คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฮ า จิ ม า - บ ท ที่ ส อ ง [ 100 % ]
하 지 마
02
“พอแล้วมั้งเซฮุน เมามากแล้วนะครับ” น้ำเสียงนุ่มทุ้มของจงอินกระซิบคลอเคลียอยู่ข้างใบหูของเซฮุนไม่ห่าง
ตอนนี้เซฮุนขึ้นมานั่งทับอยู่บนตักของจงอินเรียบร้อยแล้ว จู่ๆก็คลานปุ๊กๆขึ้นมานั่งคร่อมตักเขา มิหนำซ้ำยังซุกหน้าลงบนซอกคอของจงอินอีก
อู้วววว พี่จงอินจะทนไม่ไหวแล้วครับ!!
“กูกลับก่อนนะ มึงก็กลับได้ละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไปเรียนไม่ไหวหรอก” ซูโฮพูดหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นานสองนาน จงอินตั้งใจจะอยู่จนผับปิดเลยรึไง ปกติ6ทุ่มพวกเขาก็แยกย้ายกันกลับบ้านละ นี่มันจะตี2แล้วนะครับ
“เออ กูก็ว่าจะกลับละ” จงอินพูดพร้อมกับช้อนร่างของเซฮุนให้ลุกขึ้นด้วยอย่างสบายๆ ซูโฮยักคิ้วอย่างเข้าใจ จงอินมันคิดอะไร จะทำอะไรซูโฮก็รับรู้ผ่านสายตามันหมดนั่นแหละ
เป็นเพื่อนกันมาก็ตั้งหลายปี มีเมียคนเดียวกันก็เคยมี ทำไมป๋าโฮจะไม่รู้ครับ
“จะทำอะไรคิดหน้าคิดหลังก่อนนะเพื่อน อย่าหาว่ากูไม่เตือน” ซูโฮพูดจบก็หยิบโค้ทขึ้นมาสวม ก่อนจะเดินออกไปและไม่ได้หันหลังมามองเพื่อนรักอีกเลย
“อะไรของมันวะ?! ป่ะ เราก็กลับบ้านได้แล้วเนอะคนเก่ง” จงอินพูดพร้อมกับกดปลายจมูกลงบนแก้มใสเบาๆ เขาหัวเราะคิกคักกับตัวเอง แก้มเซฮุนห๊อมหอม
“งื้อ...”
“ไปนอนกับผมนะครับคืนนี้”
“งื้อ.....”
“งื้อคือตกลงแล้วนะเด็กดี” ฟัดแก้มนิ่มไปพลางเดินไปพลาง จงอินควานหากุญแจรถหรูของเซฮุนที่แบคฮยอนบอกว่ามันอยู่ในกระเป๋ากางเกง วันนี้จงอินติดรถชานยอลออกมาก็เลยได้โอกาสขับรถของเซฮุนกลับหอซะเลย
ช้อนร่างของเซฮุนมาจนถึงหน้าประตูห้องของคนที่อยู่ในอ้อมกอด ยืนเอะใจว่าจะเข้าไปดีมั้ยน้า หรือจะพาเซฮุนไปนอนที่ห้องของตัวเองก่อน ..... พาไปด้วยกันดีกว่า เดาะลิ้นและคิดอะไรสนุกๆคนเดียว
จงอินเสียบคีย์การ์ดเข้าไปภายในช่องประตู ล็อกจึงถูกปลดอัตโนมัติ
“งื้ออ...”
“โอ๋ๆ เด็กดี ถึงแล้วครับๆ” จงอินยื่นหน้าไปหอมแก้มเซฮุนขณะที่กำลังวางร่างบางลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ของเขา มือหนาค่อยๆถอดรองเท้าของอีกคนออกทีละข้าง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวอีกคน
จงอินยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า เขาค่อยๆใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามโครงหน้า ซอกคอ แขน และขาของเซฮุน พอเมาแล้วแก้มก็จะออกสีแดงระเรื่อ น่ารักชะมัดเลย
“งื่อ....ร้อนนน” เซฮุนดิ้นขลุกๆและเลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองอย่างรีบร้อน เขาปลดมันออกจนเห็นแผงอกขาวน่าขย้ำนั่น....
