คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : (SF) Backwards (1/2) :: Lumin ft.jongin
Backwards First Part.
Lumin ft.jongin
Xiumin's Part
Write by : AHLS.
(แนะนำให้ฟังไปด้วยระหว่างอ่าน)
--
ได้โปรดบอกกันซักที ทางที่มี วิธีควรทำอย่างไร
ถ้าหากเรายังพบกัน อยู่ทุกวัน แล้วฉันจะลืมได้ไหม
ผมไม่เคยรู้สึกอึดอัดเท่านี้มาก่อนในชีวิตและผมไม่รู้ว่าจะรับมือกับเหตุการณ์ในตอนนี้ยังไงดี ผมอยากจะโทรเรียกจุนมยอนหรือคริสให้มาตอนนี้เลย เพราะตอนนี้ผมกำลังจะเป็นบ้าแล้ว
"มินซอก ... กินนี่สิ ฉันจำได้ว่านายชอบนี่" น่องไก่ชิ้นโตถูกตักมาวางในจานของผม ตอนนี้จานผมพูนจนจะล้นออกมาแล้ว มันเป็นฝีมือของลู่หานที่ตักมาให้ผมอย่างไม่บันยะบันยัง ผมได้แต่นั่งมองเขาเงียบๆ โดยที่ไม่ตักอาหารเข้าปากหรือพูดอะไรออกมา
ลู่หานเป็นแบบนี้มาสักพักนึงแล้ว ลู่หานที่น่าอึดอัดสำหรับผม ลู่หานที่คอยเอาใจใส่ คอยทำทุกอย่างให้ผม แบบที่ผมไม่ได้ร้องขอ ซึ่งผมไม่ต้องการมันทำให้ผมอึดอัด แต่ผมก็ไม่เคยพูดห้ามอะไรออกไป เพราะอะไรผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
".........ลู่หาน" เสียงเรียกของผมมันทำให้ลู่หานชะงักมือแล้วหันมาสบตาด้วยสายตาวูบไหว มันทำให้ผมกลืนคำพูดทุกอย่างลงคอจนหมด
"คือว่า... อ่า ขอบคุณนะ นายกินต่อเถอะ" ผมตักอาหารเข้าปากเพียงไม่กี่คำแล้วขอตัวแยกจากลู่หานมา
--
ถ้าหากเธอรู้ ว่าฉันต้องพยายามเท่าไร
แต่สิ่งที่ฉัน ต้องเจอนั้นยังห่างไกล
เรื่องของลู่หานทำให้ผมคิดไม่ตก เพราะนอกจากความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆแล้ว ความรู้สึกบางอย่างที่เคยคิดลืมเลือนมันไปก็หวนกลับมาอย่างที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว ผมทำได้เพียงแต่ข่มมันเอาไว้ เพราะเรื่องราวของผมกับลู่หานมันจบลงเหมือนแก้วที่แตกไปแล้ว จะให้ต่อยังไงก็ไม่สามารถกลับไปเป็นแก้วใบเดิมได้อีก-
-ผมกับลู่หานเคยคบกันมาก่อน ความสัมพันธ์ของเราที่ผมคอยประคับประคองมันไว้ถูกลู่หานกระชากมันขาดสะบั้นอย่างไม่ใยดี ซึ่งตอนนั้นมันทำให้ผมเคว้งไปหมด การทำใจกลายเป็นเรื่องยากกว่าปกติ เพราะผมต้องเจอกับลู่หานทุกวัน เราเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันอยู่หอเดียวกัน(ย้ายมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่คบกันจนถึงตอนนี้) ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าผมโอเคกับมันแล้ว แต่ตอนนี้เหมือนว่าลู่หานต้องการจะต่อมันกลับขึ้นมาใหม่.....
