ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tale of Another world ตำนานบทใหม่ที่ต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #14 : ค่าสถานะ!!!! ปะทะโจร (?) ช่วยหมู่บ้าน

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 59


    ค่าสถานะ!!!! ปะทะโจร (?)  ช่วยหมู่บ้าน



        หลังจากที่ผมออกมาจากดันเจี๊ยนได้จากที่อยู่ในนั้นมานานถึงสองปี จุดที่ผมอยู่เป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้าง แต่ที่ด้านหลังเป็นทางเข้าป่าที่ไหนสักแห่ง บริการดีจังแหะ 

        แล้วผมก็เริ่มเดินออกมาเรื่อยจากจุดไปตามทางที่เหมือนเป็นทางสัญจร แต่ก็ยังไม่พบใครตามทางที่ผมเดินผ่านมาเลย จนผมเริ่มสงสัยแล้ว เดินมาถูกทางหรือป่าว

         ผมจึงดังพักหลังจากเดินมาตลอดครึ่งวันแถวต้นไม้ริมทาง ในระหว่างที่พัก ผมก็นึกขึ้นมาด้านว่าตนยังไม่ได้ตรวจสอบค่าสถานะหลังจุติครั้งสุดท้าย รวมถึงของบางอย่างที่เก็บมาด้วย ผมจึงเรียกหน้าต่างค่าสถานะขึ้น แล้วเมื่อเห็นน่าผมกลายเป็นเหมือนภาพเดอะสกรีมเลยที่เดียว

     {{สถิรพงษ์ วิริยะกุล}} (แพนเจีย) (ชาย)

     

    เผ่าพันธุ์ : มนุษย์ (สัตว์ประหลาด) สายย่อย : เอลฟ์ชั้นสูง

    อาชีพ : นักผสานศาสตราเวท       อายุ : 19        เลเวล : 1*

    ตำแหน่ง :  รัชทายาทแห่งเอลฟา เจ้าชายแห่งดีลาเอล รัชทายาทแห่งเผ่าพันธุ์

    พลังเวท : 1550000

    พลังโจมตี : 1600000

     พลังป้องกัน : 1300000

    ความว่องไว : 1200000

    พลังโจมตีเวท : 1450000

    พลังป้องกันเวท : 1450000

    โชค : 1000000

    อุปกรณ์สวมใส่ : เสื้อนักเรียน  กางเกงสแลค  รองเท้าผ้าใบ กางเกงใน  

    ดาบพงไพรผลาญ   ไม้เท้าเปลวดารา  แหวนแห่งเอลฟา แหวนแห่งดีลาเอล

    ทักษะ : เข้าใจทุกภาษา  กลืนกินสัมบูรณ์ ภูมิคุ้มกันสมบูรณ์  จดจำสมบูรณ์ สัญชาตญาณ  อำพราง  วางแผน  มองเห็นในความมืด ดำรงชีวิตในป่า วางกับดัก

    สกิล :  ตรวจสอบขั้นสูง  ก้าวพริบตา  เพลงหมัดวานร ปรุงยาขั้นเชี่ยวชาญ ประดิษฐ์  ซ่อมแซม   กงเล็บพิฆาต    ระบำหอกไม้ขั้นสมบูรณ์   กระบวนดาบผสานเวทขั้นสมบูรณ์

    เวทมนตร์ : เวทลมสมบูรณ์  เวทน้ำสมบูรณ์  เวทแสงสมบูรณ์ เวทความมืดสมบูรณ์

    สถานะ :  ทลายขีดจำกัด  ผู้บรรลุศาสตรา  ผู้เป็นกลาง

     

    <เงิน: 3,625,520,340,000 G>


        โอ้แม่เจ้า พ่อครับ แม่ครับ ผมไม่ใช่มนุษย์อีกแล้วครับกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้วเรียบร้อย แถมค่าสถานะขนาดนี้ พนันได้เลยว่าตัวต่อตัวกับราชาปีศาจยังได้เลย 


