คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จดหมายเชิญ
1
จดหมายเชิญ
"อย่างงงั้นหรอจ๊ะ แต่มันก็แหงสิจ๊ะก็หนูเป็นคนดูแลเด็กๆแทนเองหนิ" ซิสเตอร์พูดขึ้น
"ค่ะ ก็ถือสะว่า เป็นพี่เลี้ยงเด็กก็แล้วกันค่ะ"ฉันได้พูดขึ้นเมื่อเห็นว่ามันก็เป็นอย่างที่ซิสเตอร์พูด ฉันเป็นพี่เลี้ยงเด็กมาไม่นานนี้เอง คงจะประมาณเอ่อ -o- สัก สองไม่ก็สาม สัปดาห์ละมั้งดูแลเด็กจนลืมนับวันเวลาที่ดูแล’
“เอ่อ ใช่สิเมื่อกี่มีคนส่งจดหมายเวทมนต์มาให้จ๊ะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงส่งมาที่โบสถ์”ซิสเตอร์พูดพร้อมกับเอาซองจดหมายในกระเป๋ากระโปรงของซิสเตอร์ออกมาให้ฉันดู
“นี้หรอค่ะจดหมายที่ซิสเตอร์พูดถึง”ฉันพูดพร้อมกับถือจดหมายมาไว้ในมือแล้วมองมันอย่างส่งสัย
“จ๊ะ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาส่งที่โบสถ์ ถามเด็กๆก็บอกว่าไม่รู้ก็เลยลองเอามาให้หนูดู”ซิสเตอร์พร้อมกับทำหน้าตาแบบคนไม่มีทางเลือก
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี่ยวหนูให้ไมค์ดูก็ได้ค่ะ เพื่อเค้าอาจจะรู้ค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มให้ซิสเตอร์ แล้วเอาซองจดหมายใส่กระเป๋า
“จะดีหรอ มันไม่รบกวนหนูหรอจ๊ะ”ซิสเตอร์ถามแล้วทำหน้าอย่างส่งสาร
“ไม่ค่ะยังไงหนูก็ต้องไปหาเขาแล้ว” ฉันพูดพร้อมกับเดินออกมาจากโบสถ์ ถึงตรงหน้าประตูรั้ว
“หนูไปก่อนน่ะค่ะ”
“ไปดีมาดีน่ะจ๊ะ” ฉันยิ้มให้ซิสเตอร์พร้อมกับหันหลังเดินออกมาจากโบสถ์แล้วเดินตามทางไปยังสถานที่ต่อไป ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฉันทำงานพิเศษ นั้นก็คือ Cafe coffee cup นั่นเอง
“ขอโทษที่มาช้าค่ะพอดีมีธุระด่วนเลยมาช้า” ฉันเข้ามายังประตู(ทางด้านหลัง) ก็พบกับผู้ชายร่างสูง หัวสีน้ำตาลแดง ในตาสีเหลือง ใส่ชุดเด็กเสริฟ ที่กำลังทำหน้าโหดๆนั้นก็คือ
“อ้าว ไมค์ มาอยู่ตรงนี้ได้ไงอะ แล้วคุณอาร์ตหล่ะ o0o” ฉันพูดกับไมค์ แบบไม่รู้ไม่ชี้ คือฉันรู้ว่าเค้าต้องโกรธแน่ๆ -_-
“ฉันมายืนตรงนี้ตั้งแต่ที่เธอแอบเดินย่องมาทางด้านหลังแล้ว ยัยเปี๊ยก”ไมค์ได้กำมือยกมาเหนือหัวฉัน ฉันคิดว่าเข้าคงต้องทำอย่างนั้นกับฉันแน่ๆ
โป๊ก….