ซึ่งสำหรับผมแล้วตอนนี้มันคงจะสายเกินไป
--
"พี่มินซอก!" ผมหันไปตามเสียงเรียกก็เจอกับจงอินที่วิ่งมาหาผมด้วยรอยยิ้มที่สดใส และมันทำให้ผมยิ้มตอบกลับไป ซึ่งเป็นยิ้มกว้างที่มาจากหัวใจ เราจับมือประสานกันแนบแน่น
สำหรับผมแล้วจงอินเป็นเหมือนแสงสว่างในวันที่ผมมีหมอกหนาขึ้นรอบตัว พูดแบบนี้อาจจะดูเวอร์ไปหน่อยแต่มันคือเรื่องจริง จงอินเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นในหัวใจตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน ในตอนนั้นอาจจะเป็นเพราะความอ่อนแอของผม มันอาจจะเป็นช่วงเวลาไม่นานนัก แต่จงอินคือคนที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นจริงๆ
ถ้าเปรียบจงอินเป็นแสงสว่าง ลู่หานก็คงจะเป็นหมอกหนาสำหรับผม หมอกหนาที่ผมไม่เคยลืมเลือนมันไป
โปรดเห็นใจฉันหน่อย ปล่อยให้ตัวฉันไป
หากฉันอยากเริ่มใหม่ มันต้องไม่มีเธอเหมือนเคย....
--
ผมมีนัดกับจงอิน แต่จุนมยอนทำให้ผมต้องพลาดนัด ด้วยการส่งข้อความสัญญาณเตือนสีแดงอันตรายขั้นสุดมาให้ผม ซึ่งทำให้เราสองคนมานั่งอยู่ในร้านประจำด้วยกันในคืนวันศุกร์แสบเงียบเหงานี้ ... ใช่เงียบจริงๆ เพราะตั้งแต่ผมมาถึง จุนมยอนยังไม่เอ่ยปากพูดอะไรนอกจาก “มินซอก คือว่า.”. แล้วนั่งจ้องหน้าผม
จุนมยอนเป็นเพื่อนที่ผมไว้ใจที่สุดคนนึง เขาจะอยู่เคียงข้างผมเสมอ รวมไปถึงในวันที่ผมกับลู่หานเลิกกันด้วยแน่นอนว่าคริสก็อยู่ ผมรู้ว่าเขาลำบากใจเพราะทั้งผมและลู่หานก็คือเพื่อนของเขาทั้งคู่ แต่เขาก็สามารถรับมือกับเหตุการณ์นั้นได้เป็นอย่างดี และตอนนี้พวกเราสี่คนก็ยังคงเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
จุนมยอนเป็นคนแสดงออกทางสีหน้า ถ้าหากเขาอึดอัดใจหรือมีเรื่องอะไรไม่สบายใจทุกอย่างจะแสดงชัดเจนบนใบหน้าของเขา เหมือนกับวันนี้ ที่เขานั่งทำท่าอึกอักอยู่ตรงหน้าผม
“มีอะไรก็พูดมาเหอะ เห็นทำหน้าเหมือนกับปวดขี้มานานละ หรือว่าขี้ไม่ออก?” ผมพูดโพล่งออกไปมันทำให้จุนมยอนสะดุ้ง ปกติถ้าผมพูดไปแบบนี้เขาต้องด่าผมเป็นชุดแล้ว แต่นี่ไม่ ทุกอย่างกลับไปสู่ความเงียบอีกครั้ง นี่ถ้าไม่ได้เสียงเพลงของร้านอาหารที่ยังดังต่อเนื่องนะ
“มีไรมึงก็รีบๆพูดเหอะ ไม่งั้นกูจะกลับแล้วนะ” ผมทำท่าจะหยิบกระเป๋าทำให้จุนมยอนแสดงท่าทีที่ร้อนรนกว่าเดิม
“ไม่ๆ คือมึง ... เรื่อง ไอลู่หานอ่ะ” ชื่อของเพื่อนอีกคนในกลุ่มที่ถูกยกขึ้นมาเปิดประเด็นทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว จุนมยอนเงียบไปสักพักก่อนจะเริ่มพูดต่อ “มึงรู้ใช่มั้ยว่าพักนี้มันแปลกๆไป” ผมพยักหน้าตอบ
“คือ...มึงรู้ใช่มั้ยว่าลู่หานมันต้องการอะไร กูอยากรู้ว่ามึงรู้สึกยังไง เพราะที่ผ่านมามึงไม่ค่อยแสดงท่าทีอะไรเลย เพราะถ้ามึงไม่ชอบที่มันทำ ทำไมมึงไม่พูดออกไป กูรู้ว่าตอนนี้มึงมีจงอินแล้ว แต่สิ่งที่กูอยากถามมึงตรงๆเลยคือ มึงยังรักลู่หานอยู่รึเปล่า? สิ่งที่ลู่หานทำยังทำให้มึง มึงยังหวั่นไหวอยู่ไหม?”
