คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่4 ชะตากรรมสาวน้อย 100%
บทที่4 ชะตากรรมสาวน้อย
กล่าวถึง ดวงดาว เด็กสาวที่เกิดในชาติตระกูลที่ดี มีชื่อเสียง เธอทั้งสวย น่ารัก เรียนเก่ง ถึงแม้เธอจะอายุเพียง12ปี แต่เธอกลับทั้งเก่ง ทั้งมีความรู้ และเธอคือผู้สืบทอดตระกูล”ดาราราย”ในวันข้างหน้า แต่ชีวิตเธอกลับมาพลิกผัน เมื่อพ่อและแม่ต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ และต้องมาทนอยู่กับแม่เลี้ยงคนใหม่ ที่ทั้งร้าย ทั้งน่ากลัว แต่ที่ยังดีที่มีป้าแช่มคอยดูแลเป็นห่วงเป็นใย ปกป้องเธอจากบงกช และดูแลเธอเป็นห่วงเป็นใยอย่างดี
แผนการสกปรกของบงกชยังไม่จบ หล่อนต้องการที่จะทำลายครอบครัวนี้ทั้งพ่อ แม่ และทั้งลูก โดยที่ต้องการไม่ให้มีใครสงสัย ซึ่งแผนการนี้ชั่วร้ายที่สุด โดยที่เธอจะจ้างวานให้หนุ่มนิรนาม2คน ไปรับเธอหลังเลิกโรงเรียน และแผนการก็จะดำเนินต่อไปด้วยความโหดร้าย
“คุณลุงเป็นใครคะ”
ดวงดาวถามชายหนุ่มแปลกหน้า เมื่อเขาทั้งสองมารอเธอที่หน้าโรงเรียน และอ้างว่าจะมารับกลับบ้านหลังเลิกโรงเรียน
“ลุงเป็นใครไม่สำคัญหรอก พวกลุงจะมารับหนูกลับบ้านไง”
ชายหนุ่มใช้เสียงเข้มตะเบ็งให้ดูน่าเชื่อถือ
หลังจากที่ดวงดาวได้ยินคำตอบของชายหนุ่ม เธอก็รีบก้าวขาเข้าไปในรถ เมื่อรู้ว่ามีคนมารับเธอกลับบ้าน แต่หารู้ไหมว่า ชายหนุ่มร่างใหญ่ทั้งสองกำลังมีแผนร้ายในหัวคิดอยู่ โดยที่เธอไม่รู้ตัว
“เอ๊ะ ทางนี้ไม่ใช่ทางกลับบ้านนะคะ คุณลุงต้องขับรถออกไปอีกซอยหนึ่งนะคะ”
ดวงดาวรีบบอกชายหนุ่มทั้งสอง เมื่อเห็นว่าแทนที่จะเลี้ยวเข้าไปในอีกซอยหนึ่งซึ่งเป็นทางกลับบ้าน ชายหนุ่มทั้งสองกลับเลี้ยวเข้าไปในอีกซอยหนึ่ง ซึ่งเป็นป่ารกร้าง และไม่มีรถคันไหนผ่านมาทางซอยนี้สักครั้ง
“หนูอยากกลับบ้าน ปล่อยหนูลงไปเดี๋ยวนี้นะ”
เธอพลางกอดเข่าด้วยความกลัว เมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองใช้สายตาอันเยือกเย็นมองมาที่เธอ
“ไม่ต้องกลัวหรอก เดี๋ยวลุงจะพาหนูไปที่ชอบที่ชอบเอง 555 “
ชายทั้งสองหันขวับไปมองที่หนูน้อย แล้วหัวเราะด้วยความสะใจ
เธอกอดเข่าด้วยความกลัว พลางส่งเสียงร้องให้ออกมา โดยไร้ซึ่งความปราณีของชายแปลกหน้า ไม่นานนัก รถก็หยุดจอด ท่ามกลางป่ารกหญ้า ชายหนุ่มรีบดึงดวงดาวให้ออกมาจากรถอยากกระชากโดยแรง เธอกลิ้งลงมาจากรถด้วยความเจ็บปวด แล้วมองขึ้นไปบนหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอ
“น้าบงกช!!”
