ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (นิยายแปล)The Lazy Swordmaster จอมราชันดาบขี้เกียจ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 - ไรลี่ย์เป็น....

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 60


    เด็กชายคนหนึ่งหาวออกมา ขณะเขาที่กำลังนอนอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ลในสวนของคฤหาสน์

    มันเป็นเหมือนกับเตียงหลังที่สองของเขา

     

    “เฮ้อ… อยากดื่มโค้กบ้างจัง”

     

    เขาคือบุตรชายคนที่สามแห่งตระกูลไอเฟลเลต้า ไรลีย์

     

    “มันชักจะบ่อยขึ้นแล้วนะ ความฝันของตัวฉันในอดีต”

     

    โลกที่เต็มไปด้วยพื้นคอนกรีตและตึกระฟ้า

     

    มันสะท้อนให้เห็นชีวิตของตัวเขาในอดีตของตัวเขา

     

    หลังจากวันที่เขาได้ดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากพื้นดินโดยไม่ตั้งใจ ตั้งแต่นั้นมาในชีวิตของเขาก็มีแต่การต่อสู้ เขาได้ฆ่าสัตว์ประหลาดมากมายจนนับไม่ถ้วน เพื่อปกป้องโลกจากการรุกรานของราชาปีศาจ

     

    แทนที่ตัวเขาจะได้ไปโรงเรียนกับเพื่อนๆของเขา แต่เขากลับถูกบีบบังคับให้ต้องเดินบนเส้นทางแห่งการต่อสู้

     

    เขาถอนหายใจออกมาเมื่อเขาจำชีวิตที่แล้วของเขาได้จากความฝัน

     

    “มันมักจะย้อนกลับมาเสมอเมื่อฉันลืมมันไป”

     

    เขาเกาหัวเมื่อนึกถึงประโยคที่เขาได้พูดออกมาว่า ‘อยากดื่มโค้กจัง’

     

    “โค้ก เฮ้อ…”

     

    มันเป็นเครื่องดื่มที่ ‘ตัวเขาในอดีต’ โปรดปราน

     

    เขาเศร้าเพราะว่าเขาไม่รู้วิธีทำมัน

     

    “หึ”

     

    นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้รู้สึกถึงความซ่าจากน้ำอัดลมที่ไหลผ่านคอของฉัน แต่ในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้…

     

    เขาสานนิ้วทั้งสิบของเขาเข้าด้วยกันแล้วยืดแขนทั้งสองข้างออกไป ขณะที่เขากำลังคิดถึงอดีตชาติของตัวเอง

     

    “ก็นะ ฉันไม่จำเป็นต้องนึกถึงอดีตของตัวเองแล้ว”

     

    ฉันจะใช้ชีวิตนี้อย่างสงบสุข

     

    เพราะว่าความทรงจำของเขายังอยู่ครบถ้วน มันจึงทำให้เขานึกถึงเรื่องที่ตัวเองมาเกิดใหม่ในโลกนี้

     

    ให้ต่อสู้ด้วยดาบ ให้ช่วยโลก…

     

    เพื่อให้กลายเป็นผู้ถูกรัก เพื่อให้เป็นที่พึ่งพิง…

     

    มันไม่จำเป็น!

     

    เขาอยากจะหลีกหนีจากอดีตของตัวเขา

     

    ช่างน่าขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้เขาเกิดเป็นบุตรชายคนที่สามแห่งตระกูลชนชั้นสูงที่สำคัญ

     

    “…นายน้อยครับ นายน้อย!”

     

    ถ้าไม่มีอุปสรรคใดๆเลย

     

    “นายน้อยครับ! นายน้อยหลับอีกแล้วหรอครับ!”

     

    ‘เวรกรรม’

     

    แม้ว่าตัวเขาจะตื่นแล้ว แต่เขากลับหลับตาของเขาอีกครั้งเพื่อหลีกหนีจากสถานการณ์นี้

     

    เขาอยากจะวิงวอนว่าอย่ารบกวนการนอนของเขา

     

    “นี่พึ่งจะเลยเที่ยงมานิดหน่อยเองนะครับพระอาทิตย์เพิ่งจะขึ้นเองนะท่าน! ท่านควรจะนอนในเวลากลางคืนนะครับ!”