คำถามของจุนมยอนทำให้ผมตกอยู่ในความเงียบ ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรออกไป สายตาผมก็เบนไปสบกับคนที่อยู่ในหัวข้อสนทนาพอดี
“ลู่หาน..” ผมพูดออกมาเบาๆทำให้จุนมยอนรีบหันมองตามสายตาผม ลู่หานกำลังเดินตรงเข้ามาพร้อมกับคริส
ลู่หานดูแปลกไป... สายตาของเขาที่มองมาดู...โกรธ? เขาเดินตรงมาที่ผม แล้วกระชากแขนผมให้ลุกขึ้น จุนมยอนกับคริสมองมาที่ผมกับลู่หานอย่างตกใจ
“มันเป็นใคร” ลู่หานกระชากเสียงถามผมด้วยคำถามที่ผมไม่เข้าใจ อะไร เขาหมายถึงอะไร?
“………..”
“คนที่จับมือมึงเมื่อเย็นมันเป็นใคร สนิทแค่ไหน ถึงขั้นจับมือถือแขน หึ!” สมองผมประมวลผลคำพูดของลู่หาน เขากำลังหมายถึงจงอินหรอ?
“อย่ามาเรียกจงอินว่ามันนะ!” ได้ ! เขาแรงมาผมก็แรงตอบเหมือนกัน
“รู้จักกับมันได้ไง เป็นอะไรกัน ทำไมต้องจับมือกันด้วย!” ลู่หานกระชากข้อมือผมอย่างแรงจนทำให้ผมรู้สึกแสบข้อมือไปหมด เขามีสิทธิ์อะไร!
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึงล่ะลู่หาน เราเลิกกันแล้วนะ!” เสียงฮือฮาจากโต๊ะรอบข้างไม่ได้ทำให้เราสองคนหยุด
“แต่กูอยากรู้!!!!” ลู่หานตะคอกใส่หน้าผม มันทำให้ผมชะงัก ลู่หานไม่เคยเป็นแบบนี้ ถึงแม้เราจะร้ายใส่กันแค่ไหน ...
“มันเป็นเรื่องส่วนตัวป่ะวะ อย่ามายุ่งเรื่องของ’คนอื่น’ได้ป่ะ! ” ผมเน้นคำว่าคนอื่นแล้วตะคอกกลับไปบ้าง ในเมื่อเขาไม่ยอมลงผมก็จะไม่ลงเหมือนกัน
“มึงอย่างี่เง่าสิ ลู่หาน” คริสพูดขัดขึ้นมา ทำให้ลู่หานหันไปมองคริสด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ
“เงียบไปเลยมึง!”ลู่หานตะคอกกับคริสอย่างหัวเสีย ...ลู่หานในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนพาล
“แต่มึงกับมินซอกเลิกกันแล้วนะ มินซอกจะคบใครก็ไม่เกี่ยวกับมึงแล้ว มึงอยู่ในสถานะเพื่อนแล้วนะลู่หาน ” ลู่หานตวัดสายตาไปมองจุนมยอนที่พูดแทรกขึ้นมา สายตาของลู่หานวูบไหวฉับพลันมันก็เปลี่ยนไปเป็นสายตาที่แข็งกร้าว เขากำลังโกรธจัด....
“ของๆกู ยังไงมันต้องเป็นของกู!!!” ลู่หานตะคอกเสียงดังก่อนจะกระชากข้อมือผมจนผมเซตามแรง
“แล้วมึงมาทำอะไรเอาตอนนี้วะ!!! เรื่องของเรามันจบไปแล้ว !! แล้วจำใส่หัวมึงไว้ด้วยนะ ในชีวิตของกูตอนที่ไม่มีมึงมันมีความสุขมาก!! ”
‘เพี๊ยะ!’
