ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tale of Another world ตำนานบทใหม่ที่ต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #7 : เรียนรู้การเอาตัวรอด

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 59


     เรียนรู้การเอาตัวรอด 


      อืม..... 

    "หาว" 

    " มึนหัวชะมัด ".........


     หลังจากที่ผมรู้สึกตัวขึ้นมา ดูเหมือนสติจะยังกลับมาไม่เต็มที่ ทำให้ที่ยังรู้สึกมึนหัวอยู่ต้องมายันตัวขึ้นมานั่งเรียกสติและทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนจะสลบเมื่อกี้

       อืม....... 


    เราอยู่ในถ้ำ..

    เราหาทางออกมาด้านนอก....

    เรา....สงคราม..ลิง..หมา 

    ระเบิด....

    " โอ๊ยปวดหัว ค่อยๆนึกไปแล้วกัน " 

    หลังจากที่ผมปล่อยความคิดไปแล้วเริ่มยืนขึ้นแล้วสำรวจสถานที่ที่ตนอยู่ ไม่มีอะไรมากก็แค่ใช้สกิลตรวจสอบ พร้อมกับ สังเกตรอบๆตัว สิ่งที่สกิลตรวจสอบแสดงให้เห็น

    {{ป่าโศกศัลย์แห่งความคะนึง}}(ดันเจี๊ยน)

     "อืม ขึ้นมาได้แล้วสินะ" 

     ก่อนจะมองไปทางด้านหลังซึ่งปรากฏเป็นภาพที่เห็นเป็นกองหินขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนพึ่งถล่มลงมา ราวกับมีแผ่นดินไหว และบริเวณโดยรอบมีความเสียหาย(นะ)กระจายไปทั่ว

      " เอื๊อก ดูเหมือนจะหนักมือไปหน่อยแหะเรา " 

       หลังจากที่ตรวจสอยสภาพรอบๆตัวเสร็จแล้ว คราวนี้ก็สำรวจร่างกายตนเองต่อไป โดยเสื้อผ้ามีรอยขาดหลายแห่ง แต่ตามร่างกายกับไม่มีบาดแผลให้เห็น จึงทำให้ผมโล่งใจไปได้ ถึงแม้เสื้อผ้าจะอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่า เละ 

      เพราะเสื้อนักเรียนสีขาวแต่ตอนนี้ไม่สามารถบอกถึงสีของเสื้อตอนแรกได้เลย  ส่วนกางเกงสแลคที่ใส่อยู่ก็ต้องเรียกว่าเปลี่ยนไปมากเพราะบริเวณปลายขากางเกงขาดออกเป็นริ้วๆ  เนื่องจากร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ ต้องรัดกางเกงให้แน่นขึ้น ส่วนที่่พอดูได้ที่เห็นคงจะเป็นรองเท้าที่ใส่มา ที่ทนทานพื้นไม่เป็นรูเพียงแต่มีรูระบายอากาศรอบๆเท่านั้น  

      " ชุดยังรอดไปจนเราหาทางออกได้มั้ยเนี่ย " สภาพผมคงเรียกว่านักเรียนจรจัดมาก (T*T)

      เมื่อสำรวจสภาพตัวเองและรอบๆหมดแล้ว ความกังวลก็หายไป(เหลือก็แต่ความสมเพชตัวเอง(-_-!)) ทำให้เกิดอาการท้องหิวขึ้นมาทันที  ไม่รู้หลับไปนานแค่ไหนแล้ว จึงเริ่มเปิดไอเทมบ๊อคขึ้นแล้ว เริ่มหาของกินที่เอามาเก็บไว้

    (ไรท : หาเหรอ?  ได้ข่าวว่าไปจิ๊กของพวกลิงมาไม่ใช่เหรอ)

    (แพนเจีย : เหมือนกันแหละ ก็แค่เจอแล้วเอาเก็บไง )

    (ไรท : (*__*!) เออ เอาที่ท่านสบายใจเลย )

     แล้วเลือกเอาผลไม้ในนั้นมาหลายอย่างมากินจนอิ่ม เมื่ออิ่มท้องแล้วก็ได้ว่าทำเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ตอนแรกเลย คือ ออกจากป่าแห่งนี้ให้ได้(เหรอ?) แต่ตอนนี้ก่อนอื่นผมคงต้องหาทางเอาตัวรอดไปเรื่อยๆแล้วก็หาทางออกจากที่นี่ไปด้วย จากนั้นผมก็ลุกขึ้นยืนแล้ว เดินจากบริเวณนี้ไปอันดับแรกเพื่อหาสถานที่จะให้ผมสามารถอยู่ได้อย่างอันตรายน้อยที่สุด 

