คนด้านในจะออกมา หรือว่าไม่อยู่ห้องแล้วนะ คิดได้อย่างงั้นชานยอลก็หมุนตัวคอตกเตรียมจะเดินกลับห้อง เพิ่งก้าวไปได้ก้าวเดียวประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาโดยไอ้เตี้ยแบคฮยอน คนตัวเล็กมองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวงก่อนที่จะรีบดึงประตูปิดเมื่อเห็นคนบางคนที่ไม่อยากจะเจอสักเท่าไหร่
“เดี๋ยวก่อนมึง” ชานยอลร้องเรียก หวังว่าแบคฮยอนจะฟังเขาบ้าง แต่ไม่ คนตัวเล็กดึงทั้งม่านทั้งประตูปิดพร้อมกัน ขายาววิ่งไปที่ประตูห้องของอีกคน ก่อนจะรัวมือเคาะกระจกจนเกิดเสียงดังติดต่อกันหลายครั้ง
“แบคฮยอนครับ ออกมาคุยกับกูก่อนนะ”
“มึงร้องไห้ เพราะกูใช่มั้ยวะ”
“ก็กูไม่รู้นี่นา ว่ากูทำให้มึงเสียใจ”
“แต่มึงช่วยบอกกูได้มั้ย กูทำอะไรผิดเหรอ....” ชานยอลยืนพูดกับกระจก ไม่รู้หรอกว่าคนในห้องจะยังอยู่ฟังรึเปล่า ขอพูดเลยละกัน ชานยอลไม่รู้หรอกว่าตัวเองทำอะไรผิด ที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้มันก็เป็นเรื่องปกติ เขาพาสาวๆมาที่ห้องจนเป็นเรื่องชินตาชินใจไปเสียแล้ว หรือบางทีแบคฮยอนอาจจะไม่ชอบที่ชานยอลทำแบบนั้น แต่เพียงแค่คนตัวเล็กบอกมา ชานยอลจะยอมปรับปรุงตัวเลย
แผ่นหลังบางเอนพิงกับประตูกระจกที่มีม่านสีเข้มกั้นไว้ แบคฮยอนยืนอยู่ภายใต้เงาของผ้าม่าน ยกมือปาดน้ำตาหลังจากที่ได้ฟังเสียงทุ้มของชานยอล จะมาไม้ไหนอีกล่ะ แล้วนี่ยังไม่รู้อีกเหรอว่าตัวเองทำอะไรผิด
“กูขอโทษ ไม่ว่ามึงจะโกรธกูเรื่องอะไรก็ตาม....”
“แต่ถ้ามึงจะโกรธที่กูพาสาวๆมาที่ห้อง มึงบอกกูได้ ถ้ามึงไม่ชอบใจหรือไม่สบายใจ กูก็จะไม่ทำ” ชานยอลพูดตามความรู้สึกล้วนๆ ถึงเขาอาจจะดูเป็นคนที่เจนจัดเรื่องแบบนี้ แต่เอาจริงๆก็อ่อนหัดสุดๆ เรื่องบนเตียงน่ะไม่เถียงหรอกว่าเก่ง แต่เรื่องที่เกี่ยวกับความรักจริงๆนี่กากยิ่งกว่าเด็กมัธยมต้นจีบกันอีก
“เห็นเซฮุนบอกว่ามึงโกรธกูที่กูพาผู้หญิงมาที่ห้อง กูขอโทษนะ” นิ้วยาวเคาะกระจกไปพลางพูดไปพลาง ชานยอลกังวลใจจริง แต่ไม่รู้ว่าจะต้องขอโทษแบคฮยอนแบบไหนอีกคนถึงจะหายโกรธ
มาทางด้านอีกคนบ้าง แบคฮยอนยิ้มทั้งน้ำตาและยังยืนอยู่ที่เดิม ถ้าไม่เต็มใจทำก็อย่าทำเลยนะชานยอล ถ้าจะเห็นแค่ความเป็นเพื่อนของเรา โดยที่ไม่นึกใจของแบคฮยอนว่ารู้สึกยังไงก็อย่ามาทำแบบนี้ ช่วยทำเหมือนเดิมได้ไหม แล้วเดี๋ยวแบคฮยอนก็จะดีขึ้นเอง
“กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ทั้งหัวใจ ทั้งสมอง ความคิด และทุกอย่างๆที่กูทำมันมักจะมีมึงแว้บเข้ามา กูเดินผ่านร้านขายตุ๊กตาหมาน้อย หรือ ปิกาจู้ กูก็นึกถึงมึงตลอดเลยนะเว้ย กูว่าพวกนั้นมันหน้าเหมือนมึงมากๆเลย มึงรู้มั้ยตอนมึงหลับอ่ะ มึงครางงุ้งงิ้งๆเหมือนลูกหมาน่ารักชะมัด”
“พอมึงตื่นขึ้นมามึงก็เป็นแบคฮยอนอีกคนที่ดูแก่นเฟี้ยวกว่าตอนหลับปุ๋ย มึงเชื่อกูมั้ยว่ากูไม่เคยใจเต้นแรงกับผู้ชายคนไหนเลยในโลกใบนี้อ่ะ มีมึงคนแรกนะเว้ย ตอนแรกๆกูก็มองว่ามึงเป็นไอ้หน้าจืด หน้าตาบ้านๆนี่แหละ แต่มึงก็เป็นไอ้หน้าจืดที่ทำให้กูอยากแกล้ง กูชอบเวลาที่มึงหน้าบูดอ่ะ ยิ่งบูดกูยิ่งอยากแกล้งเข้าไปอีก”
“เอาตรงๆเลยนะ นี่กูจะมาร่ายยาวทำไมวะ....” ชานยอลบ่นกับตัวเอง เขาจะมาพูดพร่ำทำเพลงอะไรให้มันมากมาย ก็แค่บอกแบคฮยอนไปซะ มันจะได้จบๆ
“กูชอบมึงนะ ไอ้เชี่ยยยยยยยย กูชอบมึงว่ะ!!!!” ชานยอลตะโกนซะเสียงดัง เอาสิ เอา ใครจะบอกชอบได้ฮาร์ดคอร์เท่าเขาครับ ไม่มี๊
แบคฮยอนยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีกเมื่อได้ยิน แก้มใสร้อนผ่าว บางทีเขาอาจจะหูฝาดไป แต่ไม่หรอก เขามั่นใจว่านั่นคือคำพูดของชานยอลจริงๆ เพราะคนกระด้างแบบนั้น มีแค่ชานยอลคนเดียวนั่นแหละ
“มึงไม่ได้อยู่ในห้องหรอกเหรอ อ่า...มึงไม่อยู่ก็ดีแล้วล่ะ กูจะได้ไม่ต้องเขินไปมากกว่านี้ แค่นี้กูก็เขินจะตายแล้วโว้ยยยยยยยย” ชานยอลทึ้งหัวตัวเองและจ้องเข้าไปในบานประตูกระจก สักพักม่านก็ถูกเปิดออก คนตัวเล็กยืนมองเขาโดยที่ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
ชานยอลโน้มตัวลงไปใกล้กระจกมากขึ้น ทาบใบหน้าคมคายไปกับกระจกใสที่มีคนตัวเล็กยื่นอยู่ข้างหลัง คลี่ยิ้มกว้างก่อนจะกวักมือให้อีกคนก้มลงตามกันมา
แบคฮยอนมองอย่างสงสัย ดวงหน้าหวานค่อยๆแนบชิดกับกระจก คนฝั่งตรงข้ามกดจูบลงกับแผ่นกระจกใส นั่นทำให้แบคฮยอนเข้าใจแล้วว่าอีกคนต้องการจะทำอะไร...
รอไม่นานแบคฮยอนก็กดริมฝีปากบางตามลงไป ดวงตาคู่สวยหลับพริ้ม ตอนนี้แบคฮยอนสบายกว่าชานยอล เพราะเขาตัวเตี้ยกว่า ชานยอลจึงต้องเป็นฝ่ายย่อตัวลงมา พวกเขาจูบกันผ่านแผ่นกระจก ถึงแม้ความอบอุ่นจากริมฝีปากจะถ่ายทอดไม่ถึงกัน แต่ความอบอุ่นจากหัวใจของทั้งสองกำลังรวมตัวกันและจะมีเพียงแค่เขาสองคนเท่านั้นที่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอะไร.....
