คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 จุดเริ่มต้นของความผิดพลาด 100%
บทที่1 จุดเริ่มต้นของความผิดพลาด
ณ บ้านดาราราย จ.อุดรธานี
เสียงรถคันใหญ่แล่นเข้ามาภายในบ้านหลังทรงไทยหรูหราด้วยความรวดเร็ว สองฝีเท้าก้าวลงจากรถด้วยความกระตือรือร้น หญิงร่างสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาภายในบ้าน ก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนโซฟ้าสีน้ำตาลอ่อนนุ่มด้วยสายตาที่จ้องไปยังสามีที่นั่งอยู่ข้างๆติดกันอย่างไม่สบอารมณ์
“เป็นอะไรหรอคุณเดือน ผมเห็นคุณอารมณ์หัวเสียมาตั้งแต่เช้าแล้วนะ”
เทวา ผู้เป็นสามีถามพลางหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน
“ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แค่ฉันไปเจอผู้หญิงหากินแถวๆนี้เค้าเมาท์กันให้แซบว่า คุณน่ะ ไปใช้บริการเค้ามาตั้งแต่เมื่อคืนนี้”
รวงเดือนใส่อารมณ์เข้าไปกับน้ำเสียง จนสามีถึงต้องกับอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง
“ไม่ต้องมานิ่งเงียบใส่ฉันเลยนะ คุณเทวา ตอบฉันมาซะดีๆ ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
เทวาถึงกับนิ่งเงียบ ก่อนที่จะหันมาตอบคำถามด้วยน้ำเสียงละห้อย
“ก็....ผมเป็นผู้ชาย มันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรอ ที่มันจะต้องมีเรื่องแบบนี้บ้าง”
เทวาตอบคำถามที่แสนกวนอารมณ์พลางมองไปสบตาภรรยา
“ฮึ” เสียงที่ดังอยู่ในลำคอบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างมาก หล่อนรีบลุกขึ้นด้วยอาการฉุนเฉียว ก่อนที่เดินขึ้นไปบนห้องของตน ปล่อยให้สามีนั่งก้มหน้าอมทุกข์อยู่คนเดียว
“ฉันล่ะเกลียดจริงๆเลยนะ พวกผู้ชายเจ้าชู้เนี่ย มันช่างน่ารำคาญใจเสียจริง”
รวงเดือนรำพึงก่อนที่หล่อนจะหยิบโทรศัพท์ขี้นมา
ตื๊ดๆ.....
เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นระยะๆ
เธอกำลังโทรหาใครสักคน?? ไม่นานนัก ปลายสายก็ตอบรับ
“สวัสดีค่ะ คุณแม่ใช่ไหมคะ มีธุระอะไรคะ” เสียงของปลายสายดังขึ้น
“ฮาโหล แม่เองนะลูก ลูกจะเลิกเรียนแล้วหรือยัง แม่จะไปรับ” รวงเดือนถามผู้เป็นลูกสาว
“ค่ะคุณแม่ ดาวเลิกเรียนแล้วค่ะ” เสียงตอบรับของปลายสายผู้เป็นลูกสาว
“แล้วลูกอยู่ที่ไหนจ้ะ แม่จะได้ไปรับถูก”
“ตอนนี้ ดาวอยู่ที่บริเวณร้านขายหนังสือที่คุณแม่ชอบมาอ่านบ่อยๆนะค่ะ พอดีดาวมาหาซื้อหนังสือ เผื่อว่าจะเอาไปอ่านช่วงเตรียมสอบ”
“จ้ะ งั้นรอแม่อยู่ที่นั่นก่อนนะ คงอีกประมาณ 10 นาทีเดี๋ยวแม่ไปรับ”
“ค่ะ”
หลังสิ้นสุดการสนทนา รวงเดือนรีบเดินลงไปยังห้องรับแขกด้วยฝีเท้าที่ก้าวเร็วพลางสายตาเหลือบไปยังสามีที่ก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ด้วยความไม่พอใจ
“เดี๋ยวฉันออกไปรับลูกก่อนนะ คุณเฝ้าบ้านล่ะ อย่าออกไปไหนเชียว”
เสียงที่บ่งบอกถึงความโมโหของรวงเดือนเปล่งออกไปโดยที่ไร้เสียงโต้ตอบ เทวากลับเย็นชากับท่าทางของรวงเดือน หล่อนเร่งฝีเท้าไปยังโรงรถด้วยความโกรธเลือดขึ้นหน้า
บรึ้นๆ--- บรึ้นๆๆๆ.....
รถคันใหญ่ถูกขับออกด้วยความเร็ว เจ้าของรถรีบตะบึงรถไปด้วยความแรง เพื่อไปยังสถานที่จุดหมายได้ตรงเวลา
10นาทีผ่านไป....