“โอ๊ย เจ็บนะตาบ้าเขกหัวฉันทำไมเนี้ย L” ว่าแล้วเค้าต้องเขกหัวฉันจริงๆ โอ๊ยเจ็บชะมัด ฮึม! ไว้ถ้าฉันสูงกว่าละก็จะเขกกลับเลย
“สำหรับที่เธอมาช้า ปล่อยให้ฉันอยู่ที่นี้คนเดียวดีนะที่ยังไม่ทันเปิดร้านนะ แล้วอาร์ตเขาก็อยู่ข้างในห้องครัว”ไมค์พูดพร้อมกับหันหลังเดินเข้าไปในร้าน ฉันไม่ค่อยอยากพูดอะไรในเมื่อฉันรู้แล้วว่าคุณอาร์ตอยู่ไหนฉันเลยเดินตามไมค์เข้าไปข้างใน อ๋อ ฉันลืมแนะนำตัวเขาไปเลย ไมค์ ไมเออเร็ต ซึ่งเข้าก็คือเพื่อนสมัยเด็กเพียงคนเดียวของฉัน พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เดที่ฉันมาอยู่ที่โบสถ์โดยซิสเตอร์ ซึ่งก็ได้ออกจากโบสถ์ เมื่อคุณ อาร์ต วีสันท์ มารับฉันไปอยู่ด้วยซึ่งเขาก็เป็นเจ้าของกิจการร้านคาเฟ่หรือร้านกาแฟนั้นเอง ด้วยที่ฉันเป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่ในโบสถ์เป็นเวลานาน ทำให้ฉันไม่ค่อยจะยอมรับความเป็นจริงเท่าไร เพราะ ฉันยังละลึก ขอให้ได้พบกับครอบครัวที่แท้จริงซึ่งฉันจะต้องค้นหาให้เจอ
“โอ๊ย นี้จะหยุดก็บอกกันบ้างสิ >_<”เมื่อฉันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก็ชนหลังของไมค์อย่างเต็มจั้มเบ้าเลย ซึ่งฉันไม่รู้ว่าเค้าหยุดเดินตอนไหน หรือไม่ ฉันอาจจะเดินชนเขาเอง เมื่อฉันมองไปหาไมค์ เขาก็หันหน้าไปยังประตูที่ออกไปเสริฟ์บอาหาร แล้วฉันก็กวาดสายตาตามไมค์ไปยังที่เขามองก็พบว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงมุมโต๊ะ VIP อยู่ ‘เอ๋ ยังไม่ทันเปิดร้านเลยหนิทำไมถึงมีคนมานั่งอยู่นะ’ แล้วที่นั่งตรงข้ามก็มีคนนั่งอยู่ซึ่งเป็นชายรูปงามผมสีน้ำตาลทองยาว ซึ่งนั้นก็คือคุณอาร์ต แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนพิเศษ เพราะคนที่สามารถเข้าคุยกับคุณอาร์ตเป็นการส่วนตัวได้ก็คือ ลูกค้า VIP นั้นเอง
“นางมาแล้ว”ไมค์พูดขึ้น แล้วเสียงมันก็ไปถึงหูคุณอาร์ตจนได้ เหมือนคุณอาร์ตจะทำหน้าดุด้วยอะ น่ากลัวจุง(เบย)[จังเลย] ไม่รู้ว่าคุณอาร์ตทำไมถึงมีประสาทสัมผัสการฟังเสียงกระซิบ หรือเสียงพูดคุยกันดี๊ดี (ไม่ได้ด่านะ)เมื่อคุณอาร์ตได้ยินท่านก็เรียกให้เราสองคนเดินไปหา โดยการควักมือเรียกเหมือนแมวกวักเรียกหาลูกค้าเข้าร้าน
“มีอะไรหรอค่ะ คุณอะ อาร์ต”ฉันได้พูดขึ้นแบบติดๆ ขัดๆ และตกใจ เมื่อเดินไปถึงโต๊ะ แล้วก็พบว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก เธอมีผมสีบรอร์นทอง ดวงตาสีฟ้าเหมือนท้องทะเล ริมฝีปากชมพูน่ามอง เธอแต่งชุดกระโปรงยาวพร้อมใสหมวกใบใหญ่ใบหนึ่ง ซึ่งเธอกำลังใส่ชุดเหมือนจะไปทะเลยังไงไม่รู้ -_- แต่ฉันขอบอกว่าเธอสวยมากทีเดียว “แล้วตกลงมีอะไรหรอค่ะ ที่เรียกหนูมา”
“ฉันกำลังคุยถึงเรื่องของเธออยู่พอดี”0_0 เอ๋ คุยถึงเรื่องของฉันหรอ ไม่ใช่ไมค์หรอ “ขอแนะนำนะเบลล่า นี้คือ คริสตัล ทิฟฟินี่ ลูกบุญธรรมของฉัน และ นี้คือ คุณเบลล่า โรซีเนียล เป็นนางแบบชื่อดัง และ เป็นดีไซน์เนอของอาณาจักรแปรผันที่เมืองหลวงเอง และเธอก็เป็นเพื่อนฉันด้วย