‘กูก็รักมึงนะชานยอล’
57%
หลังจากที่ชานยอลกลับไปแล้ว แบคฮยอนก็เอาแต่อมยิ้ม ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรกันอีกหลังจากนั้น แต่ก็ยังรู้สึกอิ่มเอมและสุขล้นไปทั้งหัวใจ
วินาทีที่ได้ยินว่าชานยอลก็ชอบตัวเองเหมือนกัน เหมือนโลกของแบคฮยอนหยุดหมุนไปชั่วขณะ มันมีความสุขมากจริงๆ ในใจแบคฮยอนก็อยากจะตะโกนตอบกลับไปว่าเขาเองก็ชอบชานยอลเหมือนกัน แต่ใจมันก็ยังไม่กล้าพอ ทำได้แค่บอกรักเพียงในใจ...
นั่งอมยิ้มไปสักพัก มือถือตัวดีก็ส่งเสียงเรียกร้องความสนใจ
[‘อยากจูบปากมึงจริงๆจัง’] ชานยอลส่งข้อความมาที่มือถือของแบคฮยอน คนตัวเล็กยิ้มกริ่ม ก่อนจะนั่งคิดว่าจะพิมพ์อะไรต่อไปดี ถ้าพิมพ์ลงไปว่า ‘อยากจูบเหมือนกัน’ มันจะน่าเกลียดเกินไปรึเปล่า
“ไอ้หื่น” แบคฮยอนตอบกลับไปเพียงเท่านั้น ทำไมตอนนี้รู้สึกเขินอายแปลกๆทั้งๆที่แต่ก่อนไม่เห็นจะต้องเขินขนาดนี้เลย
[‘ถ้ามึงให้กูจูบ กูยอมเป็นคนหื่นเลยเอ้า!!’] แบคฮยอนหัวเราะคิกคักกับข้อความที่ชานยอลส่งมา ให้ตายสิ อยากเห็นชานยอลในโหมดหวานๆบ้างจัง แบบ ‘ที่รักครับ ผมรักคุณนะครับ ริมฝีปากสีเชอรี่ของคุณมันช่างดึงดูดใจของผมเหลือเกิน’ อะไรประมาณนี้ แต่เอาเถอะ ถ้าชานยอลมาพูดกับแบคฮยอนแบบนั้นจริงๆ แบคฮยอนเองก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน คงจะอ้วกเอาอาหารที่กินเข้าไปทั้งหมดออกมาด้วย
“เหอะ -3-.” แบคฮยอนตอบกลับไปเพียงแค่นั้นก่อนจะกดล็อกมือถือ ขอเล่นตัวอีกสักนิดได้มั้ย ยังไงชานยอลก็ชอบเขาแล้ว คิคิ
มาทางด้านชานยอลบ้าง ชายหนุ่มผู้ที่เคยมีความรักครั้งแรก กำลังนอนจิกผ้าปูที่นอนอย่างเขินอาย ใครจะรู้บ้างล่ะว่าปาร์คชานยอลหนุ่มฮอตของคณะบริหารอ่อนหัดในเรื่องความรักขนาดนี้ จะจีบยังไงต่อไป จะขอเป็นแฟนยังไง จะทำอีเว้นท์อะไรให้ จะพูดยังไงให้แบคฮยอนประทับใจ ชานยอลก็ยังไม่รู้เลย....
ไหนจะปัญหาสำคัญคือเรื่องไอ้พี่หมอฟานอีก บอกเลยนั่นคือเรื่องที่ชานยอลกำลังกังวลที่สุด ถึงแบคฮยอนจะชอบเขาเหมือนที่เขาเองก็ชอบแบคฮยอน แต่ถ่านไฟเก่าที่กำลังคุและทั้งยังเพียบพร้อมขนาดนั้น เป็นใครใครจะไม่กลัว...
แต่ไม่เป็นไร มาถึงตอนนี้ ชานยอลเชื่อว่าเขาเองก็ได้ทำคะแนนนำอี้ฟานมาบ้างแล้ว...
ร่างสูงนอนจ้องมือถืออย่างใจจดใจจ่อ ไอ้เตี้ยที่โคตรจะน่ารักก็ยังไม่ตอบมาสักที หรือมันจะนอนแล้ว หรือบางทีแบคฮยอนก็อาจจะไม่อยากตอบแชทชานยอลก็ได้...
