คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ๕
ตลอดทั้งวันมโนพัศไม่เห็นวี่แววของคนที่ทำให้เขารู้สึกผิดเลย แล้วทำไมเขา ต้องมารู้สึกผิดพูดออกไปแบบนั้นด้วย คงจะเป็นเพราะเขาเป็นอาจารย์ใหม่นั้นเอง คงไม่มีอะไรมากมายกว่านั้นหรอก
ในเวลาอาหารเย็นของเขาเพื่อนทั้งสิบสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันแล้วความสงสัยของเพื่อนก็มีมากกว่าทั้งสิบสองคนกระซิบกระซาบกัน
“เบสคุยอะไรด้วยหรอ” เพลงพลอยถามขึ้นในที่สุด
“เปล่าหรอกก็แค่ถามว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์” คนถูกถามตอบ
“มีแค่นั้นจริงๆหรอ” กาญแก้วย้ำอีกรอบ
“แล้วก็บอกว่าไม่อยากเสียคนที่รู้ว่าสำคัญที่สุดไปแล้ว” คนโดนยิงคำถามตอบแบบอายๆ “แล้วก็บอกว่ายังเหมือนเดิมทุกอย่าง ให้อภัยเด็กคนนี้ได้ไหมครับ”
“เฮล้ยยย” ทั้งสิบสองคนพากันโฮ่ร้องดัง
“อะไรไม่รู้ไปเติมดีกว่า” ว่าแล้วก็ลุกเดินไปเติมก๋วยเตี๋ยวอีกชาม
แถวยังไม่ยาวมากมโนพัศหยิบถ้วยใบใหม่แล้วเดินมาต่อแถวรับเส้นก่อนจะมาหยุดที่คนใส่กระเทียมเจียวคนที่หน้าบึ้งบอกบุญไม่รับตลอดนักเรียนสามคนที่ยืนอยู่หน้าเขาแล้วพอมาถึงเขาสีหน้านั้นก็เปลี่ยนไปอย่างกับว่ามันไม่เคยอยู่บนเครื่องหน้านั้นอย่างนั้นแหละ
รอยย้อมถูกยกขึ้นด้วยวสีหน้าเบิกบานใจ หนวดที่ขึ้นอยู่น้อยๆรับกับใบหน้าคมสันนั้นอย่างดี แล้วเวลา ณ ตอนนั้นก็ดูเหมือนจะเดินช้าลงไปเพราะรอยยิ้มนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะถอดแว่นกันแดดออกแล้วทั้งสองยืนมองกันอยู่นานจนคนข้างหลังกระแอมเสียงดัง
“เอาเยอะมั้ย” เสียงเบาแหบพร่าราวกับกระซิบถามขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“ก็เยอะอยู่ครับ” บอกออกไปแล้วกระเทียมเจียวก็ถูกบรรจงใส่ถ้วยของเขา
“อย่ากินเยอะนะเดี๋ยวอ้วน” อาจารย์วายุบอกก่อนจะเอาช้อนออกจากถ้วยของเขา
ทำไมไม่รู้แต่ว่าคำพูดราวกับเสียงกระซิบนั้นทำเอาหัวใจของคนๆนี้สั่นกระเส่าแปลกๆ แล้วยังจะรู้สึกจั๊กจี้หัวใจอีกด้วย ก๋วยเตี๋ยวชามนั้นกลายเป็นว่าเขากินจนหมดไม่เหลือเลย
“แหม” เสียงเพื่อนตัวดีดังมาแต่ไกลหลังจากที่แม่นางทั้งสามล้างแก้วเสร็จแล้ว “ไม่ได้เลยนะ แอบส่งสายากันวิ้งวับเลย”
“อะไรของแกเป้” มโนพัศถามกลับ “ส่งสายตาอะไรกับใคร”
“เปล๊า” เสียงสูงจนสามารถทำให้แก้วแตกได้เลยทีเดียวกับการปฏิเสธของปัญฑิตา “ไปเถอะ ไม่อยากพูดกับผู้ร้ายปากแข็ง”
“ใครปากแข็งครับ” เสียงของภูเบศดังขึ้น เขากำลังเดินมากับเพื่อนๆอีกสีห้าคนตรงไปโรงอาหารแห่งที่สอง “สวัสดีครับ”
“ทำไมเพิ่งลงมากินละ” มโนพัศถาม