“เอ๋ คุณอาร์ตมีเพื่อนด้วยหรอค่ะ o0o” ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณอาร์ตมีเพื่อนเป็นผู้หญิงสวยขนาดนี้มาก่อนเลยแถมยังเป็นนางแบบด้วย ฉันยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่เลย
“ใช่ฉันมีเพื่อน หา นี้หรือว่าหนูเห็นฉันเหมือนไม่มีความสัมพันธ์ อย่างเพื่อนหนะ” คุณอาร์ตพูดค้อนใส่
“แหม่มันก็คงใช่ที่เด็กคนนี้พูดนะ ตอนนายเรียนอยู่ที่โรงเรียนแถบไม่มีเพื่อนเลยหนิ ฮิฮิ J”คุณเบลล่าได้พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเสียงของเธอช่างเพราะจนอยากฟังอีกหลายๆรอบเลยนะเนี่ย แถมคุณอาร์ตรู้สึกเหมือนว่าจะเขินอยู่ เพราะเห็นเหมือนกำลังหน้าแดงอยู่ ฮิฮิ ที่แท้ก็อย่างงี้นี้เอง ทุกคนคงจะคิดเหมือนฉันนะค่ะ
“เอ่อ แล้วคุณเบลล่ากับคุณอาร์ตคุยเรื่องของหนูหมายความว่ายังไงค่ะ มันเกี่ยวกับเรื่องอะไรหรอค่ะ ช่วยเล่าให้หนูฟังทีสิค่ะ 0o0”ฉันถามทั้งสองอย่างตั้งใจ ก็คนมันอยากรู้หนิว่าพวกเขาคุยเรื่องฉันเรื่องอะไร
“คือว่า เอ่อ พอดีพวกเราอยากให้ไมค์ไปอยู่ที่อาณาจักอื่นกับเบลล่า เพราะพวกเขาเป็นญาติกันหนะ เบลล่าก็เลยอยากให้ไปอยู่ด้วย เพราะที่บ้านเขามีเพียงสองคนหนะ”
“หรอค่ะ แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับหนูตรงไหนหรอค่ะ หนูว่ามันน่าจะเกี่ยวกับไมค์มากกว่านะค่ะ
-_-” นั้นสิที่คุณอาร์ตพูดมานั้นไม่มีฉันเลยสักนิดมีแต่ไมค์เองอะ คุณอาร์ตใจดำที่สุด
“เธอมองหน้าฉันแบบนั้นหมายความว่ายังไงเนี้ย” ฉันทำหน้าค้อนใส่ไมค์โทษฐานที่มาแย้งซีนฉัน เชอะ ไมค์บ้า
“เกี่ยวสิ หนูได้รับจดหมายบางอย่างรึปล่าวหล่ะ”
“เอ่อ ค่ะ พอดีซิสเตอร์ให้มานะค่ะ ใช่ฉบับนี้รึปล่าวค่ะ” ฉันพูดพร้อมพางเอามือหยิบจดหมายออกมาจากกระเป๋าให้คุณอาร์ตกับคุณเบลล่าเห็น พร้อมทั้งไมค์ด้วย
“ถูกต้องแล้วจ๊ะ จดหมายนั้นที่จริงมันคือของรัฐที่ได้หมอบให้กับเด็กๆที่ในตอนนี้ที่กำลังเข้าสู่ อายุ 16 ปี หนูอายุ 16 ปี รึยังจ๊ะ”คุณเบลล่าพูด
“ค่ะ แล้วทำไมไมค์ไม่เห็นได้รับหละค่ะ”ฉันเริ่มพูดค้อนๆใส่อีกทีเมื่อเรื่องมันชักจะยังไงยังไงแล้วสิ
-_-
“ก็ไมค์เขาต้องไปอยู่กับเบลล่าที่อาณาจักรอื่น แล้วทางสถาบันการศึกษาของแต่ละอาณาจักรจะรับเฉพาะคนที่อยู่ในอาณาจักรของแต่ละเขตเท่านั้น ซึ่งไมค์ก็ถูกย้ายไปอยู่อาณาจักรนั้นแล้ว จดหมายก็คงส่งไปที่บ้านของเบลล่าหนะ เพราะฉะนั้นไมค์จึงไม่ได้รับ”
หา!!! (0_0) ไม่จริงเขาย้ายไปตอนไหนกัน ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย ฉันหันหน้าไปหาไมค์ทั้งที่ฉันยังทำหน้าตกใจอยู่
“จริงๆ หรอ แล้วจะไปเมื่อไหร่หละ”ฉันบอกไมค์ไป แล้วเค้าก็เอามือมาขยี้หัวฉันเหมือนฉันเป็นเด็กอยู่ เค้าก็ยิ้มบางๆ เหมือนบอกว่าใช่
“อืม ที่จริงฉันก็จะไปหลังจากที่บอกเธอไปแล้วหนะ ฉันคงต้องไปจากเธอแล้วหละ”
“ไม่นะไม่ ถ้าไมค์ไปแล้วฉันจะมีเพื่อนไว้คุยด้วย ทะเลาะด้วย แล้วยังจะ..”
