คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ฮ า จิ ม า - บ ท ที่ ส า ม [100%]
하 지 마
03
มือหนาค่อยๆนำสำลีชุบน้ำสะอาดมาแตะลงที่มุมปากของตัวเองเบาๆ นึกย้อนกลับไปในเหตุการณ์น่าหงุดหงิดอีกครั้ง ใบหน้าจิ้มลิ้มที่บูดบึ้งตึงเป็นลูกหมาหิวนม คิ้วเรียวที่ขมวดจนมันย่นมาชนกัน มันทำให้ปาร์คชานยอลรู้สึกดีชะมัด รู้สึกดีๆแปลกๆแต่มันกลับโหวงๆในใจว่าตัวเองทำแรงไปรึเปล่า....
ชานยอลทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง แขนยาวถูกยกขึ้นมาก่ายหน้าผากโดยไม่ทันคิด คิ้วเข้มขมวดเป็นปมอย่างไม่รู้ตัว นอนพลิกซ้ายพลิกขวาเหมือนสาวน้อยในวันมามาก
“มึง! ปาร์คชานยอล มึงเป็นศัตรูกับกูนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป!”
ประโยคเมื่อกี๊ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดชะมัด แบคฮยอนเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาทำให้ชานยอลปั่นป่วนแบบนี้....
เขาลุกไปหยิบเบียร์กระป๋องในตู้เย็น ก่อนจะก้าวดุ่มๆออกไปที่ระเบียงกว้างที่ๆทำให้รู้จักกับแบคฮยอนครั้งแรก(?) วางสะโพกหนาลงบนเก้าอี้ก่อนจะตาเหลือกโตเพราะเจอกับคนที่ทำให้ปาร์คชานยอลโกรธได้ขนาดนี้...
ร่างสูงทำเป็นไม่เห็นแล้วแสร้งวางกระป๋องเบียร์แรงๆจนมันกระทบกับโต๊ะเสียงดัง แต่ทำครั้งแล้วครั้งเล่าแบคฮยอนก็ไม่มีวี่แววที่จะหันมา ร่างเล็กนั่งพิงเก้าอี้เปลและทอดสายตาออกไปบนท้องฟ้ากว้างอย่างเหม่อลอย ชานยอลจำได้ว่าห้องข้างๆนั่นเป็นห้องของเซฮุน นี่พวกเขาพักอยู่ด้วยกันงั้นเหรอ... อ๋อ! แล้วที่ปีนข้ามระเบียงมาง่ายๆนี่ก็เพราะอยู่ติดกันแบบนี้สินะ ถึงว่าล่ะ อะไรจะหลบเร็วขนาดนั้น
“ไม่มีคนให้ระบายความหื่นเหรอ ถึงมานั่งเป็นหมาหงอยอยู่อย่างนี้”
“......................”
“อ้าวไม่ตอบเหรอ หยิ่งเหรอวะ”
“......................”
“เอ้าๆ กูรู้ว่ามึงโกรธ กูพูดคนเดียวก็ได้...”
“.....................”
“บางทีกูอาจจะพูดแรงไป.....แต่มึงมันก็เป็นอย่างที่กูพูดจริงๆไม่ใช่เหรอวะ?”
โป๊กกกกกก!!
