ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tale of Another world ตำนานบทใหม่ที่ต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #9 : เรียนรู้การเอาตัวรอด 3

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 59


    เรียนรู้การเอาตัวรอด 3


     
        เวลาสามเดือนโดยประมาณหลังจากที่มีการจุติครั้งที่สาม ผมที่ใช้ชีวิตในป่าเพื่อหาทางออกจากที่นี่ไปวัน โดยอาหารที่ขโมยมาจากพวกลิงก็เริ่มหมดลง แต่คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะตอนนี้ผม เริ่มล่าสัตว์มาเป็นอาหารได้มากขึ้นแล้ว

       ดูเหมือนการเอาชีวิตรอดจากที่นี่ ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจแต่ถึงยังไง ผมก็รู้ว่าไม่ควรเสียตัวตนไปกับสิ่งที่เข้ามาใหม่ เพียงแต่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เท่านั้น ส่วนในหน้าต่างสถานะเองหลังจากมีการจุติคั้งที่สาม ดูเหมือนจะมีความเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร

      {{สถิรพงษ์ วิริยะกุล}} (แพนเจีย) (ชาย)

     

    เผ่าพันธุ์ : ยอดมนุษย์ระดับกลาง

    อาชีพ : คนป่า       อายุ : 17        เลเวล : 1*

    พลังเวท : 45000

    พลังโจมตี : 45000

     พลังป้องกัน : 45000

    ความว่องไว : 50000

    พลังโจมตีเวท : 45000

    พลังป้องกันเวท : 45000

    โชค : 45000

    อุปกรณ์สวมใส่ : เสื้อนักเรียนปุปะ  กางเกงสแลคปุปะ  รองเท้าผ้าใบขาดๆ กางเกงในที่ได้รับการล้าง  

    ทักษะ : เข้าใจทุกภาษา  กลืนกินสัมบูรณ์ ภูมิคุ้มกันสมบูรณ์  จดจำสมบูรณ์ สัญชาตญาณ  อำพราง  วางแผน  มองเห็นในความมืด จิตสัมผัส

     สกิล :  ตรวจสอบขั้นสูง  ก้าวพริบตา  เพลงหมัดวานร ปรุงยา ประดิษฐ์  ซ่อมแซม   กงเล็บพิฆาต    ระบำหอกไม้ขั้นสมบูรณ์ จุดไฟ

    เวทมนตร์ : เวทลมสมบูรณ์ 

    สถานะ :  จุติ*7


    <เงิน : 823,720,540,000 G>


       ส่วนมากเป็นการเพิ่มจากการใช้ชีวิตประจำวันและต่อสู้กับสัตว์และมอนสเตอร์ สิ่งที่มักจะเพิ่มขึ้นมาคือ เงิน ซึ่งไร้ประโยชน์มากในป่าแห่งนี้(T-T) orz แต่มันดันเพิ่มมาเรื่อยๆทุกครั้งที่ล่าได้ อยากให้มีเซเว่น...ติ๊ด.. ในป่าจัง จะได้ซื้อของกินเลย เหนื่อยล่าแล้ว 


      ส่วนรองลงมาคือ ค่าสถานะ ใช่ มันเยอะมาก สำหรับเลเวลหนึ่ง มากพอที่จะตบเกรียนกับบอสได้เลยมั้ง (แต่ก็ไม่เคยลองเพราะเจอทีไร ผมก็หนีออกมาก่อนทุกที) แต่พอมองหน้าต่างค่าสถานะทีไร ก็คิดถึงเพื่อนๆที่โรงเรียนโดยเฉพาะกลุ่มของผม มีกันแค่หกคนเท่านั้น แต่ถ้าได้อยู่โลกนี้สักวันเราคงได้เจอกันแน่นอน