“ยัยบ้า ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ได้เจอกันสักหน่อย แล้วถ้าเธออ่านจดหมายนั้นแล้วไปอยู่โรงเรียนนั้นเธอก็จะได้มีเพื่อนเยอะๆ แล้วจะได้ไม่ต้องพึ่งฉันแค่คนเดียวไง”
“นี้หรือว่านาย ขอร้องให้คุณอาร์ตให้ฉันเข้าเรียนที่นั้นเพื่อให้ฉันมีเพื่อนหนะหรอ”
“ก็คง ใช่หละมั้ง ฉันทำเพื่อเธอนะและฉันก็แค่ถูกขอร้องให้ย้ายไปอยู่กับเขาเท่านั้นหนะ”
“งั้น แล้วทำไมไม่พาฉันไปด้วยหละ” อยู่ไมค์ก็เอามือของเขาเชยคางฉันขึ้น
“ที่นั้นมันคือสถานที่ที่ฉันได้เคยอยู่อาศัยมาก่อน ถ้าเธอไปด้วยเขาจะหาว่าเธอเป็นคนแปลกถิ่นแล้วเธอก็อยากจะตามหาครอบครัวที่แท้จริงของเธอไม่ใช่หรอ ที่นั้นอาจมีข้อมูลให้ค้นหาครอบครัวเธอเยอะเลยนะ แล้วเธอก็จะได้มีเพื่อนเพิ่มไงหละ”ในตอนนี้ใจของฉันได้พองโตขึ้นเมื่อเขาได้พูดให้ฉันฟัง ไมค์ไม่เคยพูดจาอ่อนโยนแบบนี้มาก่อน มันทำให้ฉันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
“มะ ไมค์ ฮึก ฮือ ตาบ้า ไมค์บ้าที่สุด ฮือ เราอยู่ด้วยกันมา ฮึก ฮึก ตั้งนานทำไม ถึงพึ่งจะจากไปเล่า ฮือ”อยู่ๆน้ำตาของฉันก็ได้ไหลออกมา แล้วก็ร้องไห้ จนจะพูดไม่เป็นคำ แล้วไมค์ก็เอามือปาดน้ำตาฉัน แล้วคุณอาร์ตและคุณเบลล่า ก็เดินจากโต๊ะ มาโอบกอดฉัน เหมือนจะปลอบฉันให้สงบลง
“ขอโทษที่พึ่งมาบอกวันนี้นะจ๊ะ ฉันไม่รู้ว่าหนูจะผูกพันกับเขาแบบนี้”คุณเบลล่าได้พูดขึ้นอย่างเศร้า
“ฉันก็ขอโทษด้วยนะที่ฉันไม่ได้บอกหนูหนะ ขอโทษนะ”แล้วคุณอาร์ตก็พูดปลอบโยนฉัน
“เอาหละ ถ้าอย่างงั้นเรามาช่วยกันเปิดร้านให้เสร็จแล้วค่อยอำลากันเธอจะตกลงไหม”ไมค์ได้พูดเชิงถาม
“ฮึก ฮึก อื้ม นั้นสินะเรายังไม่ได้เปิดร้านเลยหนิ”ฉันก็ตอบด้วยเสียงร้องไห้ครั้งสุดท้าย นั้นสินะไมค์เข้าใจฉันทุกอย่างที่ไมค์บอกให้รีบเปิดร้านก็คงอยากให้ฉันนั้นสงบสติอารมณ์ก่อน แล้วฉันก็รีบไปเตรียมร้าน พร้อมทั้งไมคื คุณอาร์ต และคุณเบลล่าก็มาช่วยอีกแรงด้วย แล้วเราก็เริ่มเปิดร้าน แล้วลูกค้าก็เริ่มเข้ามาในร้านมากขึ้น จนตอนนี้ลูกค้าเต็มร้าน
“ยินดีต้อนรับ ค่ะ/ครับ” พวกเราได้พูดต้อนรับกับลูกค้าทุกคนที่กำลังเข้ามาในร้าน
“ขอบคุณมาก ค่ะ/ครับ”และพวกเราก็บอกขอบคุณเมื่อลูกค้าออกจากร้านเราทำงานจนเวลาลูกค้าหมดลง แล้วเวลาแห่งการลาจากก็มาถึง
18.35 PM
