ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tale of Another world ตำนานบทใหม่ที่ต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #38 : เหยียบเมืองหลวงก็วุ่นแล้วครับ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.1K
      27
      22 ก.พ. 59

    เหยียบเมืองหลวงก็วุ่นแล้วครับ





                หลังจากผ่านมาได้ประมาณสองสัปดาห์ หลังจากที่ผมออกมาจากหมู่บ้านที่คุณสเตล่ากับอาเนียอาศัยอยู่มุ่งหน้ามาเมืองหลวงของอาณาจักรเรการ์ด ส่วนเรื่องที่ผ่านมาเหรอ ไม่ต้องห่วงครับ กำลังจะเล่าให้ฟังแบบละเอียดเลย เริ่มจาก....

                วันที่ผมเอารถม้าไปรับทั้งคู่ที่หน้าบ้านของพวกเธอ  แล้วผมก็เรียกพวกน้องสาวลงมาจากรถเพื่อแนะนำตัวกัน โดยเริ่มจากผมต้องแนะนำคนฝั่งผมก่อนสินะครับ ตามมารยาทแล้วก็ต้องแนะนำเด็กให้ผู้ใหญ่ก่อน 

             " คุณสเตล่าครับ นี่พวกเธอเป็นน้องสาวของผมครับ ได้แก่ ดาเนีย ดาร่า และก็เฟียน่า ครับ "

               " ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ/ค่ะ/ค่ะ "

               " ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันจ๊ะ ฉันสเตล่า นี่ลูกสาวของฉันชื่อ อาเนียจ๊ะ "

               หลังจากที่ผมแนะนำพวกเธอแล้วก็กล่าวทักทายคุณสเตล่าพร้อมกัน ถึงแม้คุณสเตล่าจะดูตกใจที่เห็นเอลฟ์สาวสามคน แต่เธอก็ไม่เสียมารยาท พร้อมทั้งกล่าวแนะนำตัวเองกับอาเนียออกมา ดูเหมือนพวกเธอจะมีเรื่องที่ต้องคุยกันต่อ แต่ผมก็ห้ามเอาไว้แล้วบอกว่า

                " ผมว่าเอาไว้ไปทำความรู้จักกันด้านในรถดีกว่านะครับ "

               " ว่าแต่แพน รถม้าจะไม่เบียดกันเหรอ ถ้าพวกเราเข้าไปนั่งด้วย ยังไงก็ให้ ฉันนั่งกับนายด้านนอกก็ได้นะ "

               ผมที่ได้ยินคำพูดของอาเนียที่ถามผมออกมา ผมก็ได้แต่ยิ้มเพราะถึงภายนอกจะดูไม่ใหญ่มาก แต่ด้านในนะ คฤหาสน์ชัดๆ ผมจึงส่ายหน้าให้เธอเพื่อแสดงว่าไม่ต้อง แล้วบอกกับเธอว่า

               " ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวเธอเข้าไปในนั้นเธอก็จะรู้เอง บอกไว้ก่อนเลยว่าทุกคืนสาวๆก็จะนอนในรถม้ากัน "

               อาเนียได้แต่สงสัยในคำพูดของผม แต่เธอก็ไม่กว่าถามเพราะ ผมได้เดินไปขนของที่คุณสเตล่ากับอาเนียเก็บมาจากบ้านแล้วเปิดประตูเข้าไปในรถม้า แล้วเดิินหายไปสักครู่ ก่อนที่ผมจะเรียกอาเนียกับคุณสเตล่าให้เข้าไปในรถม้า แล้วพอพวกเธอเดินเข้ามาก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาทันที เพราะภายในรถม้าของผม กลับกว้างกว่าที่เห็นภายนอกมาก เหมือนบ้านเป็นหลังเลย แถมมีหลายห้องอีกตั้งหาก ผมจึงหันไปยิ้มให้พวกเธอพร้อมบอกว่า 

                 " ในนี้มีห้องว่างหลายห้องเรียกเอาตามสบายนะครับ "

               แล้วผมก็ออกไปข้างนอกแล้วบังคับม้าให้ออกเดินทางไปยังเมืองหลวงทันที ส่วนหน้าที่การอธิบายเรื่องต่างๆ ผมยกให้เป็นหน้าที่ของสาวๆในรถเป็นคนจัดการเองทั้งหมด เพราะผมคงอธิบายเองยากเหมือนกัน 