        แถมยังเป็นผู้ทลายขีดจำกัดอีกตั้งหากแค่นี้ตูยังเก่งไม่พอเหรอ 


    <ทลายขีดจำกัด>

    เป็นสถานะที่มอบแก้ผู้มีค่าสถานะเกินเลเวลที่ตัวขึ้นไป ทำให้ไม่มีขีดจำกัดขัดขวางการพัฒนาได้ 


    <ผู้บรรลุศาสตรา>

     เป็นสถานะที่มอบให้แก่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอาวุธมากกว่าหนึ่งอย่าง ทำให้เมื่อสัมผัสกับอาวุธชนิดใดก็สามารถใช้ได้ที่ขั้นสมบูรณ์ แม้จะพึ่งสัมผัสเป็นครั้งแรก


    <ผู้เป็นกลาง>

    สถานะพิเศษให้แก่ที่ไม่เคยถูกความรู้สึกด้านลบครอบงำ แต่ก็ไม่ได้เข้าด้านบวกเลย ทำให้มีความสามารถต่อต้านคำสาปทุกชนิด


      'เอิ่ม เหลือแค่เป็นอมตะสินะตอนนี้ แค่นี้ฆ่าก็ไม่ตายแล้ว'(T-T) orz


        ช่างหัวมันเถอะเรื่องอื่น ทำใจซะ แล้วจากนั้นผมก็เดินทางต่อเพื่อหาเมืองหรือหมู่บ้านพอที่จะเป็นที่พัก ก่อนจะมืด เพราะตอนนี้เวลาบ่ายกว่าๆแล้ว


         ผมจึงรีบกินอาหารแล้วลุกขึ้นเดินทางต่อไปตามทาง เพราะผมมั่นใจว่าเดินตามทางสัญจรต่อไปต้องเจอเมืองไม่ก็หมู่บ้านแน่นอน 

     

          ในระหว่างเจอมอนสเตอร์บางตลอดทาง แต่ไม่ทำให้ผมกังวลสักเท่าไร เพราะผมจิ้ม พวกมันทีเดียวก็ตายแล้ว เฮ้อ อยากร้องไห้จัง ในระหว่างที่กำลังจัดการมอนสเตอร์รายทางซึ่งก็มีทั้งสไมล์ ก๊อบลิน กระทิงไฟ ประมาณเนี่ย เยอะแยะแต่ขี้เกียจพูด ก็มีเสียในหัวดังขึ้นมา ทำเอาผมแทบน้ำตาไหลที่ได้ยิน แต่ดีใจแค่ตอนแรกนะ


      <คุณเลเวลอัพแล้ว>


      <คุณเลเวลอัพแล้ว>

     

      <คุณเลเวลอัพแล้ว>


      {{สถิรพงษ์ วิริยะกุล}} (แพนเจีย) (ชาย)

     

    เผ่าพันธุ์ : มนุษย์ (สัตว์ประหลาด) สายย่อย : เอลฟ์ชั้นสูง

    อาชีพ : นักผสานศาสตราเวท       อายุ : 19        เลเวล : 10*

    ตำแหน่ง :  รัชทายาทแห่งเอลฟา เจ้าชายแห่งดีลาเอล รัชทายาทแห่งเผ่าพันธุ์

    พลังเวท : 15500000

    พลังโจมตี : 16000000

     พลังป้องกัน : 13000000

    ความว่องไว : 12000000

    พลังโจมตีเวท : 14500000

    พลังป้องกันเวท : 14500000

    โชค : 10000000

    อุปกรณ์สวมใส่ : เสื้อนักเรียน  กางเกงสแลค  รองเท้าผ้าใบ กางเกงใน  

    ดาบพงไพรผลาญ   ไม้เท้าเปลวดารา แหวนแห่งเอลฟา แหวนแห่งดีลาเอล

    ทักษะ : เข้าใจทุกภาษา  กลืนกินสัมบูรณ์ ภูมิคุ้มกันสมบูรณ์  จดจำสมบูรณ์ สัญชาตญาณ  อำพราง  วางแผน  มองเห็นในความมืด ดำรงชีวิตในป่า วางกับดัก