ลองโทรไปจะดีมั้ยนะ....
ไม่ดีกว่า..เดี๋ยวจะดูเหมือนอยากได้เขามากเกินไป...เดี๋ยวถ้าเกิดอดใจไม่ไหวขึ้นมาแล้วไปปล้ำแบคฮยอนขึ้นมาทำไง...แค่เมื่อกี๊ที่จูบกันผ่านกระจก ชานยอลก็รู้สึกคับแน่นและอยากจะฟัดแบคฮยอนให้ร้องเรียกแต่ ‘ชานยอลอ๊า ชานยอล’ จะตายอยู่แล้ว
ในสมองคิดได้แต่เรื่องแบบนี้ใช่มั้ยฮะ....ชานยอลยกมือขึ้นเขกหัวตัวเองและยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงเพื่อสลัดความคิดบ้าๆนี่ออกจากหัว แค่จินตนาการว่าแบคฮยอนไม่ใส่เสื้อผ้าชานยอลก็ร้องซี๊ดซ๊าดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว....
“ไอ้หมาเตี้ยยยย ออกไปจากหัวกูเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!!”
ชานยอลและแบคฮยอนตื่นเช้าและเข้าเรียนด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมกันทั้งคู่ แบคฮยอนก็ยิ้มกว้างตั้งแต่ประตูทางเข้า ส่วนชานยอลก็เอาแต่แอบมองคนตัวเล็กแล้วอมยิ้มอยู่คนเดียว...
“ยิ้มไรวะ?” จงอินเดินเข้ามาพร้อมกับโบกหัวชานยอลอย่างแรง ก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ
“ไม่เสือกน่า..” ชานยอลดันหัวเพื่อนสนิทออก และมองแบตฮยอนต่อ
“เพื่อนกูทั้งสองหน่อนี่โลกกลายเป็นสีชมพูหมดเลยเหรอวะช่วงนี้ .....อิจฉาโว้ยยย” ที่จงอินพูดน่ะหมายถึงชานยอลแน่ๆ แต่อีกคนนึงที่หมายถึงก็คือซูโฮ ดูสิ เข้าเรียนมาก็เอาแต่ไปหาคยองซู นั่งข้างคยองซู ชวนไปกินข้าวก็ไม่ไป กลัวคยองซูไม่มีเพื่อน ชวนไปกินเหล้าก็ไม่ไปเอาแต่บอกว่าคยองซูไม่ชอบให้กินเหล้า เดี๋ยวเหอะมึง เดี๋ยวถีบหน้าคว่ำ
“พูดมากว่ะ เชิญมึงโลกเบี้ยวต่อไปละกัน ” ชานยอลยิ้ม ไอ้จงอินน่ะมันเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป แต่พอถ่ายรูปออกมาทีก็เพิ่มแสงซะขาวโอโม่ ไหนจะบีบหน้าจนผนังข้างหลังเบี้ยวอีก แต่ก็ไม่มีใครว่ามันหรอก เพราะคิมจงอินเป็นคนเดียวที่ตัวจริงดูดีกว่าในรูปโปรไฟล์
“เดี๋ยวเหอะมึง ก็ตอนนั้นกูยังใช้แอพไม่เป็นหนิวะ เดี๋ยวกูจะไปดักเตะเมียมึงให้หน้าคว่ำจมกองขยะเลย” จงอินเบะปาก ใช่สี้ พอมีฟงมีแฟนก็ลืมเพื่อนลืมฝูง เอาแต่แดกดันล้อเลียน มันน่าน้อยใจชะมัด
“กูเอาด้วยดิ กูอยากเตะมันเหมือนกัน บางทีถ้าดั้งมันหัก กูอาจจะเลิกหลงมันมากกว่านี้ก็ได้ว่ะ...ฮ่าๆ” ชานยอลหัวเราะ ถ้าแบคฮยอนลองขี้เหร่กว่านี้ดูบ้าง ชานยอลอาจจะเลิกอยากจ้องหน้าจิ้มลิ้มนั่นสักสิบนาทีก็ได้