      เอาล่ะ ผมว่าเลิกคิดถึงเรื่องหดหู่ มาดูทักษะกับสกิลที่ได้มาเพิ่มดีกว่า


      <สัญชาตญาณ>

    รับรู้ถึงภัยที่กำลังมาถึง และตอบโต้กับภัยที่กำลังเกิดขึ้น 


      <วางแผน>

    รู้จักการวางแผน


      <มองเห็นในที่มืด>(ได้จากการล่าสัตว์ในตอนกลางคืนติดกันเป็นสัปดาห์)

    สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้ในความมืด


      ของทักษะก็มีประมาณนี้สำหรับคำอธิบาย แต่ก็ไม่เห็นว่าคำอธิบายจะบอกถึงคุณนะประโยชน์เลยมี แต่ต้องเอาไปคิดเอาเอง แต่บางอันเนี่ย (-_-!) ไม่บอกก็ได้มั้ง 


      ส่วนสกิลเนี่ย ที่ดูจะมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร เพราะมันมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่าง


     <ตรวจสอบ> >>> <ตรวจสอบสมบูรณ์> 


      เพราะดูเหมือนทักษะหรือสกิลบางอันก็มีลำดับขั้นเหมือนกันโดย


    <ปกติ> คือ ไม่มีอะไรต่อท้าย เป็นขั้นพื้นฐานแบบพอใช้ได้แต่ไม่เชี่ยวชาญมาก

    <กลาง> คือ มีคำว่าขั้นกลางต่อท้าย ถือว่ามีความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้น แบบใช้ได้รวดเร็วและมีความแม่นยำสูง

    <สูง>  คือ มีคำว่าขั้นสูงต่อท้าย มีความเชี่ยวชาญของผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น สามารถเอาไปพลิกแพลงกับทักษะหรือสกิลอื่นได้ ในขั้นต้นเพื่อความต่อเนื่องในการใช้

    <ปรมาจารย์> คือ มีคำว่าเชี่ยวชาญต่อท้าย โดยขั้นนี้จะสูงกว่าขั้นสูงตรงความพลิกแพลงและความต่อเนื่องเพิ่มขึ้นมาอีกระดับ

    <master> คือมีคำว่าสมบูรณ์หรือสัมบูรณ์ต่อท้าย โดยขั้นนี้เรียกได้เชี่ยวชาญสูงสุดแทบจะเรียกว่าทักษะหรือสกิลแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกับลมหายใจเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทำงานโดยธรรมชาติ เพียงแค่คิดเท่านั้น


     เอาหละจบการอธิบายเสริมเพียงเท่านี้ ถึงเวลาไปแล้ว หา... ยังอธิบายไม่หมดเลย คุณจะสงสัยอะไรกันขนาดนั้นก็ได้คับเดี๋ยวผมอธิบายต่อก็ได้อย่างย่อๆ


       <ประดิษฐ์>กับ<ซ่อมแซม> ได้มาจากการที่ผมสร้างหอกไม้ทำเองนี่แหละกับลองเย็บเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ของตัวเองไงคับ ถึงแม้จะดูไม่ได้อยู่ก็เถอะแต่ช่วยให้สภาพมันดีขึ้นบ้างล่ะนะ


       <ระบำหอกไม้สมบูรณ์> ผมก็สร้างขึ้นเองนะสิ จากการที่เบื่อในช่วงที่ผ่านมาก็เลยมาลองทำขึ้นสุดท้ายก็สำเร็จ ทำให้ได้รู้ว่าโลกนี้เราสามารถสร้างทักษะหรือสกิลขึ้นเองก็ได้ เพียงแต่เราต้องทำท่าซ้ำๆ จนเกิดความแม่นยำพอจึงสามารถบันทึกลงทักษะหรือสกิลได้  