     
                หลังจากนั้นสักสองสามวันตั้งแต่ออกมาจากหมู่บ้านได้ ในตอนเช้าของวันหนึ่ง ผมที่เริ่มสอนฝึกให้น้องสาวทั้งสามคนของผม โดยให้พวกเธอออกไปจัดการล่าสัตว์กลับมาเป็นอาหาร โดยอาเนียอาสาจะไปช่วย ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เลยให้พวกเธอไปกันสี่คน เหลือแค่ผมกับคุณสเตล่า ที่ตอนนี้เองก็เริ่มจะดีขึ้นมากแล้ว เพราะจากการตรวจอาการ พบว่าร่างกายของเธอ เริ่มกลับมาฟื้นพลังเวทย์ได้เอง แสดงให้เห็นว่าคำสาปที่คอยกัดกินพลังเวทย์เริ่มหมดไปแล้ว ด้วยเวลาส่วนตัวอยู่กันสองคน ผมจึงเริ่มถามที่มาของคำสาปที่เธอโดนมา 

                 " คุณสเตล่าครับ อาจจะเป็นการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวไปหน่อย แต่ผมอยากทราบว่า คุณพอจะรู้มั้ยครับว่าตัวเองโดนคำสาปมา "

                 เมื่อผมถามออกไป สีหน้าของคุณสเตล่าก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ก่อนจะครุ่นคิดสักครู่ แล้วส่ายหน้าออกมา ก่อนจะพูดยืนยันซ้ำอีกครั้ัง

                 " ฉันเองก็ไม่รู้หรอก เพียงแต่ตอนที่ฉันไปเก็บ พืชผักในป่ามาทำอาหาร ตอนนั้นฉันไปเจอแท่นศิลาบางอย่างในป่า พอเอามีไปแตะ ก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมา หลังจากนั้น ฉันก็เริ่มป่วยเรื่อยๆ จนก็ทั้งมาเจอเธอที่รักษาให้หายเนี่ยแหละจ๊ะ "

                " งั้นตั้งแต่ตอนที่ป่วยนะครับ ผ่านมานานหรือยังครับ "

                " ก็ได้หลายปีแล้วล่ะ จนทำให้เด็กคนนั้นต้องมาลำบากคอยดูแล และทำงานหาเงินมาซื้อยารักษาให้ฉัน ทำเอาฉันรู้สึกผิดไม่น้อยเลย "

                 คุณสเตล่าก็พูดออกมา พลางมีสีหน้าเศร้าสร้อย คงเพราะตนเองทำให้ลูกไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เด็กคนหนึ่งควรจะได้รับ ผมเองก็คิดว่า มันไม่ใช่ความผิดของคุณสเตล่า หรอกเพราะทุกอย่างมันคงเป็นอุบัติเหตุจริง แถมสำหรับอาเนียแล้วที่ตอนนี้เหลือแค่คุณแม่คือคุณสเตล่าคนเดียวในครอบครัว ย่อมต้องพยายามอย่างที่สุดอยู่แล้ว ผมจึงได้แต่มองเธอเท่านั้น ก่อนจะพูดออกมา

                  " ผมว่าตอนนี้เรื่องไม่ดีก็ผ่านไปแล้ว ผมคิดว่าคุณสเตล่า น่าจะชดเชยให้เธอได้แน่นอนครับ "

                 " นั่นสิจ๊ะ ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณเธอมาก ที่ช่วยรักษาฉันจนหายนะ "

                 ผมปลอบคุณสเตล่า เพื่อให้เธอสบายใจ ก่อนที่เธอจะยิ้มออกมาเล็กน้อยให้ผม ดูเหมือนเธอจะปรับอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว จึงขอบคุณผม แต่ก็มีการกระเซาะผมเล็กน้อย เกี่ยวกับลูกสาวของเธอ 

                 " ขอบใจเธอมากที่คอยมาปลอบคนแก่นะจ๊ะ "

                 " ไม่เป็นไรหรอกครับ แถมคุณสเตล่าเองก็ยังดูไม่แก่เสียหน่อย "

