ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short FanFiction Yuri!!! On Ice

    ลำดับตอนที่ #9 : Yuri And Kitty CH.1

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 59


    Shot  FanFic

    Title//Yuri And Kitty (ยูริคุงกับลูกแมว)

    Anime// Yuri!! On Ice

    Character// Yuri(o),Yuri,Victor,???

    #แฟนฟิคเรื่องนี้เป็นจินตนาการของผู้แต่งไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเนื้อเรื่องแต่อย่างไร

    ไม่มีคู่ชิพ(หรืออาจจะมี) เราแค่คิดว่าเขียนยูริโอะมาหลายมุมแล้ว  ทำไมเราถึงไม่เขียนเขาในโหมดคิ้วๆบ้างล่ะ? และคงไม่มีอะไรที่เหมาะกับเขามากไปกว่าแมวอีกแล้ว  จริงไหม?

     

    ยูริ พลิเซสกี้ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำเรื่องไร้สาระอย่างการบินจากรัสเซียมาถึงญี่ปุ่นเพียงเพื่อมาตามคนแก่ไม่รักษาคำพูดกลับบ้าน!!!

                ...แต่ทำไงได้ล่ะ ไอ้คนแก่ขี้หลงขี้ลืมที่ว่านั่นดันเป็นคนที่เด็กหนุ่มอยากให้มาเป็นโค้ชของตัวเองน่ะ...

                เด็กหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิดพลางยกโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ขึ้นมาถ่ายรูปปั้นหน้าตาประหลาดๆถึงจะถ่ายรูปไว้แต่ไม่วายต้องบ่นออกมาอย่างขนลุก พลางกดพิมพ์แฮชแท็กเล็กน้อยเตรียมอัพลงอินสตาร์แกรมถ้าไม่นึกเรื่องๆหนึ่งขึ้นได้

                “เดี๋ยวนะ...ถ้าอัพไอจียาคอฟก็รู้ที่อยู่กันพอดีสิ!ไม่ได้ๆ”

                ยูริบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อแล้วลากกระเป๋าเดินออกมาจากบริเวณหน้ารูปปั้นตรงเข้าไปในย่านการค้าชุมชน 

                “โอ่ย!! วิคเตอร์!อยูไหนฟ๊ะวิคเตอร์!!!” เด็กหนุ่มแหกปากร้องเรียกชื่อคนที่เป็นเป้าหมายในการมาญี่ปุ่นของตัวเองอย่างไม่อายประชาชีที่อยู่แถบนั้น  เดินไปได้ไม่เท่าไหร่หางตาก็ไปสะดุดเข้ากับร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่งเข้า

                เสื้อยืดแขนยาวสีดำกรีนรูปหน้าเสือไว้ตรงกลางแขวงโชว์หราอยู่ด้านหน้าสุดของราวแขวน  ยูริยกมืออันสั่นเทาขึ้นมาถอดแว่นดำเพื่อจะได้มองเจ้าเสื้อแฟชั่นสุดเอวี่ติงจิงเกอเบลให้เต็มๆตา 

    รู้ตัวอีกทีสองขาก็ก้าวเข้าไปในร้าน

     รู้ตัวอีกสองทีเงินในกระเป๋าก็ลอยไปและได้ถุงเสื้อมาอยู่ในมือ

     รู้ตัวอีกสามทีก็เปลี่ยนมาใส่เสื้อที่เพิ่งซื้อหมาดๆไปแล้ว

                พอรู้ตัวอีกสี่ทีมือก็ลั่นชัตเตอร์ถ่ายรูปตัวเองแอ็คท่าเท่ๆพร้อมจงใจโชว์เสื้อใหม่แบบสุดๆ

                แล้วพอรู้ตัวอีกห้าทียาคอฟก็โทรเข้ามาแล้ว...

                ยูริกดรับสายพลางยื่นโทรศัพท์ออกห่างหูตัวเองให้มากที่สุด

                (แล้วทำไมนายถึงไปอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกคนล่ะห๊ะ!!!ยูริ!!!!)

    “ชิ!น่ารำคาญเป็นบ้า”  ยูริบ่นงึมงำก่อนจะสูดหายใจเข้าเต็มปอดตอบกลับคนในสายเสียงดังไม่แพ้กัน

                “ฉันจะไม่กลับรัสเซียจนกว่าวิคเตอร์จะรักษาสัญญา!!!!แค่นี้นะ!!!

                พูดจบก็รีบกดตัดสายพร้อมบล็อกเบอร์เป็นของแถมให้กันโค้ชจอมจู้จี้โทรจิกกลับมาอีกรอบ  ให้ตายเถอะ!!เขาอายุ15แล้วนะ!!