“โอ๊ยย!! ไอ้แบค!” ชานยอลต้องเลื่อนมือมากุมศีรษะทันทีที่พูดจบเพราะแบคฮยอนหยิบสลิปเปอร์ที่วางอยู่ใกล้ๆปาขวับมาจนมันโดนเป้าหมายเต็มๆ
“หึ...” ริมฝีปากเรียวบางกระตุกยิ้มอย่างผู้มีชัย แบคฮยอนค่อยๆลุกขึ้นและใช้หางตามองชานยอลเพียงน้อยนิด ก่อนจะเดินเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
แบคฮยอนเป็นคนปากไม่เก่ง....แต่ทำจริงนะครับ
ชานยอลลุกขึ้นยืนมองแบคฮยอนเดินเข้าห้องของตัวเองไป อยากจะปีนไปต่อยหน้าแต่มันก็จะดูไม่แมน เขาจึงเลือกเดินเข้าห้องแล้วกดมือถือเข้าแอพพลิเคชั่นแชทชื่อดังที่เรียกว่าไลน์
PCY : เซฮุนฉันขอเบอร์แบคฮยอนหน่อยสิ
Oh Sehun : 08xx2
PCY : ขอบใจมากนะ
ยกยิ้มเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ ชานยอลกดเม็มเบอร์แบคฮยอนแล้ว เพราะฉะนั้นเพื่อนในไลน์ก็จะเพิ่มอีกคนเป็นอัตโนมัติ
‘คำว่ารักมันกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว’
‘ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันคือแสนไกล’
‘อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้บอกที’
ชานยอลหลุดขำกับการพร่ำเพ้อของแบคฮยอน เพ้อพกรกไทม์ไลน์ชะมัด กดรีเฟชอีกครั้งก็พบกับโพสใหม่สดร้อนของแบคฮยอน
‘บล็อกดีมั้ยเนี่ย?’ ชานยอลอ่านแต่ก็ไม่ได้กดไลค์ เขาเองก็อยากลองโพสบ้าง ตั้งแต่เล่นมาก็ไม่เคยโพสอะไรบนไทม์ไลน์สักที
PCY โพสต์บนไทม์ไลน์
สิ่งที่โพสนี่ไม่เกี่ยวกับโพสของแบคฮยอนเลยนะครับ มันก็เป็นแค่สติ๊กเกอร์น่ารักๆ ชานยอลแค่อยากลองโพสดูเฉยๆ ทำไมอ่ะ....
17%
แบคฮยอนนอนยิ้มอยู่คนเดียวบนเตียง ก่อนจะหุบยิ้มทันทีเมื่อคิดได้ว่าไม่ควรยิ้มเลยสักนิด ไปยิ้มให้ศัตรูทำไมกัน...
แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ก็ศัตรูกับคนที่ให้หัวใจคือคนเดียวกันนี่....
บางทีแบคฮยอนก็อยากคิดว่าชานยอลโพสให้ตัวเองบ้างอะไรบ้าง แต่พอเปิดไปดูคอมเม้นเท่านั้นแหละ เลือดขึ้นหน้าเลยครับ ชานยอลอาจจะโพสให้ใครในคอมเม้นพวกนี้ก็ได้
Kimkai : มึงปฏิเสธเรื่องที่กูชวนไปเที่ยวใช่มั้ยวะ?
ViVilovePcy : พี่ชานยอลทำไมทำกับวีวี่แบบนี้ หักอกวีวี่ทำไม
Tooky : แค่ขอยืมเงินสองพันมึงก็ให้เพื่อนไม่ได้เนาะ ไอ้ชาน
นี่ชานยอลมันปฏิเสธใครกันแน่เนี่ย นี่เม้นยังไม่หมดเท่านี้นะครับ มีอีกสิบกว่าเม้น ไอ้เราก็ดีใจนึกว่าไม่อยากให้เราบล็อก ที่ไหนได้ เฮอะ....
PCY : ไม่ทักกันหน่อยเหรอ?
Baekhyunnee : ไปเอาไลน์กูมาจากไหน?!
PCY : หน้าผากมึงมั้ง
Baekhyunnee : กวนตรีน บล็อกดีมั้ย?
PCY :
แบคฮยอนยิ้มจนแก้มแทบแตก ก่อนจะซุกหน้าลงหมอนเพื่อระบายอารมณ์เคอะเขิน ครั้งนี้ชานยอลเป็นฝ่ายทักเขามา ชานยอลทักมาเชียวนะ...ไหนจะยังสติ๊กเกอร์นั่นอีก...
PCY : GN.
รีบสะดุ้งตัวมาดูข้อความที่เด้งเข้ามา ความจริงมันไม่น่าจะเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาด้วยซ้ำ ชานยอลอาจจะแค่ต้องการแกล้งแบคฮยอนเล่นๆก็ได้ คนบ้าอะไรจะมารู้สึกดีกับสโต๊กเกอร์ที่คอยไล่ตามตัวเองกันล่ะ
เซฮุนรีบออกไปเรียนแต่เช้าตรู่ ถ้าเกิดออกมาตามเวลาปกติคงไม่พ้นพบจงอินแน่ๆ เซฮุนไม่พร้อมที่จะเจอจงอินตอนนี้หรอก เรื่องเมื่อวานมันยังหลอนอยู่ในโสตประสาทไม่จางหาย แค่คิดว่าตัวเองตกเป็นของจงอิน แค่นั้นก็อยากร้องไห้แล้ว...