    สกิล :  ตรวจสอบขั้นสูง  ก้าวพริบตา  เพลงหมัดวานร ปรุงยาขั้นเชี่ยวชาญ ประดิษฐ์  ซ่อมแซม   กงเล็บพิฆาต    ระบำหอกไม้ขั้นสมบูรณ์   กระบวนดาบผสานเวทขั้นสมบูรณ์

    เวทมนตร์ : เวทลมสมบูรณ์  เวทน้ำสมบูรณ์  เวทแสงสมบูรณ์ เวทความมืดสมบูรณ์

    สถานะ :  ทลายขีดจำกัด  ผู้บรรลุศาสตรา  ผู้เป็นกลาง

     

    <เงิน: 3,625,520,680,000 G>


           น้ำตาจิไหล พอเห็นตัวเองเลเวลเพิ่มสักที แต่พอดูข้าสถานะที่เพิ่มขึ้นตามเลเวลที่ควรจะเพิ่มบ้าง นี่มันล่อคูณกับของเดิมตามเลเวล ตูก็เป็นมหาสัตว์ประหลาดสิครับ ทไมไม่มีใครเข้าใจผมเลย ไอ้ค่าสถานะบ้า แง๊ (จิตตกไปเรียบร้อยแล้ว) 


           หลังจากทำใจกับค่าสถานะอยู่พักใหญ่ ผมก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้งโดยยกเลิกการตีมอนตามรายทางให้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะยังไม่อยากเสียใจไปมากกว่านี้(!!!)


         ผมที่เดินมาจนพระอาทิตย์เริ่มตกดิน ผมที่มองไกลๆก็เริ่มเห็นบ้านเรือนที่ขึ้นเรียงรายจำนวนมากจากข้างหน้า ผมจึงเร่งฝีเท้าออกวิ่งไปที่นั่นด้วยความดีใจ ที่จะได้นอนพักสักที แต่ก็ต้องชะลอ เมื่อพอเริ่มเข้าใกล้ก็ได้ยินเสียงอาวุธกระทบกันไปมา รวมถึงไฟที่สว่างผิดปกติ จนกระทั่งผมที่มาถึงก็เลยหาทีลอบดูสถานการณ์อยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน ภาพที่เห็นก็คือ การต่อสู้ที่กลางลานว่างของหมู่บ้าน พร้อมกับไฟที่เริ่มไหใ้บ้านเป็นบ้างหลัง 


         ภาพที่เห็นต่อไปคือการต่อสู้ระหว่างสองฝั่งโดยฝั่งที่ดูเหมือนเป็นฝ่ายบุกจะมีพวกเยอะกว่า แล้วลักษณะของฝ่ายนั้นมีการสวมเกราะกับอาวุธที่ดูดีกว่าเล็กน้อย ส่วนอีกฝ่ายใส่แค่เสื้อผ้าฝ้ายธรรมดา แถมด้านหลังพวกนั้นยังมีทั้งผู้หญิง เด็กและคนแก่อยู่ เหมือนคอยกันไม่ให้อีกฝ่ายเข้าไปได้ แต่ก็โดนกระชับพื้นที่เข้าไปเรื่อยๆ 


        'สงสัยแบ่งฝ่ายกันซ้อมรบอยู่แน่เลย' (คิดได้เนอะ) 


         สงสัยหมู่บ้านนี้กำลังโดนโจรปล้นแน่เลย คงต้องเข้าช่วยล่ะแต่ขอปลอมตัวหน่อยดีกว่า(เพื่อ?) แล้วผมก็ดูของในไอเทมบ๊อค ว่าอมีอะไรที่ใช้ได้บาง จนไปเจอเคียวอันยักษ์กับผ้าคลุมของบอสที่เก็บมา ผมจึงหยิบมาตรวจสอบ


