ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (นิยายแปล)The Lazy Swordmaster จอมราชันดาบขี้เกียจ

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 5 - แขกยามวิกาล

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 60


    ในสนามฝึกของตระกูลไอเฟลเลต้า

    เด็กชายผู้มีผมเส้นผมสีดำขลับกำลังยืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิด

    ท่าทางการจับดาบของเขาดูงุ่มง่ามเล็กน้อย

     

    “ฟู่...”

     

    เด็กชายถอนหายใจออกมาขณะมองไปที่หุ่นฝึกซ้อม

    มันเป็นหุ่นฝึกซ้อมที่ทำมาจากฟาง มันมีไว้ให้นักดาบฝึกหัดมาฝึกซ้อม

     

    ‘ฉันควรจะลองดีไหม?’

     

    เขาพึมพัมกับตัวเองขณะที่เท้าทั้งสองข้างของเขาห่างกันหนึ่งช่วงไหล่

    การตั้งท่าของเขาต่างจากพี่ชายทั้งสองอย่างมาก

    หลังจากควบคุมลมหายใจได้แล้ว เขาพุ่งตัวเข้าหาหุ่นฝึกซ้อม แล้วฟันมัน

     

    “ฮึบ!”

     

    ตุบ!

    การฟันของเขาก่อให้เกิดเสียงทึบๆ

     

    “…”

     

    สามารถมองเห็นลอยดาบลอยใหม่บนผิวของหุ่นซ้อมได้

    ลอยดาบนั้นไม่ลึกมาก แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นการฟันที่ยอดเยี่ยม แม้มันจะเป็นการเหวี่ยงดาบครั้งแรกของเขาก็ตาม

    แต่ถึงกระนั้น มันก็ยากที่จะนับลอยดาบบนหุ่นซ้อมของตระกูลไอเฟลเลต้าที่มีพรสวรรค์ในเชิงดาบ

     

    “นะ-นายน้อยครับ?”

     

    เอียนที่เห็นการฟันนั้นกล่าวออกมาอย่างติดๆขัดๆ

    มันช่าง... รุนแรงและเฉียบขาดเกิดความคาดหมายของเขาจริงๆ

    เท่าที่เอียนเห็น ไรลีย์นั้นมีความสามารถพอที่จะกุดหัวของหุ่นซ้อมได้ภายในดาบเดียว

    น่าแปลกประหลาดจริงๆ

     

    “ดะ-ได้โปรดลองอีกครั้งเถอะครับนายน้อย!”

     

    เอียนส่ายหัวของเขาแล้วอ้อนวอนต่อไรลีย์

    เขาย้ำกับตัวเองหลายต่อหลายครั้งว่าเขามองคนไม่ผิดจริงๆ

     

    “มันควรจะ...”

     

    ไรลีย์พึมพัมด้วยเสียงอันแผ่วเบา

    ทันใดนั้นเขาก็ทิ้งดาบไม้ลงบนพื้น

     

    “นายน้อยครับ?”

     

    “พอแล้ว ฉันเบื่อ”

     

    เอียนตกใจอย่างมาก เขารีบยื่นแขนไปหาไรลีย์

     

    “นะ-นายน้อยครับนายน้อย”

    “จะไปไหนเหรอครับ?”

     

    “ห้องสมุดน่ะ ฉันจะไปหาอะไรมาอ่านให้ตัวเองหลับ”

     

    “นายน้อยครับ! ได้โปรดลองอีกครั้งเถอะครับ!”

     

    แลนเม้มปากของเขาเมื่อมองไปที่ดาบไม้ซึ่งถูกวางอยู่บนพื้น

     

    “อึก...”

     

    นักดาบโยนดาบของตัวเองทิ้งงั้นเหรอ?

    แม้ไรลีย์จะไม่รู้สึกถึงความหมายของการกระทำนั้นก็ตาม

    แต่เอียนรู้สึกถึงน้ำหนักในการกระทำนั้นดี

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    “เขาเปลี่ยนใจง่ายราวกับผู้หญิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยครับ”

     

    “จริงเหรอ?”

     

    ในห้องซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด

    หญิงสาวคนหนึ่งในชุดกระโปรงสีขาวหันหน้ากลับมา

    ข้างหลังเธอมีชายสวมเสื้อคลุมสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้ากำลังคุกเข่าก้มหัวให้อยู่ ชายคนนั้นติดตามเธอจนเปรียบเสมือนเงาของเธอ

     

    “แล้วทักษะของเขาเป็นไงบ้าง?”

