ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายลมแห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ๑

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 56


                    มโนพัศยังไม่อยากที่จะลืมตาขึ้นมาเลย แต่เพราะเสียงโทรทัศน์ทำให้ดวงตากลมต้องลืมขึ้นในที่สุด

                    ร่างบางๆพยายามลุกขึ้นมาจากที่นอนแสนนุ่มสบายเตรียมบอกลาผ้าห่มสุดที่รักแล้วหิ้วกระเป๋านักเรียนลงไปข้างล่างทันที วันนี้พ่อของเขาไม่ได้ทำกับข้าวเช้าเอาไว้ให้จึงไม่ต้องเสียเวลาทานเลยใช้เวลาอันน้อยนิดนั้นจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จ

                    ไม่นานหนุ่มน่าหวานก็เข้ามาอยู่ในชุดนักเรียนของสถาบันเรียบร้อยแล้ว ก่อนออกจากบ้านไปไม่ลืมไหว้คุณพ่อที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่อ้อนแต่เอาะ ความสูงร้อยหกสิบเก้านั้นดูแล้วก็ไม่เตี้ยและสูงจนเกินไปอยู่ในชุดนักเรียนแล้วยิ่งทำให้หล่อ น่ารัก มากกว่าเดิม ทั้งดวงตากลมหวานและใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากที่อวบอิ่มพอสมควรก็ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคนได้

                    มอเตอร์ไซต์คู่ใจสีแดงแล่นออกจากบ้านทันทีที่นาฬิกาบอกเจ็ดโมงห้านาที เด็กหนุ่มยังไม่ลืมใส่หมวกนิรภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุด้วย แล้วด้วยความที่อยู่คนเดียวกับพ่อยิ่งทำให้พ่อรักและหวงเขาเอามากๆอีกด้วย

                    คนน่าหวานขับมอเตอร์ไซต์มาจนถึงหน้าร้านขายของมันที่มักจะนัดเพื่อนๆมารวมกันที่นี้ก่อนจะออกเดินทางไปโรงเรียนกลุ่มเขานั้นถือว่าใหญ่พอสมควรเพราะมีสมาชิกถึงสิบสามคน

                    “เฮ้ย มากับน้องนิวด้วยนะ” เสียงของเพลงพลอยหญิงสาวขวัญใจนักเรียนทหาร ตำรวจทั้งหลายเอ่ยแซว เพราะเธอคนนี้เกิดวันเดียวเดือนเดียวกันกับเขา “หล่อมาเลยนะวันนี้”

                    “หล่ออยู่ทุกวันไม่เคยเห็นไง” ชายหนุ่มตอบกลับไป

                    “เออๆรู้ๆ” หญิงสาวเดินนวยนาดมาด้วยความเฉิดฉาย เพลงพลอยไม่ใช่ผู้หญิงที่อ้วนมากแต่ก็อวบอิ่มพอตัว ทุกวันเธอนั้นต้องคอยปฏิเสธนักเรียนนายร้อยหลายรายที่มาขอเธอเป็นแฟนเพราะเธอนั้นตั้งเป้าว่าอยากสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจหญิงให้ได้ก่อน แต่ถ้ามีคนเข้ามาคุยกับเธอเพื่อขอเจริญสัมพันธ์ที่ดีเธอก็ไม่ว่าอะไร “อยากกินมะม่วงอะมิว พาไปซื้อหน่อย”

                    “แล้วแก้วละ” ถามถึงเพื่อนอีกคนที่มักจะมาสายเป็นประจำกับเพื่อนชายอีกคนของเราที่มักจะเดินมากับเธอด้วยเสมอ “ทิวอีก”

                    “เดี๋ยวก็มาพาไปซื้อก่อน” เธอลากเด็กหนุ่มไป ขอดีของเธอคือเธอนั้นชอบทานผลไม้เลยไม่อ้วนเหมือนพวกผู้หญิงคนอื่นที่เอาแต่กินๆอย่างเดียว

                    ร้ายผลไม้เจ้าประจำที่สองคนมาซื้อนั้นจำใบหน้าหมดจดของเพลงพลอยได้เป็นอย่างดีด้วยคิ้วเรียวได้รูป ริมฝีปากแดงอย่างไม่ต้องทาลิปเพิ่มกับดวงตาหวานฉ่ำ เพราะเธอมักจะมาอุดหนุนร้านนี้เป็นประจำ แล้วเสียงฝีเท้าของเพื่อนอีกสองคนที่พูดถึงเมื่อสักครู่ก็ตามมา

                    “เฮ้ยอยากกินมั่งอะ” กาญแก้วร้องบอก “เอาฝรั่งแล้วก็มะม่วงกับชมพู่คะ”

                    “แก้ว ยังอ้วนไม่พออีกหรอ” หนุ่มร่างสูงดัดฟันผิวสีแทนพูดขึ้น เขาคือ ธนวรรธนั้นเอง ชายที่ต้องเป๊ะตลอดเวลาและเป็นแหล่งขุมทรัพย์ทางปัญญาที่ดีมากอีกด้วย