       <<เคียวแห่งความตาย>> ระดับ : มายา

      อาวุธของเจ้าแห่งความตาย มีความสามารถในการล่องหนตัวเองแล้ว ลอบโจมตีได้ ทำให้ผู้ใช้หายตัวไปราวกับยมฑูต


         <<ชุดคลุมความลวง>> ระดับ : มายา

        ชุดคลุมที่ช่วยป้องกันการตรวจสอบจากคนอื่นได้ แล้วยังป้องกันการตรวจจับจากสกิลต่างๆ  แล้วยังปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามที่ผู้ใช้ต้องการ


       ผมที่รู้ความสามารถของทั้งสองอย่าง จึงรีบสวมใส่ทันทีแล้วเก็บดาบกับไม้เท้าเข้าไอเทมบ๊อค ก่อนจะใช้งานความสามารถของชุดคลุมและเคียว จากนั้นก็บุกเข้าไปด้านหลังของพวกโจร 

       

        จากการตรวจสอบดูทั้งหมดมีที่เป็นโจร ทั้งหมด สามสิบห้าคนสินะ เป็นชาวบ้านที่กำลังสู้อยู่อีกยี่สิบ ส่วนคนแก่ เด็ก และผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังอีกเกือบร้อย คนที่มีเลเวลสูงที่สุดเห็นจะเป็นหัวหน้าโจรที่เลเวล 50


        ผมก็ไม่ทำคิดอะไรมากลอบเข้าไปข้างหลังพวกโจรที่ต่อสู้อยู่แล้วใช้เคียวตวัดไปกลางลำตัวของโจรคนหนึ่งจนตัวขาดครึ่ง ก่อนจะไปไล่หายเป้าหมายต่อไป แล้วใช้วิธีลอบเข้าด้านหลังแล้วเจือน เหมือนเดิม จนกระทั่งโจรเริ่มล้มตายไปจำนวนมาก ส่งผลให้ทั้งชาวบ้านแล้วพวกโจรอยู่การต่อสู้แล้วมองหาต้นต่อ 


        ผมที่ไม่สนใจอยู่แล้วเพราะความว่องไวผมสูงมากจากการตรวจสอบไม่มีใครมีความว่องไวเกิน สองพัน คิดดูแล้วผมที่มีค่าว่องไว สิบล้านพวกมันจะไปตามทันได้ไง 


       สถานการณ์ในหมู่บ้านเริ่มดีขึ้น เพราะพวกโจรที่เหลือเริ่มไปรวมตัวกันที่หัวหน้าโจร ก่อนที่หัวหน้าโจรที่มองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของผมก็เริ่ม หวาดกลัวจึงตะโกนออกมา


        " แกเป็นใคร แน่จริงออกมาสิวะ ลอบกัดอยู่ได้มีศักดิ์ศรีบ้างสิ "


        ผมที่ได้ยินก็ถอนหายใจก่อนจะหยุดวิ่งไปมา เพื่อหลอกพวกโจร แล้วค่อยๆโผล่ออกไป ส่วนพวกโจรกำลังอึ้ง ที่เห็นชายหนุ่มออกมาเพียงคนเดียว โดยในมือมีเคียวขนาดใหญ่และสวมชุดคลุมยาวสีดำที่ใส่ที่คลุมหัวมองไม่เห็นหน้าตาราวกับยมฑูต ยืนอยู่คนเดียว


      " เฮ้อ โจรที่คอยปล้นคนอื่นเนี่ย มีศักดิ์ศรีด้วยเหรอครับ" ผมที่ถามออกไป 


     " แล้วทำไม ข้าจะทำอะไรก็เรื่องของข้า เจ้าไม่เกี่ยวมายุ่งทำไม" หัวโจรที่เริ่มมีความกล้า เมื่อเห็นผมมาคนเดียว ตอบมา