“รีบเหรอ..”
เซฮุนแทบจะลมจับทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มเซ็กซี่ที่โคตรไม่อยากได้ยิน คิมจงอินเดินเข้ามาโอบเอวบางจากด้านหลัง ก่อนจะกดปลายจมูกลงบนแก้มนุ่มเบาๆเพื่อเป็นการทักทาย
“มอนิ่งครับที่รัก”
“ที่รักกับผีน่ะสิ ปล่อยกูได้แล้วไอ้ผีทะเล!” ดันร่างอีกคนออกจนจงอินเกือบเซล้ม
“ทำตัวน่ารักๆหน่อยไม่ได้เหรอหื้ม..” เชยคางเรียวหันมาสบตาตัวเอง จงอินจ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาคู่สวยของอีกฝ่าย
“อย่ามาทำรุ่มร่ามกับกูนะ เลิกยุ่งกับกูได้แล้ว”
“อยู่กันสองคนช่วยทำตัวน่ารักๆได้มั้ย”
“ถ้าไม่ทำ จะทำไม?”
“จะเอาเรื่องเมื่อคืนไปประกาศ”
“ไอ้....” เซฮุนพูดแค่นั้นแล้วก็ซบใบหน้าหวานลงบนแผ่นไหล่กว้างของจงอิน ริมฝีปากหนากระตุกยิ้ม เซฮุนในโหมดแบบนี้หาดูยากนะ... ถึงจะยอมมาอ้อนเขาเพราะถูกบังคับก็เถอะ แต่แบบนี้มันก็ดี....
“เลิกเรียนกี่โมง เดี๋ยวผมไปรับ”
“ไม่ต้อง...เดี๋ยวกูกลับเอง”
“ไม่ได้ ผมจะไปส่งคุณ และรับคุณกลับมาพร้อมกัน”
“โว๊ะ! เลิกบ่ายสอง”
“โกหก..ผมให้โอกาสคุณอีกที” จงอินเลื่อนริมฝีปากไปกระซิบข้างๆใบหูของอีกคน เขาไปสืบมาแล้วตอนนี้ตารางเรียนทุกวันของเซฮุนอยู่ในมือถือของเขาเรียบร้อย และเขาก็เดาไม่ผิดจริงๆ เซฮุนต้องออกมาแต่เช้าตรู่แบบนี้เพราะไม่อยากเจอเขาแน่ๆ
“รู้แล้วจะถามทำไมล่ะ ก็มารับตามนั้นซะสิ” มารับเลยสิจงอิน แต่อย่าหวังเลยว่าเซฮุนจะอยู่ให้เห็นน่ะ
“อย่าแม้แต่คิดจะหนีผมนะ เพราะผมไม่ใช่คนที่คุณจะมาหยอกเล่นได้นะเด็กดี” พูดพร้อมกับเปิดประตูรถหรูให้อีกคนเข้าไป
ความสัมพันธ์แบบนี้แหละจงอินชอบเพราะมันตื่นเต้น เร้าใจสุดๆ
แบคฮยอนออกมาเรียนตามปกติ วันนี้ทุกคนต่างจดจ้องมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆอีกแล้ว อะไรกันคนพวกนี้ ชีวิตตัวเองว่างนักรึไงถึงมาตามยุ่งเรื่องของคนอื่นน่ะ.....
“แบคฮยอน อาจารย์จงกุกเรียกไปพบน่ะ” แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังจากที่ได้ยิน อาจารย์จงกุกที่ว่าก็คืออาจารย์ที่สอนวิชาวางแผนธุรกิจที่แบคฮยอนไปทำซ่าในคาบมายังไงล่ะ...
