ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักวุ่นวายกับนายสุดหล่อ MY DIARY

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องที่ไม่คาดฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 51


    โซฮี++++

    หลังจากชั้นแต่งตัวเสร็จได้สิบนาที พี่ซิยองก้อมารับชั้น วันนี้พี่เค้าสวมเสื้อเชิ้ตสีเบจกับกางเกงสีครีม ถึงจะเป็นเสื้อผ้าง่ายๆ แต่พอพี่เค้าใส่แล้วดูดีมากๆเลย

    พี่ซิยองพาชั้นไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม ระหว่างที่เรานั่งรออาหารมาเสริฟ์ เราก้อคุยกันไปด้วย


    "จะมีคนจำเราสองคนได้หรือป่าวน้า  วันนี้ชั้นไม่ได้พกแว่นตาหรือหมวกมาด้วยสิ" ชั้นมองไปรอบๆอย่างกังวล ในร้านนี้คนเยอะด้วยสิ แล้ววันนี้ชั้นกอ้ไม่ได้พรางตัวเลย พี่ซิยองก้อเหมือนกัน ถ้าเกิดมีนักข่าวถ่ายรูปได้ พี่กับวินซี่เอาชั้นตายแน่ๆ

    "ทำไมล่ะ หรือว่ากลัวว่าถ้าเป็นข่าวกับพี่แล้วจะเรตติ้งตก จนไม่มีหนุ่มๆมาจีบ" พี่ซิยองถามเหมือนล้อเล่น แต่ชั้นไม่ตลกด้วยเลยสักนิด   

    "ทำไมพี่คิดแบบนี้อีกแล้ว ก้อบอกแล้วไงว่าชั้นรักพี่ซิยองคนเดียว"  ชั้นกลัวว่าพี่เค้าจะคิดมาก เพราะเราสองคนอายุห่างกันตั้งแปปี แถมเรายังอยู่ไกลกันอีกตังหาก  แล้วชั้นก้อมักจะโดนนักข่าวจับคู่กับคนนั้นคนนี้บ่อยๆ ชั้นกลัวว่าพี่เค้าจะน้อยใจจึงมักจะยำความรู้สึกของชั้นให้เค้าฟังอยู่บ่อยๆ

    ดีนะที่พี่ซิยองไม่ใช่คนขี้หึง ไม่อย่างนั้นเราคงมีเรื่องทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวันแน่ๆ

    "พี่รู้เล้วน่า พี่ก้อรักเทอนะ" เค้ายิ้มและลูบผมชั้นอย่างอ่อนโยน

    เฮ้อ จะมีใครมีความสุขกว่าคิมโซฮีคนนี้มั้ั้ยเนี่ย ชั้นช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นแฟน

    "วันนี้ที่นัดออกมาเพราะพี่มีอะไรจะถาม "

    "อะไรเหรอคะ" ชั้นสังเกตว่าพี่ซิยองวันนี้ดูประหม่าชอบกล เค้าสูดลมหายใจลึก และพยายามจะพูดบางอย่างออกมา แต่พูดไม่ออกสักที

    "จะถามอะไรเหรอคะพี่" ชั้นถามซำ คราวนี้พี่ซิยองหันไปขอกระดาษกับปากกาจากบริกรมาเขียนอะไรขยุกขยิกแล้วส่งให้ชั้น

    "อ่านสิ" ชั้นก้มมองกระดาษแผ่นนั้นแล้วก้อต้องอ้าปากค้าง เพราะมันเขียนว่า

    --- คิมโซฮี เราแต่งงานกันนะ ---

    โอ้มายก็อด บอกได้คำเดียวว่าช็อคค่ะ แต่งงานอย่างนั้นเหรอ อยากจะบอกว่าในหัวชั้นไม่เคยมีคำว่าแต่งงานอยู่เลยแม้แต่น้อย แหม ก้อชั้นเพิ่งอายุยี่สิบสองเองนี่นา