     'อ้าว ไอ้นี่ เกรียนตูนี่วะ เดี๋ยวเจอ'

      

      " ความจริงผมก็ไม่อยากมาเกี่ยวหรอก แต่ว่าพอดีผมต้องการที่พัก แล้วพึ่งเดินทางมาถึงที่นี่พอดี อยากนอนมากเลย แต่โจรอย่างพวกคุณก็มารบกวน รวมไปถึงถ้าจะเลยไปข้างหน้าผมจะเจอหมู่บ้านอีกหรือป่าวก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นช่วยไสหัวไปก่อนได้มั้ย "


       ผมที่ตอบออกไปเพราะทั้งหมดเป็นความจริง ผมที่พึ่งออกมาจากดันหลังจากมาที่โลกนี้ครั้งแรกย่อมไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง จึงไม่อยากไปตายเอาดาบหน้า จึงตัดสินใจพักที่นี่ เลยต้องช่วยสักหน่อย เวลาของที่พักจะได้ง่าย หลังจากผมพูดเสร็จก็เลิกที่คลุมหัวออก เผยหน้าตาให้ทุกคนเห็น


       สิ่งที่ผมมารู้ที่หลังก็คือตาของผมจากสีแดงกลายเป็นสีเขียว ตัดกับผมสีดำสนิท แต่กลับพอดีกับหน้าตาตอนนี้ รูปร่างที่สูงโปร่ง ผิวขาว บล้า บล้า.. ขี้เกียจชมตัวเอง เอาเป็นว่าดูดีขึ้นอย่างมากๆๆๆๆ  ทำให้จากยมฑูตน่ากลัวเปลี่ยนเป็นเทพบุตรในสายตาชาวบ้านที่เห็นโดยเฉพาะผู้หญิงที่บ้างคนถึงกับตาค้างไปเลย


      " ไอ้หน้าหล่อ แกวทำขนาดนี้แล้วอย่างนั้นคิดว่าจะมาไล่พวกข้า แล้วข้าจะไปเหรอ ฮ่าๆๆ พวกแกไปจัดการมัน"


      หัวหน้าโจรที่ได้ยินคำพูดผมก็หัวเราะออกมา แล้วสั่งให้ลูกน้องเข้ามาโจมตีผม 

    ผมที่ยืนรออยู่เฉยๆ แต่เมื่อพวกลูกน้องเดินเข้ามาได้ระยะ ผมก็จะตวัดเคียวด้วยความเร็วสูง จนพวกมันมองไม่เห็น แล้วผมก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาหัวหน้าโจรที่ยืนอยู่ไม่ไกลช้าๆ โดยมีซากศพของลูกน้องโจรอยู่ตามทางที่ผมเดินผ่าน จนในที่สุดผมก็เผชิญหน้ากับหัวหน้าโจรที่ยืนขาสั่นอยู่คนเดียว เนื่องจากตลอดทางมันไม่เห็นผมโจมตีเลยสักครั้งนอกจากลูกน้องที่ล้มลงไปที่ละคน จนมันหวาดกลัวผมเป็นอย่างมาก 


         " ทะ  ท่านปล่อยข้าไปเถอะ ข้าจะไม่มาที่นี่อีก "


         ผมที่ห้าวอยู่ตรงหน้ามันพร้อมกับดูมันที่กำลังทรุดตัวลงกอดเข่าขอร้องผม แต่เสียใจด้วยนะ ผมไม่ได้ใจดีขนาดนั้น นอกจากทำร้ายคนอื่นแล้ว ที่สำคัญคือ


       " นั่นสินะ ตอนแรกก็ว่าจะปล่อยไปแล้ว แต่เผอิญมีคน'เกรียน'ใส่ฉันนะ"