เธออุทานด้วยความตกใจ เมื่อดวงดาวเห็นหล่อนใช้สายตาอันดุเดือดมองมาที่สาวน้อยด้วยความเยือกเย็น แล้วยิ้มไปแตะที่มุมปาก พร้อมกระแทกเสียงออกมาว่า
“จับมันมัดมือกับมัดแขนไว้”
คำสั่งของดวงดาวเปล่งออกมาไร้ซึ่งความปราณี ดวงดาวหันขวับไปมองผู้เป็นแม่เลี้ยงด้วยความกลัว ก่อนที่ชายหนุ่มจะทำตามคำสั่งอันโหดร้ายของบงกชด้วยความรวดเร็ว เธอถูกจับมัดแขนและขา ด้วยเชือกที่มัดแน่น สร้างความเจ็บปวดอันแสนสาหัสให้กับเธอมาก เธอพยายามบิดแขนและขาเพื่อคายเชือกออก แต่กลับไม่เป็นผล และกลับทำให้เชือกรัดแน่นมากขึ้น
“น้าบงกชอย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ หนูกลัวแล้ว ฮือๆ”
เธอร้องให้เสียงดัง แต่เสียงนั้นกลับทำให้ไร้ซึ่งความเมตตาปราณีของบงกชเลย
“ฉันไม่ทำอะไรแกหรอก ฉันอุตส่าห์หวังดีเพื่อให้แกไปอยู่กับพ่อและแม่ของแกไงล่ะ”
บงกชยิ้มเยาะเย้ย พลางใช้สายตาอันเพชฌฆาตมองไปหาดวงดาวที่นอนดิ้นอยู่ตรงพื้น
“ปล่อยมันไว้ในป่านี้แหละ ดูซิมันจะอดอาหารได้ซักกี่วัน ให้มันตายแบบช้าๆ ตายแบบทรมาน แบบนี้ฉันชอบ 555”
มือบางๆอันเรียวยาวลูกที่หัวของสาวน้อยอย่างมีเลศนัย ดวงดาวพยายามดิ้นด้วยความเจ็บปวด แต่ยิ่งดิ้นขยับเท่าไร แรงมัดของเชือกก็ยิ่งตึงขึ้น สร้างความทรมานให้กับดวงดาวเป็นอย่างมาก บงกชเอาแต่หัวเราะสะใจ โดยที่เธอไม่เกรงกลัวต่อบาป กฎหมาย เลยสักนิดเดียว แม้ว่าเธอจะฆ่าคนมาแล้วถึงสองคน แค่จะฆ่าสาสาวน้อยอายุเพียง12ปีคงไม่ใช่เรื่องยากนัก ไม่นาน บงกชก็รีบขับรถออกไปกับชายหนุ่มสองคนด้วยความรวดเร็ว ปล่อยให้ดวงดาว นอนครางเจ็บปวดอยู่บนกองหญ้า เพราะแรงรัดตึงของเชือก สร้างรอยแผลบนข้อมือและข้อเท้าจนแผลเหวอะหวะ เลือดไหลนองตามพื้นดิน
“แม่จ๋า พ่อจ๋า ช่วยดาวด้วย”
เธอพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเวทนา สภาพของเด็กสาวที่กำลังนอนครางอย่างเจ็บปวด เธอกัดฟันจนน้ำจากตาที่คลอเบ้ามาอยู่นานไหลร่วงออกมากระจายตามรอบแก้ม แผลตามข้อมือข้อเท้าของเธอสร้างความปวดแสบให้กับเธอยิ่งนัก ไม่นาน เธอก็สลบไป....