     

    ถ้าชายคนหนึ่งเหนื่อยมากๆ เขาสามารถนอนได้ทั้งวัน

     

    แม้ว่ามันจะมีเสียงรบกวนสักเพียงใด เขาก็จะหลับเป็นตาย

     

    ‘ง่วงในตอนกลางวันและหลับในตอนกลางคืนมันคือสองสิ่งที่แตกต่างกัน’

     

    เมื่อเขาเลือกคำตอบในใจได้ เขาก็กรนออกมาเสียงดัง

     

    เขาทำแบบนี้ก็เพื่อแสดงให้พ่อบ้านเห็นว่าเขากำลังอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน

     

    “แม้ว่าผมจะแก่ปูนนี้แล้ว แต่ผมก็ยังแยกแยะระหว่างความจริงและการโกหกออกนะครับ”

     

    “…”

     

    “ผมรับใช้ท่านมาเกือบ 20 ปีนะครับ ท่านควรจะเลิกแกล้งหลับแล้วลุกขึ้นมานะครับ”

     

    เขามักจะพูดอย่างนั้นเสมอ แต่เอียนมีวิธีที่ทำให้รู้ความจริง เพราะอย่างนั้นเขาถึงกำลังขอร้องให้ไรลี่ย์ลุกขึ้นมา

     

    “เฮ้อ นายน้อยครับใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วนะครับ”

     

    เขาเขย่าไหล่ของไรลี่ย์

     

    “หืม จริงหรอ?”

     

    ไรลีย์ลุกขึ้นมา แต่เขาก็อดที่จะพูดออกมาด้วยเสียงเศร้าๆไม่ได้

     

    เขาไม่อยากให้ชายแก่คนนี้ร้องไห้

     

    “ดูเหมือนว่า… วันนี้ท่านก็ไม่ได้ฝึกซ้อมเช่นเคยสินะครับ”

     

    ไรลีย์ไม่ได้ตอบเอียนกลับไป

     

    “ขอเพียงท่านได้ลองดูผมมั่นใจว่าท่านจะได้พบพรสวรรค์ของท่านแน่นอนครับ”

     

    เขาเริ่มบ่น

     

    อีกแล้ว…

     

    ไรลีย์เริ่มสงสัยแล้วว่าที่เขาตื่นขึ้นมาเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่

     

    “แล้ว… เหตุผลล่ะครับ?”

     

    “นี่ นายคิดว่ามื้อเย็นวันนี้จะเป็นอะไรหรอ?”

     

    “จากการคาดคะเนของผม ผมคาดว่าท่านจะต้องก้าวข้ามท่านพี่ทั้งสองของท่านได้ครับ!”

     

    ครั้งหนึ่งเอียนเคยประเมินว่าไรลีย์นั้น ‘ดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุของเขา’

     

    ในทางที่ดี

     

    ในความทรงจำของเขา เขาคิดว่าไรลีย์นั้นไม่แสดงท่าทีเหมือนกับเด็กทารกทั่วๆไป

     

    “หลายๆคนอาจจะลืมเลือนไปแล้ว แต่ผมรู้นะครับ! รู้ว่านายน้อยน่ะ-”

     

    “ขี้เกียจหรอ?”

     

    ไรลีย์ตอบกลับแล้วยิ้มออกมา

     

    “ไม่! ไม่ใช่แค่นั้นครับ!”

     

    หน้าของเอียนนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง และมีไอน้ำพุ่งออกมาจากหูของเขา

     

    “ฮึ… ท่านไม่รู้หรอกครับว่าผมโกรธไอพวกสารเลวนั่นในหมู่บ้านอิฟฟาแค่ไหน!”

     

    เอียนหลับตาของเขา ในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อไรลีย์รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็เดินออกห่างจากเอียนทันที

     

    เอียนเดินตามเขาไป และพึมพำคำก่นด่าต่างๆนาๆเท่าที่เขาจะคิดได้ออกมา

     

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    “ด้วยความสัตย์จริงครับท่านหญิงไอริส! ได้โปรดช่วยตำหนินายน้อยไรลีย์ด้วยเถอะครับ นายน้อยไม่แม้แต่จะแตะต้องดาบเลยสักนิดครับ… คล้ายกับว่านายน้อยพยายามที่จะเป็นจอมเวทย์เลยครับ”

     

    “แล้วมันมีปัญหาอะไรรึ เอียน?”