“เฮ่อ งานเสร็จสักทีเหนื่อยฉะมัด เธอว่างั้นไหมคริส”ไมค์ได้พูดอย่างสบดเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน
“อะ อื้ม เหนื่อยจังเลยเนาะ”ที่เขาพูดอย่างงี้คงไม่ใช่ว่าลืมไปแล้วว่าตั้งแต่คืนนี้ไปเขาจะต้องไปแล้ว
“นี้ หรือว่าเธอยังค้างคาเรื่องที่ฉันต้องไปอีก”อยู่ๆไมค์ก็โผล่หน้าเข้ามาใกล้ฉัน 0///0ฉันรีบเด้งตัวออกมาจากเขา ทันทีเมื่อรู้ว่าหน้าของเราทั้งคู่ใกล้กันเพียงคืบเดียว แล้วตอนนี้ฉันคงเดาได้ว่าหน้าฉันแดงแน้ๆ นี้ถ้าฉันไม่เห็นเค้าเป็นเพื่อนละก็ฉันคงเขินจนตบเขาก็ได้นะเนี้ย
“นี้ทำไมเธอถึงหน้าแดงหละหรือเครียดเพราะฉันจนเป็นไข้เลยหรอ”นั้นไงอยู่ๆไมค์ก็เอาหน้าเข้ามาทาบกับหน้าผากฉัน พวกเราได้สบตากันจนในตอนนี้มันทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูกและฉันก็รู้ว่าหน้าฉันยิ่งแดงขึ้นไปอีก ยัยคริสตัลใจเย็นเข้าไว้ นั้นไมค์นะ เขาเป็นเพื่อนเรา อย่าคิดลึกอย่าคิดเลยเถิด ฮู่ อย่าคิดลึก เค้าแค่วัดไข้เรา ฉันรีบสบดคำพูดและความคิดในหัว ที่ตอนนี้กำลังคิดเลยเถิดไปไกล นู่นนนน แล้ว
“ปะ ปล่าวสักหน่อย ฉันก็แค่ร้อนเท่านั้นเองหน้าฉันก็เลยแดง”หวังว่าเค้าคงไม่รู้ความคิดฉันนะ
“ใช่ว่าเธอกำลังนึกอะไรเกี่ยวกับฉันทาง อื่นหรอกนะ”นั้นไงรู้ทันความคิดชาวบ้านเค้าไปทั่ว -_-*
“นายคิดว่าฉันโรคจิตนึกเรื่องนายทางอื่นนอกจากเพื่อนงั้นหรอยะ”ตนผิดยังไปว่าเขาอีก เอาเข้าไปยัยคริสตัลเธอกำลังจะบ้าเพราะเพื่อนอยู่
“หรอ นั้นสิ ฉันเป็นเพื่อนเธอหนิ เธอคงไม่คิดอะไรตื้นๆกับฉันหรอก”ไมค์เริ่มพูดเบาลงๆจนตอนนี้ทั้งห้องได้เงียบไป ไม่รู้เพราะอะไรมันทำให้ฉันอยากเห็นเขายิ้ม ฉันจึงเดินไปหาเขาแล้วมองหน้าเขา
“ถึงนายจะไปจากฉัน แต่ฉันก็ไม่มีวันลืมนายได้หรอก เพราะนายคือคนสำคัญของฉันนะ” แล้วฉันก็ประคองใบหน้าเขาให้มองฉันไมค์ทำหน้าตกใจนิดหน่อยก่อนที่จะทำหน้ายิ้มเล็กน้อยเหมือนกับดีใจอยู่
“ฮึ หึ หะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เธอเนี้ยชอบพูดอะไรให้ฉันอึ้งตลอดเลยนะ”
“ก็มันช่วยไม่ได้หนิ ก็นายชอบอยากทำหน้าเศร้าเองหนิ ฮ่า ฮ่า นายนี้มันขีแย”
“ใครกันแน่ที่ขี้แยหนะ มานี้เดี๋ยวนี้นะมาให้จับซะดีๆ”แล้วไมค์ก็วิ่งตรงเข้ามาหาฉันแต่ฉันก็วิ่งเช่งออกจากตรงนั้น