ณ ที่บ้านดาราราย บงกชเดินเข้ามาในบ้านราวกับนางพญาหงส์ หล่อนวางกระเป๋าที่โต๊ะ ก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟาอ่อนนุ่ม โดยที่มีป้าแช่มกำลังปัดกวาดบริเวณนั้นอยู่
“นี่ ป้าแช่ม บอกคนขับรถด้วยนะ ว่าไม่ต้องไปรับหนูดาวหรอก ฉันให้หนูดาวไปพักที่บ้านเพื่อนฉันเอง เพราะฉันเห็นว่า คนใช้ที่นี่คงดูแลหนูดาวไม่ได้เรื่อง”
หล่อนโกหกอย่างหน้าด้านๆ แต่ในสมองของป้าแช่มฉุกคิดขึ้นได้ ว่าหล่อนต้องทำอะไรไม่ดีกับดวงดาวไว้แน่
“แล้วบ้านเพื่อนของคุณบงกช อยู่ที่ไหนหรอคะ”
ป้าแช่มรู้สึกกระดากปาก เมื่อต้องใช้คำว่า คุณ กับผู้หญิงข้างทางที่ใช่เล่ห์กลมายาหลอกยั่วสามีคนอื่นให้หลงระเริงไปทั่ว
“โอ้ย!! ไม่ต้องถามได้ไหม เป็นคนใช้ก็กรุณาทำตัวอย่าสอดรู้สอดเห็นได้ป่ะ
ฉันไม่ชอบพวกอยากรู้ไปไปซะทุกเรื่อง”
บงกชตวาดใส่ป้าแช่มเสียงดัง ก่อนที่จะลุกขึ้นไปบนห้องอย่างอารมณ์เสีย
“โธ่!! คุณหนูของป้า อย่าเป็นอะไรไปเลยเถอะนะคะ”
ป้าแช่มรู้สึกห่วงดวงดาวขึ้นมากะทันหัน เมื่อรู้สึกมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง เกี่ยวกับดวงดาว หล่อนเฝ้าแต่ภาวนา อย่าให้บงกชทำลายครอบครัวนี้ได้สำเร็จ เพราะหล่อนเชื่อว่า คุณหนูสุดที่รักของเธอ จะกลับมาทวงคืนบัลลังก์ให้จงได้
ท่ามกลางป่ารกร้าง ยังมีเสียงครวญครางอันแสนเจ็บปวดของสาวน้อยดังขึ้นเป็นระยะๆ ดวงดาวกัดฟันด้วยความทรมาน แล้วร้องตะโดนสุดเสียงว่า
“ช่วยหนูด้วยค่ะ!”
เธอตะโกนอย่างสุดฤทธิ์ ท่ามกลางความเงียบเหงาภายในป่า แต่เหมือนสวรรค์บันดาลโชคช่วย ไม่นานก็มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาในซอยนี้อย่างรวดเร็ว เป็นรถจักรยานยนต์คันเก่าๆคันหนึ่ง ซึ่งมีหญิงวัยกลางคนเป็นเจ้าของรถคันนั้น เมื่อได้ยินเสียงขอร้องให้ช่วย หญิงวัยกลางคนก็รับวิ่งเข้ามาในป่า ก่อนที่จะพบกับสภาพของสาวน้อยที่จมกองเลือดอย่างเวทนา หล่อนช่วยแก้มัดมือมัดเท้าออกด้วยความเร่งรีบ ก่อนที่จะโผกอดสาวน้อยที่กำลังเสียขวัญอยู่
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะหนู ป้ามาช่วยแล้ว หนูเป็นใครกัน ชื่ออะไร”
หล่อนถามพลางลูบหัวของสาวน้อยเบาๆ แต่ไม่ทันสาวน้อยจะตอบ ดวงดาวก็เผลอสลบไปอีกครั้ง ก่อนที่หล่อนจะรีบพาดวงดาวไปที่โรงพยาบาลโดยด่วน
ณ ห้องฉุกเฉิน
