คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 8 - นั่นใคร...?
มันเป็นสถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่น
ข่าวที่ส่งมาถึงนั้นกล่าวถึงเอียนผู้เป็นพ่อบ้านได้นำมีดสั้นที่ถูกพบไปแสดงแก่เคาท์สไตน์
เป็นเรื่องธรรมดาที่สมาคมนักฆ่าต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ แม้มันจะไม่ถูกพบในตัวศพ แต่ก็ไม่สามารถใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างได้
‘เพื่อความปลอดภัย... งานต้องเสร็จภายในวันนี้เท่านั้น’
ท่านหญิงโอแรลีย์ ภรรยาคนแรกแห่งตระกูลไอเฟลเลต้า
แม้จะไม่เป็นที่รู้จัก แต่พ่อของเธอเป็นหัวหน้าสมาคมนักฆ่าแบบลับๆ
ถ้าจะกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้... ก็คงต้องพูดถึงความจริงที่ว่าตระกูลไอเฟลเลต้านั้นเกลียดชังคนเหล่านี้ และสำหรับโอแรลีย์ ความลับของตระกูลเธอนั้นกำลังมีความเสี่ยงที่จะถูกเปิดเผย
จะเป็นอย่างไรถ้าข้อมูลเหล่านี้ถูกรู้เข้า?
เมื่อเวลานั้นมาถึง สถานการณ์ก็จะแย่ลงจนน่าหวาดหวั่น
การแต่งงานระหว่างโอแรลีย์และสไตน์นั้นเป็นเพียงการแต่งงานทางการเมืองเท่านั้น
‘ถะ-ถ้าพวกเขารู้ว่ายาพิษที่ไอริสกินเข้าไปมากจากฉันล่ะก็...’
โอแรลีย์กลืนน้ำลายลงไป
ถ้าคำเหล่านี้หลุดออกไปล่ะก็ ความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่างเธอกับบุตรชายทั้งสองคงสลายไปอย่างสิ้นเชิง
เธอไม่อยากเสียชายอย่างสไตน์ไป
เธอไม่ยอมเสียเขาให้กับไอริสอย่างแน่นอน
นั่นเป็นสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุด เธอกังวลในเรื่องนี้มากว่าการที่ความลับของเธอจะถูกเปิดเผยเสียอีก
“-ม่ครับ?”
‘ไม่ เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกินขึ้นได้หรอก’
“ท่านแม่ครับ!”
บุตรชายคนที่สองแห่งตระกูลไอเฟลเลต้า ลอยด์ กำลังเขย่าไหล่เธออยู่
“หืม? มีอะไรเหรอจ๊ะ?”
“เรากำลังคุยเรื่องไรลีย์กันอยู่ครับ ท่านแม่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
ใบหน้าเธอแสดงออกถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
บางทีอาจเป็นเพราะแม่ของเขาดูสภาพไม่ค่อยดีก็เป็นได้
“เปล่าจ้ะ แม่สบายดี”
“ดูเหมือนท่านแม่จะมีไข้นิดหน่อยนะครับ”
“อาจเป็นเพราะแม่นอนไม่พอก็ได้จ้ะ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานมันหนักเกินไปสำหรับแม่น่ะจ้ะ”
โอแรลีย์โกหกออกไปราวกับเธอไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิด
เธอไม่ได้บอกบุตรชายทั้งสองของเธอว่าศพที่ถูกพบหน้าห้องเธอนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ
“แม้เขาจะตายแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นอันตรายต่อเราครับ มีที่อื่นตั้งเยอะ แต่กลับมาตายหน้าห้องท่านแม่”
ลอยด์กัดฟัน
“พักผ่อนสักหน่อยเถอะครับ ท่านแม่ ผมจะอยู่กับท่านแม่เอง”
เธอจะบอกเขาได้อย่างไรว่าเธอเป็นลูกสาวของนักฆ่าผู้โหดเหี้ยม?
ไม่มีทาง
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แม้สนใจเรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านี้มากกว่า เกี่ยวกับเรื่องของไรลีย์ใช่ไหมจ๊ะ?”