      หลังจากเดินออกมาได้สักพัก ซึ่งตลอดทางมีแต่ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ทั้งที่เคยเห็นและไม่เคยเห็นมาก่อน สมกับเป็นป่าจริงๆ(ก็เป็นป่านะสิ) สิ่งที่ผมคิดไปมาระหว่างเดินแล้วสรุปออกมาคือ ที่นี่ทักษะจะได้มาต่อเมื่อปฎิบัติตรงกับเงื่อนไขจนเข้าใจอย่างแน่นอนจึงจะสามารถใช้ได้ หรือเรียนรู้จากคนอื่น สินะ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า เราสามารถสร้างสกิลขึ้นเองได้แน่นอน แต่ในระหว่างที่ผมเดินไปพร้อมกับคิดอะไรเพลินๆอยู่ ก็มีเสียงแว่วดังมาจากไกล ด้วยความระมัดระวังผมจึงรีบปีนขึ้นตนไม้ที่ใกล้ตัวก่อนจะค่อยๆกระโดดไปมาระหว่างต้นไม้เพื่อไปในทิศทางที่คาดว่ามีเสียงแว่วมา 

      จนกระทั่งเริ่มได้เสียงชัดขึ้น ดูเหมือนจะมาถูกทางแหะ เมื่อใกล้เข้าไปจนถึงบริเวณภาพที่เห็นคือแม่น้ำที่ใสสะอาด ซึ่งตรงบริเวณแม่น้ำมีมอนสเตอร์หลายตัวกำลังดื่มน้ำจากแม่น้ำอยู่ 

      " โชคดีแหะ เจอแม่น้ำ แต่ดูเหมือนตรงอันตรายเกินกว่าที่จะใช้อยู่ได้"

     ดังนั้นผมจึงคิดจะย้อนศรขึ้นไปทางด้านบนของแม่น้ำเพื่อมีที่ปลอดภัยใกล้แม่น้ำให้พอใช้พักได้ ผมจึงเริ่มปีนป่ายไปตามต้นไม้เพื่อย้อนศรแม่น้ำขึ้นไป โดยส่งเสียงให้น้อยที่สุด  เพื่อไม่ให้มอนสเตอร์ที่อยู่ข้างล่างรู้ตัว 

       ทำให้ผมค่อยข้ามอย่างช้าๆทีละต้น แล้วก็จับตาดูพวกมอนสเตอร์ด้านล่างไปด้วย จนกระทั่งผมเลยออกมาจากบริเวณนั้นได้พอสมควร ขณะที่พักหายใจอยู่บนต้นไม้สักครู่ก็เสียงแจ้งดังในหัวอีกครั้ง

      <<คุณเรียนรู้<อำพราง>แล้ว>>

        เมื่อได้ยินดังนั้นผมจึงรีบตรวจสอบทักษะที่ได้มาใหม่ทันที

    <อำพราง>

     สามารถใช้ปกปิดตัวตนจากการรับรู้ของศัตรูได้

     
     " ขอบคุณพระเจ้า ตั้งแต่มาอยู่พึ่งได้อะไรที่ปกติสักที  "

        ผมดีใจจนน้ำตาไหลออกมาเพราะตั้งแต่มาเนี่ยพึ่งได้ทักษะปกติที่คำอธิบายไม่ต้องตบมุขเล่นกับตัวเองสักที หลังจากดีใจอยู่สักพัก ผมก็ได้มุ่งหน้าไปตามความตั้งใจอีกครั้งโดยสำรวจหาพื้นที่ปลอดภัยตามเส้นทางน้ำไปเรื่อยๆ 
       
       จนในที่สุดผมก็ได้เจอที่บริเวณหนึ่งใกล้ๆริมแม่น้ำแถมมีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่ด้วย ผมจึงตัดสินใจเลือกบริเวณนั้นทันที 

      เมื่อผมลงจากต้นไม้มาถึงบริเวณที่เล็งไว้ มองรอบๆนั้นต้องยอมรับเลยว่าสวยกว่าที่เห็นข้างบนอีกแถมยังมีเนินดินบังสายตาจากภายนอกอีก แสดงว่าปลอดภัยพอสมควร จากนั้นผมจึงตัดสินใจจะใช้ที่นี่เป็นจุดหลบภัยก่อนเลย 

      จากนั้นผมจึงเริ่มเก็บรวบรวมกิ่งไม้ที่ตกอยู่ตามพื้นบริเวณนั้นเพื่อมาใช้จุดไฟก่อนเลย หลังจากรวบรวมได้พอสมควรก็มาถึงวาระจุดไฟสินะ 


      " เริ่มจุดไฟเลย " แล้วก็ผมจะเริ่มจุดไฟทันที.....