                ยูริเดินลากกระเป๋าต่อไปอย่างไร้จุดหมาย พอรู้สึกตัวเด็กหนุ่มก็มาโผล่นอกเขตการค้าแล้ว  ด้วยความหงุดหงิดยูริจึงเดินไปเกาะราวกั้นริมทางแล้วตะโกนใส่ผืนทะเลเป็นชื่อคนที่มาตามหาเต็มเสียงจนนกแตกรัง  ชายวัยกลางคน(?)ที่ยืนตกปลาอยู่ไม่ไกลกันก็ทักขึ้น

                “โฮ่! เธอก็เป็นแฟนคลับของวิคเตอร์เรอะ?? งั้นลองไปที่โรงสเก็ตที่อยู่ทางนู้นสิ เขาอยู่ที่นั่นล่ะ”

                สิ้นคำพูดยูริก็คว้ากระเป๋าแล้ววิ่งฉิวไปยังทิศทางที่ว่าทันที  ไม่นานนักโรงสเก็ตเก่าๆก็ปรากฏต่อสายตาเด็กหนุ่ม  ยูริรีบเข้าไปทันที เขาจิกตา(?)ใส่เด็กแฝดสามที่ออกมาดักหน้าเล็กน้อย(?)  ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงพูดของใครบางคน ยูริจึงหันไปเจอกับคนที่มีชื่อเดียวกับเขายืนบ่นกับตัวเองไม่รู้จบยิ่งหมอนี่พูดเรื่องที่วิคเตอร์จะเป็นโค้ชให้ ยูริยิ่งหมั่นไส้เลยประเคนลูกถีบงามๆให้หนึ่งทีพร้อมรอยเท้าประทับบนหน้าเป็นของฝากจากรัสเซีย

                ได้ตะแง่วใส่อีกฝ่ายจนพอหอมปากหอมคอ เจ้ายูริญี่ปุ่นก็เดินนำเขาเข้าไปที่ลานสเก็ต แล้วพอเจอหน้าวิคเตอร์เจ้าตัวก็ยอมรับออกมาอย่างด้านๆว่าลืมเรื่องที่สัญญากับเขาหน้าระรื่น

                ...ไอ้....ไม่รู้จะด่ายังไงดี!!!

     

     

     

     

     

                สรุป สุดท้ายเขาก็ต้องมาแข่งกับเจ้าหมูญี่ปุ่นนั่น และเขาก็ไม่เกี่ยงหรอก  หากว่ารางวัลคือวิคเตอร์จะกลับไปเป็นโค้ชให้เขา  ยูริถูกพี่สาวของเจ้าหมูตั้งชื่อให้ใหม่ว่ายูริโอะ(แล้วทุกคนก็บ้าจี้เรียกเขาว่ายูริโอะซะอีก)  ยูริโอะ(ยอมรับสภาพชื่อได้แบบงงๆ)ตื่นขึ้นมากลางดึกในห้องพักของตัวเอง  ไปทุกดวงถูกปิดจนเห็นแต่ความมืดและแสงจันทร์สลัวๆ เด็กหนุ่มเดินคลำทางไปที่ห้องน้ำก่อนจะเกาหัวอย่างหงุดหงิดเมื่อพบว่าเดินมาผิดทางไปนิด

                ...อันที่จริงโผล่มานอกบ้านก็อาจจะไม่นิดล่ะนะ...

                ร่างกายสั่นสะท้านเยือกเมื่อลมเย็นพัดกระทบผิวกาย  ยูริโอะส่ายหัวให้กับตัวเองเล็กน้อยก่อนตั้งท่าจะเดินกลับเข้าไปหาความอบอุ่นด้านใน

                แต่หูเจ้ากรรมก็ดันไปได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือเข้า

     

                เสียงนั้นเบาจนแทบคิดไปว่าตัวเองหูแว่ว  แต่เมื่อเงียหูฟังดีๆ เด็กหนุ่มก็พบว่าตัวเองไม่ได้หูแว่ว สองเท้าสับไปยังทิศทางที่คิดว่าเป็นที่มาของเสียง  และเขาก็ได้เจอเข้ากับกล่องกระดาษใบหนึ่งอยู่ด้านนอกรั้ว  มันแอบซ่อนอยู่ในพุ่มไม้จนเกือบมิด  ไม่รอช้ายูริโอะรีบดึงมันออกมาจากใต้พุ่มไม้และพบกับภาพที่น่าสะเทือนใจที่สุด

                ลูกแมวครอกหนึ่งนอนแข็งตายอยู่ภายในกล่อง  อาจจะด้วยอากาศที่หนาวเย็นและขาดแคลนอาหารทำให้พวกมันต้องตายอย่างน่าสงสาร  และกล่องยังซ่อนไว้ใต้พุ่มไม้อีก  อาจทำให้ไม่มีคนเห็นและพวกมันจึงไม่ได้รับความช่วยเหลือ  ยูริโอะไม่อาจทิ้งพวกมันไว้ตรงนี้ได้แม้ว่าพวกมันจะตายหมดแล้ว

                ...หรือแค่เกือบ...

