คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความรักจู่โจม
วินซี่++++
ยุนโฮไม่สนใจชั้นเลยสักนิด เค้าเอาแต่คอยชะเง้อมองฮเยยูนที่นั่งดื่มอยู่ที่บาร์ด้วยสายตาห่วงใย ชั้นถามอะไร เค้าก้อเอาแต่ตอบอือๆคำเดียว ท่าทางเค้าคงจะชอบยัยเย็ชานั่นแหงๆ เฮ้อ แย่ที่สุด
แต่ก้อไม่เป็นไร หนุ่มสองคนที่นั่งอยู่นี่ก้อน่ารักเหมือนกัน พวกเค้าหล่อสุดๆ แถมยังเคยดูแลเทคแคร์ชั้นเป็นอย่างดี เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นสองคนนี่ก้อไม่เลว
"มาแล้วคับ มาการิตต้าของคุณวินซี่" มิคกี้กับมาพร้อมแก้วเครื่องดื่มของชั้น ชั้นยิ้มหวานให้เค้าและจิบเครื่องดื่มเข้าไปอึกนึง
"ขอบคุณค่ะ"
"ไม่เป็นไรคับ ผมยินดีบริการผู้หญิงสวยๆอย่างคุณอยู่แล้ว" เค้าส่งสายตาวิ้งวับให้ชั้น ท่าทางจะเจ้าชู้ไม่เบาเลยนะ หมอนี่
"คุณมีแฟนแล้วเหรอคับ" คราวนี้เป็นคำถามของคิมแจจุงหนุ่มหน้าหวานที่กำลังมองมือข้างซ้ายของชั้นอยู่
ไม่แปลกหรอกที่เค้าจะถาม ก้อไอ้แหวนเพชรที่ชั้นใส่อยู่ที่นิ้วนางเนี่ย มันออกจะส่องประกายระยิบระยับขนาดนั้น
"อ้อ ไอ้นี่น่ะเหรอคะ" ชั้นยกมือขึ้นในระดับสายตา
แหวนวงนี้เป็นของขวัญชิ้นเดียวที่ชั้นได้จากเค้า และชั้นไม่คิดจะถอดมันออกตั้งแต่วันที่เค้าสวมให้ เพราะมันเป็นสิ่งแทนความทรงจำในความรักครั้งแรกของชั้น
"มันเป็นตัวแทนของความทรงจำที่ดีน่ะค่ะ"
"คนๆนั้นเป็นใครเหรอคับ" เค้ายังคงไล่ถามต่อไปอีก คงอยากรู้สินะว่าเจ้าของแหวนวงนี้มีความสัมพันธ์อะไรกับชั้น ผู้ชายที่เข้ามาจีบชั้นทุกคนก้อถามแบบนี้เหมือนกันหมดนั่นแหละ แต่ชั้นไม่เคยบอกความจิงกับใครหรอก
"รับรองว่าคุณไม่อยากรู้หรอก" ชั้นยังคงยิ้มและก้อยิ้ม
มิคกี้ชวนชั้นคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ เค้าเป็นคนคุยเก่งและเป็นคนที่มีเรื่องมากมายมาเล่าให้ชั้นฟัง ในขณะที่คิมแจจุงนั่งฟังเงียบๆมากกว่า ถ้าไม่ชวนคุย เค้าก้อจะนั่งเงียบและดื่มอย่างเดียว
ดูเหมือนว่าเค้ากำลังประเมินชั้นอยู่เงียบๆในใจ ผู้ชายแบบนี้สิ ถึงน่าสนใจ ชั้นชอบคนที่เงียบขรึมแล้วก้อมีเสน่ห์บวกด้วยความเซ็กซี่แบบเค้านี่แหละ
"วินซี่" ฮเยยูนที่มีท่าทางแย่ๆอย่างที่ชั้นไม่เคยเห็นมาก่อน ตายัยนั่นแดงกำ มาสคาร่าสีดำไหลลงมาเลอะที่ใต้ตา ต้องร้องไห้มาแน่ๆเลย เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหญิงนำแข็งผู้ไม่หวั่นไหวกับเรื่องใดๆอย่างเทอนะ พัคฮเยยูน
