คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : (SF) BACK AGIAN :: LUMIN :: [100%]
BACK AGIAN
-LUMIN-
Write by : AHLS.
--
While I powder my nose,
He will powder his gums,
And if I try to get close,
He is already gone,
Don't know where he's going,
I don't know where he's been.
But he is restless at night,
Cause he has horrible dreams.
--
สี่ปีก่อน
ผมตกหลุมรักผู้ชายคนนึง มันเป็นการตกหลุมรักที่รุนแรง ความรู้สึกพัดโหมกระหน่ำเหมือนยืนอยู่กลางพายุทอร์นาโด มันกวาดทุกสิ่งทำลายทุกอย่าง กำแพงที่ผมเคยสร้างไว้สูงเฉียดฟ้าโดนมันทำลายลงภายในหนึ่งจุดเจ็ดหัาวินาที
มันเป็นรักแรกพบ
ผมเจอเขาครั้งแรกที่บ้านของพ่อผม(ปกติผมอยู่หอพักที่ใกล้มหาวิทยาลัยมากกว่า) ตอนนั้นเพื่อนของผมหาเรื่องจัดปาร์ตี้ไร้แก่นสารขึ้นมา ความจริงแล้วมันก็แค่อยากหาที่เมาหัวทิ่มแบบไม่ต้องเกรงใจใครก็แค่นั้น และแน่นอน ก่อนที่ผมจะเมาหัวทิ่มแบบไร้สภาพ ผมดื่มเบียร์ไปแก้วครึ่ง (สถิติสูงสุดคือ2แก้วแล้วกลายเป็นไอไก่อ่อนขาเป๋ ฉายาที่เพื่อนผมตั้งให้) ผมก็ได้เจอกับมินซอก ความรู้สึกนั้นพุ่งเข้ามาแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัว หัวใจของผมเต้นแรงเกินไป..
ไม่รู้ผมไปเอาความกล้ามาจากไหน คงเป็นเพราะเบียร์แก้วครึ่งที่ผมดื่มเข้าไป มันทำให้ผมเดินขาไขว้เป๋ไปเป๋มาไปทักทายมินซอก
"นายเช่ออารายเหรอ"
มินซอก มินซอก มินซอก
ความทรงจำสุดท้ายของผมในตอนนั้นคือ ผมทวนชื่อเขาสามรอบก่อนจะสลบเหมือบไป
โอเค ยอมรับก็ได้ผมคือไอไก่อ่อน
ผมตื่นมาตอนเช้าพร้อมกับสภาพทุเรศ
นอนอยู่บนโซฟา มีอ้วกเปื้อนเสื้อเป็นวงกว้างที่ไม่รู้ว่าเป็นอ้วกของผมหรือของใครกลิ่นมันลอยมาปะทะจมูกผมเต็มๆ ผมมองหาเขาไปทั่ว แต่ผมก็ไม่เจอเขาแล้ว...
สิ่งที่ผมจำได้ตอนที่ตื่นขึ้นมามีสามอย่าง
1ใบหน้าของมินซอก
2ผมตกหลุมรักผู้ชาย
3โอ้พระเยซูคริส
------
ผมเจอเขาอีกครั้งถัดมาสองอาทิตย์
มินซอกกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ในคาเฟ่เล็กๆใกล้กับมหาวิทยาลัย ทันทีที่เห็นเขาหัวใจของผมก็เต้นระรัวเหมือนกลองชุดอัตราความเร็วอาจจะมากกว่าครั้งแรกที่เจอกัน ก่อนที่การกระทำของผมมันจะไปก่อนสติ...