เรียวมือซุกซนยังเลื่อนไปปลดเข็มขัดตัวเองอีก ....... อย่านะ! คิมจงอินไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะครับ
“เฮ้ยๆ! เซฮุนครับ เดี๋ยวๆ ไม่เอา อย่าเพิ่งถอดนะ”
“มานี่ดิ๊!!!!” น้ำเสียงดุดันของเซฮุนดังขึ้น ก่อนจะกระชากแขนของจงอินให้ล้มลงมาคร่อมทับร่างของเขาที่อยู่บนเตียง
“น้องสาวจ๊ะ....นวดให้พี่หน่อยเร้ววว” เซฮุนพูดและขบงับใบหูของจงอินเบาๆ เซฮุนเมาเรื้อนแล้วโว้ยยยย
“นี่จงอินครับ นี่คิมจงอิน ไม่ใช่น้องสาว...” เซฮุนใช้แขนมารวบรัดร่างของจงอินเอาไว้แนบแน่น จงอินยิ้ม เขาไม่ได้กลัวกับการกระทำของเซฮุนตอนนี้หรอก เขากลัวใจตัวเองมากกว่า กลัวจะห้ามใจไม่ไหว แล้วเผลอไปมีอะไรกับคนที่ไม่ได้สติ...
“พูดถึงไอ้ดำนั่นทำมายยย อยู่กับพี่ก็เรียกแต่ชื่อพี่สิจ๊ะ ..... ไหนครางหวานๆซี้..”
“เซฮุนอ๊า เซฮุนจ๋า..” จงอินก็เล่นกับเซฮุนสะงั้น ดัดน้ำเสียงจากทุ้มให้กลายเป็นเสียงเล็กๆประหนึ่งกะเทยน้อยเพิ่งเสียงแตก
“ดีมากค่ะ...หนูชื่ออะไรหื้ม...???”
“อินนี่ค่ะ หนูชื่ออินนี่” อินนี่ในร่างของจงอินงับริมฝีปากล่างของเซฮุนเบาๆ จนคนที่ถูกงับรู้สึกโหวงเหวงไปหมด
“น่ารักมากค่ะอินนี่...มาๆพี่จะให้รางวัล” เซฮุนยื่นปากมาจูบขมับจงอินหลายครั้งติดต่อกัน จงอินเผลอหัวเราะให้กับความน่ารัก ก่อนจะนึกเรื่องสนุกได้ จึงค่อยๆผละร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วค่อยๆถอดเสื้อเชิ้ตตัวเก่งที่สวมอยู่พร้อมร่นกางเกงยีนส์ของอีกคนแล้วเขวี้ยงมันลงพื้นห้องอย่างแรง
จงอินเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มหนานุ่มที่ปลายเตียงมาคลุมร่างของเซฮุนและร่างของเขา แขนแกร่งโอบรัดเอวบางของอีกคนเอาไว้ไม่ห่าง ผ่านไปสักพักเซฮุนก็ค่อยๆเลื่อนใบหน้ามาซุกอยู่ที่อกเปลือยเปล่าของเขา ……
เตรียมตัวตื่นมาแล้วเป็นเมียพี่ได้เลยโอเซฮุน !
20%
เซฮุนจะขยับตัวบิดขี้เกียจแต่ก็ขยับไม่สะดวก รู้สึกเหมือนถูกกอดรัดเอาไว้อยู่ยังไงอย่างงั้น บางทีอาจจะเป็นน้องอินนี่กำลังกอดเขาอยู่ก็ได้ แต่เอ๊ะ? ทำไมน้องอินนี่แขนใหญ่กว่าเขาอีกล่ะ ทำไมน้องอินนี่ผิวคล้ำ? นี่เซฮุนเมาจนเลือกคู่นอนโดยไม่คำนึงสเป็กของตัวเองไปเลยเหรอ....