      เอาหละจบแล้วนะ ที่นี้ไปทำอย่างอื่นบ้างนะคับ 


       ในวันนี้ก็จะเป็นเวลาเหมือนเคยที่ผมจะออกล่าอย่างทุกที โดยผมจะไปล่าสัตว์ในทุกวัน จะเว้นในคืนพระจันทร์เต็มดวงกับพระจันทร์ดับ เพราะสองวันดังกล่าวนั้นจะล่าสัตว์ไม่ค่อยจะได้ ทำไมเหรอ ก็เพราะ สองวันที่ว่ามีไอ้บอสหมาป่าขาวกับไคจู มาสู้กันจนสัตว์ในป่าพากันหายไปหมด ผมเองก็ต้องซ่อนตัวเหมือนกัน เป็นอย่างนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา 


       แต่ไม่รู้ทำไม วันนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ว่านี่ แต่มันสองตัวกับเข้ามาบู้กันตอนนี้ฟะ โดยที่ข้างหน้าของผม เป็นสัตว์ยักษ์สองตัวกำลังเข้ามาห่ำหั่นกันอยางดุเดือด ส่วนตัวผมที่หลบด้านล่างกับการใช้<อำพราง>หลบอยู่ใต้ต้นไม้ห่างจากบริเวณที่สู้กันไม่มากนัก 


       แต่นอกจากวันเวลาต่างจากทุกทีแล้ว ผมรู้สึกถึงอะไรบ้างอย่างที่แตกต่างไปจากคราวที่แล้วที่ผมมาดู และดูเหมือนความรู้สึกแปลกนี่จะมาจากไอ้ตัวไคจูนั่นแต่ไม่รู้คืออะไร จึงได้แต่มองการต่อสู้ครั้งนี้ต่อไป


        เริ่มจากราชันย์หมาป่าขาวพุ่งตัวเข้าชนใส่ไคจูนั่น(สรุปมันชื่อไคจู ไปแล้วใช่มั้ย)ด้วยความเร็ว แต่มันที่่เตรียมไว้ก่อนแล้ว เห็นคู่ต่อสู้เข้าใกล้ระยะ ก็จัดการใช้หางที่มีลักษณะเหมือนหางของแมงป่อง ตวัดเข้ากระแทกที่หน้าของหมาป่าเต็มที่ จนทำให้หมาป่ากระเด็นไปอีกทาง แล้วก็สะบัดหัวอย่างมึนงง ก่อนที่ลุกขึ้นมาแล้วกระโจนเข้าใส่ไคจูอีกครั้ง โดยลอยตัวให้สูงกว่าระยะของหางของคู่ต่อสู้ 


        ทำให้ไคจูที่ไม่คิดว่าศัตรูของตนจะฟื้นตัวเร็ว จึงชะงักตัวไปทำให้จังหวะที่จะเคลื่อนตัวหลบช้าเกินไป ถูกหมาป่ายักษ์ขึ้นมาค่อมบนหลังของตน ก่อนที่ราชันย์หมาป่าจะกดน้ำหนักลงที่บนหลังของมัน จนต้องทิ้งตัวติดกับพื้น ทำให้ตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ  


        แต่ก่อนทีราชันย์หมาป่าขาวจะได้ทำอะไร ศัตรูของมันก็ได้ใช้หางของมันทิ่มลงมาที่ตัวของมันที่กดมันลงอยู่ ทำให้มันได้แต่ต้องหลบออกไปจากบนตัวของศัตรู

       ทำให้ศัตรูสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง ด้วยความสงสัยของผมว่าทำไมมันต้องหลบออกมาห่างพอสมควร  แต่ดูเหมือนคำตอบจะได้อย่างรวดเร็วเพราะ ไคจูตวัดหางที่เหมือนแมงป่องออกไปจนเดินต้นไม้บริเวณด้านหลังของมัน ภาพที่ผมเห็นก็คือ ต้นไม้เหล่านั้นค่อยแห้งตาย กลายเป็นสีดำแล้วสลายตัวไป ในบริเวณนั้น


       วอท มีพิษด้วย..... 


       แถมยังแรงขนาดทำลายพืชได้เลย..... 


       ตูโดนไปทีนี่ ไม่เฝ้ายมบาลหรือไง......