ผมพาร่างตัวเองมานั่งโต๊ะเดียวกับมินซอกพร้อมกับร้อยยิ้มโง่ๆ โดยที่ไม่มีคำทักทายอะไรหลุดออกมาจากปากผมแม้แต่คำเดียว มินซอกนั่งมองผมประมาณเสี้ยววิก่อนจะยิ้มออกมา
"ฉันจำนายได้ ! วันนั้นที่ปาร์ตี้บ้านใครสักคน - นายท่องชื่อฉันสามครั้งก่อนจะสลบไป" เขาพูดไปหัวเราะไป
โอเค ผมอายมาก อายยิ่งกว่าโดนอี้ฟานล้อเรื่องที่ผมใส่กางเกงในลายสไปเดอร์แมนตอนมัธยมสามซะอีก ให้ตายเหอะ
ผมกระแอม
"เอ่อคือ ฉันชื่อลู่หาน ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะ...มินซอก"
"โอ้ ลู่หาน ลู่หาน ลู่หาน" เขาล้อผมก่อนจะยื่นมือมาให้ผมจับ "ยินดีอย่างยิ่ง"
-------
ผมกลายเป็นเพื่อนสนิทของมินซอก
แต่ ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขามันทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากวันนั้นเราก็เจอกันบ่อยขึ้น แต่มันไม่ใช่เพราะความบังเอิญอะไรหรอก ผมไปดักรอเขาเอง ผมรู้ว่าเขาชอบมานั่งที่คาเฟ่นั่นบ่อยๆ จนเราเริ่มตัวติดกันไปไหนมาไหนด้วยกันมากขึ้น ผมไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองนะ แต่ผมคิดว่ามินซอกก็ติดผมเหมือนกันเชื่อสิ..
เวลาผ่านไปปีครึ่ง
โอกาสในการขยับความสัมพันธ์ = 0
ก็ลู่หานมันคนป๊อด
เป็นเพื่อนสนิทกันมาปีครึ่งสิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับตัวมินซอกคือ
มินซอกเรียนคณะบัญชีปีสาม ส่วนผมมนุษย์ศาสตร์ปีเดียวกัน มินซอกชอบกินกาแฟและชอบวรรณกรรมแปลเป็นชีวิตจิตใจ มินซอกไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะเป็นคนเก็บตัว มินซอกไม่ชอบเข้าสังคมหรือกิจกรรมสังสรรค์เท่าไหร่นัก แต่ที่ไปปาร์ตี้ที่บ้านผมเพราะโดนเพื่อนลากไปเปิดหูเปิดตา (ผมจะคิดว่ามันเป็นเดสตินี่)-
-มินซอกไม่พกโทรศัพท์มือถือ เขามักจะใช้โทรศัพท์ตู้หยอดเหรียญ โดยที่เขาให้เหตุผลว่า
'ไม่ชอบให้ในกระเป๋ามีเศษตังค์เยอะเกินไป'
มินซอกไม่ชอบกินข้าว มินซอกชอบกินขนมขบเคี้ยวทุกชนิด
มินซอกบอกผมตอนที่เรานั่งเบียดกันบนม้านั่ง มองรูปวาดสีน้ำมันแปลกประหลาดในงานนิทรรศการของมหาวิทยาลัยจนเวียนหัว ในวันที่ลมหนาวในฤดูหนาวรุนแรงจนไม่อยากขยับตัว “ว่าเขาชอบดวงตาของผม” ทำเอาผมเขินไปห้าวัน(หน้าแดงทุกครั้งที่เจอหน้าติดกันห้าวันจนมินซอกคิดว่าผมไม่สบาย)
นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมขยับความคืบหน้าทางความสัมพันธ์ของเราเป็น = 5เปอร์เซนต์
- มินซอกบอกผมครั้งนึงตอนที่มานอนค้างห้องผมว่าไม่เขาเคยมีแฟนมาก่อน ไม่รู้ว่าความรักเป็นอย่างไร ไม่เคยมีเกิดความรู้สึกทางเพศกับใครแม้แต่ผู้หญิงสักคน (เคยไปหาหมอมาแล้วแต่ตรวจไม่พบความผิดปกติทางกายภาพใดๆ)
ผมจะไม่พูดถึงความรู้สึกในตอนนั้น เอาเป็นว่าผมลบไอ5เปอร์เซนต์นั่นออกไปเหลือแต่ค่าติดลบอินฟินีตี้
--
จนกระทั่งคืนหนึ่งผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตูห้องดังสนั่น ผมเดินหัวเสียไปเปิดประตูแล้วพบว่านั่นคือมินซอกในชุดสูทที่ดูแปลกตาไป เขาพุ่งตัวเข้ามาในห้องผมนั่งชันเข่าบนโซฟาท่าทางเหมือนเด็กมีปัญหา ผมนั่งลงข้างๆพร้อมนมอุ่น เขารับมันไปถือไว้เฉยๆแล้วนั่งจ้องมันอยู่อย่างนั้น
"ลู่หาน ฉันว่าฉันกำลังมีความรัก"มินซอกพูดโพล่งขึ้นมา
"ห้ะ...กับใคร?"