     

    หญิงสาวถามขณะมองแสงจันทร์นอกหน้าต่าง

     

    “ทักษะของเขา...”

     

    ชายสวมเสื้อคลุมหยุดครู่หนึ่ง

     

    “น่ากลัวมากครับ”

     

    “…”

     

    “ผมไม่รู้ว่าคำๆนี้จะเหมาะกับคนที่อยู่ในตระกูลไอเฟลเลต้าหรือไม่ แต่เขาไม่มีพื้นฐานในเชิงดาบสักนิดเดียว แต่การฟันของเขาสามารถเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบให้แก่นักดาบฝึกหัดได้ครับ”

     

    หญิงสาวยิ้มเยาะออกมาเมื่อได้ฟังรายงานจากชายสวมเสื้อคลุม

     

    “แล้วนายคาดหวังอะไรจากตัวเขาล่ะ? เขาคือจอมดาบขี้เกียจที่โด่งดังเชียวนะ”

     

    ขณะที่เธอกล่าวกับตัวเอง ชายสวมเสื้อคลุมเอียงหัวขณะถามออกมา

     

    “ถ้างั้นข่าวลือเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอครับ? ข่าวลือที่ว่าเขาไม่เคยเหวี่ยงดาบซักครั้ง?”

     

    “ใช่ มันเป็นเรื่องจริง”

     

    “เฮ้อ”

     

    ชายสวมเสื้อคลุมถอนหายใจออกมา ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน

    เขาเป็นนักฆ่าที่ถูกหญิงสาวว่าจ้างมา

    ทุกคนในตระกูลไอเฟลเลต้านั้นกลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จด้วยการกวัดแกว่งดาบ

    ในตระกูลนั้น เขาเป็นบุตรชายคนที่สามผู้ซึ่งไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง

    และเมื่อเขาเปลี่ยนใจตอนอายุ 18 ปี เขากลับโยนดาบทิ้งไปโดยไม่สนใจใยดีเลยสักนิด

    ช่างไร้ประโยชน์

    ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสารเหลือเกิน

     

    “รู้สึกว่าร่างกายของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย ช่างไร้ยางอายจริงๆ”

     

    ชายคนนั้นลุกขึ้น

    ภารกิจของเขาเสร็จแล้ว

    ภารกิจแรกคือใส่ยาพิษลงไปในซุป

    ภารกิจที่สองคือสอดแนมบุตรชายคนที่สามอย่างลับๆ

    ภารกิจเหล่านั้นเป็นภารกิจที่เขารับมา

     

    “ถ้างั้น ผมขอตัวลาครับ”

     

    “ทำงานได้ดีมาก ฝากแสดงความนับถือแก่ท่านพ่อด้วยนะ”

     

    “ท่านบอกว่าท่านคงจะไม่ได้มาพบท่านหญิงบ่อยนักครับ”

     

    “เข้าใจแล้ว ไว้เจอกัน”

     

    ขณะที่หญิงสาวส่ายมือของเธอ ชายคนนั้นพยักหน้าแล้วหายตัวไปราวกับว่าละลายหายไปในพื้น

    หญิงสาวหัวเราะขณะมองไปบนดวงจันทร์

     

    “ฉันคงกังวลเกินเหตุ โง่จริงๆตัวฉัน”

     

    โอแรลีย์ยิ้มเยาะออกมา

    ไฟแห่งความริษยาในใจเธอนั้นดูเหมือนจะสงบลงเล็กน้อยแล้ว

     

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    ณ ทางเดินยาวในคฤหาสน์ไอเฟลเลต้า

    หลังออกจากห้องท่านหญิงโอแรลีย์ ชายสวมเสื้อคลุมวิ่งผ่านโถงทางเดินยาวอย่างเงียบเชียบ เขาได้รับคำสั่งว่าให้หลีกเลี่ยงจากการตรวจจับของเจ้าบ้าน

    เขาหันหัวกลับไปเมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารจากข้างหลัง

     

    ‘นั่นมันอะไรกัน?’

     

    เขาเป็นหนึ่งในสามของผู้ที่เก่งกาจที่สุดในองค์กร

    แม้แต่เคาท์สไตน์ผู้เป็นเจ้าบ้านก็ไม่สามารถตรวจพบเขาได้

     

    “...”