     

    ในห้องรับประทานอาหารของคฤหาสน์ในขณะนี้ มีคนสอง- ไม่สิ สามคนอยู่ที่โต๊ะอาหาร

     

    หญิงสาวกำลังยิ้มให้กับบุตรชายของเธอที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามของเธอ

     

    “แหะ ๆ”

     

    เมื่อไรลีย์มองหน้าท่านแม่ของเขา เขาก็ยิ้มออกมาเช่นกัน

     

    ท่านแม่ของเขาเป็นคนๆเดียวในคฤหาสน์ที่เข้าใจในตัวของเขา

     

    ไอริส

     

    เธอมักจะตั้งอกตั้งใจฟังความฝันประหลาดๆของเขาเสมอ

     

    มารดาผู้ยอดเยี่ยมผู้ซึ่งหวังเพียงแต่ให้บุตรชายของเธอมีความสุข แม้ว่าเขาไม่อยากจะเรียนวิชาดาบของตระกูลก็ตาม

     

    ถ้าให้ไรลีย์เลือกสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของเขา เขาก็จะเลือกท่านแม่ของเขาในทันที

     

    “แหะ ๆ ท่านก็เช่นกันครับ ท่านหญิง”

     

    เอียนถอนหายใจให้กับทั้งสองคน

     

    “โอ้? นายหมายความว่ายังไงหรอเอียน?”

     

    “นายน้อยก็อายุ 18 แล้วนะครับ เขาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ท่านจะให้เขาทำตัวเป็นเด็กไปถึงไหนกันครับท่านหญิง? ถึงเวลาที่จะต้องเข้มงวดกับนายน้อยแล้วนะครับ แล้วยังมีปัญหาเรื่องตำแหน่งผู้สืบทอดอยู่อีกนะครับ”

     

    เอียนกุมขมับเมื่อเขาพูดคำเหล่านั้นออกมา แค่นึกถึงเรื่องนั้นก็ทำให้เขาปวดหัวขึ้นมาแล้ว

     

    “นี่ท่านไม่โกรธหรอครับ? ที่บุตรชายทั้งสองของท่านหญิงโอไรลีย์มาพบท่านเมื่อมีเวลาว่างเท่านั้น พวกเขาเยาะเย้ยท่านนะครับ พวกเนรคุณนั่นน่ะ”

    [TLN:คำให้เกียรติที่พ่อบ้านใช้ตรงนี้จะบอกว่าท่านหญิงโอแรลีย์นั้นเป็นภรรยาคนแรกในตระกูลไอเฟลเลต้า และยังเป็นมารดาของบุตรชายคนที่หนึ่งและสอง ในขณะที่ท่านหญิงไอริสเป็นภรรยาคนที่สองและยังเป็นมารดาของไรลีย์อีกด้วย]

     

    “เอียนระวังคำพูดของเธอด้วย พวกเรายังอยู่ในคฤหาสน์นะ”

     

    “ไม่ครับ ผมจะพูดแบบนี้ พวกท่านทั้งสองน่ะ… มีความทะเยอทะยานบ้างสิครับ ท่านไม่อยากจะเอาคืนพวกเขาหรอครับ?”

     

    เอียนเริ่มคร่ำครวญออกมา

     

    “แทนที่จะคิดถึงเรื่องความฝันแปลกๆของนายน้อยน่ะครับ!”

     

    ไรลีย์มักจะเล่าเรื่องความฝันของเขาให้ท่านแม่ของเขาฟังเสมอ เมื่อเอียนตะโกนออกมาว่าเขาควรจะคุยเรื่องดาบแทน ไรลีย์ก็ตอบกลับมา

     

    “ฝันแปลกๆที่นายพูดถึงน่ะมันก็น่าสนใจใช่ไหมล่ะ?”

     

    “หะ? ใช่ครับมันน่าสนใจ… เดี๋ยว นั่นมันไม่ใช่ประเด็นนะครับ!”

     

    เอียนเริ่มบอกไอริสเกี่ยวกับลักษณะที่ดีของไรลีย์

     

    “ท่านก็รู้ถึงความฉลาดของนายน้อยดีหนิครับ”

     

    ในวัยเด็กของไรลีย์ เขาเรียนรู้ทั้งการเขียนและการพูดได้รวดเร็วมาก

     

    มันไม่ใช่สิ่งเดียวที่เขาคิดออก

     

    มันมีนับไม่ถ้วน

     

    “แล้วไงล่ะ?”

     

    ทักษะการแก้ไขปัญหาของไรลีย์นั้นเหนือล้ำกว่าอายุของเขาจนน่าตกใจ และไม่ว่าจะมีภัยอันใดเกินขึ้น เขามักจะหายตัวไปจากคฤหาสน์เสมอ โดยใช้คำว่า ‘เล่นซ่อนหา’ เป็นข้ออ้าง

     

    แล้วเขาจะปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อภัยต่างๆได้หายไปแล้ว

     

    “ผมยังคง...”

