ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (นิยายแปล)The Lazy Swordmaster จอมราชันดาบขี้เกียจ

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 9 - เรื่องยุ่งในบ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 60


    เหล่าชายสวมผ้าคลุมที่แอบเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลไอเฟลเลต้า

    ไม่สามารถขยับต่อไปได้อีก

    ทั้งนี้เป็นเพราะคนแปลกหน้าลึกลับผู้ซึ่งส่งโทรจิตให้กับพวกเขา

     

    ‘เมื่อไหร่กัน...’

     

    การที่คนแปลกหน้าสามารถตรวจพบและดักฟังโทรจิตของพวกเขาได้ก็มากพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาตกใจ

     

    ‘ได้ยังไง...’

     

    เขาสามารถส่งโทรจิตไปหาทุกคนที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนได้

    พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้ดี มันจึงทำให้พวกเขาตกใจ

     

    ‘...จากไหนกัน?’

     

    หัวหน้าของชายสวมผ้าคลุม เทส รีบกวาดสายตาไปรอบ ๆ ทันที

    ไม่ว่าเขาจะมองไปยังที่ใดก็ตาม เขาไม่สามารถหาจุดที่โทรจิตถูกส่งออกมาได้เลย

    มันหมายความว่า ความสามารถระหว่างพวกเขาและคนแปลกหน้านั้นห่างกันมาก

     

    ‘ตระกูลไอเฟลเลต้ามีคนที่สามารถซ่อนตัวได้ดีขนาดนี้ด้วยงั้นเหรอ?’

     

    เท่าที่เทสรู้ ตระกูลไอเฟลเลต้านั้นไม่คิดว่าจะมีนักฆ่าเทียบเท่ากับตน

    ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลนี้ดูถูกพวกนักฆ่า และหากพวกเขาเห็นนักฆ่าสักคนพวกเขาก็จะฆ่าโดยไม่ลังเลเลย

     

    ‘มันราวกับว่า...’

     

    เทสกลืนน้ำลายด้วยความกังวล

    ดูจากทักษะการส่งโทรจิตแล้ว อย่างน้อยคนแปลกหน้าคนนั้นก็มีทักษะและพลังพอ ๆ กับเขา

    มันไม่ง่ายเลยที่จะสามารถลบตัวตนได้อย่างสมบูรณ์

    แต่... เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนของคนแปลกหน้าเลย

     

    ‘ฉันกำลังเห็นผี...’

     

    ร่องรอย มานา

    หรือทุก ๆ สิ่ง

    พลังเหล่านั้นจะทิ้งร่องรอยที่แตกกันโดยสิ้นเชิงเอาไว้ พวกเขาสามารถแยกพวกมันออกจากกันได้

    แต่ว่า แม้แต่ร่องรอยเหล่านั้นก็หาไม่พบ ราวกับมันเป็นผีจริง ๆ

    นี่เป็นความสามารถของนักฆ่าที่มีทักษะสูงสุดเท่านั้น

     

    ‘ชิ’

     

    เทสขมวดคิ้วภายใต้หน้ากาก

    เขาไม่ชอบสถานการณ์เช่นนี้เลย

    ในความจริงแล้วลูกสาวของเขากำลังจนมุม แต่เขากลับกลัวคนแปลกหน้าเพียงคนเดียว

     

    ‘ฉันไม่รู้ว่าเจ้านั่นมันเป็นใคร แต่การที่เขาตัดสินใจซ่อนตัวเช่นนี้ต้องมีบางสิ่งที่รั้งมันไว้แน่’

     

    ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลให้เขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืด

    ถ้าเขาต้องการข่มขู่พวกเขา เขาควรส่งจิตสังหารมาด้วย

    นั่นเป็นสิ่งที่เทสเชื่อ

     

    ‘อย่า... รบกวนฉันงั้นเหรอ?’

     

    เทสจับมีดสั้นของเขาเมื่อจำคำพูดเหล่านั้นได้

    เขาไม่มีเจตจำนงที่จะรบกวนเขา

    ในความจริงแล้ว เขาเกลียดสถานการณ์เช่นนี้จริง ๆ

    เขาต้องการเพียงนำศพและมีดสันกลับไปเท่านั้น

    ถ้าเงียบเข้าไว้

    ภารกิจของพวกเขาในคฤหาสน์หลังนี้ก็จะสำเร็จได้อย่างแน่นอน

     

    <เรากำลังจะไปต่อ>

     

    เขามาที่นี่เพื่อช่วยลูกสาวของเขาที่กำลังมีปัญหา

    พวกเขาต้องเคลื่อนไหวได้แล้ว ไม่เชนนั้นภารกิจจะไม่มีทางสำเร็จก่อนที่พวกเขาจะได้เริ่ม

