ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Magical Crystal มนตรารักต้องสาป

    ลำดับตอนที่ #5 : สวนลับป่าผลไม้

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 57


    4

    สวนลับป่าผลไม้

                    “เฮ่อ เสร็จสักที” เมื่อฉันจัดดอกไม้เวทแห่งแสงได้แล้วฉันก็หันหลังกลับไป พบว่า ฟรีตส์ ยืนมองดูฉัน แบบนิ่งเหมือนเดิม ไม่นานที่ฉันหันไปเขา ฟรีตส์ก็รู้สึกตัวว่าฉันหันมามองเขา เขาก็จัดโต๊ะต่อไป โดยดูแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจทำงานเลย

                "นี้ เมื่อกี้นายมองฉันทำไมหรอ" คำพูดของฉันเข้าถึงหูของเขา เขาก็หันมาแล้วเดินตรงมาทางฉัน ฉันไม่รู้ว่าทำไงได้แต่มองเขาเดินมาหา เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของฉันแล้วชี้ไปที่แจกันที่ฉันจัดเสร็จแล้ว

                “เธอทำได้ยังไง” อะ อะไรนะ =_= ตานี้กวนบาทาฉันหรือยังไงกันก็แค่จัดดอกไม้เองหนิใครที่ไหนเขาทำไม่เป็นกัน

                “ก็แค่จัดดอกไม้เองหนิ ของแค่นี้ กล้วยๆเองนะ นายไม่เคยทำหรือไง” ฮึ ได้ด่าออกไปสะที ตานี้มันกวนได้กวนดีนะเนี้ย

              “ฉันก็เคยจัด แต่การจัดดอกไม้แบบ The flowers are durable crystal light. มันเป็นการจัดดอกไม้ที่ยากเป็นที่ 2 ของอาณาจักรวิงซ์โคลน์ไวท์เชียวนะ แถมอีกอย่างคนธาตุแสงเท่านั้นที่จะจัดแจกันดอกไม้แบบนี้ได้ แต่นี้เธอจัดได้แบบง่ายดายเลย แถมยังจัดได้หลายรอบ แบบไม่มีท่าทีที่จะเหนื่อยเลยด้วย” เอ๋ นี้ฉันตาฝาดรึป่าวนะ เหมือนจะเห็นหน้าตานี้ตะลึงกับอีแค่การจัดดอกไม้เท่านั้นเอง หึ หึ ได้โอกาสแกล้งแล้ว

    “งั้นหรอ มันเรียกว่าจัดดอกไม้แบบ The flowers are durable crystal light. เองอย่างงั้นหรอ เอไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ” ฮิ ฮิ เหมือนตานี้จะ กินเก๊กหวยชักไปแล้วหละ

    “นี้เธอไม่รู้เลยงั้นหรอ” 555+ หน้าตานี้ขำชะมัดเลย อึ้งกับเขาเป็นด้วย 555+

    “รู้อะไร ก็แค่การจัดดอกไม้ธรรมดาเองหนิ” ฮิ ฮิ สะใจจัง 555+

    “แล้วเธอจัดดอกไม้แบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่หละ” นั้นไงตานี้กลับมาทำหน้าตายเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่เมื่อกี้นี้สะใจจัง ฮิ ฮิ

    “ก็ตั้งแต่ ตอนที่ฉันอายุ 5 ปีละมั้ง ทำไมหรอ” ไอ้ยะ o0o ฉันเห็นตานี้เหมือนจะมีรังสีอะไรสักอย่างออกมาเลยอะ

    “ธะ เธอนี้มัน” อะไร อะไร เขาจะพูดอะไร

    “ตัวเตี้ยแบบนี้ยังจะจัดดอกไม้แบบคนเก่งๆเขาได้อยู่อีกนะ ยัย.ตัว.เล็ก”

    “หนอย ฉันป่าวตัวเล็กนะยะ ตาบ้าเลิกแกล้งฉันได้แล้วยะ”

    “เอ ถ้าตอนนี้ฉันแกล้งเธอ เมื่อกี้นี้เธอก็แกล้งฉันไม่ใช่หรือไง” งะ =[]=!! โดนจับได้สะแล้วอะ

    “ปะ ป่าวสักหน่อย”

    “หึ คิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอคิดอะไร เธอแกล้งฉันมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วหนิถึงฉันล้างแค้นได้แล้วหละ มานี้เลยนะยัยตัวเล็ก” ตายแล้วตานี้โกรธน่ากลัวชะมัดเลยอะ เผ่นก่อนหละ หลังจากที่ฉันวิ่งออกมาจากร้านเพราะไม่งั้นเดี๋ยวทำของพัง ฟรีตส์ ก็ตามฉันออกมาเพื่อจะล้างแค้น เวลาตานี้โกรธน่ากลัวชะมัด และแล้วฉันก็วิ่งไล่จับกับเขาจนมีลูกค้าเข้าร้าน ฉันจึงบอกขอให้ตานั้นแก้แค้นฉันทีหลัง และแล้วพวกเราก็รักษาความสัมพันธ์แบบยักษ์กับคนไว้ก่อน พวกเราได้ต้อนรับลูกค้าอย่างดีจนเวลาผ่านไปลุล่วงถึงตอนเย็น ลูกค้าคนสุดท้ายออกจากร้านไปก็ถึงเวลาปิดร้านสะที เฮ่อ เหนื่อยชะมัดเลย