    "ไว้ค่อยตอบก้อได้นะ พี่ไม่เร่งเทอหรอก พี่อยากให้เอทเอาไปคิดให้ดีก่อนจะตอบ เรื่องแต่งงาน พี่รู้ว่ามันอาจจะเร็วไป เทอคงลำบากใจ ถึงเทอปฎิเสธ พี่ก้อเข้าใจ"
     
    สงสัยพี่ซิยองเห็นอาการช็อคกลางอากาศของชั้นแล้วแปลความหมายผิด เลยพูดออกมาแบบนั้น ป่าวนะ ชั้นไม่ได้ลำบากใจ แต่ตกใจต่างหาก แหมจู่ๆมาขอแต่งงานกันกระทันหันแบบนี้ เป็นใครก้อต้องช็อคทั้งนั้นแหละ ชั้นอยากอธิบายให้พี่ซิยองฟังนะ แต่ปากน่ะสิมันไม่ขยับเลย

    "กินข้าวดีกว่า เทอคงจะหิวแล้วใช่มั้ย" พี่ซิยองเลื่อนจานอาหารมาให้ชั้นพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนเดิม แต่ชั้นรู้สึกได้ว่ารอยยิ้มของเค้ามันไม่เหมือนเดิม คงเพราะเรื่องเมื่อกี้สินะ

    "พี่คะ คือว่า..." ชั้นพยายามที่จะอธิบาย แต่พี่ซิยองยกมือห้าม

    "กินข้าวเถอะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย"


    ฮเยยูน++++

    เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เพื่อนเก่าคนนึงของชั้นโทรมาหาและชวนชั้นออกไปกินข้าวด้วยกัน ชั้นลังเลอยู่นาน กว่าที่จะยอมตอบตกลงไปพบเค้า บางทีมันคงจะถึงเวลาแล้วที่ชั้นควรเลิกหลบเลี่ยงเค้าสักที

    เรานัดกันที่ร้านสปาเก็ตตี้แถวๆบ้านพักของพวกเรา และถึงที่นั่นจะเป็นร้านเงียบๆที่ไม่ค่อยมีคน แต่เพื่อความไม่ประมาท ชั้นใช้หมวกแก้ปและแว่นกรอบสีดำเพื่อพรางตัวไม่ให้คนอื่นจำได้

    พอชั้นเดินเข้าไปในร้าน กึนซอก ที่นั่งอยู่ที่โต้ะด้านในสุดก้อโบกมือให้พร้อมกับรอยยิ้มที่เจิดจ้าราวกับแสงอาทิตย์ ชั้นชอบรอยยิ้มแบบนี้ของเค้ามาก

    "จะสั่งอะไรดีคะ" พอชั้นนั่งลง บริกรก้อเดินเข้ามาหาเราพร้อมกับเมนู ชั้นรับเมนูมาเปิดดู

    โซฮีกับวินซี่ที่เคยมากินร้านนี้บอกว่าที่นี่ไม่มีอะไรอร่อยสักอย่างนอกจากสปาเก็ตตี้มีทบอล ชั้นเลยสั่งนำส้มแก้วเดียว เพราะไม่ชอบมีทบอลเลยสักนิด ( และไม่เคยคิดที่จะกินด้วย )

    "เทอไม่หิวเหรอ" กึนซอกถามและเงยหน้าขึ้นมองชั้น

    "ชั้นไม่อยากกินมากน่ะ เมื่อกี้กินมาแล้ว"

    "ลดหุ่นอีกแล้วล่ะสิ เทอน่ะผอมมากจนไม่ต้องลดแล้วรู้มั้ย ต้องกินเยอะต่างหาก" 

    ว่าแล้วเค้าก้อสั่งอาหารแทนชั้น กึนซอกสั่งสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ากับขนมปังกระเทียมให้ตัวเอง และสั่งพาสต้าใหชั้น พอบริกรคนนั้นเดินไปแล้ว ชั้นเลยพูดขึ้นมาว่า