ก๊อก ก๊อก ๆ
เคาะประตูสามทีแล้วก็เปิดเข้าไป ก็พบกับอาจารย์คนเก่งและคู่อริของเขาที่ไม่อยากเจอเลยสักนิด ปาร์คชานยอลนั่งไกว่ห้างและมองมายังแบคฮยอนด้วยสายตาเหยียดหยามสุดๆ หมอนี่นะ ตอนคุยกันในไลน์ไม่เห็นจะน่าเตะเท่านี้เลย...
“ขออนุญาตครับ”
“เชิญนั่งสิแบคฮยอน” อาจารย์จงกุกเอ่ยขึ้นเพื่อต้อนรับนักศึกษาที่เข้ามาใหม่ ก่อนจะเปิดแฟ้มบันทึกอะไรสักอย่างที่มันดูหนาๆ คร่ำครึ แปลกๆ
“ก่อนอื่นเรามาทำสัญญากันก่อน”
“สัญญา สัญญาอะไรครับ..” เป็นแบคฮยอนที่เป็นฝ่ายเอ่ยถามออกไป..
“มันก็ไม่เชิงสัญญา แต่ว่าพวกเธอทั้งสองคนจะต้องเซ็นไว้เป็นประกันว่าจะไม่ทะเลาะกันแล้วเตะกันแบบนั้นในคลาสของฉันอีก และถ้ามันยังมีอีก พวกเธอตกวิชาของฉันแน่ๆ” ทั้งชานยอลและแบคฮยอนหน้าซีดทันทีที่ได้ยิน ใครมันจะไปหักห้ามใจไหว ลำพังชานยอลคงไม่เป็นไร แต่แบคฮยอนนี่สิ มือไวกว่าสมองตลอด
“แล้วที่พวกเธอทำไป มันเป็นครั้งแรก ฉันให้อภัยได้ เพราะมันก็เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ”
“ขอบคุณครับ” ปาร์คชานยอลพูดขึ้นมาบ้างหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นานสองนาน
“แล้วนี่พวกเธอเคลียร์กันรึยัง เป็นลูกผู้ชายมีอะไรต้องคุยกันนะ”
“ฮ่าๆ...อาจารย์ครับ ผมพยายามจะเคลียร์แล้วนะ แต่ไอ้เตี้ยเนี่ยก็มีแต่แบบทำร้ายร่างกาย สงสัยเป็นมาโซคิสต์”
“ประสาท...” แบคฮยอนไม่เถียงเยอะ แต่กลับตอกด้วยคำสั้นๆแต่คนฟังเจ็บแปลบแสบไปถึงกระดอง ที่ชานยอลทำมันไม่ได้เรียกเคลียร์ มันเรียกว่ากวนประสาทต่างหาก
“พวกเธอนี่นะ...ต่อไปนี้จะเป็นคำสั่งนะ” อาจารย์จงกุกพูดและยืนขึ้นใช้สองมือค้ำโต๊ะทำงานเอาไว้
“เดินจับมือกันไปจนถึงห้องเรียนเลยนะ...ห้ามปล่อยเด็ดขาด”
“อะไรนะครับ!!?” ชานยอลตะโกนขึ้นมาเสียงดัง จะให้ผู้ชายแมนๆไปจับมือกับผู้ชายด้วยกันแบบนั้นได้ยังไง ใครๆเขาก็คิดว่าชานยอลเป็นเกย์หมดน่ะสิ
“ต้องทำ...ไม่งั้นหักคะแนน!!”
เหมือนกับเอาเข็มมาจิ้มตามตัวของแบคฮยอน ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงดีใจมาก แต่ความรู้สึกตอนนี้มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่คลุมเครืออยู่ในอก ดีใจก็ไม่เชิง ไม่อยากทำก็ไม่ใช่ หรือเขากำลังฝืนใจตัวเองกันแน่...
………………….
“เดินช้าๆหน่อยไม่ได้รึไง” แบคฮยอนโวยวายเนื่องจากชานยอลจูงมือเขาเดินเร็วเกินไปแล้ว จะล้มมาหลายรอบแล้วเนี่ย
“ชักช้าว่ะ” ชานยอลค่อยๆเดินช้าลงและหันมามองแบคฮยอนด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ตัวก็เตี้ย ขาก็สั้น มีอะไรดีบ้างมั้ยวะครับ
“เดี๋ยวก็ล้มหรอก อีก10นาทีคลาสถึงเริ่ม ทันอยู่หรอกโว้ย”
“ล้มก็จะรับไว้หรอกน่า...”