    “นี้ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

    “ว้าย!! ตะ ตาบ้าอย่ามาแบบไม่ให้สุ้มไม่ให้เสียงสิยะ” อยู่ๆตาฟรีตส์ก็เดินมากระซิบที่หูฉันแบบไม่ให้ฉันรู้ตัวเลย

    “โห เธอนี้จุดอ่อนเยอะเนาะ” หนอย แล้วตานี้มาทำไมกันเนี้ยหรือว่า จะมาเล่นยักษ์กับฉันอีกอะ ไม่เอานะ ฉันเหนื่อยแล้ว

    “ยะ อย่านะไม่เอานะ ฉันเหนื่อยแล้วอะ”จากนั้นฉันก็ทรุดตัวลงกับพื้นเพราะเหนื่อยแล้ว

    “เธอพูดอะไรหนะ ฉันเอาของที่เธอทำตกมาให้ต่างหากเล่า”อยู่ๆฟรีตส์ก็ยื่นซองจดหมายมาให้ฉันปรากฏว่านั้นมันคือของฉัน

    “เอ๋ ทำไมถึงไปอยู่ที่นายหละ”ฉันถามพร้อมหยิบจดหมายมา

    “เมื่อตอนที่ฉันไล่เธอ เธอทำมันปลิวตกหนะ ฉันกำลังจะวิ่งเอาไปให้เธอด้วย แต่เธอก็ดันวิ่งหนีฉันสะได้ เธอนี้จริงๆเลย” อะ อ้าวที่แท้ก็วิ่งเอาของมาให้หรอกหรอ งั้นไอ้ที่หน้าตานี้น่ากลัวก็คงจะอารมณ์เสียที่ฉันวิ่งหนีใส่แน่เลย

    “ขะ ขอโทษด้วยแล้วกันนะ และก็ขอบใจนะ”

    “นามสกุลเธอคืออะไรงั้นหรอ”

    “ก็ทิฟฟีนี่ไง ทำไมหรอ”

    “เธอลองดูชื่อผู้รับในจดหมายดูสิ”ฟรีตส์พูดพร้อมชี้มาที่จ่าหน้าซองจดหมาย

    “เอ๋” ฉันก็มองตามที่เขาชี้ปรากฏว่าชื่อในนั้นคือ ลอร์แกนด์  เอ๋ แปลกจังเลย

    “เอ้า พวกเธอมาอยู่ที่นี้กันเองหรอ”คุณอาร์ตออกมาจากร้าน แล้วเดินตรงมายังที่พวกเรายืนกันอยู่

    “คุณอาร์ตไอ้นี้มันหมายความว่าไงค่ะ” คุณอาร์ตทำหน้าแปลกใจหลังจากที่ฉันพูดไป

    ………………………………………………………………………………………………

    Freeds Take

              ตั้งแต่ที่ผมสังเกตเห็นจดหมายนั้นแล้วบอกกับยัยตัวเล็กนั้น ยัยนั้นก็ถามคุณอาร์ตว่าชื่อตัวเองไม่เหมือนในจดหมาย ในตอนนี้พวกเรามาอยู่ที่ห้องรับแขกขนาดย่อม

                “เฮ่อ ถึงเวลาที่ฉันจะต้องเล่าให้หนูฟังแล้วสินะ”ผมกับยัยจิ๋วนั่งฟังในสิ่งที่คุณอาร์ตจะพูดขึ้น น้าฟรานด้าก็มานั่งข้างๆคุณอาร์ต

                “เรื่องมีอยู่ว่า ฉันไม่ใช่ผู้ที่รับเลี้ยงดูหนูมาตั้งแต่อยู่ที่โบสถ์ มีคนอื่นฝากหนูไว้กับฉันโดยมีซิสเตอร์เป็นคนคอยบอกว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไง..

    “ทะ ทำไมซิสเตอร์ถึงได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หละค่ะ”ไม่ทันที่คุณอาร์ตจะพูดจบ ยัยจิ๋วก็พูดตัดหน้าก่อน

    “ฟังที่ฉันพูดให้จบก่อนสิ”