    "เทอรู้มั้ยว่าร้านนี้อะไรก้อไม่อร่อยสักอย่าง ชั้นไม่กินหรอกนะ พาสต้านั่นน่ะ" กึนซอกไม่พุดอะไร เค้าเอาแต่ยิ้มอย่างเดียว ชั้นรู้ว่ามันเป็นเพราะเค้าดีใจที่ชั้นยอมมาเจอเค้าวันนี้

    "ได้ยินว่าเทอลงทุนเปิดคลับกับอูฮยอนเหรอ" แล้วจู่ๆเค้าก้อพูดขึ้นมาโดยที่ชั้นไม่ทันตั้งตัว ชั้นหันไปมองเค้า ทบทวนคำถามในหัว ก่อนจะพยักหน้า

    "อืม"

    "มันจะดีเหรอ"

    "หมายความว่าอะไร"  กึนซอกมองหน้าชั้นคล้ายจะพูดว่า รู้แล้วยังจะถามอีก

    ใช่ ชั้นรู้ว่าทำไมเค้าถึงถามอย่างนั้น แต่ชั้นแกล้งทำเป็นไม่รู้ เพราะถ้าพุดเรื่องนี้ขึ้นมา ชั้นก้อต้องนึกถึง เค้าคนนั้น ที่อยากจะลืม

    "เทอก้อรู้ว่าพัคอูฮยอนเป็น้องของ..."

    "อย่าพูดนะ ถ้าพูดออกมาชั้นจะกับเดี๋ยวนี้แหละ" กึนซอกหุบปากลงทันที สีหน้าของเค้าเปลี่ยนไปเป็นบูดบึ้ง เราไม่พูดอะไรกันอีกเลย จนกระทั่งอาหารมาเสริฟ์

    ชั้นตักพาสต้าชิมคำนึง แหวะ มันไม่อร่อยจิงๆด้วย

    "ไม่อร่อยจิงๆด้วยแฮะ" กึนซอกเลื่อนจานสปาเก็ตตี้ของเค้าออกห่างเช่นกัน แล้วหยิบขนมปังกระเทียมมากิน

    "วันนั้น ที่เราเจอครั้งสุดท้ายเมื่อสองปีก่อน ชั้นพาเทอไปกินสปาเก็ตตี้ที่ร้านแครอล เทอจำได้มั้ย"

    "จำได้สิ"

    ชั้นคิดว่าตัวเองจะไม่มีวันลืมวันนั้นแน่ๆ วันนั้นชั้นกับมาเกาหลีเป็นครั้งแรกหลังจากไปเดบิวต์ออกอัลบั้มที่ไต้หวันได้หลายปี กึนซอกเพื่อนรักของชั้นที่เพิ่งจะเพิ่งเดบิวต์เป็นนักแสดงเช่นกัน โทรมาหาและชวนชั้นออกไปกินสปาเก็ตตี้ที่ร้านอร่อย

    และวันนั้นคนที่ชั้นคิดว่าเป็นเพื่อนมาตลอดสิบสองปี สารภาพรักกับชั้น ชั้นพูดอะไรไม่ออก ในขณะที่กึนซอกบอกว่าเค้าจะรอคำตอบให้ชั้นค่อยๆคิดไป แล้วค่อยตอบเค้าวันหลัง

    ตั้งแต่วันนั้นมา ชั้นก้อเลิกติดต่อกับเค้า กึนซอกเองก้อรู้ดีว่าทำไม เค้าถึงไม่พยายามติดต่อชั้น

    ชั้นเคยคิดว่าเค้าลืมไปแล้ว เพราะคิดว่ามันเป็นอารมณ์ชั่ววูบของเค้าเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าชั้นจะคิดผิด สายตาของเค้าวันนี้เหมือนในวันนั้นไม่มีผิด มันทำให้ชั้นรู้สึกอึดอัด