       หลังจากนั้นตกใจกับพิษอันรุนแรงของไคจูทำให้ผมรู้ว่าผมจำเป็นต้องคอยระวังเหมือนไม่สามารถยืนดูเฉยๆได้ ผมถอยหลังออกมมาเพื่อเพิ่มระยะห่าง และคอยตามดูการต่อสู้แต่ 


       การต่อสู้ต่อจากนั้นดูจะทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับแต่ดูเหมือนฝ่ายที่เสียเปรียบะเป็นเจ้าไคจูเพราะว่าราชันย์หมาป่าจะค่อยๆตอดที่ละเล็กทีละน้อย แล้วหลบออกมาก่อนที่หางจากศัตรูจะได้เข้ามาถึงตัวมัน 


       จนในที่สุดเจ้าไคจูดูจะเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำก่อน โดยมันที่พยายามตามความเร็วของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่ทัน  ทำให้มันหมดแรงล้มลงไปก่อน


      เมื่อราชันย์หมาป่าขาวเห็นดังนั้นจึงคิดจะปิดฉากทันที แต่ก็ไม่คิดที่จะเข้าไปจัดการใกล้ แต่ได้รวบรวมพลังไว้ที่ปาก ก่อนที่จะอ้าปากออกมาเตรียมจะปล่อยลำแสงสีขาวออกมา ในจังหวะที่มันรวบรวมอยู่นั่นเอง ความสัญชาตญาณบอกผมว่ายังไม่จบลงแค่นี้


       ก่อนที่ผมจะหันไปมองทางด้านไคจูที่ล้มอยู่ โดยมีรอยแผลเล็กน้อยตามตัวของมัน แต่จากสีหน้าของมันทีผมเห็นไม่ได้รู้สึกถึงความคิดที่ว่าแพ้หรือจะตายเลย มีแต่ความมั่นใจ


      แล้วผมจึงหันไปมองรอบๆพื้นที่ต่อสู้ ก็เข้าใจได้ทันที เพราะที่ด้านตรงข้ามกับจุดที่ผมอยู่ มีก็อบลินสองสามตัวยืนอยู่ โดยในมือของมันมีของที่เหมือนกับหน้าไม้ที่ขึ้นลำเรียบร้อยแล้วกำลังเล็งไปที่หมาป่าสีขาว 


      เฮ้ย ในมอนสเตอร์ก็มีการร่วมมือกันด้วยหรือฟะ......


      นึกว่ามีแต่มนุษย์ซะอีก ....


      คงต้องของเข้าไปแจมบ้างแล้วฟะ .....


      แล้วผมก็เคลื่อนตัวอ้อมไป เพื่อไปยังอีกฝั่งที่มีก็อบลินอยู่ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ทันเพราะขณะที่ผมวิ่งมาได้ครึ่งทาง ก็เห็นก็อบลินทั้งหมดยิงหน้าไม้ออกไปใส่หมาป่าเรียบร้อยแล้ว 

       

       เมื่อลูกศรของหน้าไม้ที่ยิงออกไปพุ่งเข้าไปยังบริเวณขาทั้งสองข้างอย่างละลูกและที่ลำตัวของราชันย์หมาป่าขาวอีกหนึ่งลูก ทำให้ราชันย์หมาป่าขาวที่รวบรวมพลังอยู่ ถึงกลับสะดุด แล้วปล่อยลำแสงสีขาวไปยังด้านหน้าแต่เฉทิศไป ทำให้ไม่โดนเจ้าไคจูที่นอนอยู่ ก่อนจะล้มลงไปทันที จากที่ผมคาดไว้ลูกศรของหน้าไม้นั่นคงจะมีพิษอยู่แน่นอน  แถมรุนแรงเสียด้วย 