    “ขะ ขอโทษค่ะ”แล้วยัยนี้ก็นั่งเงียบไปเมื่อเห็นว่าคุณอาร์ตเริ่มอารมณ์เสีย

    “ในตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ๆคือฉันได้รับคำสั่งมาจากทางหลวงว่าให้รับหนูมาอยู่ด้วยโดยมีซิสเตอร์เป็นส่วนกลางในการเลี้ยงดูหนู ซึ่งก็จะแบ่งหน้าที่เลี้ยงดูหนูโดยซิส-เตอร์เป็นผู้ชำระล้างปีศาจและสุขภาพของหนู ส่วนฉันมีหน้าที่รับหนูมาเลี้ยงดู ให้ความรู้สอนเวทมนต์พื้นฐานโดยการให้หนูใช้คริสตัลเป็นตัวส่งพลังเวทมนต์ก่อน ส่วนฟรานด้าจะเป็นคนดูแลหนูต่อจากฉันเมื่อไปยังที่โรงเรียนนั้น เมื่อฉันสามารถเลี้ยงดูหนูจนอายุครบ 16 ปี จะมีองครักษ์มาค่อยดูแลหนูอยู่ 9 คน โดยแต่งละคนจะเป็นผู้ที่มีความสามรถต่างๆ ในตอนนี้หนูจะยังไม่รู้ว่าใครคือองครักษ์ของหนู และเขาก็ไม่รู้ว่าหนูคือคนที่จะต้องตามหาเขา เพราะฉะนั้นหนูต้องเป็นคนค้นหาพวกเขาเองและพวกเขาก็จะพบกับหนู ในตอนนี้หนูคงสงสัยใช่ไหมว่า ฟรีตส์มาที่นี้ทำไม” ผมได้นั่งฟังในสิ่งที่คุณอาร์ตบอกกับยัยตัวเล็ก นั้นสินะทำไมผมจะต้องมาอยู่ที่นี้ด้วยหละ -0-

    “เพราะอะไรหรอครับ”คราวนี้เป็นผมถาม คุณอาร์ต เพราะอยู่ๆ น้าฟรานด้าก็พาผมมาที่นี้โดยที่ผมยังไม่รู้อะไรเลยหนะสิ

    “เธอหนะเป็นคนที่ถูกเลือกให้เป็นองครักษ์คนแรก”

    “หา!!”คราวนี้เป็นเสียงของพวกเราทั้งคู่ทั้งผม ทั้งยัยตัวเล็ก

    “ก็อย่างที่อาร์ตตี้พูดแหละนะ ฟรีตส์ คือองครักษ์คนแรกที่ทางหลวงส่งเธอมาให้กับหนูคริสตัล”นั้นเป็นคำพูดของน้าฟรานด้า

    “แล้วทำไมถึงเป็นผมหละ”ผมไม่รู้เหตุผลอะไร เพราะผมมาที่นี้โดยไม่รู้อะไรเลย

    “ฟรีตส์ เธอเคยไปแข่งขันอะรที่ไหนไหม”คุณอาร์ตได้ถามกับผม

    “เคยครับ เป็นการแข่งระดับสูงระหว่างแต่หละอาณาจักรหนะครับ ผมแข่งทุกปีครับ”ผมได้ตอบออกไป

    “แล้วเธอแข่งอะไรบ้างหละ”

    “เอ่อ แข่งทักษะการใช้วารีเวท มีการแข่งเล่นเกม The Gaden World มีการแข่งทักษะทางดาปของเวทไฟครับ มีการแข่งทักษะในการใช้แสงมองในโลกแห่งความมืด และ มีการจัดดอกไม้แบบ The flowers are durable crystal light. ก็มีเท่านี้แหละครับ”

    “อืม แล้วเธอได้ที่เท่าไหร่หละ”

    “เอ่อ ฉนะเลิศทั้งหมดครับ”

                “หา!!!!! ไม่มีทางน่านายหนะหรอ ที่ฉนะการแข่งขันพวกนั้น”อยู่ๆ ยัยตัวเล็กก็ตะโกนออกมา

    ………………………………………………………………………………………………

    Crystal Take

                ฉันตกใจมากเมื่อรู้ว่าตาฟรีตส์เก่งสะขนาดนั้น จนเผลอตะโกนออกมาดังลั่นด้วยความตกใจ เพราะการแข่งขันที่ฟรีตส์บอกมาทั้งหมดมันเป็นการแข่งขันที่เสี่ยงมาก ต้องใช้พลังในการใช้เวทสูงมาก ที่สำคัญตานี้ยังฉนะเลิศทั้งหมดด้วย มิน่าหละถึงได้ตกใจว่าฉันจัดแจกันแบบนั้นได้ยังไงกัน แต่มันก็น่าแปลกทำไมแค่การจัดดอกไม้ธรรมดาๆแบบนั้นถึงได้เป็นการแข่งขันระดับสูงหละ -_-? งงเลยคราวนี้

                “การแข่งขันพวกนั้นเป็นเรื่องจริงจ๊ะ ฉันเป็นผู้ปกครองของเขาเองจ๊ะ และตอนนั้นก็มีกรรมการจากทางหลวงมาพอดี ฟรีตส์ก็เลยได้เป็นองครักษ์หละมั้งนะ”คุณฟรานด้าพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

                “อืม นั้นก็น่าจะเป็นส่วนเกี่ยวข้องนะ แต่คริสตัลหนูจะตกใจไปทำไมหละ” อะ  เอ๋ นี้คุณอาร์ตไม่ตกใจเลยหรอค่ะ