“ใครจะยอมให้จับง่ายๆเล่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”พวกเราวิ่งรอบโต๊ะไม่รู้กี่ครั้ง แล้วพวกเราก็หัวเราะด้วยกัน เหมือนกับย้อนไปในสมัยที่เรายังเป็นเด็กๆ
“ไมค์จะน้าเอาของมาแล้วนะ มาช่วยน้าขนของหน่อยสิจ๊ะ”คุณเบลล่าได้ตะโกนบอกไมค์ จนตอนนี้บรรยากาศก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“งั้นฉันไปช่วย คุณนายเบลล่าขนของก่อนนะ”
“ถ้าพูดว่าช่วย ก็ต้องช่วยจริงๆนะ อย่าขี้เกียจหละ”
“รู้แล้วนะ ยัยบ้า ฉันไม่ได้เป็นคนขี้เกียจสักหน่อย”แล้วไมค์ก็เดินออกจากห้องไปไม่น่าเชื่อว่าเค้าจะไป ในตอนเด็กนั้นฉันเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าฉันเกิดมาได้ไง และไม่รู้ว่าอยู่ที่อาณาจักรแปรพันธ์โซลพิเศษได้ไง มารู้ตัวอีกทีก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งฉันไม่รู้จักแล้วเขาก็พาฉันมาหาคุณอาร์ต แล้วผู้ชายคนนั้นเขาก็เดินออกไปจากร้าน ซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเดินมากับผู้ชายคนนั้นได้ยังไง เมื่อฉันพบกับคุณอาร์ตแล้วฉันก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเค้าก็คือ ไมค์ นั้นเอง ในตอนนี้ฉันยังไม่สามารถนึกเรื่องอดีตได้ มีเพียงเรื่องเดียวที่ฉันจำได้รางๆ ว่าฉันมาอยู่ที่นี้ได้เท่านั้นและที่รู้ๆคือไมค์คือเพื่อนคนแรกที่สำคัญกับฉันมากและผู้ชายคนนั้นก็เป็นคนที่ฉันอยากเจอด้วยแต่ทำไมฉันถึงจำหน้าเขาไม่ได้นะ เมื่อฉันนึกไปนึกมาก็เริ่มปวดหัว แล้วฉันก็นั่งลงบนเก้าอี้พอฉันนั่งปุ๊บ ซองจดหมายในกระเป๋าฉันก็หลุดออกมาจากกระเป๋าแล้วตกลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงโลก แล้วทำไมฉันไปบรรยายสะยาวแล้วมันถึงได้กลายเป็นการอธิบายในวิทยาศาสตร์ได้ละเนี่ย แต่ช่างมันเถอะเดี๋ยวมันยาวกว่าเดิม -_- ฉันได้หยิบซองกระดาษจดหมายขึ้นมาดูก็พบว่าจากหน้าซองปล่าวกลายเป็นตัวหนังสือท่เขียนชื่อของฉันอยู่ แล้วฉันก็ตกใจอยู่นิดหน่อย แล้วก็ค่อยๆแกะซองดูพบว่ามีกระดาษอยู่ในนี้ 1 แผ่น ฉันก็ได้หยิบออกมาดู
“ฮะ ไม่จริงหนะ เป็นไปไม่ได้หรอก มันต้องโกหกแน่ๆเลย”ฉันตกใจจนพูดออกมาเมื่อพบว่าซองจดหมายนี้เขียนถึงเรื่องของฉันอยู่
ขอโทษทีนะค่ะที่ไม่ได้อัพตอนเพิ่ม พอดีงานยุ๊งยุ้งค่ะ ก็เลยได้แต่งให้ยาวเพิ่มมาอีกหน่อยเพื่อชดเชยที่อัพช้านะค่ะ ก็ขอให้อ่าสนุกนะค่ะ กับตอนต่อไป แล้วอย่าลืมคอมเมนท์ด้วยนะค่ะ
ความคิดเห็น