       เมื่อได้ฟังดังนั้น หัวหน้าโจรก็หน้าซีด ก่อนที่มันจะค่อยลุกขึ้น แล้วก็พยายามวิ่งหนีจากผมไป เพียงแต่ช้าไปหน่อยเท่านั้น

       

       เมื่อพวกชาวบ้านด้านหลังผมคิดว่าผมปล่อยหัวหน้าโจรไป แต่ทันใดนั้นหลังจากที่หัวหน้าโจรวิ่งออกไปไม่กี่ก้าวมันก็ล้มลง ชาวบ้านที่เห็นก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่จะตกใจอีกครั้ง เมื่อร่างของหัวหน้าโจรขาดเป็นชิ้นๆ โดยไม่รู้ว่าใครทำ (ก็ผมเองแหละ)


      เมื่อผมหันหลังกลับมาพร้อมกับห้าวอีกครั้ง โดยมีเคียวขนาดใหญ่ที่ยกพาดหลังไว้ ทำให้ชาวบ้านเริ่มกลัวผม พากันเดินเข้าไปชิดๆกัน รวมกับพวกผู้ชายที่ตอนแรกปกป้องคนอื่นอยู่ ก็ถอยหลังไปรวมกับกลุ่มด้วย 

     

       เมื่อผมหันไปมองรอบๆดูเหมือนมีศพของพวกโจรและก็ชาวบ้านบางคน แล้วผมก็หันกลับไปมองชาวบ้านที่เหลือรอดอยู่ คราวนี้ผมเห็นแววตาหวาดกลัวจากพวกเขา 


      'อย่ากลัวผมสิ เพราะแค่นี้ผมก็กลัวตัวเองจะแย่อยู่แล้ว(-_-!)'


         ก่อนจะมีชาวบ้านใจกล้าคนหนึ่งถามผมขึ้นมา


       " ท่านเป็นใคร ต้องการอะไรจากหมู่บ้านพวกเรา "


      " ผมต้องการอะไรเหรอ ฮึๆๆ "


      " ผมเป็นยมฑูต ต้องการวิญญาณของพวกคุณทุกคน ฮ่าๆๆ "


       หลังจากที่ได้ยินผมพูด ชาวบ้านก็หน้าซีดหวาดกลัว พวกชายหนุ่มหน่อยก็พยายามจับอาวุธแล้วหันมาระวังผมกันหมด ถึงมือจะพากันอยู่ก็เถอะ ส่วนพวกผู้หญิง เด็ก และคนแก่ ก็กอดกันกลมเลย พร้อมกับสวดพึมพำอะไรบ้างอย่างที่ผมไม่เข้าใจกันอยู่


      'สงสัยล้อเล่นแรงไปนิดแหะ ชาวบ้านที่นี่ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย'

    (อารมณ์ขันบ้านแกสิ เขาพึ่งถูกโจรบุก ดูฉากสยองขวัญจากเอ็งมา แล้วก็พูดแบบนั้น ชาวบ้านไม่ตกใจตายกันก็บุญแล้ว )


      " เออ ผมล้อเล่นครับ พอดีผมพึ่งออกมาจากดันเจี๊ยน กำลังหาที่พักนะครับ"


       ชาวบ้านได้ฟังก็ใจเย็นลง แต่ยังไม่ได้ลดการระวังลง


      " ข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าท่านพูดความจริง "


      " ผมไม่มีหลักฐานยืนยันคำพูด แต่ถ้าผมจะทำอะไรพวกคุณจริงๆ ผมคงไม่รอคุยกับพวกคุณอย่างนี้หรอก"


      หลังจากที่ฟังคำตอบของผมชาวบ้านก็เริ่มกระจายตัวกันออกมา ก่อนที่จะส่งชายหนุ่มสองสามคนมาคุยกับผม โดยชายที่เข้ามาคุยกับผมเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสูงใหญ่ตามร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้าม แต่ตามตัวมีรอยแผลบ้าง สงสัยได้มาตอนสู้กับโจร