      ทำให้ผมรีบพุ่งตัวไปยังบริเวณด้านหลังของพวกก็อบลินที่ยังคงยืน แสยะยิ้มส่งเสียงแปลกๆออกมา ทันทีที่ผมมาถึงด้านหลังพวกมันก็ตวัดหอกไม้ในมือด้วยความเร็วไปยังบริเวณจุดตายของพวกมันทั้งหมดคือกลางหัว 


      จากนั้นพวกมันก็ล้มลงแล้วสลายเป็นแสงเข้าตัวของผม พร้อมกับทิ้งของดรอปออกไว้ที่พื้นผมจึงใช้ไอเทมบ๊อคเรียกเก็บไว้อย่างรวดเร็ว 


      แล้วหันไปมองตัวไคจูที่ตอนนี้ลุกขึ้นมายืนในสภาพที่ฟื้นตัวแล้ว ก็เข้ามายังจุดที่ราชันย์หมาป่าขาวล้มอยู่ จากนั้นก็ทำการลงมือทำร้ายอีกฝ่ายที่ล้มอยู่อย่างเต็มที่ โดยอีกฝ่ายไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย 


      ส่วนตัวผมก็ยืนกัดฟันด้วยความโมโหอย่างที่สุด เพราะสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดก็คือ การเล่นไม่ซื่อ และการทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้(คน?) มันทำให้ผมเห็นภาพที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมาซ้อนกับภาพตรงหน้า

     

       ก่อนที่ผมจะพุ่งตัวเข้าขวางการต่อสู้โดยเอาหอกไม้ในมือฟาดลงไปบริเวณหัวของไคจูตัวนั้น แล้วตีลังกาใช้เท้าสองข้าง ถีบลงไปยังหัวของไคจูเต็มแรง และด้วยค่าสถานะของผมตอนนี้นั้น

        เลยทำให้ภาพที่ปรากฏออกมาคือการกระเด็นไปข้างหลังของปิศาจยักษ์จนทำให้ต้นไม้ด้านหลังถูกโค่นลงเป็นบริเวณกว้าง ก่อนที่ผมจะหันกลับมาสนใจหมาป่าสีขาวด้านหลังของตน แล้วหยิบยาแก้พิษที่เคยขโมยมาจากแก็งลิง เอามาใส่ปากของราชันย์หมาป่าขาว 


      ตัวของมันที่เจ็บปวดจากพิษและการทำร้ายจากไคจู แต่ก็ไม่รู้ถูกใครช่วยเอาไว้ทำให้ มันจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมามองสิ่งที่เห็นคือ สิ่งมีชีวิตที่ยืนสองขาตัวเล็กกว่ามันมาก มาช่วยเอาไว้ แต่ด้วยความหวาดระแวงที่ในมืออีกฝ่ายพยายามเอาของบางอย่างเข้ามาในปากของตน มันจึงได้แต่ส่ายปากหลบจากมือของอีกฝ่าย 


       ผมที่พยายามป้อนยาแก้พิษที่ดรอปมาจากก็อบลินอยู่แต่ อีกฝ่ายก็ยังพยายามส่งเสียงขู่ใส่ผม ผมจึงรู้ว่ามันยังคงระแวงผมอยู่มั้ง ผมจึงได้เอามือลูบที่จมูกของมัน แล้วพูดกับมัน 


       " ใจเย็น ผมมาช่วยนะ ไม่ได้จะทำร้าย แค่ยาแก้พิษ"


      ดูเหมือนมันจะเข้าใจที่ผมพูด จึงเลิกเอาปากหลบแล้วก็งับเอาสมุนไพรในมือเข้าปากไป แล้วผมที่ยืนดูสักพัก จนราชันย์หมาป่าขาวค่อยๆลุกขึ้นมายืนได้ ถึงแม้จะยากเพราะบาดแผลตามตัวจำนวนมาก 


      ในที่สุดในก็ลุกขึ้นมาสำเร็จ ก่อนที่จะก้มหัวมาทางผม แล้วก็เอาลิ้นขนาดใหญ่ของมันเลียที่ใบหน้าของจนเปียก