“…………….”
“รับด้วยเท้านะ” แบคฮยอนที่เมื่อกี๊เหมือนตกอยู่ในภวังค์รีบชักจิตใจกลับมา ชานยอลมันก็ยังเป็นชานยอลอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ
วี้ดวิ่ววววว ......
เสียงแซวเซ็งแซ่ไปตลอดทาง สาวๆต่างกรี๊ดกร๊าด ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นแหละว่าชานยอลกับแบคฮยอนน่ะเหมาะสมกันแค่ไหน มีแต่สองคนนั่นแหละ ที่ไม่รู้อะไรเลย.....
“ถึงแล้ว ปล่อยได้แล้ว” แบคฮยอนรีบสะบัดมือออกทันทีที่เดินเข้ามาถึงตึกคณะ มองเข้าไปก็พบกับจงอินที่เดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดีผิดจากพวกเขาสองคนสุดๆ
“อ้าว สวัสดีแบคฮยอน ไหงมาอยู่กับชานยอลได้ล่ะ?” จงอินเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองที่ยืนอยู่ด้วยกัน ตัวติดกันด้วย
“อ๋อ ไปเจออาจารย์จงกุกมาด้วยกันน่ะ นี่ก็จะแยกกันแล้วแหละ” แบคฮยอนพูดและมีท่าทีวว่าจะเดินออกไป
“เดี๋ยวสิแบคฮยอน ฉันมีอะไรจะถาม”
“หื้อ... อะไรเหรอ.??”
“แฟนเซฮุนชื่ออะไรอ่ะ เรียนนิเทศใช่มะ?”
“ชื่อซันนี่ ใช่ๆเรียนนิเทศปีหนึ่ง ถามทำไมเหรอ”
“เปล่าหรอก...ขอบใจมากนะ”
“อ่า...บายนะ ไปรอเรียนละ” แบคฮยอนยิ้มแก้เก้อโดยที่ไม่เห็นเลยว่าชานยอลยืนเบะปากอยู่ใกล้ๆ ทีกับคนอื่นล่ะพูดดี ทีกับชานยอลล่ะมีแต่กูกับมึง....
12.05 น.
จงอินรีบขับรถไปรับเซฮุนทันทีที่เขาเลิกเรียน วันนี้ดีหน่อยที่เลิกเรียนพร้อมกัน รถหรูจอดเทียบกับฟุตบาทกว้าง รอไม่นานนักก็เห็นเซฮุนเดินควงแขนออกมาพร้อมกับผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง จงอินหยิบมือถือขึ้นมาดูรูปที่เซฟไว้ก็มั่นใจแล้วว่าสาวน้อยคนนั้นชื่อซันนี่...
“จงอิน มึงจะไปกินข้าวกับพวกกูมั้ยวะ?” เซฮุนเดินมาเคาะกระจกรถพร้อมกับเอ่ยประโยคดังกล่าว แขนยาวยังโอบไหล่แฟนสาวไม่ห่างไปไหน
“ไปดิ ขึ้นรถเลย เดี๋ยวกูไปส่ง” จงอินพยักหน้า และเอื้อมมือไปหยิบแหว่นกันแดดขึ้นมาสวม ก่อนจะปลดล็อกประตูรถ
“สวัสดีค่ะพี่จงอิน หนูชื่อซันนี่เป็นแฟนพี่เซฮุนค่ะ” ซันนี่นั่งที่เบาะด้านหลัง เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วน่ารักน่าฟัง...ถ้าไม่ติดว่าซันนี่เป็นแฟนเซฮุนนะ จงอินจีบไปแล้ว
“สวัสดีครับ ซันนี่น่ารักจังเลยนะครับ ไม่แปลกเลยที่เซฮุนมันหลงขนาดนี้” ยิ้มแบบหล่อๆและสบตาสาวน้อยผ่านกระจกมองด้านหลัง
“ขอบคุณค่ะ เอ่อ พี่จงอินคะ ซันนี่รบกวนแวะเซเว่นข้างหน้าก่อนได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ” จงอินหักพวงมาลัยไปจอดเทียบหน้าเซเว่นที่ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัย
“ให้พี่ไปด้วยมั้ยครับ??” เซฮุนหันไปถามแฟนสาวและเตรียมตัวลงจากรถไปด้วย แต่ซันนี่ส่ายหน้าปฏิเสธเพราะเธอรีบและจะลงไปซื้อของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นต่อผู้หญิงมากๆ
“ห่างไม่ได้เลยนะ..” จงอินเอ่ยขึ้นมาเมื่อซันนี่ลงไปจากรถแล้ว
“แน่นอนดิ มีแฟนน่ารักขนาดนั้น”
“เหรอ...น่ารักแล้วเร่าร้อนเท่าผมมั้ยล่ะ?”