       " ข้าเชื่อท่าน ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือพวกข้าไว้ "


       " ไม่เป็นไรครับ พอดีผมต้องการที่พักในคืนนี้นะครับ "


       " ที่หมู่บ้านของพวกข้าไม่มีโรงแรมหรอกนะ เพราะหมู่บ้านนี้ไม่ได้ใหญ่อะไร แถมยังไม่ค่อยมีนักเดินทางมามากนัก ส่วนมากจะเป็นพวกพ่อค้าเร ที่ผ่านมาบ้างเป็นครั้งคราว"


       " งั้นผมพอจะพักที่ไหนได้บ้างครับ "


       " อืม งั้นท่านไปพักที่บ้านผู้ใหญ่บ้านสิ บ้านของเขาหลังใหญ่น่าจะพอดีห้องว่างพอให้ท่านพักผ่อนได้ งั้นข้าไปตามหัวหน้าหมู่บ้านให้ "


        หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินจากไป ส่วนผมก็นั่งรอพวกเขา แล้วกวาดสายตาไปรอบๆ ตอนนี้พวกชาวบ้านพากันช่วยเก็บศพ แล้วแยกเป็นชาวบ้านกับโจรก่อนที่ จะเอาไปจัดการฝังให้เรียบร้อย บางส่วนไปดับไปที่ไหม้บ้าน บางส่วนไปรักษาแผลที่เกิดขึ้น 

    โดยสายตายังคงระวังผมอยู่ 


         'เฮ้อ ทำเกินไปจริงด้วย แต่ว่าค่าสถานะของคนทั่วไปมันเท่าไรกัน'


      หลังจากที่ตรวจสอบดู ผมมก็รับรู้ความจริงบางอย่าง คือค่าสถานะโดยเฉลี่ยของชาวบ้านอยู่ประมาณ 500-1000 ไม่เกินนี้ แล้วพวกโจรอยู่ที่ 2500-3000 ทำให้ผมรับรู้ถึงความเป็นสัตว์ประหลาดของตัวเองมากขึ้นไปอีก 

       

        ก่อนที่จะเสียสูญไปมากกว่านี้ ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินตรงมาหาผมพร้อมกับชายวัยกลางคนที่คุยกับผมตอนแรก


       " ข้าได้รู้ธีโดว่า ท่านต้องการที่พักเหรอ"


      อ้อ คนที่เข้ามาคุยกับผมชื่อว่า ธีโด นี่เอง


      " ใช่ครับ พอดีผมหลงทางเลยเดินมาเรื่อยๆจนเจอหมู่บ้านนี้ แต่ในจังหวะพอดีก็เลยต้องได้ช่วยพวกคุณปราบโจรนะครับ ฮ่าๆๆ"


      ผมทีพูดไปด้วยพร้อมกับเอามือลูบผมไปด้วย  แก้อายเพราะผมไม่รู้ทางจริงๆ ก็มันช่วยไม่ได้นี่ว่าพึ่งเคยออกมาข้างนอกครั้งแรกนี่แหละ


      " งั้นเชิญท่านไปพักผ่อนที่บ้านของข้าก่อน แล้วข้าจะให้ลูกสาวของข้าเตรียมห้องไว้ให้"


      "ขอบคุณมากครับ ผู้ใหญ่บ้านรบกวนด้วยครับ "


      " ไม่เป็นไรครับ ยังไงท่านก็ช่วยพวกเราเอาไว้"