"ชั้นจะกับแล้วล่ะ แต่เทอจะอยู่ต่อก้อได้นะ เดี๋ยวชั้นจะบอกให้การ์ดมารับเทอกับบ้านเอง" ฮเยยูนที่มียูโน ยุนโฮประคองอยู่พูดขึ้นเสียงสั่นๆ
"มาด้วยกันก้อต้องกับด้วยกันสิ" ชั้นกระโดดลุกจากที่นั่งไปยืนข้างๆยัยนั่นแล้วบอกลาหนุ่มๆ
"ไว้พบกันใหม่นะคะ" ชั้นบอกลาสองหนุ่มพร้อมรอยยิ้มหวานแล้วเดินตามฮเยยูนไป
ท่าทางอีตานี่จะชอบฮเยยูนจิงๆด้วยนะเนี่ย ดูสิ ยัยนั่นแค่ร้องไห้นะ ไม่ได้ป่วยหนักจนเดินไม่ได้สักหน่อย ไม่เห็นต้องประคองอย่างนั้นเลยก้อได้นี่นา ถ้าปาปารัสซี่ถ่ายรูปได้จะทำยังไงล่ะ
"ขับรถไหวหรือป่าว ให้ชันขับไปส่งให้มั้ย" เค้าถามขึ้นอย่างเป็นห่วง หลังจากเปิดประตูให้ฮเยยูนขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับแล้ว
"ไม่เป็นไร บ้านพักของพวกเราอยู่แถวนี้เอง ขอบใจที่มาส่ง นายรีบเข้าไปเถอะ นักข่าวเยอะจะตาย ถ้าพวกนั้นถ่ายรูปได้ขึ้นมาจะเกิดเรื่องยุ่ง" ยัยนั่นยิ้มบางๆให้เค้า
"อืม ถึงบ้านแล้วโทรหาชั้นนะ รู้มั้ย" ฮเยยูนรอจนเค้าเข้าไปแล้ว ถึงได้ออกรถ ชั้นขยับปากเตรียมที่จะถาม แต่ฮเยยูนพูดขึ้นซะก่อนว่า
"นั่นเป็นเรื่องส่วนตัว ชั้นไม่อยากจะเล่า" หมายความว่าห้ามยุ่งนั่นเอง ชั้นหุบปากลงทั้งๆที่อยากรู้ใจแทบขาดว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้วยนิสัยไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องของตัวเองบวกกับเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงลิบของฮเยยูน ทำให้ทุกคนไม่มีใครกล้าถามเรื่องของยัยนั่นสักคน แม้แต่โซฮีที่สนิทสนมกับฮเยยูนกว่าใคร
ฮเยยูนเป็นคนที่มีสองด้านในตัวเอง ต่อหน้าแฟนๆและเพื่อนๆ เทอจะเป็นคนที่ยิ้มแย้มและเป็นมิตรมาก แต่ในท่าทางยิ้มแย้มแบบนั้น ยัยนั่นจะสร้างกำแพงขึ้นมากั้นตัวเองออกจากคนอื่นๆ ไม่ให้ใครเข้ามาใกล้จนเกินไป
โซฮีเคยบอกชั้นว่าที่ฮเยยูนเป็นแบบนั้นเป็นเพราะบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในใจ ดังนั้นทุกครั้งที่เห็นยัยนั่นทำหน้าเศร้าๆ ชั้นจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าบาดแผลในใจของฮเยยูนเกิดขึ้นจากอะไรหรือใครกันแองเจล่า++++
ชั้นได้กับไปนอนตอนตีสอง และลุกขึ้นมากองถ่ายตอนหกโมงเช้าในวันนี้ ถึงจะได้นอนแค่สี่ชั่วโมง แต่ชั้นก้อพยายามคิดในแง่ดีว่า เอาเถอะ ยังไงวันนี้ก้อยังได้นอนตั้งสี่ชั่วโมง บางทีต้องถ่ายทั้งวันทั้งคืนจนไม่ได้นอนเลยด้วยซำ
ตอนนี้ชั้นกำลังนั่งทำผมอยู่ในกิองถ่าย และกินแซนวิชเป็นอาหารเช้าไปท่องบทไปด้วย จุนที่นั่งอยู่ข้างๆชั้นก้อไม่ค่างกันนัก