    "ผ่านมาสองปีแล้ว เทอยังไม่คิดจะตอบชั้นอีกเหรอ ฮเยยูน"  ถ้าชั้นตอบออกไป เทอจะไม่เสียใจใช่หรือป่าว แล้วเราจะเป็นเหมือนเดิมใช่มั้ย

    "การรอคอยมันเหนื่อมากนะ" สายตาของเค้าเปี่ยมไปด้วยความหวัง แต่ชั้นกับพูดถ้อยคำที่แสนจะเย็นชาออกมา

    "ถ้าเหนื่อยนัก ก้อไม่ต้องรอชั้นก้อได้"

    เพราะชั้นคงไม่มีคำตอบให้เทอ ชั้นไม่อยากทำร้ายเพื่อนรักของชั้นอีกแล้ว เพระฉะนั้นเทออย่ารอชั้นเลยนะ กึนซอก

    เมื่อตอนชั้นอายุสิบแปด ก้อเคยมีคนพุดแบบนี้กับชั้น เค้าบอกชั้นว่า 

    ' ถ้าเหนื่อยนักก้อไม่ต้องรอชั้นก้อได้ ' 

    ก่อนจะเดินจากไป และชั้นก้อตัดสินใจว่าจะไม่รอเค้า เพราะตอนนั้นชั้นเจ็บปวดมากเหลือเกิน และก้อเหนื่อยกับการที่ต้องอยู่ข้างเค้าที่ไม่เคยมีชั้นอยู่ในหัวใจ

    ความสัมพันธ์ของเราสองคนถูกเก็บเป็นความลับ เค้าไม่เคยบอกคนอื่นว่าชั้นอยู่ข้างกายเค้าในฐานะอะไร ชั้น ที่ตอนนั้นยังเด็กมาก ไมอาจทนต่อความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนได้ จึงตัดสินใจปล่อยมือจากเค้า และเลือกอนาคตที่กำลังรออยู่ข้างหน้า

    เสียงโทรศัพท์ดึงชั้นที่กำลังจมอยู่ในความทรงจำออกมา ชั้นหยิบมันขึ้นมาดู ที่หน้าจอขึ้นชื่อของพัคอูฮยอน เพื่อนอีคนนึงของชั้นที่เพิ่งจะลงทุนเปิดคลับด้วยกัน สงสัยเค้าโทรมาเพระเรื่องคลับแน่ๆ

    "หวัดดีอูฮยอน"

    ( ติดต่อเทอนี่มันยากเย็นจิงๆเลยน้า พัคฮเยยูน )

    "ชั้นมีงานต้องทำนี่ ไม่ได้มีเวลาว่างมารับโทรศัพท์ทั้งวัน โทรมานี่มีอะไรฮะ"

    ( ก้อเรื่องคลับน่ะสิคับคุณหุ้นส่วน เทอเองก้อเป็นเจ้าของที่นี่เหมือนกันนะ ไม่คิดจะเข้ามาดูบ้างหรือไง )

    "ไว้อีกวันสองวันก้อแล้วกัน ช่วงนี้ชั้นมีซ้อมทุกวันเลย" 

    อันนี้ชั้นโกหก พวกเราว่างกันสุดๆเพราะยัยแองเจล่ายังถ่ายละครอยู่ที่ไทเป ตารางงานและแผนการโปรโมตซิงเกิ้ลใหม่ทั้งหมดจึงต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน และก้อไม่ประโยชน์ที่จะซ้อม ในเมื่อไม่มีนักร้องเสียงหลักของวง

    ( เทอออกมาวันนี้เลย พัคฮเยยูน ไม่อย่างนั้นชั้นไปลากเทอถึงบ้านแน่ๆ ) ปิ้ป พัคอูฮยอนวางสายใส่ชั้น ไอ้บ้านี่ ทำไมต้องบังคับกันด้วยเนี่ย คนยิ่งขี้เกียจอยู่ด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×