    ไม่มีคำเตือนจากโทรจิตก่อนหน้านี้อีกเลย

    พวกเขาจะเสียเวลาไม่ได้แล้ว

     

    <ฉันจะไปที่ ‘ห้องทำงานของลูกชาย’ ที่ ๆ มีดสั้นถูกเก็บไว้>

     

    เทสกระโดดออกจากพุ่มไม้ที่ซ่อนตัวอยู่

    เมื่อเขาหลุดเข้าไปในคฤหาสน์ราวกับสายลมแล้ว สมุนของเขาก็ได้ใจแล้วตามเขาไป

    ร่างของชายสวมผ้าคลุมเคลื่อนที่ไปตามซอกตามมุมของคฤหาสน์ราวกับหนู

     

    <หมายเลข 2 ถึง 10 ไปนำศพมา>

     

    เทสสั่งผ่านโทรจิต

     

    <ส่วนที่เหลือจะส่งเสียงเพื่อดึงดูดความสนใจจากคนในคฤหาสน์ ถ้าอยู่ในอันตรายล่ะก็ ทำลายหลักฐานแล้วฆ่าตัวตายซะ>

     

    ตู้มมมมม!

    หลังจากสั่งคำสั่งที่สองออกไป เสียงระเบิดก็ดังออกมาจากที่ไหนสักแห่งในคฤหาสน์

    ดูเหมือนว่าการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    “ไอ้สารเลว!”

     

    ชายแก่ตะโกนออกมา

    เขาสวมเสื้อพ่อบ้านและถือดาบไว้ในมือข้างหนึ่ง

    มันเป็นดาบธรรมดา แต่มันถูกตีขึ้นมาจากเหล็กชั้นยอดและแข็งกว่าดาบทั่วไป

    ชายแก่เหวี่ยงดาบออกไป

     

    “อั๊กกก!”

     

    “คึ๊กกก!”

     

    ชายแก่อายุ 50 แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?

    ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ชายสวมผ้าคลุมสองคนกระเด็นกลับไป

     

    “พวกแกคิดว่าที่นี่เป็นที่ไหนกัน!”

     

    ชายแก่เหวี่ยงดาบอีกครั้งหนึ่ง

    ดาบส่องแสงสีน้ำเงินออกมา มันแสดงให้เห็นถึงความห่างชั้นของพลังระหว่างพวกเขา

     

    “…!”

     

    คลื่นดาบ

    ลำแสงสีน้ำเงินที่ถูกปล่อยออกมาจากดาบตัดผ่านดาบและร่างของชายสวมผ้าคลุมทั้งสอง

     

    “หืม! เหมือนมันจะโกรธอยู่นะ?”

     

    “คุณเอียนคะ!”

     

     

    “เซร่า!”

     

    เซร่า

    เธอเป็นหนึ่งในสาวใช้ในคฤหาสน์นี้

    ดูเหมือนจะเป็นการพูดคุยสั้นๆ เพราะดาบของเธอมีเลือดติดอยู่

     

    “ฉันจะป้องกันห้องท่านหญิงไอริสเองค่ะ ท่านเอียนควรไปปกป้องนายน้อยนะคะ!”

     

    มันหมายถึงให้หาและนำตัวไรลีย์กลับมาจากสวน

    เอียนเข้าใจและพยักหน้าเห็นด้วย แล้ววิ่งออกไปทันที

     

    “เข้าใจแล้ว อย่าฝืนล่ะ! ฉันจะรีบกลับมา!”

     

    สำหรับเอียนแล้วจากห้องท่านหญิงไอริสไปถึงสวนใช้เวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น

    ถ้าไม่มีอุปสรรคใดๆล่ะก็

     

    ‘นายน้อยได้โปรด...’

     

    ในช่วงเวลาที่อันตรายเช่นนี้ ไรลีย์มักจะเล่น ‘ซ่อนหา’ เสมอ

    เอียนวิ่งผ่านทางเดินยาว

    โดยภาวนาให้ไรลีย์แสดงความสามารถออกมาอีกครั้งเพื่อปกป้องตัวเอง

     

    ‘ได้โปรดช่วยปลอดภัยทีเถอะ!’

     

    1 วินาทีผ่านไป

    5 วินาทีผ่านไป...

    ในวินาทีที่ 7 เอียนก็ได้พบกับอุปสรรค

     

    “ชิ”

     

    เอียนขมวดคิ้ว

    ดูจาการปรากฏตัวของเขาก็สามารถบอกได้เลยว่าเขาไม่ใช่นักสู้ทั่วไป

    มันอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย

    เวลาที่อาจตัดสินความเป็นความตายของไรลีย์ได้

    นี่ไม่ใช่สิ่งที่เอียนต้องการ

     

    “ฉันไม่ชอบใช้ปากเท่าไหร่ แต่ถ้าแกกลับไปฉันจะปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่”

     

    เอียนขู่ชายสวมผ้าคลุม

    ดาบของเขากำลังเปล่งแสงสีน้ำเงินและเต็มไปด้วยจิตสังหาร

     

    “...”