    3 ชั่วโมงผ่านไป

      "แฮก แฮก จุดไฟติดสักที " 

      จากนั้นผมก็ล้มตัวลงอย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่ตรงบริเวณข้างกองไฟที่พยายามจุดขึ้นมา โดยใช้แรงกับสมาธิในการจุดไฟอยู่นานทีเดียว 

      " ทำไมตอนเรียนลูกเสือ อาจารย์จุดอย่างง่ายเลย ตอนเราทำเองโคตรยากเลยฟะ "

      ผมที่ได้แต่นอนบ่นอยู่คนเดียว แต่ถึงอย่างน้อยก็จุดติดล่ะนะ ถึงแม้ว่าจะยากไปหน่อยก็เถอะแถมยังต้องคอยระวังไม่ให้ดับอีก  

      ในระหว่างที่ผมกำลังนอนพักอยู่ก็มีเสียงดังขึ้นในหัว มาขัดจังหวะการบ่นของผมพอดี

     <<คุณได้เรียนรู้<จุดไฟ>แล้ว>>

      เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมยินดีได้อีกครั้ง แสดงว่ารอบหน้าคงง่ายขึ้นกว่าครั้งนี้ ระหว่างที่ผมกำลังยินดีกับการได้สกิลพื้นฐานแบบปกติอยู่นั้น ก็มีเสียงดังราวกับฟ้าผ่าลงมา ตามมาด้วยการสั่นสะเทือนของพื้นดินเล็กน้อย  ทำให้ผมเกิดความสงสัยจึงรีบปีนต้นไม้ขึ้นไปดู  แล้วก็พยายามมุ่งไปทางต้นเสียงที่ยังดังอยู่เป็นระยะๆพร้อมกับการสั่นสะเทือนของพื้นที่ตามมา  เมื่อผม เดินทางมาได้สักครู่หนึ่ง ผมก็หยุดชะงักทันทีเมื่อหันหน้าไปทางต้นเสียงก็พบกับหมาป่าสีขาวขนาดยักษ์ตัวสูงเลยยอดไม้ขึ้นไปอีกกำลังต่อสู้กับสัตว์ที่รูปร่างคล้ายเต่ารวมกับแมงป่องที่ตัวพอๆกัน ฟัดกันไปมาสงสัยมีการแย่งอาณาเขตกันสินะ แต่ว่าสิ่งที่ผมควรทำเป็นอย่างแรกเลยก็คือ ใช้สกิลอำพราง เพื่อป้องกันการถูกเข้าใจว่าเป็นมือที่สาม(?) เข้ามาแทรกแล้วก็ค่อยใช้สกิลตรวจสอบตามทันที

    <สกอร์เทิล> lv. 750

    <ราชันหมาป่าขาว> lv. 766

     " แม่เจ้าโว๊ย นี่เรามาอยู่สงครามระหว่างมิเกะ*กับไคจูเหรอเนี่ย"
    (*มิเกะ มุกดักแก่สำหรับคนที่เคยอ่านHxH)

     ถึงแม้ว่าผมจะมั่นใจในสกิลอำพรางก็เถอะแต่การจะอยู่ดูก็ใช้ว่าจะปลอดภัย หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้ว ผมจึงคิดที่จะหลบออกไปแล้วกลับไปยังจุดหลบซ่อนของตน 
      
      แต่ในเมื่อผมที่กำลังจะหันหลังกลับไปนั้นดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเอาซะเลย เพราะในจังหวะนั้นเองอยู่ก็มีต้นไม้ลอยอยู่บนฟ้ากำลังพุ่งเข้าใส่ต้นไม้ที่ผมใช้ซ่อนตัวอยู่พอดี ทำให้ผมที่ไม่ทันเห็นต้นไม้นั้นโดนกระแทกใส่กิ่งไม้ที่ใช้ยืนอยู่เต็มๆ ก่อนจะกระเด็นตกไปใกล้กับบริเวณที่มีการต่อสู้ของสองสัตว์ประหลาดอยู่  ทำให้สองตัวนั่นหยุดการต่อสู้ เพื่อก้มดูบางสิ่งที่เข้ามาแทรกการต่อสู้ของพวกมัน 

      ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ผมนี่แหละที่โดนลูกหลงจนกระเด็นเข้าไป แต่ก็รีบยันตัวลุกขึ้นมาเพราะดูจากสถานการณ์แล้ว ถ้าช้ามักจะเป็นเรื่อง

      
      " เออ ขอโทษทีรบกวนนะ เชิญต่อกันตามสบาย "