                “ก็ การแข่งพวกนั้นมันเป็นการแข่งชั้นสูงหนิค่ะ แต่การจัดดอกไม้ อะไรนั้นหนะมันง่ายไม่ใช่หรอค่ะ แต่ทำไมถึงเป็นการแข่งได้หละค่ะ”ฉันได้ถามคำถามที่ส่งสัยมานานกับคุณอาร์ต

                “เพราะมันเป็นการจัดดอกไม้แบบที่ยากเป็นอันดับสองของอาณาจักรวิงซ์โคลน์ไวท์ เหมือนฉันจะเห็นฟรีตส์อธิบายให้กับหนูในตอนนั้นแล้ว ฉันก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ที่หนูจัดดอกไม้แบบนั้นได้เพราะฉันสอนหนูใช่ไหมหละ ฉันได้สอนหนูได้ฝึกทักษะพื้นฐานเท่านั้นแต่หนูสามารถทำได้เกินที่ฉันคาดเอาไว้ เธอสามารถใช้เวทมนต์จากคริสตัลได้โดยที่ไม่มีเหงื่อออกเลยสักหยดเดียว ซึ่งการที่คนธรรมดาที่ใช้เวทมนต์จากคริสตัลแล้วจะมีอาการเหนื่อยง่ายเพราะต้องใช้พลังงานมากแต่หนูกลับสามารถทำได้โดยไม่เหนื่อยเลย ฉันเลยคิดที่จะลองให้หนูลองใช้วิธีการจัดดอกไม้โดยใช้คริสตัลเวทแสงดูแต่หนูสามรถทำได้ และเรียนรู้ได้เร็วมากส่วนสิ่งอื่นๆที่ฉันสอนให้หนูมันก็มีบางอย่างที่ฉันเอาไว้ทดสอบพลังหนูซึ่งนั้นก็คงจะเป็นการใช้เวทชั้นสูงหละนะ ถ้าให้พูดง่ายๆคือการใช้เวทมนต์จากคริสตัลของหนูมันเกินกว่าที่พลังอย่างมนุษย์ธรรมดาจะทำได้หละนะ” ฉันตั้งใจฟังสิ่งที่คุณอาร์ตอธิบายอย่างพิจารณา มิน่าหละ ทำไมฟรีตส์ถึงตกใจ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้แต่ฉันสามารถทำมันได้

                “แล้วมันเกี่ยวกับชื่อของหนูยังไงหรอค่ะ” ทีนี้ฉันพึ่งนึกได้ว่าประเด็นของฉันคือ ชือของฉัน

                “ชื่อในตอนนี้ของหนูคือ คริสตัล ทิฟฟีนี่ใช่ไหม แต่ คริสตัล ลอร์แกนด์นั้นคือชื่อที่แท้จริงของหนู”

                “เอ๋ มันหมายความว่ากันแน่ค่ะ หนูงงไปหมดแล้วค่ะ”

                “ก็อย่างที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ว่าฉันได้รับหน้าที่ให้เลี้ยงดูหนูจนอายุครบ 16 ปีใช่ไหม ก่อนที่หนูจะมาอยู่ในการดูแลของฉัน หนูได้ชื่อว่า คริสตัล ลอร์แกนด์  นั้นคือชื่อจริงของหนู ในตอนนั้นซิสเตอร์ได้มองเห็นสิ่งบางอย่างในตัวหนู เธอบอกว่ามีสิ่งชั่วร้ายกำลังตามหาหนูอยู่ซึ่ง  ซิสเตอร์รู้ว่ามันต้องเป็นรางร้ายแน่ๆ จึงได้ขอให้เปลี่ยนชื่อหนู เป็น คริสตัล ทิฟฟีนี่ แต่มันก็ต้องหมดอำนาจลงเมื่อหนูอายุครบ 16 ปี นั้นเป็นเรื่องหนึ่งที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้ แต่มันคงถึงเวลาที่จะต้องบอกแล้วหละ เท่านี้หนูคงพอเข้าใจแล้วนะ” @_@ โอ๊ย ตอนนี้ฉันชักจะเริ่มงงเข้าไปใหญ่แล้วอะ (ไม่ใช่แค่เธองงหรอก คนแต่งยังงงเลย @_@ : คนแต่ง)

                “เอ่อ งะ งั้นหรอค่ะ” ฉันตอบไปแบบยังกึ่งรู้กึ่งงงอยู่

                “หนูพอเข้าใจอยู่ไหมหละ”

                “เข้าใจอยู่บ้างค่ะ ว่าแต่คุณอาร์ตค่ะ แล้วไมค์นี้เกี๋ยวข้องไหมค่ะ” ไม่รู้เพราะอะไรฉันถึงนึกถึงเขาตลอดเลย มันคงเป็นเพราะเราอยู่ด้วยกันมานานแล้วหละมั้ง เลยไม่ชินกับการที่จะต้องจากใคร

                “เอ่อ อันนั้นฉันก็ไม่รู้ หนูก็รู้ว่าเขาไปอยู่กับญาติหนิ เมื่อวานนี้เองไม่ใช่หรอ”