     

    ถึงอย่างนั้น ชายสวมผ้าคลุมก็ยังคงยืนเงียบอยู่

    เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย และชักมีดสั้นออกมา

    เขาไม่รู้ถึงเจตนาของเอียน แต่เขาไม่มีวันปล่อยให้เอียนผ่านไปได้

     

    “ไอ้สารเลว”

     

    ดูจากการเปลี่ยนแปลงในดวงตาของเขา ชายสวมผ้าคลุมไม่ได้หูหนวก

    เอียนกัดฟันด้วยความโกรธเมื่อชายสวมผ้าคลุมไม่สนใจคำเตือนของเขา

     

    “ฉันไม่มีเวลา-...”

     

    เอียนหยุดพูดกลางคันแล้วพุ่งเข้าหาชายสวมผ้าคลุม แล้วดาบกับมีดสั้นก็ปะทะกัน

    เคร้ง!

    ประกายไฟปลิวว่อน

     

    “...-มาเล่นกับแกหรอก!”

     

    เอียนตะโกนออกมาขณะบิดตัว

    เมื่อมีระยะห่างระหว่างทั้งสองเพียงเล็กน้อย เอียนและชายสวมผ้าคลุมก็ฟันอาวุธออกไปในมุมที่ต่างกัน

    โดยหวังคร่าชีวิตของกันและกัน

     

    ‘ปึก?’

     

    เป็นเพราะคมดาบทั้งสองที่อัดแน่นไปด้วยมานาปะทะกันงั้นเหรอ?

    วิถีดาบซึ่งเต็มไปด้วยมานาถึงถูกผลักกลับมา

    หลังจากนั้น เท้าของเอียนก็ไถลลงบนพรม

     

    “เวรเอ๊ย!”

     

    เอียนสบถออกมาเมื่อเขาถูกผลักกลับมา

    การปะทะจบลงที่การเสมอกัน

    ในด้านความแข่งแกร่ง และทุกสิ่ง

     

    ‘ชายแก่คนนั้นเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกัน...’

     

    เช่นเดียวกับชายสวมหน้ากาก

    เขาก็แปลกใจเช่นเดียวกับเอียน

    ในฐานะหนึ่งในห้าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาคม เขาไม่คาดหวังว่าเขาจะถูกผลักกลับมาเช่นนี้

    ต้องขอบคุณหน้ากากที่ซ่อนอารมณ์ของเขาในตอนนี้ได้

     

    “หลีกไปไอเศษสวะ!”

     

    “...”

     

    เอียนระวังคำพูดของตัวเองมาตั้งแต่เริ่มทำงานเป็นพ่อบ้าน แต่ตอนนี้เขาเริ่มแสดงนิสัยจากตอนที่เขาเป็นทหารรับจ้างออกมา

     

    “หลีกไป... ขยับก้นเงียบๆ ของแกออกไปจากที่นี่ซะ! ไอเวรเอ๊ย!”

     

    ณ จุดๆนี้เขาได้สบถออกมาเหมือนในอดีตแล้ว

    หน้าของเขากลายเป็นสีแดงราวกับเป็นหน้าของปีศาจ

    นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาหมดหวังแค่ไหน

    ทุกวินาทีที่เสียไป มันอาจเกิดอะไรบางอย่างกับไรลีย์ก็เป็นได้

     

    ‘ฉันปล่อย... ชายคนนี้ไปไม่ได้’

     

    ชายสวมผ้าคลุมเกร็งข้อมือที่สั่นจากการประดาบก่อนหน้านี้  และยังคงอยู่ท่าเดิม

    เขาเชื่อว่าชายแก่คนนี้ไม่ได้วิเศษอะไรมากนัก

     

    ‘ไอ้ชาติชั่ว...’

     

    เอียนเดาะลิ้น

    ถ้าเขาสามารถฆ่าคนได้ด้วยการจ้อง ชายสวมผ้าคลุมคนนั้นคงตายเป็นร้อยครั้งแล้ว

    น่าเสียดายที่เขาไม่มีพลังแบบนั้น

    ชายสวมผ้าคลุมค่อนข้างเป็นศัตรูตัวฉกาจเลย

     

    ‘นายน้อย! รอผมก่อนนะครับ... ช่วยรอผมอีกสักหน่อยนะครับ!’

     

    เอียนกัดฟัน

     

    ‘ชายแก่คนนี้กำลังจะไปหาท่านแล้วครับ’

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×