                เมื่อยกกล่องขึ้นมา  เด็กหนุ่มก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความดีใจระคนตกใจเมื่อเห็นเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็กๆตัวหนึ่งยังขยับร่างกายน้อยๆของมันอยู่  เด็กหนุ่มรีบอุ้มกล่องกลับเข้าไปในเรียวกัง  ตรงดิ่งไปที่ห้องของวิคเตอร์และเตะประตูเรียกอีกฝ่ายเสียงดังสนั่น และพอเห็นสิ่งที่เด็กหนุ่มถืออยู่ คนถูกเรียก(ด้วยการเตะประตู)ก็รีบไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าบ้านทันที

     

               

                ผ้าขนหนูอุ่นๆห่อเข้าที่ตัวลูกแมวตัวเล็กผอมแห้งที่กำลังดูดนมจากขวดโดยที่มียูริ(ญี่ปุ่น)เป็นคนป้อน  โชคดีที่คลีนิกสัตว์แถวบ้านยังเปิดอยู่ทำให้ยูริตัดสินใจจะพาเด็กหนุ่มพร้อมกับลูกแมวตรงไปที่คลีนิกทันที  อาจจะเป็นเรื่องแย่ที่คลินิกไม่มีคนดูแลตอนกลางคืน(และหมอกำลังจะกลับบ้าน)ทำให้ไม่สามารถทิ้งเจ้าลูกแมวไว้ดูอาการที่คลินิกได้  ดังนั้นเมื่อตรวจร่างกายเสร็จและพบว่ามันยังปกติดี  คุณหมอก็ให้พามันกลับมาดูแลที่บ้านพร้อมนมสำหรับแมว

                ยูริเอ่ยกับเด็กหนุ่มว่าเขาจะเอาลูกแมวตัวอื่นไปฝังให้พรุ่งนี้พร้อมยิ้มให้ท่าทางแยงกี้ของเด็กหนุ่ม  ก่อนที่เขาจะส่งลูกแมวที่หลับทันทีหลังจากกินอิ่มส่งคืนให้ยูริโอะและกลับไปนอนที่ห้องของตัวเอง(ส่วนวิคเตอร์หนีไปนอนก่อนแล้ว)  ยูริรับห่อผ้าที่ห่อแมวไว้มากอดและมองเจ้าหมูเดินออกไปจากห้องพักของเขา  ก่อนจะเบนสายตากลับมามองลูกแมว  เด็กหนุ่มตัดสินใจที่จะเอามันเข้ามานอนในฟูกด้วยแทนที่จะเอามันไปนอนในตระกร้า

     

               

                ในตอนเช้าหลังจากที่เจ้าหมูเอาลูกแมวที่ตายไปฝังเสร็จแล้ววิคเตอร์ก็พาพวกเขาไปที่ลานสเกต  ถึงจะไม่อยากแต่ยูริโอะก็จำใจทิ้งลูกแมวไว้กับพี่สาวของเจ้าหมูเพราะไม่อยากเอามันออกมาเจอกับอากาศหนาวเย็นข้างนอก ยูริโอะหน้าเหวอเมื่อวิคเตอร์ประกาศทีมที่จะให้เขาใช้แข่งและถีบหัวส่งเด็กหนุ่มไปที่วัดในช่วงบ่าย  น้ำหนักของไม้ที่หลวงพ่อฟาดลงมาเจ็บจนต้องร้องออกมาเสียงดังลั่นวัด 

                ...เข้าวัดมันเกี่ยวอะไรกับอากาเปกันห๊ะ!!!

     

                ยูริโอะนอนแผ่อย่างหมดสภาพด้วยความเหนื่อยล้า  การแช่น้ำร้อนและคัตสึด้งไม่ได้ช่วยทำให้เด็กหนุ่มดีขึ้นซักนิด  ยูริโอะซบหน้าลงกับโต๊ะ แล้วก็ถลึงตามองเจ้าหมูอย่างอึ้งๆเมื่ออีกฝ่ายประกาศว่าอีรอสของตนเองคือคัตสึด้ง แล้วเจ้าหมูก็วิ่งหน้าตั้งออกไปกับมัคคาชินหมาพุดเดิ้ลของวิคเตอร์

                “มี้”

                สัมผัสนุ่มนิ่มข้างๆมือเรียกร้องให้หัดไปมอง  ลูกแมวตัวเล็กที่เก็บได้เมื่อคืนนอนลงข้างๆและเอาเท้านิ่มๆของมันตะปบมือของเด็กหนุ่มเล่น  มันดูอ้วนขึ้นมาหน่อย  สงสัยตอนที่เขาไม่อยู่มันจะโดนมาริขุนนมจนอ้วนฉุ

                ไม่ไหวๆ เดี๋ยวท้องแตกตายพอดี

                “ว่าไง?” ถามลอยๆพลางหยิบเจ้าก้อนขนกลมๆขึ้นมาเล่นบนตัก  เพราะเมื่อวานมันฉุกละหุกเลยไม่ทันสังเกตุว่าเจ้านี่มีขนสีส้มอ่อน  และมีแถบสีส้มเข้มคาดเหมือนลายเสือ

                อ๋า...น่ารัก...

                ยูริโอะนั่งเล่นกับเจ้าก้อนขนอ้วนฉุจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีวิคเตอร์ก็เมาแอ๋นอนกอดขวดเหล้าไปแล้วเรียบร้อย  ยูริโอะเลยจัดการกินคัตสึด้งที่เย็นชืด(แต่ยังอร่อย)ให้หมดๆและอุ้มแมวสีส้มตัวกลมเข้าไปเล่นต่อในห้อง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×