                “เอ่อ มันก็ใช่ค่ะ” นั้นสิ เมื่อวานนี้เราได้จากกันแล้วหนิ

                “ไม่เป็นไรหรอกจ้า หนูคริส สักวันหนึ่งหนูอาจจะได้พบกับเขาก็ได้นะ”คุณฟรานด้าพูดออกมาเพราะเป็นห่วงฉัน

                “เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมยังอยู่ตรงนี้นะครับ”

                “อุ๊ย ลืมไปเลยจ๊ะ น้าขอโทษด้วยแล้วกันนะที่พาเรามาโดยไม่ได้บอก”คุณฟรานด้าพูดขอโทษฟรีตส์ เพราะอะไรฉันก็ไม่แน่ใจ

                “แล้วก็นะ หนูคริสวันนี้ไม่ไปหาเด็กๆหรอไงจ๊ะ”คุณฟรานด้าพูดบอกฉัน ฉันก็ลืมไปเลยว่านัดกับเด็กๆไว้ว่าจะไปเล่านิทานให้ฟัง

                “เด็กๆ?” ฟรีตส์พูดขึ้นแบบงงๆ จริงสิหมอนี้ไม่ได้รู้อะไรเลยนี้หน่า - -

                “ก็หนูคริสเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่โบสถ์ไงหละจ๊ะ”คุณฟราด้าพูดขึ้นพร้อมเดินไปหาฟรีตส์

                “คริสตัล นี้ขนมสำหรับวันนี้นะฉันเก็บไว้ให้ รีบไปหาเด็กๆสิ” คุณอาร์ตได้ยื่นถุงขนมมาให้กับฉัน นั้นสิ เอาแต่สนใจหมอนั้น ฉันก็ไม่ได้ทำธุระส่วนตัวสักทีหนะสิ ฉันไปหยิบถุงขนมจากคุณอาร์ตแล้วเดินออกมา โดยไม่สนใจว่าหลานน้าคู่นั้นคุยอะไรกันอยู่ ฉันได้ใช้คริสตัลธาตุลมที่ติดตัวอยู่เสกลมเล็กๆเพื่อให้ตัวลอยขึ้น แล้วก็ได้บินขึ้นไปยังท้องฟ้า มุ่งหน้าไปยังที่โบสถ์ ทำไมฉันไม่บินไปในตอนที่กำลังจะไปซื้อของนะ ฉันนี้มันสื้อบื้อจริงๆเลย เฮ่อ ช่างเถอะ มันผ่านมานานแล้ว(พึ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เองนะ =0= : คนแต่ง) ใช้เวลาไม่นานฉันก็มาถึงโบสถ์ พอฉันกำลังจะลงไปบนที่พื้นเด็กๆก็วิ่งออกมาแล้วกระโดดคล้อมฉัน จนฉันหงายหลังล้มลงไปเลย เฮ่อ เด็กก็เงี้ยแหละนะ ทำเอาผู้ใหญ่เหนื่อยเลย

                “พี่คริสตัล วันนี้เล่นกับพวกเรานะค่ะ”เด็กผู้หญิงหนึ่งในกลุ่มเด็กๆได้พูดขึ้น

                “จ้า จ้า แต่พวกเธอออกไปก่อนได้ไหม พี่ลุกไม่ได้หนะ”หลังจากฉันพูดออกมาเด็กๆก็ลุกขึ้น ฉันก็พยุงตัวลุกขึ้นยืน พร้อมกับเอาถุงขนมออกมา

                “ว้าว เค้กน่ากินจังครับ”เด็กผู้ชายในกลุ่มพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าครั้งนี้เป็นเค้กก้อนเบ้อเริ่ม ดีนะที่ถุงนั้นคือถุงเวทมนต์ไม่ว่าจะใส่อะไรสิ่งที่อยู่ในนั้นก็ไม่พังเลย เพราะเมื่อกี้นี้ฉันเผลอนั่งทับมันเพราะเซล้มตากหงายสะก่อน  พอเอาขนมออกมาซิสเตอร์ก็ออกมาเอาขนมพร้อมกับเชิญให้เด็กๆไปหลังโบสถ์ แล้วฉันก็เดินตามไป พอไปยังหลังโบสถ์ก็ไปสวนดอกไม้ขนาดย่อมไว้ให้สำหรับเด็กที่รักธรรมชาติและมีไว้ให้เด็กวิ่งเล่นกัน ภายในสวนถูกประดับไปด้วยสีสันหลากหลายของกระดาษที่เชื่อมโยงไปมา เมื่อมองไปรอบๆก็จะมาหยุดตรงโต๊ะที่มีที่นั่งสำหรับทุกคน ทั้งเด็กๆ ซิสเตอร์ แม้แต่ฉันก็มี ฉันไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงจัดสวนกันแบบนี้ อืม ถ้าจำไม่ผิดวันนี้เป็นวันเกิดของเด็กคนนั้นหนิ ฉันเดินไปหาซิสเตอร์เพื่ออยากรู้ว่าสิ่งที่ฉันคิดมันใช่หรือป่าว

                “ซิสเตอร์ค่ะ วันนี้เป็นวันเกิดของ เอซิส ใช่ไหมค่ะ”