                 " แม้ พูดอย่างนี้กับผู้หญิงทุกคนระวัง ฉันจะคิดว่าเธอเจ้าชู้ แล้วไม่ยกลูกสาวให้นะจ๊ะ "

                 " เออ แล้วอาเนียเกี่ยวอะไรล่ะครับ "

                 " โถ่ แพน ฉันผ่านมาโลกมาไม่น้อยนะ คิดหรือว่า ฉันไม่รู้เหรอเวลาเธอมองลูกสาวของฉันพร้อมกับทำสายตาเป็นห่วงนะ มันคืออะไรล่ะจ๊ะ "

                 " เออ ผมให้คุณสเตล่าพักผ่อนดีกว่าครับ ผมขอตัว "

                 " ฮิ ฮิ ที่เรื่องอื่นเก่งไปหมด พอเรื่องนี้กับหนีไว้เลย "

                 ผมที่เดินออกมาข้างนอก ปล่อยให้คุณสเตล่าให้พักผ่อน แต่ความจริงก็ไม่อยากยอมรับหรอกว่า เราเป็นห่วงอาเนียมากไปเกินกว่าคนทั่วไปที่พึ่งรู้จักกัน แต่ก็นะถึงเรื่องรักเราจะไม่สันทัด แต่เรื่องอื่นๆเราก็ไม่ถอยหรอกนะ 

                  'หรือว่าเราจะชอบอาเนียจริงๆ หรือป่าว'

                   แต่ในระหว่างที่กำลังคิดเรื่องนี้จนไม่สนใจรอบข้างก็มีคนเดินเข้ามาใกล้ๆตัวผมที่กำลังใช้สมองอย่างหนัก

                   แพน...

                  แพน.....

                   'นี่เราหลอนจนได้ยินเสียงอาเนียดังข้างๆหูเลยเหรอ'

                    " นายแพนนนนน "

                   " เฮ้ย ใครมาทำอะไร อ้าว อาเนียเองเหรอมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"  

                   ใช่ครับ ผมไม่ได้หลอนเพียงแต่อาเนียกำลังเรียกผมอยู่จริงๆ ข้างตัวผมด้วย แต่เพราะเอาแต่คิดถึงความพูดของคุณสเตล่า เลยไม่ได้สนใจจนเธอเดินมาตะโกนข้างหูเลยเนี่ย  แล้วผมก็มองอาเนียที่ตอนนี้กำลังทำสีหน้างอนๆใส่ผม แล้วพูดว่า

                    " ฉันมาได้สักครู่นี้เอง ฉันเรียกนายตั้งนายแล้ว ทำไมถึงไม่สนใจฉันอ่ะ "

                    " ขอโทษแล้วกัน กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ ว่าแต่มีเรื่องอะไรล่ะ "

                   " คืออย่างนี้ ตอนออกไปล่าสัตว์กับน้องของนาย น้องของนายเก่งมากเลย ฉันก็เลยถามว่าใครเป็นคนสอนพวกเธอ พวกเธอก็บอกว่านายเป็นคนสอนจริงหรือป่าว "

                   " ก็จริง ทำไมล่ะ "

                  " นายช่วยสอนฉันหน่อยได้มั้ย ถ้าฉันเก่งอย่างน้องของนายล่ะก็ คงจะสมัครเป็นนักผจญภัยแล้วคงรับภารกิจ หาเงินได้เยอะแน่นอน "

               " แล้วทำไมเธอถึงอยากเป็นนักผจญภัยล่ะ ถ้าหาเงินได้เยอะๆ เป็นพ่อค้าก็ได้นิ "

                 " พ่อค้า นั้นใช้เงินทุนสูงแถมมีสิทธิ์โดนโกงได้ง่ายๆด้วย "

                " แต่การเป็นนักผจญภัยก็ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเหมือนกันแหละ มีสิทธิ์ตายได้ด้วย ถ้าไม่ระวัง มันไม่ขาดทุนกว่าเหรอ "

               " ก็ใช่ แต่ถ้าเก่งๆล่ะก็ สามารถหาเงินได้มากและมีโอกาสรอดสูง ฉันอยากหาเงินมาให้แม่จะอยู่สุขสบาย "