เซฮุนค่อยๆเงยหน้าจากแผงอกที่กำลังซบอยู่และแล้วก็ต้องเบิกตาขึ้นอย่างตกอกตกใจ
ทำไมน้องอินนี่ไม่มีหน้าอก!!! น้องอินนี่มีซิ้กแพ็ก!!!!
เห้ย! แบบนี้ไม่ใช่ละ!!!
“ไอ้เชี่ย!!!!!!” ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและวิ่งไปยืนใกล้ๆประตู
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่เซฮุน อินนี่ยังนอนไม่อิ่มเลยน้า....” จงอินหยัดกายขึ้นแล้วนอนเท้าคางมองเซฮุน
“มึง...ไอ้ดำ...มึงทำอะไรกู....” นิ้วเรียวยกขึ้นชี้จงอิน ก้มลงมองร่างของตัวเอง เซฮุนสวมเพียงแค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว...
“ทำเมียครับ...ทำเมีย..” จงอินยักคิ้วกวนประสาทเซฮุน มือเรียวกำเข้าหากันแน่น เดินเข้าไปใกล้จงอินเรื่อยๆ
ผลัวะ!!!
ต่อยเข้าที่จมูกคมจนอีกคนต้องร้องโอดโอย เซฮุนถอยออกไปห้าก้าว สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้ววิ่งเข้ามาพร้อมกับกระโดดถีบจงอินจนอีกคนกลิ้งตกเตียง
“เจ็บนะครับ!” จงอินปาดเลือดกำเดาที่ไหลเปรอะใบหน้าออกลวก พร้อมกับกระชากร่างของเซฮุนให้นอนลงบนเตียงแล้วก้าวขึ้นคร่อมทับและกดจูบลงบนริมฝีปากสวยอย่างนึกสนุก
“ปล่อยกู!!! ไอ้ชั่ว!”
“ทำตัวน่ารักๆก่อน แล้วจะปล่อย”
“ปล่อยกูเดี๋ยวนี้....” พยายามดันอีกคนสุดแรงแต่ก็สู้แรงของจงอินไม่ไหว ทั้งสองมือของเซฮุนสู้แค่มือเดียวของจงอินยังไม่ไหวเลย กระดูกมันคนละเบอร์กัน
“พูดเพราะๆ”
“จะจง..อินครับ...ปล่อยผมเหอะน้า”
“ก็แค่เนี้ย..” ลุกขึ้นพร้อมปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระ แค่นั้นแหละเซฮุนก็รีบใส่เสื้อผ้าทันที
“กุญแจรถกูล่ะ” เซฮุนจำได้ว่ามีใครสักคนมาควานหากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงของเขา และคนๆนั้นก็ต้องเป็นจงอินนั่นแหละ
“อยู่กับผม..”
“เอามาดิ..”
“หอมแก้มก่อนสิครับ แล้วผมจะให้ทันทีเลย” ยักคิ้วและยกยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ไอ้....”
“จะเอามั้ยหื้ม...??” พอจงอินชูกุญแจขึ้นเท่านั้นแหละ เซฮุนก็รีบวิ่งไปหอมแก้มสากๆนั่นทันที แถมมือเรียวยังกระชากเอากุญแจออกมาซะรุนแรง
“อ้อ...มีอีกเรื่องที่จะขอร้อง...” เซฮุนพูดขณะเดินไปที่ประตู
“อะไรหื้ม..??”
“อย่าบอกใครเรื่องนี้นะ ขอร้องล่ะ...” เซฮุนส่งสายตาเว้าวอนมาจนคนที่มองอดสงสารไม่ได้..
“หึหึ..” จงอินพยักหน้าและหัวเราะในลำคอเบาๆ เราได้สนุกกันอีกยาวแน่ครับเซฮุนนาที่รัก...
แบคฮยอนเดินเข้ามาภายในห้องเรียนอย่างประหม่า ยิ่งเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนะครับ อื้อหือเลย ล้มแล้วเผลอไปจับไข่ชานยอลเข้า ยอมรับว่ามันเร้าใจ แต่มันก็ดูไม่งามนี่นา....