                “จ๊ะ แล้วก็วันนี้เป็นวันเกิดของ มาเรน่า ด้วยจ้า”

                “หนูลืมไปเลยค่ะ จะเอาอะไรให้ทั้งสองคนดีนะ” ดันมาลืมวันเกิดเด็กๆจนได้เรา ฮือ~~ T^T

                “ไม่เป็นไรหนิจ๊ะ เดี๋ยวหนูก็แสดงอะไรให้ดูสิจ๊ะ”

                “อืม ค่ะ แล้ว เอซิส อยู่ไหนหรอค่ะ ทำไมเห็นแต่ มาเรน่า กับพวกเด็กๆเองหละค่ะ”ฉันมองไปรอบๆ เพราะตอนนี้มีเพียงเจ้าภาพวันเกิดแค่คนเดียว ที่จริงควรจะมี 2 คนเพราะวันนี้ถ้าฉันไม่ตรัสรู้ได้หละก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงจัดงานเลี้ยงกัน ฉันจึงมองหาเขา เอซิสหรือ

     เอซิส วิกเตอร์ เด็กชายผู้ที่ไม่ค่อยอยู่กับคนอื่นๆ ชอบหมกตัวอยู่คนเดียว เขามาอยู่ที่โบสถ์นี้ได้ ปีหนึ่งแล้ว ถ้าจำไม่ผิดตอนนี้เค้าอายุได้ 7 ปีถ้ารวมวันเกิดวันนี้ด้วย เขาชอบทำอะไรคนเดียวเสมอๆ เวลามีกิจกรรมแบบนี้ก็จะไปอยู่คนเดียว เขาต้องไปอยู่ที่นั้นแน่เลย ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

                “คงจะที่นั้นแน่เลย หนูขอไปหาตัวก่อนนะค่ะ” ฉันได้พูดบอกกับซิสเตอร์แล้วเดินไปด้านหน้าโบสถ์แล้วเดินอ้อมไปทางซ้ายของโบสถ์ ทางที่ฉันไปมันจะมีทางหนึ่งไว้ไปเก็บผลไม้ที่สวน เอซิสเป็นคนชอบวาดรูปเขาจะชอบไปวาดรูปที่สวนนั้น เมื่อเดินไปตามทางจะพบว่าในทางเดินนั้นมีกิ่ง ก้านไม้ยื่นออกมาจำนานมากทำให้ทางเดินนั้นเหมือนอุโมงค์ที่เชื่อมไปยังโลกใหม่ เมื่อเดินไปสุดทางก็โผล่อออกมายังสวนแอบเปิ้ล ในตอนนี้เป็นช่วงหน้าฝนจึงมีผลไม้ที่ชุ่มฉ่ำ และดูสดน่ากิน ฉันเดินไปเรื่อยๆเพราะไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่ ในสวนผลไม้นี้จะมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่ไม่มีผลไม้เลยแม้แต่ลูกเดียว มันเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในสวนผลไม้นี้และบางทีจะมีดอกไม้โผล่ออกมาให้เห็นเป็นบางครั้ง ซึ่งมันก็สังเกตุได้ง่ายมาก ฉันจึงเดินมุ่งตรงไปทางต้นไม้ใหญ่นั้น เมื่อไปถึงก็ได้เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั้งอยู่บนต้นไม้ เขานั่งท่าที่สามารถวาดรูปได้ พร้อมกับมองสิ่งรอบตัวแล้ววาดมันลงไปในกระดาษ ที่นี้สงบมากเขาจึงชอบมาที่นี้บ่อยๆ

                ดูเหมือนว่า เอซิสจะไม่ได้สังเกตเห็นฉันเลย ฉันจึงเดินอ้อมไปทางด้านตรงข้ามที่ฉันยืนอยู่ แล้วใช้คริสตัลเวทมนต์เสกลมออกมาเบาๆ เงียบๆ เพื่อไม่ให้เขาสังเกต เห็น และได้ยินฉัน เมื่อฉันเสกลมจนสามารถลอยขึ้นไปได้แล้ว ฉันก็ได้ลอยตัวขึ้นอีกเพื่อที่จะสูงเหนือเอซิส ดูเหมือนเขาจะไม่เห็นฉันจริงๆสะด้วย ฉันจึงได้ก้มหน้าลงแล้วตีลังกาไปข้างหน้า

                “จะเอ๋~~~~” ฉันก็ได้โผล่ไปยังหน้าของเขา

                “ว๊าก!!!!!!!!   โอ๊ย” แล้วเขาก็ตกใจเอนหลังหัวชนต้นไม้เลย 555+ ตลกจัง เมื่อฉันซึ่งยังข้างอยู่ในท่าครึ่งตีลังกาอยู่ ก็ตีลังกาอีกครั้งแล้วก็ทรงตัวยืนบนต้นไม้ได้แล้ว ^ ^ ปรบมือหน่อย (แปะ แปะ แปะ : คนแต่ง)