     

    ไอริสรู้ตั้งนานแล้วว่าไรลีย์นั้นแตกต่างจากบุคคลทั่วๆไป เรื่องราวความฝันของเขา วิธีที่เขาใช้พูดออกมา... ทุกคำและทุกท่าทางของเขาล้วนเปี่ยมไปด้วยวุฒิภาวะ

     

    “ความฉลาดของนายน้อยจะสามารถนำไปใช้กับดาบได้เป็นอย่างดีครับ! ผมได้พูดกับท่านหญิงมาหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับพรสวรรค์อันไร้ขีดจำกัดของเขา-”

     

    “เอียน”

     

    ไอริสขัดคำพูดต่อไปของเอียน

     

    “ฉันมีความสุขในสิ่งที่ไรลีย์เป็น”

     

    เธอจะไม่สนใจการกระทำของไรลีย์มากนัก

     

    เพราะว่าเธอเป็นแม่ของเขา เธอหวังแต่เพียงว่าลูกชายของเธอจะมีความสุข

     

    “เฮ้ออออ...”

     

    เอียนห่อไหล่ลงเมื่อเขาไม่สามารถโน้มน้าวใจของเธอได้อีกครั้งแล้วที่เป็นอย่างนี้

     

    เขารู้สึกว่าตัวเขาเล็กลงกว่าแต่ก่อน ราวกับว่ากล้ามเนื้อภายใต้เสื้อผ้าของเขาทั้งหมดก็หดลงเช่นกัน

     

    “เอียน นี่คือชีวิตของฉัน ฉันดูแลตัวเองได้น่า”

     

    ไรลีย์หัวเราะในใจขณะที่ปากของเขายังเต็มไปด้วยซุป เพราะเขารู้ว่าเขาสามารถหลบหลีจากการบ่นของเอียนได้สำเร็จ ต้องขอบคุณท่านแม่ของเขา

     

    “แค่ก!”

     

    ไอริสเริ่มจะไอออกมา

     

    อาหารของเธอเข้าไปติดขัดหลอดลมงั้นหรอ?

     

    หรือว่าใส่พริกลงไปในซุปมากเกินไป?

     

    “แค่ก แค่ก!”

     

    อาการไอดูเหมือนว่าจะเริ่มหนักขึ้นๆ

     

    หน้าของไรลีย์เริ่มมืดมิด ขณะที่เสียงไอยังไม่หยุดลง แม้ว่าเวลาจะผ่านไปสักเล็กน้อยแล้ว

     

    “ท่านแม่?”

     

    ไอริสปิดปากของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง  ขณะที่อีกมือหนึ่งกำลังส่ายเบื่อจะบอกให้คนอื่นรู้ว่าเธอไม่เป็นอะไร

    บทที่3

     

    แต่ไรลีย์สังเกตเห็นบางอย่างบนมือที่ส่ายไปส่ายมาของเธอ

     

    “ท่านแม่ มือของท่าน!”

     

    “แค่ก! แค่ก!”

     

    อาการไอยิ่งหนักขึ้นเมื่อเธอมองที่มือของเธอ

     

    สีแดง

     

    เลือดได้อาบมือของเธอ แล้วเธอก็ล้มลงบนโต๊ะ

     

    “ท่านแม่!”

     

    ไรลีย์ยืนขึ้นอย่างร้อนรน แต่เขาก็ต้องหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขารู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังดูอยู่ ในตอนนั้นเอง ตาของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสายตาของนักล่า แต่ก็กลับมาเป็นอย่างเดิมอย่างรวดเร็ว

     

    “คิกๆ”

     

    มีเสียงหัวเราะเบาๆออกมาจากที่ๆห่างออกไปเพียงเล็กน้อย แต่ไรลีย์สามารถได้ยินเสียงนั้นได้ จากนั้นเขาก็ได้เห็นมัน

     

    “รอเดี๋ยวครับนายน้อย ผมจะไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้แหละครับ!”

     

    “...”

     

    หลังจากที่หัวเราะเยาะเย้ยเสร็จ ภรรยาคนแรกแห่งตระกูลฟินน์ ไอเฟลเลต้า ที่อยู่ห่างออกไปก็ค่อยๆ เดินจากไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×