ดีนะที่เมื่อคืนชานยอลยังยอมให้แบคฮยอนติดรถมาด้วย แต่ระหว่างทางชานยอลไม่ปริปากพูดอะไรเลย เอาแต่นั่งหนีบขาเอาไว้อย่างเหนียมอาย ถึงอย่างนั้นมันก็ดี แบคฮยอนได้อยู่ใกล้ชานยอลมากขึ้นแล้ว
ขาเรียวก้าวฉับๆไปที่โต๊ะเลคเชอร์ตัวประจำที่มักจะมานั่งเรียนกับเพื่อนสนิท คยองซูยังมาไม่ถึง แบคฮยอนไม่อยากอยู่คนเดียวนะ เดี๋ยวถ้าเกิดชานยอลเดินเข้ามาแล้วแบคฮยอนจะทำยังไงดีล่ะ....จะทำหน้ายังไงดี ยิ้มให้ หรือทำหน้านิ่งดี?!
“สวัสดีแบคฮยอน”
“สวัสดีฮ้าบบ” แบคฮยอนทักทายเพื่อนร่วมคลาสที่เริ่มทยอยกันเข้ามา
“ชานยอลมาแล้วแหละแก๊!!” แบคฮยอนฟุบหน้าลงบนโต๊ะทันทีที่ได้ยินคำพูดของสาวๆที่อยู่ใกล้ๆ
ร่างเล็กหอบหายใจถี่ๆ ใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ ปกติชานยอลจะนั่งถัดจากเขาไปอีกสองแถว และจะนั่งด้วยกันกับเพื่อนทั้งสามหน่อของเขา วินาทีนี้ขอแค่ชานยอลเดินผ่านไปแล้วไม่ต้องเอ่ยปากพูดอะไรทั้งนั้น...
กลิ่นโคโลญที่แสนคุ้ยเคยเพราะแอบไปดมมาบ่อยๆเริ่มเข้ามาใกล้เข้าเรื่อยๆ และเจ้าของกลิ่นนั่นก็มาหยุดยืนข้างเขาอีกต่างหาก ไปซะชานยอล ไปเถอะนะ....
“ไอ้เตี้ย..” นิ้วของชานยอลสะกิดยิกๆบริเวณหน้าผากที่มีกลุ่มผมหน้าม้าปกคลุมอยู่
“ไอ้เตี้ยแบคฮยอน..” เรียกเป็นครั้งที่สองแต่แบคฮยอนก็ยังนอนนิ่งไม่ไหวติง
“ไอ้เห้แบคฮยอน! มึงจะเงยหน้าขึ้นมามั้ยวะ?” ชานยอลก้มตัวลงไปกระซิบเสียงแข็งพอให้ได้ยินกันสองคน ถ้าเป็นคนอื่นมองคงจะอิจฉาน่าดู แต่ประโยคที่ออกมาจากปากชานยอลมันกลับเต็มไปด้วยคำหยาบคาย ซาตานในคราบเทพบุตรจริงๆ
ฟู่วววววว...
“อ๊ะ!” แบคฮยอนสะดุ้งโหยงกับแรงลมอ่อนๆที่ชานยอลเป่าเข้าใส่รูหูของเขา นี่มันจุดอ่อนไหวของเขาเลยนะ ชานยอลทำบ้าอะไร
“กูมีอะไรจะคุยกับมึง ไปกับกูเดี๋ยวนี้...” พูดสั่งแล้วยังเอามือใหญ่ๆของเขามาดึงแขนแบคฮยอนอีก...
“เราไม่มีอะไรจะคุยกับชานยอล แล้วก็เรื่องเมื่อวานเราไม่ได้ตั้งใจนะ...”