โอแรลีย์ยิ้มให้กับบุตรชายของเธอที่กำลังกังวล
“ใช่ครับ”
ลอยด์พยักหน้า
“จริงๆแล้ว เมื่อวานนี้ไรลีย์จับดาบแล้วครับ”
“โอ้ ไรลีย์จับดาบงั้นเหรอจ๊ะ?”
“มันเป็นเรื่องก่อนที่ศพจะถูกพบน่ะครับ”
ลอยด์เกาหัวตัวเอง
“อาจเป็นเพราะท่านหญิงไอริสโดนยาพิษก็เป็นได้ครับ ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว ผมคิดว่าในตอนนั้นเจ้าเด็กขี้เกียจนั่นต้องโกรธมากแน่ๆเลยครับ ฮ่าๆ”
“แล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะจ๊ะ?”
หางตาของโอไรลีย์กระตุกเล็กน้อย
เธอรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อวานจากชายสวมผ้าคลุมแล้ว
แต่การได้ยินจากบุตรชายของเธอนั้นให้ความรู้สึกแตกต่างจริงๆ
“...มันแย่จนเกินบรรยายเลยครับ”
ตอนนี้ รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากของเธอ
“โอ้ อย่างนั้นเหรอจ๊ะ?”
ใช่แล้ว
หลักฐานที่จะแสดงว่าเธอนั้นเหนือกว่าภรรยาน้อยอย่างไอริสคือเธอควรเป็นคนได้รับความรักมากที่สุด
บุตรชายของไอริสนั้นน่าสังเวช และเป็นเพียงไพร่ที่ไร้ประโยชน์ ในขณะที่บุตรชายทั้งสองของเธอเกิดมาเพื่อเดินบนเส้นทางแห่งดาบอย่างแท้จริง
เพียงสิ่งนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าเธอนั้นมีความสำคัญต่อตระกูลนี้
“โฮะๆ เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เอง”
สายตาของโอไรลีย์นั้นมองออกไปนอกหน้าต่าง
ข้างนอกนั่น เธอเห็นไรลีย์นอนอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ลภายในสวน
ราวกับความคิดที่จะให้เขาเรียนวิชาดาบนั้นไม่มีทางเป็นจริง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยามบ่ายแก่ๆ ณ หมู่บ้านอิฟฟา
ด้วยเหตุบางประการ ในหมู่บ้านมีขบวนรถม้าวิ่งเรียงกันอยู่
พวกมันช่างดูหรูหรายิ่งนัก
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ทำไม ‘ขบวนรถมิธริล’ ของเทสแห่งสมาคมการค้าถึงได้มาที่หมู่บ้านนี้กัน?”
ชาวบ้านคนหนึ่งถามออกมาพร้อมชี้ไปยังรถม้าที่ดูหรูหรามากที่สุด
“ใครจะไปรู้ล่ะ?”
“พวกเขาพบเหมืองทองใกล้ๆนี้หรือเปล่า?”
“ถ้าพวกเขาพบเหมืองทองสักแห่งล่ะก็ ข้าจะยกเมียข้าให้แกเลย”
“การเดิมพันนี้เหมือนจะเป็นประโยชน์กับแกเลยนะ?”
ดูเหมือนไม่มีชาวบ้านคนไหนรู้เหตุผลเลย
ชาวบ้านทำได้เพียงมองอย่างสงสัย
สมาคมการค้าเป็นหนึ่งในสมาคมที่ใหญ่ที่สุดในทวีป
การที่ขบวนรถม้าส่วนตัวของหัวหน้าสมาคมมาที่นี่นั้นเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านอิฟฟา
“อืม... ข้าได้ยินข่าวลือว่าพวกเขามาหาภรรยาของตระกูลไอเฟลเลต้าน่ะ”
“หืม?”
เหล่าชาวบ้านกระซิบกระซาบเกี่ยวกับข่าวลือกันโดยใช้มือป้องปาก
“ภรรยาคนแรกชื่ออะไรนะ... อ๋อ! ท่านหญิงโอแรลีย์นี่เอง ข้าเคยได้ยินว่าเธอเป็นลูกสาวของหัวหน้าสมาคม”
“อะไรนะ? ข้าพึ่งได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลย!”