“เฮ้อ...เพลียแทนว่าที่เมียมึงว่ะ มึงรู้มั้ยตอนกูไปขู่แบบนี้กับไอ้ซูโฮ มันแม่งกระโดดเตะก้านคอกูเลยนะเว้ย...แบบนั้นดิรักกันจริง”
“มึงนี่ ไม่รู้อะไรซะแล้ว....มึงดูคนสมัยก่อนดิ ลูกดกเพราะอะไร เพราะทะเลาะกันไง ยิ่งทะเลาะยิ่งรักกัน ยิ่งตบตียิ่งมีอารมณ์ ฮ่าๆๆๆ” ชานยอลหัวเราะก๊ากจนคนอื่นๆเริ่มหันมามอง
“สมัยนี้ต้องใช้เหตุผลคุยกันเว้ย เออ..แล้วมึงรู้ยังเรื่องทริปเที่ยวทะเลอ่ะ”
“หา? ทะเลอะไรวะ อย่าบอกนะว่าจะไปทะเลตอนหน้าหนาว” ชานยอลแหว บ้าไปแล้วเถอะครับ ถ้าจะมาจัดทริปไปทะเลตอนหน้าหนาว ได้ตัวแข็งตายกันพอดี
“เออดิ รุ่นพี่ที่ผ่านมาเขาก็ไปกันทุกปี ไปช่วยอนุรักษ์สัตว์น้ำกับเก็บขยะอะไรสักอย่างนี้แหละ” จงอินอธิบาย ถึงมันจะเป็นการไปทริปที่ดูแปลกๆแต่ก็นะ รุ่นพี่เขาก็ทำมาทุกรุ่น มันคงจะดีและมีเหตุผลอยู่แล้วแหละ
“ไม่ไปได้มั้ยวะ หนาวตายพอดี”
“แต่ไอ้แบคมันลงชื่อแล้วนะเว้ย” ชานยอลหูผึ่งทันที อ๊า ถ้าไอ้เตี้ยไป ชานยอลก็ต้องไปอยู่แล้วดิ
“อ่าๆ งั้นกูไป แล้วมึงอ่ะไปมั้ยวะ??”
“ไปดิ เออมึงกูมีเรื่องอยากจะให้ช่วยหน่อย”
“ไรวะ ถ้าเรื่องเงินมึงหมดสิทธิ์เลย ติดหนี้กูอยู่สามหมื่นกูยังไม่ได้คืนเลยครับ” ชานยอลบ่น ไอ้จงอินมันโคตรเหนียวหนี้ ทวงมาสิบปียังไม่ได้คืน (เว่อร์ไป)
“ไม่ใช่ๆ มึงช่วยไปบอกให้แบคฮยอนชวนเซฮุนไปด้วยกันหน่อยดิ” จงอินยิ้มกว้างใส่ชานยอล
“เขาอยู่คนละคณะกับเราป่ะวะ” ชานยอลถอนหายใจ จะบ้าเบาะ จะให้เซฮุนไปอยู่ยังไง มีแต่เพื่อนคณะบริหารเต็มไปหมดน่ะนะ
“มันไปได้...เขาให้แต่ละคนพาเพื่อนไปได้คนนึงอ่ะ ไอ้แทมินมันขอไปกับกูแล้วเนี่ย” แทมินที่จงอินว่าก็คือหนุ่มฮอตคณะนิเทศศาสตร์ มันหล่อมาก ที่สำคัญยังเต้นเก่งมาก
“เออๆ เดี๋ยวกูลองบอกมันให้”
“น่ารักมาก มาด้วบเหม่งที!” จงอินพูดจบก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบหน้าผากชานยอลอย่างแรง อีกคนตาโตอย่างตกใจ ก่อนจะรีบลุกขึ้นและถีบจงอินจนล้มไปกองอยู่ที่พื้น
“ไอ้เชี่ยยย เล่นไรว๊า!!”
โปรดติดตามตอนต่อไป....
ทอล์ค - เจอกันที่ทะเล ทะเลรัก ทะเลสีดำ ทะเลใจ ทะเลอะไรก็ว่าไป เรานี่เตรียมบล็อกไว้รอเลย 555+ โรแมนติกชานแบค ส่วนไคฮุน มะบอกหรอก คิคิ /// ห้าเม้น สองแท็กเราจะรีบมาต่อ เย้ๆ อยากลองขอดูบ้างง่าาา
Twitter / @buabuafunfun #ฟิคฮาจิมา
ความคิดเห็น