       แล้วผมก็เดินตามผู้ใหญ่บ้านไปบ้านของเขา เมื่อมาถึงบ้านของผู้ใหญ่บ้านเป้ฯบ้านที่หลังใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน เป็นบ้านสองชั้นทำจากไม้ ดูเรียบง่ายตามวิถีชีวิตของหมู่บ้านนี้ เมื่อผู้ใหญ่บ้านเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ผมที่เดินตามเข้าไปก็พบหญิงวัยกลางคนที่กำลังกอดอยู่กับผู้ใหญ่บ้าน แล้วก็มีหญิงสาวอีกคนหนึ่งอยู่ด้วยส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ผู้ใหญ่บ้าน ผมเดาว่าน่าจะเป็นเมียกับลูกสาวของผู้ใหญ่บ้าน หลังจากนั้นที่ทั้งสองคล้ายอ้อมกอดกันแล้วผู้ใหญ่บ้านก็หันมาทางผม แล้วก็แนะนำผมให้ลูกกับภรรยาฟัง


      " ที่รัก คนนี้คือคนที่ช่วยพวกเราเอาไว้จากพวกโจรนะ "


      " ผมชื่อแพนเจียครับ พอดีผมหลงทางมาอยากจะมาขอพักด้วยสักคืน"


     " ธาเลีย กับอีฟ  ช่วยไปเตรียมห้องพักให้แขกหน่อยได้มั้ย "


     หญิงทั้งสองวัยหันมายิ้มให้ผมก่อนจะขึ้นไปชั้นสองเพื่อจัดห้องให้กับผม ผมที่รออยู่ด้านล่างกับผู้ใหญ่บ้าน จึงหันไปเพื่อจะถามเมืองที่ใกล้ที่สุด เพื่อกำหนดเป้าหมายต่อไป


     " ผู้ใหญ่บ้าน ผมมีคำถามจะถามหน่อยนะครับ"


     " ท่านแพนมีอะไรจะถามหรือ งั้นนั่งก่อนสิ "


      แล้วผู้ใหญ่บ้านก็เชิญผมให้ไปนั่งคุยที่โต๊ะ หลังจากที่นั่งเสร็จแล้ว ผมก็ถามคำถามในทันที


      " คือว่า เมืองที่ใกล้หมู่บ้านนี้ที่สุดคือเมืองอะไรครับ "


     " เมืองดาวอนนะ แต่อยู่ห่างที่นี่พอสมควร ถ้านั่งรถม้าไปก็สองสามวันเห็นจะได้ "


     " เหรอครับ ขอบคุณครับ "


     " เอาอย่างนี้ อีกสองวันจะมีพ่อค้าเร่เดินทางมาที่นี่ เพื่อรับซื้อสินค้า เดี๋ยวข้าจะลองคุยกับพวกเขาให้ไปส่งท่านที่เมืองนั้นให้"


     "เป็นพระคุณอย่างมากเลยครับ "


     " ไม่เป็นไร เล็กน้อย ตอบแทนท่านที่ช่วยพวกเราไว้"


      หลังจากนั้นผมก็คุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับหมู่บ้านและโลกใบนี้ เพราะบางอย่างในคู่มือก็ไม่สามารถบอกได้ จนกระทั่งภรรยาของผู้ใหญ่บ้านเดินลงมาบอกว่าจัดห้องเสร็จแล้ว ผู้ใหญ่บ้านที่เห็นเป็นเวลาดึกพอสมควรจึงเชิญผมไปพักผ่อนที่ห้อง 


      ทันทีที่ผมถึงห้องก็ล้มตัวลงนอนที่เตียง จากนั้นก็คิดทบทวนถึงสิ่งที่เจอมาในวันนี้ทั้งวัน บอกได้เลยว่าวุ่นวายกว่าตอนอยู่ที่ในดันซะอีก ก่อนจะหลับไป


     'หวังว่าชีวิตจะไม่วุ่นวายไปกว่านี้นะ'



    .................................................................................................................


    เสร็จตอนที่ 14 แล้ว ดีใจโว๊ย 

    โลกภายนอก อิสรภาพ (เว่อร์)


    ขอบคุณที่ติดตามครับ มีอะไรแก้ไขคอมเมนท์ได้เลย มีข้อผิดพลาดขออภัยด้วยนะจ๊ะ


    1 comment = 1 กำลังใจเช่นเคย 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×