                    “ก็มันหิวนี้ทิว” กาญแก้ว ฉายาของเธอคือ กบ ช้าง หมู และอีกหลายๆอย่างที่เพื่อนจะสรรหามาให้เพราะเธอนั้นอ้วนมาก แต่ก็มีใบหน้าที่คมสวยตาโตแล้วร้อยยิ้มที่ไม่มีใครในโลกสามารถยิ้มได้อยู่ที่เธอคนเดียว

                    “ไปเถอะทิว คนสวยๆเขาจะกินผลไม้กัน” ผมเดินออกมาชวนธนวรรธไปที่อื่น “ไปซื้อข้าวเกนียวกันเถอะ”

                    “รอด้วยสิ” เสียงพาณีร้องรักเธอนั้นตัวเล็กที่สุดในกลุ่มและยังเป็นคนที่เบิกโรงมีแฟนไปแล้วเป็นน้องรหัสของธนวรรธนั้นเอง พาณีตัวเล็กน่ารัก ขนตาหนาตากลมโตสวยมีไฝเสน่ห์อยู่ที่ขาง ที่เดิมตามาข้างหลังนั้น สาวผมสั่นผิวเข้มท่าทางเอาเรื่องอยู่ตลอดเวลา เหมาะกับตำแหน่งพี่วินัยที่เธอเป็นมากที่สุด ถึงผิวเธอจะเข้มแต่ก็สวยตามแบบฉบับหญิงไทยเธอคือ ปสุดา

                    “เดี๋ยวไปไล่เด็กก่อนนะ” เธอบอกเพื่อนเสียงเย็นๆแล้วเดินไปที่รอรถ แล้วหญิงสาวสองคนที่เดินมานั้นก็เป็นเพื่อนอีกสองคน คนหนึ่งสูงข้าวอ้วนเล็กน้อย อีกคนตัวเล็กเหมือนตัวตุ่น

                    “ปลายไปด้วย ไปแก้ว” เพลงพลอยกับกาญแก้ววิ่งตามปสุดาไปติดๆ

                    “ปลายไปแล้วหรอ ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะยัยนั้น” พิมพิดาบอกกับเพื่อน “โบกินอะไรมายัง”

                    “ยังเลย” หญิงสาวเหมือนตัวตุ่นหรือบุญสิตา บอกกับเพื่อนข้างๆ เธอมีหน้าตาที่ดูจิ้มลิ้มแต่เธอเป็นคนเสียงเบาไม่ค่อยพูด ถ้าเมื่อไหร่ที่เธอนั้นโกรธขึ้นมาและก็แม้แต่ปสุดาที่เป็นพี่วินัยยังต้องหลบทางให้

                    “ธีกับกรรอยู่ที่นั้นแล้ว” พิมพิดาเธอเหมือนกับคนส่งสารให้กับเพื่อนๆเวลาที่ใครมาหรือไม่มา

                    “งั้นก็ไปกันเถอะ” มโนพัศบอกกับทุกคน พอข้ามถนนมาก็เจอกับเพื่อนชายทั้งสองคือ ธีรยุทธ เด็กหนุ่มที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นคนจีน กับ สิวกร หนุ่มที่มีแฟนมาประมาสร้างทีมฟุตบอลได้สองสามทีม รอยู่แล้วกับ เจตน์ เพื่อนอีกคนที่หน้าตาดีเอามากๆซึ่งเป็นขวัญใจน้องๆในโรงเรียนกันหลายคน จมูกโด่ง ปากสวยเรียว ตาคม เหมาะแล้วที่จะขโมยหัวใจไปได้หลายคน

                    “มาช้ากันจัง” เจตน์ถาม “เว้ย ไปๆ”

                    เจตน์เป็นเกย์แม้จะชอบทำตัวร่าเริงแต่พอเอางานเอาการแล้วก็เป็นอีกคนหนึ่งเหมือนกัน

                    นักเรียนกำลังขึ้นรถกันหมดแล้วและทุกอย่างนั้นก็ยังเหมือนเดิมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะต้องตะโกนเรียกกัน จับตัวน้องๆที่แทรกแถวเข้ามา แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือมีสายตาคู่หนึ่งมองมาที่มโนพัศ

                    แต่พอมองกลับไปก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนอกจากน้องๆที่กำลังแย้งกันขึ้นรถไปโรงเรียน เพราะว่าทางผู้รับใบอนุญาตของเราไปซื้อที่และสร้างโรงเรียนอีกแห่งเพื่อรับรองนักเรียนที่มาสมัครเข้าโรงเรียนกันอย่างหนาแน่น เพราะโรงเรียนนี้มีชื่อเสียงระดับจังหวัดพอดู

                    รถคันสุดท้ายมาจอดแล้ว ตามมาด้วยเสียงร้องของอะไรบางอย่างที่คนทั้งหมดต้องหันไปมอง

                    “รอด้วยค่า” หมี ไม่สิ เด็กหญิงกำลังวิ่งมา ปัณฑิตา กำลังวิ่งมาเพื่อนคนนี้มักจะมาสายเป็นปะจำอยู่เสมอไม่ว่าวันไหนๆแต่บทจะมาเช้าก็เจ้าซะเหลือเกิน