"ผู้หญิงอายุยี่สิบเจ็ดปีฉันเจอเธอวันนี้ที่งานวันเกิดของปู่ฉัน เธอสีไวโอลินได้ด้วยหล่ะ เธอน่ะน่าทึ่งสุดๆไปเลย เราคุยกันนานมาก นานจนลืมเวลา คุยถูกคอกันสุดๆ เหมือนฉันถูกแรงดึงดูดอะไรซักอย่างดูดฉันเข้าไปหาเธอ ใจของฉันเต้นแรงมากแรงจนจะทะลุออกมาตอนที่ได้เบอร์โทรศัพท์เธอ ความรู้สึกของฉันมันจริงมาก ลู่หาน ฉันกำลังมีความรัก! ...อ้อ เธอชื่อ มินล่ะ"
"...อ่า ยินดีด้วย มินซอกไงก็มายืมโทรศัพท์ฉันได้นะ" ผมพูดประโยคโง่ๆแล้วยิ้มฝืดออกไป
"จริงๆแล้วฉันจะมาบอกนายเรื่องนี้แหละ จะขอยืมโทรศัพท์นายหน่อย บางทีฉันน่าจะซื้อมาใช้บ้างแล้วล่ะ เอ้อ ขอโทษนะที่มาหาดึกซะขนาดนี้ งั้นฉันขอนอนที่นี่เลยแล้วกัน ราตรีสวัสดิ์"
ผมมองตามมินซอกเดินโงนเงนไปนอนบนเตียง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วลุกไปชงกาแฟ ความรู้สึกหน่วงในใจยังคงไม่สามารถขจัดมันออกไปได้ ผมเดินถือแก้วกาแฟไปนั่งลงตรงข้างเตียง
เหม่อมองใบหน้าของมินซอก
-----
หลังจากคืนนั้นผมก็เจอกับมินซอกน้อยลง
ทุกวันพอเลิกเรียนมินซอกก็ตรงไปร้านที่มินเล่นไวโอลินอยู่เป็นประจำ วันไหนเลิกเร็วหรือไม่มีโปรเจคมินซอกก็จะไปนั่งรอจนร้านเปิด (มินซอกซื้อโทรศัพท์แล้วเมมชื่อผมเป็นชื่อแรกส่วนมินเป็นชื่อที่สอง ผมชนะล่ะ..)
จากที่เคยเจอกันเกือบทุกวัน ตอนนี้เดือนนึงสี่ครั้งยังถือว่าเยอะเลย ผมเคยตามมินซอกไปที่ร้านนั่นครั้งสองครั้ง หลังจากที่ทนความคิดถึงไม่ไหว แต่พอไปด้วยแล้ว ผมก็ทนสายตาหวานเยิ้มที่มินซอกมองมินไม่ไหวเช่นกัน
มินเป็นผู้หญิงที่มีสเน่ห์ตัวเล็กน่ารัก มักจะมีรอยยิ้มแต้มบนใบหน้าเสมอ คนรอบข้างรักเธอ ซึ่งมาเทียบกับผู้ชายแห้งๆคนนึงอย่างผมไม่ได้เลย มันคนละชั้นกัน...
โอเคผมยอมแพ้ ยอมแพ้เลย
ผมมันทั้งป๊อดทั้งขี้แพ้ทั้งไม่มีสเน่ห์ทั้งอกหักเลย
-----
มินซอกชวนผมไปงานปาร์ตี้ที่บ้านของมิน
ผมใส่กางเกงรัดรูปสีเขียวขี้ม้ากับเสื้อหนังที่คิดว่าเท่ที่สุดไป ผมคิดว่าผมต้องจ๊าบที่สุดในงานแน่ๆ ถึงแม้มินซอกจะบ่นเรื่องสีกางเกงของผมมาตลอดทางก็เถอะ แต่ผมไม่แคร์อะไรแล้วล่ะ
มินซอกบอกกับผมว่าจะบอกความในใจกับมินคืนนี้ มันทำให้ผมสัญญากับตัวเองว่าจะเมาให้ปลิ้นไปเลยคืนนี้.