     

    ถ้าท่านหญิงโอแรลีย์พูดถูกล่ะก็ เขาน่าจะยังอยู่ในสำนักงานของเขา อยู่ท่ามกลางกองเอกสารที่ต้องเซ็น

    ชายสวมเสื้อคลุมใช้มานาทั้งหมดของเขาในการตรวจจับสิ่งมีชีวิตภายในคฤหาสน์

    เหมือนอย่างที่เขาคาดหวัง สไตน์ยังคงอยู่ในสำนักงานของเขา

    เมื่อเขาได้รับรู้เรื่องนี้ แสดงว่าจิตสังหารที่ไล่อยู่ข้างหลังต้องไม่ใช่ของสไตน์แน่นอน

     

    “นั่นใครกัน?”

     

    ชายคนนั้นหันกลับไปแล้วพูดออกมา

    ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา

     

    “ฉันพลาดหรอ? ไม่สิ ไม่น่าเป็นไปได้”

     

    ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในงานสายนี้ ไม่มีทางที่เขาจะจับจิตสังหารพลาด

    ชายสวมเสื้อคลุมก้มตัวลงแล้วตั้งท่าป้องกัน

    บนโถงทางเดินยาวเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความตึงเครียด

    เมื่อถึงขอบเขตที่ทนไหวชายสวมเสื้อคลุมก็ขมวดคิ้ว

    จิตสังหารที่ทิ่มแทงเขาอยู่ค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

     

    ‘เจ้าโง่นั่นเป็นใครกัน? นี่มันพยายามจะเรียกท่านเคาท์มาด้วยงั้นเหรอ?’

     

    ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยจิตสังหารนี้ ไม่เพียงแต่สไตน์เท่านั้น บุตรชายคนแรกและคนที่สองก็จะรู้สึกตัวแล้ววิ่งมาที่นี่ด้วยเช่นกัน

    พวกนั้นจะฟันตนให้ขาดเป็นสองท่อนอย่างแน่นอน

     

    “เฮ้ย ถ้าแกยังทำอย่างนี้ต่อไป พวกเรา-”

     

    ชายสวมเสื้อคลุมพยายามพูด แต่เขาก็ต้องกลั้นหายใจในทันที

     

    “อ้าาา...”

     

    “…!”

     

    เสียงที่ดังมาจากสุดโถงทางเดินยาวทำลายความเงียบงัน

     

    “ฉันคิดว่ามีหนูแอบเข้ามานะ”

     

    กึก กึก

    เสียงฝีเท้าเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

     

    “หืม แขกในยามวิกาลเหรอ?”

     

    “…”

     

    “ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ ในเวลาแบบนี้ไม่น่าจะมีแขกมานิ”

     

    มีเหตุผลเดียวที่ชายสวมเสื้อคลุมกลั้นลมหายใจพร้อมกับเบิกตากว้าง

    เนื่องจากเขาคิดว่าไม่มีทางที่ใครจะตรวจจับเขาได้ แม้เสียงและเสียงฝีเท้าของเขาจะถูกได้ยิน

     

    ‘มะ-มีคนอื่นเหมือนฉันอีกงั้นหรอ?’

     

    เป็นไปได้ยังไง หรือว่าฉันใช้มานาตรวจจับเขาไม่พบ?

    ชายสวมเสื้อคลุมคิดว่าบางทีอาจมีผู้อาวุโสที่เก่งกาจในสายงานของเขามาทำงานในที่นี้เหมือนกับเขาก็เป็นได้

     

    “ดูเหมือนว่านายจะออกมาจากห้องท่านหญิงโอแรลีย์สินะ”

     

    ชายเจ้าของเสียงปรากฎตัวออกมา

    เขานั้นมีท่าทางที่สงบนิ่งและเยือกเย็น

     

    “กะ-แกคือ!?”

     

    แสงจันทร์จากหน้าต่างเผยให้เห็นเท้า เสื้อผ้า และใบหน้าของเขา

    ชายสวมเสื้อคลุมอ้าปากค้างเมื่อเขาได้ตระหนักว่าชายผู้นั้นเป็นใคร แม้เขาจะมีหน้ากากปกปิดใบหน้าของเขาก็ตาม

     

    “มาคุยกันหน่อยดีกว่า”

     

    ชายสวมเสื้อคลุมไม่อาจเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ได้

     

    ‘ไรลีย์?’

     

    ตาของเขาเบิกกว้าง เขาไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา

    ******************************************************

    ไปติดตามกันได้ในเพจตามชื่อนิยายเลยนะครับ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×