“เฮ้ ลองคิดดูสิว่าทำไมท่านเคาท์สไตน์ถึงได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ค่อยสวยอย่างท่านหญิงโอแรลีย์กันล่ะ? ถ้าเธอไม่ได้เป็นลูกสาวหัวหน้าสมาคมล่ะก็ เขาคงไม่ยอมแต่งงานด้วยหรอกจริงไหม?”
ชาวบ้านที่คุยกันเรื่องท่านหญิงโอแรลีย์กำมือแล้วนำนิ้วหัวแม่มือไปสอดใต้นิ้วชี้
“เรื่องมันต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ”
“ว้าว...”
ชาวบ้านร้องออกมาเมื่อได้ยินเรื่องเหล่านี้ เหล่าพนักงานของสมาคมการค้าหันมาทางชาวบ้านเมื่อยินได้เสียงเหล่านั้น
“ชู่ พวกแกน่ะระวังปากหน่อย”
“...”
แม้พวกเขาจะคุยกันอย่างเงียบๆ แต่พวกเขายังคงได้ยินอีกกระนั้นหรือ?
เมื่อเห็นว่าพ่อค้าเทสกำลังมองมาทางพวกตน ชาวบ้านทั้งสองจึงยกมือขึ้นมาปิดปากแล้วเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
“แล้วทำไมขบวนรถมิธริลถึงได้มาที่นี่กันล่ะ?”
“ก็นะ? บางทีเขาคงคิดถึงลูกสาวล่ะมั้ง?”
เมื่อออกจากระยะสายตาของพ่อค้าเทสแล้ว ชาวบ้านทั้งสองยังคงนินทาต่อ
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงมาจอดรถม้าในหมู่บ้านแทนที่จะไปยังคฤหาสน์ล่ะ? ไปที่นั่นด้วยรถม้าใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีเลยด้วยซ้ำ”
“การจะเข้าพบตระกูลไอเฟลเลต้ามันยากแค่ไหนนายรู้ไหม แม้จะเป็นขุนนางชั้งสูงก็ยังต้องมีการขออนุญาตก่อนเข้าพบเลย”
“อ่า งั้นเหรอ”
“ที่พวกเขาหยุดรถม้าในหมู่บ้านเพราะพวกเขากำลังส่งคนไปส่งจดหมายให้แก่คฤหาสน์เพื่อขอเข้าพบล่ะมั้ง”
ชาวบ้านทั้งสองที่กำลังคุยเกี่ยวกับโอแรลีย์และตระกูลไอเฟลเลต้าไม่สามารถรู้สึกได้ถึงสายตากระหายเลือดที่จับจ้องมาทางพวกตนแม้แต่น้อย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ฝันแบบนั้นอีกแล้วเหรอ...”
ไรลีย์ถอนหายใจออกมาเมื่อเขาตื่นจากการนอนอันยาวนาน เขานอนจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน
“...ฮาววววว”
เขากำลังอารมณ์เสีย
มีเหตุผลสามประการที่ทำให้เขาอารมณ์เสียอย่างนี้
หนึ่ง ‘มุมที่สมบูรณ์แบบ’ ของเขาได้หายไปแล้ว
สอง เป็นเพราะ ‘ความฝันเกี่ยวกับชาติที่แล้วของตัวเขา’
และสาม...