“อย่ามาทำเป็นไขสือ อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงเป็นคนยังไง” กดเสียงต่ำ และออกแรงดึงจนร่างเล็กต้องรีบลุกตามออกไป.... การกระทำของปาร์คชานยอลเป็นที่สนใจของเพื่อนร่วมคลาสเป็นอย่างมาก พวกสาววายก็พากันจิ้นอย่างสนุกปาก
“โอ๊ยย! เราเจ็บนะ!” แบคฮยอนร้องโอดโอยเพราะชานยอลผลักร่างของเขาจนกระแทกกับผนังห้องน้ำเสียงดัง
“เมื่อวานไข่กูมันเจ็บกว่ามึงตอนนี้รู้เอาไว้ซะด้วย!” เมื่อชานยอลพูดอย่างงั้น สายตาของแบคฮยอนก็เลื่อนลงไปยังใจกลางลำตัวของอีกคนทันที
“เราบอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจไง มันเป็นอุบัติเหตุ ตอนนั้นเราก็เมาแล้วด้วย...”
“มึงตั้งใจใช่มั้ยล่ะ?” สายตาคู่คมจ้องเข้าไปในดวงตาคู่เล็กเหมือนกระจกที่สามารถทิ่มแทงให้เป็นแผลได้ ตรึงข้อมือเล็กไว้กับผนังไม่ให้หนีไปจากเขา...
“เอ๊ะ! เราก็บอกอยู่ไงว่าไม่ได้ตั้งใจ”
“กูพลาดเสียให้มึงไปแล้วนะ...มึงจะรับผิดชอบยังไง?”
“ขอโทษได้มั้ยล่ะ??”
“ไม่ได้...” เอ่ยเสียงเรียบจนแบคฮยอนเริ่มรู้สึกกลัวชานยอลขึ้นมาแล้ว
“โอ๊ย! แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ ชานยอลคิดว่าเราพิศวาสชานยอลนักรึไง ลืมๆมันไปเหอะ มันเอากลับมาไม่ได้แล้วนี่!” แบคฮยอนเถียงกลับทันควัน เขาเริ่มจะหงุดหงิดแล้วนะ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!! ชานยอลกับแบคฮยอนไปทำอะไรกันมา!?”
ทั้งสองคนที่มาเคลียร์ธุระกันพูดเสียงดังลั่นจนลืมไปว่าที่นี่เป็นห้องน้ำสาธารณะ ลืมไปเลยว่าอาจจะมีคนอยู่ในห้องน้ำ และคนที่อยู่ในห้องน้ำก็คือริคกี้กะเทยฝีปากจัดจ้านที่มีฉายาว่าริคกี้รู้โลกรู้ !! ฮือ...แบคฮยอนขอลาตาย
“อ้าวริคกี้ เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?” ชานยอลยิ้มพร้อมกับเอ่ยถามริคกี้อย่างสุภาพ ผิดกับที่พูดกับแบคฮยอนลิบลับ
“ตั้งแต่โอ๊ยเราเจ็บนะเลยอ่ะ” เหมือนเอาขวานมาจามหน้าชานยอลเลยครับ ริคกี้อยู่ในห้องน้ำตั้งแต่เริ่มสนทนาเลย...
“ริคกี้กำลังเข้าใจผิดนะ เรากับชานยอลไม่ได้ทำอะไรมาทั้งนั้นแหละ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ต้องอายหรอกแบคฮยอน เดี๋ยวนี้สังคมเรามันก็เปิดกว้างแล้วแหละ เรารับได้แล้วกับเรื่องเพศที่สามเนี่ย...” ริคกี้พูดไปและปัดแก้มสีชมพูของหล่อนไป.... ริคกี้เองก็เป็นเพศที่สาม แล้วก็ทุกคนก็ยอมรับด้วย
“เปิดรับอะไรล่ะริคกี้ ริคกี้เข้าใจผิดแล้วครับ”
“ไม่ต้องอายหรอกน่าชานยอล บายนะ เจอกันที่คลาส” ริคกี้เก็บแป้งพัฟลงในกระเป๋าที่เหน็บมาแล้วเดินสะบัดตูดงอนๆออกจากห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดี
“ริคกี้รู้โลกรู้” แบคฮยอนพูดออกมาเบาๆแล้วก็ถอนหายใจเสียงดัง
“กูซวยแล้วไง!!!” ชานยอลตะโกนออกมาพร้อมกับทึ้งหัวตัวเองอย่างแรง ไม่น่ามายุ่งกับไอ้เตี้ยนี่เลยโว้ยยยย
คาบวิชาการวางแผนธุรกิจ ...