“หยุดปากเสียเดี๋ยวนี้...”
“พูดแค่นี้โกรธแล้วเหรอเด็กดี ไม่เอาน่า...” ยื่นมือยาวไปยีหัวของเซฮุนเบาๆเพื่อหยอกล้อ เซฮุนถอนหายใจเสียงดังแต่ก็ยังไม่สามารถแสดงอาการอะไรออกมาได้มากมายเท่าไหร่นัก ตอนนี้เขาเป็นรองจงอินอยู่...
“กล้ามากนะ...ควงแฟนมาเย้ยผมเนี่ย..”
“ก็เห็นมั้ยล่ะ ฉันมีแฟนแล้ว... นายก็ควรเลิกยุ่งกับฉัน”
“เดี๋ยวก็เลิก....” จงอินพูดและยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่คนเดียว ฟันธงได้เลย เดี๋ยวสองคนนี้ก็เลิกกันเขามั่นใจสุดๆเลยล่ะ
“เลิกอะไร ใครเลิก?”
“ผมจะเลิกยุ่งกับคุณไงครับ J”
“ให้มันจริงเหอะ...ฉันไม่ได้สนุกกับการกระทำของนายขนาดนั้นหรอกนะ”
ตอนนี้จบคลาสแล้ว ชานยอลยืนอยู่กับซูโฮสองคน จงอินไปไหนก็ไม่รู้ เห็นว่าจะไปรับเด็กดีอะไรของมันนั่นแหละ สงสัยจะเป็นหลาน หรือไม่มันก็อาจซุกลูกเอาไว้
ชานยอลกรอกน้ำเข้าปากติดต่อกันหลายอึก รู้สึกสดชื่นสุดๆเลยแฮะ
“ไปไหนต่อดีวะ?” ซูโฮหันมาเอ่ยถามเพื่อนสนิท วันนี้จงอินไม่อยู่ไม่มีหัวโจกแกนนำความเกรียนเลย
“นั่นดิ...กลับหอก็ไม่มีอะไรทำ..” เหลือบมองหน้าปัดนาฬิกาบนข้อมือของตัวเองพร้อมถอนหายใจดังๆ กลับหอไปก็ต้องไปนอน หนังสงหนังสือน่ะไม่เคยอ่านอยู่แล้ว คนมันหัวดี แค่เรียนเอาก็เข้าใจ
“กูรู้ละ....มึงเห็นไอ้เตี้ยเดินออกมายัง?”
“ไอ้เตี้ย? ใครวะ ที่คณะมีคนชื่อเตี้ยด้วยเหรอ?” ซูโฮถามชานยอลอย่างแปลกใจ ไอ้เตี้ยคือใครกัน
“แบคฮยอนไงมึง!”
“อ่อ...ถ้าแบคฮยอน ตอนนี้กำลังขึ้นรถไปพร้อมคยองซูแล้วอ่ะ” ซูโฮชี้ไปที่ลานจอดรถ แบคฮยอนและคยองซูกำลังขึ้นรถไปด้วยกันโดยที่แบคฮยอนเป็นคนขับ...
“ป่ะ...ไปกัน”
“ไปไหนวะ?”
“ตามสองคนนั้นไปไง...”
“ตามไปทำไมวะ มึงว่างขนาดนั้นเลยอ่อ??”
“ไม่มีอะไรทำนี่หว่า...ไปกันเถอะ เร็วๆดิ!!”