เรามาถึงบ้านของมินประมาณทุ่มเศษ ปาร์ตี้เริ่มแล้วแต่คนในงานยังไม่เยอะเท่าไร่ ผมไม่รู้จักกับใครซักคน ผมมองหามุมที่ตัวเองจะสามารถเมาได้อย่างสบายใจที่สุดก่อนจะพุ่งตัวไปทันที ไม่ลืมที่จะคว้าแก้วเหล้าติดมือไปด้วย มินซอกนั่งดื่มข้างๆผมในตอนแรก ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ผมยกเหล้าซดเหมือนกับน้ำเปล่า(ความจริงแลัวแค่สามแก้ว) ภาพต่างๆรอบกายเริ่มรวนไปหมด พอผมหันไปมองข้างๆ มินซอกก็หายไปแล้ว...
-
ผมตื่นมาในตอนเช้าด้วยสภาพทุเรศและเหม็นกลิ่นอ้วกเหมือนเดิม
ความมึนหัวทำให้ผมอยากจะตัดหัวตัวเองทิ้งซะ ผมเดินตามหามินซอกไปทั่วบ้าน แต่ก็ไม่พบ ถามคนที่นอนเมาอ้วกตัวเองแถวนั้นก็ดูไม่มีประโยชน์ ผมเลยคิดว่าเขาน่าจะกลับหอไปแล้ว ผมเลยเดินออกมาโบกแท็กซี่กลับบ้าง
แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิด ผิดมหันต์.
ผมควรจะตามหาเขา ควรจะพยายามมากกว่านี้
มินซอกหายตัวไป
พวกเรา ผมและเพื่อนๆของมินซอกใช้เวลาอาทิตย์นึงกว่าจะรู้ว่ามินซอกหายตัวไปจริงๆ หายไปแบบไร้ร่องรอย ครอบครัวของมินซอกเดินทางมาจากต่างจังหวัด แจ้งความให้ตำรวจช่วยหาเบาะแส แต่ก็ไม่พบอะไรเลย ไม่มีหลักฐานอะไรบ่งชี้ข้อสันนิฐานใดๆ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรืออะไรที่บอกว่ามินซอกถูกจับตัวไป ไม่มีอะไรซักอย่าง
ตำรวจไม่พบอะไรเลย เหมือนมินซอกกับว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่...
ทุกคนปักใจเชื่อว่ามินซอกตายไปแล้ว แม้ว่าจะหาศพไม่พบก็ตาม
ครอบครัวของมินซอกเก็บข้าวของจากห้องมินซอกไปจนหมด และสร้างหลุมศพไว้ให้เขาที่จังหวัดบ้านเกิด ผมเคยไปเยี่ยมมาครั้งสองครั้ง
ไปเดินแถวๆบ้านมินเกินยี่สิบครั้ง เจอมินบ้างบางครั้งแต่เธอเดินผ่านผมไปอย่างเมินเฉย เหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ผมหวังว่าจะเจออะไรบ้าง แต่ไม่เลย ผมไม่เคยเจออะไรเลย....
--
ผมกลับมาจากการไปเดินสำรวจแถวๆบ้านของมินที่ผมคิดว่าจะไปเป็นครั้งสุดท้าย
ผมกลับมาที่ห้อง นั่งซดเบียร์ที่ซื้อมาจากซุปเปอร์ด้านล่าง
คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า กลุ่มเมฆกลุ่มใหญ่เคลื่อนมาบดบังดวงจันทร์จนมิด มีแต่แสงสีนวลๆที่ลอยลอดออกมาให้รู้ว่าตรงนั้นเคยมีพระจันทร์อยู่
ผมเหม่อมองมันอย่างไร้จุดหมาย
ปล่อยให้น้ำตาตัวเองไหลลงมา...
ไม่มีมินซอกแล้ว
ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
บนโลกใบนี้
แรงบัลดาลใจจากหนังสือ
Spunik Sweetheart by Haruki Murakami
และเพลง
Run – Daughter
END.
talk
มาลงแล้ว..
คิดว่าจะแต่งให้จบในตอนเดียว
แต่พอมาแต่งจริงๆเปลี่ยนเนื้อเรื่องจากที่เคยคิดไว้เยอะมาก
เลยกลัวมันยาวเกินไปเลยตัดไปเป็นสองตอน
ถ้าใครอ่านอินโทรแล้วก็คงไม่มีอะไรต้องลุ้นค่ะ 55
เหมือนบอกตอนจบไปนัยๆเลย ==
อีกตอนนึงคงเป็นสเปเชียลสั้นๆค่ะ
ยืนยันว่าจะแต่งลู่หมินต่อไปนะคะ สัญญา
-AHLS.-
ความคิดเห็น