ซุบซิบ....
ทุกคนจ้องแบคฮยอนตาเป็นมัน......จับตาดูทุกการกระทำของชานยอลและแบคฮยอน
แบคฮยอนไม่ไหวแล้วครับ!!
“แบคฮยอน...มันจริงรึเปล่าวะ เรื่องมึงกับชานยอล?”
“…………….”
“ดีใจด้วยนะ สมใจมึงเลยสิ”
“มึงก็เอากับเขาด้วยเหรอวะคยองซู!?” แบคฮยอนหันไปค้อนใส่เพื่อนสนิทที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆ ริคกี้มันกระจายข่าวได้รวดเร็วทันใจจริงๆ
“เอาจริงๆกูก็ไม่เชื่อหรอกนะ เห็นแต่มึงตามเขายิกๆ เขาไม่แม้แต่จะชายตาดูมึง แต่แหล่งข่าวของริคกี้มันแม่นตลอดไง ริคกี้ไม่เคยเล่าความเท็จ” คยองซูพูดตามความจริง ถึงริคกี้จะเป็นคนปากมากปากไว แต่มันก็เล่าเรื่องจริงตลอด
“ยกเว้นเรื่องของพวกกูไว้เห้อะ” แบคฮยอนฟุบลงที่โต๊ะเขาจำเป็นต้องนอนหลับ หลับมันจนจบคลาสนี่แหละ....
ปึก!!
กำลังกรึ่มๆง่วงได้ที่ แต่ก็เหมือนโดนอะไรบางอย่างกระแทกเข้ากับศีรษะ ค่อยๆเงยหน้าขึ้นและหยิบวัตถุที่เรียกว่าก้อนกระดาษขึ้นมาดู
“เคลียร์ข่าวให้กูเดี๋ยวนี้!”
“ไม่..” หันไปขยับปากให้เจ้าของก้อนกระดาษ ซึ่งก็คือปาร์คชานยอล
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!” เหล่านักศึกษาที่เป็นสาววายกรี๊ดกร๊าดกันทันทีเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนและชานยอลกำลังคุยกัน ดูสิมีปากระดาษใส่กันด้วย
“เงียบก่อนๆ พวกเธอกรี๊ดกร๊าดอะไรกัน” อาจารย์ประจำวิชาวางแผนธุรกิจเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือและเอ่ยถามผ่านไมโครโฟน
“ชานยอลกับแบคฮยอนคบกันค่ะ!”
“จะบ้าเหรอ!!///เฮ้ยยไม่ใช่!!” ผู้ถูกกล่าวหาตะโกนออกมาพร้อมกันทั้งคู่ สร้างเสียงฮือฮาให้กับเพื่อนร่วมคลาสได้อีกครั้ง
“พวกเธอน่ะเงียบๆก่อน แล้วพวกเธอสองคนน่ะคบกันจริงๆเหรอ”
“ไม่ได้คบครับ!!” ชานยอลตะโกนตอบเสียงดัง เขาเป็นผู้ชายแท้แมนทั้งแท่ง อย่าเลย อย่าคิดอย่างงั้นกันเลยนะครับ
“เดี๋ยวนี้สังคมเราก็เปิดใจยอมรับเรื่องพวกนี้กันแล้วนะครับนักศึกษา คบกันก็ไม่แปลกหรอก แค่ทำตัวเป็นคนดี อยู่ในศีลธรรมก็พอแล้ว เข้าใจมั้ยชานยอล” อาจารย์คนเก่งเอ่ยแซวบ้าง
“อาจารย์ครับอย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ ไอ้เตี้ยนั่นมันมีดีตรงไหน เตี้ยก็เตี้ย หน้าก็จืดอย่างกับผี ไขมันก็ย้อยจนเหนียงออก หื่นกาม โรคจิต โอ๊ยสารพัดสาระเพที่ผมยังไม่ได้พูด แล้วที่ริคกี้ไปได้ยินมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เมื่อวานพวกผมออกไปเที่ยวแล้วไอ้เตี้ยนี่ก็เซมาจับไข่ผม มันบีบแรงด้วย บวมไปหมดเลยครับ!!” ชานยอลพูดออกไปอย่างเดือดดาล ไม่ไหวละ คนอื่นจะเข้าใจผิดแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
“จริงเหรอเนี่ย...” ริคกี้พูดขึ้นมาบ้าง หูของหล่อนเริ่มแดงขึ้นเพราะความอาย
“จริงครับ แบคฮยอนมันเป็นไอ้โรคจิตรู้เอาไว้ด้วยนะครับทุกคน มันเป็นสโต๊กเกอร์ที่แอบถ่ายรูปผมไว้เป็นโหล วันนั้นมันยังปีนไปแอบถ่ายคลิปผมกับสาวๆ...... โอ๊ยยยยยยยยย!!”