<หมายเลข 2 เข้าไปก่อน ตามด้วยหมายเลข 4 และ 5 อย่าทำพลาดล่ะ>
เขาได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยอยู่ภายในหัวของเขา
มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตื่น
“ชิ... ไม่ชอบแบบนี้เลยแฮะ”
ไรลีย์ขมวดคิ้วแล้วพึมพำออกมา
สิ่งที่เขาคาดหวังไว้คือมีดสั้นที่เอียนนำไปแสดงให้แก่สไตน์จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดมาทำอะไรในคฤหาสน์มากกว่านี้
โดยทั่วไปแล้วมันคือการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์อื่นๆเกิดขึ้นอีก แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นดั่งแผนที่เขาวางไว้
“ก็นะ ยังไงมันก็มีโอกาส 50/50 อยู่แล้ว”
ไรลีย์ลุกขึ้นแล้วปัดฝุ่นออกจากกางเกง
<พวกแกพร้อมหรือยัง?>
‘「โทรจิต」สินะ’
เขามีทักษะในการในการดักฟัง 「โทรจิต」ระหว่างผู้คน เขาสามารถได้ยินในสิ่งที่เข้าต้องการได้ยิน
<อย่างแรก ตอนข้าเข้าไปต้องทำให้มั่นใจว่าเครื่องมือพร้อมทุกเมื่อ เราต้องทำงานให้เสร็จอย่างรวดเร็ว และต้องเร็วกว่าครั้งก่อนๆด้วย>
คำเหล่านั้นที่ไรลีย์ได้ยินจะสามารถส่งผ่านได้เฉพาะผู้ที่ควบคุมมานาได้เท่านั้น มันเหมือนการสื่อสารทางจิต
[TLN: โดยทั่วไปแล้ว「โทรจิต」นั้นเป็นทักษะที่ต้องใช้มานา มันทำให้ผู้ร่ายสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้โดยไม่ต้องขยับปาก ไรลีย์สามารถดักฟังสิ่งเหล่านี้ได้ บทสนทนาที่ใช้「โทรจิต」จะถูกครอบด้วยเครื่องหมาย < > ครับ]
<เป้าหมายของเรามีเพียงสิ่งเดียว คือการนำศพของหมายเลข 3 กลับมา>
มีเพียงเสียงเดียวที่เขาได้ยิน
ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหัวหน้าของผู้บุกรุก
<พยายามอย่าถูกตรวจพบโดยข้ารับใช้ภายในคฤหาสน์ พวกนั้นไม่ได้เป็นเพียงสาวใช้หรือพ่อบ้าน... ก่อนมาทำงานที่นี่พวกเขาต่างก็เคยเป็นนักรบมาก่อน>
“ชิ...”
ไรลีย์เดาะลิ้นอีกครั้ง
ดูเหมือนผู้นำกลุ่มผู้บุกรุกจะค่อนข้างคุ้นเคยกับตระกูลไอเฟลเลต้า
<ถ้าพร้อมแล้ว เริ่มภารกิจได้>
<เดี๋ยวก่อน... ก่อนจะเริ่มภารกิจน่ะ>
ไรลีย์เข้าร่วมบทสนทนาก่อนพวกเขาจะเริ่มภาระกิจ
โดยการใช้ 「โทรจิต」ซึ่งเป็นทักษะที่ต้องใช้มานา
<…?!>
ความเงียบได้เข้าปกคลุม
ได้ยินเพียงเสียงใบไม้สั่นไหว
แม้ขณะไรลีย์กำลังคิดว่าจะพูดอะไรออกไปดี ผู้บุกรุกกลับไม่ส่งข้อความใดๆกลับมาเลย
เมื่อตระหนักได้ว่าบทสนทนาของพวกตนโดนดักฟัง พวกเขาก็ตั้งท่าป้องกัน
<ฉันอยากบอกอะไรพวกนายอย่างหนึ่ง>
<...>
<ฉันไม่สนว่าพวกนายจะทำอะไรในคฤหาสน์นี้ แค่อย่าทำอะไรให้ฉันต้องเคลื่อนไหวด้วยตัวเองก็พอ พิจารณาคำเตือนนี้ด้วย>
ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา แต่「โทรจิต」ได้ถูกส่งแล้วออกไปอย่างแน่นอน
หลังจากไรลีย์เตือน บรรยากาศรอบๆก็เปลี่ยนไป
<อย่า>
ไรลีย์พูดต่อขณะกำลังเดิน
<รบกวนฉัน>
เขาเดินตรงไปยังห้องไอริส
<ก็นะ ขอแค่เพียงเคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันก็พอ !>
แม้ไรลีย์จะไม่แน่ใจว่าพวกเขารู้ถึงความหมายของพื้นที่ส่วนตัวหรือไม่ แต่เขาเพียงแค่ต้องการถ่ายทอดออกไปว่าให้เคารพซึ่งกันและกันและจากไป
ความคิดเห็น