                “ทำไมไม่ไปงานวันเกิดตัวเองหละฮะ”เมื่อยืนได้สักพักฉันก็ได้ถามเจ้าตัว

                “ก็ฉันไม่ชอบพวกงานเลี้ยงแบบนั้นหนิ อีกอย่างที่นี้มันก็เงียบด้วย”

                “ฮิ ฮิ “

                “ขำอะไร มันน่าหัวเราะตรงไหน” ท่าทางของเด็กคนนี้มันทำให้ฉันมีความสุขอะนะ เขาเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นยากก็จริง แต่เขาก็อาจสามารถทำให้คนอื่นๆหัวเราะแบบฉันก็ได้ เอซิส ตอบฉันมาแบบนี้แสดงว่าเขาก็อยากไปร่วมงานวันเกิดด้วยแต่คงกลัวไปทำให้งานเสียเลยไม่อยากไปหละมั้ง

              “ปล่าวหรอก ฉันขอนั่งด้วยคนนะ ที่จริงฉันก็ไม่ชอบงานเลี้ยงเหมือนกัน แต่มันเป็นวันเกิดเราทั้งทีน่าจะทำอะไรก็ได้ให้ที่สุดนะ เพราะมันเป็นวันของเรา แล้วอีกอย่างยังมีคนอื่นๆให้ของขวัญด้วย ^O^” ฉันไม่รู้ว่าคำพูดของฉันนั้นทำให้เขาเข้าใจรึป่าวนะ เพียงแต่อยากบอกให้เขารู้เท่านั้นแหละ

                “ของขวัญหรอ ไม่มีหรอกของแบบนั้น”รู้สึกเหมือนฉันยิ่งพูดจะทำให้เขารู้สึกไม่ดีมากกว่าเดิมเลยอะ เอซิส หยิบเอาสมุดเสก็ตภาพที่วาดภาพค้างไว้ขึ้นมาวาดต่อ เขาวาดรูปได้สวยมาก ทั้งลวดลายของเส้นดินสอ ความคมชัดของภาพ การแรงเงาที่สวยงาม

                “นายวาดรูปสวยจังนะ”พอฉันพูดแบบนั้นเขาก็หยุดวาดรูป ฉันไม่รู้ว่าพูดอะไรไม่ดีใส่เขารึป่าว ฉันจึงมองไปที่หน้าของเขา แต่เขาหันหน้าไปอีกทาง พอสังเกตดีๆ เด็กคนนี้กำลังเขิลอยู่เพราะฉันสังเกตุที่หูได้ว่าหูของเขากำลังแดง ฮิ ฮิ น่ารักจัง

                “ไม่วาดต่อหรอ”ฉันแซวเอซิสไปงั้นๆ เขาก็ไม่หันมา ไม่ตอบอะไร พอสังเกตอีกที หูเขายังแดงอยู่เลย พอฉันจะพูดอะไรอีกทีก็เหมือนมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น ฉันได้ลองฟังเสียงสายลมจากต้นไม้ ฉันสัมผัสได้ถึงร่างของคนๆหนึ่ง ฉันจึงได้เอาคริสตัลธาตุลมออกมา

                “เอซิส นายอย่าพึ่งไปไหนนะ เดี๋ยวฉันมา” เอซิสหันมามองฉัน เหมือนกับไม่รู้ว่าอะไร

    ด้วยใจอันบริสุทธิ์ของข้า ข้าขอพลังแห่งสายลม จงส่งกระแสลมผ่านยังที่ที่ข้าได้ระบุเอาไว้ โปรดจนผัดศัตรูให้ออกไปจากรากเงาแห่งปีศาจ

                “วินด์คอมลิปดีเปรชั่น” จากนั้น ก็มีสายลมพัดออกไปอย่างแรง ด้วยคำวาจาเวทของฉัน

                “โอ๊ย” จากนั้นก็มีเสียงของคนๆหนึ่งดังออกมา เสียงนั้นทำให้ฉันรีบกระโดดจากต้นไม้ไปยังเสีย เพื่อต้องการรู้ว่าผู้บุกรุก คือใคร เมื่อลงมาจากต้นไม้ ฉันก็ใช้คริสตัลลมเรียกลมออกมาเพื่อจะได้เคลื่อนที่เร็วขึ้น พอไปยังที่ต้นเสียงก็เหมือนจะมีคนอยู่ตรงมุมต้นไม้ ฉันจึงเข้าไปหาเขา พร้อมท่องวาจาเวทพฤกษา

                “เดี๋ยว นี้ฉันเอง” เมื่อฉันกำลังจะแกว่งแขนเพื่อเรียกเถาวัลย์ออกมา เขาก็ตะโกนบอกกับฉันก่อน

                “ฟรีตส์ !!” ฉันตกใจมากเมื่อรู้ว่าเขาคือ ฟรีตส์ ทำไมตานี้จู่ๆก็มาอยู่ที่นี้ได้หละ

                “นายมาทำอะไรที่นี้”

                “น้าฟรานด้าให้ฉันเดินตามเธอมา” คุณฟรานด้าหรอให้ตามมา อืมคงให้มาติดตามละมั้ง - -

                “อย่างงั้นหรอกหรอ คิก คิก”