ชานยอลยังพูดไม่จบก็ต้องร้องโอดโอยขึ้นมาเสียงดัง เพราะตอนนี้แบคฮยอนเดือดจัดมากที่ถูกด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนั้น..... ร่างเล็กกระโดดเตะปากหนาๆของปาร์คชานยอลจนมีเลือดไหลออกมาซิบๆ
“เกินไปแล้วนะปาร์คชานยอล!” ยืนกอดอกมองร่างของอีกคนที่ก้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
“เกินไปตรงไหน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะเรื่องที่นายแอบปีนไปถ่ายน่ะ!” ชานยอลเช็ดเลือดที่มุมปากของเขาออกเบาๆ แล้วหันไปเถียงแบคฮยอนโดยไม่เกรงกลัวใครเลยสักนิด
“ถ้าฉันรู้ว่าเป็นนายฉันก็ไม่ถ่ายให้โง่หรอกโว้ยย!!”
“แน่ะๆ ถ้าพูดงี้ก็แสดงว่าถ่ายไม่เลือกหน้าอ่ะดิ นายมันเป็นไอ้โรคจิตจริงๆด้วย”
“หุบปากเน่าๆไปซะ!” แบคฮยอนกระชากคอเสื้อนักศึกษาของชานยอลขึ้นมาจนใบหน้าทั้งสองแทบจะติดกันอยู่แล้ว
ลมหายใจอุ่นถูกส่งออกมาจากจมูกของทั้งสองคน แบคฮยอนรู้สึกโหวงเหวงในท้องเล็กน้อย เกิดมาไม่เคยใกล้ชิดชานยอลขนาดนี้มาก่อน แต่ก็นะ ความรักมันพังทลายไปตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว!!
“อย่าคิดว่ากูไม่สู้แล้วจะทำแบบนี้ได้นะโว้ย!” ชานยอลเถียงบ้าง ถ้าชานยอลสู้แบคฮยอนไม่มีทางได้มาทำแบบนี้กับเขาแน่ๆ แต่เขาเลือกที่จะไม่สู้ ดูสิว่าเขาใจดีแค่ไหน
“มึง! ปาร์คชานยอล มึงเป็นศัตรูกับกูนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป!”
โปรดติดตามตอนต่อไป...
- ทอล์ค - ครบร้อยเปอร์เซ็นแล้วนะคะ 5555+ ชานยอลถูกตีตราให้เป็นศัตรูแบคละ 555+ ชานยอลไม่สู้แบคด้วยยย ก๊ากกกกก
1 เม้นของคุณช่วยเพิ่มกำลังใจให้เรามหาศาลเลยนะคะ ถ้าไม่สะดวกเม้นติดแท็กในทวิตก็ได้ค่า
#ฟิคฮาจิมา
Twitter - @buabuafunfun #ฟิคฮาจิมา
ความคิดเห็น