ซูโฮจอดรถของเขาทิ้งไว้ที่มหาลัย รอให้คนของที่บ้านมาขับกลับเอาเพราะเจ้าของรถกำลังนั่งอยู่บนรถของเพื่อนรักที่กำลังขับตามคนอื่นเหมือนคนว่างงานนักหนา
“มึงเปลี่ยนไปนะชานยอล”
“เปลี่ยนยังไงวะ?”
“แต่ก่อนมึงใช่คนสนใจคนอื่นที่ไหน ทำไมตอนนี้มึงสนใจแบคฮยอนจังวะ? ชอบเขาเหรอ?”
“ชอบแป๊ะอะไรล่ะ กูไม่ใช่เกย์” ชานยอลตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“เหรอ....แล้วมึงขับรถตามเขาทำไม?”
“เออนั่นดิ....กูตามเขาทำไมวะ?” ชานยอลจู่ๆก็คิดได้ เขารีบกลับรถและโค้งไปอีกทางทันที มันไม่ใช่ธุระกงการของชานยอลเลยสักนิด จะขับตามแบคฮยอนไปทำไมกัน
เก๊กเข้าไปชานยอล เก๊กเข้าไป....
ซูโฮกระตุกยิ้มเงียบๆคนเดียวและนั่งนิ่งปล่อยให้ชานยอลขับรถต่อไป....
แบคฮยอนและคยองซูขับรถมาที่ร้านเค้กชื่อดังแห่งหนึ่ง อดีตแฟนของแบคฮยอนกลับมาจากจีนแล้ว และเทียบโอนเข้ามาศึกษาต่อที่คณะแพทย์มหาลัยเดียวกันกับพวกเขา
“ทำไมต้องลากกูมาด้วยเนี่ย...”
“เหอะน่า...กูเขิน”
“แล้วแฟนเก่ามึงหล่อมั้ยอ่ะ?”
“เมื่อก่อนไม่หล่อเท่าไหร่นะ แค่หุ่นดี แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่ะ ไม่ได้เจอกันมา6ปีแล้วนะเว้ย”
แบคฮยอนพูดและผลักประตูเข้าไปในร้าน บอกพนักงานว่ามาหาลูกค้าที่ชื่ออี้ฟาน เขาก็เดินนำไปยังโต๊ะที่ว่าทันที
พระเจ้าจอร์ช!! นี่มันยิ่งกว่าดาราฮอลลีวูดที่เคยติดตาม......
สาบานได้ไหมว่านี่ไม่ใช่ความฝัน บอกแบคฮยอนทีว่าคนตรงหน้าคือพี่อี้ฟานจริงๆ.... เวลาผ่านไป6ปี พี่อี้ฟานหล่อขึ้นมาก หล่อมากๆๆๆๆ แบคฮยอนเคยคิดว่าชานยอลหล่อมากแล้ว แต่ยังแพ้พี่อี้ฟานนะครับ
“สวัสดีครับตัวเล็ก...” คำทักทายแบบนี้มีคนเดียวในโลก
“พี่อี้ฟาน...”
“มามะ มาให้พี่กอดหน่อย”
“งื้ออ...คิดถึงจัง”
“พี่ก็คิดถึงเราเหมือนกันครับ....ตัวเล็กของพี่” ทั้งสองคนประคองกอดกันเต็มอ้อมกอด ความคิดถึงส่งผ่านผิวกายที่แนบชิดกันจนมันไหลเวียนไปสู่หัวใจ
อู๋อี้ฟานคิดถึงแบคฮยอนมาตลอดเวลาตั้งแต่เลิกกัน
ระยะทางเป็นอุปสรรคสำหรับทุกๆอย่าง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรัก.....
โปรดติดตามตอนต่อไป..
ทอล์ค- อ้าวสวัสดีพี่หมอฟาน ก๊ากกก 55555+ ชานยอลเอ้ยชานยอล จงอินก็ไม่ธรรมดานะจ๊ะ นี่แค่เบาๆน้าาา5555+ ครบร้อยแล้ว เย้ๆ!
1 เม้นของคุณเป็นกำลังให้เรามหาศาลเลยนะคะ ไม่สะดวกเม้นติดแท็กในทวิตก็ได้น้า
#ฟิคฮาจิมา
Twitter/@buabuafunfun #ฟิคฮาจิมา
ความคิดเห็น