                “ก็ใช้หนะสิ เธอขำทำไม”

                “ปล่าวสักหน่อย คิก คิก “ โอ๊ยขำจัง 555+ ที่ฉันพูดออกไปนั้นคือคำโกหก ฉันขำเขามากทุกคนคงไม่รู้สินะว่าฉันขำอะไร ที่ฉันขำเพราะตานี้ทำตามที่คุณฟรานด้าบอกมาทุกอย่าง เหมือนลูกเชื่อฟังแม่เลย 555+ โอ๊ย จุกไปหมดเลย

                “นี้ แล้วเด็กคนนั้นเขาจะไม่เป็นไรหรอ ที่เธอทำแบบนั้นหนะ” เมื่อฟรีตส์พูดขึ้นก็ชี้ไปทางต้นไม้ใหญ่ ฉันก็มองตามที่เขาชี้ไป ก็พบว่า เอซิสกำลังเกาะอยู่ตรงก้านไม้ เพื่อที่จะไปเอาสมุดเสก็ตภาพ ฉันเห็นแบบนั้นก็ตกใจอยู่ จึงรีบใช้คริสตัลธาตุลมลอยขึ้นไปช่วย เอซิส

                “เอซิส มาทางนี้” เอซิสมองมาที่ฉัน แต่เขาไม่คิดที่จะยื่นมือมาทางฉันเลย

                “ไม่ฉันจะไปเอาสมุดเสก็ตภาพนั้น” เอซิสพยายามปีนไปเก็บสมุดตรงยอดก้านไม้ข้างล่าง ซึ่งก็ไม่ห่างมาก ถ้าฉันไปหยิบให้ก็ไม่ไกลหรอก

                “นายก็มาหาฉันก่อนสิ เดี๋ยวฉันไปเก็บให้”

                “ไม่ต้อง ฉันไม่อยากให้ใครแตะต้องของสำคัญของฉัน” หนอย บอกจะช่วยก็ไม่ให้ช่วย ยั่วโมโหกันดีนักใช่ไหม ก็ได้ ฉันไม่สนใจคำพูดของ เอซิส ฉันได้ลอยตรงไปยังยอดก้านไม้เพื่อจะไปเอาสมุดเสก็ตภาพ เมื่อจังหวะที่ใกล้จะถึงสมุดเสก็ตภาพ จู่ๆก็มีลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งผ่านหน้าของฉัน ดีที่ฉันหลบทันก่อน เพราะไม่งั้นฉันได้หน้าไหม้ดำเกรียมแน่ๆ แต่ลูกไฟนั้นไปชนกับต้นไม้อีกต้นหนึ่งทำให้ต้นไม้นั้นลุกเป็นไฟไป แล้วก็มีลูกไฟอีกลูกพุ่งมาทางฉัน ฉันที่กำลังเตรียมท่าที่จะหลบก็นึกได้ว่าถ้าไฟไปโดนต้นไม้อีก ต้นไม้ต้องลุกเป็นไฟแน่ๆ ฉันเลยรีบหยิบคริสตัลธาตุน้ำออกมาแล้วท่องวาจาเวท

                “สายน้ำที่ไหลเวียนอยู่ในกายของข้า จงออกมาชำระความชั่วร้ายให้หายไปด้วยเทิด” จากนั้นสายน้ำก็พุ่งออกมาจากคริสตัลแล้วพุ่งไปยังลูกไฟที่กำลังพุ่งตรงมาทางฉัน สายน้ำที่ออกมาจากคริสตัลได้ทำลายลูกไฟให้หายไปเป็นไอน้ำแล้วไฟที่ลุกอยู่บนต้นไม้ก็ดับไปกับสายน้ำที่พุ่งออกมาด้วย เมื่อลูกไฟหายไปฉันก็มองไปยังตำแหน่งที่มันพุ่งออกมา ก็พบว่ามันมาจากฟรีตส์ ฟรีตส์มองมาทางฉันแล้วฉีกยิ้มสะใจใส่ฉัน ฉันตกใจมากเขาไม่เคยฉีกยิ้มเลย จะให้พูดคือไม่เคยยิ้มเลยสักนิดเดียว - - แล้วเขาก็มีรังสีสีดำออกมาจากตัว ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร ฉันได้แต่ลอยอยู่กลางอากาศเพื่อเตรียมตัวกับความอันตรายที่กำลังมาเยือน

                “นายเป็นใครกันแน่ ฟรีตส์”

     

     

     

     

                ขอประทานโทษแก่ท่านผู้อ่านทั้งหลายนะค่ะพอดีว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร(ขี้เกียจ)เลยมาอัพช้าไปหน่อยเจ้าค่ะ แต่ก็แถมเรื่องราวไปอีกนิสนึง อยากรู้สะแล้วสิว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไงติดตามชมนะเจ้าค่ะ ถ้าเขียนผิด หรือไม่สนุกตรงไหนก็บอกได้นะค่ะ จะปรับปรุงในตอนต่อไปเจ้าค่ะ ^O^

              ฟาริโกะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×