"นี่ ทำไมเคลวินยังไม่มาอีกล่ะ" ชั้นถามถึง เฉินอี้หรู อีกหนึ่งหนุ่มจากฟาเรนไฮต์ที่เป็นนักแสดงตัวหลักของละครเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
"อ้อ เดี๋ยวมาตอนสายๆน่ะ หมอนั่นไม่มีคิวช่วงเช้าเลยขอนอนต่ออีกหน่อย อ้อ หย่าหลุนก้อจะมาด้วยนะ เค้าบอกเทอหรือป่าว"
"เหรอ" ชั้นพยักหน้าแล้วก้มหน้าลงอ่านบทต่อไป
นี่จุนคงจะไม่รู้ว่าชั้นทะเลาะกับเพื่อนเค้าทางโทรศัพท์เมื่อคืนนี้ แถมยังอย่างรุนแรงด้วย สาเหตุเกิดจากรุ่นน้องที่ค่ายคนนึงของชั้น ที่จู่ๆก้อออกมาป่าวประกาศกับสื่อว่าหลงรักชั้นอยู่เมื่อวานนี้
"นี่ แองเจล่า"
"ฮะ" ชั้นหันไปมองเคาอย่างตกใจ เพราะจู่ๆเค้าก้อเรียกขึ้นมา
"วินซี่น่ะ เค้าคบใครอยู่หรือป่าว" ที่แท้ก้อเรื่องยัยวินซี่ตัวร้ายนี่เอง
ชั้นล่ะไม่เข้าใจผู้ชายพวกนี้เลยจิงๆ รู้ทั้งรู้ว่ายัยนั่นเจ้าชู้จะตาย ยังจะอยากลองเล่นกับไฟอีก หมอนี่ก้อเหมือนกัน
"ไม่มีนะ" แต่ตอนนี้ชั้นก้อไม่รู้นะ บางทีวินซี่อาจจะไปโปรยเสน่ห์ใส่หนุ่มเกาหลีจนได้มาควงสักคนสองคนแล้วมั้ง ( ยัยนั่นบอกว่าเป้าหมายอัดับหนึ่งคือ ยูโน ยุนโฮ อันดับสองคือโอวอนบิน วง F.T. Island )
"ถ้าชั้นจะจีบวินซี่เทอจะว่ายังไง"
"ตามใจสิ" ชั้นจะสวดมนต์ขอให้นายไม่เจ็บมากก้อแล้วกัน ตอนโดนยัยนั่นหักอกเอาน่ะ
"ไว้สายๆชั้นจะโทรไปหาวินซี่ เค้าคงจะตื่นแล้วล่ะมั้ง ใช่มั้ยแองเจล่า"
ชั้นต้องทนฟังจุนพรำเพ้อถึงยัยวินซี่อีกยี่สิบนาที ก่อนที่ผู้กำกับจะเรียกเราไปเข้าฉาก
หลังจากถ่ายไปสามซีน ( โดยไม่เทคเลย ) เฉินอี้หรูก้อมาถึงที่กองถ่ายพร้อมกับหย่าหลุนที่หอบดอกไม้ช่อใหญ่มาด้วย
ทีมงานสาวๆทุกคนส่งสายตาอิจฉาริษยามาให้ชั้น เมื่อเห็นหย่าหลุนคุกเข่าลงตรงหน้าชั้นและยื่นดอกไม้ให้
"ขอโทษนะ แองเจล่า" ชั้นล่ะสุดจะเลี่ยนกับวิธีขอโทษแบบนี้ ( เจอมาเยอะจนชิน ) แต่เพราะสายตาอ้อนวอนของเค้า ชั้นจึงใจอ่อนยอมรับดอกไม้มา
"ชั้นไร้เหตุผลไปหน่อย เทออย่าโกรธชั้นเลยนะ"
"อืม ลุกขึ้นเถอะ" ชั้นหันไปมองสองหนุ่มฟาเรนไฮต์ที่ยืนหัวเราะคิกๆแล้วถลึงตาใส่พวกเค้า ก่อนจะหันมายิ้มให้หย่าหลุน
"เทอหายโกรธชั้นจิงๆนะ" หย่าหลุนจับมือชั้นไว้อย่างขอความมั่นใจ ชั้นพยักหน้า
"อืม ไม่โกรธแล้วล่ะ" เค้ายิ้มดีใจอย่างกับเด็กๆ และในขณะที่เรากำลังจะกอดคืนดีกันอย่างหวานชื่น พี่ถง ผู้จัดการที่น่ารักของชั้นก้อตะโกนขึ้นมาว่า
"มาเข้าฉากได้แล้ว แองเจล่า" ทำไมถึงชอบทำลายบรรยากาศดีๆอยู่เรื่อยๆเลยนะผู้จัดการของชั้น เฮ้อ
ความคิดเห็น