      แล้วจากนั้นผมก็ออกฝีเท้าวิ่งหายเข้าไปในป่าทันที โดยทิ้งสองยักษ์นั่นไว้เบื้องหลังอย่างง แต่ก็เถอะนะ ดูเหมือนในเวลาไม่นานพอพวกมันตั้งสติได้ ก็พร้อมใจกันวิ่งไล่ผมทันที

      " ทำไมซวยจังฟะ ก็ขอโทษแล้วไง " 

      ผมหันกลับไปตะโกนบอกพวกมัน แต่ดูเหมือนพวกมันจะลดละความพยายามวิ่งไล่ผมมาโดยมีซากต้นไม้ที่ถูกทำลายตลอดทางไปด้วย 

      " โว๊ย เมื่อกี้ยังตีกันอยู่เลย ทำไมตอนนี้พร้อมใจกันแล้วล่ะคับ " 
       
       ผมที่ถูกวิ่งไล่ก็ปั่นเท้าเร่งความเร็วจนลืมความเหนื่อยล้าทั้งหมด เพื่อหนีจากการไล่ตามแต่ดูเหมือนทั้งสองตัวนั่นก็ไม่อยากให้ ผมรอดไปได้เช่นเดียวกันตามมาอย่างกระชั้นชิดอยู่ด้านหลัง 

      ผมที่อยู่ด้านจึงกระโดดเข้าพุ่มไม้ เพื่อบังสายตา ก่อนจะรีบอ้อมไปด้านหลังพวกมันแล้วซ่อนตัวรวมถึง ใช้<อำพราง>ไปด้วย ส่วนพวกมันที่ไม่เห็นผม ก็วิ่งไล่ต่อไปด้านหน้า ผมรอจนกระทั่งพวกมันเลยไปไกลแล้ว จึงเริ่มสำรวจรอบๆก่อนเพื่อความปลอดภัย 
     
       ด้วยความระแวงผมจึงหันซ้ายขวาไปมา ตลอดทางที่เดินกลับจุดซ่อนตัวและใช้<ตรวจสอบ> ไปด้วย รวมถึงคอยจับตามองจับสัมผัสการเคลื่อนไหวรอบๆ 

      จนในที่สุดผมก็มาถึงจุดซ่อนตัวสักที  ถึงแม้จะมาถึงผมก็ยังระวังภัยอยู่จนกระทั่งสำรวจรอบๆบริเวณแล้วว่าปลอดภัย จึงค่อยทิ้งตัวนั่งข้างๆกองไฟ 

     เมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ด้วยความผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้ามา ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงสายลมและสภาพรอบๆได้โดยที่ตาไม่ได้มอง สักพักก็มีเสียงดังในหัวอีกครั้ง


      <<คุณได้เรียนรู้<ระวังภัย>แล้ว>>

      <<คุณได้เรียนรู้<รับรู้>แล้ว>>

      <<คุณได้เรียนรู้<สัมผัสกระแส>แล้ว>>

      <<เนื่องจากคุณมีเงื่อนไขครบทำการหลอมรวม<ระวังภัย> <รับรู้> <สัมผัสกระแส>แล้ว>>

      <<คุณได้เรียนรู้<จิตสัมผัส>แล้ว>>

      เมื่อได้ยินเสียงประกาศในหัวผมจึงตรวจสอบสกิลที่ได้มาใหม่ทันที

      <จิตสัมผัส>

      สามารถแสดงภาพสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ในรัศมี 50 เมตร รวมถึงสิ่งมีชีวิตรอบตัวในระยะที่กำหนด 

      " ฮะ  ฮา ฮา ฮา แค่นี้ฉันก็พอจะอยู่รอดเพิ่มขึ้นสักหน่อยแล้วสินะ "

      ผมได้แต่หัวเราะดีใจอย่างที่สุด แล้วค่อยๆเอนตัวลงนอน ข้างๆกองไฟ ด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะค่อยๆหลับไปในที่สุด


    ............................................................................................................................................

    มาแล้ว ขอโทษด้วยคับที่หายไปนาน พอดีมีสอบช่วงหลังปีใหม่ แต่ลืมT_T ก็เลยต้องอ่านหนังสือใหม่ พึ่งสอบเสร็จเลยมีเวลามาลงให้ 55555

    ปล. อย่าฆ่าไรทเลยน้าาา (-/\-) แล้ว

    ปล2. ตอนต่อไปจะลงให้อีก 2-3 วัน สัญญาเบยยยย

     ขอบคุณเม้นท์ที่เป็นกำลังใจและข้อแก้ไขนะครับ  มีอะไรสามารถติชมได้ ไรทอ่านทุกคอมเม้นท์อยู่แล้ว 

     1 คอมเมนท์ = 1 กำลังใจ 


      

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×