ณ ร้านหนังสือชลิดา
สาวน้อยใบหน้ากลมลูกตาสีดำโต ผิวขาวกระจ่าง เหลือบสายตาอันเฉียบคมไปยังชั้นวางหนังสือประเภทเตรียมสอบ ก่อนที่หล่อนจะเดินไปหยิบมันออกมา
“ไชโยๆ ในที่สุดฉันก็หาหนังสือเล่มนี้จนเจอสักที เกือบไม่มีหนังสือติวสอบแล้วไหมล่ะ 55 “ หล่อนยิ้ม
ดวงดาว ลูกสาวคนเดียวของเทวาและรวงเดือน สองสามีนักธุรกิจที่ร่ำรวยมหาศาลที่ใครต่างๆก็ว่าเป็นผู้ดีเก่า ใครๆก็รู้ ว่าดวงดาวเป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่ง และมีความเป็นผู้ใหญ่สูง แม้มีอายุเพียง12ปี เธอเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก และอีกไม่นานเธอก็จะเข้ารับการสอบเพื่อชิงทุนรางวัลนักเรียนดีเด่น จึงไม่เป็นที่แปลกใจเลยว่า เด็กเรียนดีอย่างเธอ จะใช้เวลาช่วงเลิกเรียนเป็นช่วงเวลาในการเข้าร้านหนังสือ และใช้เวลานานมากในการเลือกซื้อหนังสือเล่มหนึ่ง
“ว่าไงจ้ะ ลูกรักของแม่ เลือกหนังสือเสร็จแล้วหรือยัง”
เสียงร้องเรียกของผู้เป็นแม่ดังกังวานมาจากหน้าร้าน ดวงดาวรีบหยิบหนังสือที่วางอยู่บนชั้นเหนือสุด แล้วเร่งฝีก้าวมายังเคาน์เตอร์ ซึ่งมีพนักงานประจำยืนอยู่
“ทั้งหมดราคาเท่าไหร่คะ” หล่อนพลางวางหนังสือลงบนเคาน์เตอร์
“2,000 บาท ค่ะ” พนักงานกล่าวพร้อมหยิบหนังสือใส่ถุง
หล่อนรีบหยิบแบงค์พันออกมาสองใบแล้ววางบนเคาน์เตอร์ก่อนที่จะเดินออกจากร้านไป โดยที่รวงเดือนกำลังนั่งรออยู่
“ไหน เอาหนังสือมาให้แม่ดูซิ ราคาเท่าไร” รวงเดือนพลางหยิบถุงหนังสือของลูกออกจากมือ
“โห ราคาแพงขนาดนี้ ลูกเอาเงินที่ไหนมาจ่ายเนี่ย” หล่อนอุทานด้วยความแปลกใจ
“อ๋อ มันเป็นเงินเก็บของหนูเองค่ะ หนูเพิ่งแคะมันออกมาจากกระปุกเมื่อเช้านี้”
“งั้นก็แล้วไป เดี๋ยวก่อนกลับบ้าน ลูกช่วยแม่ไปซื้อของที่ตลาดหน่อยนะ แม่ว่าจะทำแกงส้มไว้กินตอนเย็น”
รวงเดือนกล่าวก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูรถ พร้อมกับดวงดาวที่เดินตามหลังไปเป็นระยะ..
ณ ตลาด...
เหล่าแม่ค้าแม่ขายที่กำลังขายของให้ลูกค้าอย่างเมามัน เหล่าลูกค้าลูกขายที่กำลังเดินจับจ่ายเลือกซื้อสิ่งของอย่างมันส์มือ รวงเดือนและลูกสาวกำลังเดินอย่างขะมักเขม้นเพื่อจับจ่ายสิ่งของ ทันใดนั้น เสียงอันคมแหลมจี๊ดของแม่ค้าปากตลาดรายหนึ่งตะโกนทักสองแม่ลูกว่า
“ต๊าย ตาย!! อุ้ย นี่คุณรวงเดือนเองหรอคะ ทำไมหนังเหี่ยวหนังย่นไม่รู้จักดูแลตัวเองเลยล่ะคะ มิหน้าล่ะ ผัวคุณเดือน ถึงได้ไปใช้บริการพวกกระหรี่แถวๆตลาดมา คนเค้ารู้กันทั้งหมู่บ้านแล้วนะคะ ว่าไม่รู้จักดูแลผัวตัวเองให้ดีๆ”
แม่ค้าปากตลาดพูดพลางทำท่าสะอิดสะเอียน
“แล้วมันไปหนักหัวอะไรเธอมิทราบยะ”
รวงเดือนโต้ตอบด้วยความโกรธ โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังเอาพิมเสนไปแลกเกลือ
“ก็ไม่หนักหัวอะไรดิฉันหรอกคร้า แค่เตือนด้วยความหวังดี ระวังผัวคุณเดือนจะทิ้งคุณเดือนแล้วไปอยู่กับกระหรี่ข้างๆตลาดนะคะ 555 “
แม่ค้าปากตลอดหัวเราะชอบใจ
รวงเดือนรีบจับมือลูกสาวแล้วรีบเร่งฝีก้าวด้วยความเร็ว เพราะทั้งโมโหและทั้งอาย เมื่อรู้ตัวว่า เป็นฝ่ายโดนประจาน สายตาจากเหล่าแม่ค้าและลูกค้าต่างจ้องมองมาที่เธอด้วยความเยาะเย้ย จนทำให้เธออายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ส่วนดวงดาวผู้เป็นลูกสาวกลับงงงันกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อสักครู่
หลังจากที่หล่อนและลูกสาวก้าวเท่าขึ้นรถ ดวงดาวรีบถามผู้เป็นแม่กับสิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้ด้วยความสงสัย
“เรื่องเมื่อกี้ที่ดาวได้ยิน มันคืออะไรกันคะ ดาวไม่เข้าใจ”
“เอาเป็นว่า ลูกอย่ารู้เลยดีกว่า มันไม่ควรที่จะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกของแม่ต้องลำบากใจ”
คำตอบของรวงเดือนยิ่งทำให้ดวงดาวสงสัย ดวงดาวย้อนทบทวนคิดกับคำพูดของแม่ค้าคนนั้น แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจกับสิ่งที่ได้ยินเพราะเธอไม่คุ้นเคยกับคำพูดของแม่ค้าประเภทนี้ ก่อนที่รวงเดือนจะตะบึงรถเพื่อกลับบ้านไปด้วยความเร็ว แต่เธอไม่รู้เลยว่า การกลับบ้านครั้งนี้จะทำให้ครอบครัวเธอต้องหายนะในอีกไม่ช้า
ความคิดเห็น