               ผมที่คิดถึงผลได้ผลเสียจากการกระทำแล้ว ความจริงถ้าจะสอนเธอก็คงไม่ผิดอะไร เพราะจะได้ดูแลตัวเองได้ดีขึ้น แต่ถ้าเรื่องออกไปผจญภัยเนี่ยคงต้องให้เธออยู่ในสายตาเอาไว้ซะแล้ว

               " ก็ได้ ผมจะสอนให้เธอด้วย แต่เพื่อป้องกันตัวนะ แล้วก็ผมสอนโหดนะบอกให้ "

              " ไม่ต้องห่วงฉันเตรียมใจมาแล้ว ว่าแต่โหดขนาดไหนเหรอ พอฉันถามน้องสาวนาย พวกเธอกลับส่ายหน้าแล้วไม่ยอมบอกฉัน "

              " เอาเป็นว่าคืนนี้เดี๋ยวเธอก็รู้เองล่ะ "

                ผมได้แต่ทิ้งความสงสัยให้เธอแล้วเดินกลับไปเพื่อเตรียมอาหาร โดยที่อาเนียก็ยังคงไม่เข้าใจต่อมาเมื่อผมบอกกับพวกน้องสาวว่าอาเนียจะมาฝึกด้วย แล้วพวกเธอก็มาแสดงความสีใจให้กับอาเนีย ( เฮ้ย พี่ไม่ได้สอนโหดร้ายขนาดนั้นสักหน่อย )



                 จบแล้วครับ เรื่องของช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยตั้งแต่ตอนนั้นที่เธอมาขอฝึก ผมต้องยอมรับว่าเธอเก่งขึ้นมากทีเดียว สงสัยคงมีพื้รฐานการเอาตัวรอดมากอยู่ เพราะฝีมือเธอก็พอๆกับพวกน้องสาวของผมที่ผมสอนมาตลอด ที่น้องสาวของผมแพ้คงเป็นเรื่องของประสบการณ์เท่านั้น

                 แล้วตอนนี้เราก็มาถึงที่ด่านเข้าเมืองของเมืองเลธีเดียเมืองหลวงของอาณาจักรเรการ์ดแล้วครับ แล้วผมก็มาต่อแถวรอตรวจคนเข้าเมือง เมื่อถึงตาผม ผมก็ขับรถม้าเข้าไป เมื่อถึงที่ด่านก็มีทหารหน้าเหี้ยมยืนอยู่เป็นผู้คุมด่าน เข้าจะเข้าไปตรวจรถของผม แต่เผอิญผมนึกขึ้นมาได้ว่าน้องสาวของผมยังไม่ได้ทำใบยืนยันประชากรเลย แถมยังมีสองแม่ลูกนั่นอีก ผมจึงเดินลงไปหานายทหารหน้าเหี้ยมที่กำลังจะเข้ามาตรวจค้น แล้วเข้าไปคุยกับเขาว่า 

                 " พี่ชาย พอจะช่วยผมหน่อยได้มั้ย ผมรีบเข้าเมืองนะ "

                 " ไม่ได้ ทุกคนต้องผ่านการตรวจสอบหมด " 

                 ผมจึงเหรียญทองออกมาเหรียญหนึ่งแล้วแอบเอาไปยัดใส่มือของเขา พอเขาเห็นเหรียญในมือ ก็รีบทำเป็นตรวจค้น ก่อนจะปล่อยพวกเราเข้าไปข้างใน ผมกลับโค้งก้มหัวให้ผมด้วย แล้วบอกให้ทหารข้างหน้าเปิดประตูให้ผมนำรถเข้าไป

                  " ตรวจเสร็จแล้ว ปล่อยคุณชายเข้าไป เขามีธุระด่วน "

                  " ครับ นายกอง "

                  " ยินดีรับใช้ครับ คุณชาย "

                  'ไอ้นี่ ได้เงินเป็นคุณชายทันทีเลย แสดงว่าที่เมืองหลวงเนี่ยโกงกันไม่น้อยเลย แหะ '