      " เอาหล่ะ พอแล้ว มันจั๊กจี้ ฮ่าๆๆๆ" 


      " ที่นี้ แกกลับบ้านของแกไปรักษาตัวเถอะ " 


      เมื่อมันหยุดเลียหน้าผมแล้ว ก็ฟังที่บอกต่อจากนั้นก็หันไปมองทางร่างที่ไคจูนอนอยู่ ก่อนหันมามองผมแล้วหอนให้ แล้วค่อยๆหายเข้าไปในป่าทันที


      ผมที่กำลังจะเดินกลับไป แต่ก็ต้องหยุดเหมือนไอ้สัตว์ประหลาดไคจู มันดันลุกขึ้นก่อนจะมองมาที่ผม ราวกับเป็นศัตรูคู่แค้นกันมา ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าใส่ผมอย่างรวดเร็ว ผมที่หลบไม่ทัน จึงโดนกระแทกเต็มแรง ชนต้นไม้ไม่รู้กี่ต้น


      ไคจูที่พุ่งเข้าใส่ผมแล้ว ลากผมที่อยู่ตรงหน้าไปกระแทกกับต้นไม้เป็นทางยาวจนเกือบถึงหน้าผาสูง ที่ด้านล่างเป็นแม่น้ำอยู่หมายจะให้ผมตกลงไปข้างล่างนั่น


      ส่วนตัวผมที่เริ่มประคองสติกลับมาได้ ก็เอาหอกไม้ในมือ แทงไปยังหัวของมันตรงเหนือดวงตาของมันอย่างแรง จนหอกไม้ในมือทะลุเข้าไปในหัวของครึ่งท่อนในทีเดียว 

      จนทำให้มันที่เจ็บปวดไม่ได้ผ่อนความเร็วลง พุ่งลงหน้าผาไป ส่วนผมที่ออกแรงไปมาก ก็กำลังล่วงลงไป แล้วใช้แรงที่เหลืออยู่พุ่งสวนขึ้นไปแล้ว กระแทกไม้ที่ปักหัวมันให้ตอกเข้าไปลึกกว่าเดิมจน ในที่สุดไคจูนั่นก็ตายลง สลายกลายเป็นแสงเข้าสู่ตัวผม พร้อมกับไอเทมที่ล่วงตามลงมา 


       "เป็นไง ชอบมั้ยไม้อันนี้ที่หัวแก" ผมบอกด้วยความสะใจออกมา


        แล้วผมจึงใช้ไอเทมบ๊อคดูดทั้งหมดมาเก็บไว้ เหลือเพียงแต่ลูกแก้วสถานะที่ดูเหมือนจะใช้ง่ายเลย ถูกหลอมเข้าตัวผม แล้วผมก็ตกลงไปในแม่น้ำ แต่ก็ไม่มีแรงพอที่จะว่ายน้ำไปขึ้นฝั่ง จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ก่อนที่จะไหลไปตามกระแสน้ำแล้วกระแทกเข้ากับโขดหิน ตามน้ำแล้ว สลบไปในที่สุด (ยังจะซวยในตอนท้ายอีก)



    .................................................................................................................


    เสร็จแล้วสำหรับตอนนี้ 5555 อารมณ์กำลังมาเลยตอนนี้ 

    ตอนต่อไปขอเปลี่ยนบรรยากาศจากป่าไปที่อื่นบ้าง เพราะผมเริ่มจะไปป่าไม่เป็นแล้ว

    ตอนต่อไปอาจจะตามมาตอนเย็นถ้าว่างครับ


    ปล. ดูคำผิดให้ผมด้วยนะครับ ถ้ามีอะไรตกหล่นไปเมนท์บอกได้นะจ๊ะ

    ปล2. ถ้าชอบ อย่าลืมให้เรตติ้งนิยายนิดหนึ่งนะครับผม


    1 คอมเมนท์ = 1 กำลังใจ 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×