สิ้นเสียงนั้นเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง ความชาบนใบหน้าและแรงกระแทกตอนที่ผมล้มลง หูของผมอื้อไปหมดพร้อมน้ำตารื้นขึ้นมา --
นี่ลู่หานตบผม?
พอได้สติ ผมรีบพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นทันที ผมวิ่ง วิ่งอย่างไม่มีจุดหมาย ความสับสน เสียใจ ผิดหวัง ไม่เข้าใจ และอาการบีบรัดแน่นที่อก ....
-ลู่หานเป็นความผิดพลาดของผม ผมกับเขาไม่น่ามารักกันตั้งแต่แรก ไม่เลยจริงๆ ...-
โปรดเห็นใจฉันบ้าง อย่าพบกันเหมือนเคย
อย่าทำร้ายกันเลย อย่างน้อยก็คนเคยรักกัน . . .
--
“ดื่มนี่ก่อนครับ พี่มินซอก” ผมรับแก้วนมอุ่นจากจงอินมาจิบ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะด้านหน้า ตอนนี้ผมอยู่กับจงอิน ผมมาหาเขาที่ห้องหลังจากที่คิดไม่ออกแล้วว่าจะไปที่ไหน วินาทีที่จงอินเปิดประตูออกมารับ ผมก็ปล่อยโฮชุดใหญ่ออกมา ผมระบายทุกอย่างที่อยู่ในใจให้เขาฟังไปพร้อมกับเสียงฟืดฟาด ผมเดาว่าเขาคงจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่
ตอนนี้ผมหยุดร้องไห้ไปสักพักแล้วทิ้งไว้แต่ดวงตาที่บวมช้ำ จงอินนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆผม ก่อนที่ความเงียบจะปกคลุมรอบตัวเรา มันทำให้ผมรู้สึกถึงความผิดปกติ
“จงอิน... มีอะไรรึเปล่า?”
“… พี่มินซอก”
“พี่มินซอก รักผมรึเปล่า?” จงอินหันมาสบตาผม สายตาที่สับสนกับคำถามที่ดูไม่มั่นใจของเขามันทำให้ผมประหม่า
“ทำไมถามพี่แบบนั้นล่ะจงอินอ่า?” ผมวางมือลงบนมือจงอินแล้วบีบเบาๆ
“....พี่มินซอกรักผมเท่าที่รักพี่ลู่หานรึเปล่า?
หรือพี่แค่มองผมเป็นตัวแทนของพี่ลู่หาน
พี่คิดถึงผมแค่ตอนที่พี่ไม่เหลือใครแล้วรึเปล่า?”
“จงอินอ่า.....” ผมพูดอะไรไม่ออก สิ่งที่จงอินพูดทำให้สมองผมว่างเปล่า
“พี่มินซอก..”จงอินบีบมือผมกลับ มันแน่นมาก มากจนผมอยากจะดึงมือออก แต่ผมไม่กล้าพอที่จะทำแบบนั้น เพราะตอนนี้เขาดูไม่ดีเลย
“ผมถามจริงๆนะ ถ้าหากว่าตอนนี้พี่ไม่ได้คบกับผมอยู่ ถ้าพี่ไม่ได้รู้สึกผิดกับผม
.
.
.
พี่จะกลับไปคบกับพี่ลู่หานหรือเปล่า?”
ถ้าหากตอนนี้พี่ไม่ได้รู้สึกผิดกับผม..
“จงอินอ่า .... คิมมินซอก มันก็แค่ผู้ชายใจแข็งคนนึงที่ชอบหลอกตัวเองเท่านั้นแหละ..”
ผมยิ้มฝืดให้กับจงอิน
แสงสว่างของผมมอดดับลงไปแล้ว แต่ความจริงแล้วมันไม่เคยมีอยู่
หมอกหนายังคงปกคลุมรอบตัวผม มันไม่เคยจางหายไปตั้งแต่แรก
ผมโหยหาความความผิดพลาด.... แต่ไม่เคยคิดที่จะกลับไปหามัน
ผมปล่อยให้ความผิดพลาดนั้นเป็นเพียงแค่ความทรงจำ
End.
@SQWEEZ
ความคิดเห็น