                  เมื่อผมเข้ามาในเมือง ก็ผมกับคนพุ่งพล่านไปหมด แถมมีคนจากหลากหลายเผ่าอีกตั้งหาก ทุกคนจับจ่ายใช้สอยกันเต็มไปหมด ผมจึงรีบขับรถม้าไปหาโรงแรมที่พัก หลังจากเจอโรงแรมปานกลางแห่งหนึ่ง ผมจึงจองห้องให้สำหรับทุกคน 
                   ก่อนจะพาเหล่าสาวๆซึ่งประกอบไปด้วย ดาเนีย ดาร่า เฟียน่า และ อาเนีย ไปยังกิลด์นักผจญภัยเพื่อลงทะเบียน เพราะที่เมืองหลวงถ้าคนไม่มีบัตรประชากรทางกิลด์ก็จะออกให้ เป็นการรวบขั้นตอนดี เมื่อผมเดินมาที่หน้ากิลด์นักผจญภัยก็พาสาวเข้าไป แต่ด้วยหน้าตาของสาวๆ จึงเรียกความสนใจจากคนข้างในได้เป็นอย่างดี 

                   แล้วก่อนที่ผมจะได้เดินไปพาพวกเธอมาลงทะเบียนที่จุดลงทะเบียน ปัญหาก็วิ่งมาชนเต็มๆ เพราะอะไรเหรอ ก็เพราะมีกลุ่มนักผจญภัยใจกล้าหัวโล้นตัวใหญ่เดินเข้ามาขว้างไว้พร้อมกับพวกที่ด้านหลังอีกสามสี่คนนะสิ แล้วก็พูดว่า

                 " ว่าไงจ๊ะ สาวๆ สนใจไปเที่ยวกับพี่มั้ย "

                 'ไอ้..... มาจีบน้องสาวคนอื่นหน้าพี่ชายของเขาเนี่ยนะ'

                 แต่ด้วยความที่ผมไม่อยากมีเรื่อง ผมจึงเดินมาขวางข้างหน้าแล้วก็คุยกับพวกเขาดีๆ

                  " ขอโทษดวยครับ ช่วยหลบทางหน่อย พอดีผมพาพวกเธอมาสมัครเป็นนักผจญภัยนะครับ "

               " เฮ้ย ไอ้กระจอกหลบไป ข้าไม่อยากคุยกับแก ข้าถามสาวๆต่างหากไปให้พ้น "

                 " ผมว่าผมพูดดีๆกับพี่แล้วนะครับ "

              " อ้าวไอ้เวร นี่ฟังไม่รู้เรื่องอีกเหรอ ทำเป็นสวมผ้าคลุมปิดหน้า ปิดตา ถอยไปซะ "

                 " ถอยไปเถอะครับ ผมไม่อยากมีเรื่อง "

                 " ไอ้นี่ มันกวนส้นว่ะ พวกเราจัดการมันซะ "

                 แล้วจากนั้นชายหัวโล้นก็เคลื่อนหมัดตรงมายังใบหน้าของผม แต่ขอโทษนะครับ ผมยืนให้คุณต่อยทั้งชาติ ผมก็ไม่เป็นไรหรอกเพียงแต่ การดูถูกคนที่ยังไม่พบหน้ากันเนี่ยมันเสียมารยาทสุดๆเลย ผมจึงเอาเปล่ารับหมัดของเขาไว้ ก่อนจะบีบกำปั้นของเขา จนต้องทำสีหน้าเจ็บปวดออกมา แล้วผมก็พูดออกมาพร้อมกับปล่อยแรงกดดันจำนวนหนึ่งออกมา ใส่พวกของไอ้โล้นนี่

                  " ผมว่าพวกคุณควรหลบทางให้ผมก่อนจะเจ็บตัวนะครับ "





    ...................................................................................................................


    เสร็จแล้ววววววววววว ตอนที่ 37 ดีจายยยยยย

    ขอโทษด้วยครับที่ไม่ได้ลงเมื่อวาน 

    พอดีเพื่อนๆของข้าพระเจ้ามากินฉลองให้ตัวกระผม

    เลยทำให้ไม่ได้เขียนต่อ เล่นฉลองกันกว่าจะเสร็จล่อไปเที่ยงคืน 

    ผมเลยตื่นสายเลยวันนี้ เดี๋ยววันนี้ชดเชยให้แทนเมื่อวานแน่นอนครับ

    กราบขอโทษอีกที (-/\-) 

    เหมือนเดิมครับ มีข้อผิดพลาดโปรดคอมเม้นท์บอกด้วย 

     1 Comment = 1 กำลังใจแด่ไรท์




                 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×