ร่างอันบอบบางของสาวน้อยที่นอนอยู่บนเตียงรถเข็นพยาบาลถูกบุรุษพยาบาลที่กำลังรีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินโดยเร็ว ตามร่างกายมีลักษณะบอบช้ำ ตามข้อมือและข้อเท้ามีเลือดออกจากการรัดแน่นของเชือก โดยมีหญิงสาวใจดีที่ช่วยเธอกำลังนั่งรออยู่ที่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วง
หลังจากผ่านไป3ชั่วโมง ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกด้วยแขนของหมอชายหนุ่มร่างสูง หล่อนรีบโผเข้าไปหาคุณหมอ ก่อนที่จะถามว่า
“คุณหมอคะ เด็กเป็นยังไงบ้างคะ”
หล่อนถามด้วยความวิตกกังวล เมื่อเห็นคุณหมอปาดเหงื่อที่เต็มบนหน้าผาก ก่อนที่หมอจะหันมาสบตา
“เด็กปลอดภัยแล้วครับ เดี๋ยวให้เด็กนอนพักผ่อนอีกซักคืนเดียว เดี๋ยวก็กลับบ้านได้ครับ”
หล่อนถอนหายใจเบาๆ เมื่อรู้ว่าสาวน้อยผู้น่าสงสารได้ปลอดภัยแล้ว ไม่นานนัก พยาบาลสาวสองคนก็ได้เข็นเตียงรถเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน เพื่อที่จะนำตัวของเด็กสาวเข้าไปไว้ในห้องผู้ป่วยพิเศษ ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ เป็นเงินของหญิงสาวผู้ใจดีทั้งหมด เพราะความเมตตา และถูกชะตากับเด็กคนนี้ หล่อนจึงตั้งใจที่จะรับเด็กคนนี้ไว้เป็นลูกสาวอีกคน
“หนูชื่ออะไรจ้ะ”
หล่อนถามเมื่อเห็นดวงดาวค่อยๆลืมตา เมื่อดวงดาวรู้สึกตัวหล่อนจึงตอบไปด้วยน้ำเสียงอ่อนระทวยว่า
“หนูชื่อ ดวงดาว ดาราราย ค่ะ แล้วคุณป้าล่ะคะ”
ดวงดาวตอบพลางสบตาหญิงแปลกหน้า
“ป้าชื่อ นุวดี จ้ะ หนูเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ทำไมหนูถึงถูกมัดแขนมัดขาไว้กลางป่าแบบนั้นล่ะ”
นุวดีถามหญิงสาวด้วยความสงสัย
ดวงดาวเล่าทุกเหตุการณ์ให้นุวดีฟังตั้งแต่ต้นจนจบ จนทำเอานุวดีร้องให้ เมื่อหล่อนได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของดวงดาว หล่อนรู้สึกถูกชะตากับดวงดาวมาก เหมือนกับฟ้าลิขิตให้ทั้งสองมาพบเจอกันในยามตกทุกข์ได้ยาก
“เอางี้ เดี๋ยวหนูไปอยู่กับป้า ป้าจะเลี้ยงดูหนูเอง”
หล่อนพยายามเกลี้ยกล่อมให้เด็กสาวตอบรับคำตกลง
“ค่ะ หนูคงไม่มีที่ไปแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะป้า ”
ดวงดาวตอบรับด้วยความดีใจ ก่อนที่จะโผกอดผู้มีพระคุณกับหล่อน พลางซับน้ำตาด้วยความดีใจ เมื่อบนโลกนี้ ยังมีคนมีเมตตา ใจดี หลงเหลือให้เธอได้พึ่งพาอยู่ เพราะเธอได้เจอกับเรื่องร้ายๆมามากแล้ว ต่อไปนี้ เธอคงจะพักฟื้นของหัวใจ เพราะว่าต่อไป การแก้แค้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ...
ความคิดเห็น