                    “เร็วๆ” เพื่อนทั้งสิบเอ็ดคนตะโกนเรียกเสียงดัง

                    “มาแล้วๆ สายนิดเดียวเอง” ปัณฑิตาบอกกับเพื่อนๆ เธอเดินแบบอายๆขึ้นรถไป

                    “เดี๋ยวเจอกัน” มโนพัศบอกกับเพื่อนๆ “นิวรออยู่”

                    นิวที่พูดถึงนั้นก็คือมอเตอร์ไซต์ขันเมื่อเช้านั้นเอง ทุกวันผมจะขับมอเตอร์ไซต์ตามรถโรงเรียนไปจนถึงโรงเรียน พอแล่นรถเข้ามาก็จอดตาที่ที่ทางโรงเรียนมีให้ คนบนจักรยานยนต์ก็ลงมาแล้วเดินไปสมทบกับเพื่อนๆในโรงอาหารที่ทำจากจากทั้งโรง

                    “มาแล้วๆ” แล้วก็ต้องหันขวับเมื่อมีความรู้สึกแปลกๆเหมือนว่ากำลังโดนจ้องมอง แล้วก็ใช่เพราะนั้นคือนักการเงินคนสนิทของผมเองพี่ดลนภา “อ้าวพี่ดล ไม่เจอกันนานคิดถึงไหม”

                    “แหม ทำเป็นอย่างกับว่าตอนปิดเทอมไม่เคยมาหาพี่อย่างนั้นแหละ” ดลนภาทำหน้าที่การเงินอยู่ที่โรงเรียนโดยเป็นรุ่นพี่ที่เรียนจบแล้วกลับมาทำงาน เธอมีใบหน้ารูปหัวใจแต่งตัวเรียบร้อย ผมของเธอนั้นดูเหมือนว่าจะฟูอยู่ตลอดเวลา

                    “ไปกินข้างก่อนเดี๋ยวไปหา” บอกแล้วก็ทำการส่งภารักทางมือแล้วเดินจากไป

                    “มาช้าจัง” เพลงพลอยว่า

                    “มาช้าดีกว่าไม่มานะคร้าบ” ชายหนุ่มบอกแล้วนั่งลงข้างๆหล่อน “พี่ดลเขาทักนะ”

                    “เราว่าเขาชอบแกแน่เลยมิว” กาญแก้วบอก สีหน้าจริงจัง “เห็นคุยกันกระหนุงกระหนิง”

                    “ไม่หรอกน่า” ที่ชายหนุ่มแน่ใจมากๆเพราะเหตุการณ์ตอนปิดเทอมนี้แหละว่าพี่สาวคนนั้นไม่ได้คิดอะไรกับตัวเองแน่นอน “มิวกับเขาอายุห่างกันตั้งกี่ปี”

                    “ไม่เกี่ยวหรอกอายุมันแค่ตัวเลข” ปัณฑิตาพูด “จริงไหมตัวเอง”

                    “ใช่ คนเรามันรักกันอะไรก็ห้ามไม่ได้หรอก” ธนวรรธเออออตาม

                    “จริงๆเว้ย” ปสุดาบอก เธอนั่งติดกับธีรยุทรแล้วก็สิวกรที่กำลังคุยกันเรื่องเกมตัวใหม่ที่สองคนกำลังเล่นกัน เจตน์เองก็รีบไปคุยเรื่องการบริหารโรงเรียนในฐานะกรรมการรุ่นต่อไป

                    “แล้วไหนบอกว่าชอบคนอายุมกกว่า” พิมพิดาถาม

                    “ขึ้นห้องเถอะน่า” ชายหนุ่มบอก “เดี๋ยวถึงเวลาก็มาเองแหละ”

                    ทั้งหมดจึงเดินชักแถวขึ้นห้องตามความต้องการที่อยากจะอยู่ในห้องแอร์แสนสบาย แต่เมื่อเพื่อนสองคนหายไปคนชวนจึงหันรีหันขวามอง สองคนนั้นธนวรรธกับปัณฑิตากำลังมองมาทางเขาแล้วก็ยิ้มเหมือนรู้กันแค่สองคน

                    “ยิ้มอะไรกัน” มโนพัศถาม

                    “เปล๊า” ปัณฑิตาบอก “ไปเถอะตัวเอง”

                    ธนวรรธแล้วก็พยักหน้าเดินร้องเพลงสบตาเพลงประกอบภาพยนตร์ทอมดี้ดังเมื่อสองปีก่อนนี้ไป

                    “เห็นเงาในตาฉันไหม เห็นเธออยู่ในนั้นไหม”

                    “อะไรของพวกนี้นะ” มโนพัศเดินส่ายศีรษะไปตามความงงโดยไม่รู้เลยว่าเขานั้นกำลังโดนใครบางคนกำลังจับตาดูทุกอิริยาบถของเขาอยู่อย่างห่างๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×