“ไม่กินละ” ภูเบศตอบยิ้มแล้วทำเป็นจะเดินไปทิ้ง
“ทำไมละกินไปดี้” ชายหนุ่มบอกกับภูเบศ คนถูกถามยิ้มแล้วยื่นหน้าเข้ามาหา
“ก็เห็นหน้ามิวมันก็อิ่มแล้วละ” คำหวานลอยออกมาจากปากเด็กรุ่นน้องคนนี้ แต่เสียงหนึ่งที่ทำลายความเงียบลงไปนั้นคือเสียงชามหล่นลงที่ล้างจานนั้นเอง
โครม
“เป็นอะไรของเองวะวิน” อาจารย์ณภัทรถาม “เสียงดังโครมคราม”
“มันหลุดมือๆ” อาจารย์วายุบอก “ล้างเถอะๆเดี๋ยวไปสอนสาย”
“เออๆ” แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลยเพราะทั้งหมดเดินออกมาจากตรงนั้น ภูเบศเดินไปนั่งทานข้าวที่เดิมของกลุ่ม คณะของมโนพัศเดินกลับขึ้นห้องเรียนไป
การเรียนจบลงด้วยการร้องเพลงภาษาอังกฤษแล้วเติมคำศัพท์ที่แสนจะปวดหัวลงไปตามช่องว่าง
หลังจากนั้นไม่มีเหตุการณสำคัญอะไรเพื่อนทั้งหมดพากันกลับบ้านไป
เมื่อมาถึงบ้านมโนพัศเองก็รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ขึ้นบ้านไปอ่านหนังสือ ก่อนที่เสียงไลน์จะดังขึ้น
ก๊อกๆ
เบส : ทำอะไรอยู่
มิว : อ่านหนังสือ
เบส :ไม่เชื่อ
คนถูกถามถ่ายรูปแล้วส่งไปให้ดู
มิว : เชื่อยัง
เบส : เชื่อแล้วคร้าบบบ >_< <3
มิว :ทำไรอยู่ละ
เบส : กำลังจะอาบน้ำ เพิ่งมาถึงบ้าน
มิว : ไม่เชื่อหรอก
แล้วรูปภาพเปลือยท่อนบนของภูเบสก็ปรากฏขึ้นที่หน้าจอ จนคนมองถึงขั้นสำลักน้ำลายตัวเอง แม้ว่าจะอยู่แค่มอห้าแต่ร่างกายและหุ่นของภูเบศก็ดีมากเลยทีเดียว
มิว : ไม่ต้องส่งมา >////<
เบส : ก็เพื่อว่าไม่เชื่อจะได้เชื่อ อิอิ เบสไม่กวนแล้วตั้งใจอ่านหนังสือนะ จุ๊บ
มิว : บาย
เบส : เบสรักมิวนะ <3
มิว : <3
แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือต่อไป จนใกล้เวลาเขานอนเสียงเตือนของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น มือเรียวหยิบขึ้นมาดูแล้วก็เปิดดูการแจ้งเตือนในเฟสบุ๊คมีคนแอดเพื่อนเข้ามา เขากดรับในทันทีโดยไม่ดูว่าใครแอดเข้ามา
แล้วก็เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขารีบรับทันทีเพราะรู้ว่าพ่อที่กำลังนอนอยู่ข้างล่างคงจะหลับไปแล้วแน่นอน
“ฮัลโหลว่าไงเบส”
“คิดถึงเฉยๆ”
“แล้วไม่นอนหรอ”
“อยากได้ยินเสียงมิวก่อนนอนนะ”
“ไปเอานิสัยขี้อ้อนนี้มาจากไหนเนี่ย”
“ก็บอกแล้วว่าคิดถึงมากเลยอ้อนมากไง ชอบปะละ”
“ไม่ ฮิฮิ”
“โด่มิว บอกหน่อยสิ”
“อะไรละ”
“บอกฝันดีนะ”
“จริงอะ”
“จริงๆดี หน่อยเดียวเอง คิดว่าสงสารเด็กคนนี้นะครับ”
“ฝันดีนะเด็กน้อย”
“คร้าบผมฝันดีนะคร้าบคนน่ารัก”
แล้วกว่าทั้งสองจะวางสายจากกันก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน
ความคิดเห็น